รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า ทิศทางการเติบโตช่วงครึ่งปีหลัง    ปี 60/61 (ต.ค.60 – มี.ค.61) เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว คาดว่า EPG จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจโดยธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex อยู่ระหว่างเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตในสหรัฐอเมริกาด้วยการใช้เครื่องจักรอัตโนมัติความเร็วสูงเพิ่มกำลังการผลิต EPDM Insulation เพื่อรองรับการเติบโตที่สูงขึ้นในสหรัฐอเมริกาและเร่งทำการตลาดเพิ่มเติมในกลุ่มอาเซียน เช่น ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ รวมถึงการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ประเภทฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา (Aero-roof) ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านโมเดิร์นเทรด ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างเพื่อกระจายสินค้าเข้าสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนุนยอดขายให้มีการเติบโตเพิ่มขึ้น และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น

ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ Aeroklas อยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดรับกับ Lifestyle ของผู้บริโภค สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ร่วมพัฒนากับค่ายรถยนต์จะเริ่มทยอยออกสู่ตลาด ขณะที่ธุรกิจ TJM ในออสเตรเลีย ได้ดำเนินการตามแผนกลยุทธ์โดยนำระบบซอฟแวร์ Supplier Partnership Program (SPP) มาใช้ในการบริหารจัดการ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆ  เช่น Pro Locker เป็นต้นปัจจุบัน TJM มี Corporate Store 1 แห่ง ที่ Perth ออสเตรเลีย และมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่อีก 1 แห่ง ที่เมือง Brisbane ออสเตรเลีย ในปีนี้

ขณะที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มีความพร้อมด้านกำลังการผลิตและเทคโนโลยีการผลิต รองรับความต้องการของตลาด แต่เนื่องจากการบริโภคสินค้าในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายในประเทศยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจึงได้ปรับกลยุทธ์เน้นการทำตลาดของแบรนด์ “eici” เพื่อขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าประเภททั่วไป และขยายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มกล่องใส่อาหาร รวมถึงเน้นขยายตลาดกลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ล่าสุด EPP ได้เดินสายโปรโมทผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้กับกลุ่มร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ร้านขายภาชนะใส่อาหารพลาสติก และประชาชนทั่วไป ในย่านตลาดกว่า 30 แห่ง ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร

รศ.ดร.เฉลียว กล่าวต่อไปว่าบริษัทฯ มีเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอยู่ ประเภท ได้แก่ ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก และธุรกิจร่วมทุน หากธุรกิจในกลุ่มใดชะลอตัว ยังมีกลุ่มอื่นๆ ช่วยสนับสนุน ดังนั้น การเติบโตในปีนี้ทั้งปี ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้มีรายได้แตะหนึ่งหมื่นล้านบาท