U Delight vs Aspire

สวัสดีครับ วันนี้ Mr.Oe ขอทำ Battle ที่ BTS ตลาดพลูเล่นๆครับ 🙂 Case นี้จริงๆตั้งใจเขียนตั้งแต่เดือนที่แล้วตอน Aspire เปิดตัว แต่ไม่ว่างเขียนซะที จนพี่ Aspire เขาขายจะหมดแล้วถึงมีเวลากลับมาเขียนนี่แหละ ซึ่งจังหวะดีนะ เนื่องจากเมื่อหลายวันก่อน  U Delight ตลาดพลู มีการปรับราคาเปิดตัวจาก 2.19 มาเป็น 1.79 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับราคาทั้งโครงการที่แรงมาก เล่นเอาตะลึงไปทั้งบาง เพราะนี่คือ indicator หนึ่งที่สำคัญ ที่คนซื้อบ้านอย่างเราๆต้องจับตาดูครับ…

Fact : U Delight ตลาดพลู VS Aspire สาทร-ท่าพระ

Screen Shot 2557-11-19 at 1.13.21 AM

ตัวข้อมูลของ U Delight ตลาดพลู เป็นข้อมูลเก่า ซึ่งปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างราคาใหม่หมดนะครับ โดยทำราคาเริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาท สำหรับห้อง 1 Bedroom 30 ตารางเมตร Fully Fitted ราคาเริ่มต้นต่อตารางเมตรต้องแก้เป็น 59,667 บาท และ ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ราวๆ 65,000 – 75,000 บาทต่อตารางเมตรครับ เทียบกับ Aspire ที่ราคาเฉลี่ยยังยืนอยู่ที่ 95,000 บาท ก็ถือว่าห่างกันพอสมควร


ยกที่1: เปรียบเทียบเรื่องทำเลที่ตั้ง

Regent-Orchid-ตลาดพลู-copy11

ภาพรวมทำเล จะเกาะ BTS ตลาดพลู และ The Mall นะครับ โดยทำเลแถวนี้พอรถไฟฟ้าวิ่ง ราคาปัจจุบันทำกันตารางเมตรละ แสน ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าตกใจกันแล้วสินะ การที่ Aspire สาทร-ท่าพระ ได้ทำเลติดถนนราชพฤกษ์ ตรงตำแหน่งทางขึ้น Sky Walk เดินไปรถไฟฟ้าพอดี จึงเป็นจุดแข็งอย่างแรง เมื่อเปิดตัวโครงการมาที่ราคาไม่เกินแสนบาทต่อตารางเมตร จึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลามครับ

9P6A1631 DCIM102GOPRO DCIM102GOPRO

ดูกระแสมหาชนกันเอาเองครับ ว่า แรงไม่แรง สำหรับ Aspire สาทร-ท่าพระ by AP ซึ่งมันแสดงให้เห็นความต้องการ และความมั่นใจ ในทำเลตรง BTS ท่าพระนี้ ส่วนหนึ่งต้องให้เครดิตทีมการตลาดของ AP ด้วยครับ ที่สามารถสร้างกระแสทั้งใน online และ direct ได้แรงขนาดนี้ … พอคนมาแย่งกันเยอะแบบนี้ จึงไม่มีใครตัดสินใจนานครับ ช้านาทีเดียวห้องที่เล็งไว้ก็โดนสอยไปเรียบร้อย จึงมีการปิดการขายได้เยอะมาก

Aspire

มาดูเปรียบเทียบตำแหน่งที่ตั้งของทั้งสองโครงการกันอีกทีนะครับ U Delight อยู่ริมถนนรัชดาภิเษกติด Parkland รัชดาท่าพระ  ส่วน Aspire อยู่ริมถนนราชพฤกษ์ และอยู่ติด Parkland Grand ครับ ยังอยู่ในโซนที่เป็นคู่แข่งกันตรงๆ แต่ตัว Aspire จะได้เดินทางมุ่งหน้าไปกลับสาทรสีลม สะดวกกว่า U Delight ที่ได้สะดวกกว่าสำหรับคนที่เดินทางไปกลับทางด้านพระราม3 ครับ

