หน้าร้อนที่แดดเปรี้ยง ประเดี๋ยวเดียวฝนตกโครม แล้วก็หยุดไป ลูกเห็บร่วงจนขาวโพลน ทะลุบ้าน การเปลี่ยนฤดูที่สั้นลงหรือยาวมากขึ้น เปลี่ยนแม้กระทั่งเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตก โรคอุบัติใหม่อย่างโควิด ไม่หนีหาย แถมยังกลายพันธุ์ ฝุ่น PM 2.5 อยู่กับเราตลอดเวลา ไม่มาเฉพาะหน้าหนาวอีกแล้ว เด็กรุ่นใหม่ในอนาคตไร้สังคมเพื่อน เพราะต้องเรียนทางออนไลน์ พ่อแม่ทำงานที่บ้าน ในมุมสงบของตัวเอง มีอะไรให้ปรับตัวกันตลอดเวลา อยากกอด อยากสัมผัสกันให้อุ่นใจก็ทำได้เป็นครั้งคราว

ถึงเวลาที่สังคมโลกและทุกผู้คน ต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตให้ปลอดภัย และร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองต่างๆ ใช้ชีวิตให้ “ธรรมดา” มากขึ้น บริโภคน้อยลง ใช้เฉพาะสิ่งจำเป็น เพื่อลดการทำร้ายธรรมชาติ สร้างสภาพแวดล้อมรอบตัวเราให้ดี ถูกต้องตามหลักสุขอนามัย (Hygeinic) มีแนวคิดในการใช้ชีวิตที่พอเพียง (Sufficiency Economy) และผสมผสาน (Hybrid) มีความยืดหยุ่น (Resilience) มากขึ้น เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของตนเองและครอบครัว

สำหรับการบริหารจัดการชุมชน ในสังคมชาวคอนโด ซึ่งถือเป็นครอบครัวใหญ่พอสมควรสำหรับทีมบริหารจัดการ เพราะต้องตระเตรียมและตรวจสอบ ดูแลรักษาให้ทุกระบบงานในชุมชน สามารถพร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัยตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นส่วนใน Hardware แต่ในด้านคุณภาพชีวิต ในช่วงที่ลูกค้าเปลี่ยนสถานะจากผู้ซื้อมาเป็นผู้พักอาศัยแล้ว การบริหารจัดการตลอดระยะเวลาที่ลูกค้าพักอาศัยกับเรา เป็นส่วนที่เรียกได้ว่าเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่สุด เพื่อนำพาให้ทุกชีวิต ทุกครอบครัว สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข มีสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมการอยู่อาศัยที่ดี ภายใต้ การบริหารจัดการชุมชนสีเขียว (Green Community Management) หมายถึง การบริหารจัดการการอยู่อาศัย ที่ให้ความสำคัญกับทุกกระบวนการอยู่อาศัยที่จะไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ (Ecosystem)

🔸เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว

ตลอดชีวิตของคนคนหนึ่ง โดยเฉพาะคนที่เกิดในยุค Baby Boomer หรือ Gen X เป็นช่วงชีวิตที่พบการเปลี่ยนผ่านมากมาย ทั้งด้านเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต การมีอายุขัยเฉลี่ยที่มากขึ้น เพราะการพัฒนาความรู้และเทคโนโลยีด้านการแพทย์ และที่สำคัญคือการรับรู้และสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมที่เห็นได้ชัด ซึ่งแน่นอนคือสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เลวร้ายมากยิ่งขึ้น การเกิดสึนามิขนาดใหญ่ที่ญี่ปุ่นในปี 2547 ได้ส่งผลกระทบทั้งต่อชีวิตและเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านในทวีปเอเชีย รวมถึงไทยเราด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และภาวะโลกร้อน (Global Warming) จากการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas หรือ GHG) ที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ส่งผลกระทบทางกายภาพหลายประการเช่น การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล ความแปรปรวนที่เพิ่มขึ้นของรูปแบบสภาพอากาศ และเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว

🔸 ลดผลกระทบด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทันที

โดยเริ่มจากหน่วยย่อยหรือสังคมที่เราอยู่ ลอง Flash Back กลับไปที่เมื่อวาน หรือเมื่อเช้า เรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายสภาพแวดล้อมอะไร และอย่างไรบ้าง เพียงแค่เปิดแอร์ในบ้าน ก็ต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามากมาย แถมมีส่วนร่วมในการปล่อยอากาศที่มีอุณหภูมิสูงสู่ชั้นบรรยากาศ แต่น่าดีใจที่ในเหรียญอีกด้าน เราจะเห็นผู้คนที่กระตือรือล้นและสร้างจิตสำนึกในครอบครัว โดยการช่วยกันคัดแยกขยะ และใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ปฏิเสธของที่ใช้แล้วทิ้ง เช่น ช้อนพลาสติก หลอดน้ำ เพื่อให้เกิดขยะน้อยลง หรือการปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ช่วยฟอกอากาศภายในบ้าน ซึ่งบางครั้งก็เผื่อแผ่แบ่งปันมาสู่ผู้ที่สัญจรไปมาโดยไม่รู้ตัว

