รีวิวฉบับที่ 619 … Town Avenue Forte พระราม 2 ซอย 50 เป็นโครงการหมู่บ้านของแสนสิริที่ตั้งอยู่ในซอยวัดกำแพงนะครับ โครงการนี้ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ปากซอยบริเวณใกล้ๆเซ็นทรัลพระราม 2 อยู่ราวๆ 1.2 กิโลเมตร ซึ่งผมบีมจะพาเพื่อนๆไปชมโครงการนี้กัน ต่อจาก 2 โครงการที่เคยพาไปชมแล้ว ซึ่งก็คือ Town Avenue Cocos และ B-Avenue ที่อยู่บนถนนพระราม 2 ซอย 50 เช่นกันครับ
สำหรับผู้ที่กำลังดูโครงการนี้ สามารถอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้อีก 3 ฉบับ ดังนี้ครับ
Fact @ 11 July 2014
- Town Avenue Forte พระรามที่ 2 ซอย 50 (ทาวน์ อเวนิว ฟอร์เต้ พระรามที่ 2 ซอย 50)
- Sansiri., Plc.
- MAIN CLASS
- ครงการตั้งอยู่ในเขต บางขุนเทียน แขวงแสมดำ กรุงเทพมหานคร
- เนื้อที่โครงการ 9-0-71ไร่
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น 86 ยูนิต หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 170 ตารางเมตร
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 20 ตารางวา
- ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท หรือ 134,500 บาทต่อตารางวา
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ธันวาคม 2557
- http://www.sansiri.com
- สำนักงานขาย : 1685
ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเราได้นะ 😀
New ! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ
พิกัด : 13.6737767,100.4449056
โครงการ Town Avenue Forte เป็นโครงการของแสนสิริที่อยู่ลึกที่สุดในถนนพระราม 2 ซอย 50 ซึ่งทางเราเคยทำรีวิวทำเลรอบๆเอาไว้แล้ว สามารถอ่านได้ที่นี่นะครับ
แผนที่แสดงการเดินทางโดยรอบ ซึ่งโครงการนี้สามารถเข้าออกถนนหลักทั้ง 2 เส้น ได้จากถนนพระราม 2 และ ถนนเอกชัย
หากเราวัดระยะทางจากปากซอยเข้าไปถึงปากทางเข้าโครงการ ก็จะวัดได้ราวๆ 1.2 กิโลเมตร ซึ่งอาจจะเดินออกมาไม่ไหวนะครับ ไกลไปนิดนึง
ตัวหมู่บ้าน Town Avenue Forte นั้นมีขอบเขตที่ดินประมาณนี้ ประกอบด้วยหมู่บ้านทั้งสิ้น 86 หลังคาเรือน พร้อมสวน สระว่ายน้ำ และคลับเฮาส์
ทำเลด้านหน้าปากซอยผมเคยเขียนไปครั้งหนึ่งแล้วในบทความรีวิว Town Avenue Cocos ซึ่งผมคงไม่กล่าวซ้ำ ผู้อ่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่นะครับ
เราเริ่มต้นกันที่หน้าหมู่บ้าน Town Avenue Cocos โดยจะตรงลึกเข้าไปในพระราม 2 ซอย 50 … ซึ่งถนนถัดจากบริเวณนี้เป็นซอยตันนะครับ ถ้าจะใช้ทางลัดไปทะลุถนนเอกชัยนั้นจะต้องเลี้ยวซ้ายก่อนถึงโครงการ Town Avenue Cocos
ด้านในไม่ค่อยมีรถ การจราจรไม่พลุกพล่าน และเป็นเขตโรงงานต่างๆ โดยจะมีโรงงานของ Index Livingmall อยู่ด้วย
ถนนด้านในซอยนั้นเป็นถนนดี วิ่งได้ 4 เลน ไม่ค่อยมีรถจอด ขับสบายๆ ร่มรื่น ต้นไม้เยอะพอควรครับ
ผ่านหัวโค้งไปก็จะเป็นบริษัทโรม่าอุตสาหกรรม ให้สังเกตทางซ้ายเอาไว้ อีกนิดเดียวเราก็จะถึงโครงการแล้วครับ
