SHARGE เดินหน้าแผน Scale Up EV Future เปิดตัวบิ๊กแคมเปญ “SHARGE ปลดล็อคชวนคอนโดทั่วประเทศติดตั้ง EV Charger กับ SHARGE ฟรี พร้อมบริการแบบครบวงจร หวังช่วยยกระดับ Infrastructure ประเทศตั้งแต่ระดับครัวเรือนทั่วประเทศนับล้านครัวเรือน ตอบโจทย์ความต้องการหัวชาร์จ 200,000 หัวชาร์จทั่วประเทศ ส่งเสริมสังคมคาร์บอนต่ำ เดินหน้าจับมือพันธมิตรบริษัทบริหารอาคารชั้นนำ อาทิ CBRE และ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ติดตั้ง EV Charger ให้ลูกค้าคอนโดสำนักงาน พร้อมเปิดกว้างลูกค้าบ้านจัดสรรรายย่อยซื้อเครื่องชาร์จราคาพิเศษ 

นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ผู้นำด้านการสร้าง EV Charging Ecosystem เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน เปิดเผยว่า จากนโยบาย 30@30 ของภาครัฐ ที่ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ หรือ Zero Emission Vehicle (ZEV) ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ.2030 หรือมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มรถยนต์นั่งและรถกระบะ ปีละประมาณ 725,000 คัน บริษัทประเมินว่า ประเทศไทยจะมีความต้องการ EV Charger จำนวนไม่น้อยกว่า 200,000-250,000 หัวชาร์จ เพื่อให้พร้อมรองรับปริมาณรถ EV จำนวนดังกล่าว ส่งผลให้ประเทศไทยต้องเร่งเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน EV อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ SHARGE ในฐานะผู้นำระดับท็อปในธุรกิจ EV Charger ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ Scale Up EV Future ยกระดับและสร้างความพร้อมรองรับการเติบโตของจำนวนรถ EV ไทยในอนาคต จึงได้จัดแคมเปญ SHARGE ปลดล็อค” ชวนผู้พัฒนาโครงการ (Developer) บริษัทบริหารอาคาร (Property Management Company) เจ้าของร่วม คอนโดมิเนียมทุกแห่งทั่วประเทศ ร่วมติดตั้ง EV Charger ในโครงการคอนโดมิเนียมของตัวเองกับ SHARGE โดย SHARGE จะเป็นผู้ลงทุนติดตั้ง EV Charger แบบ AC ให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

“การจะผลักดัน EV Ecosystem ของไทยให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ต้องเริ่มจากระดับครัวเรือน ให้ทุกคนรู้สึกว่ารถ EV และ EV Charger เป็นเรื่องเข้าถึงง่าย ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑลมีคอนโดมิเนียมขึ้นใหม่ราว แสนยูนิต หากนับทั่วประเทศ น่าจะมีมากกว่า ล้านยูนิต SHARGE จึงยินดีที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้อยู่อาศัยในทั้งคอนโดมิเนียมโครงการใหม่และโครงการเก่าทั่วประเทศจำนวนนับล้านครัวเรือน มีโอกาสเข้าถึง EV Charger ได้ง่ายขึ้น ยกระดับ EV Infrastructure อย่างรวดเร็ว ด้วยการลงทุนติดตั้งให้ในครั้งแรก เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้อยู่อาศัยที่กำลังพิจารณาซื้อรถ EV” นายพีระภัทร กล่าว

สำหรับแคมเปญ SHARGE ปลดล็อค” เปิดให้ผู้พัฒนาโครงการ ซึ่งมีแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ บริษัทบริหารอาคาร และเจ้าของร่วม ซึ่งบริหารและอาศัยในโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้ว ติดต่อประสานงานเข้ามาทาง Call Center ของ SHARGE ที่เบอร์ 02-114-7571หรือทางอีเมล [email protected] โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประสานงานเพื่อเข้าไปดูสถานที่หน้างาน ประเมินความต้องการ และนำเสนอแผนการติดตั้งให้ต่อไป ทั้งนี้ บริการติดตั้งในคอนโดมิเนียมของบริษัท จะเป็นบริการแบบครบวงจร One-Stop Service ตั้งแต่การประสานกับหน่วยงานด้านการไฟฟ้าที่รับผิดชอบพื้นที่ ไปจนถึงการติดตั้ง และการบริการหลังการขาย

นายพีระภัทร กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากการจัดแคมเปญ SHARGE ปลดล็อค บริษัทยังได้จับมือกับบริษัทบริหารนิติบุคคลอาคารรายใหญ่อย่างบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในการนำเสนอบริการติดตั้ง EV Charger ของ SHARGE ให้แก่ลูกค้าทั้งกลุ่มคอนโดมิเนียมและกลุ่มอาคารสำนักงานของพลัสพิจารณาเป็นรายแรก  และต่อยอดด้วยการเป็นพันธมิตรกับ CBRE บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรระดับโลก ขณะเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างเจรจาพูดคุยกับบริษัทบริหารอาคารชั้นนำรายอื่นๆ เพิ่มเติม

 

ล่าสุด ได้นำเสนอให้โครงการคอนโดมิเนียมแล้วจำนวน 100 แห่ง ได้รับความสนใจติดตั้งในเบื้องต้นแล้วมากกว่า 600 หัวชาร์จ คาดว่าจะดำเนินการติดตั้งภายในปีนี้ประมาณ 300 หัวชาร์จ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสร้างเครือข่าย EV Charger ในที่อยู่อาศัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขณะเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างการพูดคุยกับกลุ่มอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ตลอดจนสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คน (Lifestyle Location) อีกกว่า 80 แห่ง 

ทั้งนี้ การผลักดันให้คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ตลอดจน Lifestyle Locationทุกแห่งเร่งติดตั้ง EV Charger ถือเป็นการร่วมขับเคลื่อนให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการเผาไหม้ของรถเครื่องยนต์สันดาป ช่วยให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการใช้รถ EV ขณะเดียวกัน ยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน โดยหากชาร์จไฟฟ้าจากหัวชาร์จในคอนโดมิเนียมของ SHARGE จะมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางอยู่ที่ประมาณกิโลเมตรละ 1.7 บาท ถูกกว่าการเติมน้ำมันในปัจจุบันประมาณครึ่งหนึ่ง โดยปัจจุบัน ในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์และสหรัฐอเมริกา มีการส่งเสริมให้ติดตั้ง EV Charger ในที่อยู่อาศัยอย่างจริงจังแล้ว

ปัจจุบัน SHARGE ให้บริการธุรกิจแก่ลูกค้าใน กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.Charger Sales & Installation ขายและติดตั้งเครื่องชาร์จให้แก่เจ้าของบ้านจัดสรร บ้านส่วนตัว 2.Charging as a Service ขายพลังงานไฟฟ้าสำหรับชาร์จรถยนต์ EV ตามจุดให้บริการสาธารณะต่างๆ หรือตามอาคารที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก เช่น คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล ฯลฯ 3.Custom Corporate & Fleet Solution ขายพลังงานไฟฟ้าให้แก่องค์กรเอกชนและผู้ให้บริการยานพาหนะจำนวนมาก

สำหรับผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้าน เจ้าของบ้านจัดสรร เช่น บ้านเดี่ยว ที่สนใจซื้อ EV Charger ไปติดตั้งยังบ้านของตัวเอง สามารถติดต่อทีมงานของ SHARGE ได้ที่เบอร์ 02-114-7571 หรือทางอีเมล [email protected] เช่นเดียวกัน

 

ริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ SHARGE เป็นผู้ให้บริการ EV Charging Solution แบบครบวงจรทั้งด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ เพื่อรองรับ Lifestyle Charging Ecosystem ทั้ง Night, Day, On-the-go เติบโตมาจากการเป็นสตาร์ทอัพ มีบริษัทขนาดใหญ่จากหลากหลายเซ็กเตอร์เข้าร่วมลงทุนเป็นผู้ถือหุ้น อาทิ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG และบริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด