คุณชูรัชฏ์_21

เรียกว่าลูกไม้หล่นใต้ต้นก็ว่าได้ สำหรับทายาทรุ่นที่2 ของคุณไชยยันต์ ชาครกุล เจ้าของบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)  ที่ มากับสโลแกน “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี อย่างคุณ“ตั้ม” ชูรัชฎ์   ชาครกุล ลูกชายคนโตวัย 34 ปี ที่ถอดแบบจากผู้เป็นพ่อตั้งแต่หัวจรดเท้า  ดีกรีปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท 2 ใบ จาก M.S. (Economic) University of Illinois – Urbana Champaign U.S.A. และ M.B.A American University U.S.A. นั่งแท่นผู้อำนวยการ SBU2 และกรรมการบริษัทในขณะนี้

DSCN7419

โดยทีมงาน Thinkofliving ก็ไม่พลาดีที่จะคว้าตัวผู้บริหารหนุ่มคนนี้ (ซึ่งในที่นี้จะขอเรียกว่า คุณตั้ม นะคะ)  มาร่วมพูดคุยกันถึงการเข้ามาสานต่อธุรกิจของคุณพ่อ และการสร้างแบรนด์ใหม่กันค่ะ

โบ: ตอนนี้คุณตั้มดูแลรับผิดชอบส่วนไหนของบริษัทบ้างคะ

คุณตั้ม: ตอนนี้ผมดูแลรับผิดชอบในส่วนของSBU2 หน่วยงานนี้จะเน้นเปิดแบรนด์ใหม่ เพื่อเจาะตลาดลูกค้าวัย 27 ปีขึ้นไปเป็นหลัก ซึ่งแบรนด์ที่ผมรับผิดชอบก็คือ แบรนด์ Lanceo และ Lanceo CRIB บ้านเดี่ยว ราคา 2-5 ล้านบาท ,แบรนด์ Lio ทาวน์โฮม ราคา 1.6 ล้านบาท ,แบรนด์ Levo คอนโดฯ ราคา 1-2 ล้านบาท และแบรนด์ Lib คอนโดฯ ราคา 1.4 ล้านบาท

aster

โบ: การที่เรามาสานต่อธุรกิจแล้วต้องสร้างแบรนด์ใหม่ ที่มีทั้งแนวราบและแนวสูง คุณตั้มมองว่ามันยากง่ายยังไงบ้าง แล้วเรามีวิธีการสร้างแบรนด์ใหม่ยังไงคะ

คุณตั้ม : มันมีทั้งยาก และง่ายนะ  แต่เราเน้นพัฒนาและสร้างแบรนด์ใหม่ โดยให้ความสำคัญกับฝีมือของทีมงาน การจัดการงบประมาณซึ่งทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวาวางรากฐานการสร้างแบรนด์แบบปากต่อปาก แต่ทั้งหลายทั้งปวงเชื่อว่าแบรนด์จะดีได้ต้องมาจากสินค้าที่ดีก่อน

โบ: คุณตั้มพัฒนาแบรนด์ใหม่ในแต่ละประเภท เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นคนรุ่นใหม่อย่างไรบ้างคะ

คุณตั้ม: เราพัฒนาโครงการแต่ละประเภทภายใต้แนวคิดใหม่นะ อย่างบ้านเดี่ยวแนวคิดใหม่ก็ต่อยอดความคิดจากบ้านแฝด ซึ่งปกติบ้านแฝดจะแยกกัน เราก็เลยนำมันมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกันให้รู้สึกว่าเหมือนอยู่บ้านเดี่ยว เหมาะกับครอบครัวคนรุ่นใหม่ ที่มีลูก 1-2 คน

ส่วนทาวน์โฮมก็สร้างจุดเด่นให้กับ facility หรือระบบสาธารณูปโภคให้เหมือนกับการได้อยูบ้านเดี่ยว ให้ความสำคัญกับการเลือกวัสดุการก่อสร้างที่ทำให้บ้านเย็น เป็นต้น และสุดท้ายคอนโดฯ เราเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองเป็นหลัก ซึ่งโครงการล่าสุดก็คือ โครงการ Lib รามคำแหง 43/1 ครับ

LANCEO-10-MAINGATE-FINAL_121108

โบ: ผลประกอบการ 6 เดีอนแรกของปีนี้เป็นที่น่าพอใจมากน้อยแค่ไหนคะ

คุณตั้ม : บริษัทมีผลประกอบการที่เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องจากที่ขยายตัวได้ดีในไตรมาสแรกครับ ทำให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมียอดรับรู้รายได้เข้ามาแล้วกว่า 1,211 ล้านบาท

ซึ่งเติบโตขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 88%   ซึ่งแม้บริษัทมียอดรับรู้ที่เติบโตขึ้นมาก แต่ความสามารถในการทำกำไรมิได้ลดลง  บริษัทยังคงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนด้านต่างๆ ได้เป็นอย่างดี   ซึ่งจะเห็นว่าในครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้นประมาณ 227 ล้านบาท หรือขยายตัวขึ้นจากปีก่อนประมาณ 160%

โบ: แล้วครึ่งปีหลังนี้ คิดว่าจะเป็นยังไงบ้างคะ

คุณตั้ม :ในส่วนของแนวโน้มครึ่งปีหลัง คาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะยังขยายตัวได้ดี   จากที่บริษัทสามารถทำยอดขายได้ในระดับสูงในครึ่งปีแรก   โดย ณ ปัจจุบัน มียอดขายรอบันทึกเป็นรายได้ (Backlog) อยู่ประมาณ 1,300-1,500 ล้านบาท    นอกจากนี้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่อีกประมาณ 8 – 10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 3 – 4 โครงการ   โครงการในต่างจังหวัดทั้งภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 -4 โครงการ   และโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ อีก 1 – 2 โครงการ ซึ่งจะช่วยรองรับการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพของบริษัท

LIB รามคำแหง

โบ: ได้ข่าวว่าเราไปรุกตลาดต่างจังหวัดด้วยใช่ไหมคะ เล่าให้ฟังหน่อยค่ะ

คุณตั้ม : ใช่ครับ เราเล็งที่ภาคตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคเหนือไว้ ที่ผ่านมาเราก็ไปทำโครงการแนวราบที่ศรีราชา ชลบุรีครับ เป็นบ้านเดี่ยว แบรนด์ Lanceo CRIB เพราะเรามองว่าทำเลนั้นมีกำลังซื้อมาก กลุ่มลูกค้าที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่นที่ต้องการบ้านหลังแรกครับ

โบ:  เรามีการสร้างความต่างในการไปตีตลาดต่างจังหวัด ด้วยกลยุทธ์ใดคะเพื่อไปสู้กับกลุ่มทุนท้องถิ่น

คุณตั้ม : เราขายความเป็นเมืองคือ เอาชีวิตที่ทันสมัย ความสะดวกสบายด้านสาธารณูปโภคที่พร้อม ครบครันไปนำเสนอให้ลูกค้าเห็นความต่างครับ ซึ่งเชื่อว่าตรงนี้เป็นจุดแข็งที่จะทำให้ลูกค้าหันมามองเรา

LEVO2

โบ: วางแผนการทำงานในอนาคตไว้อย่างไรบ้างคะ

คุณตั้ม : เราวางแผนไว้ว่าเราจะเพิ่มพอร์ตการลงทุนในคอนโดฯมากขึ้น รวมถึงการไปเจาะตลาดต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ๆ ส่วนบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมก็พัฒนาต่อไป แต่ยังขออุ๊บไว้ก่อนว่าจะไปเปิดโครงการในทำเลใด

คงต้องจับตาดูคลื่นลูกใหม่ ลูกไม้หล่นใต้ต้นคนนี้ต่อไปนะคะว่าการพัฒนาโครงการอย่างเป็นระบบ มีแบบแผนของเค้าจะสานต่อธุรกิจที่รับมาจากคุณพ่อต่อไปให้เราเห็นได้ในรูปแบบใดต่อไปค่ะ