โดยโครงการ Town Avenue Forte พระราม 2 ซอย 50 นั้นอยู่ที่แยก 9 จะเป็นซอยของซอยอีกที
แต่จะเข้าไปไม่ลึก เดินออกมานิดเดียว มองจากภาพนี้ผมยืนอยู่ที่หน้าปากซอย มองเข้าไปก็เห็นซุ้มทางเข้าโครงการแล้วครับ
ก่อนเข้าไปชมโครงการนั้นผมก็จะแถมอีกนิดนึง โดยซอยนี้ถ้าเราขับรถเข้าไปอีกก็จะถึงหมู่บ้านสำคัญหลักๆอีก 2 แห่ง (ที่ขายหมดไปแล้ว) คือ CasaVille
กับอีกโครงการคือ Casa Legend ซึ่งเป็นหมู่บ้านราคาแพง ดังนั้นไมต้องกังวลนะครับว่าเราจะมาอยู่เป็นหมู่บ้านโดดๆในซอยนี้ … มีเพื่อนบ้านอีกเยอะครับ
เราไปดูโครงการกันเถอะ
เริ่มจากบริเวณหน้าโครงการกันเลยนะครับ ซุ้มทางเข้าของ Town Avenue Forte พระราม 2 ซอย 50 นั้นจัดว่าสวยงาม สมกับเป็นหมู่บ้านระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป ทางเข้าเป็นไม้กระดกสองชิ้นกั้นฝั่งรถเข้าและรถออก มีป้อมรักษาความปลอดภัยอยู่ตรงกลาง ตกแต่งด้วยระแนงไม้ ออกแนว Tropical Modern ดูสวยงามครับ
หมู่บ้าน Town Avenue Forte นั้นประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือตัวหมู่บ้าน, สวน และสโมสร ซึ่งสวนกับสโมสรจะอยู่ติดกันที่หน้าหมู่บ้าน เรียกว่าเป็นหน้าเป็นตาให้กับตัวหมู่บ้านได้อย่างดี
สโมสรนั้นใช้ชื่อว่า AVENUE Club ภายในประกอบด้วย Lobby และสระว่ายน้ำ ภายนอกติดกับถนนซอยสาธารณะ ทำสวนเลยออกมาด้วย ดูสวยงาม
ผมชอบหมู่บ้านนี้ตรงที่ดูร่มรื่นกว่าทาวน์โฮมทั่วๆไป ต้นไม้เกาะกลางและสองฝั่งวางไว้ค่อนข้างแน่น ประกอบกับใช้รั้วต้นไม้โดยรอบทำให้มองดูร่มรื่นตั้งแต่แรกเข้า ต่างจากหมู่บ้านบางแห่งที่เจอแต่ตึกและคอนกรีตครับ
สิ่งแรกที่เราจะเข้าไปชมก่อนเลยก็คือสโมสร เพราะเป็นส่วนที่อยู่หน้าสุดของโครงการ ใช้ต้อนรับแขกหรือนั่งเล่นยามเย็นก็ได้
ส่วน Lobby นี้ตกแต่งแนว Modern Tropical สะท้อนด้วยสีโทนส้ม ลายไม้ และวัสดุประเภทหวายเทียม เย็นๆมานั่งก็สบายไปอีกแบบ
ส่วนผนังของสโมสรที่ติดกับถนนสาธารณะนั้นไม่ก่อกำแพงทึบ แต่ใช้ผนังโปร่งลายทะแยงมุมซึ่งวาดมาจากลายเส้นของใบไม้ ให้เข้ากับ Theme ของ Modern Tropical ทั้งนี้จะได้เป็นช่องแสงและช่องลมธรรมชาติให้กับตัวสโมสรที่จัดเป็นแบบ Open Air ครับ
ด้านหลังสโมสรนั้นจัดเป็นสระว่ายน้ำโดยจะแบ่งเป็นส่วนของสระเด็กและสระผู้ใหญ่
ด้านข้างสโมสรทำรั้วเป็นแนวพุ่มไม้เตี้ยๆ เน้นการเปิดโล่งให้ดูโปร่ง และปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้โดยรอบ
ส่วนของสระว่ายน้ำทำออกมาก็มีขนาดใช้ได้เลยครับ ว่ายออกกำลังไปกลับได้สบาย
ทางเดินไปห้องแต่งตัวก็ยังใช้การออกแบบแนว Open Air … จัดให้แสงธรรมชาติส่องผ่านลงมาแนวเฉียงๆ
เรามาดูห้องน้ำภายในสโมสรกันบ้าง
ด้านในแต่งได้สวยแปลกตา คล้ายๆกับห้องน้ำตามโรงแรมบูติกเลยละครับ มีตู้ Locker เอาไว้สำหรับเปลี่ยนชุดว่ายน้ำด้วย
ริมสุดของบริเวณห้องน้ำนั้นเปิดเป็นช่องแสงธรรมชาติไว้ เน้นการตกกระทบของเส้นแสงเฉียงๆ
ห้องน้ำก็จัดให้มีต้นไม้กับระแนงด้วย คงคอนเซปท์ความเป็น Modern Tropical ไว้อย่างดี
