Noble Development บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2534 ใต้บังเหียนของ “กิตติ ธนากิจอำนวย” ในปี 2540 ช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัวอย่างสูง Noble ประสบความสำเร็จกับโครงการที่อยู่อาศัยถึง 11 โครงการ รวมกว่า 2,300 หน่วย มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท
ปัจจุบัน Noble Development มีโครงการที่อยู่ในความดูแลทั้งหมด 20 กว่าโครงการ โดยบริษัทจะเน้นพัฒนาจากทำเลที่มีศักยภาพ รวมเข้ากับดีไซน์ที่แตกต่าง กลายเป็นความแปลกใหม่ ที่สามารถตอบสนองความต้องการ และรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น Noble Re:d, Noble Reform, และ Noble Cube
ซึ่งเมื่อประมาณต้นเดือนกันยายน หลังจากหลายๆ อย่างเริ่มเข้าที่ Noble Development ก็ได้คลอดโครงการทำเลแรงอย่าง “Noble Recole สุขุมวิท 19” มาเรียกเสียงฮือฮาจากตลาดและนักลงทุน โดยมี “ธีรพล วรนิธิพงศ์” ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลงมาคุมด้วยตัวเอง
โดยใน วันเปิดตัว Noble Recole สุขุมวิท 19 คุณธีรพล ก็ได้ปลีกเวลามานั่งคุยกับพวกเรา Think of Living ค่ะ เพื่อเปิดโอกาสให้ซักถามถึง ภาพรวมของ Noble Developmet ใน 1 ปีที่ผ่านมา และความเป็นมาของโครงการนี้ ส่วนรายละเอียดลึกๆ จะเป็นอย่างไรนั้น ตามอ่านได้ในบทสัมภาษณ์เลยนะคะ
บีม: สวัสดีครับ คุณธีรพล ช่วยเล่าให้เราฟังคร่าวๆ หน่อยได้มั้ยครับ เกี่ยวกับความรับผิดชอบใน Noble Development
ธีรพล: ผมดูแลอยู่ 2 ส่วนครับ ส่วนแรกคือการตลาด ทั้ง offline และ online marketing ส่วนที่สองคือการพัฒนาโครงการ ซึ่งเริ่มตั้งแต่หาซื้อที่ดิน ออกแบบ ขาย สร้าง และโอน โดยส่วนนี้จะมี 2 คน ผมกับเขาก็แบ่งความรับผิดชอบกัน
บีม: แล้วในส่วนของบ้านแนวราบล่ะครับ
ธีรพล: รวมถึงบ้านแนวราบด้วยครับ หลายคนชอบถามว่าเราแบ่งงานกันยังไง คือแบ่งตามความว่างของแต่ละคนในช่วงเวลานั้นๆ มีที่ดินเข้ามาช่วงไหน แล้วทีมใครว่างที่จะดูแล แต่เราก็พยายามจัดสรรงานให้อยู่โซนเดียวกัน อย่างเช่นตอนนี้ผมดูแล สุขุมวิทอยู่ โครงการที่อยู่แถวสุขุมวิท ก็จะเป็นผม เป็นคนพัฒนา
บีม: แล้วทำไมถึงเลือกทำเล “สุขุมวิท 19” ครับ
ธีรพล: จริงๆ มีถนนอยู่ 2 เส้นที่เราชอบ คือโซนสุขุมวิท ไม่เกินเอกมัย กับ อารีย์ Priority แรก เราก็จะมองหา 2 โซนนี้เป็นหลัก อย่างที่ดินแปลงนี้ เราแค่เป็นคนกำหนดว่าเราต้องการที่ดินไม่เกินโซนนี้นะ แล้วฝ่ายที่เขาหาที่ ก็จะเอาที่ดินเข้ามาเสนอทุกๆ สัปดาห์ แล้วเผอิญมีที่แปลงนี้เข้ามา เป็นทำเลที่ค่อนข้าง Perfect ซึ่งเราก็ไม่เคยพัฒนาโครงการที่อยู่บน Interchange Station ที่เสร็จแล้ว เลยอยากลองดู
