รูปเปิด_TheWish2

รีวิวฉบับที่ 799 … สวัสดีครับวันนี้ผมจะพาไปชมโครงการที่ชื่อว่า THE WISH @ ข้าวหลาม ถึงแม้ชื่อโครงการจะลงท้ายด้วยข้าวหลามซึ่งเป็นถนนหลักแถวนั้น แต่ตัวโครงการจริงๆนั้นอยู่บนถนนมิตรสัมพันธ์ ที่เชื่อมต่อระหว่างบางแสน-ข้าวหลาม-อ่างศิลา นะครับ และถนนข้าวหลามยังสามารถเชื่อมต่อไปชายหาดบางแสน และถนนเลี่ยงเมืองหนองมนไปโผล่ออกมอเตอร์เวย์ (ไปกรุงเทพฯ ระยอง จันทบุรี) ถือว่าสะดวกระดับนึงเลย ตัวโครงการมีบ้านแบบเดียวเท่านั้น เป็นบ้านแฝด 2 ชั้น บนที่ดินเริ่มต้น 36 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท เราไปดูกันว่าที่นี่เค้าจะทำออกมาเป็นแบบไหน

 

Fact @ 14 March 2015

  • The Wish @ Khaolam (เดอะ วิช @ ข้าวหลาม)
  • บริษัท ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
  • Segment : MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยมิตรสัมพันธ์ 19 ถนนมิตรสัมพันธ์ อ.เมืองชลบุรี
  • เนื้อที่โครงการ 8-1-18 ไร่ จำนวน 51 ยูนิต
  • บ้านแฝด 2 ชั้น   3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • หน้าบ้านกว้าง 9 เมตร ลึก 8 เมตร พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. 
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 36 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาทหรือ 97,222 บาท/ตร.วา
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2557
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2558
  • http://www.thewish.in.th/thewish_kwanram.php
  • Call Center : 02-976-1248
  • สำนักงานขาย : 080-880-0898

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.304377,100.93068

แผนที่จากโครงการ

แผนที่จากทางโครงการครับ ตัวโครงการจะอยู่ในซอยมิตรสัมพันธ์ 19 ซึ่งปากซอยเป็น 7-Eleven ถนนมิตรสัมพันธ์นี่เป็นถนนเชื่อมระหว่างถนนลงหาดบางแสน ถนนข้าวหลาม และถนนเสม็ด-อ่างศิลานั่นเอง และสะดวกต่อการออกถนนหลักอย่างสุขุมวิท หรือสามารถไปชายหาดบางแสนได้ ทำให้บนนถนนเส้นนี้มีหมู่บ้านโครงการต่างๆมากมาย อีกทั้งร้านอาหารคาวหวานเพียบ

แผนที่ระยะไกลเพิ่มเติม

THE WISH @ ข้าวหลาม ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองชลบุรี อยู่ระหว่างบางแสนกับอ่างศิลา ตัวโครงการอยู่ในซอยมิตรสัมพันธ์ 19 ซึ่งมีระยะห่างจากถนนหลักอย่างข้าวหลามประมาณ 1 กม. และออกไปถนนหลักสุขุมวิท(ทล.3) ประมาณ 2 กม. ถนนสุขุมวิท(ทล.3)นี่ถือเป็นถนนหลักของจังหวัดชลบุรีเลย เรียกว่าตัดผ่านอำเภอใหญ่ทั้งหลาย ถ้าจะไปชลบุรี กรุงเทพฯ ออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายก็ยิงยาวอย่างเดียว ซึ่งถนนข้าวหลามนั้นเชื่อมต่อกับถนนเลี่ยงเมืองหนองมนที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างถนนเลี่ยงเมืองออกไปถนนกรุงเทพ-พัทยา(มอเตอร์เวย์ ทล.7) อีกด้วย ซึ่งไปได้ทั้งพัทยา ระยอง จันทบุรี ตราด กรุงเทพ สะดวกทีเดียว

การเดินทางโดยไม่ใช้รถก็พอพึ่งพาได้นะ แต่ไม่ถึงกับสะดวกมากเหมือนในกรุงเทพฯ บนถนนมิตรสัมพันธ์จะมีรถสองแถว (สีขาว)วิ่งผ่าน ตั้งแต่ตลาดหนองมน -> แยกลังเล -> ถนนมิตรสัมพันธ์ -> ถนนเสม็ดอ่างศิลา -> ถนนพระยาสัจจา ครับ แต่นานหน่อยจะมาทีนึงประมาณ 10-20 นาทีได้ วินมอเตอร์ไซต์ตามต่างจังหวัดก็ไม่ได้มีตามจุดเล็กๆเจอบ่อยๆเหมือนกรุงเทพฯอีกเช่นกัน เท่าที่สอบถามคนพื้นที่มาแจ้งว่าจะมีตรงแยกลังเล(ถนนลงหาดบางแสนตัดกับมิตรสัมพันธ์) และก็ใต้สะพานข้ามแยกข้าวหลามตัดกับมิตรสัมพันธ์ และอีกจุดนึงก็โน่นเลยโผล่อ่างศิลาแล้ว

