หลังจากครม. มีมติเห็นชอบไปเมื่อวันอังคาร ล่าสุดทาง คีรี กาญจนพาสน์ หัวเรือใหญ่ของ BTS ได้ออกมาเปิดเผยว่า รฟม. เตรียมลงนามสัญญา “รถไฟฟ้าสายสีชมพู–สีเหลือง” กับกลุ่ม BSR ภายใน 16 มิ.ย. นี้
โดยในวันเดียวกันจะมีการลงนามสัญญาเงินกู้ ลักษณะ Project Finance ของ 2 โครงการกับสถาบันการเงินในประเทศและต่างประเทศ และการลงนามซื้อรถโมโนเรล จำนวน 288 ตู้ (รถไฟฟ้าสายสีชมพู 168 ตู้ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง120 ตู้) มูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านบาท พร้อมกับลงนามสัญญางานก่อสร้างด้วย
ถือเป็นครั้งที่สองของ BTS ในการลงนามสัมปทานและลงทุนรถไฟฟ้า หลังจากที่ได้ประเดิมครั้งแรกกับ “โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว” เมื่อ 25 ปีก่อน
ส่วนต่อขยายที่ BSR ลงทุน มูลค่าไม่ต่ำกว่า 6,000 ลบ. ใช้เวลา 1 ปีครึ่งได้ข้อสรุป
- ส่วนต่อขยายของสายสีชมพู: เชื่อมเส้นทางเข้าไปยัง Impact เมืองทองธานี ระยะทาง 2.8 กม. ประกอบด้วย 2 สถานี สถานีแรกตั้งอยู่บริเวณอาคารอิมแพคชาเลนเจอร์ และสถานีที่ 2 บริเวณทะเลสาบ (โดยปีที่แล้วมีผู้ใช้บริการศูนย์ประชุมอิมแพคฯ ถึงกว่า 10 ล้านคน และในเมืองทองธานีทีประชากรอาศัยกว่า 150,000 คน)
- ส่วนต่อขยายสายสีเหลือง: เสนอขยายเส้นทางต่อไปตามถนนรัชดาภิเษกอีก 2.6 กม.สิ้นสุดบริเวณแยกรัชโยธิน เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานี N10 (บริเวณปากซอยพหลโยธิน24) ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ซึ่งเสนอเพิ่มอีก 2 สถานี
- การจัดทำ EIA คาดใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี รวมทั้งให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) บรรจุส่วนขยายทั้ง 2 เส้นทางในแผนแม่บทรถไฟฟ้า และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาอนุมัติเห็นด้วย จากนั้นจะมีการลงนามสัญญาในส่วนขยายดังกล่าว ซึ่งส่วนขยายนี้จะก่อสร้างได้แล้วเสร็จได้ทันกับงานสัญญาหลักที่มีระยะเวลาก่อสร้าง 39 เดือน หรือ 3 ปี 3 เดือน และได้สัมปทานเดินรถ 30 ปี
ที่มา: Infoquest