รีวิวฉบับที่ 842 … สวัสดีครับ วันนี้ผม Mr.Boom จะขอพาไปรีวิวโครงการ วรารมย์ พรีเมี่ยม วัชรพล-จตุโชติ บ้านเดี่ยวระดับ Upper~High Class ซึ่งมีทำเลอยู่ติดทางลงทางด่วนจตุโชติ ในย่านสายไหม-วัชรพลครับ ซึ่งที่นี่จริงๆแล้วเป็นหมู่บ้านที่สร้างเสร็จมาซักพักแล้ว มีลูกบ้านเข้าอยู่แล้วครับ แต่ตอนนี้ทางโครงการเปิด เฟสที่ 2 ซึ่งเป็นโซนแบบบ้านใหม่ โดยแต่เดิม ในเฟสแรกของที่นี่เค้าจะทำบ้านระดับราคา 10 ล้านอัพ แต่สำหรับเฟสใหม่ ตัวบ้านจะมีขนาดเล็กลง และมีราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น ในราคาเริ่มต้นแถวๆ 7 ล้านปลายๆ ถึงเกือบๆ 10 ล้านครับ แล้วก็จะทำออกมาในสไตล์โมเดิร์น เล็งกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นกว่าเดิม เราไปดูกันดีกว่าว่าบ้านใหม่ของเค้าจะทำออกมาเป็นแบบไหน
Fact @ 01 April 2015
- วรารมย์ พรีเมี่ยม วัชรพล-จตุโชติ (Vararom Premium Vacharaphol-Chatuchot)
- Quality House Plc. (Q.House)
- Segment : UPPER~HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : เขตสายไหม
- เนื้อที่โครงการ 89-2-17 ไร่ จำนวน 231 ยูนิต
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
- Zania บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 80.4 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 210 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Wisteria บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 90.7 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Hortensia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 107.2 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 270 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Begonia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 123 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 336 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ
พิกัด : 13.897716, 100.680379
แผนที่จากทางโครงการครับ (คลิกที่รูปเพื่อดูขนาดใหญ่)
ที่ตั้งของโครงการ วรารมย์ พรีเมี่ยม วัชรพล-จตุโชติ จะตั้งอยู่บน ถนนจตุโชติ ครับ ซึ่งเป็นถนนสายเล็กๆ ที่เชื่อมจาก ถนนสุขาภิบาล 5 มายัง ทางคู่ขนานของถนนกาญจนาภิเษก โดยจะอยู่บริเวณโซนตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพ ในเขตสายไหม ต่อขยายมาจากโซนรามอินทรา ก่อนที่จะเข้าสู่โซนลำลูกกาครับ
ถึงแม้ว่าถนนจตุโชติจะเป็นถนนเส้นเล็กๆ แต่อย่าได้ดูถูกทำเลตรงนี้นะครับ เพราะว่า ถนนเส้นนี้มีทางด่วนมาลงด้วย ซึ่งจะเป็นทางลงทางด่วน “จตุโชติ” เลยครับ โดยจะเป็นทางลงรองสุดท้ายของทางด่วนเส้นรามอินทรา-อาจณรงค์ ก่อนที่ทางด่วนเส้นนี้จะไปเชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษก
แต่อย่างไรก็ดี ถนนจตุโชตินี้จะมีเฉพาะทางลงทางด่วนนะครับ ไม่มีทางขึ้น โดยถ้าอยากจะขึ้นทางด่วนจะต้องขับรถย้อนกลับออกไปที่ถนนสุขาภิบาล 5 และไปใช้ทางขึ้นทางด่วนที่ถนนสุขาภิบาล 5 แทนครับ ซึ่งจะใช้ไปได้ทั้งขาเข้าเมือง และขาออกที่จะไปถนนกาญจนาภิเษก
UPDATE!: ทางด่วนจตุโชติมีทั้งทางขึ้นและทางลงนะครับ ไม่ต้องย้อนกลับไปขึ้นที่ด่านสุขาภิบาล 5 ครับ
การเดินทางไปยังโครงการ ถ้าเราใช้ทางด่วนรามอินทรา จะเลือกลงทางด่วนได้สองจุดครับ จุดแรกคือลงที่ทางออก “สุขาภิบาล 5” พอลงมาแล้ว เราก็จะมาโผล่ที่ถนนสุขาภิบาล 5 ครับ แล้วจากนั้นก็มาเข้าถนนจตุโชติตามปกติ เพื่อเข้าหมู่บ้าน ทางนี้จะใกล้กว่าครับ แต่ว่าปกติ ถนนสุขาภิบาล 5 รถจะเยอะ เพราะตรงนี้จะมี Big-C ด้วย แล้วอาจจะต้องติดไฟแดงนานบริเวณแยกที่เลี้ยวเข้าถนนจตุโชตินี่แหละครับ ดังนั้น จะมีอีกเส้นทางที่ผมว่าน่าสะดวกกว่า ก็คือ …
พอเจอทางลงสุขาภิบาล 5 ยังไม่ต้องลงครับ ให้เราวิ่งเลยมาลงที่ทางลง “จตุโชติ” ครับ ซึ่งทางนี้ถึงแม้จะไกลกว่า แต่ผมจะแนะนำให้ใช้มากกว่า เพราะรถไม่ติด และบนทางด่วนเราสามารถทำความเร็วได้มากกว่าครับ ซึ่งทางลงจตุโชตินี้จะอยู่ใกล้กับทางเข้าโครงการเลย แต่น่าเสียดายที่ จุดทางลงมันอยู่เลยทางเข้าไปแล้วครับ ถ้าเราเลือกมาลงที่นี่ ก็จะใช้วิธีไป U-Turn 2 ครั้งครับ โดยจะมีจุดกลับรถอยู่บริเวณใต้ทางด่วน พอเรา U-Turn เสร็จปุ๊บ ก็จะมาถึงหน้าโครงการได้ไม่ยากครับ
ภาพบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการครับ อันนี้คือเราไปกลับรถมาเรียบร้อยแล้ว