ความอุดมสมบูรณ์เรื่องอาหารการกิน ไล่จากรอบๆโครงการก่อนแล้วขยายออกไป รอบๆโครงการบนถนนมิตรสัมพันธ์ต้องถือว่าไม่เงียบเหงามีอย่างที่คิดนัก เนื่องจากเป็นถนนที่มีหมู่บ้านมาสร้างกันเยอพมากๆ!! ทำให้ความเจริญกำลังขยายตัว มีร้านอาหารทั้งตามสั่ง และสวนอาหาร ร้านกาแฟ เท่าที่เห็นก็เป็นสิบเจ้าอยู่นะ มินิมาร์ทก็มีให้พึ่งพาหลายเจ้าทั้ง 7-Eleven, 108 Shop, Lotus Express แต่ถ้าอยากได้ความคึกคักแบบตัวเมืองแนะนำให้ไปถนนลงหาดบางแสน(หน้าม.บูรพานั้นเอง จะมีร้านกิ๊บเก๋สไตล์วัยรุ่นอยู่หลายอย่าง เนื่องจากอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยนั่นเอง)

วันไหนเบื่อๆอยากพักผ่อนก็แค่ขับรถมาถนนข้าวหลามเชื่อมต่อลงไปยังชายหาดบางแสน หาดวอนนภา และก็จุดชมวิวแหลมแท่น, เขาสามมุขก็ง่าย วัดที่ใกล้ๆเราก็จะมีวัดบางเป้ง กับวัดใหม่เกตุงาม อยู่บนถนนมิตรสัมพันธ์ทั้งคู่ ถ้าชอบแบบจีนๆหน่อยก็นี่เลย ศาลเจ้า นาจาไทซื้อ อ่างศิลา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งนึงของอ่างศิลา โรงเรียน โรงพยาบาล สถานราชการ และสวนสาธารณะ มีครบ เรียกว่าถ้าขับรถไปยังสถานที่อำนวยความสะดวกต่างแถวนี้รัศมีไม่เกิน 10 กิโลเมตร ถ้ารถไม่ติดใช้เวลาแค่ประมาณ 5-15 นาทีก็ถึงแล้ว

ตลาดหลักๆที่ไม่ไกลจากโครงการเรานักก็จะมี ตลาดสดหนองมน ตลาดของฝากหนองมน ตลาด100ปีอ่างศิลา ตลาดสะพาน(เน้นขายของสดอาหารทะเลพึ่งเอาขึ้นจากเรือ) ตลาดนัดแยกนินจา(บนถนนพระยาสัจจา) และก็ตลาดนัดสวนจตุจักรชลบุรี ก็แล้วแต่จะเลือกกันเลยว่าอยากได้ของกินช้อปประเภทไหน หรือต้องการไปทานอาหารในห้างแอร์เย็นๆ ก็มีให้เลือกนะ มีห้างแหลมทองบางแสน, Tesco Lotus แยกอ่างศิลา, BigC Extra, Central ชลบุรี และตึกคอมชลบุรี เรียกว่าจะไปไหนก็ไม่ไกลนัก แต่ขอบอกหน่อยว่าถนนสุขุมวิทช่วงเย็นๆแถวนี้ รถติดไม่แพ้กรุงเทพเลยนะ..

แผนที่การเดินทางวันนี้

เนื่องจากเป็นโครงการในทำเลต่างจังหวัดการเดินทางในวันนี้เลยขอเริ่มต้นจากแถวศรีราชา บริเวณหน้าห้างตึกคอมศรีราชาแล้วกันครับ วิ่งไปถนนหลักอย่างสุขุมวิท(ทล.3) อย่างเดียวเลย ประมาณ 15 กิโลเมตร จะถึงถนนข้าวหลามนะครับ

ต้นร่างแผนที่ระยะใกล้

พอถึงถนนแยกสุขุมวิท-ข้าวหลามแล้ว ให้เลี้ยวเข้าซ้ายเข้าสู่ถนนข้าวหลาม และตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตร โดยไม่ต้องขึ้นสะพานข้ามแยกถนนมิตรสัมพันธ์นะ เพราะเราจะเลี้ยวขวาลอดใต้สะพานเข้าถนนมิตรสัมพันธ์ไปทางอ่างศิลา และตรงไปอีกประมาณ 700 เมตร เจอป้ายบอกทางซ้ายมือคือซอยมิตรสันพันธ์ 19 หัวมุมเห็น 7-Eleven พอเลี้ยวไปแล้วเจอสามแยกเล็กให้เลี้ยวขวาตามทางไปอีกประมาณ 300 เมตร และก็จะเจอกับซุ้มทางเข้าโครงการแล้วซ้ายมือ

การเดินทางในวันนี้ผมเริ่มจากถนนสุขุมวิท(ทล.3) ในตัวเมืองศรีราชานะครับ จะมุ่งหน้าไปทางฝั่งตัวอำเภอเมืองชลบุรี ตรงอย่างเดียวเลย ฝั่งขวามือเป็นห้างตึกคอมศรีราชา ศูนย์รวมอุปกรณ์ไอทีของคนย่านนี้

เลยตึกคอมศรีราชามานิดนึงก็จะเจอกับสี่แยกไฟแดงใหญ่ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปตัวตลาดสดศรีราชา เลี้ยวขวาจะเป็นถนนเก้ากิโลที่ไปโผล่เครือสหพัฒน์ครับ

แยกไฟแดงอัสสัมชัญ แถวนี้เรียกว่าเป็นจุดใจกลางเมืองศรีราชาเลยก็ว่าได้ ตอนเช้าเย็นรถติดสุดๆไปเลย คนแถวนี้คงทราบกันดี

