ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ก แหล่งค้าปลีกริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดและตลาดยอดพิมาน

ยกระดับปากคลองตลาด เปลี่ยนหน้าตา ค้าปลีกเดิมๆ กับ “ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ก” อาคารที่มีระเบียงทางเดินริมน้ำที่ยาวที่สุดบนเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ไทย เฮอริเทจ มอลล์” ซึ่งด้านนอกอาคารถูกพัฒนาปรับปรุงขึ้นตามสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอ คลาสสิค โคโลเนียล ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมต่างประเทศในช่วงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อให้กลมกลืนไปกับทัศนียภาพโดยรอบบริเวณเกาะกรุงฯ

ส่วนภายในอาคารถูกตกแต่งพื้นที่จากเรื่องราวประวัติศาสตร์ของพื้นที่โครงการโดยแต่ละอาคาร จัดให้มีสินค้าและบริการมากมาย อาทิ ร้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของไทยและอินเตอร์แบรนด์ เพื่อเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาใช้บริการ เสริมทัพด้วยผลิตภัณฑ์สปา สินค้าโอท็อป รวบรวมคัดสรรมามากกว่า 40 ร้านค้า เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่แตกต่างกันไป

อีกทั้งยังได้เร่งประสานกับกรมเจ้าท่า เพื่อสร้างท่าเทียบเรือของผู้ค้าและนักท่องเที่ยวโดยได้ลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้น-ลงอย่างสะดวก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นพื้นที่สวนหย่อมขนาดย่อมเพื่อการพักผ่อนและให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ขึ้นในพื้นที่แห่งนี้

“ตลาดยอดพิมานได้เข้าซื้อตลาดดังกล่าวที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงสุทธสิริโสภา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในความดูแลของม.ร.ว.สุนิดา กิติยากร โดยได้เริ่มเข้าไปปรับปรุงแผงค้าและจัดระเบียบการบริหารตลาดใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ใกล้ ๆ กับบริเวณตลาดส่งเสริมการเกษตรของกลุ่มตระกูลสุวรรณนภาศรี และตลาดขององค์การตลาดของกระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันมีแผงค้าประมาณ 1,000 แผง โดยอยู่ติดถนนจักรเพชร พื้นที่ส่วนหนึ่งบริษัทได้นำมาปรับปรุงเป็นโซนริมน้ำดูสวยงาม น่ามองยิ่งขึ้น”

แผนที่การเดินทาง ได้ทั้งทางรถ เรือ และ MRT สนามไชย

 

นายเฉลียว ปรีกราน ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ตลาดยอดพิมาน จำกัด เปิดเผยว่า “โครงการ “ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค” ยังมีจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งห้างค้าปลีกในคุ้งริมแม่น้ำเจ้าพระยา คือ มีทำเลที่ตั้งที่สามารถมองเห็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญได้ทั่วทุกรอบด้าน อาทิ สะพานพุทธ โบสถ์ซางตาครู้ส วัดกัลยาณมิตร วัดอรุณราชวราราม เป็นต้น รวมถึงจุดเด่นของโครงการที่เป็นระเบียงทางเดินเลียบริมแม่น้ำความยาวประมาณ 300 เมตร เพื่อให้ผู้บริโภคตลอดจนนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายได้สัมผัสกับความงดงามของทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำได้อย่างเต็มที่”

และกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทจะเสริมจุดแข็งให้กับโครงการยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค ด้วยการสร้างท่าเทียบเรือที่ใหญ่ที่สุดในเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ ยาว 24 เมตร จำนวน 2 ท่า และมีพันธมิตรอย่างเจ้าพระยา ทัวร์ริส โบ๊ท (Tourist Boat) หรือเรือด่วนเจ้าพระยา รวมถึงพันธมิตรอื่นๆ ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการที่โครงการฯ มากขึ้น มีแนวคิดการนำตุ๊กตุ๊กของไทยมาครอบเรือ สร้างเอกลักษณ์ใหม่ให้เมืองไทยและให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