พอออกจากจุดกลับรถ ทางจะเป็นลักษณะนี้ครับ ซึ่งจะต้องวิ่งปาด 2 เลน เพื่อเข้าหมู่บ้าน แต่ว่าถนนเส้นนี้รถไม่ค่อยเยอะอยู่แล้วครับ ขับกันไม่ค่อยเร็ว ทำแบบนี้ได้ไม่ยาก แต่ยังไงก็ระวังนิดนึงนะครับ ปล่อยให้รถโล่งๆหน่อย ปลอดภัยไว้ก่อนครับ
ส่วนบริเวณถนนจตุโชติ ก็จะเป็นถนนเส้นเล็กๆ ไม่มีอะไรมากครับ เป็นถนนทางผ่านที่เชื่อมมาจากถนนสุขาภิบาล 5 เท่านั้นเอง สภาพแวดล้อมก็จะเป็นหมู่บ้านซะเยอะ ไม่ค่อยมีร้านค้าเท่าไหร่ครับ แต่ตัวถนนกว้าง 4 เลน มีทางเท้า มีไฟส่องถนน เส้นทางโอเคเลย
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
- BIG-C สุขาภิบาล 5
- โรงเรียนนานาชาติไทย-อเมริกัน
- โรงเรียนสารสาสน์
- ตลาดวงศกร
- โรงพยาบาลสายไหม
โครงการ วรารมย์ พรีเมี่ยม วัชรพล-จตุโชติ นี้จะมีรูปแบบเป็นหมู่บ้านจัดสรร เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 89 ไร่ครึ่งครับ โดยมีบ้านอยู่เป็นจำนวนทั้งหมด 231 ยูนิต แบ่งเป็นเฟส 1 จำนวน 109 ยูนิต และ เฟส 2 อีก 122 ยูนิต
ตัวที่ดินจะมีรูปร่างคล้ายๆเลข 7 หน้าตาแบบที่เห็นในภาพนะครับ
ด้านหน้าสุดของโครงการจะอยู่ติดกับถนนจตุโชติ โดยที่จะมีป้อมรปภ.ประจำการอยู่บริเวณซุ้มทางเข้าตรงนี้
ป้ายทางเข้าโครงการ หน้าตาประมาณนี้ครับ มีการจัดสวนบริเวณด้านหน้าเอาไว้ด้วย
ประตูทางเข้าเป็นแบบประตูบานเลื่อนไฟฟ้าแบบนี้ครับ ซึ่งแขกผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรตรงนี้ก่อน
บริเวณทางเข้าด้านหน้าจะมีกล้อง CCTV ติดตั้งเอาไว้ด้วยเพื่อความปลอดภัย
เมื่อผ่านประตูชุดแรกเข้ามาแล้ว จะเจอกับป้อมรปภ.ชุดที่สอง อยู่ด้านในที่เห็นอยู่ไกลๆในภาพ ส่วนพื้นที่บริเวณด้านหน้าตรงนี้จะเป็นโซนของสโมสร และเป็นจุดนัดพบสำหรับลูกบ้าน และผู้มาติดต่อ ให้มานัดเจอกันบริเวณนี้ได้ กรณีที่ไม่สะดวกให้เข้าไปพบในบ้าน
บริเวณด้านหน้าตรงนี้จะมีพื้นที่จอดรถสำหรับลูกค้า/ผู้มาติดต่อ หรือ ผู้ใช้บริการสโมสร แยกเอาไว้ให้
ข้างๆกันเป็นสำนักงานช่างประจำหมู่บ้าน ซึ่งถึงแม้จะอยู่ภายในหมู่บ้าน แต่ก็จะอยู่นอกประตูรั้วชุดที่สอง เพื่อความปลอดภัยอีกระดับหนึ่ง
ส่วนอาคารสโมสรจะอยู่ติดกับทางเข้าตรงนี้เลย เป็นอาคาร 2 ชั้น หน้าตาแบบนี้
ด้านข้างอาคารสโมสร จะมีลานจอดรถอีกจุดหนึ่ง เผื่อลานจอดรถจุดแรกเต็ม ก็มาจอดตรงนี้เพิ่มได้ รวมๆแล้วจอดได้ 10-15 คันเลย
ทางเข้าสโมสรมีสองด้าน เรามาดูทางนี้ก่อน
เข้ามาฝั่งนี้จะเป็นห้องสำนักงานนิติบุคคล ที่อยู่ด้านหน้าสุดทางซ้ายมือ ส่วนถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องน้ำ
ทางเข้าอีกจุดหนึ่งจะเข้าไปสู่โซนใช้งานของสโมสร
เข้ามาปุ๊บจะเจอกับพื้นที่โถงต้อนรับ เป็นพื้นที่รับแขกส่วนกลาง
ขนาดของพื้นที่กว้างใช้ได้เลย นี่ยังโล่งๆ ใช้เป็นอาคารสำหรับประชุม หรือทำกิจกรรมได้เอนกประสงค์
มีการจัดชุดโซฟารับแขกเอาไว้ให้แล้ว กระจายตามจุดต่างๆ
ห้องฟิตเนส กั้นด้วยประตูกระจก วางอยู่ด้านข้าง ติดกับสระว่ายน้ำ
ห้องฟิตเนสก็วางเครื่องออกกำลังกายไว้ประมาณ 7-8 เครื่อง สามารถกระจายๆกันเล่นได้
เมื่อเดินทะลุผ่านโถงต้อนรับมายังพื้นที่ด้านหลังของสโมสร ก็จะเป็น Deck สำหรับเดินชมสวน
ต่อจากสวน เดินออกมาปุ๊บจะเจอกับ พื้นที่สระว่ายน้ำที่อยู่ด้านใน
สระว่ายน้ำแยกสระเด็ก
พื้นที่ล้างตัวด้านข้าง
พื้นรอบๆสระว่ายน้ำ เป็น Deck ไม้เทียมสีน้ำตาลแดง
ด้านในอาคารเตี้ยๆทางซ้ายนั่นจะเป็นห้องน้ำและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า สำหรับคนที่มาใช้บริการสระว่ายน้ำ ส่วนศาลาทางขวาจะเป็นสระ Jacuzzi ที่จะอยู่ในร่ม
ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกชายหญิง
ภายในห้องน้ำตกแต่งเรียบๆ ใช้สีโทนสว่างๆ
มีห้อง Sauna รวมถึงตู้ล็อคเกอร์ที่สามารถมาใช้ได้
ส่วนปลายสุดของสระจะมีศาลาที่มีสระ Jacuzzi อยู่ด้านใน โดยจะเป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor ครับ คืออยู่ในร่ม สามารถกันแดด กันฝนได้ วันไหนร้อนๆก็ยังใช้งานได้ตามปกติ
จบจากส่วนสโมสร และพื้นที่ด้านหน้าแล้ว เราก็จะเข้ามาสู่โซนด้านในที่เป็นโซนพักอาศัยของลูกบ้าน ก่อนจะเข้าสู่โซนนี้จะมีป้อมรปภ.อีกชุดหนึ่งประจำการอยู่ และจะมีประตูรั้วอีกหนึ่งชั้น ลักษณะเป็นแบบ Double Gate Security เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้านอีกชั้นหนึ่ง
ผ่านประตูรั้วชุดที่สองเข้ามาแล้ว
เข้ามาปุ๊บจะเจอกับสะพานข้ามคลองจระเข้โพรงครับ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับทางเข้าโครงการเลย
ตัวคลองนี้ก็จะเป็นคลองระบายน้ำสาธารณะทั่วๆไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษ สภาพของคลองไม่ได้เน่าเสียหรือส่งกลิ่นใดๆ ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ
ถนนหลักที่อยู่ต่อจากทางเข้าหมู่บ้านเข้ามานี้ จะมีความกว้าง 16 เมตร ยาวเข้าไปถึงด้านหลังเลย และบ้านแถวแรกที่เห็นอยู่นี้ จะเป็นบ้านที่อยู่บนฝั่งเดียวของถนนครับ ซึ่งหน้าบ้านและหลังบ้านจะไม่ได้หันชนกับใครเลย มีเฉพาะเพื่อนบ้านที่อยู่ซ้าย-ขวา
ฝั่งตรงข้ามของบ้านแถวแรกนี้ จะเป็นสวนสาธารณะที่เค้าจัดไว้เป็นแนวยาวตลอดความยาวของถนนหลักเลย
มีการทำทางเดินภายในสวนเอาไว้ เพื่อให้ลูกบ้านสามารถมาเดินพักผ่อนหย่อนใจตรงนี้ได้
พอเข้ามาถึงด้านในปุ๊บจะเจอกับวงเวียนตรงกลางหมู่บ้าน ซึ่งถนนตรงนี้จะเริ่มแคบลงเหลือประมาณ 12 เมตรแล้ว
ฝั่งหนึ่งของวงเวียนก็ยังมีสวนสาธารณะอยู่อีกจุดหนึ่ง สำหรับบ้านหลังที่อยู่ด้านใน จะได้ไม่ต้องออกไปถึงด้านหน้าหมู่บ้านกว่าจะเจอสวน เค้าก็เลยจัดสวนไว้ตรงนี้อีกจุดหนึ่งเพิ่มเติม
พื้นที่สวนตรงนี้จะกว้างกว่า แต่สั้นกว่าสวนด้านหน้า
ต้นไม้ในสวนยังไม่ได้โตเต็มที่เท่าไหร่ แต่ถ้าทิ้งไว้อีกซักพักน่าจะให้ร่มเงาได้พอสมควร
เข้ามาถึงด้านในสุดจะเจอกับวงเวียนอีกหนึ่งจุด ซึ่งจะเป็นตัวแบ่งเขตระหว่างเฟส 1 กับเฟส 2 ครับ ถ้าสังเกตคือ ทางขวาที่เป็นเฟสหนึ่ง รั้วบ้านจะเป็นอิฐสีส้ม ส่วนทางซ้ายที่เป็นเฟสสอง กำแพงจะเป็นคอนกรีตสีขาว และหน้าตาบ้านจะดูเป็นแนวโมเดิร์นไปเลย
จากวงเวียนตรงนี้ก็จะมีถนนซอยที่แยกเข้าไปยังบ้านแต่ละหลัง ถนนซอยตรงนี้จะมีความกว้างเหลือประมาณ 9 เมตรตามมาตรฐานครับ
เดินมาถึงตรงนี้ก็มาถึงบ้านตัวอย่างพอดี เดี๋ยวเราเข้าไปดูในตัวบ้านกันว่าจะหน้าตาเป็นอย่างไร
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สโมสร พร้อมสระว่ายน้ำ, สระ Jacuzzi และ ห้องออกกำลังกาย
- ที่จอดรถสำหรับผู้มาติดต่อแยกโซนต่างหาก (Separated Visitor’s Parking)
- สวนสาธารณะภายในโครงการ
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน (Double-Gate Security)
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
- ถนนหลักกว้าง 16 ม. ถนนภายในกว้าง 12 ม. และถนนซอยกว้าง 9 เมตร
โครงสร้าง
ตัวบ้านของที่นี่เป็นแบบ Conventional ใช้ผนังอิฐมวลเบา (Q-CON), บันไดแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก, กรอบวงกบประตู/หน้าต่างใช้วัสดุ UPVC, กระจกเขียวตัดแสง, และฝังระบบกำจัดปลวกไว้ใต้อาคาร
เนื่องจากบ้านในเฟสที่ 1 นี่ขายไปเกือบหมดแล้ว และเป็นบ้านแบบเก่าด้วย เราคงจะไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปมาให้ดูในรีวิวฉบับนี้นะครับ โดยครั้งนี้เราจะมาดูบ้านแบบใหม่ที่อยู่ในเฟสที่ 2 กันเป็นหลัก
แบบบ้านรุ่นใหม่ ที่มีอยู่ในเฟส 2 นี้จะมีอยู่ 2 แบบด้วยกันครับ แบบแรกจะเป็นหลังเล็ก ชื่อว่า Zania มีพื้นที่ใช้สอย 210 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดเริ่มต้นที่ 80.40 ตารางวา ฟังก์ชั่นเป็นแบบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถครับ
บ้านของที่นี่เค้าจะค่อนข้างเน้นพื้นที่รอบบ้านนะครับ สังเกตว่าขนาดบ้านหลังเล็กของที่นี่เค้ายังเริ่มต้นขนาดที่ดินตั้ง 80 ตารางวา เยอะกว่าปกติประมาณ 30 ตารางวาเลยทีเดียว ซึ่งทำให้เรามีพื้นที่เหลือสำหรับทำกิจกรรม Outdoor ต่างๆ หรือต่อเติมฟังก์ชั่นบ้านได้อีกพอสมควรเลยถ้าอยากจะทำนะครับ
ส่วนฟังก์ชั่นในบ้านที่เค้ามีมาให้แล้ว ดูจากแผนผัง ชั้น 1 ก็จะเน้นเป็นส่วน Living Area เป็นหลัก, ตัวบ้านมีทางเข้าสองจุด คือ ทางเข้าด้านหน้า ติดกับห้องรับแขก และทางเข้าด้านข้าง ติดกับลานจอดรถ, บันไดจะวางอยู่ตรงกลาง บริเวณติดกับหน้าบ้าน เพื่อให้พื้นที่ส่วนรับประทานอาหารได้เป็นพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ ติดกับส่วนหลังบ้านที่เป็นสวน, ครัวเป็นครัวไทยแยกส่วน อยู่ติดกับห้องน้ำ และลานซักล้าง, และสุดท้ายคือ ชั้นล่างจะมีห้องเอนกประสงค์อยู่หนึ่งห้อง ที่ใหญ่พอที่จะทำเป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่งได้ ห้องเอนกประสงค์ห้องนี้จะผนังติดกับพื้นที่สวน 3 ด้าน แต่จะไม่มีห้องน้ำในตัวนะครับ
ส่วนชั้นสอง ของบ้าน Zania ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากครับ เป็นห้องนอน 3 ห้องวางอยู่ด้านบน โดยที่ห้องนอน Master Bedroom กินพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของชั้นสองไปแล้ว เป็นห้องนอนเดียวที่มีห้องน้ำในตัวนะครับ, ส่วนห้องนอนอีกสองห้อง มีขนาดเท่าๆกันเลย วางอยู่คู่กัน สองห้องนี้ไม่มีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ โดยจะมีห้องน้ำอยู่ด้านนอกบริเวณโถงตรงกลาง แชร์ร่วมกัน