พ้นมานิดเดียวก็จะเจอกับห้างที่พึงพึงของศรีราชามานั่นก็คือห้างโรบินสัน+แปซิฟิกพาร์ค ศรีราชานั่นเอง ด้านหลังจะเป็นศรีราชานครซึ่งเป็นแหล่งชุมชนค้าขาย และแหล่งบันเทิงมากมาย เราตรงไปเรื่อยๆเลย

ขับมาก็จะเจอสามแยกไฟแดงเกาะลอย ถ้าเลี้ยวซ้ายไปไม่ไกลเป็นทางไปสวนสาธารณเกาะลอยซึ่งเป็นสวนที่มีพื้นที่สีเขียวใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ มีร้านอาหารริมทะเลชื่อดังมุมอร่อยด้วย

ขวามือเราจะเห็นโรงเรียนขนาดใหญ่ที่เป็นจุดสังเกตได้ง่าย ไม่ต้องเพ่งก็เห็น คือโรงเรียนดาราสมุทรศรีราชา นั่นเอง

หลังจากขับตรงมาเรื่อยๆเลย ตอนนี้เข้าสู่เขตตำบลบางพระแล้วนะครับ ซึ่งทางซ้ายมือหลังสะพานลอยก่อนถึงสามแยกไฟแดงจะเป็นตลาดสดบางพระ ถ้าเลี้ยวขวาสามแยกไฟแดงสามารถไปสวนสัตว์เขาเขียว ที่เป็นสวนสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของชลบุรี และสามารถเข้าชมได้ทั้งกลางวันและกลางคืนอีกด้วย

ขับมาเรื่อยๆ ผ่านซ้ายมือเป็นวิทยาลัย MBAC ที่เปิดได้ไม่นานมาก

ตรงอย่างเดียวเท่านั้นนะครับ ตามป้ายสังเกตทางไปเลย บางแสน ชลบุรี

ผ่านสามแยกไฟแดง ถ้าเลี้ยวขวาไปถนนเลี่ยงเมืองหนองมน ซึ่งสามารถไปเชื่อมกับถนนข้าวหลามที่เราจะไปได้เช่นกัน ชื่อก็บอกแล้วว่าถนนเลี่ยงเมืองหนองมน เอาไว้ใช้เวลาเผื่อบริเวณตลาดหนองมนรถติด หรือมีเทศกาลต่างๆ ก็เลี่ยงเป็นทางลัดได้ แถมถนนเส้นนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านเค้ก ร้านของหวานมากมายอีกด้วยนะ และมันยังมีทางลัดเชื่อมไปออกถนนกรุงเทพ-พัทยา(มอเตอร์เวย์ ทล.7)ได้อีกด้วย

เริ่มเข้าเขตหนองมนแล้ว เจอกับสี่แยกไฟแดง คนแถวนี้มักจะเรียกกันว่า “สี่แยกวัดตาลล้อม”

ผ่านปั๊มปตท.หนองมนเจ้าเก่าแก่ ปั๊มนี้ผมเห็นมาหลายสิบปีแล้วนะเนี่ย

ถนนสุขุมวิทช่วงผ่านตลาดหนองมนเนี่ย ทางเทศบาลแสนสุขเค้าจะทำที่กั้นระหว่างกลางถนน (แท่งขาวแดง) แบบนี้ เพราะว่าเมื่อก่อนจะเกิดปัญหาจราจรบ่อยมากๆ ทั้งแอบกลับรถ ทำให้รถติด เกิดอุบัติเหตุ แถมบางทีขับมากันเร็วหูกระจกรถเฉี่ยวกัน เต็มไปหมด พอทำแบบนี้แล้วปัญหาก็หมดไป

มาถึงสามแยกไฟแดงนี้ ตึกหัวมุมซ้ายมือเป็นตึกแกแล็คซี่ สถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ของคนแถวนี้ ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะไปมหาวิทยาลัยบูรพา หรือวงเวียนบางแสน ที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างชาดหาดบางแสน กับชาดหาดวอนนภา สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งนึงของคนชลบุรี

หลังจากผ่านสามแยกไฟแดงมาไม่ไกล ให้เราสังเกตป้าย หาดบางแสน เขาสามมุข ไว้นะครับ

เตรียมชิดเลนซ้ายสุดไว้เลยนะครับ ที่เห็นสะพานนั่นคือสะพานที่เชื่อมระหว่างถนนข้าวหลาม กับ ถนนเลี่ยงหนองมน ที่บอกไว้ก่อนหน้านี้

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนข้าวหลามเลยครับ ขับช้าๆนะ เพราะใต้สะพานจะมีที่กลับรถด้วย ระวังนิดนึง

เลี้ยวซ้ายและพ้นสะพานมาแล้ว ตอนนี้เราอยู่บนถนนข้าวหลามแล้ว ถนนข้าวหลามเป็นถนนคอนกรีตกว้างทั้งหมด 6 เลน มีเกาะกลางกั้นตลอดทางแบบที่เห็นนี้ ตัวถนนพึ่งตัดได้ประมาณสัก 5 ปีกว่า แต่สภาพแวดล้อมบนถนนเส้นนี้ก็เริ่มเจริญแล้ว มีอาคารพาณิชย์หลายโครงการตลอดเส้น และร้านอาหาร สอปร์ตคลับ สนามฟุตซอล สนามบีบี เต็มไปหมด อีกทั้งถนนข้าวหลามยังเป็นถนนที่เชื่อมกับเส้นสำคัญๆต่างแถวนี้เช่น ถนนเลี่ยงหนองมน ถนนมิตรสัมพันธ์(ไปหน้าม.บูร, อ่างศิลา) ถนนบางแสนสาย 2 (โผล่ชายหาดบางแสน) อีกด้วย

