บทสัมภาษณ์คุณสมบัติ แสงรัฐกาญจนสิน แห่ง มีสไตล์ เอสเตท

เมื่อประมาณช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีการเปิดตัว “Brix Condo” คอนโดใหม่สไตล์ Modern Industry ตึกสูง…ชั้น รูปทรงสะดุดตา อาจกล่าวได้ว่าเมื่อแล้วเสร็จ Brix จะต้องเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กใหม่แห่งแยกบางพลัดแน่นอน

 

Brix  เป็นโครงการของบริษัทมีสไตล์ เอสเตท เจ้าของคือคุณสมบัติ แสงรัฐกาญจนสิน นักธุรกิจโรงงานน้ำแข็ง ผู้ผันตัวมาลุยอสังหาฯ ชิมลางด้วยโครงการทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดเล็กๆ ก่อนที่จะร่วมทุนกับ Pool Asset สร้าง “Thru ทองหล่อ” คอนโดหรู 35 ชั้น

วันนี้ Think of Living ได้มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์คุณสมบัติและลูกสาว คุณมิ้น-ภัทรานิษฐ์   ที่โรงแรมมีสไตล์ เพลส โรงแรมบูทีคแนวถูกใจฮิปสเตอร์ หนึ่งเดียวในย่านห้วยขวาง ขอบอกเลยว่าประทับใจในบรรยากาศตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบย่างเข้าไป ซึ่งสถาปนิกของโรงแรมนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน อ.เม้ง แห่งสถาปัตย์ จุฬา ผู้เคยสร้างความฮือฮาให้กับ โรงแรม  Siam@Siam มาแล้ว

คุณสมบัติและคุณมิ้นต้อนรับพวกเราด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นกันเอง แกเกริ่นให้ฟังคร่าวๆ ถึงความเป็นมาของโรงแรมว่า ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบสะสมของเก่า เมื่อตั้งโรงแรมนี้ขึ้นมา ก็อยากให้เหมือน Gallery ส่วนตัว รวบรวมของสะสมที่มีความหมายในช่วงชีวิตที่ผ่านมา เด่วหลังสัมภาษณ์เสร็จเราจะพาไปดูโรงแรมกันนะคะ อดใจรอนิดนึงค่ะ 😉

– ทราบว่าก่อนหน้านี้คุณสมบัติทำธุรกิจด้านอื่น แล้วอะไรทำให้เริ่มมาจับอสังหาคะ

สมบัติ: ในช่วงก่อนปี 40 ผมทำธุรกิจอุตสาหกรรมโรงน้ำแข็ง ผลิตน้ำแข็งหลอด น้ำแข็งก้อน แล้วก็ก็ขายส่งอยู่ในกลุ่มของ “Asia Group” มีโรงงานในเครือหลายๆ พื้นที่ เช่น บางนา มีนบุรี รังสิต สุทธิสาร และห้วยขวาง มีทั้งโรงงานผลิตและจัดจำหน่าย ทำอยู่จนกระทั่งประมาณปี 2540 พวกรุ่นหลานเริ่มจบการศึกษา เราก็ยกให้เขาดูส่วนของโรงงาน ส่วนผมอยากลองชิมลางอสังหาฯ ดูบ้าง

โครงการแรก “รัชดา ซิตี้ คอนโด” ซ.ประชาราษฎร์ 7 ประมาณปี 2540 พอเราเริ่มสร้างก็เจอวิกฤตเศรษฐกิจ ช่วงนั้นโครงการทั่วไป ธนาคารไม่ค่อยสนับสนุน และตัวเลขการขายก็ไม่ค่อยดี  แต่เนื่องจากเรามีธุรกิจรองรับ ก็สามารถผ่านพ้นวิกฤตตรงนั้นมาได้ ซึ่งถือว่าเป็นบทเรียนที่ดี เราบริหารอย่างโครงการอย่างรัดกุม และพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า

ข้อดีคือ ในปีนั้น คุณลองนึกภาพที่คนอื่นหยุดแล้วเราไม่หยุด คุณอยากได้อะไร ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้า หรือแรงงาน ก็เลยทำให้เราทำงานได้อีกแบบนึง หลังจากผ่านพ้นตรงนั้นไปได้ โครงการ 2-3 ในย่านห้วยขวาง ก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราไม่ได้จ้างผู้รับเหมาแล้วจบกันไป เราได้เรียนรู้การทำงานและข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ พอลูกค้าเข้าอยู่แล้วเกิดปัญหาอะไรขึ้น ก็เป็นสิ่งที่เราบันทึกไว้ตลอดแล้วนำมาพัฒนา