Aspire_Sathorn_Thapra_location1

BTS S10 สถานีตลาดพลู ตัวการในการพลิกเปลี่ยนทำเลย่านนี้ให้เปลี่ยนไป เพราะคนฝั่งธนหากใครมีเงินมากพอส่วนใหญ่ก็อยากได้บ้านใกล้รถไฟฟ้ากันทั้งนั้น เพราะการขับรถเข้าเมืองมันติดมากช่วงคอขวดสะพานข้ามแม่น้ำ เด็กๆที่ต้องไปโรงเรียนหรือคนทำงานย่านสาทรสีลม ถ้าไม่ต้องทรมานบนรถช่วงเช้าเย็นโดยการหันมาใช้รถไฟฟ้า คุณภาพชีวิตก็จะดีกว่ามาก (แต่ได้ข่าวว่า ตอนเช้าเกือบทุกวันรอหลายขบวนอยู่นะช่วงนี้)

U Delight VS Aspire (1) copy 2

เทียบระยะทางการเดินไปรถไฟฟ้า แบบถึงตัวสถานี ของ U Delight ตลาดพลู ระยะไม่เกิน 500 เมตร แต่ยังพอเดินง่ายและไม่เปลี่ยว ส่วน Aspire สาทร-ท่าพระ สบายกว่าม้ากกกก เพราะบันได Sky Walk พาดมาลงหน้าโครงการ (ฝั่งคนเดินเข้าออก) พอดี เดินขึ้น Sky Walk และเดินต่อไป 160 เมตร ก็ถึงตัวสถานีแล้วครับ คะแนนการใช้ BTS ของ Aspire ชนะเลิศ

Aspire_Sathorn_Thapra_location9-copy

ชี้ให้ดูจุดขึ้นลง Sky Walk ของ BTS จะเห็นว่า อยู่หน้า Aspire พอดีเลย

Aspire_Sathorn_Thapra_location12-copy

จุดขึ้นลง Sky Walk อีกมุมนะครับ เวลาเราเดิน ก็เดินอยู่บน Sky Walk ตลอดแนวจนไปถึงตัวสถานี

U-Delight-ตลาดพลู-5

เส้นทางเดินไป BTS ของ U Delight จะอยู่ด้านหลัง ฝั่งถนนเทอดไท33 เดินไปไม่เกิน 500 เมตร ถือว่าไกล แต่ยังเดินได้ครับ

U-Delight-ตลาดพลู-26

ถนนเทอดไท 33 เส้นทางเดินไป BTS ของ U Delight เป็นแบบนี้ เป็นเส้นที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์มาก มี mini mart, ร้านค้า ร้านอาหารเยอะ สองข้างทางส่วนมากเป็นตึกแถว ไม่มีจุดเปลี่ยว แต่ก็ไม่มีฟุตบาททางเดินที่สบายเหมือนถนนใหญ่นะครับ

U Delight VS Aspire (1) copy

แหล่งอารยธรรมสูงสุดของย่านนี้คือ The Mall ซึ่งทั้งสองโครงการเรียกว่าเดินมา The Mall ได้ทั้งคู่ แต่ Aspire เดินใกล้กว่ามากๆ ระยะทางแค่ 160 เมตร ส่วน U Delight ระยะทาง 450 เมตรครับ

U-Delight-ตลาดพลู-25

แนวเส้นทางการเดินไป The Mall ริมถนนรัชดาภิเษกของ U Delight ข้างทางค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ เพราะมีร้านอาหาร แผงขายของกิน และตลาดด้วย

Aspire-สาทร-ท่าพระ-Zoom-copy

สภาพแวดล้อมรายรอบ อันนี้มีพลิกล็อคเล็กน้อย เพราะตัว Aspire อยู่ติดแยกเลยนะครับ ข้างๆ ก็ติดกับ Parkland Grand ด้านหลังติดคลองสำเหร่ และมีพื้นที่รกร้าง รวมถึงตึกร้าง ตึกเก่าที่ไม่ได้ดูดีสักเท่าไร ประเด็นคือการออกแบบอาคารไม่ได้หลบเลี่ยงการบังวิวในระยะประชิดด้วย ส่วนการอยู่ติดแยกจะมีมลภาวะทางเสียงและฝุ่นอันเป็นข้อเท็จจริงซึ่งทุกคนคงทราบดีอยู่แล้ว

