นายสุภัคร ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติก่อสร้างโครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย ปี 2559 ระยะที่ 1 จำนวน 14 โครงการ รวม 4,388 หน่วย วงเงินลงทุน 2,057 ล้านบาทนั้นการเคหะแห่งชาติจะดำเนินการก่อสร้างโครงการในลักษณะอาคารชุดให้เช่าเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองและไม่สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยประเภทเช่าที่มีมาตรฐานได้
โดยจัดสร้างในรูปอาคารชุดสูง 3-5 ชั้น ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ประมาณ 28 ตารางเมตรบนที่ดินของการเคหะแห่งชาติและที่ดินราชพัสดุในพื้นที่กรุงเทพฯ–ปริมณฑล จำนวน 1,029 หน่วย และภูมิภาค จำนวน 3,359 หน่วย รวมทั้งสิ้น 14 โครงการ 4,388 หน่วย อัตราค่าเช่าเดือนละ 1,450 – 2,400 บาท ประกอบด้วยโครงการในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้
โครงการ |
จำนวนหน่วย |
อัตราค่าเช่าต่อเดือน |
1.จังหวัดสมุทรปราการ (บางพลี) |
1,029 หน่วย |
2,400 บาท |
2.จังหวัดฉะเชิงเทรา (บางปะกง) |
588 หน่วย |
1,450 บาท |
3.จังหวัดมหาสารคาม |
138 หน่วย |
1,650 บาท |
4.จังหวัดหนองบัวลำภู |
74 หน่วย |
1,550 บาท |
5.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (โรจนะ) |
441 หน่วย |
1,700 บาท |
6.จังหวัดชลบุรี (แหลมฉบัง) |
544 หน่วย |
1,600 บาท |
7.จังหวัดอุบลราชธานี |
242 หน่วย |
1,500 บาท |
8.จังหวัดอุดรธานี (สามพร้าว) |
544 หน่วย |
1,600 บาท |
9.จังหวัดสุรินทร์ (สลักได) |
163 หน่วย |
1,600 บาท |
10.จังหวัดลพบุรี ระยะที่ 1 |
245 หน่วย |
1,700 บาท |
11.จังหวัดนครสวรรค์ |
145 หน่วย |
1,650 บาท |
12.จังหวัดกาญจนบุรี |
79 หน่วย |
1,450 บาท |
13.จังหวัดระนอง (ลุวัง) |
78 หน่วย |
1,450 บาท |
14.จังหวัดพังงา (ตะกั่วป่า) |
78 หน่วย |
1,450 บาท |
“เป็นห้องชุดให้เช่า ซึ่งการเคหะฯต้องการช่วยผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานและในอัตราค่าเช่าที่เหมาะสม อย่างขนาดห้อง 28 ตารางเมตรก็ถือเป็นห้องชุดขนาดมาตรฐานที่พออยู่ได้ 3-4 คน เช่นเดียวกับอัตราค่าเช่าเดือนละ 1,450-2,400 บาท ก็อยู่ในวิสัยที่ผู้มีรายได้น้อยพอจะเช่าได้”
สำหรับคุณสมบัติของผู้เช่าห้องชุดดังกล่าว ต้องเป็นผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ครัวเรือนละไม่เกิน 24,700 บาทในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล หรือเป็นผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ครัวเรือนละไม่เกิน 14,600 บาทในภูมิภาค คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในเดือนกันยายน 2560 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 14-18 เดือน และเข้าอยู่อาศัยได้ปี 2562
ทั้งนี้การเคหะแห่งชาติจะต่อสัญญาเช่าเป็นรายปีซึ่งจะพิจารณาจากรายได้ครัวเรือนของผู้เช่าโดยค่าเช่าจะปรับขึ้นในอัตรา 5-10% ของทุกๆ 3 ปี ตามสภาวะเศรษฐกิจขณะนั้น ผู้สนใจแจ้งความประสงค์ได้ที่สำนักงานเคหะชุมชนของการเคหะแห่งชาติ (สช.) ณ ที่ตั้งโครงการ หรือที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1615 ทุกวันและเวลาราชการ
“การแจ้งความประสงค์ที่จะเช่าเป็นข้อมูลที่สำคัญมาก ถ้ามีผู้ประสงค์จะเช่ามากกว่าจำนวนห้องที่จะลงมือก่อสร้าง การเคหะฯก็จะนำข้อมูลนี้ไปประกอบการพิจารณาวางแผนเปิดโครงการใหม่ในพื้นที่นั้นเพิ่มเติมได้อีก” นายสุภัครกล่าว
นายสุภัครกล่าวอีกว่า การเคหะแห่งชาติเตรียมจัดงานมหกรรมบ้านเคหะประชารัฐ ครั้งที่ 2 โดยประชาชนผู้สนใจสามารถตัดสินใจเลือกเช่าซื้อที่อยู่อาศัยของการเคหะฯ 128 โครงการ จำนวน 20,817 หน่วย โดยในกรุงเทพฯจัดขึ้น ณ การเคหะแห่งชาติ สำนักงานใหญ่ คลองจั่น ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน-4 กรกฎาคม 2560 และในส่วนภูมิภาคตามสำนักงานเคหะชุมชนที่ตั้งโครงการนั้นๆ ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน– 9 กรกฎาคม 2560