พาชมตึกเสร็จ The Address ชิดลม คอนโด High Rise 2 อาคาร ในซอยสมคิด ใกล้ BTS และ เซ็นทรัลชิดลม จาก AP [รีวิวฉบับที่ 1128]

รีวิวฉบับที่ 1128 … สวัสดีค่ะ จากที่เคยพาไปชมกันแต่โครงการเปิดตัวใหม่เป็นส่วนใหญ่ วันนี้จะขอพาไปเดินเล่นดูบรรยากาศโครงการที่เค้าสร้างมานานแล้วอย่าง The Address ชิดลม คอนโดตัวแรกๆของแบรนด์นี้จาก AP ที่สร้างเสร็จมาตั้งแต่ในยุคที่คอนโดเริ่มเป็นที่นิยม ซึ่งก็ได้กระแสตอบรับดีพอสมควรในเวลานั้น ทำเลตั้งอยู่ในซอยสมคิดหรือซอยระหว่าง Central ชิดลม และ Central embassy บนย่านชิดลมที่จัดว่ามีราคาที่ดินแพงที่สุดเป็นอันดับต้นๆในประเทศ ตามไปชมกันค่ะ

Fact @ 6 July 2016

• The Address Chidlom (ดิ แอดเดรส ชิดลม)
• บริษัท เอพี(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
• LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ : ในซอย สมคิด แขวง ลุมพินี เขต ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
• คอนโด High Rise 2 อาคาร , อาคาร A 24 ชั้น อาคาร B 22 ชั้น  597 ยูนิต
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 18 ยูนิตที่ชั้น 6 – 9 อาคาร B
• ที่จอดรถประมาณ 447 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 75% 
• ที่ดินประมาณ 4.5 ไร่
• เริ่มก่อสร้าง :  2550
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ : สร้างเสร็จในปี 2552
• Studio 38 – 49 ตร.ม. ราคาขายปัจจุบันประมาณ 7 ล้านบาท
• 1 Bedroom 54.5 ตร.ม. ราคาขายปัจจุบันประมาณ  8 – 10ล้านบาท
• 2 Bedrooms 68.5 – 91.5 ตร.ม. ราคาขายปัจจุบันประมาณ 10 -18 ล้านบาท
• 3 ฺBedroom 180.5 ตร.ม.
• ราคาห้องเริ่มต้นประมาณ 6 ล้านบาท (อ้างอิงจากราคาขาย ณ ปัจจุบัน)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
• เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
• ติดต่อ  : www.bkkcitismart.com , 02-661-8999

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.747949, 100.545765

ที่ตั้งของโครงการ The Address ชิดลม นั้นตั้งอยู่ในซอยสมคิด ซอย One way ที่จะต้องเข้าจากถนนเพลินจิตและออกทางถนนชิดลม ส่วนทำเลโดยรอบเป็นจุดที่เรียกได้ว่าเป็น CBD (central business district) แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ จากความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้เคียง ที่มีทั้งสถานสถานทูต , โรงแรม 5 ดาว, อาคารออฟฟิศ grade A , ศูนย์การค้า , สวนสาธารณะขนาดใหญ่และขนส่งมวลชนอย่าง BTS ทำให้มีโครงการคอนโดมิเนียมระดับ  Luxury เกิดขึ้นมากมายเกาะกลุ่มกันอยู่บนถนน ชิดลม , ถนน วิทยุ และ ถนนหลังสวน และมีบางโครงการที่ขายในลักษณะของสัญญาเช่าระยะยาว หรือ Leasehold ซึ่งมักจะมีในทำเลที่ราคาที่ดินสูงมากๆ ซึ่งชิดลมก็ถือเป็นทำเลที่จัดได้ว่ามีราคาที่ดินแพงสุดอันดับต้นๆตกตารางวาละ 1.9 ล้านบาท (ข้อมูลจาก : AREA) เนื่องมาจากการเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่ขยายตัวสูงสุดนั่นเอง

สำหรับการเดินทางสามารถไปยังที่ต่างๆได้โดยใช้ BTS ที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีชิดลม ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 650 เมตร  BTS ชิดลมเป็นสถานีถัดจาก BTS สยาม ซึ่งมี Skywalk เหนือแยกราชประสงค์เช่นกัน โดย BTS สยามเป็นสถานี Interchange กับสายสีลม สามารถไปออฟฟิศแถวสาทร หรือไปสุดสายที่ BTS บางหว้าได้เลย แต่เนื่องจากตัวโครงการอยู่ในซอย ห่างจากถนนเพลินจิตประมาณ 450 เมตร ห่างจากถนนชิดลมประมาณ 100 เมตร ถ้าจะออกไปถนนใหญ่ก็อาจจะต้องเดินหน่อย หรือ จะใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารในซอยตลอดทั้งวัน หรือจะเรียกแท็กซี่ก็ค่อนข้างหาง่ายมากเพราะใกล้ถนนใหญ่ ส่วนการเดินทางโดยใช้รถนั้นจะอิงกับถนน 3 เส้นคือ ถนนเพลินจิตซึ่งเป็นถนนบริเวณหน้าปากซอยสมคิด สามารถใช้เส้นทางไปสยาม หรือ ไปอโศกได้ , ถนน ชิดลม ที่เชื่อมระหว่างถนนเพลินจิตและถนนเพชรบุรี โดยบริเวณต้นถนนชิดลมที่ต่อกับถนนเพลินจิตจะมีไฟเขียว-ไฟแดงทำให้อาจจะต้องรอหน่อย แต่ปริมาณรถถือว่าวิ่งได้เรื่อยๆไม่สะสม ส่วนถนนเพชรบุรีจะใกล้กับแยกประตูน้ำที่เป็นแหล่งชอปปิ้งค้าส่ง และพื้นที่มักกะสันขนาดใหญ่ที่ไม่ได้มีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่เท่าไรนัก

จุดทางขึ้น-ลงทางด่วน ถ้ามาจากตอนเหนือของกรุงเทพจะลงที่ทางลงเพลินจิตเหนือแล้วสามารถเลี้ยวขวาเข้าถนนเพลินจิตเพื่อเข้าซอยสมคิด  ส่วนทางลงทางด่วนถ้ามาจากทางใต้ของกรุงเทพจะอยู่บนถนนเพชรบุรีเลี้ยวซ้ายเข้าถนนชิดลมได้สบายๆ แล้วไปเลี้ยวเข้าซอยสมคิดอีกที ส่วนทางขึ้นก็อยู่ข้างๆกันแต่เราก็ต้องไปอ้อมอีกคือเข้าถนนราชดำริ เลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรี ไปกลับรถ ทางขึ้นทางด่วนจะอยู่ทางซ้ายมือ

