นานๆทีจะเห็น AP ปล่อยโปรดักส์ “บ้านกลางกรุง” ออกมาให้จับจองกับโครงการใหม่ “บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57″ ซึ่งคราวนี้ได้ทำเลดีอยู่ติดกับโครงการรุ่นพี่อย่างบ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์-พระราม 3 แต่ตัวบ้านแตกต่างจากเดิมเป็นบ้านแฝด 5 ชั้นและบ้านเดี่ยว 6 ชั้น ได้พื้นที่ใช้สอยจัดเต็มขึ้น ในราคาเริ่มต้น 65 ล้านบาท เรา Survey ดูแล้วโครงการบ้านส่วนใหญ่ในโซนนี้จะเป็นของ Local Developer แต่หากใครมองหาบ้านจาก Top 10 Developers ก็ลองชมรายละเอียดและจุดเด่นของโครงการนี้กันเลย

  • บ้านสไตล์ Modern Classic Luxury สูง 5-6 ชั้น ต่างจากบ้านเดี่ยวส่วนใหญ่ในโซนนี้ที่สูง 3-4 ชั้น ที่นี่จึงมี Rooftop ให้ขึ้นไปนั่งเล่นแบบ Outdoor รับลม ได้จริงจัง ได้วิวเมืองมุมสูง
  • ออกแบบฟังก์ชันให้มีพื้นที่อเนกประสงค์และห้องนั่งเล่นถึง 4 จุด บ้านเดี่ยวจอดรถได้ 5 คัน และ Type ใหญ่สุดจอดได้ถึง 6 คันเลยค่ะ
  • เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพื่อนบ้านเพียง 9 ยูนิต มีรั้วรอบขอบชิดและ รปภ. 24 ชั่วโมง
  • รองรับการอยู่อาศัยในระยะยาว โครงสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูนจึงปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ในอนาคต และงานระบบน้ำ-ไฟที่เข้า Maintenance ได้ง่ายจากทุกชั้น
  • ติดตั้งประตูกันไฟ และบันไดหนีไฟติดตั้งไว้ในชั้น 2-6
  • ทำเลใจกลางพระราม 3 มีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมครบครัน ทั้งอาหารการกิน ห้างสรรพสินค้า โรงเรียนและโรงพยาบาลชั้นนำ รวมถึงเดินทางเข้าแหล่งงานสำคัญอย่าง สาทร-สีลม-พระราม 4 ได้ง่าย
  • ใช้ระบบ KATSAN บริหารจัดการการเข้า-ออกผ่าน Application ได้ และติดตั้งเทคโนโลยี Smarthome ในบ้านช่วยอำนวยความสะดวกและเสริมความปลอดภัย

รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ตามไปชมกันค่ะ

ข้อมูลโครงการ

บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 (Baan Klang Krung Sathupradit 57) ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2568

 ชื่อโครงการ   บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 (Baan Klang Krung Sathupradit 57)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จํากัด มหาชน
 SEGMENT CLASS   SUPER LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ซอยสาธุประดิษฐ์ 57 เขตยานนาวา
 ที่ดิน 2-2-73.97 ไร่
 จำนวนยูนิต 9 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • TRIBECA (ไทรเบก้า) บ้านแฝด 5 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 61.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ครัว / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / ลิฟต์โดยสาร
  • SOHO (โซโห) บ้านเดี่ยว 6 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 78.64 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 620 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 2 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ห้องนั่งเล่น / 2 ครัว / 5 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / ลิฟต์โดยสาร
  • RINCON (รินคอน) บ้านเดี่ยว 6 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 120.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 915 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 2 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ห้องนั่งเล่น / 2 ครัว / 6 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / ลิฟต์โดยสาร / สระว่ายน้ำ

 ราคา   เริ่มต้น 65-130 ล้านบาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2567
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  Q4 ปี 2568 (เสร็จบางส่วน)
 เว็บไซต์โครงการ  https://apthai.ly/UFxFW1
 โทร   1623

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.678472746038988, 100.5324328917106
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

  • ทำเลใจกลางพระราม 3 มีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมครบครัน ทั้งอาหารการกิน ห้างสรรพสินค้า โรงเรียนและโรงพยาบาลชั้นนำ รวมถึงเดินทางเข้าแหล่งงานสำคัญอย่าง สาทร-สีลม-พระราม 4 ได้ง่าย

โครงการบ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 ตั้งอยู่บนทำเลพระราม 3 ซึ่งเดิมทีเคยถูกขนานนามว่าเป็น “ทำเลทองแห่งอนาคต” เพราะเป็นพื้นที่รองรับการเจริญเติบโตของย่านเศรษฐกิจสำคัญอย่างสีลม-สาทร แต่ดันมาเกิดวิกฤตช่วงปี 2540 ซะก่อน จึงทำให้การลงทุนต่าง ๆ ชะลอตัวกันไป ซึ่งหากมองแค่ศักยภาพของทำเลพระราม 3 จะเห็นว่าย่านนี้มีจุดเด่นไม่น้อยเลยนะคะ ทั้งเป็นพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีถนนสายสำคัญหลายสายตัดผ่าน และที่สำคัญคือใกล้แหล่งเศรษฐกิจสำคัญอย่างสีลม-สาทร จึงทำให้ทำเลนี้เป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน คอนโดและที่พักอาศัยระดับ High End มากมาย

ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการบ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 จะอยู่ภายในซอยสาธุประดิษฐ์ 57 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนสาธุประดิษฐ์และถนนวงแหวนอุตสาหกรรม และยังใกล้กับถนนพระราม 3 ที่แยกสาธุประดิษฐ์ด้วย ทำเลนี้เดินทางได้หลากหลายและเข้าไปยังแหล่งงานสำคัญอย่าง สีลม สาทร พระราม 4 ได้ง่าย

แถมยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เริ่มตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า เช่น Central พระราม 3, The Up พระราม 3, Asiatique และ Terminal 21 พระราม 3 นอกจากนั้นก็จะมีโรงเรียนชั้นนำ เช่น ร.ร.นานาชาติ King’s College International School, ร.ร.นานาชาติ Shrewsbury International School, ร.ร.อัสสัมชัญ ศึกษา, อัสสัมชัญ บางรัก, อัสสัมชัญ คอนแวนต์, อัสสัมชัญ พาณิชย์, ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน วิทยาลัย, ร.ร.เซนโยเซฟ คอนแวนต์ รวมถึงโรงพยาบาลชั้นนำอย่าง BNH, เซนหลุยส์, กรุงเทพคริสเตียน

ด้วยศักยภาพของพื้นที่ในย่านนี้ทำให้โครงการในละแวกนี้มักจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง ชนิดที่แตะกลุ่ม Luxury Class ขึ้นไปทั้งนั้น และด้วยความที่เป็นชุมชนอยู่อาศัยเก่าแก่ดั้งเดิม ที่ทำการรวมแปลงที่ดินได้ค่อนข้างยาก ทำให้นาน ๆ ทีจะมีโครงการแนวราบโผล่ขึ้นมา หรือถ้ามีให้เห็นก็มักจะเป็นโครงการขนาดเล็ก-กลางของ Local Developer ซะเป็นส่วนใหญ่ โครงการของ Top 10 Developers อย่าง AP นานๆ จึงจะได้เห็นสักโครงการค่ะ

เนื่องจากซอยสาธุประดิษฐ์ 57 เป็นซอยที่เชื่อมต่อได้ทั้งถนนสาธุประดิษฐ์, ถนนพระราม 3 ถนนรัชดาภิเษกและถนนวงแหวนอุตสาหกรรม จึงทำให้เรามีทางเลือกให้ใช้เข้า-ออกได้หลากหลาย ซึ่งหลักๆเราแบ่งออกเป็น 4 เส้นทางคือ

หมายเลข 1 : จากถนนรัชดาภิเษกสามารถใช้ถนนสาธุประดิษฐ์มายังโครงการได้สะดวก ซึ่งถนนรัชดาภิเษกเป็นถนนหลักที่มีทั้ง Central พระราม 3 และ King’s College อีกทั้งยังเป็นจุดขึ้นลงทางด่วนในการเข้าออกเมือง หรือจะเดินทางไปโซนสาทรก็ใช้เส้นทางนี้ได้