หากมองจากด้านข้างสระว่ายน้ำลงไปก็จะเห็นสวนและแนวบ้านตัวอย่างที่อยู่บริเวณหน้าสวน
ทางแสนสิริออกแบบไว้ได้ดีมาก ตรงที่มีทางลาดให้กับผู้สูงอายุ สามารถจูงรถเข็นขึ้นไปยังสโมสรได้
ในขณะที่ตัวของสวนไม่ได้แต่งอะไรมาก เว้นที่ว่างเป็นพื้นหญ้าเขียวๆไว้เฉยๆ
ถัดมาเราจะเข้าไปดูภายในโครงการต่อนะครับ อย่างที่บอกโครงการนี้จัดว่ามีพื้นที่สีเขียวเยอะ ถนนหลักปลูกต้นไม้ 3 แถวพร้อมด้วยรั้วต้นไม้อีก ทำให้ดูร่มรื่น
แนวบ้านก็จะอยู่ตามซอยที่เป็นสี่แยกแบบนี้
ซอยหนึ่งๆกว้าง 9 เมตร แต่ถ้าบ้านทั้งสองฝั่งจอดรถหน้าบ้านตัวเองทั้งสองฟากก็จะอึดอัดอยู่บ้าง
ปลายสุดของแต่ละซอยก็จะมีกำแพงสูง อย่างในภาพนี้คงจะไม่ต่ำกว่า 5 เมตร พร้อมกับใช้ต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มสกรีนอีกชั้นหนึ่ง สร้างความเป็นส่วนตัวจากตึกแถวภายนอกหมู่บ้าน
นี่เป็นบ้านแถวสุดท้ายของโครงการนะครับ ด้านหลังเปิดโล่ง ดูแล้วสบายตากว่าฝั่งที่มีตึกแถวอยู่ติดกัน
ที่มุมริมสุดของหมู่บ้านจะเป็นสำนักงานของนิติบุคคล หลังเล็กๆตั้งอยู่ตรงนี้
พาทัวร์รอบหมู่บ้านกันเรียบร้อย ต่อไปเราจะเข้าไปดูข้างในบ้านแต่ละหลังกันดีกว่าครับ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สโมสร พร้อมที่นั่งรับรองและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านหน้าหมู่บ้าน
- สระว่ายน้ำ 1 สระ แบ่งเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่
- ไม่มีห้องออกกำลังกาย
- สวนสาธารณะ บริเวณหน้าหมู่บ้าน ติดกับสโมสร
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate
- รั้วรอบโครงการสูง 2-5 เมตร
- Key Card Access
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
บ้านหลังที่เราจะพาไปชมนี้เป็นบ้านหัวมุม ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 170 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5 เมตร จอดรถได้ 1-2 คัน ขึ้นกับขนาดของรถยนต์ครับ
โดยโครงการนี้ก่อสร้างด้วยระบบ Precast แต่จะใช้อิฐมวลเบาในการก่อผนังภายใน ซึ่งเป็นระบบลูกผสมระหว่างการใช้ผนังคอนกรีตหล่อสำเร็จและการก่ออิฐฉาบปูน
บ้านมี 3 ชั้น เราลงแปลนกันให้ดูก่อนนะครับ
- ชั้นล่างเป็นห้องรับแขก โต๊ะอาหาร และห้องครัว มีสวนหลังบ้านและที่จอดรถหน้าบ้านสองคัน
- ชั้นสองเป็นห้องนอน Master มีห้องน้ำในตัวพร้อมกับส่วนนั่งเล่น
- ชั้นสามเป็นห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กที่ใช้ห้องน้ำร่วมกัน
ก่อนเข้าบ้านก็จะมีทางลาดเล็กๆเอาไว้ให้รถถอยขึ้นบ้านได้สะดวก มีออดไฟฟ้าติดอยู่ที่รั้ว มีไฟส่องสว่างบริเวณรั้ว แต่ก็ต้องระวังมิเตอร์น้ำกันหน่อย ถ้าถอยชนทีคงจะเป็นเรื่องใหญ่นะครับ
ด้านหน้านั้นหากจอดรถคันใหญ่อย่างพวก SUV คันโตๆ ก็สามารถจอดได้เพียงคันเดียว หรือถ้าจะจอด 2 คันก็ต้องจอดคู่กับรถเล็กๆอย่าง Eco Car จะเอารถใหญ่มาจอดคู่กันสองคันคงจะทำไม่ได้นะครับ
