บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด หนึ่งในนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจับตามอง ย้ำจุดยืนมุ่งพัฒนาโครงการที่พักอาศัยด้วยจุดขายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ผสมผสานนวัตกรรมการออกแบบ, วัสดุคุณภาพ, รูปแบบการใช้งานพื้นที่ และความใส่ใจในการสร้างพื้นที่สีเขียวอย่างลงตัว พร้อมตอบรับทุกความต้องการอันหลากหลาย ด้วยที่พักอาศัยในแบบคอนโดมิเนียมไฮไรส์และโลว์ไรส์ รวมถึงโครงการบ้านแบบคลัสเตอร์โฮม ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว ภายใต้การบริหารของ 2 หัวเรือใหญ่อย่าง คุณอรฤดี ณ ระนอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด อดีตประธานผู้พลิกโฉมบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับผิดชอบงานพัฒนาโครงการ ปาร์ค เวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ (Park Ventures Ecoplex) บนถนนวิทยุ อาคารสำนักงานชั้นแนวหน้าของเมืองไทย และ คุณสุธี ลิมปนชัยพรกุล กรรมการผู้จัดการ ของนายณ์ เอสเตท ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดตัวออฟฟิศใหม่แล้ว
คุณอรฤดี ณ ระนอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด เกริ่นถึงจุดเริ่มต้นของบริษัทฯ ว่า ภายหลังจากประสบความสำเร็จจากการพัฒนา“พาร์คพรีว่า” โครงการบ้านเดี่ยวบนทำเลศักยภาพย่านพระราม 9 มูลค่า 2,500 ล้านบาท โดยพัฒนาร่วมกับ บริษัท นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ทำให้มองเห็นโอกาสและต้องการต่อยอด โดยบริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1,500 ล้านบาทมุ่งเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงบนที่มีคุณภาพพิถีพิถันเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวทำเลที่ตั้งโครงการโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวทาวน์โฮมหรือคอนโดมิเนียม
“สำหรับพาร์คพรีว่า ถือเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง บริษัท นายณ์ เอสเตท และ นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 80% แม้ นายณ์ เอสเตท จะเป็นน้องใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ แต่ด้วยปรัชญาการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ชูความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ผสมผสานนวัตกรรมการออกแบบ โดยเฉพาะความใส่ใจในทุกรายละเอียด จากการเลือกสรรและคัดสรรวัสดุที่มีคุณภาพ จึงทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ประกอบกับแนวคิดทางการดำเนินงานที่เน้นคิดต่างและพร้อมจะมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในทุกเซคเมนต์ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการเดินหน้าแผนพัฒนาถึง 6 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 5 โครงการ แนวสูง 1 โครงการ ซึ่งทั้งหมดนี้เราได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี” คุณอรฤดีกล่าว
ล่าสุดนายณ์เอสเตทเผยโฉมออฟฟิศแห่งใหม่ของนายณ์เอสเตทใจกลางสาทรบนชั้น 7 อาคารไทยวา ทาวเวอร์ โดดเด่นด้วยสมาร์ทดีไซน์สไตล์ “Modern Industrial” ตอกย้ำความเป็นค่ายอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นความสร้างสรรค์ในออกแบบและการเลือกใช้วัสดุคุณภาพ เตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตอย่างมั่งคง
คุณอรฤดีกล่าวถึง NYE Estate ออฟฟิศแห่งใหม่ ว่าไม่ว่าจะด้วยทำเลที่ตั้งหรือการดีไซน์ของออฟฟิศล้วนต้องการสะท้อนเอกลักษณ์และตัวตนของนายณ์เอสเตทในความเป็นแบรนด์คุณภาพมีความโดดเด่นแตกต่างในฐานะแบรนด์ที่มีความเอาใจใส่และเป็นมิตรทั้งในเรื่องฟังก์ชั่นดีไซน์โครงสร้างและคุณค่าเต็มเปี่ยมด้วยพลังสร้างสรรค์ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ผสานอยู่ในทุกโครงการภายใต้การบริหารของนายณ์เอสเตท
“โลเคชั่นของออฟฟิศบนบนถนนสาทรใต้ก็มีความสำคัญมาก เพราะเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ ไม่เพียงเป็นเสมือนแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ และเดินทางสะดวกเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมความแกร่งในแง่ของแบรนด์ให้กับเราด้วย” คุณอรฤดีเสริม