โครงการที่กำลังทำอยู่อย่าง…รัชดาก็เป็น MRT Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ Interchange ที่เสร็จแล้ว ก็มีแค่ 3 ที่ คือ อโศก ศาลาแดง และหมอชิต ผมมองว่า “อโศก” ดีที่สุด แล้วพอมีนายหน้านำเสนอมา เราเลยลองมาดู ระยะทางก็ไม่ได้ไกลจากรถไฟฟ้า การเดินทางด้วยรถยนต์ก็ค่อนข้างสะดวก ใกล้ทางด่วน
บีม: หลังจากได้ที่ดินแปลงนี้มา อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิด “Noble Recole”
ธีรพล: เราเริ่มคิดจากราคาขายเป็นหลัก เรารู้ต้นทุนที่ดิน ค่าก่อสร้าง แล้วเราอยากขายราคาเท่าไหร่ ที่คิดๆ ไว้ก็ประมาณ 5-7 ล้านบาท แล้วเราขยับห้องให้เหลือ 35 ตร.ม. หลายคนก็ถามว่าทำไมไม่ทำ 25 ตร.ม. เหมือนรัชดา เรามองว่าตลาดสุขุมวิท มันไม่น่าจะเล็กอย่างนั้น คือเราขายคนที่มีอายุขึ้นกว่ารัชดา 35 ตร.ม น่าจะเป็นตัวเลขที่เขาพออยู่ได้ อยู่ได้จริง ไม่เล็กจนเกินไป Budget ก็ยังอยู่ในระดับที่รับได้ คนจับต้องได้ ไม่สูงจนเกินไป
บีม: อะไรทำให้ Mood and Tone ของ Noble Recole ออกแนวขาวๆ ต่างจากโครงการอื่นๆ ที่ทำในช่วงหลังๆ
ธีรพล: จริงๆ คือยุคหลังๆ ตึกเราจะเป็นสีๆ สีเทาเข้ม สีแดง สีน้ำตาล แล้วคนก็เริ่มตาม ผมว่าเราเป็นคนแรกที่เริ่มทำตึกสีนะ ก่อนหน้านั้นจะเป็นตึกขาวหมดเลย พอคนเริ่มทำตึกสี เราก็เริ่มหนีกลับมา ก็หนีกลับมาที่ ox white แต่ก็ไม่ขาวซะทีเดียวนะ (หัวเราะ) แล้วก็เล่นกับโทนสีกากี Mood and Tone ก็เลยจะออกแนว earth tone + กากี จะพยายามคุมโทนนี้ไว้
บีม: ส่วนตัวคุณธีรพล หากไม่รวมทำเลแล้ว มองว่าอะไรคือจุดขายสำคัญของ Noble Recole
ธีรพล: ผมว่าน่าจะมี 2 ส่วน ส่วนนึงคือความเป็น noble ผมว่าลูกค้าเรามองเห็นความแตกต่างของตึกเรา ที่ออกแนวเรียบๆ ไม่หวือหวา โคตรเรียบเลยอ่ะ ทุกๆ ตึกของเราก็จะหน้าตาแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็น A&W หรือว่าพี่ด้วงออกแบบ ก็จะออกสไตล์เรียบๆ ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของเรา อีกจุดนึง น่าจะเป็นเรื่องของ sizing ที่เราคิดว่ามันอยู่ได้จริงๆ แล้วราคาไม่แพงจนเกินไป
บีม: ขอถามถึงเรื่องทั่วไปบ้าง ภาพรวม 1 ปี ที่ผ่านมา Noble Development เป็นอย่างไรบ้าง และวางแผนในอนาคตไว้อย่างไร
ธีรพล: ปีที่แล้วเราเปิดขาย 3 โครงการ ปีนี้จริงๆ ตั้งใจเปิด 4 แต่ต้องตัดเหลือ 3 โครงการ Noble Recole สุขุมวิท 19 เป็นโครงการแรกของปีนี้ แล้วก็จะมีอีก 2-3 โครงการ จากระยะเวลาที่เหลือ ก็จะมีแนวราบ 1 โครงการ แนวสูงอีก 1 โครงการ ส่วนปีหน้าก็เหมือนๆ กัน ประมาณ 3-4 โครงการ เราพยายามคงปริมาณไว้เท่านี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับจังหวะด้วยว่า จะได้ที่ดินแบบไหน
เราค่อนข้างพิถีพิถันในการเลือกที่ดิน คือถ้าไม่ดีจริง เราก็ไม่ทำ เรายอมทำน้อยๆ ดีกว่า ทำเยอะๆ เน้นยอด เน้นเป้า ซึ่งบางทำเลถ้าไม่ดีจริง เราต้องเหนื่อยมากในการทำ Marketing กลายเป็นภาระของเราในอนาคต ซึ่งเรายินดีที่จะทำน้อย แล้วทำให้ดีมากกว่า
