ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ ปี 2560 และประเมินแนวโน้มปี 2561 โดยในภาพรวมช่วงไตรมาส 4 ปี 2560 ตลาดที่อยู่อาศัยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2559 หลังจากที่ไตรมาส 1 ปี 2560 มีอัตราขยายตัวติดลบเนื่องจากในช่วงต้นปี 2559 มีการเร่งการก่อสร้าง และการโอนกรรมสิทธิ์ ตามแรงกระตุ้นของมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์

โดยในปี 2560 มีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ จำนวน 315,102 หน่วย  มีมูลค่ารวม 674,116 ล้านบาท มีจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนทั่วประเทศ 184,771 หน่วย และมียอดปล่อยใหม่สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ รวม 633,989 ล้านบาท

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยในฐานะรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ โดยกล่าวว่าภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยปี 2560 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งด้านอุปทาน และอุปสงค์ ทำให้อัตราการดูดซับดีขึ้น ซึ่งตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑล ยังคงมีแนวโน้มที่ดีกว่าตลาดที่อยู่อาศัยในภูมิภาค คาดการณ์ว่าสถานการณ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในปี 2561 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯปริมณฑล จะมีการขยายตัวร้อยละ 10.7 ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดภูมิภาค ขยายตัวร้อยละ 4.2

อุปทานโครงการที่อยู่อาศัย ปี 2560 supply

เมื่อพิจารณาประเภทโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ พบว่า ในปี 2560 มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯปริมณฑล รวม 385 โครงการ จำนวน 113,926 หน่วย มูลค่ารวม 491,878 ล้านบาท จำนวนโครงการลดลงจากปี 2559 ร้อยละ 18.6 จำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 ในขณะที่มูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.9

ทั้งนี้ เมื่อแยกตามประเภทบ้านและระดับราคา พบว่า โครงการบ้านจัดสรรเปิดตัวใหม่ในปี 2560 เป็นประเภททาวน์เฮ้าส์มากที่สุด ร้อยละ 67 ของจำนวนหน่วยที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด และส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท ขณะที่โครงการอาคารชุดเปิดตัวใหม่เป็นประเภท 1 ห้องนอนมากที่สุดร้อยละ 74.8 ของหน่วยที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมด และส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท

โดยทำเลที่มีหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก ประเภทบ้านจัดสรร ได้แก่ 1.สมุทรปราการ 2.ลำลูกกาคลองหลวงธัญบุรีหนองเสือ 3.บางกรวยบางใหญ่บางบัวทองไทรน้อย 4.มีนบุรีหนอกจอกคลองสามวาลาดกระบัง และ 5.เมืองนนทบุรีปากเกร็ด

สำหรับทำเลที่มีหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก ประเภทอาคารชุด ได้แก่ 1.ธนบุรี 2.ห้วยขวางจตุจักรดินแดง 3.สุขุมวิทตอนต้น 4.นนทบุรี และ 5. พญาไทราชเทวี

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาแยกตามประเภทโครงการในปี 2560 พบว่า โครงการบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่มีจำนวน 232 โครงการ 44,353 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 195,188 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2559 ทั้งจำนวนโครงการ จำนวนหน่วยและมูลค่าโครงการ ร้อยละ 30.1, 10.8 และ 3.1 ตามลำดับ แต่ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโครงการบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่ในปี 2560 เพิ่มขึ้นจาก 4.05 ล้านบาทในปี 2559 เป็น 4.40 ล้านบาท

ส่วนโครงการอาคารชุดเปิดขายใหม่มีจำนวน 153 โครงการ 69,574 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 296,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ทั้งจำนวนโครงการ จำนวนหน่วย และมูลค่าโครงการ ร้อยละ 8.5, 24.4 และ 49.3 ตามลำดับ รวมทั้งราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโครงการอาคารชุดเปิดขายใหม่ในปี 2560 เพิ่มขึ้นจาก 3.55 ล้านบาทในปี 2559 เป็น 4.26 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในภูมิภาคจากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุมพื้นที่ 20 จังหวัด พบว่า มีการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 1,775 โครงการ รวม 207,655 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 688,281 ล้านบาท เป็นประเภทโครงการอาคารชุดจำนวน 506 โครงการ รวม 148,525 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 459,919 ล้านบาท เมื่อแยกตามระดับราคา กลุ่มราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท ยังเป็นประเภทสินค้าที่มีเสนอขายสูงสุด โดยมีการเปิดขายโครงการใหม่ในปี 2560 จำนวน 306 โครงการ รวม 27,411 หน่วย

แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยปี 2561

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ประเมินสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ ปี 2561 โดยภาพรวม คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวในด้านหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยร้อยละ 7.9 มีอัตราการขยายตัวด้านมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ร้อยละ  10.8 และมีอัตราการขยายตัวด้านยอดปล่อยใหม่สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อที่อยู่อาศัยร้อยละ  2.8 และมีอัตราการขยายตัวที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนร้อยละ 10.9

เมื่อพิจารณาแยกเฉพาะในเขตกรุงเทพฯปริมณฑล คาดการณ์ว่า จะมีอัตราการขยายตัวในด้านหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยร้อยละ 8.9 มีอัตราการขยายตัวด้านมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ร้อยละ  13.9 และมีอัตราการขยายตัวด้านยอดปล่อยใหม่สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อที่อยู่อาศัยร้อยละ  2.8 และมีอัตราการขยายตัวที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนร้อยละ 15.3

ขณะที่ในภูมิภาค คาดการณ์ว่า จะมีอัตราการขยายตัวในด้านหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยร้อยละ 6.8 มีอัตราการขยายตัวด้านมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ร้อยละ  5.5 และมีอัตราการขยายตัวด้านยอดปล่อยใหม่สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อที่อยู่อาศัยร้อยละ  2.8 และมีอัตราการขยายตัวที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนร้อยละ 4.3

ภาพโดยรวมตลาดที่อยู่อาศัยจะยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยองค์ประกอบสำคัญของตลาดที่อยู่อาศัยยังคงอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑล ซึ่งเป็นการเติบโตของอาคารชุดเป็นหลัก ขณะที่ในภูมิภาคเป็นการเติบโตในตลาดทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวเป็นหลัก คาดการณ์ว่า ปี 2561 ในพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑลจะมีหน่วยโครงการเปิดขายใหม่ประมาณ 117,100 หน่วย ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 2.8 โดยมีช่วงคาการณ์อยู่ที่ประมาณ 107,800-128,800 หน่วย สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในภูมิภาคคาดการณ์ว่า จะมีหน่วยที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมประมาณ 111,300 หน่วย แบ่งเป็น โครงการบ้านจัดสรร 79,900 หน่วย และโครงการอาคารชุด 31,400 หน่วย

ทั้งนี้ ในปี 2561 จะมีมูลค่าการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 29 บริษัทมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 611,800 ล้านบาท