U-Delight-ตลาดพลู-641

สภาพแวดล้อมรายรอบ U Delight ตลาดพลู ด้านหน้าติดถนนหลัก ด้านหลังติดถนนรอง ทิศเหนือติด Parkland รัชดา-ท่าพระ แต่โครงการมีการออกแบบตึกแยกกันเป็นสองแท่ง เพื่อไม่ให้มีการบังวิวกันในระยะประชิด ทิศใต้เป็นแนวอาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้น รายรอบไม่มีพื้นที่รกร้างหรือตึกร้าง … สภาพแวดล้อมรายรอบอาคารรวมถึงการออกแบบตึก ทำให้ U Delight มันเหมาะกับการอยู่อาศัยมากกว่า Aspire ถ้าพิจารณาแค่สภาพแวดล้อมรายรอบนะครับ

 

สรุปสาระสำคัญเรื่องทำเล

  • ทำเลโดยรวม Aspire ดูดีกว่าพอสมควร
  • การเดินทางโดยรถ ขึ้นอยู่กับว่าชอบใช้เส้นทางไหนประจำ Aspire สะดวกหากเข้าออกเมืองเส้นสาทรสีลม U Delight สะดวกหากเข้าออกเมืองเส้นพระราม3 ครับ Aspire ดูดีกว่าไม่มาก
  • การเดินทางโดยไม่ใช้รถ Aspire สะดวกกว่ามากในการเดินทางด้วย BTS แต่ U Delight ได้เปรียบหากใช้ Taxi หรือพี่วิน เพราะสามารถใช้ทางเลี่ยงทางลัดได้หลากหลายกว่า แต่โดยรวม Aspire ยังดูดีกว่าครับ
  • ความอุดมสมบูรณ์รายรอบโครงการ Aspire พึ่งพา The Mall และตลาดหน้า The Mall เป็นหลัก เดินใกล้สบายๆ ส่วน U Delight พึ่งพาร้านค้าร้านอาหารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และยังพอเดินไป The Mall ได้เช่นกัน คะแนนสูสี
  • สภาพแวดล้อมรายรอบอาคารสำหรับการอยู่อาศัยจริงจัง Aspire ทำเลดีจริงแต่สภาพแวดล้อมรอบรั้วโครงการยังไม่ค่อยเท่าไรนะครับหากดูภาพปัจจุบัน ยังมีที่เปล่าตึกร้างอยู่ใกล้และมีตึกบังระยะประชิดไปด้านหนึ่ง และการอยู่ใกล้แยกสะดวกจริงแต่ต้องทำใจเรื่องเสียงและอากาศครับ ส่วน U Delight สภาพแวดล้อมไม่มีจุดเปลี่ยว มีตึกติดกันระยะประชิดแต่มีการออกแบบหลบ ตัวตึกในร่นจากถนนไปพอสมควร คะแนนสภาพแวดล้อมสำหรับการอยู่อาศัย U Delight ดูดีกว่าครับ

สรุปคะแนนทำเลโดยรวม Aspire ดูดีกว่า U Delight พอสมควรครับแต่ไม่ได้ทิ้งกันหลุดหลุ่ยมากมายเมื่อพิจารณาภาพรวมจากการอยู่อาศัยจริง โดยที่เรายังไม่พูดถึงกันเรื่องราคาและความคุ้มค่านะครับ เอาไว้สรุปทีหลัง

 


ยกที่2 : เปรียบเทียบเนื้อโครงการ

gallery1-1

หน้าตาตึก U Delight ตัวตึกจะร่นจากถนนไปพอสมควร ความสวยความงามไม่ขอพูดถึง คนเรามองความสวยไม่เหมือนกัน

U-Delight-ตลาดพลู

จุดเด่นของตึก U Delight คือแยกเป็น 2 แท่ง มีอาคารที่จอดรถตรงกลาง บนสุดของอาคารที่จอดรถจัดเป็น Main Facility ขนาด 1 ไร่ ตัว Facility จึงยกระดับสูงขึ้นมาพ้นแนวอาคารพาณิชย์และบ้านที่อยู่รอบๆ