หมายเลข 2 และ 3 : จากถนนพระราม 3 เราสามารถเลือกใช้งานได้ตามสะดวกอย่างหมายเลข 2 ก็เข้าทางถนนสาธุประดิษฐ์ได้ หรือหมายเลข 3 ก็เข้าโครงการผ่านซอยปริยานนท์ จากถนนพระราม 3 นี้จะเดินทางไปโซนเจริญกรุง, เจริญนคร, ท่าพระ, วงเวียนใหญ่ ได้สะดวกเลยค่ะ

หมายเลข 4 : จากถนนวงแหวนอุตสาหกรรมสามารถใช้ซอยสาธุประดิษฐ์ 57 เพื่อเข้ามาที่โครงการได้ ซึ่งถนนวงแหวนนี้ใช้เชื่อมเข้าถนนยานนาวา, สะพานภูมิพล, วงแหวนอุตสาหกรรม และโซนพระประแดงได้

ตัวช่วยในการเดินทาง

Image 1/2
จากโครงการถึงจุดขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านพระราม 3

จากโครงการถึงจุดขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านพระราม 3

โครงการนี้มีทางด่วนอยู่ใกล้ๆ เลยค่ะ คือทางพิเศษเฉลิมมหานคร ซึ่งสามารถใช้เข้าออกเมืองได้สะดวกเลย

1. ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านพระราม 3 : ใช้เข้าเมืองไปทางสาทร, พระราม 6, พระราม 4, วิภาวดี, รัชดาฯ, รามอินทรา ไปได้หลายเส้นทางมากๆ
2. ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านสาธุประดิษฐ์ : ใช้ออกนอกเมืองไปโซนสุขสวัสดิ์, พระราม 2 

นอกจากนี้ในอนาคตยังมีโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในปัจจุบัน หากสร้างเสร็จจะสามารถเดินทางจากถนนพระราม 3 ไปถึงพระราม 2 ได้รวดเร็วขึ้นโดยใช้สะพานคู่ขนานพระราม 9 วิ่งไปทางสุขสวัสดิ์ ไม่ต้องไปข้ามสะพานพระราม 3 แบบเดิม

Image 1/2
จากโครงการถึง King's Collage

จากโครงการถึง King's Collage

อีกจุดเด่นหนึ่งของโครงการที่น่าสนใจคือ ใกล้โรงเรียนนานาชาติ King’s College International School ในระยะประมาณ 2.9 km. โดยโรงเรียนนี้จัดเป็นสาขาที่ 3 จากอังกฤษ เพิ่งเปิดรับนักเรียนครั้งแรกในปี 2563 ตั้งแต่ระดับ Pre-Nursery ไปจนถึง Year 10 และจะเปิดเพิ่มต่อในปีถัดไปจนถึง Year 13 เลยค่ะ

อีกโรงเรียนนานาชาติใกล้ๆ ที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กันก็คือ Shrewsbury International School อยู่ในระยะ 5.8 km. เป็นโรงเรียนนานาชาติระบบอังกฤษ ขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพครูและ Facility ที่ทันสมัย มีกิจกรรมเสริมที่หลากหลาย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

โครงการบ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 ตั้งอยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 57 ติดกับโครงการรุ่นพี่อย่างบ้านกลางกรุงสาธุประดิษฐ์-พระราม 3 จัดเป็นแหล่งชุมชนพักอาศัยดั้งเดิมในย่านพระราม 3 สภาพแวดล้อมรอบโครงการส่วนใหญ่จึงเป็นกลุ่มที่พักอาศัย สรุปได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้นและคอร์ทแบตมินตัน
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยสาธุประดิษฐ์ 57 ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ โครงการบ้านกลางกรุงสาธุประดิษฐ์-พระราม 3
  • ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น

บริเวณหน้าโครงการติดกับซอยสาธุประดิษฐ์ 57 เป็นถนน 2 เลนไปกลับ ซอยนี้ไม่เปลี่ยวเลยค่ะ มีรถผ่านไปมาอยู่เสมอ เพราะเป็นซอยที่ใช้เป็นทางลัดออกได้หลายเส้นทางตามที่อธิบายไว้แล้วนะคะ

บรรยากาศรอบๆ จะเป็นบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ แต่บางอาคารก็เปิดเป็นร้านค้าในตึกแถว และใกล้ๆ ประมาณ 50 m. ก็มี 7-11 ด้วยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ตลาดรุ่งเจริญ ~ 2.2 km.
  • Homepro พระราม 3 ~ 2.5 km.
  • Central พระราม 3 ~ 2.6 km.
  • Terminal 21 พระราม 3 ~ 3.5 km.
  • Asiatique The Riverfront ~ 5.9 km.
  • Iconsiam ~ 9 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ~ 5.1 km.
  • โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ~ 5.4 km.
  • โรงพยาบาลเมดพาร์ค ~ 7.8 km.
  • โรงพยาบาลไอเอ็มเอช ~ 10.2 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจ กรุงเทพ ~ 2.9 km.
  • โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา ~ 3.3 km.
  • โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพฯ ~ 5.8 km.
  • Hampton International Pre-School (Sathorn) ~ 6.4 km.
  • โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูส์ สาทร ~ 8.2 km.
  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ~ 9.9 km.

การเดินทาง

  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านสาธุประดิษฐ์ ~ 2.5 km.
  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านพระราม 3 ~ 2.5 km.

อื่นๆ

  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่พระรามที่ 3 ~ 2.5 km.
  • ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานพระราม 3 ~ 4.6 km.

รายละเอียดโครงการ

บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดที่มีความสูง 5-6 ชั้น ซึ่งแตกต่างจากโครงการอื่นในโซนนี้ที่มักจะสูง 3-4 ชั้นเท่านั้น ทำให้แต่ละชั้นออกแบบมาเป็น Penthouse ที่ส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคน แต่การสร้างบ้าน 6 ชั้นต้องมีการออกแบบเพื่อความปลอดภัยที่มากกว่าอาคารทั่วไป เราอธิบายให้ฟังอย่างนี้ค่ะ

  • บ้านที่สูง 6 ชั้นแต่สูงไม่เกิน 23 เมตร ทางกฎหมายไม่ได้บังคับให้ต้องมีบันไดหนีไฟแยก เพราะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล พื้นที่ใช้สอยต่อชั้นไม่มากและจำนวนคนอยู่อาศัยไม่เยอะ จึงสามารถใช้บันไดหลักในการหนีไฟได้ แต่ทางโครงการก็ทำบันไดหนีไฟแยกไว้ให้ ในแง่ของการอยู่อาศัยเราว่าดีนะ เพราะทางหนีไฟเดินลงง่ายดีค่ะ
  • ในแง่ของงานก่อสร้างบ้าน 6 ชั้นยังต้องเตรียมงานระบบน้ำ, ไฟ, อินเตอร์เน็ต ให้ใช้งานได้อย่างดีทุกชั้น มีช่องชาร์ปทุกชั้นเพื่อให้ Maintenance ง่าย เป็นต้นซึ่งทำให้บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 ได้บ้านทรงสูงที่สามารถขึ้นไปรับลมชมวิวบน Rooftop ได้สูงกว่าเพื่อนบ้านรอบๆ ด้วย ก่อนไปชมบ้านเราจะพาไปชมรายละเอียดของโครงการกันก่อน

โครงการบ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 เป็นโครงการบ้านขนาดเล็กจำนวน 9 ยูนิต จึงไม่ได้จัดสรร แต่ออกแบบมาให้มีรั้วรอบขอบชิด มีรปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง, มี CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 7 จุด เรียกว่าได้ระบบรักษาความปลอดภัยเหมือนโครงการจัดสรรเลย

