รีวิวฉบับที่ 702 … วันนี้มีรีวิวคอนโด Low Rise ในซอยโชคชัยร่วมมิตร (รัชดา 19) มาฝากอีกโครงการครับ Wire รัชดา 19 ตัวโครงการห่างจากรถไฟฟ้า MRT รัชดาภิเษก ไม่ไกลโดยมีระยะเดินประมาณ 300 เมตร ซอยนี้เป็นซอยที่สามารถทะลุถนนใหญ่ได้ถึง 3 เส้นคือ ถนนรัชดาภิเษก, ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนลาดพร้าว จุดเด่นของโครงการคือมียูนิตน้อย โดยยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 7 ยูนิเท่านั้น เราไปดูพร้อมๆกันเลยดีกว่าครับ ヾ(^-^)ノ~♪
Fact @ 24 October 2014
- Wire Ratchada 19 (ไวร์ รัชดา 19)
- บริษัท พีดับบลิวเค ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : จตุจักร
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 46 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 7 ยูนิตที่อาคาร A
- ที่จอดรถประมาณ 21 คันคิดเป็น 45.7% รวมจอดซ้อนคัน 25 คันคิดเป็น 55%
- ที่ดินประมาณ 0-1-49 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : มี.ค. 58
- Studio 27.19 – 30.78 ตร.ม.
- 1 Bedroom 31.22 – 48.22 ตร.ม.
- 2 Bedrooms 48.66 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.5 ล้านบาทหรือประมาณ 91,946 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- http://www.wirecondo.com/
- สำนักงานขาย : 094-589-5959
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.800714, 100.573524
แผนที่ของโครงการก็มาแบบง่ายๆครับ เพราะตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ Wire รัชดา 19 ไม่มีอะไรที่ซับซ้อนมากนักอยู่ใกล้ๆกับปากซอยรัชดาภิเษก 19 จุดเด่นของโครงการนี้คือสามารถเดินไปใช้รถไฟฟ้า MRT รัชดาภิเษกได้ไม่ไกลโดยมีระยะเดินอยู่ที่ประมาณ 300 เมตร เดี๋ยวเราไปดูแผนที่แบบวงกว้างกันหน่อยดีกว่าครับ
จากแผนที่จะเห็นว่าตำแหน่งที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยวิภาวดี 16 หรือที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยก็คือ ซอยโชคชัยร่วมมิตรครับ ซอยนี้เป็นซอยที่เชื่อมต่อกับถนนใหญ่ๆไว้หลายเส้นอย่าง วิภาวดีรังสิต และรัชดา เนื่องจากตัวซอยมีความซับซ้อนไม่มากคนจึงนิยมใช้เป็นทางลัดในการเดินทาง และนอกจากสองเส้นนี้ยังมีทางลัดไปออกเส้นลาดพร้าวได้อีกซึ่งซอยแถวๆนี้จะเป็นเหมือนรังมดเลยครับสามารถทะลุไปทะลุมาได้เยอะมาก การเดินทางหลักคงเป็นเส้นรัชดาภิเษกเป็นหลัก แต่ถ้าจะใช้ทางด่วนก็ทะลุไปเส้นวิภาวดีจะสะดวกกว่า
ตัวโครงการจะตั้งอยู่ใกล้ๆกับฝั่งรัชดาภิเษกแล้วสามารถเดินจาก MRT ได้ไม่ไกลประมาณ 300 เมตรเท่านั้นเอง ส่วนสภาพการแวดล้อมเป็นอย่างไรเดี๋ยวผมค่อยพาไปดูครับ มาดูเรื่องความอุดมสมบูรณ์รอบๆกันก่อนดีกว่า ในซอยโชคชัยร่วมมิตรนั้นเป็นแหล่งชุมชนที่อาศัยกันอยู่ค่อนข้างเยอะแต่ก็มีสำนักงานปนอยู่ด้วย สังเกตได้จากร้านค้าต่างๆที่ตั้งอยู่ตลอดทางตั้งแต่ช่วงต้นซอยไปจนถึงกลางๆซอยก่อนข้ามคลองน้ำแก้วไป ร้านอาหารแถวนี้มีให้เลือกเยอะครับเท่าที่ลองเดินดูมีอาหารเกือบครบทุกประเภท มีร้านขายขนมก็เยอะทั้งขนมไทยและร้านขนมเค้กน่ารักๆ นอกจากร้านอาหารแล้วร้านอาหารต่างๆแล้วยังมีร้านทำ, ร้านหมอฟัน, ร้านถ่ายรูป และอื่นๆที่ตอบรับต่อการอยู่อาศัยครับ ถ้าออกจากซอยจะไปเดินห้างก็มีให้เลือก 2 จุด จุดแรกคือบนเส้นพระราม 9 นั่งรถไฟฟ้า MRT ไป 2 สถานีก็ถึง เซ็นทรัล พระราม 9 แล้ว ส่วนอีกจุดคือไป 5 แยกลาดพร้าวมี Union Mall กับ เซ็นทรัลลาดพร้าวครับ