ทำเลในย่านนี้เป็นย่านพาณิชยกรรมที่สำคัญ  มีความอุดมสมบูรณ์เพียบพร้อม เห็นได้จากบริเวณใกล้เคียงโครงการส่วนใหญ่จะรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าสำคัญๆ ตามแนวถนนราชดำริ ถนนพระราม 1 ถนนเพลินจิต และถนนชิดลม เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ แพลตตินั่ม ประตูน้ำ สยาม พารากอน มาบุญครอง เกษร พลาซ่า Central ชิดลม Central embassy ซึ่งแต่ละที่ที่กล่าวถึงมีผู้มาใช้บริการในแต่ละวันค่อนข้างสูงทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ  เรียกว่ามีให้เลือกมากมายตามความต้องการ โดย BTS ชิดลม เองยังมี Skywalk เชื่อมกับ Mercury ville ศูนย์การค้าฝั่งตรงข้ามฝั่งถนนหลังสวน หรือตัว Central ชิดลมเองก็มีทางเชื่อมไป Central embassy ที่ Skywalkอีกเชื่อมกับ BTS เพลินจิต และยังเดินออกไปยังถนนวิทยุหรือ Park venture โดยที่พื้นยังไม่ต้องแตะถนน ไม่เสียค่าพี่วิน ไม่เสียเวลาเดินทางด้วยรถ นอกจากนั้นก็ยังมีโรงแรม อาคารสำนักงาน เช่น Park venture, เพลินจิต เซ็นเตอร์ มีโรงพยาบาลจุฬา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงเรียนมาแตร์เดอี จุฬาลงกรณ์ และอีกมากมาย

เส้นทางที่เราจะพาไปโครงการในวันนี้จะเริ่มจาก BTS สถานีชิดลมนั่นเอง ลงจากสถานีเดินผ่าน Central ชิดลมไปเข้าซอยสมคิด ตรงเข้าซอยไปเรื่อยๆผ่านโรงแรม สวิทโฮเต็ลปาร์คนายเลิศไปก็จะเจอกับโครงการ อยู่บริเวณแยกทางเลี้ยวไปถนนชิดลม

เราจะเริ่มจาก สถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลม สายสุขุมวิทนะคะ

จาก BTS ถ้าจะไปโครงการจะต้องไปออกที่ทางออก 5 โดยสถานีนี้จะมีความสะดวกอยู่ตรงที่ (ดูแผนที่ประกอบละกันเนอะกันงง) บริเวณทางออก 5 จะทางเชื่อมเข้าไปยังตัวตึก Central ชิดลม ที่เดินลัดเลาะไปยัง Central embassy ได้ด้วย และฝั่งตรงข้ามคือ ทางออก 4 มีทางเลือกสองทาง คือทางเชื่อมตึกเข้าไปยังห้าง Mercury Ville หรือเดินลงไปยังทางเท้าด้านล่าง ทางออก 2 มีทางเชื่อมเข้าอาคารมณียาเซ็นเตอร์ และยังมี Sky walk เดินเชื่อมผ่านแยกราชประสงค์ไปทางฝั่ง BTS สยามได้

ถนนเพลินจิตเป็นถนน 6  เลน มีเกาะกั้นตรงกลาง โดยเหนือขึ้นไปเป็นรางรถไฟฟ้ายกระดับตลอดเส้น ฝั่งขวามือเป็นถนนเพลินจิตจากเส้นสุขุมวิทวิ่งเข้าสยาม ส่วนทางขวาอย่างที่บอกไปว่าจะมีรถวิ่งทั้งสองทางคือวิ่งเข้าสยามเช่นกัน และมีเลนเดียวที่วิ่งมุ่งหน้าอโศก แต่ก็จะไปสุดแค่ทางขึ้นทางด่วน เนื่องจากตรงแยกนั้นไม่สามารถให้ตรงไปยังนานาได้ มีพี่ตำรวจยืนคุมอยู่เยอะแยะ ทางฝั่งซ้ายมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่อยู่ 2 แห่งคือ Central ชิดลม กับ Central embassy ซอยสมคิดจะอยู่ระหว่างห้างทั้งสอง

เราลงมาที่ทางออก 3 นะคะ ทางด้านซ้ายจะเป็นการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นซอยหลังสวน แหล่งที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์อีกซอยหนึ่งหน้าปากซอยมีห้าง Mercury Ville อยู่

ฝั่งตรงข้ามห้าง Mercury Ville คือโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย

จากทางลงสถานีเราเดินต่อมาจะผ่าน Central ชิดลม เราจะเดินต่อไปเรื่อยๆไปเข้าซอยสมคิด

เดินต่อมา ทางด้านซ้ายที่เห็นล้อมรั้วอยู่เป็นลานทจอดรถของห้าง บริเวณนี้มีสะพานลอยข้ามไปฝั่งตรงข้ามและป้ายรถเมล์ด้วย

รูปนี้ถ่ายจากบนสะพานลอยจะเห็นอาคารสำนักงานเรียงกันเป็นแถวสมกับเป็นย่านธุรกิจ หนึ่งในนั้นคือ Park Ventures

จาก Central ชิดลมเดินตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอกับซอยสมคิด ถ้าเราข้ามถนนไปจะเป็น Central embassy

ซอยสมคิดเป็นซอย One way พอเดินเข้าซอยมา บรรยากาศสองข้างทางค่อนข้างร่มรื่นด้วยเงาไม้ ระหว่าง Central ชิดลม และ  Central embassy จะมีสะพานเชื่อมเดินถึงกันได้ ทางฝั่งซ้ายเป็นลานจอดรถของ Central ชิดลม ส่วนฝั่งขวาจะคลองเล็กๆยาวขนานไปกับถนนซอย

มองย้อนกลับไปทางหน้าปากซอย ทางฝั่งขวาจะมีบันไดทางขึ้นสะพานเชื่อมเข้าห้างทั้งสอง ซึ่งถ้าเดินออกมาจากซอยก็เดินเข้าไปได้เลย