แต่ถ้าเป็นบ้านห้องหัวมุมที่มีพื้นที่สวนด้านข้างมาด้วยอีก 2 เมตรแล้วละก็ เราก็สามารถจอดรถใหญ่ได้ 2 คันเลย โดยการจอดชิดกำแพงแล้วใช้พื้นที่สวนบางส่วน เอาไว้เปิดประตูรถ ก็จะจอดได้สบายๆครับ
แต่การถอยเข้าจอดอาจจะลำบากนิดนึง เพราะว่าประตูให้มาแค่นี้ ไม่ได้กว้างรวมไปถึงส่วนของสวนข้างบ้านด้วย
การที่มีสวนข้างบ้านนั้นช่วยให้ด้านข้างบ้านมีหน้าต่าง ตัวบ้านจะดูโปร่งกว่าทาวน์โฮมธรรมดามาก
ต้องชม Interior Designer ของบ้านหลังนี้หน่อยนะครับ ทั้งๆที่โครงการแต่งออกมาในแนวของ Modern Tropical แต่ Interior Designer ก็สามารถสร้างพื้นที่ให้เหมือนกับว่าเป็นอีกโลกหนึ่งได้ ด้วยสี แสง และวัสดุต่างๆ ทำให้บ้านตัวอย่างหลังนี้ดูหรูหราขึ้นมา พลิกจากภาพลักษณ์ภายนอกเลยครับ
ด้วยความที่บ้านหลังนี้เป็นห้องมุมอย่างที่บอกไปข้างต้น จึงทำให้มีหน้าต่างบริเวณหลังโซฟาและข้างโต๊ะรับประทานอาหาร บ้านหลังนี้จึงดูไม่อึดอัด ไม่ทึบ แตกต่างจากทาวน์โฮมหลังกลางอยู่มาก
พื้นที่นี้วางโต๊ะกินข้าวได้ขนาด 4-6 คน แล้วแต่จำนวนสมาชิกในบ้าน ซึ่งโต๊ะ 4 คนก็จะทำให้มีพื้นที่เหลือมากกว่า แต่ถ้าใช้โต๊ะ 6 คน ก็ยังไม่อึดอัดนะครับ
แหม่ จัดอาวุธมาครบเครื่องยังกับกินอาหารไฮโซ ถ้าอยู่บ้านจริงๆคงจะต้องเอาของตกแต่งพวกนี้ออกให้หมด จะได้เหลือที่วางกับข้าวเยอะๆ 😀
อ่อ พื้นของชั้นล่างจัดมาเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. แผ่นใหญ่เงาวิ้งๆครับ
เวลานั่งทานข้างก็สามารถมองย้อนกลับไปด้านหน้าบ้าน จะได้วิวโปร่งๆอย่างนี้เช่นกัน ส่วนผนังด้านข้างที่ผู้ออกแบบเอา Family Rules มาแขวนไว้ ผมว่าในชีวิตจริงสามารถแขวนทีวีอีกเครื่อง เอาไว้ดูร่วมกันบริเวณโต๊ะทานข้าวก็ได้ครับ
ส่วนที่ต่อเนื่องกับห้องอาหารคือบริเวณครัว ซึ่งในบ้านตัวอย่างนี้จัดเป็นครัวฝรั่งและแพนทรี่เล็กๆ โดยมีโคมไฟซาละเปาด้านบนเอาไว้ส่องสว่าง
ผมมองว่าพื้นที่ครัวของบ้านหลังนี้มีน้อยไปหน่อย อาจจะทำอาหารจริงจังไม่สะดวก คงจะต้องพึ่งพื้นที่หลังบ้านเป็นครัวไทยต่อออกไปด้านนอก
ประตูหลังบ้านนี้ใช้เป็นกรอบวงกบอลูมิเนียมสีเทาด้าน มีตัวล็อคหมุนได้อย่างที่เห็นครับ
เอาไว้ใช้ล็อคซ้อนกับตัวล็อคที่บริเวณมือจับ เพื่อให้กระจกนิ่งและไม่สั่นเวลาลมพัดแรงๆ
เปิดออกมาหลังบ้านกันบ้าง พบว่าพื้นที่เหลือค่อนข้างน้อย และเป็นพื้นที่วางถังน้ำกับปั๊มน้ำไปแล้วอีก การจะต่อครัวหลังบ้านจึงทำได้ค่อนข้างยากหน่อย เพราะพื้นที่จำกัดครับ
เราจะเดินขึ้นบันไดไปดูชั้น 2 กันบ้างครับโดยตัวบันไดนั้นพาดมาที่หน้าบ้าน ทางขึ้นจะเป็นขั้นสามเหลี่ยมแบบนี้
เดินขึ้นไปถึงบริเวณเกือบจะเป็นชั้น 2 ก็จะเป็นขั้นสามเหลี่ยมอีก
พอขึ้นไปถึงชั้นสองแล้ว ก็จะพบกับห้องนอนใหญ่ Master Bedroom และห้อง Family Room ที่อยู่หน้าบ้าน ส่วนพื้นห้องทั้งชั้น 2 และชั้น 3 จะเปลี่ยนเป็นวัสดุลามิเนต ที่เดินแล้วนุ่มเท้ากว่าและอุ่นกว่ากระเบื้องชั้นล่าง เหมาะเป็นพื้นของห้องนอนและห้องครอบครัวครับ