มาดูรอบๆโครงการในระยะใกล้บ้าง ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นสำนักงานสูง 2 ชั้น เช่นเดียวกับด้านทิศเหนือและทิศใต้ที่ในระยะประชิดเป็นบ้านพักและสำนักงานสูง 2 ชั้น ถือว่ายังได้วิวโล่งๆอยู่ แต่จุดที่มีตึบังคือทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ด้านนั้นจะมีอพาร์ทเม้นท์ 8 ชั้นตั้งอยู่ เช่นเดียวกับฝั่งตรงข้ามคลองน้ำแก้ว และเยื้องๆกับถนนหน้าโครงการจะมีคอนโดสูง 8 ชั้นอยู่ สำหรับทิศตะวันตกจะได้วิวโล่งที่ไกลหน่อยเพราะพื้นที่ด้านหลังของอาคารเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบเป็นส่วนใหญ่
สำหรับคนที่ไม่ใช้รถสามารถอยู่โครงการนี้ได้ไม่ลำบากครับ เพราะสามารถเดินไปใช้รถไฟฟ้า MRT สถานี รัชดาได้ง่ายๆ แล้วถ้าจะเดินทางไปหาของกินช่วงปากซอยวิภาวดีหละ ในซอยนี้จะมีรถประป๊อ (Subaru เล็ก) ให้บริการอยู่ในซอยครับ โดยจะคิดค่าบริการ 7 บาทตลอดสาย จะลงจะขึ้นตรงไหนก็โบกได้ตลอดซอย สุดสายจะมาลงที่ปากซอยรัชดา 19 ทำให้มีระยะที่ต้องเดินหน่อยแต่ก็ไม่ไกลนัก นอกจากนี้บริเวณปากซอยวิภาวดียังมีป้ายรถเมล์อยู่ปากซอยพอดีเลย สำหรับฝั่งรัชดาภิเษกต้องเดินย้อนมาหน่อยถึงจะเจอครับ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
การเดินทางในวันนี้จะเริ่มจากปากซอยวิภาวดี 16 ตรงเข้าถึงโครงการเลยจะได้เห็นสภาพของซอยนี้ไปด้วยในตัวครับ
จุดสังเกตทางเข้าซอยนี้จะมีป้ายบอกเส้นทางลัดไป ซอยลาดพร้าว 26 ครับ
ช่วงปากซอยตรงนี้ด้านซ้ายมือจะเป็นวินรถกระป๊อ เดินจากป้ายรถเมล์มาได้ไม่กี่ก้าวเอง
ภายในซอยช่วงต้นๆจะเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมายครับ แผงขายผักและผลไม้สดๆก็มีถ้าใครชอบกินข้างนอกบ้านก็หาของกินแถวนี้ก่อนกลับบ้านก็ได้
ภายในซอยนี้มีร้านสะดวกซื้อตั้งอยู่มาครบทั้ง 3 แบรนด์เลย 7Eleven, Tesco Lotus Express และ Family Mart ถัดจากตรงนี้ไปจะไม่คึกคักเท่าไหร่แล้วครับ
ตรงเข้ามาจนสุดซอยจะมีทางบังคับเลี้ยวซ้ายเพื่อไปออกเส้นรัชดาภิเษก ส่วนซอยขวามือจะเป็นทางเข้าโรงเรียนปัญจทรัพย์
7Eleven สาขานี้คือสาขาที่ใกล้กับโครงการที่สุดมีระยะเดินประมาณ 160 เมตร ส่วนร้านอาหารแถวนี้จะไม่ค่อยมียกเว้นบริเวณโรงเรียบปัญจทรัพย์ หรือแถวค่ายมวยจิตติยิม ถ้าเลี้ยวขวาไปนิดเดียวก็ออกถนนรัชดาแล้วครับ
ตรงเข้ามาอีกหน่อยจะเห็นว่าทางเท้าบางช่วงจะมีเสาไฟฟ้าตั้งขวางอยู่เวลาเดินก็ต้องระมัดระวังหน่อยนะครับ
ตัวโครงการจะเลยคลองน้ำแก้วไปให้เราข้ามคลองไปเลย
ข้ามคลองมาได้ประมาณ 40 เมตรจะเจอตัวโครงการอยู่ด้านซ้ายมือ ซึ่งตอนนี้กำลังก่อสร้างไปถึงชั้น 8 แล้ว และสำนักงานขายกับห้องตัวอย่างจะอยู่ด้านในตัวอาคารจริงนี่แหละครับ
แผนที่เส้นทางการเดินจากโครงการไปยังสถานีครับ เดินเรื่องก็ประมาณ 4 นาทีตามการคำนวณของ Google นะ
รูปนี้ถ่ายจากปากซอยรัชดา 19 เข้าไปยัง 7-11 วินรถกระป๊อจะอยู่ด้านซ้ายมือที่เห็นเป็นสีแดงๆนะครับ
หันมาดูทางถนนใหญ่บ้าง ทางเท้าบนถนนใหญ่สามารถเดินได้สะดวก แต่กลางคือจะเปลี่ยวหน่อย
ช่วงหน้าสถานีคนแถวนี้เค้านำรถจักรยานกับมอเตอร์ไซด์มาจอดกันด้วย จริงๆเรื่องการจัดวางระบบการขนส่งในบ้านเราน่าจะคิดให้ละเอียดหน่อยนะ อย่างตรงนี้เป็นแหล่งชุมชนที่มีระยะกับสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการขี่จักรยานก็น่าจะทำที่จอดแบบปลอดภัยมาให้นะ จะได้ดึงดูให้คนใช้รถน้อยลงไปด้วย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Esplanard – 4 กม.
