ขณะที่ย่านอื่นๆ เปิดตัวคอนโดฯ กันคึกคัก ยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทล แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้ฤกษ์เปิดตัว Hyde Sukumvit 11 Luxury Condo โครงการที่อยู่อาศัย ระดับ ไฮเอนด์ บนทำเลทอง ถนนเศรษฐกิจ ต้นสุขุมวิท ราคาเฉลี่ย 185,000 บาท/ตรม. เริ่ม 5 ล้านบาทต้นๆ เชื่อในทำเลทอง ยังมีดีมานด์เพียบ เพียงแต่รอจังหวะ อีกทั้งแรงซื้อจากต่างชาติช่วยเสริม ผลพรีเซลล์ที่ผ่านไป ยอดฉลุย โครงการฯ ได้รับใบอนุญาต EIA และเริ่มก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว
คุณวิทวัส วิภากุล กรรมการและรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทล แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯได้พัฒนาโครงการ HYDE Sukhumvit 13 ปัจจุบันมีราคาสูงถึงประมาณ 186,000 บาท / ตรม. สูงจากราคาเริ่มต้น (145,000บาท / ตร.ม.) ที่บริษัทฯ เปิดพรีเซลส์ในปี 2012 (เพิ่มขึ้นประมาณ 22 %) ล่าสุด HYDE Sukhumvit 13 ได้รับรางวัล Best Interior Design 2015 – 2016 Asia Pacific Property Awards
ในช่วงปลายไตรมาสที่สองนี้ ขณะที่กำลังซื้อของตลาดเริ่มฟื้นตัวกลับมา บวกกับบริษัทฯ เล็งเห็นดีมานด์สะสมด้านที่อยู่อาศัยในย่านสุขุมวิท และกำลังซื้อจากต่างชาติที่มีเข้ามาโดยตลอด จากสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายตลอดพื้นที่ทำเลย่านนี้ ทำให้ตัดสินใจเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยระดับ ไฮเอนด์ Hyde Sukhumvit 11 Luxury Condo ด้วยจุดเด่น การปรับรูปแบบสินค้าให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ โดยใช้คอนเซ็ปต์ Life Will Never Be the Same เป็นจุดขาย เริ่มเปิดพรีเซลล์ครั้งแรก ในวันที่ 28 มีนาคม 2558 ขณะนี้มียอดจอง 40 เปอร์เซ็นต์แล้ว
รายละเอียดโครงการ Hyde Sukumvit 11 Luxury Condo ราคาเริ่มต้น ประมาณ 5,000,000 บาท คิดเป็นราคาต่อตารางเมตร เฉลี่ยประมาณ 185,000 บาท พัฒนาโครงการโดย Grande Asset Hotels & Property Public Company Limited ลักษณะโครงการ เป็นคอนโด High Rise สูง 39 ชั้น 1 อาคาร และ Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 478 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 2 – 1 – 58 ไร่ ที่ตั้งโครงการ ซ.สุขุมวิท 11 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ ปี 2561
สำหรับ Grande Asset Hotel & Property วางกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้เป็นแบบลูกผสม (Hybrid) คือดำเนินธุรกิจทั้งในส่วนของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการรับรู้รายได้ในระยะสั้นและปานกลาง และการลงทุนในส่วนของธุรกิจโรงแรมซึ่งเป็นการลงทุนในทรัพย์สินเพื่อเป้าหมายในการบริหารจัดการทรัพย์สินนั้น ๆ ให้มีการรับรู้รายได้คงที่และค่อย ๆ เติบโตในระยะยาว ทั้งนี้เพื่อลดการกระจุกตัวของโครงสร้างรายได้ และการพึ่งพาธุรกิจด้านใดด้านหนึ่ง และเป็นวิธีในการเพิ่มมูลค่าให้กิจการ โดยบริษัทฯ ได้แบ่งแยก แผนงานธุรกิจและการดำเนินงาน ออกเป็น 2 ประเภท คือ
- ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทฯ เน้นการลงทุนในโครงการที่มีทำเลที่ดินอยู่ในย่านธุรกิจ มีเครือข่ายการคมนาคมที่สะดวกและหลากหลาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อมในบริเวณใกล้เคียง อาทิ โรงแรม สถานศึกษา สถานบันเทิง ศูนย์การค้า โรงพยาบาล ฯลฯ โดยเน้นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับปานกลาง – สูง ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางไปที่ทำงาน และการใช้ชีวิต
- ธุรกิจโรงแรม บริษัทฯ เน้นการลงทุนในโรงแรมระดับ 4 – 5 ดาว ภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อเสียง โดย บริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนในการก่อสร้าง และจัดจ้าง บริษัทผู้บริหารโรงแรมที่มีประสบการณ์และมี เครือข่ายทั่ว โลกมาบริหารทรัพย์สินนั้น เช่น กลุ่ม Starwood Hotels & Resorts Worldwide, Inc.และกลุ่ม Hyatt International Corporation ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงแรมรายล่าสุด ทั้งนี้การลงทุนในธุรกิจโรงแรม บริษัทฯ จะเลือกลงทุนในสถานที่ที่สะดวกในการเดินทางและอยู่ในย่านธุรกิจ ของกรุงเทพฯ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีนโยบายกระจายความเสี่ยงของการลงทุนในธุรกิจโรงแรมไปยังต่างจังหวัด หรือในอนาคตไปยังต่างประเทศ โดยเลือกทำเลที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่าง หลากหลาย
ล่าสุดโครงการที่บริษัทฯ ที่ถือครองและดำเนินการบริหาร ประกอบด้วย โรงแรม 4 แห่ง ซึ่ง 3 ใน 4 เปิดให้บริการแล้ว ได้แก่ โรงแรม เดอะเวสเทิร์น แกรนด์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ, โรงแรม เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา, โรงแรมเชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า และอีก 1 แห่งคือ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง นอกจากโรงแรมทั้ง 3 แห่งแล้ว ยังมีคอนโดมิเนียมที่ดำเนินการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว พร้อมเข้าอยู่ 1 โครงการ คือ ไฮด์ สุขุมวิท (ซ.13) และอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา 1 โครงการ คือ ไฮด์ สุขุมวิท 11 มูลค่ารวมกันไม่น้อยกว่า 9 พันล้านบาท