นอกเหนือจากการเปิดตัว NYE Estate ออฟฟิศแห่งใหม่แล้ว นายณ์ เอสเตท ยังพร้อมเดินหน้าแผนพัฒนาโครงการต่างๆ โดยภายในครึ่งปีหลังที่ผ่านมา ได้ประเดิม 3 โครงการแรก พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ควอร์เตอร์ สำหรับตลาดบ้านแนวราบบนที่ดินใจกลางเมือง ในชื่อโครงการควอร์เตอร์ 39 เป็นคลัสเตอร์โฮม จำนวน 15 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 38.6 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 680 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว ประมาณ 50% มูลค่าขายกว่า 300 ล้านบาท
ตามด้วยอีก 2 โครงการสุดหรูอย่าง โครงการควอร์เตอร์ 31 มูลค่าโครงการ 960 ล้านบาท ในซอยสุขุมวิท 31 เป็นคลัสเตอร์โฮมสูง 4.5 ชั้น จำนวน 20 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 44.3 ล้านบาท และโครงการควอร์เตอร์ ทองหล่อ มูลค่าโครงการ 640 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 8 ยูนิตราคาเริ่มต้น 62 ล้านบาท ปัจจุบันขายไปแล้วกว่า 85% มูลค่าการขายกว่า 500 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีการแนะนำโครงการใหม่ล่าสุดอย่างเฌอคูนดีไซน์ทาวน์โฮม 3 ชั้น บนทำเลที่ดีที่สุดของถนนราชพฤกษ์–สาทร ซึ่งเป็นการพลิกโฉมรูปแบบการอยู่อาศัยเหนือระดับด้วยทาวน์โฮมแนวคิดใหม่ เพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน จำนวน 70 ยูนิต ในราคาเริ่มต้น 4.85 ล้านบาท
คุณสุธี ลิมปนชัยพรกุล กรรมการผู้จัดการ ของนายณ์ เอสเตท กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ควอร์เตอร์ คอลเลคชั่น เปิดตัวทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ ควอร์เตอร์ 31 และ ควอร์เตอร์ 39 ซึ่งเป็นโครงการบ้านแบบคลัสเตอร์โฮม, และควอร์เตอร์ ทองหล่อ โครงการบ้านเดี่ยว โดยทั้ง 3 โครงการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายที่นิยมอาศัยอยู่ในย่านใจกลางเมืองได้เป็นอย่างดี และได้มีการเปิดตัว Sales Gallery อย่างเป็นทางการไปแล้ว โดยมอบหมายให้บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายทั้ง 3 โครงการ ทั้งนี้ บ้านในทำเลกลางเมืองภายใต้แบรนด์ควอร์เตอร์ คอลเลคชั่นทั้ง 3 โครงการ มีมูลค่ารวม 2,240 ล้านบาท ปัจจุบันสามารถสร้างยอดขายรวมได้แล้วราว 40% คิดเป็นยอดขายราว 900 ล้านบาท และเชื่อว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในสิ้นปี 2559 เนื่องจากมั่นใจกำลังซื้อ ของกลุ่มตลาดที่มองหาบ้านแนวราบใจกลางสุขุมวิท ซึ่งไม่มีการเปิดตัวมานานแล้ว โดยโครงการในรูปแบบนี้สามารถทำกำไรและส่งต่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานได้เนื่องจากที่ดินในสุขุมวิทนับวันจะมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ
“เราเลือกพัฒนาโครงการแนวราบบนทำเลสุขุมวิท เพราะต้องการพัฒนาโปรดักส์ในทำเลใจกลางเมืองเพื่อเป็นทางเลือก โดยวิเคราะห์ว่ายังมีลูกค้าที่ต้องการจะซื้อบ้านพักอาศัยทำเลสุขุมวิท หากออกแบบบ้านที่ตรงความต้องการ แบบเดียวกับโครงการพาร์คพรีว่า รัชดา–พระราม 9 ที่สามารถปิดการขายบ้านได้กว่า 70% ยูนิต ภายใน 3 เดือน” นายสุธี เสริม พร้อมกันนี้ยังเผยถึงความคืบหน้าของโครงการทั้ง 3 ว่า สำหรับโครงการควอร์เตอร์ 31 ระหว่างนี้อยู่ในช่วงการปรับพื้นที่ ส่วนควอร์เตอร์ 39 มีการเจาะเสาเข็มเสร็จแล้วและมีการดำเนินการจัดจ้างผู้รับเหมาอาคารเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ควอร์เตอร์ ทองหล่อ อยู่ในระหว่างการดำเนินการตอกเสาเข็ม
สำหรับโครงการใหม่อย่าง เฌอคูน ดีไซน์ ทาวน์โฮม เป็นอีกหนึ่งโครงการบนทำเลที่ดีที่สุดของถนนราชพฤกษ์–สาทร ถือเป็นการพลิกโฉมรูปแบบการอยู่อาศัยเหนือระดับกับทาวน์โฮมแนวคิดใหม่ ซึ่งเพิ่งเปิดให้จองไปเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัย อยู่ในทำเลที่สะดวกแต่ซ่อนตัวจากความวุ่นวาย ใกล้ชิดทั้งชีวิตเมืองและความสงบ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ ทั้ง The Bloc, Food Villa, The Circle, The Crystal รวมถึงการเดินทางเพียง 5 นาที ถึงจุดขึ้นลงทางด่วน และใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย ซึ่งปัจจุบันงานก่อสร้างแล้วเสร็จเกินกว่า 50%
ในอนาคตภายใน 3-5 ปี นายณ์ เอสเตท ตั้งเป้าเติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง โดยในปี 2559 ตั้งเป้ายอดขาย 3,000 ล้านบาท