ปัจจุบันตลาดคอนโดมิเนียมพัทยานอกจากผู้ประกอบการรายใหญ่ในท้องถิ่น และผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางที่สนใจพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่พัทยาแล้ว ยังมีกลุ่มนักลงทุนจากต่างชาติอีกมากมายที่เข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยา เช่น กลุ่ม นิว นอร์ดิก กรุ๊ป ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์จากประเทศนอร์เวย์  ที่เข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยาตั่งแต่ปีพ.ศ.2543 เป็นต้นมา ที่มีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโรงแรมบนพื้นที่เขาพระตำหนักแล้วกว่า 50 โครงการ โดยเน้นเทคนิคการขายที่มีการการันตีผลตอบแทนจากการเช่า10% ถึง 10 ปี ส่งผลให้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากของกลุ่มนักลงทุน และผู้ซื้อชาวต่างชาติ  การการันตีผลตอบแทนจากค่าเช่าผู้ซื้อจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าผลตอบแทนจากการฝากเงินในธนาคารมาก

Global Top Group (บริษัท โกลบอลท็อป กรุ๊ป) ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจากอิสราเอล ได้เข้ามาลงทุนในพัทยาตั้งแต่ปี 2548 โดย พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมาแล้ว 7 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 7,150 ล้านบาท

ไฮทส์ โฮลดิ้งส์   เป็นบริษัทการร่วมทุนอสังหาฯ ของนักธุรกิจชาวอิสราเอล และยุโรป โดยพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยาแล้วทั้งหมด 17 โครงการ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโครงการ และขายให้กับลูกค้าต่างชาติ ตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด โดยมีทั้งโครงการที่หาดจอมเทียน เขาพระตำหนัก พัทยาใต้  “รูปแบบการลงทุน จะเป็นลักษณะการร่วมทุน ระหว่าง บริษัท ไฮทส์ โฮลดิ้งส์ ซึ่งมีฐานะเป็น Holding Company เข้าไปจับมือกับเจ้าของที่ดิน ที่ทำเลดีในพัทยา เพื่อนำมาพัฒนาโครงการในรูปแบบที่ต่างกันไปตามความเหมาะสม และเงื่อนไขกฎหมายแต่ละทำเล โดยเจ้าของที่ดินเป็นผู้ถือหุ้นฝ่ายคนไทย ขณะที่ ไฮทส์ โฮลดิ้งส์ จะเป็นทั้งผู้ถือหุ้นและพัฒนาโครงการ รวมทั้งการทำตลาดและบริหารการก่อสร้าง

Matrix Real Estate Development Co., Ltd  ก็เป็นกลุ่มทุนจากต่างชาติที่เข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยาตั่งแต่ปีพ.ศ.2547 ซึ่งปัจจุบันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยาแล้ว 6 โครงการ

บริษัท ทิวลิป กรุ๊ป กลุ่มทุนอิสราเอลอสังหาริมทรัพย์ข้ามชาติ ที่เข้ามาลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการคอนโดมิเนียมและโรงแรมในพัทยา ตั้งแต่ปีพ.ศ.2545 โดยปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโรงแรมที่พัทยาแล้ว 10 โครงการรวมมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 13,320 ล้านบาท อยู่ระหว่างการขาย 7 โครงการแล้วอีก 3 โครงการหยุดการขายคือโครงการ Waterfront Suite and Residences Centara Grand Jomtien และ Centara gran Pratumnak

Universal Group กลุ่มทุนด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากประเทศอินเดีย ปัจจุบันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมพัทยาแล้ว 4 โครงการ มูลค่าลงทุนเกือบ 10,000 ล้านบาท บนทำเลถนน จอมเทียน และนาจอมเทียน

Blue Sky Group บริษัทกลุ่มทุนไทยอินเดีย ปัจจุบันลงทุนในพัทยา ตั้งแต่ปีพ.ศ.2555 ซึ่งพัฒนาแล้ว 5 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมแบรนด์แอตแลนติส, แกรนด์ แคริบเบียน, เวเนเชียน ,เอสปันญ่า และแกรนด์ ฟลอริด้า

Amio Holidays Co., Ltd  นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดตัวโครงการ The Number One Jomtien Pattaya Tower 1 ในช่วงครึ่งปีหลังปีพ.ศ.2560 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเฟสแรกของการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บนทำเลไฮไลท์ของหาดจอมเทียน ด้วยทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมหุ้นระหว่างนักลงทุนจากฮ่องกง มาเก๊า และจีน โดยมองเห็นถึงศักยภาพของเมืองชายทะเล ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เขตเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคตะวันออก ทั้งยังอยู่ใกล้กรุงเทพฯ และสนามบินสุวรรณภูมิ จึงทำให้กระแสตลาดที่อยู่อาศัยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

Sakura Capital Thailand Co., Ltd กลุ่มทุนจากประเทศญี่ปุ่น ก็พัฒนาโครงการ Sakura Residence Condominium ในพัทยา บนทำเลเขาพระตำหนัก

นอกจากกลุ่มนักลงทุนจากต่างประเทศแล้ว ยังมีผู้ประกอบการรายใหญ่จาก กทม.ที่สนใจเข้าไปพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพัฒนาแล้ว เช่น บมจ. แอลพีเอ็น ดีเวลลอปเมนท์ พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแล้ว 4 โครงการ บมจ. แสนสิริ พัฒนาแล้ว 2 โครงการและจะพัฒนาอีก 1 โครงการในปีนี้ บมจ. ศุภาลัย พัฒนาแล้ว 1 โครงการ บจก. ไรมอนด์ แลนด์  พัฒนาแล้ว 4 โครงการ บมจ. ควอลิตี้ เฮ้าส์ พัฒนาแล้ว 3 โครงการ  บมจ. เอสซี แอสเสท พัฒนาแล้ว 1 โครงการ  N C Housing พัฒนาแล้ว 2 โครงการ บจก. เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์  พัฒนาแล้ว 1 โครงการ  ส่วน บมจ. เอ พี ไทยแลนด์ เคยเข้าไปพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยาแล้วในปีพ.ศ.2558 แต่ภายหลังยกเลิกการขายและคืนเงินลูกค้า เนื่องจากยอดขายไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ เช่นเดียวกับ Fragrant Property PLC. ที่เคยสนใจพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมย่านนาจอมเทียนในปีพ.ศ.2558 แต่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการหยุดการขาย