นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยว่า “จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องก้าวเข้าสู่ปีที่ 26 บริษัทสามารถทำนิวไฮด้านรายได้ถึง 3 ครั้งในปีที่ผ่านมา โดยใน 9 เดือนแรก สามารถทำรายได้สูงกว่ารายได้ของทั้งปี 2557 และใน 10 เดือนแรก ทำรายได้สูงกว่ารายได้ทั้งปีของปี 2556 และทำนิวไฮอีกครั้ง โดยทำรายได้รวมทั้งปี 2558 สูงกว่าปี 2557 ถึง 30% คิดเป็นมูลค่า 15,500 ล้านบาท จาก 7 โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และในปี 2559 นี้ บริษัทวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่า 17,600 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยตั้งเป้า 4 เดือนแรก ทำนิวไฮด้านรายได้สูงถึง 10,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้ทั้งปีที่ 17,600 ล้านบาท เป็นผลจากการวางแผนการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 3 ปี ผนวกกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่ออกมาในช่วงปลายปี 2558 เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวภายในประเทศ
ซึ่งส่งผลดีต่อห้องชุดที่จะเปิดขายและสินค้าพร้อมอยู่ของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ตุนไว้แล้วทั้งสิ้น 11,000 ล้านบาท หรือ คิดเป็นมากกว่า 60% จากเป้าหมาย ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวถือเป็น Base Case หรือเป้าหมายในกรณีที่สถานการณ์ทั่วไปดำเนินไปตามปกติ อย่างไรก็ตามบริษัทยังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดและเตรียมความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนแผนได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ โครงการในแนวราบของ บริษัท พรสันติ จำกัด ก็ได้ตั้งเป้าเปิดตัว 5 โครงการใหม่ มูลค่า 2,500 ล้านบาท เพื่อรองรับครอบครัวที่ขยายใหญ่ขึ้นด้วยทำเลที่โดดเด่น
ด้วยประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์บนพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทเชื่อมั่นว่าแผนงานดังกล่าวจะบรรลุตามเป้าหมายและยังคงรักษาการเติบโตของผลประกอบการได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ จากการวิจัยและพัฒนาข้อมูลเชิงลึกของบริษัท จึงได้ต่อยอดและพัฒนาจุดแข็งของแบรนด์ “ลุมพินี” ด้วยกลยุทธ์ “ชุมชนน่าอยู่สำหรับคนทุกวัย” ภาคต่อจากกลยุทธ์ “ชุมชนน่าอยู่” ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้พักอาศัยทั้งวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน และวัยสูงอายุซึ่งมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มพัฒนา ในโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในเดือนมกราคมนี้ เพื่อสร้างสังคมคุณภาพภายในโครงการ ภายใต้วัฒนธรรมการอยู่อาศัย “ร่วมใจ ห่วงใย แบ่งปัน”
ด้านมิติของการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม นอกจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่บริษัทให้ความเข้มข้นมากขึ้นแล้ว บริษัทยังดูแลคุณภาพชีวิตสตรีด้อยโอกาสจากการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทได้รับ 5 รางวัลแห่งความภูมิใจด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ได้แก่ รางวัลด้านการลงทุนในกิจการเพื่อสังคมยอดเยี่ยม (SET Social Enterprise Investment Awards) รางวัล ESG 100 รางวัลบริษัทจดทะเบียนที่มีรายชื่อหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment :THSI) จากงาน SET Sustainability Awards 2015 รางวัล 5 ตราสัญลักษณ์จากการกำกับดูแลกิจการที่ดี จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.) และสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ล่าสุดได้รับรางวัล Recognition จากการประกาศรางวัลรายงานความยั่งยืนประจำปี 2558 (Sustainability Report Award 2015) นับเป็นอีกปีแห่งความสำเร็จในเชิงเงินตราและคุณค่าของบริษัทบนรากฐานของการเติบโตอย่างเหมาะสม ควบคู่ไปกับการรับผิดชอบในการดำเนินงานทุกกระบวนการเพื่อสร้างเส้นทางมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กร