บีม: สำหรับโครงการที่กำลังจะเปิดปี 2558 ตอนนี้มีที่ดินอยู่ในมือรึยังครับ
ธีรพล: มีแล้วครับ แต่ผมก็อยากหาที่ดินเพิ่มสำหรับโครงการแนวราบ เพราะธรรมชาติของโครงการต้องสร้างเสร็จก่อนขาย ใช่เวลาอย่างน้อย 1 ปี เตรียมการล่วงหน้า แต่ข้อดีคือเราสามารถรับรู้รายได้ทันที ต่างจากคอนโด และตอนนี้ ผมกำลังมองหาที่สำหรับคอนโด Low-Rise ซึ่งหาค่อนข้างยาก และราคาค่อนข้างสูง บางทีก็สู้ไม่ไหว แต่เราก็พยายามหาอยู่ตลอดครับ
บีม: แล้วระหว่างคอนโด Low Rise กับ High Rise อะไรเหนื่อยกว่ากันครับ
ธีรพล: จริงๆ สร้างตึก 8 ชั้น หรือ 20 ชั้น เหนื่อยเท่ากันนะ คนทำงานก็เท่ากัน ทุกอย่างเท่ากันหมดเลย แต่ว่ากำไรต่างกันเยอะมาก โครงการ 8 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 400-500 ล้านเอง แต่โครงการ 20 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท ต่างกันเยอะ แต่ผมก็ชอบทำทั้งหมดนะครับ ไม่ได้เกี่ยงอะไร
บีม: หลังจากผ่านสถานการณ์ช่วงต้นปีมาได้ สถานการ์ณตลาดช่วงครึ่งปีหลังเป็นอย่างไรบ้างครับ
ธีรพล: สนุกครับ คนออกมาขายของเต็มไปหมด ซึ่งผมมองว่าอาจยาวถึงต้นปีหน้า เพราะว่าปีนี้ ที่ผ่านมาเงียบจริงๆ ทุกคนตกเป้าหมด เราเองก็ตกเป้านะ แต่เรายอดไม่เยอะ ปีนี้เราไม่ค่อยได้ทำอะไร เราไม่จำเป็นต้องปั่นยอดขาย เราก็ทำอยู่แค่เนี่ย 6,000-7,000 ล้านบาท
อย่างที่เคยบอกไปล่ะครับ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราต้องทำยอดขาย 20,000 ล้านบาท เราคงเลือกทำเลของโครงการได้ไม่มากเท่าไหร่ มายังไงก็ต้องทำอย่างนั้น ไม่สวยก็ต้องทำ เพราะต้องปั่นยอด โชคดีที่เราไม่ต้องขนาดนั้น ถ้าไม่สวยไม่ดีจริงเราก็ไม่ทำ นานๆ ถึงจะมีโครงการอย่างเพลินจิตออกมา 17,000 ล้านบาท แต่ต้องดีจริงๆ ผมมองว่าถ้าเราขายตัวเองไม่ได้ว่า ตึกนี้ผมอยู่เอง แล้วผมไม่ซื้อ ผมก็ไม่ขายนะ แล้วทุกตึกที่ผมทำ ผมต้องซื้อได้ ถ้า…ผมมีเงินนะ ผมต้องเต็มใจที่จะซื้อจะอยู่ ผมถึงเต็มใจที่จะพัฒนา
บีม: คำถามสุดท้ายสำหรับ Noble Recole สุขุมวิท 19 โครงการนี้คุณธีรพลมั่นใจระดับไหนครับ
ธีรพล: มั่นใจมากครับ ไม่มีอะไรมั่นใจกว่านี้อีกแล้ว (หัวเราะ) เพราะทุกอย่างลงตัวหมด ปัจจัยเดียวที่ทำให้พลาดเป้าคือ ผมคาดการณ์ตลาดผิด กำลังซื้อยังไม่กลับมา ซึ่งผมก็ตอบไม่ได้จริงๆ นะ ว่าจะออกมาเป็นแบบไหน แต่เท่าที่ผมมอง สถานการ์ณตลาดช่วงนี้ คนน่าจะเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยกันตามปกติ ซึ่งจากการนับยอดคนลงทะเบียนก็มีเข้ามาเรื่อยๆ ก็ไม่น่าจะมีอะไรพลาดนะครับ (ยิ้ม)
เราขอปิดท้ายบทสัมภาษณ์ด้วยภาพสวยๆ จากห้องตัวอย่างใน Noble Recole สุขุมวิท 19 สำหรับใครที่สนใจโครงการนี้ สามารถอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ ที่นี้ นะคะ