เดินถัดมาอีกหน่อยทางฝั่งซ้ายเป็น New house Condominium คอนโดรุ่นแรกๆของ LPN

ถัดมาเป็น Somkid Gardens Condominium

ทางฝั่งขวาตลอดทั้งแนวเป็นพื้นที่ของโรงแรม สวิทโฮเต็ลปาร์คนายเลิศ

ตรงมาอีกก่อนถึงแยกทางฝั่งซ้ายจะเจอกับ The Park Chidlom คอนโด High Rise 2 อาคาร จำนวน 28 ชั้น ของ บริษัท เหมราช พัฒนาที่ดิน จำกัด

ตรงมาจนถึงแยกก็จะเจอกับโครงการ The Address ชิดลม ซึ่งจะมีทางเข้าออกอยู่ 2 ทางตรงแยกนี้เป็นทางเข้ารอง ส่วนทางเข้าหลักเราต้องเลี้ยวซ้ายตามรถไปค่ะ

เลี้ยวซ้ายเข้ามาตามทาง ฝั่งขวามือก็ยังเป็นคอนโด The Address อยู่ ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นคอนโด The Park chidlom มี 2 อาคารเช่นกัน ถนนตรงช่วงนี้จะค่อนข้างคึกคักมีรถวิ่งผ่านตลอด

เดินไปอีกหน่อยนึงก็จะถึงทางเข้าของ The Address ชิดลมแล้วค่ะ

จากโครงการถ้าตรงต่อมาอีกจนสุดจะเป็นทางออกไปเชื่อมกับถนนชิดลมซึ่งเดินรถเป็น One way เช่นกันค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

โครงการ The Address ชิดลมตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 4.5 ไร่ ในซอยสมคิด สภาพแวดล้อมรวมๆแล้วส่วนใหญ่จะรายล้อมด้วยคอนโดและโรงแรม ช่วงต้นซอยจะขนาบด้วยศูนย์การค้าชื่อดังอย่าง  Central ชิดลม และ Central embassy ถัดเข้ามามีคอนโดเก่าอย่าง New House Condominium และ Somkid Gardens Condominium ทางฝั่งขวาเป็นโรงแรม สวิทโฮเต็ลปาร์คนายเลิศ ถัดเข้ามาในซอยบริเวณแยกที่เลี้ยวไปทางถนนชิดลมจึงจะถึงโครงการ โดยมีพื้นที่รอบๆติดกับ

• ทิศเหนือ – ติดกับคลองแสนแสบ ซึ่งฝั่งตรงข้ามกึ่งกลางระหว่างอาคารวานิชกับธนาคารไทยพาณิชย์กำลังมีการก่อสร้าง โครงการ สไมล์สแควร์แบบ Mix-use
• ทิศตะวันออก – ติดกับถนนซอยและโรงแรม สวิทโฮเต็ลปาร์คนายเลิศ
• ทิศใต้ – ติดกับถนนซอย และ คอนโด The Park chidlom สูง 28 ชั้น
• ทิศตะวันตก – ติดกับอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นและถนน ชิดลม

ทิศเหนือ ติดกับคลองแสนแสบ ฝั่งตรงข้ามข้างๆธนาคารไทยพาณิชย์ที่เห็นกำลังก่อสร้างอยู่คือโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน ศูนย์รวมร้านอาหาร

ทิศตะวันออก ติดกับถนนซอยซึ่งถัดเข้าไปจะเป็นซอยตัน และฝั่งตรงข้ามเป็นทางเข้าโรงแรม สวิทโฮเต็ลปาร์คนายเลิศ

ทิศใต้  ฝั่งด้านหน้าโครงการติดกับถนนซอยสมคิด เป็นถนน 2 เลน ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโด The Park chidlom

คอนโด The Park chidlom  เป็นคอนโด 2 อาคาร สูง 28 ชั้นพัฒนาโดยบริษัท เหมราช พัฒนาที่ดิน จำกัด ส่วน ทิศใต้ จะติดกับอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นและทางออกไปถนน ชิดลมค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• โรงแรม สวิทโฮเต็ลปาร์คนายเลิศ ~ 50 เมตร
• Central ชิดลม  ~ 500 เมตร
• Central embassy ~ 500 เมตร
• อาคาร  เมอร์คิวรี่ วิลล์ ~ 615 เมตร (ระยะเดิน)
• โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ~ 700 เมตร (ระยะเดิน)
• อาคาร Park Ventures ~ 780 เมตร (ระยะเดิน)
• Central World  ~ 1.7 ก.ม.
• สยามสแควร์ ~ 2 ก.ม.
• เดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ~ 2.3 ก.ม.
• สถานเอกอัครราชฑูตสหรัฐ ~ 2.5 ก.ม.
• โรงแรม Inter Continental Bangkok ~ 2.5 ก.ม. (รวมระยะกลับรถ)
• โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ~ 2.9 ก.ม.

 

เจาะลึกตัวโครงการ

 The Address ชิดลมเป็นคอนโด High Rise ซึ่งแบรนด์ The Address จะเป็นแบรนด์คอนโดระดับ Luxury เน้นทำเลใจกลางเมืองเดินทางสะดวก โครงการมี 2 อาคาร อาคาร A มี 24 ชั้น ส่วนอาคาร B มี 22 ชั้น มีจำนวนห้องพักรวมทั้งหมด 597 ยูนิต ตกแต่งด้วยสไตล์ Art deco ที่เน้นเส้นสายและลวดลายเรขาคณิต ซึ่งภายนอกอาคารก็จะมีการติดลวดลายเป็นการตกแต่งด้วย แต่ละอาคารจะมีการวางผังห้องพักไม่เหมือนกัน เข้าโครงการมาจะมีที่จอดรถสำหรับผู้มาติดต่ออยู่ด้านนอกอาคารและมีอาคารจอดรถอยู่บริเวณอาคาร B ชั้นล่างของทั้ง 2 อาคารจะเป็น Lobby แยกของใครของมัน มีส่วนกลางคือสระว่ายน้ำ ห้องน้ำ สนามเด็กเล่น  Internet room ฟิตเนส ห้อง aerobics และ ห้องสมุดอยู่บริเวณชั้นล่าง ส่วนชั้นดาดฟ้าจะมี สวนดาดฟ้า และ ห้องเอนกประสงค์ เนื่องจากโครงการนี้สร้างมาซักระยะแล้วจึงจะเน้นพาไปเดินชมบรรยากาศส่วนกลาง และ การดูแลรักษาโครงการของนิติบุคคลเป็นหลักนะคะ 