จาก Masterplan จะเห็นได้ว่ามีถนนหลักอยู่ติดรั้วฝั่งหนึ่ง ทำให้บ้านส่วนใหญ่ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามนะ ตอนนี้เปิดให้จับจองได้ 5 แปลง จึงมีบ้านให้เลือก 2 ทิศคือ ตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งบ้านทิศตะวันออกเฉียงใต้จะได้แสงหน้าบ้านในช่วงเช้า ห้องที่อยู่ทางด้านหลังบ้านจะได้แสงในช่วงบ่าย ส่วนบ้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะได้หน้าบ้านที่ร่มในช่วงเช้า เหมาะกับคนที่ชอบนอนดึก ทำงานดึก แล้วตื่นสายหน่อยค่ะ

ประตูเข้าออกโครงการเป็นประตูบานเลื่อนแบบทึบมองเข้าไปไม่เห็นด้านในเลยนะคะ ซึ่งประตูจะเปิดอัตโนมัติด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียนจึงใช้งานได้สะดวก

โครงการรักษาความปลอดภัยด้วยระบบ KATSAN สามารถบริหารจัดการการเข้า-ออกผ่าน Application ได้

จริงๆ แล้วโครงการได้ติดตั้งไม้กั้นกระดกไว้อีก 1 ระบบ เผื่อในช่วงเวลากลางวันที่ลูกบ้านผ่านเข้าออกบ่อยๆ ก็สามารถเลือกใช้เฉพาะไม้กั้นกระดกเพื่อความรวดเร็วในการผ่านเข้าออกได้

ถนนหลักกว้าง 8 เมตร ปูผิวถนนด้วยคอนกรีตแสตมป์ และเดินสายไฟลงดินทั้งหมด ทำให้บรรยากาศดูเรียบร้อยเลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ประตูรั้วโครงการแบบประตูเลื่อนไฟฟ้า
  • รักษาความปลอดภัยด้วยระบบ KATSAN สามารถบริหารจัดการการเข้า-ออกผ่าน Application ได้
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 7 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • ถนนในโครงการกว้าง 8 เมตร
  • พื้นคอนกรีตแสตมป์ทั้งโครงการ
  • ใช้ O-Gutter ระบายน้ำได้ดีและพื้นเป็นระนาบเดียวกัน
  • เดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

แบบบ้าน

โครงการบ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 ออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic Luxury ให้บรรยากาศที่ดูโก้หรู ทันสมัย แต่ยังคงดีเทลที่คลาสสิค เช่น การใช้บัวประดับผนัง, รูปทรงหน้าต่างแบบดั้งเดิม ตัวบ้านใช้สีโทนอ่อนเป็นหลัก ตัดกับสีเทาเข้มและสีดำบางส่วน โดยมีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

  • TRIBECA (ไทรเบก้า) บ้านแฝด 5 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 61.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ครัว / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / ลิฟท์โดยสาร
  • SOHO (โซโห) บ้านเดี่ยว 6 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 78.64 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 620 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 2 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ห้องนั่งเล่น / 2 ครัว / 5 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / ลิฟท์โดยสาร
  • RINCON (รินคอน) บ้านเดี่ยว 6 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 120.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 915 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 2 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ห้องนั่งเล่น / 2 ครัว / 6 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / ลิฟท์โดยสาร / สระว่ายน้ำ

แบบบ้านทั้งหมดออกแบบมารองรับครอบครัวที่มีสมาชิก 3-5 คน แม้ไม่มีห้องนอนชั้นล่างก็มีลิฟท์ให้ขึ้นลงได้สะดวก จึงอยู่กันได้หลาย Generation เลยค่ะ แต่ปัจจุบันจะเปิดให้จองแค่ SOHO แบบเดียว ซึ่งเป็นแบบบ้านที่เราจะพาไปชมในวันนี้นะคะ

ในส่วนของของ TRIBECA จะเป็นบ้านแฝด 5 ชั้น จึงเป็น Type เริ่มต้นของโครงการ และ RINCON จะเป็นบ้าน Type ใหญ่สุดของโครงการ ซึ่งเป็นแบบเดียวที่มีสระว่ายน้ำในตัว แต่ทั้ง 2 แบบนี้ต้องรอติดตามรายละเอียดจากทางโครงการอีกทีนะคะ ว่าจะเปิดให้จองได้ตอนไหน


บ้านตัวอย่าง : บ้านเดี่ยว 6 ชั้น แบบ SOHO (โซโห)

ตัวบ้านมีขนาดใหญ่ทีเดียว สูงถึง 6 ชั้น ก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูนด้วยอิฐ Q-Con ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในได้ ในส่วนของฟังก์ชันมีความน่าสนใจ ดังนี้

  • จอดรถได้ถึง 5 คัน
  • มีลิฟท์ส่วนตัว ขนาดรองรับวีลแชร์ได้
  • มีครัวไทยอยู่ชั้นล่างไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม
  • มีห้องนั่งเล่นและห้องอเนกประสงค์ถึง 4 ห้อง สามารถใช้สอยตามไลฟ์สไตล์ได้
  • วิว 360 องศา บน Rooftop เห็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
  • Master Bedroom ได้พื้นที่เต็มชั้น พื้นที่กว้างทั้งห้องนอนและห้องน้ำ
  • ใส่เทคโนโลยีต่างๆ มาในตัวบ้านเยอะ เพื่อให้อยู่อาศัยอย่างสะดวกสบายและเสริมความปลอดภัย

โครงสร้างและงานระบบสำหรับอาคารสูง

  • บันไดหนีไฟโครงสร้างเหล็ก มีชุดประตูเหล็กทนไฟ SPR แบบบานทึบกั้นแยกเป็นกิจจะลักษณะ
  • มีประตู Service ช่องชาร์ปแต่ละชั้น
  • ตู้ไฟแยกแต่ละชั้น

สรุปวัสดุภายในบ้าน/ ห้อง

  • โครงสร้างแบบ Conventional ก่อด้วยอิฐ Q-Con
  • หลังคาทำเป็น Rooftop พื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมปูกระเบื้อง
  • ผนังตกแต่งรั้วภายนอก กรุด้วยกระเบื้องลายหิน
  • ที่จอดรถลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้าน (บางส่วน) และ On Ground (บางส่วน) ปูพื้นด้วยกระเบื้อง พร้อมต่อเติมหลังคาที่จอดรถยี่ห้อ Bluescope
  • ประตูหลักเป็นบานอลูมิเนียมลายไม้ของ Tostem
  • Digital Door Lock ยี่ห้อ Lockin รุ่นที่ได้รางวัล IDA Design Awards มาพร้อมเทคโนโลยีการจดจำเส้นเลือดดำบนฝ่ามือ ที่ใช้กันแพร่หลายในระบบธนาคาร
  • ผนังภายในติด Wallpaper ทั้งหลัง
  • พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้
  • พื้นชั้น 2-6 : พื้นไม้ปาร์เก้ไม้สักแท้
  • พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องพอร์ซเลน
  • บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ปาร์เก้ ราวจับบันไดไม้สักแท้
  • ลิฟท์ Schneider ระบบไฮดรอลิก 400 kg. (5 person)
  • สุขภัณฑ์ Villeroy & Boch และ Kohler หรือเทียบเท่า
  • Magic Mirror มีระบบไล่ฝ้าหน้ากระจก, โชว์เวลาและอุณหภูมิ, มีหลอดไฟรอบกระจกเพิ่มความสว่าง, มีลำโพงสามารถต่อ Bluetooth เชื่อมกับโทรศัพท์ได้ เฉพาะ Master Bathroom และ Bathroom ในห้องนอนรอง
  • Built-in ชุดครัวพร้อมหน้าบาน, Top หิน และซิงค์ยี่ห้อ Teka
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว ได้แก่ Hob&Hood และ Microwave ยี่ห้อ Kupperbusch
  • ระบบไฟ 3 เฟส 200 แอมป์
  • ซุ้มประตูรายแปลงสูง 2.8 เมตร