ตามป้ายกลับรถไว้นะ เพราะเราจะต้องเลี้ยวเข้าสู่ถนนมิตรสัมพันธ์ ซึ่งสะพานข้างหน้าเป็นสะพานทางข้ามถนนมิตรสัมพันธ์ครับ

วิ่งเลนซ้ายสุดขนานกับทางขึ้นสะพานตามนี้เลย

ถนนที่ตัดแนวขวางข้างหน้านั่นคือถนนมิตรสัมพันธ์ทั้งเส้นเลยนะ เป็นสี่แยกไฟแดง ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปวัดบางเป้งออกสี่แยกลังเลบางแสน ตรงไปจะเป็นทางไปโผล่ชายหาดบางแสน แต่เราเลี้ยวขวานะครับ

พอเลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรสัมพันธ์มาแล้วให้เราตามป้ายสังเกตบอกทางของโครงการก็ได้นะครับ มีตลอดทางเลย หรือลองจับระยะคร่าวๆก็ได้ตรงไปประมาณ 700 เมตรนะ

สภาพแวดล้อมบนนถนนมิตรสัมพันธ์ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย สลับกับอาคารพาณิชย์ มีมินิมาร์ทระหว่างทาง ต่างๆเต็มไปหมดทั้ง Lotus Express , 108 Shop , 7-Eleven

เพราะว่าถนนเส้นนี้เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างบางแสนกับอ่างศิลา อีกทั้งยังไม่ไกลจากถนนหลักอย่างสุขุมวิทมากนัก และยังมีทั้งโรงเรียน และวัด ด้วย ทำให้มีหมู่บ้านต่างๆมากมายมาตั้งอยู่บนถนนมิตรสัมพันธ์ ขยายเป็นชุมชนใหญ่ขึ้นๆ (สังเกตป้ายโปรโมทขายหมู่บ้านทางขวามือ เต็มไปหมด)

เอาละ ขับมาประมาณ 700 เมตรจากแยกถนนข้าวหลาม ก็เจอป้ายบอกทางของโครงการให้เราเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าซอยมิตรสัมพันธ์ 19 หัวมุมซอยจะเป็นร้านกาแฟสด และ 7-Eleven ด้วย

ป้ายซอยมิตรสัมพันธ์ 19 ครับ

เลี้ยวมาแค่ประมาณไม่ถึง 100 เมตรก็จะเจอกับสามแยก ให้เราเลี้ยวขวาตามลูกศรเลย

พอเลี้ยวขวามาแล้วเราจะผ่านหมู่บ้านรุ่นพี่ที่มาสร้างก่อนคือม.ปิยวัฒน์ กับ ม.มณีรินทร์โมเดิร์นโฮมทางซ้ายมือ ของเราตามป้ายโครงการชี้บอกไว้เลย

ขับมาประมาณ 300 เมตรจากสามแยกเล็กๆก็จะถึงทางเข้าหน้าซุ้มโครงการเราเรียบร้อย บริเวณฝั่งตรงข้ามที่ล้อมรั้วสังกะสีไว้เป็นแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้างโครงการเรานะ พอสร้างเสร็จเดี๋ยวก็ย้ายออก ส่วนที่เห็นถัดไปไกลๆหน่อยโครงการติดกันนั้นคือหมู่บ้านปิยวัฒน์ 3

แผนที่ระยะประชิด

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ จะถูกห้อมล้อมไปด้วยโครงการรุ่นพี่ก่อนหน้า เรียกว่าโดนกำแพงโครงการเพื่อนบ้านล้อมทุกทิศเลยก็ว่าได้ เริ่มจากฝั่งทิศเหนือทั้งหมดและทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะติดกับหมู่บ้านปิยวัฒน์ 3 เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น ถัดมาทิศตะวันออกด้านหน้าซุ้มโครงการฝั่งตรงข้ามตอนนี้เป็นที่ดินเปล่าโล่งๆของบุคคลอื่น ยังไม่มีการพัฒนาใดๆ ส่วนทางฝั่งทิศใต้ทั้งหมดจะติดกับโครงการมณีรินทร์ โมเดิร์นโฮม เป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น สุดท้ายทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และตะวันตกจะเป็นของหมู่บ้านปิยวัฒน์ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้นเช่นกัน ถ้าลองดูจากแผนที่จะเห็นว่าบริเวณแถวนี้เต็มไปด้วยโครงการต่างๆเต็มไปหมดจริงๆ เรียกว่าไม่เงียบเหงา มีเพื่อนบ้านช่วยกันสอดส่องดูแลได้

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • 7-Eleven – 250 ม.
  • สวนทัศนาการ์เด้นท์ – 700 ม.
  • ห้างแหลมทองบางแสน – 3.4 กม.
  • มหาวิทยาลัยบูรพา – 3.6 กม.
  • ตลาดหนองมน – 3.7 กม.
  • รพ.เอกชน 2 – 3.7 กม.
  • ชายหาดบางแสน – 3.8 กม.
  • ตลาดนัดจตุจักรชลบุรี – 3.8 กม.
  • Tesco Lotus – 5 กม.
  • Makro – 5.5 กม.
  • BigC Extra+Homepro – 6 กม.
  • เซ็นทรัลชลบุรี – 7.3 กม.
  • สวนสาธารณะ ร.9 – 7.4 กม.
  • ตึกคอมชลบุรี –  8 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

