นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดซองประมูลก่อสร้างโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ว่า กรมได้ตรวจสอบคุณสมบัติ ผู้ยื่นซองประกวดราคาใกล้เสร็จแล้ว คาดว่าจะสรุปได้ในวันที่ 2 สิงหาคม 2559 หลังจากนั้นจะประกาศผู้ชนะ จากที่เปิดให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยื่นซองมาทั้งหมด 6 ราย จากจำนวนผู้ประกอบการซื้อซองประมูล 17 ราย
สำหรับผู้ที่ยื่นซองประกวดราคา 6 ราย ประกอบด้วย 1.บริษัท กลอรี่ แมนเนจเมนท์ จำกัด, 2.บริษัท ปักกิ่ง เออร์บัน-คอนสตรัคชั่น ยาไถ่ (ไทย) คอนสตรั่คชั่น กรุ๊ป จำกัด, 3.บริษัท พีซีซี โพสเทนชั่น จำกัด, 4.บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน), 5.บริษัท อารียา แมนเนจเมนท์ จำกัด และ 6.บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
ในขณะที่พื้นที่ในการประมูลเพื่อพัฒนาโครงการมีทั้งสิ้น 6 แปลง แต่มีผู้ยื่นซองประมูล 5 แปลง ประกอบด้วย แปลงที่ 1-2 สามเสนใน เขตพญาไท, แปลงที่ 3 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และแปลงที่ 4-5 อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ส่วนแปลงที่ 6 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ไม่มีผู้สนใจ ยื่นซองประมูลในครั้งนี้ หลังจากนี้กรมจะนำที่ดินนี้มาประเมินอีกครั้ง เพื่อเตรียมพร้อมให้เอกชนที่อาจยังสนใจพัฒนาร่วมกับพื้นที่ระยะที่ 2 โดยน่าจะเปิดให้เอกชนที่สนใจเข้าเสนอรูปแบบการพัฒนาได้เร็วที่สุดภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 นี้
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยถึงโครงการปล่อยสินเชื่อบ้านประชารัฐ ว่า ล่าสุดยอดปล่อยกู้ ผ่านธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รวม 2 ธนาคารอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท จากเป้าปล่อยกู้ทั้งโครงการ 40,000 ล้านบาท แยกเป็น ที่ละ 20 ,000 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 2 ปี โดยที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการบ้านประชารัฐจะครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ แต่จะต้องมีราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยืนยันว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยน เงื่อนไข เพราะถือว่ายอดปล่อยกู้และอนุมัติสินเชื่อยังอยู่ในกรอบที่ตั้งไว้ปีละ 10,000 ล้านบาท โครงการ 2 ปี มีวงเงิน 20 ,000 ล้านบาท สำหรับโครงการบ้านประชารัฐ จะให้กู้เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร ห้องชุดกับโครงการที่ เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ รวมทั้งเพื่อปลูกสร้างอาคารหรือต่อเติม หรือซ่อมแซมอาคารในที่ดินของตนเอง และให้รวมถึงทรัพย์สินจากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี และทรัพย์สินรอการขายของธนาคารออมสิน และบริษัทบริหารสินทรัพย์
ส่วนดอกเบี้ยคิดเหมือนกันทั้ง 2 ธนาคาร ในช่วง 6 ปีแรก จากระยะเวลากู้เงินไม่เกิน 30 ปี แบ่งเป็น 2 กรณี คือ กู้ไม่เกิน 7 แสนบาท และกู้เพื่อซ่อมแซม ต่อเติมวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาท ดอกเบี้ยปีแรก 0% และปีที่ 2-3 อัตรา 2% เฉลี่ยเงินค่างวด 3 ปีแรก อยู่ที่ 3,000 บาทต่อเดือน ปีที่ 4-6 อัตรา 5% เฉลี่ยเงินค่างวด 4,000 บาทต่อเดือน ปีที่ 7 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว คือ ธอส. เอ็มอาร์อาร์ -0.75% ธนาคารออมสิน คิดอัตรา เอ็มอาร์อาร์ -1.475% สำหรับที่กู้เกิน 7 แสนบาท แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท จะคิดดอกเบี้ยปีที่ 1-3 ที่ 3% เงินงวด 7,200 บาทต่อเดือน ปีที่ 4-6 อัตรา 5% เงินงวด 8,600 บาท ต่อเดือน หลังจากนั้น เป็นดอกเบี้ยตามที่ธนาคารกำหนด
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ธนาคารมียอดอนุมัติสินเชื่อในโครงการบ้านประชารัฐแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกกว่า 15,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยอนุมัติไปจนถึงปี 2560 โดยรายย่อยที่สนใจยังสามารถยื่นขอกู้เงินในโครงการ ต่อไปได้ จนกว่าจะอนุมัติได้ครบวงเงินตามโครงการ
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า