- Big C ลาดพร้าว – 2.3 กม.
- Union Mall – 2.9 กม.
- Central ลาดพร้าว – 3.8 กม.
- Central พระราม 9 -6.1 กม.
- MRT รัชดา – 300 เมตร
การออกแบบของโครงหน้าตาภายนอกอาคารจะมาแบบ Modern และสีสันมาในโทนเข้ม ลักษณะแบบปูนเปลือยดิบๆหน่อย รูปด้านของอาคารจะมีลูกเล่นตามชื่อโครงการที่จะสื่อถึงเส้นสายการเชื่อมต่อจากเส้นทางต่างๆ โดยลายเส้นที่เห็นจะมีลักษณะคล้ายๆเส้นสายบนแผงวงจรไฟฟ้าครับ สำหรับชั้น 7 และ 8 จะมีระยะร่นจากถนนไปนิดหน่อย ซึ่งเป็นส่วนของ Facility ต่างๆ
สำหรับชั้นบนสุดจะมีการเล่นระดับโดยสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 8 แต่ยกสูงขึ้นมาครึ่งชั้น และห้อง Fitness จะอยู่ที่ชั้น 7 กับ พื้นที่รอบๆสระที่เอาไว้นั่งพักผ่อนได้ สวยหย่อมที่ชั้นดาดฟ้าจะต้องเดินจากสระว่ายน้ำขึ้นไปอีกครึ่งชั้น ถ้าดูจากในภาพจำลองแล้วออกแบบมาได้น่าใช้งานทีเดียว แต่ต้องรอดูของจริงอีกทีนะครับว่าจะจัดสวนมาให้แบบนี้รึเปล่า
การเล่นระดับของตัวสระหน้าตาจะมาประมาณนี้ครับ
ภาพจำลองสวนบนชั้นดาดฟ้า
มาดูผังอาคารกันต่อดีกว่า สำหรับชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถและโถงลิฟท์เท่านั้น การจอดรถแบบช่องจอดทำได้ 19 คัน ถ้ารวมซ้อนคันจะได้ประมาณ 25 คัน ถ้าจอดกันจนเต็มการเข้าออกก็จำลำบากนิดหน่อยเพราะไม่สามารถวนรบรอบโครงการได้ ยิ่งเป็นที่จอดรถด้านในด้านสุดด้วยแล้วต้องถอยเข้าถอยออกกันหน่อย ลิฟท์ของโครงการมีมาให้แค่ 1 ตัวเพราะจำนวนยูนิตมีไม่เยอะอัตราส่วนของลิฟท์ก็มาแบบหลวมๆ 46:1 ถือว่าใช้งานกันสบายๆ แต่ถ้าเกิดลิฟท์เสียขึ้นมาจะไม่มีลิฟท์อื่นให้ใช้ ไม่เหมือนกับโครงการที่มีลิฟท์มากกว่าหนึ่งตัว ในกรณีที่ลิฟท์เสียยังสามารถเลี่ยงไปใช้ตัวอื่นได้
สำหรับยูนิตพักอาศัยจะเริ่มตั้งต่ ชั้น 2 – 8 โดยผังของชั้น 2 – 6 จะเหมือนกัน จุดเด่นอีกอย่างของโครงการนี้คือจำนวนยูนิตต่อชั้นที่มีน้อยโดย 1 ชั้นจะมียูนิตแค่ 7 ยูนิต ถ้าใครชอบโครงการที่เน้นความสงบๆไม่พลุกพล่านวุ่นวายก็ถือเหมาะเลยครับ ตัวห้องจะมีแบบ Studio, 1 Bed และ 2 Bed โดยห้อง Stdio จะอยู่ในตกแหน่ง 2 และ 3 ส่วน 2 Bed มีให้แค่ชั้นละ 1 ห้องอยู่ในตำแหน่ง 7 ที่เหลือเป็บแบบ 1 Bed ที่มีขนาดตั้งแต่ 31 ตร.ม.ไปจนถึง 46 เกือบ 47 ตร.ม. ถ้าหากใครอยากได้ห้องที่อยู่แล้วไม่อึดอัด ก็เลือกห้องที่มีพื้นที่เยอะหน่อยก็ได้ เพราะจะได้มีพื้นที่เหลือทำ Walk-in Closet หรืออื่นๆได้
มีจุดนึงที่อาจจะไม่ค่อยสะดวกนักคือ ห้องทิ้งขยะจะไปอยู่ที่ชานพักพักได เวลาไปทิ้งขยะอาจต้องเดินลง หรือขึ้นบันไดไปหน่อย เรื่องทิศแดดทางโครงการก็ออกแบบมาให้แต่ละยูนิตมีส่วนเว้าของระเบียง หรือ ตัวกำแพงที่ยื่นออกมาให้พักแดดทางทิศตะวันตะได้ค่อนข้างดี อย่างยูนิต 202 และ 203จะมีมุมเว้าของระเบียงและกำแพงถึบคอยบังแดดให้อยู่
สำหรับชั้น 7 จะเป็นชั้นที่มีห้อง Fitness อยู่ด้านหน้าโครงการ ทำให้จำนวนยูนิตห้องพักเหลือแค่ 6 ยูนิต เนื่องจากลิฟท์ที่นี่เป็นแบบ ลิฟท์ล็อคชั้น แต่ชั้น 7 และ 8 จะไม่ล็อคเพราะต้องเปิดไว้ให้ลูกบ้านมาใช้งานส่วนกลางได้