ภาพจาก Google จะเห็นว่าทางเข้าโครงการจะมีอยู่ 2 ทางฝั่งตรงข้ามกับคอนโด The Park ชิดลม และ โรงแรม สวิทโฮเต็ลปาร์คนายเลิศ ตัวอาคารมี 2 อาคาร โดยอาคาร A อยู่ทางด้านขวามี 24 ชั้นเป็นอาคารที่มี Facilities อยู่ที่ด้านล่างและชั้นดาดฟ้าซึ่งเดี๋ยวเราพาไปชมกัน ส่วนอาคาร B มี 22 ชั้น อยู่ทางด้านซ้ายเป็นอาคารที่มีอาคารจอดรถด้วย จากทางเข้าหลักเข้ามาจะเจอกับ Drop off ให้วนรถส่งก่อน จากนั้นจึงเอารถไปจอดแต่ถ้าเป็นผู้มาติดต่อก็จอดได้ตรงที่จอดรถกลางแจ้งทางด้านขวา

อาคาร B ชั้น 1 – 5 (และชั้นใต้ดิน)จะเป็นที่จอดรถ จอดรถแบบซ้อนคันได้ประมาณ 447 คัน หรือคิดเป็น 75% ส่วนพักอาศัยของอาคาร B จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ส่วนที่พักของอาคาร A จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 3 โดยแปลนจะเป็นแบบนี้เหมือนกันตั้งแต่ชั้น 3 – 12 แต่ละอาคารมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 3 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 99.5 :  1 อาคาร A จะมีลิฟต์ Service ด้วย การวางผังห้องพักจะวางห้องแบบคละกัน โดยห้องใหญ่ๆจะอยู่บริเวณมุมของตัวอาคาร ตัวอาคารวางในแนวทิศเหนือ – ใต้ ทำให้มีน้อยห้องที่จะได้รับแดดในตอนบ่าย

พอขึ้นมาที่ชั้น 6 อาคาร B จะเริ่มมีในส่วนของห้องพักและชั้นนี้ก็จะมี Roof Garden อยู่อีกจุดหนึ่งด้วย ห้องพักของอาคาร B ก็วางคละกันโดยวางห้องใหญ่ไว้ตรงหัวมุมเช่นกัน แต่จะมีห้องที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกจะได้รับแดดตอนบ่ายที่ร้อนหน่อย

พอขึ้นมาชั้นบนๆ อาคาร B จะมีจำนวนห้องพักที่น้อยลงคือมีแค่ 13 ห้องต่อชั้นค่อนข้างเป็นส่วนตัว ส่วนใหญ่จะเป้นห้องแบบ 1 ห้องนอนส่วน 2 ห้องนอนจะเป็นห้องมุม ส่วนอาคาร A การวางห้องพักจะคล้ายๆเดิมแต่ห้องทางทิศตะวันออกจะซอยเป็นห้องเล็กๆ ส่วนชั้นอื่นๆก็จะวางผังใกล้เคียงกันแต่จะมีจำนวนห้องที่ลดลงตาม Set Back ของตัวอาคาร เราไปชมบรรยากาศของจริงกันค่ะ

ทางเข้าโครงการอยู่ติดกับถนนซอยสมคิด ทางเข้ามีอยู่ 2 ทาง ทางเข้าหลักอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคอนโด The Park ชิดลม นอกจากทางให้รถวิ่งเข้า – ออกแล้ว ยังมีทำซุ้มประตูให้คนเดินผ่าน ด้านข้างซุ้มประตูเป็นป้ายโครงการตกแต่งด้วยหินดูคลาสสิคดีค่ะ

ส่วนทางเข้ารองอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรม สวิทโฮเต็ลปาร์คนายเลิศ มีทั้งซุ้มประตูและทางให้รถวิ่งผ่านเช่นกัน

ซุ้มประตูใช้ลวดลายเรขาคณิตในการตกแต่งตามสไตล์ Art deco  ตัวประตูเป็นเหล็กตัดดูค่อนข้างแข็งแรง

บริเวณทางรถเข้าจะมีติดตั้งไม้กระดก CCTV และมีพี่ยามดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชั่วโมง

เข้ามาในโครงการเราจะเจอกับ Drop off ทางฝั่งซ้ายเป็นทางเข้า Lobby อาคาร B ส่วนทางฝั่งขวาเป็นทางเข้า Lobby อาคาร A ตรงกลางเป็นทางเดินที่มีผนังเป็นกระจกเชื่อมระหว่างอาคารทั้ง 2

หันมาทางฝั่งขวาจะเป็นที่จอดรถสำหรับผู้มาติดต่อ หรือ คนที่อยากนำรถมาจอดชั่วคราว สุดทางเป็นทางเข้าจากทางฝั่งที่ติดกับโรงแรม สวิทโฮเต็ลปาร์คนายเลิศ บริเวณนี้มีการปลูกต้นไม้ดูร่มรื่นดีค่ะ

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นอาคารจอดรถ 5 ชั้นอยู่ที่อาคาร B รวมๆแล้วจะจอดรถแบบซ้อนคันได้ประมาณ 447 คัน หรือคิดเป็น 75% ซึ่งคอนโดที่สร้างในยุคแรกๆ ที่เป็นคอนโดระดับบนเราจะได้ที่จอดรถค่อนข้างเยอะ ห้องพักของอาคาร B ก็จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ค่ะ 

ทางเข้าที่จอดรถค่ะ โดยที่จอดรถจะอยู่ในชั้น 1 – 5 ของอาคาร B และยังมีชั้นใต้ดินลงไปอีก 2 ชั้น อาคาร A มีชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ส่วนอาคาร B มีชั้นใต้ดินลงไป 2 ชั้น ทางฝั่งซ้ายเป็นทางวนรถไปด้านหลังของอาคาร