ส่วนบ้านแบบที่สอง มีชื่อว่า Wisteria ครับ แบบนี้จะมีขนาดใหญ่กว่า มีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 230 ตารางเมตร บนที่ดินขนาดเริ่มต้นที่ 90.70 ตารางวาครับ ฟังก์ชั่นของหลังนี้จะเป็นแบบ 3 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถครับ และจะมีห้องแม่บ้าน กับห้อง Family Area ที่ชั้น 2 ที่เพิ่มเข้ามา
ผังชั้น 1 หน้าตาแบบนี้ครับ ด้านหน้าจอดรถ 2 คันเหมือนกัน มีทางเข้า 2 ทางเหมือนกับหลังเล็ก แต่จุดที่แตกต่างคือ บ้านหลังนี้จะเป็นบ้านที่หน้ากว้างกว่าครับ เค้าจึงสลับเอาโถงบันไดไปชิดกับผนังด้านหลังของบ้าน และจัดให้ส่วนรับประทานอาหารมาวางอยู่ด้านหน้าบ้านแทน, ส่วนพื้นที่ด้านข้างที่ในบ้านแบบแรกเคยมีห้องนอน ตอนนี้จะกลายเป็นพื้นที่โล่งๆที่ไม่ได้กั้นผนังครับ ซึ่งตรงนี้เป็นพื้นที่ที่ยืดหยุ่นได้ครับ เค้าเผื่อไว้สำหรับให้เราโยกย้ายฟังก์ชั่นเอง โดยที่เราอาจจะขยายขนาดของห้องนั่งเล่นชั้นล่าง เพื่อให้กลายเป็นห้องขนาดใหญ่ก็ได้ หรือเราอาจจะกั้นผนังเพิ่ม เพื่อใช้ห้องนี้ในจุดประสงค์อื่นๆก็ได้ แล้วแต่เจ้าของบ้าน, ส่วนครัวอยู่ติดกับห้องน้ำเหมือนเดิม แต่ฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาอีกอย่างคือห้องแม่บ้าน ที่ต้องเข้าจากด้านนอกบ้าน มีทางเข้าแยกต่างหากครับ ซึ่งจะอยู่ติดกับลานซักล้าง
ส่วนขึ้นมาที่ชั้นสองของบ้าน Wisteria นั้นจะเจอกับห้องนอน 3 ห้องครับ, เค้าให้น้ำหนักของห้องนอนแต่ละห้องต่างจากบ้านหลัง Zania นะครับ โดยที่ห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด, ขนาดของห้องนอนใหญ่ มีสัดส่วนที่เล็กลงเมื่อเทียบกับห้องนอนอีกสองห้องที่ถูกขยายใหญ่ขึ้น, และบริเวณตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้งสามจะมีส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่นชั้นสอง ที่เรียกว่า Family Area อยู่ตรงกลางด้วย
บ้านแบบที่จะพาไปดูวันนี้ จะเป็นแบบ Wisteria นะครับ ซึ่งผมว่ามีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจกว่า และยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นมากกว่าด้วย
เริ่มจากประตูทางเข้าก่อนเลย ประตูบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อนแบบนี้ครับ ด้วยความที่ที่ดินของตัวบ้านมีขนาดใหญ่ สามารถใส่ประตูรั้วบานเลื่อนกว้างๆแบบนี้ได้สบายเลย แถมที่ดินก็เป็นแบบหน้ากว้างด้วย แต่น่าเสียดายอย่างนึงตรงที่เค้าไม่ได้ใส่ประตูเล็กสำหรับให้คนเปิดเข้า-ออกมาด้วย เพราะถ้ามีจะสะดวกมากขึ้น
เมื่อเลื่อนประตูรั้วเปิดจนสุดก็จะเป็นแบบนี้ครับ เราสามารถไปติดตั้งชุดมอเตอร์สำหรับเปิด-ปิดประตูด้วยไฟฟ้าได้ด้วยตัวเอง ซึ่งผมแนะนำว่าควรทำมาก จะได้ใช้รีโมทกดเปิดปิดได้เลย ไม่ต้องคอยลงจากรถไปเปิดประตู
หน้าบ้านจะมีกล่องจดหมาย, ประตูถังขยะ, ปุ่มกดกริ่ง และไฟส่องบ้านเลขที่ ติดมาให้ตรงรั้ว
ด้านในก็จะเชื่อมกับถังขยะแบบนี้ ไม่ต้องเดินออกไปทิ้งนอกบ้านก็ได้ และไม่ต้องกลัวคนเอาขยะมาทิ้งหน้าบ้านเราด้วย
ตู้จดหมายก็สามารถเปิดได้จากด้านในเช่นเดียวกัน
ลานจอดรถในร่ม สามารถจอดรถได้ 2 คัน ตามมาตรฐาน แต่ถ้าบ้านไหนมีรถมากกว่านี้ เราอาจจะใช้ที่ดินที่เหลือด้านข้างมาทำที่จอดรถเพิ่มก็ได้นะ ส่วนพื้นที่ด้านหน้าก็แล้วแต่ว่าแปลงไหนมีเนื้อที่ดินเท่าไร ถ้าลึกพอก็จะสามารถจอดซ้อนๆกันได้อีก
ด้านในลานจอดรถก็จะมีประตูทางเข้าบ้านด้วย อยู่ติดกับส่วนครัวเลย
มองไปทางบ้านหลังด้านข้าง ติดกับลานจอดรถของบ้านเรา จะเป็นตำแหน่งของต้นไม้ใหญ่ของบ้านหลังข้างๆพอดี เพื่อให้บังสายตาซึ่งกันและกัน
ด้านข้างปูหญ้า+จัดสวนให้ เป็นมาตรฐาน
พื้นลานจอดรถ กับตัวบ้าน จะมีการเว้นระยะห่างเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยร้าวจากการทรุดตัวที่ไม่เท่ากันของตัวบ้านและพื้นที่ด้านหน้า และโรยกรวดทับรอยต่อของพื้นเอาไว้เพื่อความสวยงาม
ตัวบ้านเว้นระยะห่างจากรั้วบ้านมาเยอะพอสมควร สามารถจัดเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ได้เลย รถก็ขับผ่านเข้าไปด้านในได้ด้วย
ถัดมาตรงนี้จะเป็นทางเข้าหลักของบ้านที่จะเป็นประตูกระจก เชื่อมกับส่วนรับแขก
ภายในบ้านลงต้นไม้ใหญ่ไว้ แต่ยังไม่ค่อยเติบโตเท่าไหร่
ที่ดินร่วม 90 ตารางวา วางบ้านขนาด 230 ตารางเมตรลงไปแล้ว ยังเหลือพื้นที่ด้านข้างบ้านอีกเยอะมากๆ ตรงนี้ถ้าใครเตรียมงบไว้เผื่อต่อเติมอยู่แล้ว ก็สามารถทำได้เต็มที่เลย หรือบ้านไหนมีเด็กเล็กๆ อยากจะซื้อ Slider มาวาง หรือใส่สระยางขนาดใหญ่ให้ลูกได้เล่นอย่างมีความสุข ก็ตามสบาย