U-Delight-ตลาดพลู-10

โมเดลจำลองให้ดูว่า ตัวตึกเขาแยกเป็นสอง เพื่อหลบการบังวิวกับตึก Parkland ที่อยู่ข้างๆนะครับ

 U-Delight-ตลาดพลู-6th-26thfloorplanR 

Floor Plan ของโครงการ U Delight จะแยกตึกกัน Unit ต่อชั้นอยู่ที่ 17 ห้องต่อชั้น ความหนาแน่นระดับปานกลาง

gallery1-4

Main Facility ของ U Delight ตลาดพลู ที่จัดวางไว้บนชั้น 5 ระหว่างตึก A และ B เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ราวๆ 1 ไร่ ซึ่งนอกจากจะมีของเบสิคอย่าง สระว่ายน้ำ(ระบบเกลือ), สวน, Fitness, Staem, Sauna, และ ห้องสมุดแล้ว… ยังมีของแปลกที่นี่ด้วยนะ คือ พื้นที่ปลูกผักสวนครัวร่วมกันครับ ปลูกแล้วเอาเข้าส่วนกลาง ขายให้ลูกบ้านเอาไปทำสลัด รายได้เข้าส่วนกลางครับ

gallery1-7

สระว่ายน้ำ และพื้นที่ Facility ชั้น 5 ของ U Delight

Re_Aspire-Sathorn-Thapra-View05 

รูปหน้าตาตึก Aspire สาทร-ท่าพระ

 aspire-7-28-r

Floor Plan ของ Aspire ซึ่งยาวมาก เขาเลยเอามาแบ่งเป็น 2 Wing คือ Hikari กับ Tsuki (แปลว่าพระอาทิตย์กับพระจันทร์) ตัว Hikari จะอยู่ทางขวา เป็นรูปตัว L ด้านขวาสุดเจอบังวิวด้วย Parkland แบบเต็มๆ… Unit ต่อชั้นสูงสุดซัดไป 53 ห้อง ซึ่งถือว่าหนาแน่นมาก เกือบจะเท่าคอนโด Low Rise ขนาดเล็ก 1 โครงการเลยทีเดียว ลิฟท์มี 6 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 203 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว เกินค่ามาตรฐานไปมาก

 aspire-7-28

Floor Plan ฝั่ง Tsuki ซึ่งเป็นแนวตรงครับ

 

f1

Facility ของ Aspire ซึ่งก็มีครบนะครับ แต่ความน่าใช้คงต้องทำใจ เพราะเอามาวางไว้ชั้นล่างสุด มันน่าใช้สู้ ชั้นบนๆที่ได้วิวและพ้นแนวสายตาบ้านข้างเคียงไม่ได้

Re_Fitness_High-resolution

รูปห้อง Fitness ของ Aspire

Re_Lobby_High-resolution_new

รูป Lobby และ Seating area  ของ Aspire ทำออกมาสวยดีนะ

Re_Aspire-Sathorn-Thapra-View04

 

รูปสวนบนดาดฟ้าของ Aspire อันนี้ดี เพราะลูกบ้านที่ห้องวิวไม่สวย จะได้มีพื้นที่โล่งๆให้ดูบ้าง

Screen Shot 2557-11-19 at 12.48.10 AM

เปรียบเทียบ Main Facility ของทั้ง 2 โครงการ (U Delight ทางซ้าย Aspire ทางขวา)

Screen Shot 2557-11-19 at 3.39.57 PM

 

