บังเอิญได้ไปเดินสยามพารากอน แล้วเห็น Sansiri Lounge ที่แบรนด์นี้ทำขึ้นมาให้ลูกบ้านของตัวเอง เปิดพร้อมๆกับงาน Life Comes Home ละครับ ให้ลูกบ้านเข้าไปนั่งกินน้ำชากินกาแฟได้ ในฐานะผู้สื่อข่าวผมเลยได้รับเชิญเข้าไปนั่งกินน้ำชาฟรีมา 1 แก้ว

วันนี้จะพามาชมความสวยงามของการออกแบบและดีไซน์ครับ เผื่อว่าแต่ละท่านจะมีจินตนาการเอาไปตกแต่งบ้านตัวเอง ห้องตัวเอง หรือแม้กระทั่งร้านของตัวเองได้ครับ

EDIT: แก้ไข ชั้น 3 ครับไม่ใช่ชั้น 4 🙂

รอบประตูกรถด้วยหินอ่อน มีบานประตูเป็นลายคลาสสิคหน่อย เดินตรงเข้าไปเจอ Front ที่คอยรับเรื่องต่างๆและบริการลูกค้า

ด้านขวามีมุมให้นั่งเล่น เป็นโซฟายาวสามสี่ชุด นั่งได้ 4-5 ครอบครัว

ด้านซ้ายก็มีมุมโซฟาเหมือนกัน แต่จะมีบันไดเพื่อขึ้นไปยัง Loft ด้วย ตามผนังตกแต่งด้วยชั้นวางของสะสม

ถ่ายมุมโซฟานั่งสบายๆมาให้ดูอีกภาพ

ตรงกลางในส่วนที่เป็น Lobby ใหญ่ เวลามองขึ้นไปจะเห็นชั้นของสะสมทั้งข้างล่างข้างบน ทางซ้ายเป็น Counter Bar สำหรับเสริฟเครื่องดื่ม ฝ้าเล่นระดับซ่อนไฟสวยงาม

เสาทุกต้นกรุหินอ่อนเช่นเดียวกับ Counter รับรองลูกค้า ผนังบางช่วงใช้ชั้นวางของวางให้เต็มเพิ่มมิติของการวางของสะสมไม่ให้ซ้ำซากจำเจ

แหงนหน้ามองขึ้นไปเป็นแบบนี้ ฝ้ากรุด้วยไม้ให้ความรู้สึก Warm ปล่อยจุดที่เป็นยิปซั่มสะท้อนแสง Warm Light ที่กรุไว้ด้านหลัง เพื่อให้แสงค่อนข้างนวล

ของสะสมที่วางอยู่ในตู้ แต่ละชิ้นมีความเป็นมาต่างๆกัน ค่อยๆดูค่อยๆพิจารณา ด้านหลังตู้ขาวนี้วางด้วยหลอดไฟ ให้ของโชว์ที่วางอยู่เด่นขึ้น

บันไดราวเหล็กทาสีดำ พื้นไม้ เป็นบันไดวน

พอขึ้นไปบน Loft แล้วก็จะรู้สึกว่าเพดานเตี้ยหน่อย แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปยังกรุเก็บของเก่าอะไรแบบนั้น ทางขวาราวกันตกทั้งหมดใช้เป็นกระจก

ยืนเกาะกระจกเมื่อครู่มองลงไปก็จะได้วิวนี้ ตรงกลางชุดรับแขกรู้สึกจะเป็นเฟอร์ของ Ralph Lauren ร้านขายเก้าอี้แถว CDC (คุ้นๆเพราะจำแบบได้)

ตามทางเดินมี Stool ให้นั่งนิดหน่อย ริมสุดถึงกับวางจักรยานได้ พอเทียบความสูงฝ้าเพดานกับลูกค้าก็พบว่า Not too bad

มุมนี้ถ่ายย้อนออกไปข้างนอก จะเห็นว่ามีการใช้แนวพุ่มไม้เทียมบดบังสายตา และตามเสาก็ติดโคมไฟกิ่งที่เข้ากันไว้ด้วย

ที่ถ่ายเก็บภาพมาให้ดูนี้อยากให้ดูว่า Interior Design ของที่นี่เป็นอย่างไร เอาไปประยุกต์ใช้กับบ้านตัวเองได้ขนาดไหนครับ