Screen Shot 2558-11-02 at 9.44.07 AM

ผลประชุมรถไฟไทย-จีนยังตกลงกันไม่ได้ ก่อสร้าง ไม่ทันธ.ค.2558 เลื่อนไปเป็นเดือนพ.ค.2559 แต่นำร่องเดินหน้าวางศิลาฤกษ์ศูนย์ควบคุมเดินรถเชียงรากน้อยก่อน ส่วนดอกเบี้ยยังคุยไม่ลงตัว จีนยาหอมให้ดอกดีกว่ากู้ในไทย

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า การประชุม ความร่วมมือไทย-จีน ครั้งที่ 8 เส้นทางรถไฟกรุงเทพฯ-หนองคาย และแก่งคอย-มาบตาพุด ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 28-29 ต.ค.2558 ที่ผ่านมา ได้ข้อยุติร่างกรอบความร่วมมือเบื้องต้นว่าจะมีการเลื่อนโครงการก่อสร้างออกไปจากเดิมที่กำหนดช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. 2558 ไปเป็นช่วงเดือนพ.ค. 2559 เนื่องจากยังไม่สามารถสรุปรายละเอียดการก่อสร้างได้ โดยล่าสุดไทยได้ส่งผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการให้จีนปรับปรุงข้อมูลในบางส่วนให้ตรงกัน ซึ่งฝ่ายจีนรับไปดำเนินการและส่งกลับมาภายใน 2 สัปดาห์

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปเบื้องต้นกำหนดการวางศิลาฤกษ์และการจัดนิทรรศการเพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนทั่วไปรับทราบข้อมูลโครงการก่อสร้างรถไฟไทย -จีน คาดว่าจะมีการวางศิลาฤกษ์ที่ศูนย์ควบคุมการเดินรถ (โอซีซี) บริเวณเชียงรากน้อย เดือนธ.ค. 2558 และ ที่ประชุมยังตกลงว่าจะมีการประชุมความร่วมมือไทย-จีน ครั้งที่ 9 กรุงเทพฯ ช่วงปลายเดือนพ.ย. 2558 เพื่อสรุปรายละเอียดต่างๆ อีกครั้ง โดยมอบหมายให้การรถไฟ แห่งประเทศไทย (รฟท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายจีนไปหารือในรายละเอียดว่าจะมีรูปแบบการจัดงานอย่างไรบ้าง

ส่วนเจรจากำหนดดอกเบี้ยเงินกู้ที่รัฐบาลจะขอกู้จากรัฐบาลจีนในอัตราพิเศษ สำหรับใช้ดำเนินการในโครงการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย และแก่งคอย-มาบตาพุด ยังไม่ได้ข้อสรุปในการประชุมครั้งนี้ โดยฝ่ายจีนยืนยันว่าจะให้ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ดีกว่าการกู้เงินภายในประเทศของไทย ส่วนรูปแบบการก่อสร้างและ รูปแบบการร่วมทุนระหว่างไทย-จีนในการเดินรถนั้น ยังไม่ได้ข้อสรุปจากการประชุมในครั้งนี้

สำหรับโครงการความร่วมมือรถไฟความเร็วปานกลาง ไทย-จีน เส้นกรุงเทพฯ-หนองคาย รวมระยะทาง 873 ก.ม.มีแบ่งการลงทุนเป็น 4 ช่วง ประกอบด้วย ระยะแรกช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-แก่งคอย และช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา เดิมมีแผนเริ่มก่อสร้างเดือนต.ค. 2558 และระยะสองช่วงที่ 2 แก่งคอย-มาบตาพุด และช่วงที่ 4 นครราชสีมา-หนองคาย เดิมเริ่มก่อสร้างเดือนก.พ. 2559

อย่างไรก็ตาม คมนาคมยังไม่สามารถหาข้อสรุปในการลงทุน และการก่อสร้างกับรัฐบาลจีนได้ ส่งผลให้แผนการก่อสร้างจะถูกเลื่อนออกไปไม่ทันภายในปีนี้แน่นอน

ที่มา : นสพ.ข่าวสด