มาเริ่มกันที่หน้าโครงการ ทางเข้า-ออกจะเป็นทางเดียวให้รถสวนทางกัน รั้วกำแพงด้านหน้าโครงการสูงประมาณ 3 เมตร

หน้าตาป้ายโครงการด้านหน้าแบบชัดๆครับ สีสันสดใส มีบ่อน้ำพุเล็กๆประดับไว้

พื้นทางเข้าเป็นพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย (Stamp Concrete)

ระบบ Gate ประตูทางเข้า โครงการแจ้งว่ากำลังจะติดตั้งตัวระบบ Key Card แบบแตะ ประตูเป็นแบบรางเลื่อนอัตโนมัติครับ มี CCTV 2 ตัว

หน้าตาป้อมรปภ.ทางขวามือ ภายในจะมีรปภ.ประจำอยู่ 1 คน และอีก 1 คนตรวจตราในเวลาเย็น-กลางคืน

พ้นรั้วประตูทางเข้ามาจะเจอกับถนนหลักภายในโครงการ เป็นถนนคอนกรีตกว้างประมาณ 8 เมตร

หันมามองทางซ้ายมือจะเป็นรั้วของโครงการที่กั้นระหว่างโครงการเรา กับโครงการมณีรินทร์โมเดิร์นโฮม เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น แนวรั้วก็จะปลูกต้นไม้เป็นแนวพุ่ม สลับกับรั้วเหล็กที่เอาหญ้าเทียมกับไม้ระแนงมาตกแต่ง ออกมาเป็นแบบนี้

ถนนรองของโครงการก็จะลดเหลือความกว้างประมาณ 6 เมตรครับ

ที่เห็นบ้าน 2 หลังนี้ไม่มีกำแพงรั้วไม่ต้องตกใจนะครับ เพราะเป็นบ้านตัวอย่างและ Sale Office นะ

หน้าตาบ้านของจริงจะเป็นแบบนี้ โครงการนี้ทำบ้านมาแค่แบบเดียว คือบ้านแฝด 2 ชั้น แบบนี้

ตรงกลางของโครงการเป็นพื้นที่สีเขียวคือสวนหย่อม ซึ่งแค่ลงต้นไม้ใหญ่ไว้แค่ 5 ต้น กว่าจะร่มรื่นคงต้องรออีกหลายปีหน่อย น่าเสียดายไม่มีเครื่องเล่นเด็ก หรือศาลาพักผ่อนมาให้

บนสวนมีพร็อพตกแต่งคือไหน้ำพุหน้าตาออกประหลาดๆหน่อย 3 ไห 3 สีแบบนี้

 

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนสาธารณะ เนื้อที่ประมาณ 118 ตารางวา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการรวม 9 จุด
  • รั้วโครงการด้านหน้าสูง 3 เมตร และรอบๆที่เหลือ 2.5 เมตร
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้าตอนเดียว
  • ถนนหลักกว้าง 8 ม. และถนนภายในกว้าง 6 ม.

 

โครงสร้าง


Product Walkthrough

PLANบ้าน

มาดูแบบแปลนกัน ตัวบ้านจะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมธรรมดา มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 160 ตร.ม.(รวมเฉลียงและลานซักล้าง) หน้ากว้างประมาณ 9 เมตร ลึกประมาณ 8 เมตร  มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินแปลงมาตรฐานอยู่ที่ 36 ตร.ว. ครับ พื้นที่จอดรถขนาดประมาณ 3.7 x 5.1 เมตร จอดรถ 2 คันได้แต่จะเบียดๆกันหน่อยถ้าเป็นรถคันใหญ่ ส่วนนั่งเล่นกับโซนทานอาหารจะเชื่อมต่อกัน โดยห้องนั่งเล่นได้ระยะดูทีวีกว้าง 2.4 เมตร ส่วนห้องครัวจะได้เป็นครัวเปิด ซึ่งโครงการไม่ได้ทำเคาน์เตอร์อะไรมาให้เลยแค่เดินท่อน้ำดีไว้ให้ ถัดมาทางขวาจะมีห้องน้ำอยู่ติดกับทางขึ้นบันได ห้องน้ำจะเป็นแบบ Powder Room

บนชั้น 2 ห้องนอนใหญ่จะอยู่ตำแหน่งเหนือห้องโถงรับแขกมีระเบียงและห้องน้ำในตัว ขนาดค่อนข้างใหญ่มีพื้นที่เหลือให้กั้นเป็น walk in clothes แบบบ้านตัวอย่างได้ ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะมีขนาดไล่เลี่ยกัน ต้องมาใช้ห้องน้ำด้านนอกโถงทางเดินที่อยู่หน้าทางขึ้นบันไดพอดี ห้องน้ำชั้นบนมีโซนอาบน้ำฉากกั้นในตัวทุกห้องนะ

บ้านตัวอย่าง พื้นสีอาคารเป็นสีขาวกับสีเขียวนะครับ ด้านบนชั้น 2 ด้านข้างระเบียงมีกั้นด้วยไม้ระแนงสีเทาเอาไว้บังสายตาจากภายนอกสำหรับพื้นที่เก็บคอมเพรสเซอร์แอร์นะ แต่บ้านตัวอย่างไม่มีรั้วกำแพงบ้านมาให้ดู (ดูรูปถัดไปได้)