ตัวบ้านเมื่อมองจากด้านข้างก็จะเป็นแบบนี้
ส่วนพื้นที่ด้านหลังนี้เว้นระยะห่างเอาไว้แค่ตามมาตรฐานที่กำหนดเท่านั้น ไม่ได้เน้นให้ใช้งาน เพราะพื้นที่ด้านข้างเหลือเยอะแล้ว จะได้ไม่ต้องมาดูแลด้านหลังอีก
กลับมาที่ประตูทางเข้าหลักของบ้านอีกครั้ง
ด้านหน้าประตูทางเข้าตรงนี้จะทำเป็นเฉลียงสำหรับถอดรองเท้า-ใส่รองเท้าหน้าบ้าน, มีขั้นบันไดเล็กๆ ปูด้วยกระเบื้อง และทรายล้าง, ทำทางเดินให้เดินเข้าจากทางโรงรถได้สะดวก ไม่ต้องเดินเหยียบหญ้าเข้าบ้าน เพราะอาจจะเลอะเทอะได้
ตัวบ้านถูกยกระดับจากพื้นด้านนอกอีกนิดหน่อย และวางรางประตูทางเข้า ให้ขอบวงกบเสมอกับพื้นภายในบ้านด้วย
บ้านหลังที่ผมพามาดูจะเป็นบ้านมาตรฐานที่เค้าไม่ได้ตกแต่งนะครับ เพราะตอนนั้นเค้ายังไม่มีบ้านที่แต่งเฟอร์นิเจอร์ให้ดู (ไม่แน่ใจว่าตอนนี้มีรึยังนะครับ ใครไปมาแล้ว ฝากมาอัพเดทใน Comment หน่อย) ดังนั้นเวลาดูต้องใช้จินตนาการนิดนึงนะครับ แล้วก็ถ้าจะให้ดี ควรจะดูแผนผัง Floor Plan ที่อยู่ด้านบนประกอบไปด้วย จะได้เข้าใจมากขึ้นครับ
พอเข้ามาในบ้านปุ๊บส่วนแรกที่เราเห็นเป็นพื้นที่โล่งๆ เชื่อมต่อกันทั้งหมดตรงนี้เป็นส่วนของ Living Area ทั้งหมดเลย ซึ่งจะประกอบด้วย ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร และ ห้องเอนกประสงค์ที่รวมอยู่ด้วยกันเป็นพื้นที่เดียว ซึ่งเค้าตั้งใจให้เรากั้นผนังเอง (ถ้าเราอยากจะกั้น) ซึ่งยืดหยุ่นตามแต่เจ้าของบ้านอยากจะทำเลย
ประตูทางเข้าที่เราเดินเข้ามาในบ้าน คือประตูด้านซ้ายนั่นเองครับ และพื้นที่ส่วนด้านหน้าสุดตรงนี้เค้าตั้งใจจะให้เป็นพื้นที่สำหรับห้องรับแขก ที่จะอยู่ติดกับประตูทางเข้าทันทีเลย
ประตูทางเข้าจะเป็นแบบ บานเลื่อน หน้าตาแบบนี้ครับ เปิดออกได้ไม่ค่อยกว้างเท่าไรนัก เค้าตั้งใจใช้เป็นประตูกระจก เพื่อเพิ่มปริมาณแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในบ้าน แต่ถ้าใครคิดว่ามันไม่สะดวกในการใช้งาน จะเปลี่ยนเป็นประตู Swing ทั่วๆไปก็ได้นะครับ เพราะพื้นที่สามารถใส่บานคู่ขนาดใหญ่ได้เลย
อีกด้านหนึ่งของประตูทางเข้า ที่อยู่ติดกับห้องรับแขก ตรงนี้จะเป็นพื้นที่โล่งที่เค้าตั้งใจจะให้วางโต๊ะรับประทานอาหารตรงนี้ครับ ซึ่งพื้นที่ก็แล้วแต่เราจะจัด แต่หลักๆ สามารถวางโต๊ะอาหารขนาด 6-8 ที่นั่งได้ หรือจะใส่โต๊ะกลมก็ยังได้ เค้าตั้งใจให้วางโต๊ะรับประทานอาหารตรงนี้ เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้อยู่ใกล้กับส่วนครัว และเป็นศูนย์กลางของตัวบ้านพอดี เพราะเป็นฟังก์ชั่นที่ทุกคนในบ้านมาใช้พร้อมๆกัน
ลึกเข้าไปด้านใน จะมีพื้นที่ส่วนที่ติดกับห้องรับแขก ที่เว้าเข้าไปด้านหลังบ้าน
พื้นที่ตรงนี้ คนออกแบบตั้งใจจะให้เราใช้เป็นห้องนั่งเล่น ดูทีวี ที่อยู่ชั้นล่างครับ แต่ว่าเค้าตั้งใจไม่ใส่ผนังกั้นห้องเอาไว้ เผื่อว่าเราอยากจะใช้พื้นที่นี้ทำอย่างอื่น เช่นเราอาจจะอยากให้ห้องรับแขก ยื่นยาวมาจนถึงตรงนี้ก็ได้ เพื่อให้ได้เป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมถึงกันหมด ส่วนพื้นที่ที่เหลือ ก็กั้นเป็นห้องสำหรับจุดประสงค์อื่น เช่นเป็นห้องทำงาน เป็นห้องอ่านหนังสือ ห้องสำหรับทำงานอดิเรกอื่นๆ ฯลฯ ข้อดีของห้องที่อยู่ตรงนี้คือ จะเป็นห้องที่เปิดรับวิวสวนที่อยู่ข้างบ้าน
ลักษณะของพื้นที่จะเป็นแบบนี้ เมื่อมองย้อนกลับมาที่ห้องรับแขก
หน้าต่างเป็นแบบวงกบ UPVC มีบานเลื่อนคู่ เปิดออกแบบนี้ได้
ชุดตัวล็อคหน้าต่างหน้าตาแบบนี้
บริเวณขอบประตู-หน้าต่าง จะมีการติดขนหนูเอาไว้ด้วย เพื่อ Seal ให้ประตูปิดสนิทมากขึ้น, กันเสียง, แมลง, ฝุ่น ไม่ให้เข้ามาในบ้าน
ที่ขอบหน้าต่าง บริเวณด้านข้าง ที่จะมีช่องว่าง ก็มีการติดขนหนูเพิ่มเช่นกัน
ระบบกันขโมยแบบ Shock Sensor ติดให้ที่หน้าต่างและประตูทุกบาน เป็นมาตรฐาน
รวมถึงสัญญาณเตือนแบบ Magnetic Sensor ด้วย
ตัวสัญญาณกันขโมยจะมีแผงควบคุมอยู่ที่ชั้นสองของบ้าน สามารถเปิด-ปิดได้จากตรงนี้
พื้นชั้นหนึ่งจะเป็นพื้นกระเบื้อง Granito ขนาด 60×60 ทั้งหมด
เดินถัดจากส่วนรับประทานอาหารมา จะเจอกับบันไดทางขึ้นชั้นสอง และมีทางเดินไปยังส่วนครัวที่อยู่อีกด้าน
ทางขวาจะเป็นทางเข้าบ้านที่อยู่ติดกับโรงจอดรถ, ด้านซ้ายจะเป็นทางเข้าห้องน้ำชั้นล่าง, ส่วนตรงกลางเป็นประตูที่เปิดไปยังห้องครัว
ประตูทางเข้ารองที่อยู่ติดลานจอดรถหน้าตาจะเป็นแบบนี้ครับ ที่ประตูจะมีการติดกระจกเอาไว้ เพื่อให้ภายในสามารถมองออกมาเห็นภายนอกได้ และดึงแสงเข้ามาในบ้าน
พื้นด้านนอก มีขั้นบันไดหนึ่งขั้น เนื่องจากตัวบ้านมีการยกสูงขึ้นมาจากระดับพื้นลานจอดรถอีกราวๆ 20~30 ซม.