นวัตกรรมภายในบ้าน

  • Magnetic Sensor หน้าต่างทั้งชั้น 1 และ 2
  • Shock Sensor เฉพาะหน้าต่างชั้น 1
  • Motion Sensor บริเวณบันได
  • IP Camera/Wifi Camera มีให้ 2 จุดคือ โรงจอดรถและห้องนั่งเล่นชั้น 1
  • Smart Video Door Bell สามารถ Video Call กับ Visitor ได้ก่อนเปิดให้เข้าบ้าน
  • Smart Station เชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกตัวของ LifeSmart เข้าด้วยกันและคอยเชื่อมต่อ Internet ให้เข้ากับอุปกรณ์ทุกตัวของ LifeSmart
  • SPOT Mini ควบคุม/สั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าแทนรีโมต เช่น ทีวี, แอร์, เครื่องเสียง เป็นต้น สามารถตั้งเวลา เปิด/ปิด ผ่าน Smartphone ได้
  • CUBE Clicker ปุ่มฉุกเฉิน ติดตั้งให้ 2 จุดในห้องน้ำชั้น 1 และชั้น 2
  • Smart Switch สวิตซ์ไฟอัจฉริยะที่สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิด และสั่งงานได้จาก Smartphone
  • CUBE Motion Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ทำงานร่วมกับ Smart Switch ติดตั้งบริเวณบันได
  • Smart Plug ปลั๊กไฟอัจฉริยะที่สามารถเปิด-ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ผ่าน Smartphone และสามารถตั้งเวลาการทำงานได้เองโดยอัตโนมัติ
  • Smoke Detector เซนเซอร์สำหรับตรวจจับควันไฟ อุปกรณ์จะส่งข้อความเข้าสมาร์ทโฟนได้ทันที
  • General Controller อุปกรณ์ควบคุมอัจฉริยะ โดยการเชื่อมต่อสายเข้ากับอุปกรณ์ที่เราต้องการควบคุม เช่นมอเตอร์ประตูไฟฟ้า หรืออุปกรณ์กันขโมย
  • Solar Cell 3.3 kW ขยายได้ถึง 5.5 kW (0.55 Kw เป็นจำนวน 6 แผง) แบบ On Grid
  • Smart OxyFlow กรองฝุ่น pm 2.5 ด้วย HEPA Filter, ช่วยลดอุณหภูมิในบ้านและช่วยเติมอากาศใหม่เข้ามาในบ้าน ติดตั้งให้ตั้งแต่ชั้น 2-5
  • EV Charger Zaptec จากประเทศ Norway

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ชั้น 1

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บ้านของโครงการวางบ้านชิดฝั่งหนึ่งของแปลงที่ดินเพื่อแบ่งพื้นที่ด้านข้างเป็นพื้นที่จอดรถ จัดเป็นที่จอดรถแบบซ้อนกันได้ถึง 5 คัน ส่วนพื้นที่รอบบ้านจะเว้นระยะถอยร่นตามกฎหมายเป็นพื้นที่สำหรับวางงานระบบและปลูกต้นไม้ได้นิดหน่อยในโซนข้างหลังบ้านค่ะ

พื้นที่ภายในบ้านจัดฟังก์ชันหลักไว้เป็น Guest Living ขนาดใหญ่มากจริงๆ รองรับแขก 10 คนยังไหว หรือถ้านัดครูสอนพิเศษมาที่บ้านโซนนี้ก็เหมาะเลยค่ะ มีห้องน้ำแบบ Powder Room รองรับในโซนนี้ครบ

ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็นครัวไทย ซึ่งโครงการทำห้องครัวไทยมาให้แบบเป็นกิจจะลักษณะ ไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม รวมถึง Built-in เคาน์เตอร์ครัว พร้อมติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วนมาด้วย แถมมี Laundry Room แยกมาให้เป็นสัดส่วน สำหรับแม่บ้านก็จะมีห้องนอนและห้องน้ำแยกไว้ต่างหาก เข้าถึงได้จากภายนอกบ้านแยกส่วนจากตัวบ้านชัดเจนค่ะ

รั้วบ้านและประตูแบบทึบให้ความเป็นส่วนตัวมากๆ มองไม่เห็นข้างในตัวบ้านเลย แต่ก็ซ่อนฟังก์ชันอย่างถังขยะ, ตู้พัสดุ, ตู้ไฟไว้ได้อย่างเรียบร้อย

ถ้ามีพนักงานไปรษณีย์หรือ Grab มาส่งของ เราสามารถเห็นได้ว่าใครมายืนรอหน้าบ้าน ผ่าน Smart Video Door Bell ที่ทำให้เรา Video Call กับ Visitor ได้ค่ะ

ตู้จดหมายออกแบบมาเป็นตู้ใส่ซองจดหมายตามปกติ และตู้ไซส์ใหญ่สำหรับส่งพัสดุ แก้ปัญหาการส่งพัสดุตากแดดไว้ตามรั้วบ้าน และยังทำให้หน้าบ้านดูสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นด้วย

ผ่านประตูคนเดินเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ให้เดินเชื่อมเข้าตัวบ้านได้สะดวก ข้างๆ มีต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มที่ทางโครงการให้มาเป็น Standard เลยนะคะ

สังเกตว่าที่รั้วจะมีประตูเล็กๆ อยู่ 3 บาน ซ้ายสุดคือประตูตู้จดหมายที่เราพาไปชมเมื่อสักครู่ ถัดมาทางฝั่งขวาจะเป็นตู้ใส่ขยะ ที่เราสามารถรวมขยะมาทิ้งไว้ในตู้นี้เพื่อให้รถขยะมาเก็บไปได้สะดวก แต่หากลูกบ้านลงความเห็นกันว่าไม่อยากให้มีรถขยะเข้ามาในโครงการก็สามารถโหวตให้แต่ละบ้านนำขยะไปทิ้งด้านหน้าโครงการเพื่อให้รถเก็บขยะของทางเขตมาเก็บที่หน้าโครงการจุดเดียวก็ได้ อันนี้ขึ้นอยู่กับการตกลงร่วมกันของบ้านทั้ง 9 หลังในโครงการได้เลยนะคะ

ส่วนประตูขวาเป็นตู้เก็บงานระบบไฟที่ทางโครงการเดินสายลงใต้ดินไว้ให้ หากต้อง Maintenance ก็มาเปิดที่ตู้ได้อย่างเป็นสัดส่วนค่ะ

ที่จอดรถข้างบ้านเป็นทรงตัว L กว้างประมาณ 6 เมตร ลึกเกือบ 20 เมตรเลยนะคะ จึงสามารถจอดรถตอนลึกแบบซ้อนคันได้ 3 คัน รถยาวแบบ Alphard ก็จอดได้ ที่ต้องระวังคือซุ้มประตูสูง 2.8 เมตร หากเป็นรถที่ดัดแปลงให้สูงพิเศษต้องดูระยะให้ดีๆ ค่ะ

ส่วนอีก 2 คันจะเป็นที่จอดซ้อนคันแบบ Parking Lift ซึ่งทางโครงการจะติดตั้งมาให้เป็น Standard เลยค่ะ ที่จอดรถในส่วนนี้จะลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้าน ปูพื้นด้วยกระเบื้อง แต่พื้นส่วนอื่นจะเป็นการเทพื้นแบบ Slab On Ground ซึ่งโครงการจะตัด Joint แยกที่จอดรถกับตัวบ้านไว้ให้ เผื่อมีการทรุดตัวจะไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างบ้านค่ะ

ภายในที่จอดรถจะมีห้องเก็บของและห้องงานระบบไฟที่มีประตูบานเลื่อนปิดเรียบร้อย

โครงการได้ติดตั้ง EV Charger ยี่ห้อ Zaptec จากประเทศ Norway มาให้พร้อมใช้งาน

ประตูหลักของตัวบ้านเป็นบานอลูมิเนียมลายไม้ของ Tostem แม้เป็นบานใหญ่แต่น้ำหนักเบามากนะคะ เปิดได้ง่ายไม่หนักเลยค่ะ และประตูเปิดได้ 2 ฝั่ง กว้างกว่า 2 เมตร จึงสามารถยกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ เข้าได้สบาย

มือจับเป็น Digital Door Lock ยี่ห้อ Lockin รุ่นที่ได้รางวัล IDA Design Awards มาพร้อมเทคโนโลยีการจดจำเส้นเลือดดำบนฝ่ามือ ที่ใช้กันแพร่หลายในระบบธนาคาร