รั้วกำแพงบ้านเป็นแบบครึ่งทึบครึ่งโปร่งคอนกรีตสลับกับเหล็กพ่นสีดำแบบนี้ สูงประมาณ 1.5 เมตร

รั้วทางเข้าเป็นรั้วแบบเลื่อนบนราง ตัวบ้านถูกยกระดับขึ้นเล็กน้อยจากถนนโครงการเป็นทางสโลป

ตู้จดหมายมีโลโก้ของโครงการด้วย ด้านล่างเป็นที่เก็บขยะ บานเปิด มีด้ามจับแบบนี้ ลองเปิดปิดให้ดูครับ

เข้ามาก็จะเจอช่องเก็บขยะมีฝาปิดมิดชิดแบบนี้ เหมือนกันทุกหลังมาตรฐานโครงการ

บนกริ่งกดเรียกมีไฟส่องให้แบบนี้ทุกหลังเช่นกัน

พื้นที่จอดรถของบ้านตัวอย่างเค้าปูไว้ด้วยไม้ เพราะว่าไม่มีรั้วกำแพง เลยทำเอาไว้โชว์ เดินเข้าจะได้สะดวก

ของจริงจะเป็นแบบนี้นะ พื้นที่จอดรถเป็นคอนกรีต จอดรถได้ 2 คัน มีประตูทางเข้าจากที่จอดรถได้ ส่วนหน้าต่างบานกระทุ้งทางขวามือเป็นของห้องน้ำชั้นล่าง ไฟที่จอดรถให้มาดวงเดียวเป็นโคมซาละเปา

บานประตูเป็นบานไม้ HDF ทูโทนแบบนี้ ด้ามจับเปิดปิดเป็นแบบก้านสแตนเลส ประตูมีตัว Stopper กันกระแทกไว้ให้ด้วย

ด้านข้างของตัวบ้านที่มีส่วนเชื่อมเป็นบ้านแฝด มีเพียงแค่โครงเหล็กเส้นๆแบบนี้เท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นบ้านเดี่ยวที่มีเนื้อที่ดินขนาดเล็กก็ว่าได้นะเนี่ย รั้วกำแพงที่กั้นระหว่างกลางบ้านแฝดของเราจะเป็นรั้วคสล.ทึบทาสีขาวแบบนี้ สูงประมาณ 2 เมตรครับ

มาดูส่วนของทางเข้าเฉลียงหน้าบ้านกันบ้าง บ้านตัวอย่างโครงการเค้าทำกันสาดแบบพับเก็บได้มาให้ดูเป็นไอเดีย เอาไว้กันแดด ฝน ได้ระดับนึง

ประตูทางเข้าเป็นแบบกระจกบานเลื่อนเต็มผนังด้านข้างแบบนี้ รับแสงได้ดี กระจกที่ได้เป็นสีเขียวตัดแสง วงกบอลูมิเนียมสีดำ ลานเฉลียงถูกยกสูงจากตัวบ้านประมาณ 10 ซม. และตัวบ้านระดับสูงขึ้นจากเฉลียงอีกประมาณ 4 ซม.(ไม่รวมวงกบนะ)

เข้ามาในตัวบ้านจะเจอส่วนของ ห้องนั่งเล่นรับแขกก่อน พื้นภายในตัวบ้านชั้น 1 จะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.ทั้งหมด ยกเว้นห้องน้ำ

บ้านเปล่าของจริงจะหน้าตาแบบนี้นะครับ จะเห็นได้ว่ามีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนที่รับแสงได้ 3 จุด และก็ประตูกระจกบานเลื่อนอีก 2 จุด(ทางเข้าหน้าบ้าน, ทางออกไปเฉลียงด้านข้างบ้าน) มีช่องรับแสงเยอะขนาดนี้เวลากลางวันไม่ต้องเปิดไฟก็สามารถรับแสงธรรมชาติได้ดี ทำให้บ้านโปร่งโล่งและดูไม่อึดอัดด้วย ไฟเพดานที่ได้ก็จะมีทั้งโคมซาละเปา และก็โคมดาวน์ไลท์ ผสมกัน

พื้นที่วางโซฟา โครงการเค้าวางเป้นแบบประมาณ 3 ที่นั่ง (นั่งแบบไม่อัดกัน) นั่งสบายๆ ด้านหลังเป็นหน้าต่างบานเลื่อนรับแสง ที่กลางวันสามารถนั่งอ่านหนังสือตรงนี้ได้เลย ประหยัดไฟด้วย

ระยะดูทีวีถือว่าค่อนข้างกว้างประมาณ 2.4 เมตร เราสามารถวางโต๊ะกลางไซส์ใหญ่กว่านี้ก็ได้นะ พื้นที่เหลือเฟือ

ผมลองนั่งให้ดูเป็นตัวอย่าง เวลานั่งดูทีวีจะได้ฟีลลิ่งประมาณนี้ ระยะขนาดนี้ผมว่าต้องใช้ทีวีขนาด 50 นิ้วนะ ไม่งั้นอาจจะต้องเพ่งกันได้ กลายเป็นปวดตาซะเปล่า ลืมบอกไปเลยว่า ชั้น 1 เนี่ยความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 3 เมตรนะ ทำให้เราสามารถ Build-In พวกตู้ชั้นวางของเพิ่มเติมข้างผนังได้หลายจุดตามต้องการเลย พื้นที่ด้านบนทีวีนี่ก็สามารถทำเป็นตู้ชั้นเก็บของต่างๆได้นะ