บรรยากาศโดยรวมของที่จอดรถค่ะ จอดได้เยอะพอสมควร ชั้นนี้เป็นชั้นใต้ดิน

เข้ามาที่ชั้นล่างของอาคาร B จะเจอกับโถงแจกไป Lobby ของอาคาร A และ อาคาร B

จากบริเวณโถงทางด้านซ้ายจะเป็น  Lobby ของอาคาร B เราจะเข้าไปดูกันที่นี่กันก่อน

ด้านใน Lobby B มีชุดโซฟาที่นั่งวางอยู่ 2 ชุด ถัดเข้าไปเป็นห้องจดหมาย และ ทางเข้าโถงลิฟต์กั้นด้วยประตูกระจกอีกชั้นหนึ่งเพื่อความปลอดภัย การตกแต่งทั้งหมดจะเน้นรูปทรงเรขาคณิต พื้นมีการตีเป็นกรอบสี่เหลี่ยม ผนังมีการทำซุ้มมีคิ้วบัว ฝ้าเพดานจะมีการทำเป็นฝ้าหลุมค่ะ

ตู้จดหมายและทางเข้าโถงลิฟต์อาคาร B อยู่ข้างๆกัน โดยตู้จดหมายจะแยกอาคารใครอาคารมันอยู่บริเวณ Lobby

ห้องจดหมายตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม มีซ่อนไฟด้านล่าง

ทางเข้าไปโถงลิฟต์จะมีประตูกั้นอยู่อีกจุดหนึ่งเพื่อความปลอดภัย

ภายในโถงลิฟต์ตกแต่งด้วยหิน เน้นรูปฟอร์มเรขาคณิตเหมือนกับ Lobby

บริเวณใกล้ๆกับทางเข้าโถงลิฟต์ของอาคาร B จะมีร้านซักรีดอยู่ด้วย

ติดๆกันคือห้อง Business Center สามารถใช้นั่งอ่านหนังสือ ทำงาน หรือจัดเป็นห้องประชุมเล็กๆได้

ภายในห้อง Business Center มีชุดโต๊ะเก้าอี้ให้ 2 ชุด บรรยากาศค่อนข้างเงียบ

ออกมาจาก Lobby B หันมาทางซ้ายจะเป็นทางไปห้องน้ำ

ห้องน้ำบริเวณ Lobby แยกเป็นห้องชาย – หญิงมาให้ สำหรับผู้มาติดต่อหรือใช้ในกรณีเร่งรีบ

ออกจาก Lobby B จะเจอกับทางเชื่อมถัดไปจึงเป็น Lobby A

ระหว่างทางเดินไปอาคาร A จะเป็นโถงทางเดินที่ผนังโดยรอบเป็นกระจก และฝ้าเพดานสูง ตรงช่วงนี้จึงค่อนข้างโปร่ง และ โล่งเนื่องจากมีแสงธรรมชาติเข้ามา

ด้านนอกมีการจัดเป็นสวนหย่อมเล็กๆแบบนี้

เข้ามาในอาคาร A จะเจอกับ Lobby ก่อน ซึ่ง Lobby ในอาคารนี้บรรยากาศจะดูโปร่งและโล่งกว่า Lobby อาคาร B เนื่องจากฝั่งด้านหน้าอาคารจะเป็นผนังกระจก ต่างกับ Lobby อาคาร B ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดทั้งหมด

ถัดจาก Lobby อาคาร A จะเป็นทางไปพื้นที่ส่วนกลางซึ่งจะกั้นด้วยประตูกระจกอีกชั้นหนึ่ง จะต้องมีคีย์การ์ดเท่านั้นถึงจะผ่านเข้าไปใช้บริการได้ ส่วนที่เห็นเป็นประตูทางด้านซ้ายเป็นทางเข้าโถงลิฟต์อาคาร B ทางด้านขวาเป็นที่นั่งพักคอย

ผนังก่อนทางเข้าโถงลิฟต์จะมีบอร์ดติดผังแต่ละชั้นมาให้กัน ส่วนโถงลิฟต์ถ้าจะเข้าจะต้องมีคีย์การ์ดในการผ่านเข้าไปค่ะ

อีกฝั่งเป็นที่นั่งพักคอย จัดที่นั่งเป็นชุดโซฟาแยกกัน 2 ฝั่ง ผนังบริเวณนี้เป็นกระจกทำให้สามารถนั่งชมวิวได้หรือถ้านัดพบใครอยู่นั่งตรงนี้ก็จะเห็นได้ชัดเจนค่ะ

เรามาต่อกันในโซนของพื้นที่ส่วนกลาง เข้ามาปุ๊ปจะเจอกับสระว่ายน้ำซึ่งมีบางส่วนเป็น Semi outdoor คือมีหลังคาคลุมด้านบน

และมีสระเด็กและสระที่มีจากุชชี่ บริเวณเสาตกแต่งด้วยโคมไฟตอนกลางคืนก็จะมี Lighting จากตรงส่วนนี้และฝ้าเพดาน

ส่วนทางด้านซ้ายของสระว่ายน้ำ เราจะเจอกับสนามเด็กเล่น มีเครื่องเล่นให้คุณหนูๆปีนป่ายพอสมควร

ขึ้นบันไดมาจะเจอกับ Internet Room และ ทางไปห้องน้ำ

ห้อง Internet จะมีคอมพิวเตอร์ และ Wi-Fi ให้บริการฟรี สามารถลงมาใช้เล่น Internet หรือนั่งทำงานได้

ต่อมาคือห้องน้ำแยกชาย หญิง บริเวณก่อนทางเข้าตกแต่งด้วยผนังปูนรูปนูนต่ำเป็นลวดลายจากธรรมชาติ

บรรยากาศในห้องน้ำจะคล้ายๆกัน ขอพาชมภายในห้องน้ำหญิงนะคะ ห้องนี้กว้างพอสมควร ตกแต่งด้วยหินอ่อน คนที่มาใช้บริการถ้ามาจากสระว่ายน้ำก็จะใกล้หน่อย

มีทั้งห้อง Steam ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องแต่งตัว

และห้อง Sauna ให้เลือกใช้บริการ

ขึ้นไปดูต่อกันที่ชั้น 2 ค่ะ ผนังด้านข้างตกแต่งด้วยผนังปูนนูนต่ำแบบเดียวกับที่ติดหน้าทางเข้าห้องน้ำ

