ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ด้วยกลยุทธ์ของผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวตามความต้องการของตลาด ทำให้ในวันนี้ อาคารชุดระดับบนได้ทยอยพัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์และสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่บริษัทผู้บริหารจัดการอาคารหลังลูกค้าเข้าอยู่อาศัย ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้ผู้พัฒนาเลย ด้วยเหตุที่ต้องอยู่เคียงข้างเพื่อดูแลให้ความเป็นอยู่ของผู้พักอาศัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตรงตาม Concept ในการพัฒนาโครงการนั้นๆ

เข้าใจลึกซึ้งในมุมมองของผู้พัฒนาโครงการ 

เพราะการพัฒนาโครงการใดๆ ล้วนมี Concept หรือที่มาในการพัฒนาที่แตกต่างกัน ถึงแม้ในผู้พัฒนารายเดียวกัน รายละเอียดของแต่ละโครงการย่อมแตกต่าง “ช่วงของการรับมอบโครงการ” จากผู้พัฒนาจึงถือเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด ถ้าผู้บริหารอาคารหลังการส่งมอบมีโอกาสได้เข้าร่วมรับรู้ตั้งแต่การเริ่มพัฒนาโครงการก็จะส่งผลดียิ่ง เพราะทำให้ได้รู้ลึกในทุกรายละเอียดว่าได้ผ่านการกลั่นกรองทางความคิดมาอย่างไร ที่ทำให้ลักษณะทางกายภาพของแต่ละโครงการมีความต่างกัน ทั้งด้านโครงสร้างและสถาปัตยกรรม เช่น พื้นที่ในห้องชุด พื้นที่ส่วนกลาง และส่วนสันทนาการต่างๆ ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของงานระบบประกอบอาคารและระบบความปลอดภัย ซึ่งต้องอาศัยวิศวกรและทีมบริหารที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อสามารถบริหารจัดการอย่างบูรณาการ ให้ทุกระบบงานมีความสมบูรณ์สอดรับกันและพร้อมต่อการใช้งาน เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกของลูกค้าเป็นหลัก

การบริหารทุกเงื่อนไขที่สัญญาไว้กับลูกค้า 

โดยปกติในสัญญาซื้อขาย จะมีเอกสารแนบท้ายในรายละเอียดของเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับลูกค้า ซึ่งผู้บริหารงานต่อจากผู้พัฒนาโครงการ จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดของทุกสัญญา ทุกยูนิต และวางแผนการบริหารงานในทุกยูนิตของลูกค้า และพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ได้ถูกต้องตามเงื่อนไข รวมถึงการบริหารการเงิน สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย ซึ่งต้องการผู้ขับเคลื่อนที่ดี การคัดเลือกผู้ที่จะทำหน้าที่รับผิดชอบในทุกตำแหน่งหน้าที่จึงมีความสำคัญเช่นกัน เพราะควรมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ และมีความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง

Service Mind ถือเป็นเรื่อง Normal Practice 

ปัจจุบัน การให้บริการไม่ว่าจะในสาขาอาชีพใด Service Mind กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไป เพราะการบริหารจัดการที่ดี ควรเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องความต้องการที่ลูกค้าคาดหวัง โดยเฉพาะเรื่องการอยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัยแรกที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ และด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบริหารในเชิงรุก ต้องสามารถออกแบบงานบริการ (Customized Service) ตามความต้องการของผู้ประกอบการในแต่ละโครงการ และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา เช่น การจัดให้มีพนักงาน “Guest Service Agent : GSA” ซึ่งสามารถให้บริการแบบ One Stop Service เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า หรือการมีช่างดูแลงานระบบประกอบอาคารตลอด “24 Hours On Duty” ที่ลูกค้าสามารถมั่นใจ และรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นในการอยู่อาศัย

“พรีเมียม” ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีหรือไม่ 

คำว่า “พรีเมียม” ขึ้นอยู่กับภาพในใจของแต่ละคน ซึ่งในปัจจุบันคงมองเป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่ทันสมัย นวัตกรรมสุดล้ำ การใช้วัสดุเกรด A หรือใช้อุปกรณ์แบรนด์ต่างประเทศ แต่ในทัศนะของผู้เขียน คำว่า “พรีเมียม” สามารถแตกออกได้เป็น “กายสัมผัส” และ “ใจสัมผัส”

แน่นอนว่า “กายสัมผัส” ก็คือเรื่องของเทคโนโลยีและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆซึ่งสัมผัสรับรู้ได้ง่าย แต่สิ่งที่จะยั่งยืนและวัดคุณค่างานบริการได้มากที่สุด คือ “ความพรีเมียมด้วยใจสัมผัส” ซึ่งคงไม่มีมาตรวัดใดที่จะบอกว่าดีหรือประสบความสำเร็จแล้วหรือไม่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการเองก็คงไม่สามารถหยุดนิ่งได้ หากแต่ต้องใช้ “ใจ” ที่พร้อมจะทุ่มเทในการให้บริการ ทั้งพร้อมที่จะรับฟังเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาทั้งกระบวนการและคุณภาพให้ดีขึ้น ให้เหมาะสมกับผู้พักอาศัย จึงจะเป็น “ความพรีเมียมที่สามารถสัมผัสด้วยใจ” อย่างแท้จริง