Guest Living

Image 1/2
Guest Living

Guest Living

เมื่อเข้าบ้านมาส่วนแรกเป็น Guest Living กว้างๆ ในบ้านตัวอย่างวางโซฟาชุดใหญ่ไว้ให้เห็นว่าห้องนี้รองรับแขกได้เป็น 10 คนเลยนะคะ ฝ้าเพดานชั้นนี้สูงถึง 3.5 เมตร ทำให้บรรยากาศดูโปร่งสบายดีเลย ใครอยากติดแชนเดอเลียร์ที่ไม่ยาวมากตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ช่วยให้ห้องดูหรูหราดีนะ

ในบ้าน Standard จะได้เป็นห้องเปล่า ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และผนังติด Wallpaper ทั้งหลังค่ะ

Image 1/2
Guest Living

Guest Living

เราคิดว่าภายใน Guest Living สามารถแบ่งพื้นที่เป็น Foyer สำหรับจัดเป็นพื้นที่โชว์ของสะสม งานศิลปะ หรือ Art Toy สวยๆ ตามแบบที่ผู้อยู่อาศัยชอบได้เลย และยังเหมาะจะกั้นเป็นห้องเก็บรองเท้าและมุมนั่งใส่รองเท้า เพื่อให้สะดวกในการใช้งานด้วยค่ะ

เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องแรกที่ติดกับหน้าบ้านเลย นอกจากใช้รับแขกได้สะดวกแล้ว ยังสามารถจัดเป็นพื้นที่เรียนพิเศษของลูกๆ ก็ลงตัวดีนะคะ

เทคโนโลยีในโซนนี้ก็จะมี IP Camera, Magnetic Sensor และ Shock Sensor บริเวณหน้าต่างชั้น 1 ส่วนหน้าต่างชั้น 2 จะติดตั้งให้เฉพาะ Magnetic Sensor นะคะ และใกล้ๆ กับประตูจะมีแผงจอควบคุมอัจฉริยะแบบ Touch Screen ขนาด 7 นิ้ว ที่สามารถใช้ควบคุม Smart Home ภายในบ้านได้และเชื่อมต่อ Video Door Bell หน้าบ้านเพื่อพูดคุยกับคนที่มาติดต่อได้

ภายในบ้านตัวอย่างได้ต่อเติมห้องอเนกประสงค์อีก 1 ห้อง ซึ่งอยู่ติดกับ Guest Living แต่ก็ทำให้เสียพื้นที่จอดรถบริเวณ Parking Lift ไปนะ จึงเหลือพื้นที่จอดรถ 3 คัน และข้างๆ กันเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room และห้องงานระบบที่รวมอุปกรณ์ควบคุมไฟและอินเตอร์เน็ตไว้ที่ห้องนี้ค่ะ

ห้องอเนกประสงค์ที่ทางบ้านตัวอย่างต่อเติมเพิ่มขึ้นมา เผื่อเป็นไอเดียให้กับครอบครัวที่อยากเปลี่ยนที่จอดรถให้เป็นพื้นที่ใช้สอยในบ้าน

พื้นที่โซนหลังบ้านจะเป็น Service Zone จึงมีผนังขนาดใหญ่บังไว้ เหลือพื้นที่ทางเดินด้านข้างที่ตรงกับกรอบรูป ทำให้ทางเดินมีจุดนำสายตา เป็นมุมที่สวยดีนะคะ

Service Zone ของบ้าน Standard จะมีประตูบานเลื่อนสำหรับกั้นห้องครัวไว้เป็นมาตรฐาน ราวบันไดไม่ได้ก่อผนังทึบเต็มถึงฝ้าเพดานแต่ก็เป็นส่วนที่ตกแต่งเพิ่มเองได้ไม่ยาก

ครัวไทย

Image 1/4
ครัวไทยพร้อมเคาน์เตอร์ครัว

ครัวไทยพร้อมเคาน์เตอร์ครัว

ห้องครัวไทยของที่นี่ดูเป็นกิจจะลักษณะถือเป็นของหายากในบ้านโซนนี้นะคะ เราไปดูมาหลายโครงการบางที่ต้องต่อเติมครัวไทยเพิ่มเอง แต่ที่นี่จะ Built-in เคาน์เตอร์มาให้พร้อมหน้าบานตามแบบในบ้านตัวอย่างเลย

ในบ้าน Standard จะไม่เหมือนในแปลนตรงที่เค้าจะทุบ Laundry รวมกับห้องครัวเลย ซึ่งต้องลองสอบถามรายละเอียดส่วนนี้กับทางโครงการอีกทีนะคะ

Image 1/3
Hob and Hood จาก Kuppersbusch

Hob and Hood จาก Kuppersbusch

เคาน์เตอร์ครัวเป็น Top หิน มาพร้อมอุปกรณ์ภายในครัวได้แก่ ซิงค์ล้างจาน เตาและเครื่องดูดควัน รวมถึงไมโครเวฟ ซึ่งให้ของยี่ห้อดังอย่าง Kuppersbusch และ Teka นะคะ

ออกมาด้านหลังบ้านจะเป็นลานซักล้าง ซึ่งเป็นทางเดินเชื่อมไปยังห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้าน ทางโครงการวางตำแหน่งไว้ให้เข้าจากนอกบ้านได้ ทำให้เวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ก็สามารถปิดล็อคตัวบ้านได้โดยไม่กระทบต่อการอยู่อาศัยของแม่บ้านค่ะ

ห้องนอนแม่บ้านมีขนาดพอเหมาะกับการอยู่อาศัยคนเดียว ภายในห้องมีหน้าต่างให้เปิดรับลม ให้อากาศถ่ายเทได้ ส่วนห้องน้ำก็จัดฟังก์ชันไว้ครบตามมาตรฐาน

กลับมาต่อกันที่โถงบันไดกว้างถึง 1.2 เมตรเลยเดินขึ้นลงสวนกันได้สะดวก บันไดจะใช้โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยปาร์เก้ไม้สัก ส่วนราวจับบันไดเป็นไม้สักแท้ ให้มาพร้อมไฟ LED ตามแนวขั้นบันได

หากใครขี้เกียจเดินก็สามารถขึ้นลิฟท์ได้ ซึ่งทางโครงการติดตั้งมาให้แล้วเป็นลิฟท์ยี่ห้อ Schneider ระบบไฮดรอลิค ขึ้นชื่อในเรื่องของการเคลื่อนที่ที่นุ่มนวลและการขึ้นลงที่รวดเร็ว

ขนาดของลิฟท์มีขนาดประมาณ 1.5 x 1.5 เมตร จึงเข็นวีลแชร์เข้าไปได้สะดวก รับน้ำหนักได้ถึง 400 kg. หรือประมาณ 5 คนเลยค่ะ

ชั้น 2

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

จัดเป็นชั้นที่รวมฟังก์ชันของการพักอาศัยร่วมกันในครอบครัว ทั้ง Living Area + Dining Area + Pantry ครัว ซึ่งเปิดโล่งเชื่อมถึงกันทำให้พื้นที่ดูกว้างขวาง และมีห้องน้ำแบบ Powder Room บนชั้นนี้อีก 1 ห้อง

ตำแหน่งของลิฟท์และบันไดจะอยู่ติดกับบันไดหนีไฟ โดยชุดประตูเหล็กเป็นประตูทนไฟ SPR แบบบานทึบ ซึ่งเราชอบโครงการที่มีบันไดหนีไฟเป็นกิจจะลักษณะแบบนี้ดูจะใช้งานง่าย และปลอดภัย

บันไดหนีไฟโครงสร้างเหล็ก โดยแต่ละขั้นกว้างประมาณ 60 ซม. พอให้เดินผ่านไปทีละคนได้ และมีราวกันตกให้จับไปตลอดทาง

นอกจากนี้ในแต่ละชั้นจะมีตู้ไฟแยกไว้ให้ทุกชั้น หากชั้นไหนมีปัญหาก็จะได้เช็คง่าย ซึ่งจะถูกซ่อนไว้ในผนัง จึงดูเรียบร้อยสวยงาม

