Bangkok_Skytrain_06

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่รัฐบาลจะเร่งผลักดันให้ได้ความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการจัดซื้อจัดจ้าง และเริ่มก่อสร้างในปี 2015-2016 ทั้งหมด 19 โครงการแบ่งเป็น 4 กลุ่ม มูลค่าเงินลงทุน 1.77 ล้านล้านบาท

กลุ่มรถไฟ แยกเป็น 2 ประเภท คือรถไฟทางคู่ 1 เมตร และ รถไฟทางคู่รางมาตรฐาน 1.435 เมตร

mega project1คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

สนข. ย้ำสร้างทางคู่มาตรฐาน รองรับความเร็วสูงอนาคต

สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ระบุเหตุผลสนับสนุนแผนงานรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐานไว้ว่า เพื่อ “รองรับการยกระดับ” ให้เป็นรถไฟความเร็วสูงในอนาคต ถึงแม้แผนงานปัจจุบันจะใช้ความเร็วเพียง 160–180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เนื่องจากรางขนาดมาตรฐานหรือ 1.435 เมตร สามารถรองรับพิกัดความเร็วได้สูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตรงตามนิยามของสหภาพการรถไฟนานาชาติ (International Union of Railways: UIC) ที่กำหนดให้รถไฟความเร็วสูงคือรถไฟที่วิ่งด้วยความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในกรณีของสร้างทางใหม่ และวิ่งที่ความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในกรณีที่ยกระดับมาจากรถไฟเดิม

ขณะที่รถไฟในปัจจุบัน ขนาดราง 1 เมตร มีพิกัดความเร็วสูงสุดที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เท่านั้น ไม่สามารถยกระดับเป็นรถไฟความเร็วสูงในอนาคตได้ รวมไปถึงในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถวิ่งที่ความเร็วสูงสุดได้ เนื่องจากความทรุดโทรมของระบบเดินรถไฟ ซึ่งไม่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ สนข. ยังระบุว่า ด้วยพิกัดความเร็วที่มากกว่า ทำให้รถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน เหมาะสมกับการใช้เชื่อมต่อระหว่างประเทศเป็นหลัก ถึงแม้การเชื่อมโยงในภูมิภาคปัจจุบันจะมีรางขนาด 1 เมตรเป็นหลัก ตามโครงข่ายเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชีย (Tran-Asia Railway Network) แต่เส้นทางที่อยู่ในแผนงานเร่งด่วน ปี 2558 2 เส้นทาง คือเส้นทางเชียงของและหนองคาย มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมต่อให้สามารถเดินรถไฟได้ “อย่างต่อเนื่อง” กับประเทศจีน ซึ่งใช้รางขนาดมาตรฐานทั้งหมด

ที่มา: Thaipublica

รถไฟฟ้า

mega project1คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

อัพเดทความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้า

รถไฟฟ้า เส้นทาง ระยะทาง (กม.) เงินลงทุน (ลบ.) สถานะ เริ่มก่อสร้าง แล้วเสร็จ
สายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ 23 66,820 99.96% 2009 2016
สายสีน้ำเงิน ท่าพระ-บางซื่อ 13 82,387 65.83% 2011 2019
สายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ 13 28,659 66.98% 2013 2020
สายสีแดง รังสิต-บางซื่อ 26 69,305 16% 2013 2019
สายสีเขียว หมอชิต-คูคต 18.4 58,874 เริ่มก่อสร้าง 2015 2019
สายสีแดงเข้ม รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ 10 6,028 ผ่าน EIA 2018
สายสีแดงอ่อน (ชานเมือง) บางซื่อ-หัวหมาก 25.5 39,176 ผ่าน EIA 2019
สายสีแดงเชื่อม Airport Link ดอนเมือง-พญาไท 22 33,103 ผ่าน EIA 2019
สายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี 21 110,325 ผ่าน EIA 2020
สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี 36 56,691 ผ่าน EIA 2017 2021
สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง 30.4 54,644 ผ่าน EIA 2021

Motorway

mega project1คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

พัทยา-มาบตาพุด

พัทยา มาบตราพุด

  • ระยะเวนคืน: 2,308 ไร่ หรือ 842 แปลง
  • เริ่มดำเนินการ: 2015
  • คาดว่าแล้วเสร็จ: 2018