ห้องนอนใหญ่นั้นมีขนาดกลางๆไม่ใหญ่มาก เพราะต้องแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของชั้นไปทำ Family Room ดังนั้นห้องนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบห้องนอนขนาดกะทัดรัด ไม่ใหญ่เกินไปครับ
ห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนตกแต่งอย่างดี มีกระจกบานใหญ่ ส่วนอาบน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ครบครัน พร้อมกับช่องเปิดสำหรับระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติ
สุขภัณฑ์เป็นอ่างทรงวงรีฝังลงไปในเคาน์เตอร์ท๊อปหิน ดูแล้วหรูหราดีครับ
ตัวซิงก์เป็นของ American Standard และตัวก๊อกน้ำเป็นของ SIRI / VRH
โถสุขภัณฑ์วางอยู่ใกล้ๆซิงก์ ตรงนี้อาจจะนั่งแล้วมีติดขัดหน่อยเพราะวางใกล้กันเกินไป ซึ่งโครงการก็เตรียมพื้นที่เคาน์เตอร์ด้านหลังไว้ให้วางของด้วย อย่างในบ้านตัวอย่างหลังนี้วางกรอบรูป ซึ่งจะไม่เหมาะนักในชีวิตจริง เพราะเวลานั่งหลังเราอาจจะไปชนรูปภาพร่วงลงมาเป็นอันตรายได้ครับ
มีสายฉีดชำระเรียบร้อย ใชคู่กับโถสุขภัณฑ์ของ American Standard เช่นกัน ตัวโถออกแบบมาให้เลือกกดน้ำมากหรือน้ำน้อยในการชำระได้
เรามาดูฝักบัวกันบ้าง ออกแบบได้ดูทันสมัย เก๋ๆดี เหมาะมือ แต่บางคนอาจจะไม่ชอบ เพราะติดกับฝักบัวใหญ่ๆ ปล่อยน้ำออกมากว้างๆ ซึ่งเราก็สามารถซื้อมาเปลี่ยนได้ไม่ยากอะไรนะครับ
ด้านข้างฝักบัวทางโครงการทำชั้นวางของไว้ให้แล้ว ดีมากเลยไม่ต้องไปหาที่วางสบู่มาติดให้เกะกะ
พื้นที่บริเวณส่วนเปียกนี้ก่อธรณีเอาไว้ จริงๆแล้วสามารถติดตั้งชุดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมได้ ถ้าใครอยากได้สวยๆหน่อยก็ต้องใช้บานเปลือย เป็นกระจก Tempered Glass ซึ่งค่าวัสดุพร้อมติดตั้งแล้วน่าจะอยู่หมื่นกว่าขึ้นไปครับ
พื้นที่โดยรอบของห้องนอน Master Bedroom ที่ไม่กว้างนักแต่จัดมาลงตัว โดยมีโต๊ะเครื่องแป้ง เตียงใหญ่และโต๊ะข้างเตียงครบทั้งสองด้าน
ตู้เสื้อผ้ากินเต็มพื้นที่ผนัง ใช้งานได้ดีอยู่ แต่ถ้าเป็นคุณผู้หญิงที่มีสมบัติเยอะหน่อย ตู้เท่านี้อาจจะไม่พอนะครับ
ออกมาจากห้องนอนใหญ่มาดูห้อง Family Room กันบ้าง ซึ่งผมถือเป็นห้องที่มีทำเลดีที่สุดในบ้านหลังนี้เลย คืออยู่ชั้นสอง หน้าบ้าน พร้อมกับระเบียงกว้าง ได้รับแสงธรรมชาติและมีความเป็นส่วนตัวสูง
บ้านตัวอย่างหลังนี้วิวดีนะครับ มองออกไปจากระเบียงก็จะเห็นเป็นสวนใหญ่เลย โดยตัวระเบียงใช้เป็นราวกันตกขอบระเบียงเป็นกระจกนิรภัยด้วย ทำให้มองทะลุได้ ไม่อึดอัด และดูทันสมัยมาก
ไปต่อกันที่ชั้น 3 นะครับ
โถงบันไดชั้น 3 อาจจะดูคับแคบหน่อย เพราะว่าชั้นนี้เต็มไปด้วยห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำอีก 1 ห้อง จึงไม่เหลือพื้นที่ตรงกลางเลย
เริ่มกันที่ห้องน้ำก่อน โดย Layout และรูปแบบนั้นจะเหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่เด๊ะๆเลย แต่จะแบ่งกันใช้ระหว่างห้องนอน 2 และห้องนอน 3 ดังนั้นเราจะขอข้ามไปเร็วๆนะครับ