ชั้น 2 จะมีในส่วนของห้องสมุด และ ห้อง Game Room ช่วงเย็นๆมีคนมาใช้บริการพอสมควร

ภายในห้องสมุดมีทั้งมุมที่เป็นที่นั่งโซฟาชุดใหญ่ และที่นั่งแยกส่วนตัว

ถัดจากห้องสมุด เดินมาอีกทางก็จะเจอกับห้องฟิตเนส และ ห้องแอโรบิค

ภายในห้องฟิตเนสวางเครื่องออกกำลังกายได้เยอะพอสมควร พื้นเป็นพรมซึ่งจะช่วยได้เรื่องกันกระแทกได้ดี แต่แม่บ้านต้องหมั่นทำความสะอาดหน่อยเพราะมันเก็บฝุ่นได้เช่นกัน

จาก Facilities ชั้น 2 ขึ้นมาที่ชั้นดาดฟ้าของอาคาร A จะมีห้องสันทนาการ สำหรับใช้จัดงาน หรือ ประชุม ถ้าจะขอใช้พื้นที่ก็สามารถแจ้งทางนิติบุคคลได้

และก็จะมี Roof Garden หรือสวนดาดฟ้าให้เราได้ชมบรรยากาศวิวด้านบนของใจกลางเมือง

พื้นจะปูด้วยหญ้าเทียม มีปลูกไม้พุ่มเป็นจุดๆ และมีสนามพัตต์กอล์ฟเล็กๆ

ส่วนโถงลิฟต์ของโซนห้องพักชั้นบน การตกแต่งก็จะคล้ายๆกับชั้นล่าง โดยลิฟต์โดยสารจะมีอาคารละ 3 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการอยู่ที่ 99.5 :  1 ตามมาตรฐาน ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นทางไปบันไดหนีไฟ

หน้าลิฟต์ตกแต่งด้วยหินอ่อนแบบนี้ค่ะ

โถงทางเดินกว้างพอใช้ได้ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้มีทำเป็นลวดลายสี่เหลี่ยมเป็นระยะๆ ซึ่งคอนโดสมัยใหม่เราจะไม่ค่อยได้เห็นการทำลวดลายในลักษณะนี้

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำ 1 สระ แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
• สนามเด็กเล่น
• ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
• ห้องแอโรบิค
• Steam & Sauna
• สวนหย่อมรอบโครงการ
• Private Lobby
• Business Center
• Internet Room
• ห้องสมุด และ Game Room
• Recreational Room หรือ ห้องสันทนาการ
• สวนดาดฟ้า
• ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อ/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 99.5 :  1
• อัตราส่วนลิฟท์ตึก A  117 : 1
• อัตราส่วนลิฟท์ตึก B  83 : 1
• Service Lift 1 ตัว ที่อาคาร A
• ที่จอดรถประมาณ 447 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 75%
• ระบบ CCTV / Access Card

 

Product Walkthrough

สำหรับตัวห้องพักจะมีความแตกต่างกับโครงการปัจจุบันในเรื่องของขนาดห้องที่จะค่อนข้างใหญ่กว่า และ มีการให้วัสดุบางอย่างค่อนข้างดีแต่เนื่องจากโครงการนี้เป็นคอนโดที่สร้างเสร็จมานานพอสมควร และ มีคนเข้ามาพักอาศัยแล้วจึงยังไม่สามารถเข้าไปเก็บรูปภาพห้องมาให้ชมกันได้ จึงขอเลือกนำแปลนห้องที่มีการประกาศขายกันอยู่แต่ละแบบ มาวิเคราะห์ให้ชมกันก่อนนะคะ หากมีโอกาสไปเก็บภาพห้องจริงๆมาจะเอามา Update ให้ชมกันอีกทีค่ะ

เริ่มจากห้อง Studio 42 ตร.ม. ห้องนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นห้องสตูดิโอ แต่ก็มีขนาดกว้างพอสมควรเลย เข้ามาจะเจอกับครัวที่มีโต๊ะทานข้าววางเข้ามุมอยู่ ครัวเป็นครัวเปิดเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยทำอาหารกินเองมากนัก เน้นซื้อเข้ามาทานในห้อง เคาน์เตอร์ครัวมีขนาดยาวพอสมควร ด้านข้างมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าและตู้เย็น ฝั่งตรงข้ามเป็นทางเข้าห้องน้ำซึ่งห้องน้ำจะมีทั้งพื้นที่อาบน้ำและอ่างอาบน้ำ ผนังตรงอ่างอาบน้ำจะเป็นกระจก ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็สามารถหาม่านหรือมูลี่มาติดเอาได้ค่ะ ถัดเข้าไปเป็นห้องนอนที่ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้าเป็นแนวยาว ด้านข้างเตียงฝั่งที่ติดกับผนังห้องน้ำมีพื้นที่ให้วางชุดโต๊ะรับแขกเล็กๆได้ ถัดไปเป็นเตียง ฝั่งตรงข้ามเตียงมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน และจะมีระเบียงเล็กๆพอให้วาง Condensing Unit แอร์ เป็นการจัดห้องที่ค่อนข้างครบทุกฟังก์ชั่น เน้นการใช้พื้นที่ในห้องมากกว่าพื้นที่ระเบียง

ถัดมาเป็น 1 Bedroom 54.5 ตร.ม. ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ของครัวเปิดเช่นเคย แต่โต๊ะทานข้าวจะวางที่นั่งได้เป็น 4 ที่นั่ง ประโยชน์ของการเข้าห้องมาก็เจอเคาน์เตอร์ครัวเลยคือพอถือของหนักๆมาก็เอามาวางพักไว้ก่อนได้ ถัดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่นที่ติดกับพื้นที่ของระเบียง อีกฝั่งเป็นห้องนอนค่อนข้างกว้าง ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน ชั้นวางทีวี และตู้เสือผ้า ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนมีทั้งพื้นที่อาบน้ำและอ่างอาบน้ำเช่นกัน ซึ่งถ้ามีแขกก็จะต้องเดินผ่านห้องนอนอาจจะเสียความเป็นส่วนตัวหน่อย แต่ก็ได้ห้องน้ำขนาดค่อนข้างกว้างเหมาะกับการใช้งานค่ะ