หลังจากนั้น เมื่อที่ดินแพงขึ้น ห้องชุดเล็กลง เราก็ต้องมาคิดต่อว่า แล้วมันจะอยู่ได้จริงรึเปล่า อยู่ได้เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มเล็กลง อะไรที่มาตราฐานก็เริ่มถูกย่อส่วนลง เรามีการทำ Mock up  ขึ้นมา เพื่อให้เราลองดูว่ามันอยู่ได้จริงมั้ย ก็ปรับปรุงมาเรื่อยๆ เราพยายามใช้ข้อมูลเก่าที่เรามี แล้วก็นั่งคุยกับผู้ออกแบบให้มากขึ้น คือประสบการณ์มันสอนเรา แล้วเราได้มีโอกาสคลุกคลีกับงานมากขึ้น

หลังจากนั้นก็มาทำ “โรงแรมมีสไตล์” ซึ่งอยากให้ฉีกกรอบของโรงแรม มีบรรยากาศสบายๆ เหมือนบ้าน มีห้องอาหารเล็กๆ เหมือนครัว มีพื้นที่สีเขียว ส่วนเรื่องการจัดวางก็ได้ อ.เม้ง-กิติศักดิ์ สุธรรมโชติ เป็นที่ปรึกษา

ในปี 2550 เราก็เริ่มปรับแบรนด์ เพราะโรงแรมนี้จะมีลูกค้าเข้ามาถามเรื่อยๆ ว่า มีทำคอนโดขายมั้ย ทำให้เราเริ่มคิดที่จะทำคอนโดสไตล์นี้ขึ้นมา แต่ละโครงการของเราจะไม่มีสีที่ตายตัวว่าจะต้องเหมือนกันหมด เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เริ่มต้นจาก C Style, G Style, L Style และ Me Style เซ็นทรัลบางนา

– จากเท่าที่ฟังทุกโครงการเป็น Low Rise หมดเลย อะไรที่ทำให้หันมาสร้าง High Rise อย่าง  Brix คะ

สมบัติ: ก่อนหน้านี้ผมก็เคยทำ high rise มา 2 โครงการที่ไปร่วมทุน the station เจริญกรุง 65 และ Thru ทองหล่อ สูง 35 ชั้น  

มิ้น: สำหรับ Brix คุณพ่อก็ลองดูว่า supply แถวนั้นมีอะไรบ้าง แต่ละเจ้ามีเอกลักษณ์ที่ต่างกัน เราก็อยากทำสไตล์ของตัวเอง โดยเริ่มหาแรงบันดาลใจ ครอบครัวก็ไปเที่ยวกัน ไปแถว New York , Brooklyn สไตล์ก็จะเป็น modern industrial ซึ่งเรารู้สึกว่าน่าจะนำมาปรับใช้กันได้ คอนโดน่าจะอยู่ได้จริง และไม่น่าเบื่อ ก็นำมาเป็นโจทย์ให้ทีมออกแบบ คุณพ่อก็ค่อนข้างเปิดให้ลูกๆ ใส่กันเต็มที่ ใครชอบอะไรก็เอามาเสนอ แล้วค่อยๆ คัดกรอง สรุปเราจบที่ช่ือ Brix แล้วแนวคิดของอาคารเป็นแบบนี้ ทุกคนก็ช่วยกันออกความคิด จะไม่ได้ดูวัยรุ่น หรือว่าแก่เกินไป จะอยู่กลางๆ ประมาณวัยทำงาน บุคลิกก็เหมือนคนทำงาน มีรายได้ระดับนึง ดูดีหน่อย มีที่จอดรถสำหรับ Big Bike มี jogging track สำหรับออกกำลังกาย  คาดว่าจะเสร็จประมาณปี 2561 พร้อมๆ กับรถไฟฟ้า

– แล้วหลังจากโครงการนี้ ทางบริษัทวางแผนในระยะ 5 ปี ไว้ยังไงบ้างคะ

สมบัติ: ปัจจุบันการลงทุนมีมูลค่ามากขึ้น ทำให้ต้อง screen กันมากขึ้น ต้องเลือกที่ดินสวยๆ ทำเลดีๆ จะเห็นว่าเดี๋ยวนี้จะเห็นรูปแบบการพัฒนาที่ซื้ที่ดินแล้วทุบสิ่งปลูกสร้างออก ต้องใช้เวลาในการคัดกรองที่ดิน มีสไตล์ฯ ต้องเป็นตัวแทนของลูกค้า ในการหาวัตถุดิบที่ดี นำมาปรุงแต่ง แล้วถึงจะมาเสนอ ธุรกิจเราก็อาจไปได้อย่างต่อเนื่อง ผมจะเลือกเดินแบบที่ตัวเองอยากเดินดีกว่า ไม่ได้มองเรื่องความเร็วนะครับ มองเรื่องจังหวะและโอกาสเป็นหลัก