ที่ชั้น 8 จำนวนยูนิตจะเหลือแค่ 5 ยูนิดโดยพื้นที่ด้านหน้าโครงการ (ทิศตะวันออก) จะเป็น Deck เชื่อมต่อมาจากสระว่ายน้ำ ประตูทางไปสระว่ายน้ำจะอยู่ติดกับตัว ลิฟท์ ดังนั้นห้องพักที่อยู่ชั้นนี้ยังถือว่าได้ความเป็นส่วนตัวมากอยู่เพราะ ลูกบ้านที่จะมาใช้งานส่วนกลางไม่มีความจำเป็นที่ต้องเดินไปโซนห้องพักเลย
สำหรับชั้นดาดฟ้าจะมีบางสวนทำเป็นที่นั่งในร่มพร้อมมีหลังคาคลุม และบางส่วนเป็นพื้นที่สนามหญ้า Out Door ครับ พื้นที่ตรงนี้ไว้รอตึกเสร็จแล้วค่อยมา Update กันอีกทีนะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 3.2 x 6.2 เมตร มีจากุชชี่
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด 13.5 ตร.ม.
- สวนหย่อมบนชั้นดาดฟ้า
- ลิฟท์โดยสาร 1 ตัวต่อ/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 46 : 1
- ลิฟท์ล็อคชั้น
- Service Lift : ไม่มี
- ที่จอดรถประมาณ 19 คันคิดเป็น 41.3% รวมจอดซ้อนคัน 25 คันคิดเป็น 55%
- ระบบ CCTV / Access Card (One Card Solution)
มาดูห้องตัวอย่างแบบแรกกันก่อนเลย แบบ Studio ขนาด 27.19 ตร.ม. ขนาดพื้นที่เท่านี้ถือว่าเป็นขนาด Studio ที่มีพื้นที่กลางๆไม่เล็กเกินไป เพราะเดี๋ยวนี้ห้อง Studio มักจะเหลือพื้นที่แค่ 22.5 – 24 ตร.ม.เท่านั้น การวางผังห้องค่อนข้างลงตัวและมีพื้นที่ให้ใช้งานได้ไม่แออัดเกินไปนักสำหรับการอยู่อาศัยแค่ 2 คน แต่มีจุดที่ใช้งานยากหน่อยตรงไม่สามารถวางโซฟาสำหรับนั่งดูทีวีได้ ต้องใช้วิธีนั่งดูจากบนเตียงเอา ส่วนฉากกั้นตรงกลางทางโครงการก็แถมมาให้ด้วยนะครับ (แต่ในห้องตัวอย่างยังไม่ได้ติดตั้ง) เป็นบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เวลาทำครัวก็ไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นจะกระจายไปยังพื้นที่ห้องนอน
ประตูห้องของห้องพักจะใช้เป็นแบบ UPVC ซึ่งทางโครงการบอกว่าการใช้แบบนี้ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดีขึ้น อันนี้ต้องรอลูกบ้านมาพิสูจน์กันอีกทีนะ
กลอนประตูจะเป็นแบบ Digital Door Lock 2 ระบบ ทั้ง Key Card และ กดรหัส
พื้นห้องจะเป็นกระเบื้องยางลายไม้ทั้งหมด ส่วนที่เป็นครัวน่าจะให้เป็นแกรนิตโต้จะใช้งานได้สะดวกกว่า
เดินเข้าห้องมาส่วนแรกจะเป็นครัว ที่ยังไม่ได้ติดฉากกระจกกั้นมาให้ แต่ของจริงจะมีติดตั้งมาให้นะครับ
หันกลับไปให้ดูพื้นที่ส่วนครัว ด้านขวามมือเป็นประตูไปห้องน้ำ และการวางโต๊ะกินข้าว จะเป็นแบบวางชิดกับเคาน์เตอร์ครัวเลย ถ้าไม่ซีเรียสมากก็ย้ายมาวางพื้นที่ตรงกลางก็ได้ครับ จะได้นั่งหันหน้าชนกันได้
ตรงหน้าห้องของจริงไม่มี Built-in ตู้รองเท้ามาให้นะ
มาดูเคาน์เตอร์ครัวกันดีกว่า พื้นที่ครัวที่ได้มาถือว่าไม่เล็กนะ สำหรับห้องแบบ Studio คือยังมีพื้นที่เหลือให้เตรียมอาหารได้ ส่วนครัวที่แถมมาจะได้ตามที่เห็นเลยยกเว้นของตกแต่งและเครื่องใช้ไฟฟ้า
ช่องใส่ตู้เย็นยังมีพื้นที่เหลือให้วางขนาดใหญ่กว่านี้ได้ ขนาดตู้เย็นในรูปเป็น 9.1 คิวบิกฟุต
การแบ่งช่องเปิดตู้ชุดล่าง จะมีช่องใส่ไมโครเวฟมาด้วย สำหรับช่องกลางทางโครงการมีการเดินงานระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้ด้วย
หน้าบานถึงอันจะมี Profile อลูมิเนียม มือจับ และติดตั้ง Soft Close มาให้ทุกบานด้วยแต่เป็นระบบที่ต้องเปิดบานประตูเกินครึ่งนึงไปแล้วนะ Soft Close ถึงจะทำงาน