อย่างที่เกริ่นไปว่าชั้นนี้จะรวมไว้ทั้ง Living Area + Dining Area + Pantry ครัว จึงได้พื้นที่ขนาดใหญ่เต็มชั้น น่าจะเป็นห้องโปรดของสมาชิกในครอบครัวที่มาทานอาหาร นั่งดูทีวีร่วมกัน ซึ่งพื้นที่โต๊ะอาหารจะอยู่ติดกับ Pantry ครัว จึงใช้งานได้ต่อเนื่อง

Image 1/2
Dining Area

Dining Area

พื้นที่ทานอาหารเพียงพอสำหรับวางโต๊ะขนาด 6-8 ที่นั่งได้เลย รองรับทั้งครอบครัวขนาดใหญ่และการจัดงานปาร์ตี้เล็กๆ ภายในครอบครัว เราชอบที่ตำแหน่งของโต๊ะอยู่ตรงกับตำแหน่งของหน้าต่างพอดี จึงมองเห็นวิวภายนอกได้ด้วยค่ะ

พื้นบ้านบนชั้นนี้ปูด้วยพื้นไม้ปาร์เก้ไม้สักแท้ จึงทนทานและดู Homey ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร ทำให้บรรยากาศโปร่งโล่งไม่อึดอัด

สังเกตว่าที่พื้นจะมีการซ่อนปลั๊กไฟเอาไว้ด้วย หากทำเคาน์เตอร์ครัวแบบ Island ก็มีระบบไฟไว้รองรับ

Image 1/3
Pantry ครัว

Pantry ครัว

พื้นที่ของ Pantry ครัวมีขนาดใหญ่พอที่จะ Built-in ชุดครัวพร้อม Island ได้เลย ซึ่งโครงการจะเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและซิงค์ล้างจานต่างๆ ไว้ให้ แต่ก็เหมาะจะทำอาหารที่ไม่ได้มีกลิ่นควันฉุนมากนัก หรือจัดเป็นบาร์สำหรับเตรียมเครื่องดื่มก็ดูจะเหมาะสำหรับมุมนี้นะคะ

ข้างเคาน์เตอร์ครัวจะมีช่องชาร์ปให้เปิด Service ได้สะดวก ซึ่งทางโครงการจะมีช่องชาร์ปให้เปิด Maintenance ได้ในแต่ละชั้น

Image 1/2
Living Area

Living Area

สำหรับ Living Area จัดเป็นพื้นที่เข้ามุมติดหน้าต่าง มุมนี้เหมาะกับวันที่ไม่ได้มีแขกมาหา สมาชิกในครอบครัวก็สามารถดูหนัง ทานข้าว อย่างใกล้ชิดกันที่ห้องนี้ พื้นที่มีขนาดใหญ่แบบที่วางชุดโซฟา 5-6 ที่นั่ง พร้อมทีวีขนาดใหญ่แบบ 100 นิ้วขึ้นไปได้เลยนะคะ

Image 1/2
Multi-Purpose Room

Multi-Purpose Room

Multi-Purpose Room เป็นห้องที่ออกแบบมาให้มีระแนงบังสายตาจากภายนอก จึงมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าห้องอื่น เหมาะจะใช้เป็นห้องดูหนัง ร้องคาราโอเกะ หรือเป็นห้องทำงานอดิเรกก็ดูเป็นสัดส่วนดี

สำหรับบ้านตัวอย่างตกแต่งไว้เป็นห้องทำงานของดีไซน์เนอร์ มีพื้นที่พอสำหรับจัดวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่และมีมุมนั่งพักผ่อนริมหน้าต่างด้วยค่ะ

ปิดท้ายชั้นนี้ด้วยห้องน้ำแบบ Powder Room อยู่บริเวณกลางชั้นเลยติดกับบันได ภายใน Powder Room จะมีเฉพาะพื้นที่ส่วนแห้ง เพราะทุกห้องนอนในบ้านจะมีห้องน้ำในตัวอยู่แล้ว มาพร้อมสุขภัณฑ์ครบถ้วนใช้ยี่ห้อ Villeroy & Boch และ Kohler เป็นหลัก

ชั้น 3

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

พื้นที่บนชั้น 3 จะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom แบบเต็มชั้น ภายในมีห้องน้ำในตัวขนาดใหญ่ รวมถึงระเบียงยาวเต็มพื้นที่ฝั่งหน้าบ้านเลยค่ะ

Master Bedroom ได้พื้นที่เต็มชั้นจึงสามารถแยกมุมนั่งเล่น และพื้นที่เตียงนอนได้เป็นสัดส่วน ในห้องดูสว่างมากเพราะได้หน้าต่างบานใหญ่สูงจากพื้นจรดฝ้าตลอดแนวหน้าบ้านเลย

Image 1/2
Living Area ใน Master Bedroom

Living Area ใน Master Bedroom

หากคุณพ่อคุณแม่อยากนั่งดูหนังเล่นเกมส์แบบเป็นส่วนตัว ก็สามารถใช้พื้นที่ในห้องของตัวเองได้เลย

สังเกตบนฝ้าจะเห็นว่าโครงการติดตั้ง Smart Oxy Flow เทคโนโลยีที่ช่วยกรองฝุ่น pm 2.5 ด้วย HEPA Filter, ช่วยลดอุณหภูมิในบ้านและช่วยเติมอากาศใหม่เข้ามาในบ้าน โดยติดตั้งให้ทั้งในห้องนอนและพื้นที่ส่วนกลางตั้งแต่ชั้น 2-5 ค่ะ

Image 1/2
Master Bedroom

Master Bedroom

พื้นที่วางเตียงนอนจะถัดเข้ามาด้านใน มีพื้นที่กว้างทีเดียว เพียงพอสำหรับวางเตียงนอน 6-8 ฟุต พร้อมชุดโซฟาสำหรับนั่งเล่นหรือวางของที่ปลายเตียงได้

Image 1/3
ระเบียงใน Master Bedroom

ระเบียงใน Master Bedroom

ข้างเตียงจะมีบานเลื่อนสำหรับเปิดออกไประเบียงได้ แต่ระเบียงจะไม่ได้กว้างมากนะคะ พอให้วางกระถางต้นไม้ตลอดแนวระเบียงเพื่อช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูร่มรื่นขึ้น

Image 1/2
Walk-in Closet ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังผนัง

Walk-in Closet ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังผนัง

Image 1/4
Walk-in Closet

Walk-in Closet

Walk-in Closet เป็นห้องทรงสี่เหลี่ยม จึงสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ง่าย พื้นที่ใหญ่จนสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งไว้ในโซนนี้ได้

Master Bathroom มีขนาดใหญ่ใช้งานพร้อมกันได้ 2 คน

Image 1/4
อ่างล้างหน้าแบบ His and Her

อ่างล้างหน้าแบบ His and Her

โครงการให้อ่างล้างหน้าแบบ His&Her ให้ใช้งานพร้อมกันได้ทั้ง 2 คนเลย พร้อมเดินระบบน้ำมาให้รองรับท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น ใต้อ่างจะมีตู้เก็บของ Built-in มาให้หน้าตาสวยงามเหมือนในบ้านตัวอย่างเลย

ส่วนที่เราชอบที่สุดคือ Magic Mirror ที่มีฟังก์ชันหลากหลายอย่างระบบไล่ฝ้าหน้ากระจก, โชว์เวลาและอุณหภูมิ, มีหลอดไฟรอบกระจกเพิ่มความสว่าง, มีลำโพงสามารถต่อ Bluetooth เชื่อมกับโทรศัพท์ได้

ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำและห้องวางโถสุขภัณฑ์จะมีฉากกั้นกระจกติดตั้งมาให้ จึงใช้งานแยกกันได้อย่างเป็นสัดส่วน

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1 x 1.3 เมตร มี Rain Shower ติดตั้งมาให้ด้วย พร้ออุปกรณ์อาบน้ำยี่ห้อ Kohler