2 Bedroom 68.5 ตร.ม. ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับครัวเปิด โต๊ะอาหารแบบ 4 ที่นั่งถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นที่ติดกับระเบียงคล้ายๆกับห้องแบบ 1 ห้องนอนเลย แต่ห้องนี้จะมี 2 ห้องนอนขนาบอยู่ซ้ายขวาทั้งสองห้องมีห้องน้ำในตัว ทางด้านซ้ายเป็นห้องนอนใหญ่การจัดผังห้องนอนคล้ายๆกับห้องแบบ 1 ห้องนอนคือมีเตียง ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน ชั้นวางทีวี และตู้เสือผ้า ห้องน้ำก็จะได้อ่างอาบน้ำและมีผนังกระจกเช่นเดิม มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าหน้าห้องน้ำอีก 1 จุด อีกฝั่งของห้องเป็นห้องนอนเล็กวางเตียงได้แบบ 3.5 ฟุต มีระเบียงเล็กๆให้วาง Condensing Unit แอร์ ในห้องจะมีพื้นที่เหลือโดยจะวางเป็นตู้เสื้อผ้ายาวๆแบบในรูปก็ได้ หรือ จัดเป็นโต๊ะทำงานก็ได้ หรือถ้าซื้ออยู่คนเดียวห้องนี้ก็จัดเป็นห้องทำงานได้ ห้องนี้จะมีห้องน้ำด้วยแต่มีแค่พื้นที่อาบน้ำ ไม่มีอ่างอาบน้ำ สามารถเข้าได้ทั้งจากทางด้านนอกบริเวณหน้าห้องครัว และ ในห้องนอน ทำให้เวลาแขกไปใครมาก็ใช้ห้องน้ำห้องนี้ได้

สุดท้ายคือห้องแบบ 3 Bedroom 180.5 ตร.ม. หรือห้องแบบ Penthouse ห้องนี้ไม่ได้มีประกาศขายแต่เอาแปลนมาให้ชมกัน เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ครัวเปิด ถัดไปเป็นพื้นที่จ่อเนื่องกันของห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร ที่ด้านนอกเป็น กับ Terrace และมีสระน้ำส่วนตัว มีห้องน้ำที่มีพื้นที่อาบน้ำอยู่บริเวณห้องครัว อีก 2 ฝั่งของห้องเป็นห้องนอน ห้องนอนใหญ่อยู่ทางฝั่งซ้ายเป็นห้องที่มีห้องอาบน้ำแบบมีอ่างอาบน้ำในตัว อีกฝั่งแบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องวางเตียง Queen Size ได้ 1 ห้อง อีกห้องเป็น Sing Size แต่จะได้ในส่วนของพื้นที่ระเบียงเพิ่มมาทำให้ไม่อึดอัดจนเกินไปค่ะ

สำหรับโครงการนี้ เราตั้งใจไปเก็บข้อมูลเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังตัดสินใจซื้อคอนโดมือสอง เนื่องจากโครงการสร้างเสร็จมานานพอสมควร ข้อมูลบางอย่างอาจจะไม่ครบถ้วน สามารถแนะนำหรือบอกกล่าวกันได้นะคะ ^^

**รายละเอียดต่างๆเก็บข้อมูลจากการสอบถามเจ้าของห้อง และ เจ้าหน้าที่ขาย หากผิดพลาดหรือคาดเคลื่อนบอกกล่าวกันได้นะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 6 July 2016

• Studio ชั้น 7  เนื้อที่ 41 ตร.ม. ราคา 7.50 ล้านบาท หรือ 182,926 บาท/ตร.ม.
• Studio ชั้น 15  เนื้อที่ 39 ตร.ม. ราคา 6.80 ล้านบาท หรือ 174,358 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom ชั้น 7 เนื้อที่ 66 ตร.ม. ราคา 9.20 ล้านบาท หรือ 139,393 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom ชั้น 17 เนื้อที่ 57.32 ตร.ม. ราคา 8.90 ล้านบาท หรือ 155,268 บาท/ตร.ม.
• 2 Bedroom ชั้น 19 เนื้อที่ 73 ตร.ม. ราคา 9.90 ล้านบาท หรือ 135,616 บาท/ตร.ม.
• 2 Bedroom ชั้น 20 เนื้อที่ 79 ตร.ม. ราคา 12.00 ล้านบาท หรือ 151,898 บาท/ตร.ม.

• Fully Fitted หรือตามรายละเอียดการขายของเจ้าของห้อง 
• Kitchen & Sink
• Hob & Hood
• Shuttle Bus ไปกลับ BTS ชิดลม
• ค่ากองทุน 650 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคาประกาศขาย ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

The Address ชิดลมตั้งอยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่ามีที่ดินที่แพงที่สุดในประเทศ เนื่องจากเป็นย่าน CBD ใจกลางเมืองที่มีครบทั้ง โรงแรม 5 ดาว, อาคารสำนักงาน grade A , ศูนย์การค้า , สถานทูต , สวนสาธารณะ และขนส่งมวลชนอย่าง BTS จากความครบครันของทำเลจึงทำให้มีคอนโดในระดับบนๆเกิดขึ่นมากมายทั้ง High Rise และ Low Rise เนื่องจากราคาที่ดินที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาอสังหาฯของย่านนี้ขยับตามจนล่าสุดในปีนี้มีการซื้อขายที่ดินราคาสูงถึง ตารางวาละ 1.9 ล้านบาท และคอนโดในช่วงหลังก็มีราคาเฉลี่ยที่สูงมากๆ จนมีหลายโครงการหันมาพัฒนาในลักษณะของ Leasehold หรือสัญญาเช่าในระยะยาว จึงทำให้สนใจย้อนกลับไปดูโครงการเก่าๆในย่านนี้ที่พัฒนามาแล้วหลายปีว่าเค้าทำออกมาในรูปแบบไหน โดยโครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดี ในซอยสมคิด ใกล้ Central ชิดลม และ Central embassy ภายในซอยนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียม และ โรงแรม ด้านหลังโครงการเป็นคลองแสนแสบซึ่งฝั่งตรงข้ามกำลังมีการพัฒนาโครงการในลักษณะ Mix – use ประกอบด้วยศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน ศูนย์รวมร้านอาหาร

สำหรับสถานที่สำคัญโดยรอบย่านนี้ถือเป็นย่านธุรกิจที่รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าสำคัญๆ เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ แพลตตินั่ม ประตูน้ำ สยาม พารากอน มาบุญครอง เกษร พลาซ่า Central ชิดลม Central embassy นอกจากนั้นก็ยังมีโรงแรม อาคารสำนักงาน เช่น Park venture, เพลินจิต เซ็นเตอร์ มีโรงพยาบาลจุฬา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงเรียนมาแตร์เดอี จุฬาลงกรณ์ และอีกมากมาย

