พฤกษา เรียลเอสเตท โชว์ผลประกอบการ 9 เดือน รายได้โตถึง 30,372 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 4,774 ล้านบาท มั่นใจแผนธุรกิจและกลยุทธ์ สามารถทำให้ปีนี้บรรลุเป้าหมายรายได้ แม้ภาพรวมตลาดอสังหาฯจะหดตัว 10%
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในช่วง 9 เดือนของปี 2557 นี้ยังคงเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสามารถทำรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 30,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 ที่มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 25,108 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากทาวน์เฮาส์ 17,039 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัทฯ ที่ปรับปรุงขั้นตอนการก่อสร้างให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถลดระยะเวลาในการก่อสร้าง และส่งมอบบ้านให้ลูกค้าได้เร็วขึ้น ทำให้รายได้จากทาวน์เฮาส์เพิ่มมากขึ้น 24% รายได้จากคอนโดฯ 6,204 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 42% เมื่อเทียบกับจากรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จและส่งมอบให้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น อาทิ ไอวี่ แอมพิโอ, แชปเตอร์วัน, พลัม บางแค, คอนโดเลต ไอซ์ ราชเทวี และ เดอะ ไพรเวซี่ ส่วนรายได้จากบ้านเดี่ยว 6,796 ล้านบาท
จากการที่พฤกษา มุ่งเน้นปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และด้วยทีมงานและการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ในรอบ 9 เดือนมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 4,774 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นถึง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่าน ที่มีกำไร 3,540 ล้านบาท และแม้ว่าบริษัทฯ คาดการณ์แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้ จะชะลอตัวลงจากปีก่อนประมาณ 10% แต่บริษัทฯ ยังมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายรายได้ของปีนี้ ที่ตั้งไว้ 42,000 ล้านบาท
ด้าน นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทฯ มียอดขายรวม 31,330 ล้านบาท เปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 52 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 48,685 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวน์เฮาส์ 27 โครงการ บ้านเดี่ยว 15 โครงการ และ คอนโดมิเนียม 10 โครงการ โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มีแผนจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 10 โครงการ มูลค่าประมาณ 9,600 ล้านบาท โดยมีโครงการที่เปิดขายอยู่ (Active Projects) ณ สิ้นเดือนก.ย. 57 อีกถึง 180 โครงการ มูลค่าสินค้าที่ยังสามารถขายได้รวม 77,997 ล้านบาท และยังจะมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) 38,794 ล้านบาท ที่สามารถรองรับรายได้ของบริษัทฯทั้งในปีนี้และในอนาคต
ณ สิ้นไตรมาส 3 พฤกษา สามารถบริหารรอบธุรกิจ (Business Cycle Time) ได้ดีขึ้นมาก โดยระยะเวลาของบ้านในแนวราบ (ทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว) จากจองถึงโอนสั้นลงเหลือเพียง 90 วัน เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2556 ที่รอบธุรกิจใช้เวลา 146 วัน ทั้งนี้เนื่องจากโรงงานพฤกษา พรีคาสท์ โรงงานที่ 1-5 สามารถผลิตบ้านได้เฉลี่ย 725 หลังต่อเดือน สูงขึ้นถึง 113% จากปกติที่มีกำลังการผลิตบ้าน 640 หลังต่อเดือน สำหรับแผนงานการขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดระดับพรีเมี่ยม ได้ประสบความสำเร็จทั้งการเปิดตัวบ้านเดี่ยว ราคา 9 – 25 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “เดอะ ปาล์ม” และคอนโดมิเนียม แบรนด์ “The Signature by Urbano” ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และด้วยกลยุทธ์การบริหารงาน ที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาและปรับปรุงทุกกระบวนการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือประชาชนทุกกลุ่มที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ จะทำให้พฤกษา สามารถรักษาการเติบโตได้อย่างยั่งยืน