สองบริษัทยักษ์ใหญ่ไทย กลุ่มบริษัทบีทีเอส (BTS) ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน และแสนสิริ (SIRI) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการระยะยาว 5 ปีนับจากนี้ เตรียมเปิดคอนโดมิเนียมตลอดเส้นทางระบบขนส่งมวลชนภายใต้บริษัทร่วมทุนจำนวนมากถึง 25 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1 แสนล้านบาท นำร่องปีนี้ด้วยแบรนด์ THE LINE (เดอะ ไลน์) 4 โครงการและอีก 1 โครงการกลางเมืองในช่วงครึ่งหลังปี 58 พร้อมเสริมศักยภาพธุรกิจและความร่วมมือที่แข็งแกร่งด้วยธุรกิจในมือ ดึงบริษัท VGI Global Media สร้างโอกาสทำการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มคนใช้รถไฟฟ้า ส่งบัตรแรบบิท (rabbit) สร้างบริการไลฟ์สไตล์ที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ในอนาคต รวมถึงพลัส พร็อพเพอร์ตี้ศึกษาความร่วมมือด้านงานวิจัย นอกจากนี้ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านการทำตลาดต่างประเทศของแสนสิริผนวกกับความมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของชาวฮ่องกงเป็นอย่างดีของคุณคีรี ยังส่งผลให้ประสบความสำเร็จในการเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติอีกด้วยทั้งสองบริษัท เชื่อมั่นเป็นการผนึกกำลังระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาวครั้งนี้จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กันและกันอย่างยั่งยืนในอนาคต
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประกาศความร่วมมือกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ในระยะยาวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยในช่วง 5 ปีนับจากนี้ มีแผนร่วมมือกันเปิดโครงการคอนโดมิเนียมในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชน ภายใต้บริษัทร่วมทุนที่มีสัดส่วนการถือหุ้นระหว่างกลุ่มบริษัทบีทีเอส และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) 50 : 50 จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 25 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1 แสนล้านบาท
ด้วยความแข็งแกร่งในด้านเงินทุนของกลุ่มบริษัทบีทีเอสที่เตรียมพร้อมไว้ เพื่อรองรับการลงทุนในการขยายธุรกิจรถไฟฟ้า และความพร้อมด้านบุคลากร รวมถึงการมีที่ดินที่พร้อมพัฒนาในมือของกลุ่มบริษัท ผสานกับความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของแสนสิริ เราจะร่วมกันพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชนทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่จะมีความยาวนับร้อยกิโลเมตร โดยความร่วมมือนับจากนี้ จะร่วมกันเปิดตัวคอนโดมิเนียมในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชน จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 25 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1 แสนล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี โดยจะเดินหน้าเปิดตัวคอนโดมิเนียมรวมอีก 5 โครงการในช่วงครึ่งหลังของปี 2558
นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ความสำเร็จจากการพัฒนาโครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมภายใต้การร่วมทุนกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS มูลค่าโครงการเกือบ 6,000 ล้านบาท ที่พัฒนาภายใต้ บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SIRI และ BTS ในสัดส่วน 50 : 50 ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยบริษัทสามารถปิดการขาย โครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิตได้ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย– ฮ่องกง – สิงคโปร์ โดยเฉพาะที่ฮ่องกงนั้น มีลูกค้าต่างชาติทั้งในฮ่องกงและจีนให้ความสนใจโครงการและเข้าร่วมงานโรดโชว์จำนวนมากและนับว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของการเปิดขาย อสังหาฯ ในต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ฮ่องกงซึ่งคุณคีรีนับเป็นผู้มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจซึ่งเป็นที่รู้จักของชาวฮ่องกงเป็นอย่างดี จนส่งผลให้สามารถสร้างยอดขายโครงการจากลูกค้าต่างชาติได้จำนวนมากและปิดการขายได้ในที่สุดดีเกินกว่าที่คาดไว้
ในวันนี้เราได้เห็นอีกก้าวหนึ่งของความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นการผนวกพลังระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาวที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กันและกันอย่างยั่งยืน ความร่วมมือในช่วง 5 ปีนับจากนี้ แสนสิริและกลุ่มบริษัทบีทีเอสเตรียมเปิดคอนโดมิเนียมในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชนภายใต้บริษัทร่วมทุนเป็นจำนวนอีกถึง 25 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1 แสนล้านบาท นำร่องปีนี้ด้วยคอนโดมิเนียมแบรนด์ THE LINE (เดอะ ไลน์) 4 โครงการและอีก 1 โครงการกลางเมือง ที่จะเปิดในช่วงครึ่งหลังปี 58 ประกอบด้วย 5 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท
- เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71
- เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง
- เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค
- เดอะ ไลน์ เพชรบุรี 18
- หนึ่งคอนโดมิเนียมกลางเมือง
ทั้ง 5 โครงการมีที่ดินแล้ว แต่จะรอให้ผ่าน EIA ถึงสามารถเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
สำหรับโครงการที่จะเปิดตัวต่อเนื่องหลังจากนี้ คือ โครงการ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 ซึ่งพัฒนาภายใต้ บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง ทรี จำกัด เป็นคอนโดมิเนียมแบบไฮท์ไรซ์ Fully Furnished ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Opportunity is Everything” ในทำเลใกล้รถไฟฟ้าสถานีพระโขนงเพียง 400 เมตร เตรียมเปิดการขายในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนความร่วมมือด้านงานวิจัยกลุ่มลูกค้า ซึ่งได้มอบหมายให้บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เป็นผู้ดูแลร่วมกับกลุ่มบริษัทบีทีเอส ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้จะได้เห็นการจับมือกันรุกธุรกิจอสังหาฯ ที่ชัดเจนในตลอดเส้นทางระบบขนส่งมวลชนทั้งในปัจจุบันและอนาคตซึ่งจะนับเป็นการพลิกมิติใหม่ให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะสร้างความยิ่งใหญ่และแตกต่างในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชน ซึ่งจะส่งผลประโยชน์สูงสุดคืนให้กับคนเมือง เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของการจับจองเป็นเจ้าของโครงการที่ให้ความสะดวกสบายทั้งในการเดินทาง การใช้ชีวิตเต็มที่กับไลฟ์สไตล์ที่เลือกและความสุขกับครอบครัวที่บ้านอย่างเต็มรูปแบบ