ตลาดคอนโดฯ ยังไม่ตกกระแส โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัดอย่างพัทยาช่วงริมหาดและแนวเขา เพราะล่าสุดราคาที่ดินพุ่งสูงเฉียดแสนบาทต่อตารางเมตรแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์วิ่งเข้าจับจองพื้นที่กันไม่ขาดสายจนผู้ประกอบการท้องถิ่นร้องจ๊ากเพราะกดดันเลยต้องเร่งพัฒนาตนเองไม่ให้ล้มหายตายจากไป
ทั้งนี้ นายไซม่อน เดอร์วิลเล่ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงรายงานผลวิจัย คอนโดมิเนียม โฟกัสในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2555 ถึงครึ่งปีแรก 2556 ว่าตลาดคอนโดมิเนียมพัทยาพบว่ามีการเปิดโครงการใหม่ 30 โครงการ รวม 13,152 ยูนิต อัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 48% ซึ่งที่ดินบริเวณริมหาดที่สามารถขึ้นโครงการใหม่ได้ ทำให้ผู้พัฒนาโครงการเริ่มขยายการเปิดโครงการเข้ามาในเมืองพัทยาและช่วงแนวเขามากขึ้นแต่ยังเน้นขายวิวทะเล ทั้งนี้ ราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ราคาขายปรับเพิ่มขึ้นจากปี ที่ผ่านมากว่า 21% เฉลี่ยอยู่ที่ 71,357 บาทต่อ ตร.ม. กลุ่มผู้ซื้อหลักยังเป็นคนไทยที่ต้องการบ้านหลังที่สอง รองลงมาคือ รัสเซีย ญี่ปุ่น จีน อินเดีย เป็นต้น
นายเดอร์วิลเล่กล่าวว่า ตลาดพัทยามีผู้พัฒนาโครงการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งแบรนด์เป็นที่รู้จักอยู่แล้วเข้ามาพัฒนาโครงการมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการในท้องถิ่นมีความกดดัน เนื่องจากอัตราการขายโครงการช้ากว่ารายใหญ่ ทั้งนี้ ทำให้เกิดความเสี่ยงเนื่องจากในอนาคตจะมีโครงการที่เปิดขายใหม่อีก ซึ่งผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ขายโครงการก่อสร้างอาจจะขึ้นโครงการจริงไม่ได้ ทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดต่ำลง
ส่วนตลาดกรุงเทพฯนิยมเปิดโครงการตามแนวรถไฟฟ้า มีโครงการเปิดใหม่ราคาเฉลี่ยมากกว่า 100,000บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) จำนวน 32 โครงการ รวม 12,898 ยูนิต ซึ่งขนาดห้องที่นิยมเปิดคือ 1 ห้องนอน กว่า 70% โดยทำเลที่มีการเปิดโครงการใหม่มากที่สุดคือ ย่านพระราม 9 รัชดาภิเษก ลาดพร้าว พหลโยธิน เป็นต้น มีอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 74% โดยทำเลที่มีการเปิดโครงการใหม่มากที่สุดคือ ย่านพระราม 9 รัชดาภิเษก ลาดพร้าว พหลโยธิน เป็นต้น
“มองว่าความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมยังมีอยู่ หากอัตราดอกเบี้ยยังเอื้ออำนวย อย่างไรก็ตาม ราคาค่าก่อสร้างและราคาที่ดินที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อราคาขายทำให้ผู้พัฒนาโครงการอาจจะต้องพัฒนาโครงการใน ระดับลักชัวรี่ในเมือง หรือขยายการ เปิดโครงการออกไปนอกเมืองมากขึ้น” นายเดอร์วิลเล่กล่าว
ที่มา: มติชน