110609

Origin Property แถลงผลประกอบการครึ่งปี 58  เติบโตสวนกระแสอีกครั้ง  ยอดขายโตขึ้น 203%  จากปี 57  และประกาศความพร้อมจับจองพื้นที่ตลาดคอนโดศรีราชา    ทำเลดาวรุ่ง   แห่งภาคตะวันออก

นายพีระพงศ์  จรูญเอก  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  เปิดเผยว่า  “ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาคอนโดมิเนี่ยมที่มีการออกแบบโครงการเป็นเอกลักษณ์  โดยวางแผนบรรลุเป้าหมายเป็น 1 ใน 3 ผู้นำบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียม ที่มียอดขายประมาณ 20,000 ล้านบาท  ตามแผนระยะสั้น 5 ปี (พ.ศ. 2557 – 2561) และ แผนระยะยาว  10 ปี (พ.ศ. 2562 – 2566) เป็น 1 ใน  5   ผู้นำบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่อยู่อาศัย  โดยมีแนวคิดในการพัฒนาโครงการ  ภายใต้  4  แนวคิดหลัก  คือ

110539

โดยผลประกอบการของ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  ยังคงเติบโตแบบสวนกระแสอย่างต่อเนื่องในทุกปี   และ ในครึ่งปีแรกของปี 2558  เติบโตสูงขึ้นกว่าครึ่งปีที่แล้วถึง 762%  มียอดรับรู้รายได้รวม 1,080 ล้านบาท โดยมี

  1. โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ  9  โครงการ  มูลค่า 3,117 ล้านบาท , 
  2. โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง  6  โครงการ  มูลค่า 3,610 ล้านบาท, 
  3. โครงการที่อยู่ระหว่าง Pre Sales 7 โครงการ  6,955 ล้านบาท 
  4. โครงการที่เตรียมจะเปิดตัว  5  โครงการ  มูลค่า 3,370 ล้านบาท   รวมมูลค่าโครงการ  17,052 ล้านบาท  

ในส่วนของ Back Log  ในปัจจุบัน  ออริจิ้น มี Back Log  ไว้นับเป็นมูลค่ากว่า 5,376 ล้านบาท

Screen-Shot-2558-06-08-at-12.50.48

Knightbridge Skycity สะพานใหม่ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคย่านสะพานใหม่ ได้เป็นอย่างดี โดยจะเห็นได้จากยอดการจองซื้อโครงการล่าสุดที่สูงกว่า 90%  หลังจากที่เปิดการขายอย่างเป็นทางการ เพียงแค่เดือนเศษ ทั้งนี้เป็นเพราะความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมย่านดังกล่าว ยังคงมีดีมานด์ความต้องการอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ORI ก็ถือเป็นบริษัทฯอสังหาริมทรัพย์แห่งแรก ที่เข้าไปเจาะตลาด และเปิดการขายคอนโดฯเป็นรายแรกในย่านดังกล่าว ประกอบกับ จุดเด่นของโครงการนี้ คือ อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าสายหยุด (สายสีเขียว) โดยบริษัทฯ เตรียมเปิดในช่วง Q3/2015 แลัคาดว่าจะปิดการขายได้ภายในเร็วๆนี้

110540

ออริจิ้น  มั่นใจ “ศรีราชา” จะกลายเป็นเพชรเม็ดใหม่ แห่งภาคตะวันออก

นายพีระพงศ์  เปิดเผยว่า  “ศรีราชา”  เป็นโซนเดียวที่มีดีมานด์สูงอย่างต่อเนื่อง   ตอนนี้กลายเป็นทำเลแห่งศักยภาพอีกหนึ่งทำเล  ซึ่งศรีราชา เป็นเมืองอุตสาหกรรม และเป็นศูนย์กลางด้านลอจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน  โดยศรีราชาเป็นเมืองท่าสำคัญลำดับ 16 ของโลก ที่ทำรายได้ปีละ 2 แสนล้านบาท   ทำให้ศรีราชาได้กลายเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ที่มีรายได้มาก นอกจากนี้  ยังมีโครงการจากภาครัฐมากมาย ตั้งแต่อดีต จนถึง ปัจจุบัน  ไม่ว่าจะเป็น ท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่แหลมฉบัง  นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร  นิคมอุตสาหกรรมสหพัฒน์  นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง  นิคมอุตสาหกรรมเหมราช  รวมถึง นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด  และโครงการในอนาคต เช่น   แผนการขยายเส้นทางมอเตอร์เวย์  พัทยา-มาบตาพุต คาดว่าจะเสร็จในปี 2560 , โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ – ระยอง  ,  รถไฟทางคู่ ฉะเชิงเทรา – ศรีราชา – แหลมฉบัง,  โครงการเชื่อมรถไฟแหลมฉบัง – เมืองทวาย  ล่าสุดได้เตรียมการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 ฯลฯ     

110564

พร้อมทั้งข้อมูล ที่ออริจิ้นได้ทำการวิจัยตลาดร่วมกับเอเจนซี่ระดับชั้นนำของญี่ปุ่น  พบว่า ศรีราชา ยังกลายเป็น ศูนย์กลางการพักอาศัยทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่น ที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด, นิคมอุตสาหกรรมสหพัฒน์, ท่าเรือแหลมฉบัง และนิคมฯโดยรอบ ในสัดส่วน 40 : 60    ปัจจุบันมีชาวญี่ปุ่นเข้ามาพักอาศัยในศรีราชาประมาณ 15,000 คน จึงเกิดความต้องการที่พักอาศัยรองรับวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นจำนวนมาก    นอกจากนี้  กลุ่มชาวญี่ปุ่น expat เหล่านี้  ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยซื้อคอนโดเป็นของตัวเอง  เพราะวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไม่ซื้ออสังหาฯ เพื่อปล่อยเช่าให้กับเหล่าผู้บริหาร  ส่งผลให้คอนโด และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ ที่ศรีราชามีอัตราการเข้าพักเกิน 90% ตลอด  ในงบประมาณเฉลี่ยอยู่ที่ 47,000.- บาท ต่อ เดือน  ขนาดห้องพัก 30 –  40 ตรม.  รวมถึงราคาที่ดินเพิ่มขึ้นตารางวาละ 3  แสนบาท  คอนโดฯ ในศรีราชาจึงได้รับความนิยมจากกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อไว้ปล่อยเช่าคนญี่ปุ่นด้วยกันเอง เนื่องจากเมื่อเทียบจากราคาคอนโดฯตารางเมตรละ 6 หมื่น-1.3 แสนบาท จะให้ผลตอบแทนลงทุนจากค่าเช่าเฉลี่ย ปีละมากกว่า  10%   

KNB4

โครงการ KnightsBridge The Ocean ศรีราชา เป็นการพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก ด้วยมูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท โดยเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมาย 3  กลุ่มเป้าหมายหลัก  คือ  กลุ่มผู้สนใจในการลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่า,  กลุ่มคุณญี่ปุ่นต้องการซื้อเพื่อพักอาศัย  และกลุ่มคนในพื้นที่ที่ต้องการขยายครอบครัว    โดยจะเริ่มเปิด Pre-Sale ในเดือนกันยายน 2558  ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท    และมีการทำการตลาดโดยทำการขายผ่าน Agency เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้านักลงทุนชาวต่างชาติ Investor หรือ ชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อเพื่อใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุในเมืองไทย   โดยได้นำห้องชุด  25%  ของโครงการไปกระจายเปิดขายในต่างประเทศ  อาทิ  ญี่ปุ่น  สิงคโปร์ และจีน  เพื่อเป็นการเร่งขยายสัดส่วนฐานลูกค้าต่างชาติให้เพิ่มขึ้นจากเดิม  13%  เป็น  20%    ซึ่งที่ผ่านมา ออริจิ้น ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด    ทำให้ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้   มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติถึง 13% ของลูกค้าชาวไทยทั้งหมด  โดยแบ่งสัดส่วนเป็น  ญี่ปุ่น  85%, สิงคโปร์ 3%,  จีน 4%,  ไต้หวัน 3%  อเมริกา 2% 

110589

สำหรับความคืบหน้า First Day Trade   นายพีระพงศ์เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก จำนวน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ภายในไตรมาส 3/2558 นี้อย่างแน่นอน โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้ในการพัฒนาโครงการของบริษัทฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และในอนาคต รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียน  ทั้งนี้บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