🔸 Circular Economy อีกหนึ่งทางรอด

เรามักจะคุ้นชินกับ Green Clean Lean ซึ่งถูกบ่มเพาะและปฏิบัติในทุกชุมชน ตั้งแต่เรื่องการคัดแยกขยะ โดยให้ความรู้และจัดกระบวนการคัดแยกขยะที่ถูกต้องและเกิดผลจริงแก่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดขยะจากชุมชนที่น้อยที่สุด ตามเป้าหมาย Zero Waste การปิดไฟให้โลกพัก ฯลฯ แต่เมื่อทรัพยากรธรรมชาติถูกใช้จนใกล้หมดไป Circular Economy หรือ แนวคิดเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน ก็เป็นอีกหนึ่งวิถีที่นำไปสู่ทางรอด โดยการนำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) โดยการบริจาคหรือแบ่งปันไปสู่ผู้อื่น การแปรสภาพให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ (Remake) ซึ่งเกือบทุกอุตสาหกรรมต่างให้ความสำคัญและบรรจุเป็นหนึ่งในพันธกิจเพื่อความยั่งยืน ซึ่งในส่วนของชุมชนเอง ก็ได้มีการบำบัดน้ำเสียให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น ใช้รดน้ำต้นไม้ในโครงการ และบางส่วนก็ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ตัวอย่างอื่นๆ ที่คนทั่วไปสามารถประยุกต์ใช้ได้ก็เช่น การนำกางเกงยีนส์ที่ไม่ได้ใช้แล้ว มาดัดแปลง (Remake) เป็นของใช้อื่นๆ เช่น กระเป๋า หรือมาตกแต่งเสื้อ

นอกจากนี้ Circular Economy ยังครอบคลุมไปถึงการออกแบบงานบริการที่เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดผลกระทบเชิงลบให้มากที่สุดด้วย เช่น ยีนส์แบรนด์ Hiut Denim ที่ออกแบบบริการที่เน้นการใส่ตั้งแต่ระหว่างขาย ยาวไปจนถึงหลังการขาย ซ่อมฟรีเมื่อไหร่ก็ได้ เพื่อให้ยีนส์นั้นอยู่กับคุณได้ยาวนานตลอดไป

🔸 ทุกผู้คนล้วนมีความสำคัญ

นำมาซึ่งการบริหารจัดการผู้ที่เกี่ยวข้องในงานบริหารชุมชน (People Management) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากความร่วมมือ การให้คำแนะนำของคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด และสมาชิกในชุมชนทุกท่าน และที่สำคัญคือฝ่ายจัดการ ที่จะเป็นผู้ประสานและผลักดันให้การอยู่อาศัยเป็นไปอย่างราบรื่น (Smooth Your Living) ไร้รอยต่อ (Seamless) ไม่ว่าประเทศหรือโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ดังเช่น กรณีน้ำท่วมในปี 2554 หรือการเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน การบริหารจัดการชุมชนในทุกวิกฤติให้ทุกชีวิตมีความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก และเป็นที่มาของการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร รวมถึงเพิ่มพูนความรู้ให้ก้าวทันโลกในยุค New Normal

🔸 ร่วมออกแบบการใช้ชีวิตตั้งแต่ต้น

ดังนั้น การบริหารจัดการชุมชนสีเขียว จึงถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะสนับสนุนและรองรับการอยู่อาศัยตลอดเวลาของการเป็นลูกค้าของสมาชิกทุกท่าน การเข้าไปมีส่วนร่วมในการออกแบบพัฒนาโครงการตั้งแต่ต้นจึงมีความสำคัญมาก เพื่อร่วมแสดงความเห็นและร่วมออกแบบการอยู่อาศัยให้มีคุณภาพมากที่สุด สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการพัฒนาโครงการ และสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ที่มีความแตกต่างกันในแต่ละโครงการ

ท่ามกลางโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การก้าวตามโลกให้ทัน เป็นตัวกำหนดความรวดเร็วในการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการบริหารจัดการด้วย “ใจ” จะช่วยให้การอยู่อาศัยในทุกวัยเป็นไปอย่างราบรื่น (Smooth Your Living)
เกิดการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความสุขที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง จะสานต่อใน “Young Generation” ต่อไป