การแบ่งช่องเก็บของชุดบน
ตัว Top เคาน์เตอร์ได้เป็นหินแกรนิต และด้านหลัง Back Splash ติดเป็นกระจกมาให้ ช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นเยอะ
ตัวอ่างล้างจานของ Teka เป็นแบบ 4 เหลี่ยม ให้มาขนาดใหญ่ดี ใช้งานสะดวก ผมลองเอาจานข้าววางไว้ให้เทียบสัดส่วนครับ จะได้นึกขนาดของจริงง่ายหน่อย
ด้านข้างอ่างล้างจานจะมีปลั๊กไฟมาให้ชุดนึง แต่เป็นแบบไม่กันน้ำนะ
เตาที่แถมมาให้จะเป็นแบบแม่เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว
ที่ดูดควันของ Teka แบบดูดออกด้านนอกที่ระเบียง
ทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามกับส่วนครัว
และตัวประตูยังคงเป็น UPVC เช่นเดิม กลอนประตูจะเป็นแบบมือจับก้านโยกอย่างในรูปครับ
เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าจะได้ขนาดกลางๆกำลังดี และ Top เป็นหินแกรนิตมีพื้นที่ให้วางของเพิ่มได้นิดหน่อย ตัวกระจกจะเป็นตามที่เห็นเลย
ตัวตู้ด้านล่างจะมีงานระบบมารอสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนไว้ให้ครับ
ขนาดของอ่างเมื่อเทียบกับมือผมเองครับ ;p ตัวอ่างเป็นของ Mogen ส่วนวก๊อกใช้ของ GROHE
ส่วนโถสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ชั้นวาง 4 ชั้นที่อยู่ด้านบนไม่ได้ติดตั้งมาให้นะ ถ้าอยากได้ต้องติดตั้งเอง
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1 x 0.8 ม.ถือว่าใช้งานได้ไม่ลำบากยึดแขนขาได้กำลังดี ฉากกั้นอาบน้ำก็แถมมาให้นะครับ
พื้นระหว่างส่วนเปียกกับแห้งจะได้ธรณีเป็นหินแกรนิตและ ส่วนแห้งกับห้องครัวจะเป็นแบบสำเร็จรูป
ตัวก๊อกใช้ของ Englefield ส่วนตัวฝักบัวใช้ของ KOHLER
ตำแหน่งไฟของห้องน้ำให้มาเยอะดีครับเป็น Down Light 3 จุด พร้อมพัดลมดูดอากาศตามที่เห็นเลย
ส่วนของห้องนอนจะโล่งพอสมควร เพราะไม่มีการวางโซฟาที่ปลายเตียงครับ
สำหรับการดูทีวีนั้นต้องนั่งจากเตียงเอา และพื้นที่ในการทีวีจะต้องแชร์กับโต๊ะกินข้าวอย่างที่เห็น แต่อย่งาที่บอกไปว่าถ้าใครคิดว่าย้ายมาวางกลางและเดินอ้อมได้ไม่เกะกะก็เขยิบออกมาหน่อยก็ได้
สำหรับพื้นที่เหลือรอบๆเตียงมีมาให้สบายๆ เตียงที่เห็นเป็นขนาด 5 ฟุตนะ
ด้านข้างของเตียงทางโครงการตกแต่งเป็นตู้เสื้อผ้าไว้ให้ดูเป็น Idea ของจริงไม่มีมาให้
สำหรับมุมนี้จะเป็นพื้นที่สำหรับเอาไว้นั่งพักผ่อนหรือจะแปลงเป็นโต๊ะทำงานเอาไว้นั่งเล่นคอมก็ได้
ตัวหน้าตจ่างจะได้เป็นบาน Fix ทั้งชุดและมีความสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเพดานเลย
สำหรับตัวระเบียงขนาดประมาณ 1 x 2 เมตร ก็วางราวตากผ้าได้และยังมีที่เหลืออีกหน่อยเพราะเครื่องซักผ้าอยู่ในห้องแล้ว
ตัวประตูเป็นบานอลูมิเนียมอโนไดซ์สีดำ มือจับเป็นแบบเซาะร่องในตัว
แอร์ใช้แค่ตัวเดียวก็แขวนไปแบบนี้เลย และโครงการก็ติดแผงเปลี่ยนทิศทางลมมาให้ด้วยนะครับ
อีกด้านจะมีโคมไฟมาให้ และมีช่องระบายอากาศจากครัวกับห้องน้ำมาออกด้านนี้
ถ่ายย้อนกลับไปให้ดูบรรยากาศในห้องอีกร
ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 46.62 ตร.ม. สำหรับห้องนี้จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ที่มีขนาดใหญ่สำหรับยุคสมัยนี้ เพราะถ้าใครเคยติดตามอ่าน Thinkofliving มาเรื่อยๆจะเห็น Product ที่เป็น 2 Bedroom ขนาด 42 ตร.ม. มาบ้างแล้ว ดังนั้นห้องนี้จึงเหมาะกับคนที่อยากอยู่ห้องแบบไม่แออัด ได้บรรยากาศในห้องแบบโปร่งสบายๆ พอตัวห้องมีพื้นที่แล้วไม่ได้ทำเป็น 2 Bedroom พื้นที่เลยมีเหลือพอให้ทำ Walk-in Closet แบบเต็มที่ได้ และส่วนครัวก็ได้พื้นที่วางโต๊ทานอาหารที่ใหญ่ขึ้น
เปิดประตูห้องมาจะเห็นความกว้างของห้องเลยครับ พื้นที่จัดได้แบบหลวมไม่แออัด การจัดวางฟังก์ชั่นจะได้ส่วนครัวด้านขวามือ ด้านซ้ายยังมีพื้นที่โล่งๆให้ทำชั้นวางของหรือตู้วางรองเท้าได้
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวจะได้เป็นชุดเดียวกันกับห้อง Studio เลยแบบเดียวกันเป๊ะๆ
มุมกลับไปยังหน้าห้องจะเห็นว่าตัวห้องมีขนาดกว้างพอให้ขยับโต๊ะทานอาหารออกมาได้อีกนะ ถ้าใครอยากนั่งสบายๆก็หาโต๊ะแบบ 4 ที่นั่งปรับขยายได้มาใช้งาน เวลามีเพื่อนๆมาจะได้นั่งเฮฮากันพร้อมหน้า
ตัวห้องน้ำยังมีทางเข้าอยู่ด้านหน้าห้องเหมือนเดิม
การจัดงานตำแหน่งสุขภัณฑ์ต่างๆจะอยู่ในแนวเดียวกัน
สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาคือเนื้อที่ของเคาน์เตอร์อ่างล่างหน้า และกระจกเงา
พื้นที่อาบน้ำก็ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย
ข้อดีของห้องน้ำแบบนี้คือมี Double Access ช่วยให้การใช้งานมีความสะดวกและเป็นส่วยนตัวมากเยอะเลยครับ ทางเข้าอีกทางจะมาจากห้องนอนนั่นเอง
ห้องนั่งเล่นจะมีพื้นที่ให้พอวางโซฟา 3 ที่นั่งขนาดใหญ่ได้
ระยะดูทีวีมีประมาณ 2.5 เมตรวางทีวีขนาด 40″ ได้
ตัวระเบียงจะมีความกว้างเท่าๆกับห้องนั่งเล่น ได้เป็นบานกระจกเลื่อนเต็มพื้นที่ ส่วนฝ้าซ่อนรางม่านที่เห็นไม่ได้ให้มานะครับ
ห้องแบบนี้จะมีพื้นที่เก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้อย่างมิดชิดเลยดูเรียบร้อยดี
พื้นห้องเป็นกระเบื้องเหมือนเดิมและระหว่างห้องจะไม่มีธรณีมาให้
ภายในห้องนอนจะมีพื้นที่ให้พอทำโต๊ะเครื่องแป้งได้
และมีมุมไว้วางโซฟาเล็กๆได้
พื้นที่เหลือข้างเตียง
อีกด้านของห้องนอนทางโครงการจะทำผนังไว้ให้เลย เผื่อว่าใครอยากทำ Built-in ก็ทำแค่ตัวตู้กับหน้าบานมาใส่เท่านั้นเอง สำหรับกระจกเงาข้างโต๊ะเครื่องแป้งไม่มีมาให้นะ
ตัวตู้เสื้อผ้าสามารถทำได้เต็มที่แบบตัว U อย่างที่เห็น ถ้าใครอยากได้บางส่วนเป็นแบบเปิดโล่งก็ได้ครับ ยังไงก็มีพื้นที่ให้พอสมควรปรับแต่งได้ตามสบาย
ปิดท้ายด้วยมุมภายในห้องนั่งเล่นอีกสักรูป ตัวฝ้าเพดานจะมีการ Drop ลงมาหน่อยสำหรับงานระบบครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 October 2014
- 1B/1B ชั้น 3 ห้อง 010304 เนื้อที่ 40.55 ตร.ม. ราคา 3,688,400 ล้านบาทหรือ 90,959 บาทต่อตารางเมตร
- 1B/1B ชั้น 5 ห้อง 010304 เนื้อที่ 43.29 ตร.ม. ราคา 4,189,300 ล้านบาทหรือ 96,773 บาทต่อตารางเมตร
- 2B/1B ชั้น 6 ห้อง 010607 เนื้อที่ 48.66 ตร.ม. ราคา 4,694,100 ล้านบาทหรือ 96,467 บาทต่อตารางเมตร
- Fully Fitted
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- Digital Door Lock
- จอง 20,000 – 30,000 บาท
- ทำสัญญา 3%