สรุปสาระสำคัญของเนื้อโครงการ

  • รูปร่างหน้าตาตึก ไม่เปรียบเทียบกันนะครับ ต้องแล้วแต่คนชอบ
  • ที่จอดรถแบบรวมจอดซ้อนคัน Aspire ให้มา 40% ของ U Delight ได้ 45% แต่ U Delight มีเก็บค่าจอดเดือนละ 300 ซึ่งเป็นมาตรการลดจำนวนคนจอดแช่โดยไม่จำเป็นที่ใช้เกือบทุกโครงการ คะแนนความพอเพียงของที่จอดรถ U Delight ทำได้ดีกว่าแน่นอนแม้จะเสีย 300 บาทก็เถอะ
  • อัตราส่วนลิฟท์โดยสาร Aspire จัดมาที่ 203 ห้องต่อ ลิฟท์ 1 ตัว ส่วน U Delight ตึก A 183/1 ตึก B 142/1 คะแนนเรื่องลิฟท์ U Delight ดีกว่า
  • ความหนาแน่นโดยรวม Aspire ตึกเดี่ยว 1,219 Unit ส่วน U Delight ตึกคู่ 548 และ 425 Units ทำให้ความหนาแน่นต่อชั้นของ Aspire สูงมากระดับ 53 ห้องต่อชั้น ส่วน U Delight มี 17 ห้องต่อชั้น คะแนนความหนาแน่นของ U Delight ดูดีกว่าขึ้นมาทันที
  • Facility มี Lobby และร้านค้าทั้งคู่ สระว่ายน้ำระบบเกลือทั้งคู่ สระ Aspire ใหญ่กว่าสองเท่า Fitness Aspire 2 ชั้นใหญ่กว่า U Delight นอกจากนี้ Aspire มีซาวน่าและรูปแบบการจัดที่ดูทันสมัย แต่ก็มีจุดสลบตรงที่ดันเอา Facility ทั้งหมดนี้มาไว้ที่ชั้น 1 ซึ่ง Privacy กับความน่าใช้หล่นฮวบ ทำให้ Facility 1 ไร่ที่ชั้น 5 ของ U Delight ดูน่าใช้กว่านิดๆ
  • ความปลอดภัย CCTV/Key Card/รปภ 24 ชั่วโมง เท่ากัน
  • ค่าส่วนกลาง Aspire 38 บาท U Delight 35 บาท… แต่อย่าลืมค่าจอดรถเดือนละ 300 นะ … สูสี คะแนนพอๆกัน

 

สรุปเนื้อโครงการ โดยยังไม่ต้องพิจารณาความสวยงามและราคา Aspire ค่อนข้างหนาแน่นนะ อัดห้องมาซะเยอะ และไม่มีการออกแบบมาช่วยหลบบังวิวเลย การใช้งานที่จอดรถและลิฟท์ ต้องบริหารจัดการดีๆ ส่วน Facility ดีนะครับเพียงแต่เอามาไว้ที่ชั้น 1 ความน่าใช้มันหายไปเยอะมาก เมื่อเทียบกับ U Delight ที่มีการออกแบบไม่ให้เกิดการบังวิวระยะประชิด โครงการหนาแน่นน้อยกว่าหลายเท่า ที่จอดรถมากกว่าเล็กน้อย ลิฟท์สัดส่วนดีกว่า และส่วนกลาง 1 ไร่ที่ชั้น 5 ทำให้คะแนนเรื่อง Facility และเนื้อโครงการเฉือนชนะ Aspire ไปแบบไม่ยากเย็นนัก

 

 

ยกที่ 3 : เปรียบเทียบตัวห้อง

ผมขอเปรียบเทียบห้อง 1 Bedroom นะครับ โดยเริ่มจาก U Delight ก่อน ซึ่งมีสาระสำคัญที่ทำให้โครงการสามารถปรับลดโครงสร้างราคาซุกซ่อนอยู่ เดี๋ยวค่อยๆแกะกันไป

U-Delight-ตลาดพลู-room-30-sqm

ห้อง 1 Bedroom มาตรฐานของ U delight ที่มีการปรับหลายอย่างอยู่นะครับ ที่เปลี่ยนมากๆคือ ครัว ที่ถอดเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันออกและแถมเป็นเตาไฟฟ้าแบบตั้งโต๊ะมาให้แทน ตู้แขวนเหนือ Pantry ถอดออกไม่มี ผนังข้างตู้เย็นที่เป็นกระจกปรับเป็นผนังคอนกรีต ปรับระแนงระเบียงตรงส่วนกั้นแอร์ทำให้เหลือเหล็กทอนกลับมาเป็นราวแขวนผ้าเพิ่มให้ และฉากกั้นอาบน้ำปรับเพิ่ม Spec เป็นกระจกนิรภัยครับ ตัวเฟอร์ไม่แถมตั้งแต่แรกนะ Option full fur คือจ่ายเงินเพิ่มอยู่แล้ว … ของที่เขาปรับออก มูลค่าไม่เท่าไร แต่ไปได้ส่วนลดมากๆจาก Total Construction cost ที่ Bid มาใหม่ ทำให้สามารถกดราคาห้องลงไปได้เยอะพอสมควร (ส่วนลดโดยเฉลี่ยคือ 300,000 บาท ทั้งโครงการ แต่บางห้องก็ได้หลักหมื่น บางห้องก็ได้เกิน 300,000 เยอะครับ)