ห้องน้ำชั้นล่าง ที่อยู่ติดกับทางเข้าตรงนี้ จะเป็นห้องน้ำแบบ Full Function ที่สามารถใช้อาบน้ำได้เลย เผื่อกรณีที่เรากั้นพื้นที่ด้านล่างทำเป็นห้องนอน คนที่นอนด้านล่างก็สามารถมาเข้าห้องน้ำตรงนี้ได้ปกติ
พื้นที่ Shower Box เล็กไปหน่อย ไม่สามารถติดฉากกั้นอาบน้ำได้ จึงต้องกั้นส่วนเปียก-ส่วนแห้ง โดยการก่อธรณีขึ้นมาแบบนี้
ส่วนอีกด้านหนึ่ง มีพื้นที่สำหรับวางโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าได้โดยไม่อึดอัด พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องกันลื่นขนาด 40×40 ซม. ส่วนผนังเป็นกระเบื้องขนาด 20×40 ซม. กระจกเงาติดมาให้แล้ว แต่ถ้าจะให้ดีผมว่าขยายขนาดให้เต็มผนังเลยครับ สวยกว่าเยอะ ใช้ประโยชน์ได้ด้วย
ด้วยความที่ห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนหลังบ้านพอดี ทำให้มีหน้าต่าง สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศออกทางนี้ได้
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ขนาดก็ไม่ค่อยใหญ่เท่าไหร่ ถ้าคนตัวใหญ่ๆนั่งแล้วอาจจะรู้สึกว่าเล็กไป
สายฉีดชำระแบบสแตนเลส
อ่างล้างหน้าเป็นแบบสำเร็จรูป ไม่ค่อยมีพื้นที่ด้านข้างให้วางของเท่าไหร่ ต้องใช้เคาน์เตอร์วางของด้านหลังแทน
พื้นที่ใต้อ่างเหลืออยู่ ความจริงสามารถใช้อ่างล้างหน้าแบบที่มีตู้เก็บของด้านล่างได้นะ
ลักษณะของกระเบื้อง จะมี Texture เป็นลวดลายแบบนี้
หัวก็อกสำหรับฝักบัวอาบน้ำ
Hand Shower หน้าตาแบบนี้ครับ สามารถปรับ Jet ได้ 3 ระดับ วางอยู่บนราวเลื่อน ปรับความสูงได้
ที่วางสบู่แบบติดผนัง หน้าตาเบสิกมากๆ ผมว่าแบบนี้ใช้งานจริงไม่ค่อยเวิร์ค นอกจากใช้สบู่ก้อน วางแชมพูก็ไม่ได้ เราหาชั้นวางใสๆมาติดเองดีกว่า
พื้นห้องน้ำ ลดระดับจากพื้นด้านนอกประมาณ 5 ซม. เพื่อกันน้ำไม่ให้เลอะเทอะออกไปด้านนอก
ถัดมาเป็นฟังก์ชั่นห้องครัว ซึ่งมีประตูเปิดออกไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้ ในครัวติดพัดลมดูดอากาศมาให้แล้ว อุปกรณ์มาตรฐานในห้องครัวที่จะได้ ก็เป็นตามที่เห็นในภาพเลยครับ
ตัวครัวจะวางอยู่ในตำแหน่งเสมือนว่ายื่นออกมาด้านข้างของตัวบ้าน ทำให้ครัวมีตำแหน่งของหน้าต่าง และประตูด้านหลังที่ตรงกัน สามารถเปิดออกเพื่อให้มีลม Flow และให้อากาศถ่ายเทในครัวได้ดีขึ้น รวมถึงเป็นครัวที่มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ ตอนกลางวันก็สามารถใช้งานได้โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟ
พื้นครัว ลดระดับจากพื้นบ้านเช่นเดียวกันกับพื้นห้องน้ำ
ภายในครัวมีเคาน์เตอร์แบบก่อปูนมาให้ ติดกระเบื้องมาให้แล้ว ท้อปครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ แต่จะไม่ได้ใส่หน้าบานมาให้
อ่างล้างจานติดมาให้แล้ว เป็นอ่างแสตนเลสธรรมดา
หัวก็อกสำหรับล้างจาน หน้าตาเบสิกมาก
ผนังด้านข้างของตัวครัว เป็นตำแหน่งที่ใช้วางเตา และติดที่ดูดควันที่ผนังตรงนี้ ซึ่งเค้ามีการปูกระเบื้องผนังมาให้แล้ว เพื่อความง่ายต่อการดูแลรักษาและทำความสะอาด
เคาน์เตอร์วางเตา ลดระดับลงมานิดนึง มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางถังแก๊ส
ประตูด้านหลัง เปิดออกไปสู่ลานซักล้างหลังบ้าน ด้านข้างมีหน้าต่างสำหรับเปิดระบายอากาศไว้ให้ด้วย กรณีที่ไม่อยากจะเปิดประตูค้างไว้
ก่อนจะออกไปยังลานซักล้างหลังบ้าน ด้านข้างทางออกตรงนี้ เค้าเตรียมท่อเอาไว้สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า จะได้ไม่ต้องเอาเครื่องซักผ้าออกไปวางด้านนอก แล้วข้างๆเครื่องซักผ้าก็คงจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นไปโดยปริยาย
เปิดประตูครัวออกมาแล้ว เจอกับพื้นที่ส่วนหลังบ้านและลานซักล้างอยู่ตรงนี้
ด้านข้างบ้านอีกฝั่งหนึ่งจะมีประตูทางเข้าสำหรับห้องแม่บ้าน และห้องน้ำสำหรับแม่บ้าน ซึ่งจะอยู่แยกออกมาจากตัวบ้าน เผื่อกรณีเราไม่อยากให้แม่บ้านเข้ามาในบ้านโดยพลการ เราก็สามารถขังเค้าไว้ในห้องนี้ได้ เอ้ยไม่ใช่ สามารถล็อคประตูบ้านเอาไว้ได้ต่างหาก
พื้นที่ลานซักล้างความจริงก็เล็กไปหน่อย มีเทปูนไว้นิดเดียวเอง ใช้งานจริงอาจจะไม่ได้สะดวกนัก
ปั๊มน้ำ เอามาติดตั้งไว้ตรงนี้แล้ว ของ Mitsubishi ครับ
ถังน้ำขนาด 1000 ลิตร ติดตั้งให้แล้วเช่นเดียวกัน
ห้องนอนแม่บ้าน จะมีหน้าต่างบานเกล็ดติดมาให้แบบนี้ ส่วนด้านในก็เป็นห้องสี่เหลี่ยมธรรมดาครับ
ห้องน้ำแม่บ้าน เป็นแบบแค่พอใช้งานได้ ไม่ได้แยกฟังก์ชั่นส่วนเปียกส่วนแห้งแต่อย่างใด แต่ก็มีหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้นะ
ส่วนอ่างล้างหน้า กับกระจกเงา ติดเอาไว้ด้านนอก เผื่อใช้งานสำหรับส่วนซักล้างด้วย
พื้นห้องน้ำ ยกระดับขึ้นสูงจากพื้นดินนอกบ้าน
กลับเข้ามาในบ้าน มาที่บันไดทางขึ้นชั้นสอง
บันไดไม้ยาง, ราวบันไดเป็นเหล็กพ่นสีขาว ส่วนโครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กครับ
ใต้บันไดมีห้องเก็บของด้วย
พื้นที่ห้องเก็บของไม่ได้ยิ่งใหญ่มาก แต่ติดหลอดไฟมาให้แล้ว
มี Door Stopper มาให้เรียบร้อย
ขึ้นมาที่บริเวณโถงบันได ตรงกลางโถงจะมีช่องแสงเพื่อเพิ่มความสว่างให้พื้นที่บันได และมีหน้าต่างให้เปิด-ปิดเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้