สำหรับห้องนอน 2 นี้ วางตัวอยู่เหนือห้อง Family Room … บางคนอาจจะชอบมากกว่าห้อง Master Bedroom ที่ชั้น 2 ก็เป็นได้ เพราะเป็นห้องนอนที่มีระเบียง มีกระจกบานใหญ่มองออกไปหน้าบ้าน ดูแล้วลงตัวกว่าห้อง Master Bedroom เสียอีก แต่ไม่มีห้องน้ำในตัวนี่ละสิ จึงเป็นปัญหาของคนหลายๆคนนะครับ
มุมตู้เสื้อผ้าห้องตัวอย่างแบ่งพื้นที่บางส่วนไปใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง เลยวางตู้เสื้อผ้าได้ไม่เต็มผนัง
จริงๆแล้วปลายเตียงสามารถทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้สบาย (แทนที่เสาแขวนหมวกนั้น) และยังมีพื้นที่เหลือสำหรับทำโต๊ะทำงาน หรือจะวางทีวีก็ได้ครับ
เราเดินออกไปดูระเบียงของห้องนอน 2 กันบ้าง … เป็นระเบียงที่มีลวดลายการตกแต่งด้านหน้าบ้านมาประกอบด้วย ช่วยบังแดดได้ดีขึ้น
ตัวราวกันตกยังคงใช้วัสดุประเภทกระจกนิรภัย ทำให้ดูโปร่งโล่ง … แต่ขนาดของระเบียงนั้นไม่กว้างมาก คืออยู่ราวๆ 90 เซ็นติเมตร ทำให้วางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆไม่ได้ครับ
ลวดลายของระแนง สวยอยู่นะ
มองออกไปดูบ้านหลังอื่นๆในหมู่บ้าน
ด้านข้างเป็นช่องแสงที่ส่องลงไปยังโถงบันได ทำให้โถงบันไดสว่าง และกันพื้นที่บางส่วนเอาไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์
สุดท้ายเป็นห้องนอน 3 ที่มีขนาดเล็กที่สุดในบ้านนะครับ
ผู้ออกแบบทำเป็นห้องนอนเด็ก จัดวางกระเป๋า เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เหมาะสำหรับเด็กประถมเอาไว้
ซึ่งผมก็เท้าบอนเดินไปเตะรางรถไฟเสียนี่ >_>
นี่คือช่องแสงบริเวณระเบียงชั้น 3 ที่บอกไปเมื่อครู่ ช่วยส่องสว่างให้บันไดดูโปร่งขึ้นมากมาย แถมยังประหยัดไฟในเวลากลางวันด้วยครับ
ต่อจากบ้านหลังมุมเราจะมาดูบ้านหลังกลางกันบ้าง เป็นบ้านมาตรฐานที่วางเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ไม่ได้ทำ Built-in มากๆเหมือนบ้านตัวอย่าง ซึ่งจะสะท้อนความเป็นจริงมากกว่าครับ
บ้านหลังนี้ไม่มีหน้าต่างด้านข้าง มีแต่หน้าต่างด้านหลัง จะเห็นว่าทึบกว่าบ้านตัวอย่างอยู่นะ ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านพร้อมอยู่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ตามภาพครับ
ชุดรับประทานอาหารกับชุดครัวสี Earth Tone น้ำตาล-ขาว เป็นสีสุภาพ แต่งบ้านแล้วดูอบอุ่น อยู่สบาย
ชุดครัวนี้ไม่ได้เข้ามุมเป็นรูปตัว L เหมือนกับบ้านตัวอย่าง เพราะเว้นที่เอาไว้วางตู้เย็นนั่นเอง
มาชั้น 2 ดูห้องนอนใหญ่ ก็ลดความ “เยอะ” ของบ้านตัวอย่างลงไปมาก
ห้อง Family Room ชั้นสอง ทำเลดีอยู่หน้าบ้าน แต่พอวางของน้อยๆแล้วมันเลยดูใช้ประโยชน์ได้ไม่มากเท่าบ้านตัวอย่างหลังก่อนนะครับ
ห้องนอน 2 วางเตียงกับชั้นวางทีวีด้านหน้าเอาไว้
ห้องนอน 3 แต่งโปร่งๆแล้วดูใหญ่กว่าเดิมนะครับ สาเหตุหลักๆมาจากการลดขนาดเตียงนอน จาก 5 ฟุตเป็น 3.5 ฟุต ทำให้เหลือพื้นที่มากกว่าเดิมมาก
สุดท้ายผมเลยถ่ายพื้นที่จอดรถของบ้านขนาด 5 เมตรให้ดูครับ ว่าวางรถกอล์ฟกับต้นไม้อีกสองฝั่งแล้วจะเหลือขนาดไหน
… ก่อนจบรีวิวผมบังเอิญเดินผ่านบ้านหลังนี้ … สะดุดตาขึ้นมาเลย!
