สยาม-เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ รีแบรนด์ปรับโฉมครั้งใหญ่หวังสร้างความชัดเจนในสินค้า จัดตั้งบริษัทลูก”เจ.เอส.พี.แอสพลัส”บริหารและพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เผยแผนไตรมาส 4 จ่อเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมเฉียด 2 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้าสิ้นปีมียอดขาย 5,000 ล้านบาท
นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี แอสพลัส จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.เจ.เอส.พี พร็อพเพอร์ตี้ หรือ JSP เปิดเผยว่า กลุ่ม เจ.เอส.พี พร็อพเพร์ตี้ ได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารงานใหม่เพื่อสร้างความชัดเจนในการบริหารสินค้าในแต่ละประเภท ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน โดยในส่วนแรก บริษัทแม่ คือ บมจ.เจ.เอส.พี พร็อพเพอร์ตี้ จะดูและบริหารสินค้าประเภท อาคารพาณิชย์ มอลล์ โครงการเดิมที่พัฒนาไว้แล้ว
และในส่วนที่สอง กลุ่ม เจ.เอส.พี ได้จัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาใหม่ ภายใต้ชื่อ บริษัท เจ.เอส.พี.แอสพลัส จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่นี้จะเข้ามาบริหารและพัฒนาในโครงการที่อยู่อาศัยทั้งหมด ทั้งนี้ยังได้ทำการรีแบรนด์ใหม่เพื่อให้เกิดความชัดเจนในแบรนด์และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ในตัวสินค้าเพื่อความทันสมัยมากขึ้น
“เพื่อสร้างมิติใหม่ให้กลุ่ม เจ.เอส.พี พร็อพเพอร์ตี้ นอกจากจะรีแบรนด์ให้มีความชัดเจนในตัวสินค้าแล้ว เราจึงได้กำหนดกลยุทธ์”เจ ทัช พอยท์”คือการปรับเปลี่ยนองค์กรในทุกด้าน เพื่อให้แบรนด์สินค้าเป็นที่จดจำของผู้บริโภค และได้มีการเสริมทักษความรู้ความสามารถให้กับบุคลากรภายในองค์กรให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอีกด้วย”นายไพโรจน์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการพัฒนาแบบบ้านขึ้นมาใหม่ โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม สินค้าภายใต้แบรนด์”เจ ซีรี่” ได้แก่ กลุ่มบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ชื่อ J Town ระดับราคา 4-6 ล้านบาท ชื่อ J Legned และระดับราคา 5-7 ล้านบาท ชื่อ J Grand Villa กลุ่มทาวน์เฮ้าส์ ระดับราคา 1.5-2.5 ล้านบาท ชื่อ J Town ระดับราคา 2-3 ล้านบาท ชื่อ J City และระดับราคา 3-5 ล้านบาท ชื่อ J Grand
กลุ่มคอนโดมิเนียม ระดับราคา 0.99-2 ล้านบาท ชื่อ J Condo ระดับราคา 2-4 ล้านบาท ชื่อ J City Condo และระดับราคา 3-7 ล้านบาท ชื่อ J Hyde และกลุ่มอาคารพาณิชย์ ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ชื่อ J Biz ระดับราคา 5-8 ล้านบาท ชื่อ J Avenue และระดับราคา 7-10 ล้านบาท ชื่อ J Square
สำหรับสินค้าภายใต้แบรนด์”เจ ซีรี่”บริษัทจะเจาะกลุ่มตลาดระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้าบาท โดยเฉพาะใน 2 กลุ่มเป้าหมาหลัก ได้แก่ กลุ่ม เจน เอ็กซ์ อายุระหว่าง 35-51 ปี และ กลุ่มเจนวาย อายุ 20-45 ปี โดยจะเน้นเรื่องดีไซต์การออกแบบมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันกลุ่ม เจ.เอส.พี พร็อพเพอร์ตี้ มีสัดส่วนการพัฒนาโครงการที่เป็นที่อยู่อาศัย 80% และ โครงการที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย เช่น อาคารพาณิชย์ มอลล์ 20%
ในส่วนของแผนการดำเนินงานหลังจากนี้ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาโครงการภายใต้ บริษัท เจ.เอส.พี แอสพลัส จำกัด โดยในช่วงของไตรมาส 4 ปี 2559 นี้ บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่เพิ่ม 4 โครงการ ได้แก่ โครงการมิกซ์ยูสทำเลบางเสร่ จ.ชลบุรี บนพื้นที่รวม 116 ไร่ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับ บริษัท จงเทียน คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป จำกัด กลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ จีน
2.โครงการในทำเลบางบัวทอง บนพื้นที่รวม 80 ไร่ จะพัฒนาเป็นบ้านเเดี่ยว จำนวน 46 ยูนิต ทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 269 ยูนิต บ้านแฝด จำนวน 214 ยูนิต และบ้านเดี่ยวระดับราคา 5.96 ล้านบาท จำนวน 108 ยูนิต มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท 3.โครงการทาวน์เฮ้าส์-บ้านเดี่ยว ทำเลถนนติวานนท์-บางกะดี บนพื้นที่ 31 ไร่ มูลค่า 600 ล้านบาท และ 4.โครงการคอนโดมิเนียม ทำเลพระรามสอง 2 อาคาร บนพื้นที่ 2 ไร่ จำนวน 156 ยูนิต มูลค่า 300 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในปีนี้ กลุ่ม เจ.เอส.พี พร็อพเพอร์ตี้ ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 5,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ที่ 5,000 ล้านบาท ปัจจุบันกลุ่ม เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้มียอดขายที่รู้รอรับรู้ได้รายอีกประมาณ 6,000 ล้านบาท