1466741279358_LR2.09

นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 4/59 บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ จำนวน 10-11 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 20,500-21,500 ล้านบาท จากช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 2-3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านเดี่ยวทั้งหมด ซึ่งจะเป็นไปตามแผนเปิดตัวโครงการใหม่ปี 2559 รวมจำนวน 14 โครงการ มูลค่ารวม 23,500 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ จำนวน 9 โครงการ และคอนโดมิเนียม จำนวน 5 โครงการ

ขณะที่บริษัทมั่นใจรายได้รวมปี 2559 จะเติบโตขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 31,461 ล้านบาท ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวม 18,504.13 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในปี 2559 จะมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าประมาณ 2,500-2,600 ล้านบาท และจะมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประมาณ 28,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 25,000 ล้านบาท โดยจะมาจากการทยอยรับรู้รายได้จากยอดขายรอโอน (Backlog) ในมือ ประกอบกับการเปิดขายโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

โดยล่าสุดบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่าประมาณ 18,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของปี 2559 ประมาณ 7,000 ล้านบาท จะช่วยผลักดันยอดโอนกรรมสิทธิ์ปี 2559 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และจะทยอยรับรู้ในปี 2560 ประมาณ 11,000 ล้านบาท

“แนวโน้มผลประกอบการช่วงไตรมาส 3/59 ยังทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงไตรมาส 2/59 ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้รวมกว่า 7,778 ล้านบาท เนื่องจากตลาดยังคงทรงตัว ไม่มีมาตรการอะไรมากระตุ้น แต่ในไตรมาส 4/59 เราจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมาก ซึ่งการเปิดตัวโครงการใหม่จะเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นตลาดที่ดี”นายอดิศร กล่าว

นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัท แอล แอนด์ เอช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ LH ถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 60% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด มีความประสงค์ที่จะให้ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) เข้าลงทุนในโครงการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ โดยการเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์และการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของโครงการดังกล่าว จากบริษัท แอล แอนด์ เอช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

นายอดิศร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ที่จะเข้าทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกับกองทรัสต์ และเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว บริษัทจะปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมาย รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลภายใต้หลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตลอดจนระเบียบหลักเกณฑ์และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป

อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในปี 2560 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ สำหรับ LH HOTEL จัดตั้งช่วงปลายปี 2558 มีมูลค่ากองอยู่ที่ประมาณ 3,600-2,800 ล้านบาท ส่วนโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ มีห้องพักรวมประมาณ 500 ห้อง และมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 80-90% ต่อปี

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น

Banner_Awards_2016 copy