การเดินทางโดยใช้รถเนื่องจากโครงการตั้งอยู่ใจกลางเมือง ถ้าไม่นับเรื่องการจราจรที่ติดขัดแล้ว ถือว่าค่อนข้างสะดวกสามารถใช้ถนนเพลินจิตไปสยาม หรือ ไปอโศกได้  ใช้ถนนชิดลมเชื่อมระหว่างถนนเพลินจิตและถนนเพชรบุรี  และใช้ถนนเพชรบุรีไปออกในย่านประตูน้ำซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ค้าส่ง ค้าปลีกที่สำคัญ และยังใกล้ทางขึ้นลงทางด่วน เอาไว้หนีรถติดในช่วงเร่งด่วนได้ อีกจุดที่คอนโดมือสองมักมีให้มากกว่าคือที่จอดรถโดยโครงการนี้มีที่จอดรถประมาณ 447 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 75% ถือว่าค่อนข้างเยอะสามารถนำรถมาจอดได้สบายๆ 

การเดินทางโดยไม่ใช้รถถือว่าสะดวกเพราะใกล้ BTS ถึงแม้ว่าโครงการจะอยู่ในซอยต้องเดินออกมาหน่อย แต่ก็สามารถเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือ แท็กซี่ได้ และสถานีชิดลมจะมีความสะดวกอยู่ตรงที่มีทางเชื่อมต่อเข้าสถานที่ต่างๆหลายเส้นทาง ได้แก่บริเวณทางออก 5 จะทางเชื่อมเข้าไปยังตัวตึก Central ชิดลม ที่เดินลัดเลาะไปยัง Central embassy ได้ด้วย และฝั่งตรงข้ามคือ ทางออก 4 มีทางเลือกสองทาง คือทางเชื่อมตึกเข้าไปยังห้าง Mercury Ville หรือเดินลงไปยังทางเท้าด้านล่าง ทางออก 2 มีทางเชื่อมเข้าอาคารมณียาเซ็นเตอร์ และยังมี Sky walk เดินเชื่อมผ่านแยกราชประสงค์ไปทางฝั่ง BTS สยามได้ ทำให้ค่อนข้างสะดวกในการเดินทาง

วัสดุที่ให้ถือว่าให้ครบตามมาตรฐาน ค่อนข้างไปทางดีเมื่อเทียบกับโครงการในปัจจุบัน ตั้งแต่พื้นไม้ที่ได้แบบปาร์เก้ ระบบแอร์แบบฝังในฝ้าเพดาน และชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำที่จะได้อ่างอาบน้ำมาด้วย ซึ่งรายละเอียดเรื่องวัสดุของโครงการมือสองนั้นหลายๆห้องมีการตกแต่งต่อเติมซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายห้องว่า ห้องได้เราได้อะไร คุ้มค่าหรือไม่ มีทั้งห้องที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งอย่างดี และห้องที่ขายเป็นห้องเปล่าๆ อย่างไรก็ตามต้องพิจารณาสภาพห้องประกอบด้วยว่าอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่

การออกแบบตัวอาคารทำออกมาในสไตล์ Art deco ซึ่งจะมีการเล่น Pattern พื้น ฝ้า ผนัง มีการใช้ลวดลาย ซึ่งรวมๆก็ออกมาดูหรูดี การวางผังแยกเป็น 2 ตึกแต่ทั้ง 2 อาคารนั้นไม่ได้บังวิวกัน ในแต่ละชั้นจัดจำนวนห้องพักไว้ไม่เยอะทำให้ได้ในเรื่องของความสงบและความเป็นส่วนตัว ส่วนในห้องก็ทำฟังก์ชั่นออกมาได้ค่อนข้างดี มีพื้นที่ใช้สอยที่เยอะกว่าหรือมีขนาดห้องที่ใหญ่กว่าห้องที่ขายกันในปัจจุบัน แต่มีแบบห้องเยอะเกินไปหน่อย

สาธารณูปโภคจัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างเยอะ ชั้นล่างมี Lobby แยกของใครของมัน มีสระว่ายน้ำทั้งสระเด็กและผู้ใหญ่ มีสระแบบจากุชชี่ มีห้องน้ำที่มีห้อง Steam & Sauna และห้องแต่งตัว  มีสนามเด็กเล่นและGame Room ให้คุณหนูๆเล่นกัน มี Internet room , Business Center และ ห้องเอนกประสงค์ที่บริเวณดาดฟ้าสำหรับใช้อ่านหนังสือ ทำงาน หรือประชุม  มีฟิตเนส , ห้อง aerobics ให้ออกกำลังกาย  มีห้องสมุดให้มานั่งเล่นอ่านหนังสือ และโดยรอบโครงการมีสวนหย่อมปลูกต้นไม้ค่อนข้างร่มรื่น อีกทั้งยังมีสวนดาดฟ้าจะมี สวนดาดฟ้าให้ขึ้นไปชมวิวบนยอดตึก และสำหรับโครงการที่สร้างมานานพอสมควรแล้ว สภาพโครงการถือว่าทางนิติบุคคลยังดูแลให้อยู่ในสภาพดีค่ะ

 

Judgement

เนื่องจากเป็นโครงการที่ขายหมดแล้ว ซึ่งปัจจุบันรูปแบบการขายเปลี่ยนแปลงเป็นแบบ Re-sale ซึ่งค่อนข้างมีความแตกต่างกันไปทั้งเรื่องของวัสดุ การตกแต่งภายในห้อง รวมทั้งเรื่องของราคาที่ค่อนข้างหลากหลายขึ้นอยู่กับทำเลห้องได้อยู่ชั้นสูงหรือชั้นล่าง ตกแต่งครบ ความพอใจราคาจากการตกลงกันระหว่างคนซื้อและคนขาย ดังนั้นจึงไม่สามารถให้คะแนนในรีวิวนี้ได้ค่ะ

BOTTOM LINE

The Address ชิดลม เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดมือสองระดับ Luxury ทำเลใจกลางเมืองในย่านธุรกิจ ใกล้รถไฟฟ้าและศูนย์การค้า เดินทางสะดวก ชอบใช้ Facilities และ ชอบห้องที่มีขนาดใหญ่ มีงบประมาณระดับ  7 ล้านขึ้นไป  หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 50,000 บาท/เดือนขึ้นไป

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )