บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และนวัตกรรมการอยู่อาศัย ยิ้มรับยอดขายไตรมาส 1 ดีมานด์ตอบรับดีทั้งสินค้าแนวราบและแนวสูง รวมมูลค่ากว่า 12,585 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้แล้ว 30% จากเป้ายอดขายปี 2562 ที่ตั้งไว้ที่ 41,800 ล้านบาท มั่นใจไตรมาส 2 ตลาดอสังหาฯ ระดับกลางถึงบนดีมานด์ดีต่อเนื่อง พร้อมรุกตลาดเตรียมเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 13 โครงการ มูลค่ารวม 19,720 ล้านบาท

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เผยว่า ตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 1 มีแนวโน้มเติบโตดี กำลังซื้อในธุรกิจอสังหาฯ มีอยู่มาก ทั้งสินค้าแนวราบและแนวสูง สะท้อนได้จากยอดขายรวมของบริษัทฯ ที่ทำได้กว่า 12,585 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียมมูลค่า 6,365 ล้านบาท และแนวราบมูลค่า 6,220 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 25% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 10,016 ล้านบาท เป็นผลงานที่น่าพอใจ เนื่องจากเป็นไตรมาสที่บริษัทฯ มีโครงการเปิดใหม่ไม่มาก ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้แล้ว 30% ของเป้ายอดขายปี 2562 ที่ตั้งไว้ (เป้ายอดขาย 41,800 ล้านบาท) โดยเอพีเตรียมเดินหน้ารุกตลาดต่อเนื่องในไตรมาส 2 เปิดตัวโครงการใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 13 โครงการ มูลค่า 19,720 ล้านบาท เป็นทาวน์โฮมจำนวน 9 โครงการ มูลค่า 8,560 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 3 โครงการ มูลค่า 2,360 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 8,800 ล้านบาท

คีย์ซัสเซสที่ดันความสำเร็จของยอดขายไตรมาส 1 ของเอพี คือ ความเข้าใจดีมานด์ในแต่ละทำเล การมีสินค้าทื่หลากหลาย และความสามารถในการบริหารแพ็คเกจราคาที่คุ้มค่าจับต้องได้ ส่งผลให้ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากสินค้าแนวราบและแนวสูง โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ THE CITY และ CENTRO ถือเป็นหนึ่งใน KEY DRIVE สำคัญต่อการเติบโตของยอดขายรวม

นอกเหนือจากนี้โครงการอื่นๆ ของเอพี อาทิ ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียมที่ภาพรวมการขายเติบโตดีต่อเนื่อง อาทิ  คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ แอสปาย เอราวัณ’ ที่มีอัตราการขายโตกว่า 130% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่โครงการที่เปิดตัวใหม่ในไตรมาส 1 อย่าง ‘ริธึ่ม เอกมัย เอสเตท’ ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าคนเมือง โดยปัจจัยหลักที่ลูกค้าให้ความสำคัญและตัดสินใจซื้อ คือ ประสบการณ์การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ที่เติมเต็มให้การอยู่คอนโดฯ เป็นส่วนตัวเสมือนได้อยู่บ้าน ในส่วนของ ‘แอสปาย’ ทั้ง 2 ทำเล ได้แก่ ‘แอสปาย สุขุมวิท – อ่อนนุช’ และ ‘แอสปาย อโศก – รัชดา’ ที่เปิดตัวไปในไตรมาสแรก ก็ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะ ‘แอสปาย อโศก – รัชดา’ ที่สามารถปิดการขายในช่วงพรีเซลอย่างรวดเร็ว ด้วยจำนวน 1,025 ยูนิต มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท ทั้งหมดนี้ สะท้อนดีมานด์ในตลาดอสังหาฯ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าเครือเอพีเสมอมา” นายวิทการกล่าวเสริม

ในส่วนของภาพรวมอสังหาฯ ไตรมาส 2 เอพีเชื่อว่า ดีมานด์ที่มองหาที่อยู่อาศัยใหม่มีต่อเนื่อง แม้มาตรการแอลทีวีจะมีผลบังคับใช้ แต่มั่นใจไม่ได้กระทบทั้งตลาด ขณะเดียวกันข้อดีของมาตรการกลับช่วยให้ลูกค้าเรียลดีมานด์สามารถเข้าถึงสินค้าที่อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น และยังช่วยบริหารจัดการภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯ ในระยะยาวได้เป็นอย่างดี ดังนั้น บริษัทยังดำเนินงานตามแผนที่ประกาศช่วงต้นปี คือ การวางแผนแบบรบยาว เน้นความเข้าใจดีมานด์ในแต่ละทำเล เพื่อพัฒนาและส่งมอบสินค้าที่แตกต่าง โดยการบุกทุกเซกเมนต์เปิดตัวครบทั้ง 9 แบรนด์ในเครือ ภายใต้การส่งมอบคุณภาพการอยู่อาศัย และการใช้ชีวิตให้กับผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างยั่งยืน โดยไตรมาส 2 เอพีเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งหมด 13 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 12 โครงการ มูลค่า 10,920 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่าโครงการกว่า 8,800 ล้านบาท” นายวิทการกล่าวสรุป