s&s 110

ดูเหมือนว่าสถานการณ์ความร้อนแรงของตลาดคอนโดฯ ยังคงคุกรุ่น เพราะยิ่งใกล้สิ้นปีเข้ามาทีไร ผู้ประกอบการอสังหาฯหลายรายต่างเร่งขนทรัพย์ที่มีอยู่มาเสนอขายให้ได้มากที่สุด แม้ว่าเศรษฐกิจในและต่างประเทศยังส่งสัญญาณชะลอตัว อีกทั้งสถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดปล่อยสินเชื่อรายย่อยมากขึ้น ทำให้กำลังซื้อที่อยู่อาศัยยังไม่กลับมาคึกคักเท่าที่ควร  รวมถึงภาวะที่ “ดีมานด์” มีจำกัด หลังปริมาณซัพพลาย “คอนโดมิเนียม” ทะลักเข้ามามากในครึ่งปีแรก เป็นโจทย์สำคัญ ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวกันทุกด้าน

จากการสำรวจในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าสมรภูมิคอนโดกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง  เนื่องจากมีคอนโดโครงการที่เป็น “ไฮไลท์” ของรายใหญ่ๆ ระดมเปิดขายประชันกันครั้งแรกนับตั้งแต่ประสบภาวะชะลอตัวไตรมาส 2 จากที่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบุว่ามีการเปิดตัวเพียง 1.43 หมื่นหน่วย ลดลงจากไตรมาสแรกเกือบ 50%

เริ่มต้นด้วยค่าย “พฤกษา” นำโครงการบูติคคอนโดตกแต่งครบพร้อมอยู่ “แชปเตอร์วัน เดอะ แคมปัส” บนถนนพหลโยธิน ใกล้แยกเกษตร ซึงเป็นทำเลศักยภาพสูงด้านการเดินทาง ใกล้ทั้งสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ติดแนวรถไฟฟ้าส่วนขยายสีเขียวเข้ม

img-1705

ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม กล่าวว่า ในภาวะที่ดีมานด์มีจำกัด ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวทั้งในเชิงการวางกลยุทธ์ การลงทุน และการมองตลาด การวางราคาที่เหมาะสมและคุณภาพสินค้าที่ให้กับลูกค้าถือเป็นหัวใจแห่งความสำเร็จ อย่างเช่น การเปิดตัวคอนโด “แชปเตอร์วัน เดอะ แคมปัส” มีกลุ่มลูกค้าชัดเจนที่คนวัยทำงานและผู้ปกครองที่ต้องการมีบ้านหลังที่สองให้กับบุตรหลาน ที่สำคัญตั้งอยู่ในทำเลดี ทำให้การขายโครงการประสบผลสำเร็จอย่างมาก จากการเปิดพรีเซลเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา สามารถปิดการขายได้ทั้งหมดภายใน 2 ชั่วโมง โดยมีผู้สนใจลงทะเบียนซื้อก่อนหน้านี้ถึง 3,000 ราย จากจำนวนห้องชุด 783 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท

“การนำโครงการที่มีทำเลโดดเด่น และมีกลุ่มผู้ซื้อชัดเจนออกมาเปิดขายพร้อมๆ กัน ถือเป็นการปรับตัวที่รวดเร็วของบริษัทท็อปไฟว์ เราต้องมองตลาดให้ขาด ถึงทำให้การขายประสบความสำเร็จ โดยการทำตลาดในช่วงนี้จะมาจากรายใหญ่เป็นส่วนมาก”

ในต้นเดือน ก.ย.นี้ บริษัทเปิดตัว “เดอะ รีเซิร์ฟ เกษมสันต์ 3” มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท เป็นบูติคคอนโดแต่งครบ จำนวน 300 ยูนิต ตั้งอยู่ซอยเกษมสันต์ 3 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติและห้างสรรพสินค้าชั้นนำใจกลางกรุง เช่น สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิฟคัฟเวอรี่ มาบุญครอง และใกล้สถานศึกษาที่มีชื่อเสียง คาดว่าจะเป็นอีกโครงการที่ปิดการขายได้รวดเร็วเช่นกัน

img-1

 

ส่วน “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” ส่งโครงการ “เดอะ คีย์ วุฒากาศ” ตั้งอยู่ใกล้ “สถานีวุฒากาศ” ซึ่งกำลังเป็นทำเลร้อนแรงในขณะนี้โดยมีการเปิดขายคอนโดแล้ว 2 โครงการ  และกำลังจะเปิดอีก 4 โครงการ รวมเป็น 6 โครงการจำนวนกว่า 5,000 หน่วยในเวลาเพียง 1 ปี ขณะที่ เดอะ คีย์ วุฒากาศ เป็นอาคารสูง 21 ชั้น จำนวน 441 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท เปิดให้ลูกค้าทั่วไปจองเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี และสามารถปิดการขาย 70% ภายในวันเดียว

 

ด้านค่าย เอพี (ไทยแลนด์) จัดงานใหญ่ตอกย้ำการเป็นเจ้าตลาดคอนโดแนวรถไฟฟ้าสำหรับคนเมือง เปิดตัวคอนโดใหม่ล่าสุด “ริทึ่ม อโศก” ตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีพระราม 9 จำนวน 385 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.58 ล้านบาท พร้อมนำคอนโดกว่า 15 ทำเลที่มีศักยภาพในแนวรถไฟฟ้า ทุกระดับราคามาเปิดขาย พร้อมส่วนลดสูงสุด 1.3 ล้านบาท ที่สยามพารากอน เพิ่งจบงานไปเมื่อไปวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ APกล่าวว่า การจัดงานใหญ่ครั้งนี้ ต่อยอดจากมาจากคอร์ปอเรทแคมเปญ Live More; AP คิดและสร้างเพื่อชีวิตที่มากกว่า เพื่อกระตุ้นตลาดเรียลดีมานด์คอนโดแนวรถไฟฟ้าครึ่งปีหลัง ไฮไลท์สำคัญอย่าง “ริทึ่ม อโศก” มียอดจองในงานกว่า 40% และยอดขายทั้งหมดทะลุ 1 พันล้านบาท จากการร่วมมือกับไทยพาณิชย์ และ กสิกรไทย ในการมอบสิทธิพิเศษ ด้วยเงื่อนไขผ่อนชำระเงินจองและเงินทำสัญญาผ่านบัตรเครดิต 0% นาน 6 เดือน พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ

ขณะที่ค่าย แกรนด์ ยูนิตี้ฯ ก็ได้เปิดตัวคอนโดใหม่ “แกรนด์ ยู วิภา-ลาดพร้าว” ตั้งอยู่ถนนวิภาวดีรังสิต ติดกับสำนักงานใหญ่การบินไทย เป็นอาคารสูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 362 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาทพร้อมเฟอร์นิเจอร์ เปิดให้ลูกค้าทั่วไปจองไปเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดให้ลูกค้าเก่าจอง รวมถึงเปิดลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิการจอง พบว่ามีผู้แจ้งความจำนงกว่า 1,000 คน แม้ว่าทั้งโครงการมีเพียง 362 ยูนิตเท่านั้น

img-project-large-6

ทางด้านค่ายอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์แม้ว่าจะเพิ่งเปิดขายไอดีโอสาทร-ท่าพระได้เพียง 1 เดือนและมียอดขายโครงการดังกล่าวเพียง 50% แต่ก็ชิงขึ้นป้ายโฆษณาพบกันเร็วๆ นี้กับ “ไอดีโอ บีทีเอส วุฒากาศ” ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท จำนวนกว่า 1,000 หน่วย พร้อมเปิดให้ลงทะเบียนจองสิทธิบนเว็บไซต์ และเตรียมเปิดให้ลูกค้าจองในวันที่ 24-25 ส.ค. นี้ ณ สำนักงานขายไอดีโอ สาทร-ท่าพระ

การนำโครงการ “ไฮไลท์” ออกมาสู่ตลาดในช่วงเวลาเดียวกัน อาจกล่าวได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ชิงกำลังซื้อ เพราะยังไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ข้างหน้าได้ จำเป็นต้องตุนยอดขายไว้ล่วงหน้า และการนำโครงการที่มี’ทำเลโดดเด่น และ มีกลุ่มผู้ซื้อชัดเจน ออกมาเปิดขายพร้อมๆ กัน ถือเป็น การปรับตัวที่รวดเร็ว ของบริษัทท็อปไฟว์ก็ว่าได้

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