ไอเดียพี่เค้าดีมากครับ ทำเสาขึ้นมาแขวนจักรยาน จอดโชว์ 2 คันไว้อย่างเท่ และแบ่งพื้นที่หน้าบ้านส่วนหนึ่งเอาไว้วางรองเท้าด้วย ไอเดียดีครับ 🙂
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11 July 2014
- แปลงกลาง ทิศเหนือ ที่ดิน 20 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 170 ตารางเมตร ราคา 3.69 ล้านบาท
- แปลงมุม ทิศใต้ ที่ดิน 26.8 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 170 ตารางเมตร ราคา 4.99 ล้านบาท
- แปลงกลาง ทิศใต้ ที่ดิน 27.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 170 ตารางเมตร ราคา 4.99 ล้านบาท
- จอง 20,000 บาท
- ทำสัญญา 80,000 บาท
- บ้านพร้อมโอน
- ค่าส่วนกลาง 80 บาทต่อตารางวาต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้นะครับ
ทำเลของโครงการ Town Avenue Forte พระรามที่ 2 ซอย 50 นั้นตั้งอยู่ห่าง 1.2 กิโลเมตรจากถนนใหญ่ ในซอยวัดกำแพงซึ่งสามารถทะลุลัดเข้าไปยังถนนเอกชัย หรือจะลัดเข้าไปที่เซ็นทรัลพระราม 2 เลยก็ได้โดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่ ทำให้ทำเลนี้จัดเป็นทำเลค่อนข้างดีสำหรับหมู่บ้าน เราจึงสังเกตเห็นว่าในซอยนี้และซอยที่ทะลุกันได้อีกหลายๆซอย มีหมู่บ้านมาเปิดมากมายและก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ดังนั้นเรื่องทำเลของ Town Avenue Forte นี้จัดว่าผ่านนะครับ แต่ด้วยโครงการที่อยู่ลึกไปจากถนนใหญ่มากกว่า 1 กิโลเมตร ทำให้เดินออกมาปากซอยได้ลำบาก ผู้อยู่อาศัยควรจะมีจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์เอาไว้ขับขี่ในซอย เพื่อออกไปซื้อของ จับจ่ายใช้สอยที่หน้าปากซอยครับ
Town Avenue Forte เป็นหมู่บ้านที่มีขนาดเล็ก เพียง 9 ไร่ และมีผู้อยู่อาศัย 86 ยูนิต ความหนาแน่นต่ำ มีสโมสร ล็อบบี้และสระว่ายน้ำในตัว พร้อมกับแนวต้นไม้สีเขียวเกือบทั้งโครงการ ทำให้มีความร่มรื่นมากกว่าหมู่บ้านทาวน์โฮมอื่นๆ และมากกว่า Town Avenue Cocos ของแสนสิริที่อยู่ต้นๆซอยเสียอีก แต่จุดที่แตกต่างที่น่าสนใจก็คือบ้านของ Forte นี้ไม่มีสัญญาณกันขโมยมาให้เหมือนบ้านที่ Cocos นะครับ
แบบบ้าน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 170 ตารางเมตร จัดเป็นแบบกลางๆ เหมาะกับการอยู่อาศัยของครอบครัวขนาดกลางไม่เกิน 4 คน ถ้าจะอยู่อาศัยมากกว่านั้นต้องทุบสองยูนิตเข้าหากัน ซึ่งโครงการนี้ทำไม่ได้ เนื่องจากก่อสร้างด้วยระบบ Pre-cast ใช้ผนังรับน้ำหนักทำให้ไม่สามารถทุบยูนิตติดกันเชื่อมกันได้นะครับ ครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกเยอะหน่อยถ้าไม่เลือกซื้อแปลงหัวมุมที่มีพื้นที่ด้านข้างเหลือมากๆแล้วต่อเติมเพิ่มเอา ก็ควรจะมองหาโครงการบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่มากกว่านี้ไปเลยครับ