ที่ผนังบริเวณบันไดมีการติดโคมไฟมาให้ด้วย สองจุด
บันไดอาจจะสูงซักหน่อย แต่ไม่มีขั้นสามเหลี่ยม ถือว่าโอเคเลย สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ไม่ได้ใหญ่มากแบบนี้
ขึ้นมาถึงชั้นสอง ส่วนแรกที่จะเจอคือ ห้อง Family Room ที่อยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้งสามห้อง พื้นที่ตรงนี้สามารถจัดเป็นพื้นที่โซฟานั่งดูทีวีได้ เพื่อเป็น Common Area ให้สมาชิกในบ้านที่อยู่ชั้นสองออกมาใช้งานร่วมกัน
ห้องนอนเล็กสองห้อง อยู่ติดกันทางด้านนี้ ห้องหนึ่งอยู่ฝั่งหลังบ้าน อีกห้องอยู่ฝั่งหน้าบ้าน
มือจับประตูห้องนอน
ห้องนอนเล็กสุด จะวางอยู่ด้านฝั่งหลังบ้าน เป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว แต่จะมีผนังด้านเดียวที่อยู่ติดหน้าต่าง
ห้องน้ำภายในห้องนอนห้องแรกก็จัดออกมา Compact มาก ขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ก็สามารถใส่ฟังก์ชั่นได้ครบ
พื้นที่โถสุขภัณฑ์วางอยู่ติดกับประตูหน้าห้องแบบนี้ ขยายขนาดไม่ได้แล้ว เพราะเดี๋ยวจะติดประตูทางเข้า
ขนาดของ Shower Box เล็กไปหน่อย แต่ก็เพื่อให้ห้องนี้มีห้องน้ำในตัว เลยจำเป็นต้องลดขนาดของแต่ละฟังก์ขั่นลง
แต่ห้องน้ำห้องนี้ดีตรงที่ได้หน้าต่างบานใหญ่ เปิดระบายอากาศ ระบายกลิ่นได้ดี แถมให้แสงธรรมชาติได้ดีด้วย ถ้าติดมู่ลี่เข้าไป หรือติดฟิล์มขุ่นเข้าไป เพื่อบังสายตาจากด้านนอก ก็จะทำให้ใช้งานได้ดีเลย
ห้องนอนที่ 2 จะอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าของบ้าน เป็นห้องที่มีขนาดขยายขึ้นมาอีกนิดนึง
ห้องนี้จะอยู่ในตำแหน่งหัวมุมของบ้าน มีผนังด้านที่มีหน้าต่าง 2 ด้าน เข้ามุม รับแสงธรรมชาติได้จากสองด้านเลย
พื้นที่ภายในห้องนี้สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้ชิ้นใหญ่หน่อย เช่นตู้เสื้อผ้า หรือโต๊ะเครื่องแป้ง ก็จะใช้งานได้สมบูรณ์กว่าห้องนอนเล็กห้องแรก
แต่ฟังก์ชั่นห้องน้ำของห้องนี้ เรียกว่าเหมือนกับห้องนอนเล็กห้องแรกเลย ขนาดก็เท่ากันเป๊ะ ถ้าใครไม่คิดมากว่าห้องนอนทุกห้องต้องมีห้องน้ำของตัวเองนะ ผมอยากจะให้ทุบห้องน้ำของห้องนอนเล็กสองห้องนี้รวมกันไปเลย แล้วทำให้มีประตูเปิดเข้า-ออกได้จากทั้งสองด้าน แล้วเราจะได้ห้องน้ำที่สมบูรณ์มากขึ้น และจะได้ไม่ต้องอาบน้ำใน Shower Box แคบๆอันนี้
ส่วนห้องนอนสุดท้ายเป็น Master Bedroom ที่เป็นห้องนอนขนาดใหญ่สุด
ห้องนอนห้องนี้ Layout เป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้ามาตรฐานเลย สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ค่อนข้างง่าย และวางเฟอร์ฯชิ้นใหญ่ๆได้เลย ถ้าดูจากในรูป พื้นที่ในห้องจะถูกกั้นเป็นสองส่วน ด้านซ้ายก็เป็นส่วนที่เอาไว้วางเตียง ส่วนด้านขวา เราสามารถวางพวกโซฟานั่งเล่น หรือ วางโต๊ะทำงานตรงนั้นได้ เพราะมันอยู่ติดกับหน้าต่างพอดี หรือจะทำเป็นมุมสำหรับนั่งอ่านหนังสือก็ได้ แล้วติดชั้นวางหนังสือไว้ที่ผนังด้านข้างเลย
ห้องนอนใหญ่จะเป็นห้องเดียวที่มีระเบียงในตัวด้วย
ระเบียงอันนี้เป็นระเบียงขนาดไม่ได้ใหญ่มาก คงไม่ได้ใช้ทำอะไรจริงจังหรอก อาจจะแค่ใช้เป็นพื้นที่ยืนสูบบุหรี่ด้านนอก วางไม้กระถางเล็กๆเป็นงานอดิเรก ส่วนถ้าจะปลูกต้นไม้จริงจังๆ ก็ลงไปปลูกในสวนข้างล่างเลย มีพื้นที่เยอะแยะ แล้วก็คงไม่ได้เอาผ้ามาตากตรงนี้อยู่แล้ว
ฝั่งที่เป็นระเบียงจะอยู่ติดกับด้านหน้าบ้าน ส่วนฝั่งที่เป็นห้องน้ำจะวางอยู่ด้านหลังบ้าน อีกฟากหนึ่งของมุมห้อง
บริเวณพื้นที่หน้าห้องน้ำตรงนี้ เราสามารถใส่ Walk-in Closet รูปตัว L เข้าไปได้ด้วย ซึ่งจะมีเฉพาะ Master Bedroom เท่านั้นที่จะได้ฟังก์ชั่นนี้
พื้นที่ในห้องน้ำ Master เปิดเข้ามาแล้วก็ยังถือว่าเล็กอยู่ดี เมื่อเทียบกับห้องน้ำหลายๆที่
พอปิดประตูแล้วค่อยมีพื้นที่หายใจหน่อย วัสดุอุปกรณ์ของห้องน้ำห้องนี้จะถูกอัพเกรดขึ้นมาจากห้องน้ำห้องอื่นๆอย่างละนิดอย่างละหน่อย
ติดอ่างล้างหน้า กับกระจกเงามาให้แบบนี้ ขนาดใหญ่ขึ้นนิดหน่อย
โถสุขภัณฑ์หน้าตาเหมือนเดิม ผมว่ามันเล็กไปหน่อยนะ
สิ่งที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน คือ Shower Box ที่นอกจากจะพื้นที่ใหญ่ขึ้นแล้ว ยังสามารถติดฉากกั้นอาบน้ำเพื่อแยกส่วนเปียก-ส่วนแห้งได้ด้วย โดยเค้าจะติดเป็นกระจกนิรภัยมาให้ หน้าตาแบบนี้
ระยะการเปิดประตูโอเค แต่พื้นก็ยังไม่ได้เป็นพื้นลดระดับ ยังคงใช้การก่อธรณีอยู่ดี เวลาเดินก็ต้องระวังสะดุดนิดนึงนะครับ
ส่วนชุด Hand Shower ยังคงเป็นชุดเดิม หน้าตาแบบเดิมเด๊ะ ที่วางสบู่ก็เหมือนเดิมครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 01 April 2015
- Zania แปลง K03, K04, K12 เนื้อที่ 210 ตารางเมตร 80.40 ตารางวา ราคา 7.79 ล้านบาท
- Zania แปลง K14 เนื้อที่ 210 ตารางเมตร 82.20 ตารางวา ราคา 8.19 ล้านบาท
- Nova แปลง F25 เนื้อที่ 210 ตารางเมตร 94.20 ตารางวา ราคา 9.39 ล้านบาท (SOLD)
- Wisteria แปลง K05 เนื้อที่ 230 ตารางเมตร 90.70 ตารางวา ราคา 9.39 ล้านบาท
- Hortansia เนื้อที่ 270 ตารางเมตร 107.20 ตารางวา ราคา 11.90 ล้านบาท
