ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ผลประกอบการปี 2559 ว่าในปีที่ผ่านมา บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สามารถทำยอดขายได้ 24,132 ล้านบาท โดยเป็นแนวราบ 53% คอนโดมิเนียม 47% จากการเปิดตัวโครงการทั้งหมด 21 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 16 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ปี 2559 เป็นปีที่ยอดขายโครงการแนวราบของบริษัท อาทิ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม เติบโตดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทได้ปรับรูปแบบบ้านให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และเปิดตัวเพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สำหรับปี 2560 นับเป็นความท้าทายของศุภาลัยในการสร้างยอดขายและรักษาผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน จากการตั้งเป้ายอดขายของบริษัท 27,000 ล้านบาท และเป้ารายได้รวม 24,500 ล้านบาท จากแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 29 โครงการ แยกเป็นโครงการแนวราบ ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล และต่างจังหวัด จำนวน 24 โครงการ โครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ จำนวน 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 37,200 ล้านบาท
Supalai | 2559 | 2560 |
ยอดขาย | 24,132 | 27,000 |
รายได้ | 23,491 | 24,500 |
โครงการใหม่ | 21 | 29 |
มูลค่า | 24,120 | 37,000 |
Backlog | 36,496 | 17,000 |
งบซื้อที่ดิน | 8,000 | 8,000 |
ขณะเดียวกันยังคงพัฒนาโครงการใหม่ในหัวเมืองจังหวัดต่างๆ เพิ่มขึ้น โครงการที่ดำเนินการอยู่แล้ว ได้แก่ เชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง อุบลราชธานี นครราชสีมา สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช อีกทั้งเตรียมขยายการลงทุนโครงการใหม่ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งจะส่งให้มีสัดส่วนยอดขายในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเป็น 28% ของเป้าการขายรวมของกลุ่มบริษัทฯ
นายอดิศักดิ์ วารินทร์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานโครงการภูมิภาค 3 บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจและทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในภาคใต้ มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น การขยายตัวของการท่องเที่ยว และการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนในจังหวัดภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราชแล้ว จำนวน 15 โครงการ ได้รับการตอบรับที่ดีและส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับในปี 2560 บริษัทได้ตั้งเป้าเติบโต 20% พร้อมลุยแผนเปิดโครงการใหม่อีก 4 โครงการ ในไตรมาส 2 และ 3 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า คือ โครงการศุภาลัย พรีโม่ นครศรีธรรมราช ศุภาลัย พาร์ควิลล์ นครศรีธรรรมราช ศุภาลัย พรีโม่ ภูเก็ต และศุภาลัย เบลล่า ภูเก็ต มูลค่าโครงการรวม 2,220 ล้านบาท
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในปี 2560 แม้จะมีปัจจัยหลายเรื่องที่มีผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ตลอดจนสถาบันการเงินเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ ทำให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัวยิ่งขึ้น แต่ยังมีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและภาคเอกชนผ่านธุรกิจอสังหาฯ ล้วนส่งผลให้ยอดขายของบริษัทฯ เป็นไปตามเป้าหมายที่ ตั้งไว้