Image 1/2
หน้าต่างในห้องอาบน้ำ

หน้าต่างในห้องอาบน้ำ

เราชอบตำแหน่งอาบน้ำที่อยู่ติดหน้าต่างนะ เพราะสามารถเปิดระบายความชื้นได้ง่าย ห้องน้ำแห้งไวดีค่ะ แถมเปิดออกไปยังเป็นระเบียงให้วางกระถางต้นไม้ เพื่อเพิ่มความร่มรื่นสบายตาได้ด้วย

สุขภัณฑ์จะได้เป็นแบบอัตโนมัติยี่ห้อ Villeroy & Boch

Image 1/2
อ่างอาบน้ำจาก Kohler

อ่างอาบน้ำจาก Kohler

อ่างอาบน้ำจะวางเข้ามุมไว้เป็นสัดส่วน อ่างมีขนาด 0.6 x 1.6 เมตร โครงการเลือกใช้เป็นอ่างลอยจึงสามารถทำความสะอาดได้ง่าย และดูโมเดิร์นหรูหรา

ชั้น 4

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

พื้นที่ชั้น 4 จัดพื้นที่โซนด้านหน้าเป็น Junior Master Bedroom หรือถ้าดูในแปลนจะชื่อว่า Bedroom 2 และจัดพื้นที่โซนหลังบ้านเป็น Bedroom 3

Junior Master Bedroom

เข้ามาโซนแรกจะมีพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน และดันพื้นที่พักผ่อนเข้าไปไว้ด้านในทำให้ได้ความสงบ เป็นส่วนตัวมากขึ้น

Image 1/2
Junior Master Bedroom

Junior Master Bedroom

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นตำแหน่งวางเตียงนอน ที่อยู่ติดหน้าต่าง สามารถนอนมองวิวได้จากบนเตียงเลย ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวางเตียงขนาดใหญ่แบบ 6-8 ฟุตได้เลยนะคะ

ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับวางชุดโซฟานั่งเล่น ในห้องได้แบบเป็นส่วนตัว

Image 1/2
Walk-in Closet ใน Junior Master Bedroom

Walk-in Closet ใน Junior Master Bedroom

ห้องน้ำจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง ซึ่งออกแบบให้มีพื้นที่ด้านหน้าสำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ จึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก

Image 1/6
Junior Master Bathroom

Junior Master Bathroom

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ชัดเจน และห้องนี้ยังได้ Magic Mirror เหมือนกับ Master Bathroom ด้วยนะ

ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.8 x 0.8 เมตร พอให้หมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก และมีฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้ สุขภัณฑ์ต่างๆ ก็จะใช้ของ Villeroy & Boch และ Kohler เช่นกัน ด้านในห้องอาบน้ำก็จะมีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศ แถมเปิดออกไปยังเป็นระเบียงให้วางกระถางต้นไม้ เพื่อเพิ่มความร่มรื่นสบายตาได้ด้วย

พื้นที่ฝั่งด้านหลังจัดเป็น Bedroom 3 เป็นห้องนอนรองที่มีห้องน้ำในตัว

Bedroom 3

Image 1/2
Bedroom 3

Bedroom 3

Image 1/2
Bedroom 3

Bedroom 3

ภายใน Bedroom 3 จัดฟังก์ชันได้ครบครันตามมาตรฐานห้องนอน ได้แก่ เตียงนอนที่สามารถวางไซส์ใหญ่ 5-6 ฟุตได้ พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานค่ะ

Image 1/3
พื้นที่วางต้นไม้ใน Bedroom 3

พื้นที่วางต้นไม้ใน Bedroom 3

หน้าต่างใน Bedroom 3 เป็นหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับลมได้เต็มที่ แต่ไม่ใช่ระเบียงนะคะ ออกไปเดินเล่นไม่ได้ แต่สามารถวางกระถางต้นไม้ได้ตลอดแนวเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่นขึ้น

อีกฟังก์ชันหนึ่งของพื้นที่ตรงนี้คือ ใช้เป็นทางเดินไปช่องชาร์ปเพื่อ Maintenance ได้

ห้องน้ำใน Bedroom 3 แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ชัดเจน ด้านในสุดจะมีหน้าต่างบานใหญ่ให้เปิดระบายอากาศได้

ชั้น 5

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

แปลนชั้น 5 จะคล้ายกับชั้น 4 เลยค่ะ มีขนาดพื้นที่พอๆ กัน แบ่งฟังก์ชันออกเป็นโซนหน้าบ้านและหลังบ้านเหมือนกัน โดยโซนหน้าบ้านออกแบบเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ และโซนหลังบ้านเป็น Bedroom 4

Bedroom 4

Image 1/3
Bedroom 4

Bedroom 4

ได้พื้นที่พอๆ กับห้องนอน 3 เลยค่ะ ภายในมีห้องน้ำในตัว ได้หน้าต่างบานใหญ่พร้อมพื้นที่วางกระถางต้นไม้ ซึ่งใช้เป็นทางเดินไปช่องชาร์ปเพื่อ Maintenance ได้

หน้าทางเข้าห้องอเนกประสงค์จะมีห้องน้ำส่วนกลางอยู่ 1 ห้อง หากครอบครัวไหนต้องการใช้ห้องนี้เป็นห้องนอนก็สามารถกั้นประตูรวมห้องน้ำนี้เข้าไปเป็นห้องน้ำส่วนตัวได้นะคะ

ภายในห้องน้ำก็จะเหมือนใน Bedroom อื่นๆ เลย แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ชัดเจน ด้านในสุดจะมีหน้าต่างบานใหญ่ให้เปิดระบายอากาศได้

Image 1/4
พื้นที่อเนกประสงค์

พื้นที่อเนกประสงค์

พื้นที่อเนกประสงค์บนชั้นนี้น่าจะเป็นอีกโซนหนึ่งที่สมาชิกในบ้านมารวมตัวกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งพื้นที่ก็เปิดโล่งให้จัดฟังก์ชันได้หลากหลาย

ชั้น 6

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ชั้นนี้ออกแบบมาให้เป็น Rooftop เป็นฟังก์ชันที่ไม่ค่อยได้เห็นในโครงการบ้านในโซนนี้นะคะ แถมเรายังขึ้นลิฟท์มาถึงชั้นนี้ได้เลย สะดวกมากๆ พื้นที่บางส่วนบนชั้นนี้ออกแบบให้เป็นพื้นที่วางงานระบบ ตามมาตรฐานของอาคารสูง

โถงทางเดินบนชั้น 6 จะเห็นว่ามีประตูหลายบานที่ซ่อนฟังก์ชันการใช้งานไว้

ฟังก์ชันแรกคือเป็นพื้นที่วางงานระบบอย่างถังเก็บน้ำและ Condensing Unit

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ที่ยก Step ขึ้นให้สูงกว่าส่วนอื่นๆ เพื่อให้ใช้เป็นตำแหน่งวางโต๊ะหมู่บูชา

ประตูออกไป Outdoor เป็นกระจกบานเลื่อนไซส์ใหญ่ รับแสงธรรมชาติเข้ามาในตัวบ้านได้เต็มที่ พื้นที่บนชั้นนี้จึงไม่จำเป็นต้องเปิดไฟก็ได้นะคะ

Image 1/2
Rooftop

Rooftop

Rooftop ของโครงการนี้ออกแบบให้เป็นพื้นที่กว้างใช้งานได้จริงจัง ในบ้าน Standard ที่ส่งมอบให้จะเทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมปูกระเบื้องไว้ให้

Image 1/2
Rooftop

Rooftop

อย่างในบ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะสนามขนาด 5-6 ที่นั่ง พร้อมจัดมุมนั่งเล่นในสวนให้รับลม ชมวิวได้แบบเป็นส่วนตัว แต่กำแพงกันตกจะสูงนิดนึงจะบังวิวเมืองไปบ้าง แต่ก็ดูปลอดภัยดี หากใครกลัวแดดร้อนก็สามารถต่อเติมหลังคา หรือกั้นเป็นห้องติดแอร์เพิ่มได้นะคะ