- ดาวน์ 4% ผ่อนดาวน์ 5 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเลของโครงการ Wire รัชดา 19 อยู่ในซอยโชคชัยร่วมมิตร ซึ่งภายในซอยนี้เป็นแหล่งที่ชุมชนอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ มีทั้งแนวราบ, อพาร์ทเม้นท์ และคอนโดประเภท Low Rise ดังนั้นแหล่งอาหารการกินในซอยนี้ก็ไม่ต้องห่วงครับมีให้เลือกเยอะเลย แต่ส่วนใหญ่จะไปอยู่ในช่วงต้นซอยฝั่งถนนวิภาวดีรังสิตไปจนถึงช่วงกลางๆซอย มีทั้งร้านอาหารตึกแถวและร้านแผงลอยตั้งเรียงรายอยู่กันเพียบ เท่าที่เดินดูก็มีอาหารให้เลือกหลายประเภทครบทั้งแบบกินจริงจัง หรือขนมกินเล่น ส่วนแถวๆโครงการจะไม่ค่อยมีให้เลือกเท่าไหร่ใกล้ๆสุดจะเป็นบริเวณ 7Eleven และร้านอาหารในค่ายมวยเยื้องกับ 7Eleven
เนื่องจากซอยนี้เป็นซอยที่สามารถทะลุออกไปยังถนนหลักได้หลายสายตั้งแต่ ถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนลาดพร้าว ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าสะดวกมาก แถมภายในพื้นที่นี้แต่ละซอยยังลัดเลาะไปเชื่อมต่อถึงกันได้อีก เช่นจากถ้าอยากจะไปเดินเที่ยวตลาดนัดหลังการบินไทย(ตลาดลุงเพิ่ม) ก็วิ่งทะลุซอยลาดพร้าว 26 เลาะไปด้านหลังตึการบินไทยได้เลย ถ้าจะขึ้นทางด่วนให้ไปใช้ด่านดินแดงจะใกล้สุดครับ
การเดินทางโดยไม่ใช้ถือเป็นจุดเด่นอีกจุดของโครงการ เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT รัชดาภิเษก และโดยมีระยะเดินประมาณ 290 เมตรซึ่งถือว่าเดินได้สบายๆอยู่แต่ทางเท้าช่วงใกล้ๆจะเดินยากหน่อยเพราะมีเสาไฟฟ้ามากั้นอยู่ แต่พอมาถึงช่วง 7Eleven แล้วก็เดินได้สบายๆ หรือถ้าจะเดินทางไปเส้นวิภาวดีก็เดินไปแถว 7Eleven นั่งรถกระป๊อได้ ค่าบริการก็ 7 บาทตลอดสาย และถ้าจะแวะกินอะไรหรือซื้ออะไรกลับบ้านก็ให้เค้าจอดได้ตลอดทาง และจะขึ้นตรงไหนก็โบกตามทางได้เลยครับ เพียงแต่ช่วงกลางคืนอาจจะเงียบๆไปซักหน่อย
วัสดุของโครงการถือว่าให้คุณภาพมาครบดี มีดีมีด้อยปนๆกันไป พื้นห้องได้กระเบื้องยางทั้งห้อง สำหรับสำหรับพื้นผิวสัมผัสไม่เหมือนพวกลามิเนทแน่ๆ และราคาต่อตารางเมตรที่ไม่สูงเท่าไหร่สำหรับวัสดุประเภทนี้ แต่ที่ได้กลับมาคือเรื่องการดูและรักษาความสะอาด เช็ดล้างง่าย อย่างโครงการเลือกแบบลายไม้เข้ามา ทำให้ดูไม่เหมือนกระเบื้องยางทั่วไป ส่วนครัวน่าจะให้เป็นแกรนิตโต้มาจะเหมาะกับการใช้งานมากกว่า ประตูห้องได้แบบ Digital Door Lock 2 ระบบ (รหัสและ Key Card) เนื่องจากการขายเป็นแบบ Fully Fitted ดังนั้นจะแถมมาให้แค่เคาน์เตอร์ครัวเท่านั้น ยกเว้นแบบ Studio จะได้ฉากกระจกกั้นเป็นครัวผิดมาให้ด้วย ให้ Top เป็นหินแกรนิตและผนังติดกระจกมาให้การทำครัวก็ไม่ต้องว่าจะเช็ดล้างลำบาก ส่วนตัวตู้ก็ใส่ Soft Close ให้ทุกบานแต่เป็นแบบที่ต้องเปิดประตูตู้เกิน 45 องศาไปนะ Soft Close ถึงจะทำงาน ในห้องน้ำได้ฉากกระจกกั้นมาให้ อ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard และมีตู้ Built-in ด้านล่างมาให้ด้วย ได้ฉากกั้นแยกส่วนเปียกกับแห้ง