รูปแบบห้องของ U Delight จัดมาค่อนข้างมาตรฐานและจะลงตัวพอดีเป๊ะ ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เขาออกแบบมาสำหรับโครงการครับ

U-Delight-ตลาดพลู-44

ภาพรวมห้อง

U-Delight-ตลาดพลู-47

เฟอร์พวกนี้ไม่แถมนะ เขาขายแบบ Fully Fitted ให้บางส่วน

U-Delight-ตลาดพลู-48

Option ของ Grand U คือจะมี เฟอร์ออกแบบพิเศษพอดีกับห้อง ซึ่งมีรายละเอียดของตัวเอง แต่ต้องเพิ่มเงินครับ

U-Delight-ตลาดพลู-51

ระยะพื้นถึงฝ้า 2.6 เมตร ได้ไฟเป็นโคมยื่นแบบนี้

U-Delight-ตลาดพลู-54 

ระยะพื้นถึงฝ้า 2.6 เมื่อบวกกับเฟอร์ที่สูงถึงเพดาน ก็จะมี Space เก็บของได้แบบนี้

U-Delight-ตลาดพลู-56

ภาพรวมห้องน้ำ ยังเป็นแบบมาตรฐาน

U-Delight-ตลาดพลู-63

ฉากกั้นอาบน้ำ ที่ตอนนี้เปลี่ยน Spec เป็นกระจกนิรภัย

U-Delight-ตลาดพลู-89 

ผนังกระจกกั้นระเบียงตรงส่วนตู้เย็น ปรับเป็นผนังทึบแทนนะครับ บานเปิดก็เปลี่ยนแบบไป

U-Delight-ตลาดพลู-92 

ตัวระแนงเหล็กที่บังสายตาคอมแอร์จากด้านนอก ปรับแบบใหม่ มีเหล็กเหลือเลยเอามาทำเป็ราวตากผ้าเพิ่มให้ลูกบ้าน

U-Delight-ตลาดพลู-96 

ห้องนอน

U-Delight-ตลาดพลู-98

ตู้เสื้อผ้าแบบฝังผนัง จะไม่เป็นตู้ยื่นๆออกมา

 

Screen-Shot-2557-10-07-at-6.35.35-PM

รูปแบบห้อง 1 Bedroom ของ Aspire ซึ่งใกล้เคียงกับ U Delight มากแต่การแบ่งห้องจะมีระยะของส่วนต่างๆที่แตกต่างกัน โดย Aspire ขายแบบ Fully Fitted ระยะพื้นถึงฝ้า 2.55 เมตร

Aspire_Sathorn_Thapra_Mockup3 

แนวการตกแต่งเขาแต่งให้ดูแบบญี่ปุ่นนะครับ

Aspire_Sathorn_Thapra_Mockup26

ที่นั่งดูทีวี …

Aspire_Sathorn_Thapra_Mockup9

ห้องน้ำของ Aspire เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปของ Mogen ที่มีข้อดีคือมาตรฐานโรงงานทำให้ปัญหาน้อย Defect น้อย แต่ก็จะมีอะไรแปลกๆหน่อยนะเช่น ตำแหน่งติดตั้งอ่างล้างหน้าที่ชิดผนังขวาแบบนี้ คนถนัดขวาแปรงฟันลำบาก

