เมื่ออาทิตย์ก่อน ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติม ร่างพระราชบัญญัติ พรบ. ที่ราชพัสดุ พ.ศ… ปรับปรุงจากร่างเดิมเมื่อปี พ.ศ.2518 โดยแก้ไขเพิ่มคำนิยามให้มีความชัดเจนขึ้น
- กำหนดข้อยกเว้นอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่ราชพัสดุ
- แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการที่ราชพัสดุ
- ให้กระทรวงการคลังมีหน้าที่ปกครอง ดูแล บำรุงรักษา และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ ทั้งที่อยู่ในประเทศ และนอกประเทศ เช่นที่ดินที่ตั้งสถานทูตในประเทศต่างๆ
- การจัดหาประโยชน์ที่ไม่ถือเป็นการร่วมลงทุนตามกฏหมายว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ PPP
- กำหนดให้หน่วยงานที่ดูและต้องรายงานการบำรุงรักษาให้กรมธนารักษ์ทราบทุก 2 ปี
- เพิ่มบทลงโทษในกรณีที่บุคคล เข้าไปในที่ราชพัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาติ
สิ่งที่เน้นย้ำคือการจัดหาประโยชน์ในที่ดินราชพัสดุ ให้ถือว่าไม่เป็นการร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP ยกเว้นกรณีที่คณะกรรมการ PPP จะกำหนดกิจการแบบใดที่ไม่ถือเป็นการร่วมลงทุน
ส่วนเรื่องการเช่าที่ไม่ได้ซับซ้อน ไม่ต้องเข้า PPP แต่ถ้ามีการเอาทรัพย์สินเข้าร่วม เช่น โครงการคมนาคม หรือ โครงการที่มีมูลค่าเกิน 5,000 ลบ. จะต้องใช้กม. PPP และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการที่ราชพัสดุก่อนด้วย
อสมท. กระจายความเสี่ยง งัดที่ดินใจกลางพระรามเก้า หาผู้ร่วมพัฒนา
ด้านอสมท. หลังจากได้รับผลระทบจากวิกฤตสื่อ ก็เตรียมหารายได้ทางอื่น โดยงัดที่ดิน 70 ไร่ ย่านพระรามเก้า มูลค่ากว่า 7,000 ลบ. เปิดให้นักลงทุนที่สนใจร่วมลงทุนในระยะยาว โดยเร่งทำ PPP ให้เสร็จภายใน 2 ปี
สำหรับที่ดิน 3 แปลงที่ทาง อสมท. เตรียมเปิด Market Sounding นั้นประกอบด้วย
- ที่ดิน 50 ไร่ บริเวณถนนเทียมร่วมมิตร ติดกับศูนย์วัฒนธรรม ในโซนพระราม 9 ซึ่งมีมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท รวมกับที่ดินที่เป็นที่ตั้งของ อสมท ปัจจุบันอีก 20 ไร่ ติดกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ ด้านหลังเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 มูลค่าอีก 2,000 ล้านบาท รวมเป็น 70 ไร่ พร้อมอาคารสถานที่เพื่อทำประโยชน์ระยะยาวร่วมกัน รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า 50,000 ตารางเมตร โดยพื้นที่ ดังกล่าวสามารถสร้างอาคารสูงได้กว่า 40 ชั้น อาคารนิทรรศการและศูนย์ประชุมลักษณะ Multipurpose ความจุไม่น้อยกว่า 2,000 ที่นั่ง สตูดิโอสำหรับผลิตรายการ , อาคารสำนักงานพร้อมที่จอดรถ community mall และอื่นๆ ซึ่งสภาพแวดล้อมโดยรวมเป็นพื้นที่ prime area
- ที่ดิน 60 ไร่ บริเวณบางไผ่ ฝั่งธนบุรี ใกล้พุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งมีศักยภาพในการทำโครงการที่อยู่อาศัย เนื่องจากใกล้เส้นทางคมนาคมทั้งพุทธมณฑล , เพชรเกษม และบรมราชชนนี รวมมูลค่าที่ดินประมาณ 400 – 500 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดให้ผู้สนใจร่วมลงทุนหรือซื้อขายในคราวเดียวกันอีกด้วย
- ที่ดินบริเวณหนองแขม 40 ไร่ ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นอาคารเครื่องส่งและโรงถ่ายละครซึ่งรอการส่งมอบตามสัญญาร่วมดำเนินกิจการส่งโทรทัศน์สีกับบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ซึ่งจะครบกำหนดสัญญา ในปี 2563 สำหรับในภูมิภาค อสมท ยังมีที่ดิน 20 ไร่ บริเวณถนนเพชรเกษม ใกล้บึงขุนทะเล อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักจากชุมพรสู่จังหวัดนครศรีธรรมราช และกระบี่ อีกด้วย คาดว่าด้วยสินทรัพย์ที่ อสมท มีอยู่หากมีการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพจะสามารถสร้างรายได้ให้กับ อสมท ได้ในอนาคต
หลังจากเปิดให้นักลงทุนที่สนใจเสนอโครงการแล้ว อสมท จะจัดจ้างที่ปรึกษาโครงการ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ และกระทรวงการคลัง เพื่อเข้าสู่กระบวนการร่วมมือในรูปแบบภาครัฐ – ภาคเอกชน (PPP) ตามระเบียบให้แล้วเสร็จภายใน 48 เดือน และสามารถเริ่มก่อสร้างได้ภายใน ปี 2564
ที่มาข่าว: Thaipost, Posttoday