ถัดมาเป็นโซนรับประทานอาหารโครงการวางโต๊ะสำหรับ 4 ที่นั่ง แต่พื้นที่เหลือเฟือเลย จะวางซัก 6 ที่นั่งกำลังดีครับยังไม่อึดอัด มองดูวิวที่สวนข้างบ้านได้ด้วย

บ้านเปล่าจะเป็นแบบนี้ มีหน้าต่างรับแสงบานเลื่อน 1 จุด และประตูบานเลื่อนออกไปสวนด้านข้างอีก 1 จุด

ออกมาดูเฉลียงด้านข้างกันบ้าง ปูเฉลียงปูด้วยกระเบื้องไซส์ 30 x 30 ซม. สีเทา ผนังด้านข้างบ้านด้านนอก มีช่องปลั๊กไฟแบบหุ้มปลอกกันน้ำเอาไว้ให้ใช้ด้วย

ตัวพื้นเฉลียงลดระดับจากตัวพื้นบ้านลงมาประมาณ 5 ซม. เวลาฝนสาดลงมาจะได้ไม่เจอปัญหาน้ำเข้ามาในตัวบ้าน

ยืนจากเฉลียงด้านข้างมองตรงไป โครงการเค้า Build-In เป็นครัวเปิด มี Island ตรงกลางให้ดูแบบนี้

ตรงกลางมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนรับแสงธรรมชาติได้ ข้างๆจะเป็นประตูออกไปข้างหลังบ้าน

ของจริงครัวจะไม่ได้ทำให้นะครับ มีแค่เดินงานท่อน้ำดีไว้ให้แบบนี้เท่านั้น

มาดูลานซักล้างด้านหลังกันบ้าง ระยะ set back ด้านหลังบ้านประมาณ 2 เมตร มีเฉลียงปูด้วยกระเบื้องและมีช่องปลั๊กไฟแบบหุ้มปลอกกันน้ำเหมือนกับด้านข้าง

บานประตูเป็นแบบลูกฟักเซาะร่องลายแบบนี้ ลูกบิดมือจับหน้าตาสามัญธรรมดา มี stopper บานประตูเหมือนหน้าบ้าน ที่เห็นช่องเปิดเล็กๆทางซ้ายนั่นคือประตูห้องเก็บของนะ

ภายในห้องเก็บของบางส่วนปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ บางส่วนเป็นพื้นคอนกรีตธรรมดา ตำแหน่งห้องเก็บของอยู่ใต้บันไดพอดี ขนาดก็โอเคไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป ใช้เก็บพวกอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่ไม่อยากให้ดูรกในบ้านได้

ชุดถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำนี่เราได้นะครับ ตามนี้เลย ไม่ต้องกลัวปัญหาน้ำเบา น้ำไม่ไหลได้ระดับนึง

กลับมาดูในตัวบ้านกันบ้าง ติดกับโซนครัว มองไปด้านข้าง จะเป็นประตูห้องน้ำเป็นแบบบานเลื่อนนะ

มองไปทางขวา หน้าห้องน้ำด้านบนมีมีระบบป้องกันไฟดูด คือจะเป็นตัวเบรกเกอร์สำหรับตัดกระแสไฟฟ้าที่ลัดวงจร โดยตัดที่ความไวของไฟฟ้าที่รั่วลงดินที่ 30 มิลลิแอมป์ครับ

ห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นแบบ Powder Room คือไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้ พื้นในห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องแบบเดียวกับเฉลียงและซักล้างนอกบ้าน ตัวเคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตทรงสามเหลี่ยมอยู่รอบอ่างแบบนี้ อ่างล้างหน้า COTTO ไม่มีชุดตู้เก็บของด้านล่าง ขวามือด้านบนเป็นหน้าต่างกระจกบานทุ้งเปิดระบายอากาศออกได้

ตัวพื้นห้องน้ำทำเป็นลดระดับจากห้องโถงลงประมาณ 4 ซม. ทำให้เวลาล้างห้องน้ำ ไม่ต้องกลัวน้ำไหลออกมานอกห้อง

ตัวล็อกเป็นแบบนี้ใช้หมุนและคล้องเอา

ตัวอ่างลองเทียบกับฝ่ามือ ขนาดก็ตามในรูปครับไม่ใหญ่มากนัก

ห้องน้ำเนี่ย กว้างแค่ 90 ซม.เองนะ ดูอึดอัดไปหน่อย เพราะตำแหน่งมันอยู่ใต้พื้นบันไดพอดีด้วย ทางขวามือเราจะได้ราวแขวนผ้าขนหนู 1 อัน