หากทางลูกบ้านต้องการทำ Pantry สำหรับเตรียมอาหารก็มีงานระบบรองรับให้ทำเคาน์เตอร์ได้สะดวก ตรงบริเวณพื้นที่หน้าประตูทางเข้าค่ะ

วิวที่ได้จากบนชั้น 6 ของตัวบ้านก็มองเห็นสะพานข้ามแม่น้ำ ซึ่งน่าจะสวยงามขึ้นอีกในช่วงกลางคืนที่สะพานเปิดไฟนะคะ

ราคา

บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 (Baan Klang Krung Sathupradit 57) ราคา ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2568

  • ราคาเริ่มต้น 65-130 ล้านบาท
  • จองและทำสัญญา n/a
  • ดาวน์ n/a
  • ค่าส่วนกลาง n/a

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ที่ตั้งของโครงการบ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 เรียกได้ว่าเป็นทำเลหายากทีเดียว เพราะอยู่ภายในซอยสาธุประดิษฐ์ 57 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนสาธุประดิษฐ์และถนนวงแหวนอุตสาหกรรม และยังใกล้กับถนนพระราม 3 ที่แยกสาธุประดิษฐ์ด้วย ทำเลนี้เดินทางได้หลากหลายและเข้าไปยังแหล่งงานสำคัญอย่าง สีลม สาทร พระราม 4 ได้ง่าย แถมยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมถึงโรงเรียนนานาชาติชั้นนำอย่าง King’s Collage และ Shrewsbury

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ออกแบบมาให้มีรั้วรอบขอบชิด มีประตูโครงการที่เข้าออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน รักษาความปลอดภัยด้วยระบบ KATSAN สามารถบริหารจัดการการเข้า-ออกผ่าน Application ได้, มี CCTV รวม 7 จุดและ พี่รปภ. คอยดูแล 24 ชั่วโมง ภายในบ้านเองก็มีเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาความปลอดภัยเช่นกัน

การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวสูงเพียง 9 ยูนิต แม้ไม่จัดสรรแต่ก็มีรั้วรอบขอบชิด วางถนนหลักอยู่ชิดรั้วฝั่งหนึ่งของโครงการ ทำให้บ้านส่วนใหญ่ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม มีบ้านให้เลือก 2 ทิศคือ ตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งบ้านทิศตะวันออกเฉียงใต้จะได้แสงหน้าบ้านในช่วงเช้า ห้องที่อยู่ทางด้านหลังบ้านจะได้แสงในช่วงบ่าย ส่วนบ้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะได้หน้าบ้านที่ร่มในช่วงเช้า เหมาะกับคนที่ชอบนอนดึก ทำงานดึก แล้วตื่นสายหน่อยค่ะ

การออกแบบบ้าน : บ้านของโครงการนี้ออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic Luxury มีความสูงถึง 6 ชั้นแตกต่างจากโครงการอื่นเลย จึงมี Rooftop ชั้นบนสุดให้ใช้งานได้จริงจัง ปัจจุบันเปิดตัวมาให้จับจองเฉพาะบ้านเดี่ยวแบบ SOHO แต่ในอนาคตจะมีบ้านแฝด 5 ชั้น และบ้านเดี่ยวไซส์ใหญ่สุดที่เป็น Pool Villa ปล่อยออกมาเพิ่มเติม จุดเด่นคือที่จอดรถของบ้านเดี่ยวที่รองรับได้เยอะถึง 5-6 คัน มาพร้อมลิฟต์ส่วนตัวที่มีขนาดรองรับวีลแชร์ได้ ห้องนอนใหญ่ได้พื้นที่เต็มชั้น มีห้องครัวไทยมาให้ครบไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม มีบันไดหนีไฟเป็นกิจจะลักษณะ

วัสดุ : โครงสร้างบ้านออกแบบมาให้ดูแลรักษาได้ง่ายในระยะยาว มีช่องชาร์ป และกล่องใส่ไฟแยกในแต่ละชั้นเพื่อให้ Maintenance ง่าย ก่อสร้างด้วยระบบ Conventional ทุบต่อเติมได้ในอนาคต สำหรับวัสดุต่างๆ ในบ้านทางโครงการเลือกแบรนด์ Top คุณภาพดี เช่นประตูทางเข้าเป็นบานอลูมิเนียมลายไม้ของ Tostem, ชั้น 2-6 ใช้พื้นไม้ปาร์เก้ไม้สักแท้, สุขภัณฑ์ของ Villeroy & Boch และ Kohler เป็นหลัก, เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวของ Kupperbusch เป็นต้น

ที่ประทับใจสุดจะเป็นบรรดาเทคโนโลยีต่างๆ ที่ติดตั้งมาแบบจัดเต็ม เช่น Digital Door Lock ยี่ห้อ Lockin รุ่นที่ใช้เทคโนโลยีการจดจำเส้นเลือดดำบนฝ่ามือ ที่ใช้กันแพร่หลายในระบบธนาคาร, Magic Mirror ที่มีลำโพงในตัว, Smart Oxy Flow ที่ช่วยกรองฝุ่น pm 2.5 เป็นต้น

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บรรยากาศภายในโครงการดูเรียบร้อยมาก เพราะเดินสายไฟลงดินทั้งหมด พื้นถนนเป็นคอนกรีตแสตมป์ดูสวยงาม

สาธารณูปโภค : เนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็ก ไม่ได้จัดสรร จึงไม่มีอาคาร Clubhouse ให้ใช้งาน หากมีการเรียกเก็บค่าส่วนกลางก็จะใช้ไปในการดูแลขยะ ดูแลความเรียบร้อยของถนนส่วนกลางและการจ้าง รปภ. เป็นหลัก ปัจจุบันค่าส่วนกลางยังไม่ได้เคาะราคาที่แน่นอนนะคะ ดูจากเพื่อนๆ โดยรอบแล้วก็เดาว่าน่าจะราวๆ 100 บาท/ตร.ว./เดือนค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 65-130 ล้านบาท, 15 มิถุนายน 2568

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ใกล้ถนนใหญ่ เข้าออกได้หลายเส้นทาง ใกล้ทางด่วนและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ
  • ความปลอดภัย 8/10 – มีรั้วรอบโครงการ ประตูโครงการเป็นบานทึบ รปภ. ดูแล 24 ชั่วโมง มีระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – จอดรถได้สูงสุด 6 คัน พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่อเนกประสงค์ถึง 4 จุด มีพื้นที่บน Rooftop ให้นั่งเล่นได้จริงจัง มีครัวไทยมาให้ไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม
  • วัสดุ 7.5/10 – วัสดุดีสมราคา เลือกใช้แบรนด์ Top ติดตั้งเทคโนโลยีเพิ่มความสะดวกสบาย
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – เสาไฟลงดินและพื้นคอนกรีตสแตมป์ทั้งโครงการ
  • สาธารณูปโภค 7/10 – โครงการขนาดเล็กไม่มีส่วนกลาง แต่ภาพรวมดูเรียบร้อย น่าใช้งาน
  • 7.9 / 10.00 คะแนนอย่าลืมคิด

บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 เหมาะกับใคร

บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการขยับขยายบ้านในทำเลโซนพระราม 3 เดินทางง่ายใกล้ทางด่วนและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในระยะ 2-3 กิโลเมตร ใกล้โรงเรียนนานาชาติ King’s Collage และ Shrewsbury

ต้องการบ้านจาก Top 10 Developer ที่มีความน่าเชื่อถือ ชอบโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เพื่อนบ้านไม่เยอะ มองหาบ้านที่พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ จอดรถได้เยอะสูงสุดถึง 6 คัน มี Rooftop ชั้นบนสุดให้ใช้งานได้จริงจัง มีห้องครัวไทยมาให้ครบไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม โครงสร้างบ้านออกแบบมาให้ดูแลรักษาได้ง่ายในระยะยาว มีบันไดหนีไฟเป็นกิจจะลักษณะ ไม่เน้นใช้งานส่วนกลาง ในราคาเริ่มต้น 65-130 ล้านบาท (ยังไม่รวมงบในการตกแต่ง)

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่