ช่วงไตรมาสสาม งานเปิดตัวคอนโดก็ค่อยข้างจะคึกคักหน่อยๆ หลายบริษัททยอยเปิดคอนโดใหม่เรื่อยๆ กระตุ้นกำลังซื้อในตลาดก่อนสิ้นปี ล่าสุดก็เป็นคิวของ AP ที่ได้ฤกษ์ Life Asoke Hype คอนโดร่วมทุน Mitsubishi Jisho Residenceโครงการล่าสุด มูลค่ากว่า 5,700 ลบ.
Life Asoke Hype เป็นคอนโด High Rise 40 ชั้น จำนวน 1,253 ยูนิต โดยเตรียมเปิด online booking ในวันที่ 2 ต.ค. นี้ เวลา 19.00-21.00 น. น. และมีกำหนดเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในวันที่ 6-7 ต.ค. ด้วยราคาเริ่มต้น 2.89 ลบ.
สำหรับที่ตั้งของคอนโดมิเนียม ไลฟ์ อโศก ไฮป์ เป็นทำเลที่มีศักยภาพทั้งความพร้อมในวันนี้ และอนาคตอันใกล้ จากแผนพัฒนาพื้นที่โครงการออฟฟิสเกรดเอที่จะเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยมีการคาดการณ์จำนวนพนักงานในบริษัทสัญชาติไทยและกลุ่มทุนต่างชาติ ที่กำลังจะย้ายเข้ามาอย่างเต็มรูปแบบในย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่นี้กว่า 78,000 คนในปี 2563 ประกอบกับแผนการเชื่อมต่อระหว่างโครงการรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน อย่างสายสีน้ำเงินที่มีจำนวนผู้โดยสายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 270,000 คน (เพิ่มขึ้นกว่า 5.23% ต่อปี) กับโครงการรถไฟฟ้าในอนาคตสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับความสามารถในการเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ CBD เดิมอย่างย่านสีลม สาทร และสุขุมวิทได้โดยตรง อีกทั้งแวดล้อมไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จึงเป็นที่ต้องการสำหรับ ผู้ซื้อที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย
ในส่วนของภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมทำเลเชื่อมต่อ อโศก-เพชรบุรี-พระราม 9 ย้อนหลัง 5 ปีพบโครงการใหม่ที่เปิดตัวในย่านทั้งสิ้น 19 โครงการ แบ่งเป็น
- โครงการที่เปิดตัวในแนวถนนเส้นหลักตั้งแต่แยกอโศก-อโศกเพชรบุรี จำนวน 9 โครงการ ในราคาขายเฉลี่ย 240,000 บาท/ตร.ม. มียอดขายรวม 82%
- โครงการที่เปิดตัวตั้งแต่แยกอโศกเพชรบุรี-สถานีศูนย์วัฒนธรรม จำนวน 10 โครงการ ในราคาขายเฉลี่ย 175,000 บาท/ตร.ม. และมียอดขายรวมแล้วถึง 83% ซึ่งนับเป็นอัตราการตอบรับที่ดี
ขณะที่คอนโดมิเนียมในกลุ่มสินค้ารีเซลก็พบการปรับตัวขึ้นมาปีละประมาณ 9% เช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ซื้อที่ต้องการลงทุนในการปล่อยเช่าและขายต่อให้ความสนใจในตลาดโซนนี้ไม่แพ้กัน เพราะผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าระยะยาว (Rental Yield) ของคอนโดฯ ในย่านนี้ พบอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 5 – 6% ซึ่งนับว่าราคาคอนโดมิเนียม ในทำเลนี้ ยังเหมาะสมในการซื้อทั้งเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการลงทุนระยะยาว
ทั้งนี้ สรุปปี 2561 บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 38 โครงการมูลค่า 59,580 ล้านบาท เปิดตัวในครึ่งปีหลังจำนวน 30 โครงการ มูลค่า 49,210 ล้านบาท แบ่งเป็นเปิดตัวในไตรมาส 3 จำนวน 12 โครงการ มูลค่า 17,980 ล้านบาท และไตรมาส 4 จำนวน 18 โครงการ มูลค่า 31,230 ล้านบาท
ณ วันที่ 15 กันยายน บริษัทฯ สร้างยอดขายรวมได้แล้วถึง 29,710 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียมมูลค่า 14,455 ล้านบาท แนวราบมูลค่า 15,255 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้แล้วราว 75% ของเป้ายอดขาย ปี 2561 ที่ตั้งไว้ (เป้ายอดขาย 39,800 ล้านบาท) สินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ามากถึง 54,255 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว 9,675 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียมมูลค่า 44,580 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุน) โดยจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566