- Begonia แปลง A14 เนื้อที่ 336 ตารางเมตร 123.00 ตารางวา ราคา 12.59 ล้านบาท
- จอง 50,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 50,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 20 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้าถึงเดือนธันวาคม 2558
- ค่าจดจำนอง 1% ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ (กรณีกู้ธนาคาร)
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเลของโครงการ วรารมย์ พรีเมี่ยม วัชรพล-จตุโชติ นี้ จัดว่าเป็นทำเลบุกเบิกก็ว่าได้นะครับ คือ ปัจจุบันรอบๆยังไม่ค่อยมีความเจริญอะไรเท่าไหร่ มีแค่ 7-Eleven แถวๆปากซอย แต่อาศัยว่าตัวถนนจตุโชตินี้เป็นถนนที่ตัดมาค่อนข้างใหม่ สภาพถนนดี มี 4 เลน วิ่งสะดวก มีทางเท้า และมีตัวชูโรงเป็นทางด่วนที่มาลงเกือบๆจะหน้าโครงการเลย และตอนนี้บนถนนสุขาภิบาล 5 ที่เป็นถนนเส้นหลักเส้นใหม่ในย่านนี้ก็เริ่มที่จะมีความเจริญเกิดขึ้นแล้ว มี Big-C มาตั้ง มีหมู่บ้านทยอยกันเข้ามาเปิด ทำให้เริ่มจะเป็นทำเลที่คึกคักพอสมควร
การเดินทางด้วยรถยนต์ที่สะดวก เป็นสิ่งที่เป็นจุดขายหลักของโครงการเลย เน้นกลุ่มลูกค้าที่ยอมขับรถเป็นระยะทางไกลหน่อย แต่สามารถเข้า-ออกเมืองได้สะดวก เดินทางด้วยทางด่วนเป็นหลัก มีถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกให้ใช้ได้ใกล้ๆ หรืออาจจะเป็นกลุ่มที่ใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในโซนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพ ย่านรามอินทรา-มีนบุรี-ลำลูกกา-สายไหม-สะพานใหม่ แถวๆนี้
ตัวโครงการวรารมย์เฟส 1 กับ เฟส 2 นี่จะมีลักษณะที่ต่างกันพอสมควร และควรจะพิจารณาแยกกันนะครับ
สำหรับเฟส 1 ตัวบ้านอยู่ในราคาระดับสิบล้านอัพ ที่ดินแตะขนาดร้อยตารางวาขึ้นไป สภาพโครงการได้ถนนกว้างกว่า, อยู่ใกล้สวนสาธารณะมากกว่า, ใกล้สโมสรมากกว่า มีความหนาแน่นน้อยกว่า ซึ่งก็ตามราคาที่จ่ายไปครับ
ส่วนเฟส 2 เค้าทำราคาบ้านลงในระดับราคาต่ำกว่าสิบล้าน แบ่งแปลงที่ดินขนาดเล็กกว่าเพื่อให้คนทั่วไปจับต้องได้ง่ายขึ้น แต่พยายามทำตัวบ้านให้ได้ฟังก์ชั่นใกล้เคียงกับของเดิม ซึ่งก็ต้องแลกมาด้วยความหนาแน่นที่มากขึ้น, และอยู่ห่างไกลจาก Facilities ในโครงการมากขึ้นครับ
ฟังก์ชั่นของบ้านที่นี่ ออกแบบมาสำหรับครอบครัวขนาดเล็กถึงกลางครับ สมาชิกประมาณ 4-6 คน พื้นที่ใช้สอยแต่ละส่วนทำออกมาได้สมดุลดี ติดก็แค่เรื่องของห้องน้ำที่ขนาดเล็กไปหน่อย เมื่อเทียบกับสัดส่วนของห้องอื่นๆภายในบ้าน ส่วนสิ่งที่ใหญ่ชัดเจนก็คือ พื้นที่สวนรอบๆบ้าน เพราะขนาดที่ดินเริ่มต้นแถวๆ 80-90 ตารางวา สร้างบ้านมาแค่ 200 กว่าๆตารางเมตร ยังเหลือพื้นที่อีกเกือบครึ่ง ซึ่งอาจจะเหมาะกับคนที่คิดว่าจะต่อเติม ขยาย ตัวบ้านในอนาคต
ส่วนวัสดุอุปกรณ์ของตัวบ้านไม่ได้มีอะไรหวือหวามาก เพราะถึงแม้ราคาบ้านจะอยู่ในระดับเกือบสิบล้าน แต่ไปเป็นค่าที่ดินของตัวบ้านซะเยอะแล้ว ภายในบ้านก็เลยได้วัสดุมาแบบมาตรฐานทั่วๆไป ถ้าเทียบกันในเกรดของบ้านระดับ 8-10 ล้าน ที่ขนาดที่ดินไม่ใหญ่ก็อาจจะดูด้อยกว่า แต่พอคำนวนค่าที่เข้าไปด้วย ก็อาจจะเรียกว่าสมเหตุสมผลครับ
ส่วน Facilities ของที่นี่ เทียบกับราคาต่ำกว่าสิบล้าน ถึงแม้ว่าการตกแต่งจะดูธรรมดาไปหน่อย แต่ถือว่าได้เยอะพอสมควรนะครับ เพราะได้อานิสงส์มาจากบ้านเฟส 1 ที่เค้าต้องจ่ายกันเกินสิบล้าน แต่ได้สิ่งอำนวยความสะดวกเท่ากัน ก็คือมีสโมสร, สระว่ายน้ำ, ห้องฟิตเนส, สวนขนาดใหญ่ และได้มาตรการความปลอดภัยที่ค่อนข้างครบ ตั้งแต่หน้าโครงการ ไปถึงตัวบ้าน
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 8-10 ล้านบาท (เฟส 2), 25 May 2015
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ติดถนนใหญ่จตุโชติ ใกล้ทางด่วน และ ถนนกาญจนาภิเษก
- ความปลอดภัย 8.5/10 – CCTV/Double Gate Security/รปภ. 24 ชม./กันขโมยทุกหลัง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ฟังก์ชั่นเหมาะสมกับพื้นที่ แต่ห้องน้ำน่าจะแบ่งสัดส่วนได้ดีกว่านี้
- วัสดุ 7/10 – เทียบกับราคาของบ้านระดับเดียวกันแล้วถือว่าด้อยไปหน่อย
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 9/10 – โครงการพื้นที่เยอะ เน้นพื้นที่สีเขียวทั้งภายในและภายนอกตัวบ้าน ดูแลต้นไม้ได้ทั่วถึงดี
- สาธารณูปโภค 8/10 – การตกแต่งดูธรรมดาไปนิด แต่ฟังก์ชั่นได้เยอะ มีทั้งสโมสร/สระ/ฟิตเนส/สวน/ซาวน่า ครบครัน
- 7.97 / 10.00
BOTTOM LINE
วรารมย์ พรีเมี่ยม วัชรพล-จตุโชติ เป็นโครงการที่เหมาะกับครอบครัวขนาดประมาณ 4-6 คน ที่มองหาบ้านในย่านกรุงเทพตอนเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือ ไกลจากเมืองหน่อยไม่เป็นไร เน้นใกล้ทางด่วน เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก ตัวบ้านและภายในโครงการมีพื้นที่สวนเยอะๆ มี Facilities ให้ใช้งานได้สะดวก และมีมาตรการความปลอดภัยอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ภายใต้งบประมาณ 8-10 ล้านบาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่)