การออกแบบของโครงการรูปลักษณ์ภายนอกมาแบบ Modern และสีสันมาในโทนเข้ม ลักษณะแบบปูนเปลือยดิบๆหน่อย รูปด้านของอาคารจะมีลูกเล่นตามชื่อโครงการที่จะสื่อถึงเส้นสายการเชื่อมต่อจากเส้นทางต่างๆ โดยลายเส้นที่เห็นจะมีลักษณะคล้ายๆเส้นสายบนแผงวงจรไฟฟ้าครับ สำหรับชั้น 7 และ 8 จะมีระยะร่นจากถนนไปนิดหน่อย ซึ่งเป็นส่วนของ Facility ต่างๆ ส่วนลิฟท์ มีมาให้แค่ 1 ตัวเท่านั้น เพราะจำนวนยูนิตมีแค่ 46 ยูนิตถือว่าหลวมๆใช้สบายๆเลย แต่ถ้าลิฟท์เสียก็ไม่มีลิฟท์ตัวอื่นให้ใช้แทนนะ
สำหรับการออกแบบห้องพักอาศัยมีให้เลือกทั้งแบบ Studio, 1 Bed และ 2 Bed โดยห้อง Studio จะมีขนาดอยู่ที่ 27.19 ฟังก์ชั่นการใช้งานจัดมาให้ครบแต่การดูทีวีจะลำบากหน่อยเพราะไม่สามารถวางโซฟาตรงปลายเตียงได้ แต่จะได้มุมนั่งทำงานมาเพิ่มแทน ส่วนห้องแบบ 1 Bed จะมีขนาดตั้งแต่ 31 ถึง 48 ตร.ม. ถ้าใครอยากอยู่ห้องแบบโปร่งๆไม่แออัดก็เลือกห้องที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่หน่อยจะได้วางโต๊ะอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้ สำหรับห้องแบบ 2 Bed จะมีให้เลือกแค่ชั้นละห้องเป็นห้องมุมจะได้วิวทั้ง 2 ด้านพื้นที่ๆได้เพิ่งขึ้นมาคือพื้นที่ส่วนกลางอย่างห้องนั่งเล่นและห้องครัว ส่วนห้องนอนและห้องน้ำยังคงเป็นขนาดใกล้เคียงกันไม่ได้ใหญ่กว่าเดิมมากนัก
สาธารณูปโภคของที่นี่มีมาให้ครบและเอาสระว่ายน้ำไปอยู่ที่ดาดฟ้าด้วย เรียกว่า จิ๋วเลย โดยระดับของสระจะยกสูงจากชั้น 8 มาครึ่งชั้น ทำให้ได้บรรยากาศโล่งๆหน่อย แต่น่าเสียดายที่ตัวสระมีขนาดเล็กไปหน่อย เอาไว้แช่น้ำเล่นชิวๆหละกัน คงจะว่ายออกกำลังกายไม่ได้ สำหรับห้อง Fitness จะอยู่ที่ชั้น 8 เลย และชั้นดาด ฟ้าที่เดินจากสระขึ้นไปอีกจะทำเป็นสวนหย่อม
มีการอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ
เมื่อเทียบกับโครงการช่วงเรทราคาใกล้เคียงกันในย่านนี้แล้ว ราคาของโครงการยังสูงไปนิด ดังนั้นจึงมีการปรับคะแนนในส่วนต่างๆครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 95,970 บาท/ตร.ม., 24 October 2014
- ทำเล 7.75 /10 – ทำเลใกล้รถไฟฟ้าเดินได้ในระยะ 300 เมตร อาหารการกินระยะใกล้มีน้อยแต่ก็แลกกับความสงบไม่พลุกพล่านมากนัก
- เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – สะดวกเพราะสามารถลัดเลาะออกได้หลายทาง
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – เดินทางสะดวกแต่กลางคืนจะเปลี่ยวหน่อย
- วัสดุ 7.0/10 – ให้มาเกือบสมราคา มีปนกันทั้งดีและด้อยนะ
- แบบ 7.5/10 – แบบห้องส่วนใหญ่ลงตัวดี มีแค่แบบ Studio ที่บางมุมยังไม่ลงตัวดีนัก
- สาธารณูปโภค 6.5/10 – ให้มาครบทั้งสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้าและห้อง Fitness ที่ชั้น 8 แต่ขนาดเล็กไป ใช้งานไม่สะดวก
- UPPER CLASS
- 7.48 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ Wire รัชดา 19 เป็นโครงการเหมาะสำหรับคนที่อยากได้ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT แบบเดินได้ และไม่ชอบอยู่โครงการใหญ่ๆ คนเยอะๆ ชอบความสงบไม่พลุกพล่านชอบจำนวนยูนิตน้อยๆ และอยากได้ห้องแบบ 1 Bedroom ที่มีขนาดใหญ่ได้บรรยากาศโปร่งๆไม่อึดอัด ยอมรับได้กับส่วนกลางที่เล็กหน่อย เน้นการอยู่ในห้องไม่เน้นวิว มีงบประมาณ 2.7 – 5 ล้านบาท และมีกำลังผ่อนประมาณ 19,000 – 38,000 บาท/เดือน
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