โครงการบ้านจัดสรร(ที่อยู่ระหว่างการขาย)
จำนวนทั้งหมด (โครงการ) | 1,077 |
หน่วย (ยูนิต) | 203,000 |
Supply (ยูนิต) | 77,900 |
มูลค่า (ลบ.) | 340,150 |
ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมในด้านเปิดตัวโครงการใหม่คาดการณ์ว่าจะมีอัตราติดลบที่ประมาณ -10-15% จากปี 2558 ที่เปิดตัว 60,500 ยูนิต โดยคาดว่าในปีนี้จะมีการเปิดตัวประมาณ 52,000 ยูนิต ในส่วนของบ้านจัดสรร จะมีอัตราการเปิดตัวคาดว่าจะคงที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่ 42,000 ยูนิต ขณะที่การปล่อยสินเชื่อใหม่ยังมีอัตราคงที่เช่นกันที่ประมาณ 590,000-600,000 ลบ. จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 580,0000 ลบ.
“การเปิดตัวโครงการใหม่ที่ลดลง เป็นเรื่องที่ไม่ได้น่าตกใจ หรือน่ากังวล เนื่องจากจะช่วยให้ มีการระบายสต๊อกสินค้าที่มีอยู่เดิมที่มีอยู่จำนวนมากได้ระบายออกไป เมื่อของเก่าเข้ามาในตลาดน้อยจะทำให้ตลาดอยู่ในภาวะที่สมดุลย์มากยิ่งขึ้น“นายสัมมา กล่าว
พื้นที่มีหน่วยบ้านจัดสรรในโครงการมากที่สุดได้แก่ อ.บางพลี อ.ลำลูกกา เขตคลองสามวา อ.บางบังทอง และ อ.เมืองสมุทรสาคร ส่วนพื้นที่ๆ มีหน่วยบ้านจัดสรรเหลือขายมากที่สุดได้แก่ อ.บางบัวทอง อ.บางพลี อ.เมืองสมุทรสาคร อ.บางใหญ่ และอ.ลำลูกกา
โครงการอาคารชุด(ที่อยู่ระหว่างการขาย)
จำนวนทั้งหมด (โครงการ) | 442 |
หน่วย (ยูนิต) | 231,400 |
Supply (ยูนิต) | 59,700 |
มูลค่า (ลบ.) | 181,100 |
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ข้อมูลฯเชื่อว่าผู้ประกอบการยังมีการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้น ซึ่งโครงการบ้านจัดสรรใหม่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทหาได้ยากแต่ห้องชุดใหม่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทยังหาซื้อได้ในพื้นที่ปทุมธานีส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอธัญญบุรี นอกจากนี้ยูนิตบ้านจัดสรรเปิดขายมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในสมุทรปราการ ซึ่งมีจำนวนโครงการเพิ่มขึ้น จาก 138 โครงการเป็น 146 โครงการ และจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้น จาก 30,400 ยูนิต เป็น 32,300 ยูนิต
Screen Shot 2016-10-27 at 11.38.27 AM
ในส่วนของจำนวนยูนิตห้องชุดเปิดขายมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในจังหวัดนนทบุรี โดยมีจำนวนโครงการเพิ่มขึ้น จาก 49 โครงการเป็น 58 โครงการ และจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้นจาก 32,300 ยูนิต เป็น 37,300 ยูนิต
อย่างไรก็ตามในปีนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการที่ภาครัฐได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนในพื้นที่“อีสต์เทิร์น อีโคโนมิก คอริดอร์ส” ซึ่งจะช่วยให้สามจังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนเพิ่มมากขึ้น มีแหล่งงาน ประชากรมีรายได้เพิ่ม ทั้งนี้จะช่วยเกื้อหนุนในจังหวัดดังกล่าวเดิบโตได้อย่างมาก โดยเฉพาะในจังหวัดชลบุรี ซึ่งถือว่าเป็นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก กทม. ซึ่งที่ผ่านมามีภาวะโอเวอร์ซัพพลายติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้ซัพพลายถูกดูดซับได้ในระดับหนึ่งด้วย