บางปะอิน-นครราชสีมา

บางปะอินโคราช

  • ระยะเวนคืน: 3,200 แปลง
  • เริ่มดำเนินการ: 2016
  • คาดว่าแล้วเสร็จ: 2019

บางใหญ่-กาญจนบุรี

Motorway-บางใหญ่กาญจนบุรี

  • ระยะเวนคืน: 6,808.5 ไร่ หรือ 3,628 แปลง
  • เริ่มดำเนินการ: 2016
  • คาดว่าแล้วเสร็จ: 2019

ทางน้ำ

mega project1ท่าเทียบเรือชายฝั่งแหลมฉบัง 

ท่าเทียบเรือ

เรือเอก สุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2558 อนุมัติให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ดำเนินโครงการ การพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) โดย กทท. เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างด้านโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือยกขนหลักทั้งหมด รวมทั้งการบริหารและประกอบการ ซึ่งใช้งบประมาณลงทุนรวม 1,864.19 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่ให้บริการอยู่ในเขตท่าเรือ คาดว่าในราวปลายปี 2558 จะลงนามในสัญญาจ้างการก่อสร้าง โดยใช้เวลารวม 24 เดือน และจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2561

สำหรับโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) นั้น อยู่บริเวณแอ่งจอดเรือที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างท่าเทียบเรือ A1 และ A0 มีพื้นที่ทั้งหมด 43 ไร่ มีความยาวหน้าท่า 245 เมตร โดยจะให้บริการท่าเรือชายฝั่งเป็นการเฉพาะ สามารถรับเรือชายฝั่งขนาดระวางบรรทุก 3,000 เดทเวทตัน ยกขนตู้สินค้าคราวละ 200 เดทเวทตัน และเรือชายฝั่งขนาด 1,000 เดทเวทตัน ยกขนตู้สินค้าคราวละ 100 เดทเวทตัน ได้อย่างละ 1 ลำ พร้อมกัน รวมทั้งติดตั้งปั้นจั่นหน้าท่าชนิดเดินบนราง (Quay Side Gantry Crane : QGC) จำนวน 1 คัน ปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่า (Mobile Harbour Crane : MHC) จำนวน 1 คัน และรถคานเคลื่อนที่ยกตู้สินค้าแบบล้อยาง (Rubber Tyred Gantry Crane : RTG) จำนวน 2 คัน โดยสามารถรองรับตู้สินค้าในลานกองเก็บตู้สินค้าได้สูงสุดถึง 300,000 ทีอียู./ต่อปี

ทั้งนี้ท่าเทียบเรือ A จะสามารถช่วยให้การบริการเรือชายฝั่งที่ ทลฉ. เป็นไปด้วยความรวดเร็วในการขนย้ายตู้สินค้า มีความปลอดภัยในการเข้า-ออกท่า และมีความสะดวกในการใช้ประโยชน์พื้นที่หน้าท่าและหลังท่าสูงสุดโดยจะรองรับการขนส่งสินค้าทางน้ำจากภาคใต้ของประเทศไทย รวมถึงการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และท่าเรือกรุงเทพอีกด้วย

ศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟแหลมฉบัง

13759349901375935221l

ปัจจุบัน ท่าเรือแหลมฉบัง ได้เร่งดำเนินการโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Rail Transfer Terminal) โดยได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาวิเคราะห์โครงการและออกแบบรายละเอียดสำหรับก่อสร้างในรูปแบบของย่านขนถ่ายตู้สินค้า อาคารสำนักงาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่ง การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือยกขนหลักทั้งหมด เป็นเงินรวมทั้งสิ้นกว่า 2,900 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการลดต้นทุนโลจิสติกส์และช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติโครงการฯ คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2561 โดยโครงการดังกล่าว สามารถรองรับตู้สินค้าได้ 2.0 ล้านทีอียูต่อปี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมนั้น บริษัทที่ปรึกษาได้ทำการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบทุกด้านและผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว

ทางอากาศ

mega project1คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

ขอบคุณข้อมูล:

Prachachart Online