วัสดุของโครงการให้มาปานกลางค่อนไปทางดีนิดหน่อยได้พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. พื้นชั้น 2 และ 3 ได้พื้นไม้ลามิเนต ผนังในห้องน้ำปูกระเบื้องลายไม้และหินได้เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นหินแกรนิต บันไดก็มีราวจับมาให้ครบตั้งแต่ชั้นแรกจนถึงชั้น 3 กรอบหน้าต่างเป็นอลูมิเนียมทำสี Powder Coating สีดำ ซึ่งส่วนที่ผมชอบที่สุดคงจะหนีไม่พ้นระเบียงที่มีราวกันตกเป็นกระจกนิรภัยทั้งชั้น 2 และชั้น 3 แต่ส่วนที่ควรจะเพิ่มวัสดุลงไปหน่อยก็คงจะเป็นฉากกั้นอาบน้ำในห้องน้ำที่ไม่ได้เตรียมมาให้ไว้ด้วย
สุดท้ายเป็นเรื่องสาธารณูปโภคที่ผมคิดว่าจัดทำไว้ดีมาก สำหรับหมู่บ้านขนาดเล็ก 86 ยูนิต แต่ทางแสนสิริก็แทบไม่ได้ลดขนาดของสระว่ายน้ำลงเท่าไรเลย และมี Lobby แบบเปิดโล่งอยู่หน้าหมู่บ้านดูแล้วสวยงามเป็นหน้าเป็นตาให้ลูกบ้านได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสองส่วนที่ผมชอบมากๆ หนึ่งก็คือทางลาดของสโมสรที่เอาไว้ให้จูงรถเข็นขึ้นไปได้ และห้องแต่งตัวที่ตกแต่งออกมาได้ไม่แพ้ Boutique Hotel ถ้าทำให้สวยงามไว้ตลอด ส่วนกลางก็จะน่าใช้มากครับ และการที่จัดวาง Club House กับสวนสาธารณะไว้ติดกัน ก็ทำให้ก้อนพื้นที่ส่วนกลางดูใหญ่ขึ้น เป็นพื้นที่ที่น่ามาใช้มากขึ้น
ทั้งนี้เรื่องราคาขายต่อยูนิต ของ Town Avenue Forte นั้นถูกกว่า Town Avenue Cocos ประมาณหลังละ 4-5 แสนบาท แต่ก็ต้องแลกมากับพื้นที่หลังบ้านที่ตื้นกว่า ใช้งานได้น้อยกว่า เพราะขนาดที่ดินของบ้าน Forte นั้นอยู่ที่ 20 ตารางวา เล็กกว่า Cocos โดยเฉลี่ยที่ 22.5 ตารางวา ทำให้ความลงตัวในการใช้สอยพื้นที่หลังบ้านนั้นดีไม่เท่า Cocos แต่ก็เซฟเงินไปหลายแสนบาทอยู่ครับ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 3-5 ล้านบาท, 11 July 2014
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ใกล้ถนนพระราม 2 เข้าซอยไม่ลึก สามารถทะลุเอกชัยและเซ็นทรัลได้
- ความปลอดภัย 7/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7/10 – รูปแบบภายนอกสวยงาม รูปแบบภายในใช้งานได้ แต่ห้องนอนใหญ่น่าจะทำได้ดีกว่านี้
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.25/10 – โครงการเล็กกะทัดรัด วางผังได้กระชับ ต้นไม้ค่อนข้างมาก
- สาธารณูปโภค 9/10 – สโมสรใหญ่ สระว่ายน้ำดี มีสวนสาธาณะครบครัน เมื่อเทียบกับขนามหมู่บ้านจัดว่าโอเค
- 7.80 / 10.00
BOTTOM LINE
Town Avenue Forte พระรามที่ 2 ซอย 50 เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง ที่กำลังมองหาทาวน์เฮาส์ในย่านพระราม 2 เลือกที่จะอยู่ใกล้เซ็นทรัล มีทางลัดไปถนนเอกชัย ส่วนกลางครบครัน ด้วยงบประมาณ 4 ล้านบาทครับ
ชอบกด Like ใช่กด Share เลย ^_^//