Aspire_Sathorn_Thapra_Mockup10

พื้นที่ในห้องน้ำจะญี่ปุ่นจ๋ามาก …เล็กนะครับ

Aspire_Sathorn_Thapra_Mockup27 

ครัวกั้นด้วยชุดประตูกระจก มีโต๊ะทานอาหารอยู่ในครัวเลย

Aspire_Sathorn_Thapra_Mockup29 

Pantry ให้มาไม่มีเตาและเครื่องดูดควันนะ ส่วนชั้นวางของเหนือ Pantry ไม่มีบานปิด

Aspire_Sathorn_Thapra_Mockup42 

ระเบียง

Aspire_Sathorn_Thapra_Mockup55

ห้องนอน ช่องแสงและหน้าต่าง เล็กนิดเดียว

Screen Shot 2557-11-19 at 4.51.09 PM

พื้นฐานของห้อง เกือบจะเหมือนกันนะครับ ขนาดเท่ากันที่ 30.5 ตารางเมตร ความสูงใกล้เคียงกันที่ 2.6 (U Delight) และ 2.55 (Aspire) ขายแบบ Fully Fitted เหมือนกัน วัสดุใกล้เคียงกัน สิ่งที่แตกต่างกันคือสัดส่วนและการให้น้ำหนักห้อง โดยของ U Delight ให้น้ำหนักห้องนอนกับ Living Area มากหน่อย ห้องนอนได้ Bay Window สามารถ Built โต๊ะยาวเลียบหน้าต่างได้เลย แต่ครัวเล็กใช้งานสองฝั่ง ส่วน Aspire ได้สัดส่วนครัวที่ดีกว่า ห้องนั่งเล่นระยะดูทีวีดี ส่วนห้องนอนได้ช่องหน้าต่างรับวิวน้อย

 

สรุปในส่วนของห้องพื้นฐาน ไม่ต่างกันสักเท่าไร ขึ้นอยู่กับว่า เราชอบแบบไหน (หากยังไม่พิจารณาเรื่องราคาห้องนะ) … คะแนนออกเสมอกันครับ

 

 

ยกที่ 4 : เปรียบเทียบราคาและเงื่อนไขการขาย

จริงๆ เป็นการเปรียบเทียบที่ออกจะสายไปสักหน่อย เพราะ Aspire เขาขายไปเรียกว่าสบายตัวแล้วนะครับ ราคาของ Aspire น่ะเริ่มต้นที่ 1.98 ล้านบาท ซึ่งเป็นห้องเล็ก เอามาเทียบกันไม่ได้ ถ้าเทียบกับห้อง 30.5 ตารางเมตรด้วยกัน Aspire จะเริ่มที่ สองล้านกลางๆ ซึ่งตอนนี้ราคานี้ก็ไม่มีแล้วซะอีก … ราคาเฉลี่ยของ Aspire อยู่ราวๆ 95,000 บาทต่อตารางเมตร

ส่วน U Delight ตลาดพลู ต้องบอกว่า จังหวะแก้เกมส์พลาดไปนะครับ หากออกราคาโปรโมชั่นที่โครงสร้างใหม่ตอน Aspire เปิดตัว คงฟัดกันสนุกสูสีกว่านี้ นี่ปล่อยให้ Aspire เข้าทำจนเก็บฉากไปแล้ว ถึงค่อยมาออกราคาโครงสร้างใหม่ … ตัวราคาใหม่ลูกค้าเก่าที่ซื้อไป จะถูกเรียกมาปรับราคามอบส่วนลดให้เช่นกันนะครับ ซึ่งราคาเริ่มต้นคือ 1.79 ล้านบาท (ปรับลดมาจาก 2.19 ล้าน) ขายแบบ Fully Fitted ราคาเริ่มต้น 59,667 บาทต่อตารางเมตร ราคาเฉลี่ยที่ผมเห็นอยู่ราวๆ 65,000 – 75,000 บาท … จริงๆผมว่าน่าเอาไปเทียบกับ Regent ตลาดพลูนะ 😀

เมื่อเอาราคาของ Aspire มาเทียบกับ U Delight ตลาดพลูแล้ว U Delight คะแนนดีกว่าอยู่แล้ว เพราะถูกกว่าหลายแสน แต่มันเอามาเทียบกันตรงๆไม่ได้นะครับ เวลาเทียบต้องดูบริบทที่ตั้งกับความคุ้มค่า