วันนี้การแข่งขันสูงมาก เราจะแข่งกันเพื่ออะไร เราเปลี่ยนใหม่ มาทำเพื่อลูกค้ากันดีกว่า นึกถึงใจเขาใจเรา อย่างผมมาจากครอบครัวที่ทำการค้า บรรพบุรุษก็จะสอนเราว่า เวลาเราเป็นผู้ขายให้คิดถึงผู้ซื้อ ทั้งคุณภาพ ราคา และความเหมาะสมต่างๆ มันเป็นความคิดของผมเองนะ ว่าวันที่ลูกค้าซื้อเราไม่เห็นของ แต่วันที่เขาเห็นของเราเขาต้องประทับใจเรา ไม่เรื่องใดก็เรื่อหนึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าโฆษณาเกินตัว ผมเองจะมีลูกค้าเก่าในห้วยขวางตั้งแต่ปี  2540 วันนี้ผมกับเขาเหมือนคนรู้จักกันมานาน เพราะผมเคยพูดไว้ตั้งแต่แรกว่า คุณซื้อคอนโดผม แล้วถ้าคุณไม่พอใจ ผมแสดงความรับผิดชอบ ผมซื้อคืนนะ ขอให้คุณคิดว่าคอนโดผม เหมือนรถยนต์คันนึง คุณเอาไปใช้ 3 ปี คุณเอามาคืนผม คุณช่วยประเมินหน่อย เชื่อมั้ยครับ ไม่เคยมีใครเอามาคืนเลย เพราะว่าหลังจากปีนั้นมา ราคาขึ้นตลอด แล้วถ้าเกิดคนของเราทำงานไม่ดี ไม่เป็นที่ถูกใจ เราก็ยินดีรับผิดชอบสินค้าที่เราผลิต การก่อสร้างโครงการต้องเลือกวัสดุดีๆ เพราะว่าในการผลิตคอนโด ผู้ซื้อไม่ได้มาเลือก แต่วันที่เสร็จผู้ซื้อเป็นผู้ใช้ ดังนั้นเราต้องคำนึงถึงตัวนี้ให้มาก อย่าเลือกเพราะแค่ราคา ของฟรีไม่มีในโลก

-ในฐานะผู้ประกอบการ คุณสมบัติวางบริการหลังการขายไว้ยังไงบ้างคะ

สมบัติ: สำหรับผมการค้า เราต้องซื่อสัตย์ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เวลาผมไปในหน่วยงานก่อสร้าง ผมก็ชอบอบกเขาว่าอาชีพคุณมันเหมือนศิลปิน คุณเป็นช่าง ทำดีคนก็ชื่นชมผลงานคุณ ถ้าทำไม่ดี เค้าก็ด่าคุณลับหลัง แล้วก็จะด่าไปเรื่อยๆ ผมก็ขู่ทีมงานแบบนี้เสมอๆ (หัวเราะ)

ใน 7 วัน ผมเป็นหัวหน้าจับกังหลายวัน เข้าไปที่ไซค์แล้วก็ไปเดินดู ผมถือว่าการตรวจงานเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง การเดินขึ้นตึกก็ทำให้เราแข็งแรงไปด้วย พออายุเยอะขึ้น มันอยากถ่ายทอดประสบการณ์ไปโดยที่ไม่รู้ตัว ตรงนี้เราทำไปแล้วจะเจออะไรได้บ้าง ถ้ามันรั่ว แล้วคุณจะกลับมาซ่อมมันยังไง   จะแก้ไขยังไง ทั้งนี้ทั้งนั้น เวลาเราผลิตสินค้า ด้วยมือคนจำนวนนึง โอกาสผิดพลาดมีอยู่แล้ว ก็ต้องยอมรับมัน แต่ความรับผิดชอบสำคัญกว่า

 ตามคำสัญญานะคะ เราขอปิดด้วยบรรยากาศสวยๆ จากโรงแรมมีสไตล์ค่ะ 🙂