นอกจากโครงการ “ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค” แล้วกลุ่มบริษัท ตลาดยอดพิมาน จำกัด ยังประกอบไปด้วยปากคลองตลาด และตลาดยอดพิมาน ซึ่งมีเนื้อที่รวมมากกว่า 15 ไร่ เป็นศูนย์กลางค้าส่ง ค้าปลีกผัก ผลไม้ และดอกไม้ หรือที่รู้จักกันดีว่า “ปากคลองตลาด” ซึ่งเป็นตลาดค้าปลีกค้าส่งดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นตลาดดอกไม้ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งทางโครงการฯ มีแผนที่จะพัฒนาจัดการพื้นที่แห่งนี้ เพื่อยกระดับตลาดดอกไม้ยักษ์ใหญ่ของไทย ให้รู้จักกันเป็นอย่างดีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่ชื่นชอบวิถีชีวิตที่แท้จริงของพ่อค้าแม่ค้าในย่านปากคลองตลาด ซึ่งถือเป็นเสน่ห์และอีกหนึ่งแม่เหล็กที่สำคัญของ ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค

“ในอนาคตเราจะยังมีอีกหนึ่งโครงการ ซึ่งจะเป็นการรวมสุดยอดสถาบันกวดวิชามาไว้ที่นี่ เนื่องจากพื้นที่โดยรอบมีโรงเรียนและสถาบันการศึกษามากมาย ดังนั้น เราจึงมั่นใจว่า โครงการยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค รวมถึงสองแม่เหล็กสำคัญในอนาคตคือตลาดผัก ผลไม้ และดอกไม้ รวมถึงอาคารกวดวิชา จะทำให้โครงการของเราสามารถตอบสนองทุกไลฟสไตล์ของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ”

ส่วนแผนการทำตลาดของโครงการ เราเตรียมงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในปีหน้าไว้ถึง 50 ล้านบาท ซึ่งจะคลอบคลุมทุกสื่อและทุกช่องทาง เพื่อให้โครงการเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว พร้อมกับจัดอีเวนท์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาใช้บริการ

สำหรับ “ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ก” ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้ากว่า 80% โดยในส่วนของระเบียงทางเดินเลียบริมน้ำคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 และในส่วนการก่อสร้างโครงการทั้งหมดแล้วเสร็จสมบูรณ์ในช่วงปลาย พ.ศ.2557

อย่างไรก็ตาม หลังเปิดให้บริการโครงการเต็มรูปแบบ บริษัทคาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายเข้ามาใช้บริการประมาณ 20,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นชาวไทย 70% และชาวต่างชาติ 30% และจากแนวโน้มการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสนามไชยใน พ.ศ.2558 คาดว่าจะทำให้การเชื่อมต่อการคมนาคมผู้บริโภคมายังโครงการยอดพิมาน ริเวอร์วอล์กมีจำนวนมากขึ้น

แบ่งอาคารออกเป็นชื่อต่างๆ ดังนี้ สยามปราการ วิมานอโยธยา นาวาพาณิชย์ วิจิตรพระนคร ยอดพิมานธานี บุรีสราญ

• สยามปราการ วิมานอโยธยา : แสดงถึงอดีตสมัยอยุธยา : ภายในจำหน่ายของที่ระลึก มีห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ ร้านอาหารบุฟเฟต์ไทยและนานชาติ
• นาวาพาณิชย์ : แสดงถึงการชุดคูเมือง วิถีชีวิตริมน้ำ และกรุงธนบุรี : ภายในมีร้านภัตตาคารอาหารทะเล ดาดฟ้ารับวิว
• วิจิตรพระนคร ยอดพิมานธานี : แสดงถึงการเฉลิมฉลองความรุ่งเรืองของกรุงรัตนโกสินทร์ : ภายในมีร้านค้าจำหน่ายสินค้าร่วมสมัย อาหารหลายสไตล์
• บุรีสราญ : อาคารเปิดดาดฟ้าเห็นวิวโค้งเจ้าพระยาแบบ Panorama และร้านอาหาร Bar Bistro และ Wine

โดยทุกอาคารจะเดินเชื่อมกันกับทางเดินริมน้ำได้ พร้อมศูนย์อาหาร โรงเรียนกวดวิชา อาคารจอดรถแบบ Robot parking กว่า 300 คัน ที่พักแบบ Bed & Breakfast

 

ภาพการก่อสร้าง เมื่อกันยายน 2556

Credit : [email protected]

 เครดิตที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ , ประชาชาติ , skyscrappercity , โลกวันนี้ ,