ทำเล Aspire กับราคาที่ตั้งมาถือว่าไม่แพงไม่ถูก อยู่ในระดับสังคมคาดหวัง เพราะเพื่อนบ้านใกล้เคียงกัน ก็ราคานี้กันทั้งนั้น … ส่วน U Delight ตลาดพลู เมื่อปรับลดราคาลงมาแล้ว จัดอยู่ในระดับต่ำกว่าราคาตลาดครับ แต่ต้องเล็งห้องให้ดี เพราะการปรับโครงสร้างราคาในครั้งนี้ มีห้องที่ลดมาหลักหมื่น – 700,000 บาท … (โดยเฉลี่ย อยู่ที่ส่วนลด 300,000 บาท) ระดับราคาต่อตารางเมตรของ U delight กลายเป็นย้อนยุคไปสมัย CASA เพิ่งเปิดตัวนู่นแนะครับ …คะแนนความคุ้มค่าด้านราคา เลยต้องยกให้ U Delight เขาไป…

 

 

ยกที่ 5 : บทสรุปส่งท้าย

โครงการ Aspire สาทร-ท่าพระ เป็น success story ที่เราเรียนรู้ได้นะครับ ในแง่มุมของผู้ประกอบการ จังหวะการเปิดตัว การทำการตลาด การจัดโปรโมชั่น และการวางโครงสร้างราคา รวมถึงการพัฒนารูปแบบห้องและตัวโครงการ ถือว่า AP ทำการบ้านมาดีมาก … แต่ในแง่ของคนซื้อบ้าน ที่ต้องมองหาบ้านที่เหมาะกับตัวเอง เราควรจะต้องใจเย็นๆหน่อยนะครับในการเลือกซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยเอง โครงการในลักษณะของ Aspire ต้องทำการบ้านแต่เนิ่นๆ ไม่งั้นต้องไปหาซื้อ Resales สถานเดียว ซึ่งการทำการบ้านเก็บข้อมูล มีสื่อ online มากมายให้เราถาม และศึกษานะครับ และสำหรับคนที่ชอบ Aspire แล้วซื้อไม่ทัน ก็ไม่ต้องเสียใจไปหรอกครับ บ้านของเรามันก็ต้องเป็นของเรา ใจเย็นๆหาข้อมูลให้พร้อม แล้วค่อยซื้อ Resales ก็ยังได้ ยอมโดนบวกกำไร ดีกว่าหน้ามืดตามัวยื้แย่งซื้อห้องแล้วหยิบของที่ไม่เหมาะกับเรามานั่งเสียใจทีหลังครับ

โครงการ U Delight ตลาดพลู คงต้องบอกว่า Grand U ใจกล้าที่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง และออกมาแก้ไขโครงสร้างราคาใหม่หมดนะครับ Case นี้ เป็นเรื่องน่าเรียนรู้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นจังหวะในการเปิดตัวที่โครงการเปิดช่วงกระแสการเมืองแรงพอดี และการทำการตลาดที่ยังไม่สะเด็ดน้ำทั้งเรื่องสื่อ เรื่องโปรโมชั่น และการตั้งราคา… ยังดีที่กลับตัวทัน และแก้ไขอะไรหลายอย่างเพื่อทำให้ราคามันสามารปรับลงมาแข่งขันได้นะครับ… ราคาโครงการในตอนนี้ ถือเป็นข้อดีสำหรับผู้ซื้อ ที่มีโอกาสได้เลือกหยิบของถูกครับ ซึ่งเราคงต้องเฝ้าดูอีกทีว่า สิ่งที่ Grand U ทำนี้ จะเป็นแรงกระตุ้นให้ Developer เจ้าอื่นๆ กล้าปรับราคามาสู่จุดที่สมดุลหรือไม่

ทุกอย่างมีขึ้นมีลงนะครับ อย่าได้คาดหวังว่าราคาคอนโดมันจะแพงขึ้นได้อย่างเดียว 🙂

 

อ้อ ผมไม่ฟันธงนะครับ ว่าผลสุดท้ายใคร WIN เพราะจริงๆแล้ว … ตลาดเป็นผู้ตอบคำถามนี้ไปเรียบร้อยแล้วครับ