ECF มั่นใจทั้งปีรายได้เติบโตจากปีที่แล้ว ผลจากตลาดในประเทศยังขยายตัวดี ครึ่งปีแรกตลาดในประเทศเติบโตไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 10 ส่วนส่งออกครึ่งปีหลังเร่งสปีดรุกฐานลูกค้าเดิม เสนอสินค้าใหม่คาดรับออเดอร์ส่งออกเริ่มเข้ามากครึ่งปีหลัง พร้อมลุยบุกตลาด AEC ส่วนผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์จาก Disney เล็งขยายเข้าโมเดิร์นเทรด ดันสัดส่วนรายได้เพิ่ม พร้อมเตรียมขยายช่องทางเจาะตลาดอเมริกาเพิ่ม คาดเริ่มค้าขายไตรมาส 1 ปีหน้า
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา และโชว์รูมจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ภายใต้แบรนด์ “ELEGA” เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในปีนี้ยังสามารถเติบโตได้ในเกณฑ์ดี โดยในส่วนของตลาดในประเทศมีการขยายตัวตามความต้องการอย่างต่อเนื่อง ข้อพิสูจน์จากครึ่งปีแรกยอดขายในประเทศเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ขณะที่ตลาดส่งออกมีการชะลอตัวลงบ้างตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของประเทศคู่ค้าบางแห่ง โดยเฉพาะในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของบริษัท
อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเชื่อมั่นว่า รายได้จากการขายของปีนี้ จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายในประเทศ ซึ่งยังมีกำลังซื้อที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของสาขาที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มลูกค้าโมเดิร์นเทรด อาทิ เทสโก้ โลตัส โฮมโปร บิ๊กซี เมกาโฮม ไทวัสดุ อีกทั้งยังมีแผนการเปิดโชว์รูมแบรนด์ ELEGA อย่างต่อเนื่องจากต้นปีมี 13 สาขา ปัจจุบันมี 15 สาขา และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Disney ที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มเปิดจำหน่ายสินค้าชื่อร้าน “Finna House” เป็นสาขาแรกที่ โฮมโปร กิ่งแก้ว เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนการวาง Flagship store และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงทดลองตลาด โดยเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งเด็กเล็ก วัยรุ่น และวัยเริ่มต้นทำงาน ทั้งนี้วางเป้าหมายเปิด Finna House ในปีนี้จำนวน 2 สาขา และคาดว่าในอีก 2 ปี จะเพิ่มเป็น 10 สาขา นอกจากนี้ยังวางแผนสร้างยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Disney สู่กลุ่มลูกค้าในโมเดิร์นเทรดอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ตั้งเป้าหมายยอดขายในส่วนของ Disney ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ภายในปี 2559 นี้
สำหรับตลาดต่างประเทศแม้ภาพรวมการส่งออกโดยรวมของประเทศจะมีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ในขณะที่การส่งออกสินค้าของ ECF ที่ส่งไปยังประเทศญี่ปุ่นก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นเดียวกัน บริษัทอาศัยกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าเพื่อกระตุ้นยอดขาย คาดว่า จะเริ่มเห็นผลจากคำสั่งซื้อที่จะเข้ามาอีกมากในช่วงไตรมาสที่สี่นี้ นอกจากนี้ยังขยายฐานลูกค้าผ่านการเจรจากับกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นด้วย
โดยล่าสุดบริษัทมีการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ในญี่ปุ่น 1 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าที่เป็นผู้จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่เป็นอับดับ 2 ของญี่ปุ่น ขณะนี้ลูกค้าได้เริ่มทดลองเปิดคำสั่งซื้อมาให้กับบริษัทแล้ว ซึ่งหากเป็นไปได้ด้วยดี คาดว่า มีโอกาสจะได้รับปริมาณคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับตลาดกลุ่มประเทศในเขตเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) บริษัทมีแผนบุกตลาดผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยที่ผ่านมาบริษัทได้รับออร์เดอร์จากลูกค้าในประเทศมาเลเซีย และส่งสินค้าออกไปแล้วเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนที่ผ่านมา จากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้เข้าไปขยายตลาดในประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์มาแล้ว ส่วนที่อเมริกา ขณะนี้มีความคืบหน้าถึงขึ้นตอนการส่งมอบตัวอย่างสินค้า และรอกำหนดนัดหมายเข้าตรวจสอบโรงงานจากทาง Buyer แล้ว ซึ่งการขยายไปสู่ตลาดอเมริกาก็เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงจากการพิ่งพิงลูกค้าหลักจากประเทศญี่ปุ่น และมองว่าเศรษฐกิจอเมริกาเริ่มกลับเข้าสู่ช่วงการฟื้นตัว ซึ่งจะทำให้ปริมาณความต้องการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการส่งออกต่างประเทศ ร้อยละ 57 ที่เหลือคือ การจำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งภายในปีนี้ และปีหน้า บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายการเจริญเติบโตของยอดขายในส่วนธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 12 ยังไม่รวมส่วนการขยายธุรกิจไปในด้านพลังงานทดแทน ซึ่งจะเริ่มมีรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ที่เมืองฮิเมจิ ขนาดกำลังการผลิต 1.5 เมกะวัตต์ เข้ามาในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2558 นี้ โดยโครงการดังกล่าว บริษัทใช้บริษัทย่อย หรือ บริษัท อีซีเอฟ โฮลดิ้งส์ จำกัด เข้าถือหุ้นในโครงการดังกล่าวที่สัดส่วนร้อยละ 51