นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ผู้มอบ Living Solutions คุณภาพมาตรฐานสูง ที่มุ่งสู่แบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค เปิดเผยว่า

“ ปัจจุบัน market cap ของคริปโตฯ มีมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเติบโตจากปี 2562 ถึง 10 เท่า และเติบโตควบคู่ไปกับจำนวนผู้ใช้คริปโตฯ โดยที่ต้นปี 2564 มีจำนวนผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคน เพิ่มจากเดิม 35 ล้านคนในเวลา 2 ปี และมีการคาดการณ์จากกลุ่ม SFA (Singapore FinTech Association) ว่าจะเติบโตจาก 100 ล้าน เป็น 300 ล้านคน ณ ปลายปี 2564 การที่ผู้ใช้มีความคุ้นชิน ได้รับความสะดวก และมีความเชื่อมั่นที่มากขึ้นในสินทรัพย์ดิจิตอล โดยเฉพาะในกลุ่ม Young Generations จะทำให้คริปโตฯ ได้รับความนิยมมากขึ้นอีกในอนาคต จึงนับเป็นอีกหนึ่งความปกติใหม่ (New Normal)

ทั้งนี้จากจำนวนผู้ใช้ Cryptocurrency ที่มากขึ้น และดีมานด์ของอสังหาฯ ที่สูงขึ้นจากการเปิดประเทศ จะเป็นลมส่งสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาฯ ในปี 2565 บริษัทจึงร่วมกับพาร์ตเนอร์ธุรกิจที่แข็งแกร่งอย่าง Zipmex แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อำนวยความสะดวกลูกค้าโดยเปิดรับ 5สกุลเงินดิจิทัลซื้อบ้านและคอนโดทุกแห่ง รองรับการขยายฐานกลุ่มลูกค้าอนาคตทั้งในไทยและต่างประเทศ เริ่มวันที่ 1 ธ.ค. เป็นต้นไป ”

โดยโครงการเพื่อขายทั้งหมดจะทำให้บริษัทมี inventory สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านและคอนโดของ SC Asset รวมถึงคอนโด Scope บริษัทในเครือ พร้อมรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว

สำหรับปัจจัยสำคัญของความร่วมมือเกิดจากแนวนโยบายภายใต้ทิศทางที่สอดคล้องกัน คือ การพัฒนา Solutions เพื่อลูกค้า อีกทั้งบริการของ Zipmex มีความปลอดภัยและเสถียรภาพสูง และใช้งานง่าย ควบคู่กับการให้บริการลูกค้าอย่างดีเยี่ยมซึ่งเราเชื่อว่าจะช่วยสร้างประสบการณ์การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ประทับใจให้กับลูกค้าได้ในทุกระดับ

นายณัฐพงศ์ กล่าวต่อว่า “นอกจากการร่วมมือกับ Zipmex ซื้อบ้านและคอนโดผ่าน 5 สกุลเงินดิจิทัล บริษัทยังเห็นโอกาสและเตรียมโรดแมพใน 3 เรื่องสำคัญ

เรื่องแรก การมองหาโอกาสการออก SC Morning Coin ภายในปีหน้า ซึ่งเป็น utility token เพื่อประโยชน์ของพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และนักลงทุนที่หลากหลายรวมกว่า 400,000 คน ภายใน ecosystem ของ SC เป็นการต่อยอดจาก SC token ที่ปัจจุบันใช้กันภายในองค์กรอยู่แล้ว

เรื่องที่สอง การหารือเกี่ยวกับทำ ICO (Initial Coin Offering) ซึ่งเป็น security token เพื่อการระดมทุนภายใน 3 ปีนี้ ปัจจุบัน SC มีสินทรัพย์ที่สร้าง recurring income มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท

เรื่องที่สาม การมองหาโอกาสการทำ NFT (Non-Fungible Tokens) แรกจาก SC Asset ซึ่งคาดว่าภายในปีหน้า อาจได้พบกับแบบบ้านและนวัตกรรมใหม่ ๆ ในรูปแบบ NFT จาก SC Asset ”

นาย Marcus Lim ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Zipmex Asia กล่าวว่า “ ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาส และขยายฐานนักลงทุนทั้งลูกค้า Zipmex และของ SC Asset สำหรับซื้อโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมคุณภาพผ่านสกุลเงินดิจิทัล ได้แก่ BTC, ETH, ZMT, USDT และ USDC ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของทั้งสอง และยังเป็นการยืนยันความตั้งใจของ Zipmex ที่เราเชื่อว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น และเป็นเสมือนอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการลงทุน และใช้ในชีวิตประจำวัน

ปัจจุบัน Zipmex มีลูกค้าที่สนใจและลงทะเบียนเข้ามาในแพลตฟอร์มของเราเป็นจำนวนมาก เนื่องจากลูกค้ามีความเชื่อมั่นและมั่นใจในสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนการตลาดใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการออมเงิน การลงทุน การใช้ในชีวิตประจำวัน และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่จะเพิ่มประสบการณ์เฉพาะให้กับลูกค้าแบบสุดพิเศษ เช่น มอบสุดยอดประสบการณ์ที่แตกต่างด้วย Innovative Lifestyle ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ จากโลก Offline สู่แพลตฟอร์ม Online นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่เขย่าวงการอลังหาฯ พร้อมทั้งตอกย้ำความเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์และมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่เพื่อส่งเสริม Living Solutions อำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภค พร้อมเติบโตคู่ขนานในโลกดิจิทัล ”

#SCAssetxZipmex #SCAsset #ZipmexThailand #ZMT #Cryptocurrency #ซื้อบ้านด้วยคริปโต #SCแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ1 #SCCondo