ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัวคอนโดพร้อมอยู่ “BRepublic สุขุมวิท 101/1” กับ แคมเปญ “ผ่อนถูกกว่าเช่า” พร้อมเผยกลยุทธ์ ขายปิดโครงการในไตรมาส 3
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิ เนียมไฮไรซ์ และ โลว์ไรซ์ เกาะแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบราง ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โดย นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าว เปิดตัวโครงการพร้อมอยู่ ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ พร้อมห้องตัวอย่าง “Replay by BRepublic” หนึ่งในโครงการ Master Piece ของออริจิ้น ต่อกลุ่มสื่อมวลชน พร้อม “เผยกลยุทธ์ขายปิดโครงการในไตรมาส 3 กับ “จุดแข็งที่เหนือกว่า” โดยมี นางสาวกนกวรรณ ใจศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสายสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าว ความสนับสนุนสินเชื่อรายย่อยให้กับ ออริจิ้น
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการขายปิดโครงการภายในไตรมาส 3 นี้ นายพีระพงศ์ เปิดเผยว่า “บริษัทได้วางแผนกิจกรรมการตลาดเข้าหากลุ่มเป้าหมาย โดยมีแผนการออกบูธงานแสดงสินค้าบ้านคอนโดใหญ่ ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ที่จับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการคอนโดเกาะแนวรถไฟฟ้า ได้แก่ 1-7 ก.ค. (Booth@Lotus อ่อนนุช), 13-15 ก.ค.(Booth@Terminal21) ในสัปดาห์นี้ 14-20 ก.ค.(Event@site) Replay by B Republic Open house Party และ 21-28 ก.ค.(Booth@Seacon) พร้อมทั้งเดินขายบุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยม โดยในไตรมาสนี้ มีแผนเตรียมบุกตลาดประเทศสิงคโปร์, ญี่ปุ่น และ กวางโจว (Guangzhou)
ส่วนความคืบหน้าด้านการเตรียม Trade นายพีระพงศ์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) นั้น บริษัทฯ ได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงไตรมาส3 จำนวน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้มีการอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ แล้ว
ภายหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับ การขยาย และพัฒนาโครงการรวมทั้ง ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของบริษัทฯทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จํานวน 12โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 8,065ล้านบาท และโครงการในอนาคตอีก จํานวน 6โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 6,570 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการอยู่ในมือ 27 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 17,000 ล้านบาทและพร้อมส่งมอบ Backlog คุณภาพกว่า 5,300 ล้านบาท นายพีระพงศ์ กล่าวปิดท้าย