ชุดสุขภัณฑ์ของ COTTO มีที่แขวนกระดาษทิชชู่ให้

พื้นบันไดปูด้วยไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือก็คือ ไม้เทียม นั่นเอง ไฟเบอร์ซีเมนต์เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นเพื่อทดแทนไม้จริง วัสดุชนิดนี้สามารถนำมาทดแทนการใช้ไม้จริงได้หลากหลาย เช่น งานทำพื้นไม้เทียม ,ระแนงไม้เทียม ,ไม้มอบ ,ไม้เชิงชาย ,ฝ้า และงานตกแต่งชนิดอื่นๆ ไม้เทียม หรือไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์นั้นจะผลิตจากปูน ,ทราย และเยื้อไม้โดยผ่านกรรมวิธีอัดแท่ง และอบเพื่อให้ได้ขนาดต่างๆตามการใช้งาน ฉะนั้นไม้เทียมไฟเบอร์ซีเมนตืจึงมีคุณสมบัติ ไม่บิดตัว ,ไม่ผุกร่อน ,ปราศจากพวกปลวก มอด แมลงต่างๆมารบกวน เพราะคุณสมบัติเหล่านี้ไม้เทียมไฟเบอร์ซีเมนต์จึงได้รับความนิยมอย่างสูงในงานตกแต่งบ้าน

ทางเดินขึ้นบันไดค่อนข้างแคบเดินขึ้นลงได้คนเดียว ช่วงตอนต้นจะไม่มีราวจับกันลื่น

ขึ้นมาชั้นบนแล้วชั้นบนพื้นจะเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 mm. ตัวราวจับบันไดวัสดุเดียวกับพื้นบันได

มองลงไปที่บันไดแบบเต็มๆ ชานบันไดเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นรูปแบบชานพักที่ดี เดินขึ้นลงได้เต็มฝ่าเท้า

แหงนหน้าขึ้นไปจะมีโคมไฟตรงทางเดินบันไดให้แบบนี้ อันนี้เราได้นะครับ

หน้าต่างบานรับแสงเป็นบานปิดตาย 2 ช่องบน ส่วน 2 ช่องล่างเป็นแบบบานเลื่อน จะเปิดทีต้องใช้บันไดลิงมาช่วยนะ สูงมากกกก

เข้ามาดูส่วนของห้องน้ำชั้น 2 ที่ห้องนอนเล็กทั้งสองต้องมาใช้ร่วมกันกันบ้าง เข้ามาจะเจอหน้าตาแบบนี้ ขนาดกำลังโอเคเลยไม่เล็ก อึดอัดเหมือนชั้นล่าง มีแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกไว้ให้

พื้นห้องน้ำทำเป็นลดระดับจากห้องโถงลงประมาณ 6 ซม. ธรณีจบเป็นลามิเนต ค่อนข้างสูงอยู่นะ เวลาทำความสะอาดน้ำคงไม่ถึงตัวธรณี

เคาน์เตอร์อ่างล่างหน้าวัสดุแบบเดียวกันกับชั้นล่าง แต่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าล้อมรอบอ่าง อ่างเป็นทรงกลมของ COTTO เช่นกัน มีกระจกเงาให้ด้วย ใต้อ่างก็ไม่มีชุดตู้เก็บของเหมือนข้างล่าง

สุขภัณฑ์เหมือนกัน ด้านหลังกรุด้วยกระเบื้องโมเสคลวดลายแบบนี้

ขวามือมีราวแขวนผ้าขนหนูให้ ส่วนของพื้นที่อาบน้ำเป็นธรณีก่อสูงประมาณ 4 ซม.(ไม่รวมฉากกั้น) ฉากกั้นเป็นกระจกบานเลื่อนและ UPVC สีขาว พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.75 x 1.85 เมตร ค่อนข้างกว้างพอสมควร

ชุดฝักบัวและวาล์วเปิดปิดของ Cotto เช่นกัน มีที่วางสบู่ติดผนังไว้ให้ 1 จุด และหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศเหมือนชั้นล่าง

ไฟในห้องน้ำเป็นโคมไฟดาวน์ไลท์ แบบนี้นะ ห้องนี้ได้ 2 ดวง

กลับมาที่โถงทางเดินกันบ้าง ประตูบานแรกทางซ้ายมือเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน ตรงข้ามเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องที่อยู่ฝั่งหลังบ้าน มองตรงไปตรงกลางเป็น Master Bedroom ที่มีระเบียงและห้องน้ำในตัว

มาดูห้องนอนเล็กห้องแรกฝั่งซ้ายมือ(หน้าบ้าน) กันก่อน เข้ามาจะเจอแบบนี้ โครงการเค้าลองวางเตียงไซส์ 3 ฟุตมาให้ดูว่าระยะเหลือทางเดินรอบๆจะประมาณไหน เริ่มจากปลายเตียงชิดผนังเหลือประมาณ 80 ซม. ครับ

หน้าตาบ้านเปล่าจะเป็นแบบนี้ ลืมบอกไปว่า ห้องนอนชั้นบนทุกห้อง ได้แอร์นะครับ แต่ขนาดของ BTU แต่ละห้องต้องสอบถามทางโครงการอีกทียังไม่แน่ชัด

ถัดมารูปบนเป็นระยะห่างจากผนังด้านฝั่งหน้าต่างหน้าบ้านจะเหลือประมาณ 40 ซม. พอจะวางโต๊ะหัวเตียงตัวเล็กๆได้นะ และรูปล่างถ้าเราวางตู้เสื้อผ้าตามตำแหน่งที่โครงการวางมาให้จะเหลือระยะประมาณ 55 ซม.

เวลานอนบนเตียงแล้วมองไปผนังปลายเตียงจะเป็นฟีลประมาณนี้ ถ้าเราเอาทีวีแขวนผนังก็ทำได้นะ ระยะนอนดูทีวีประมาณ 2 เมตร โอเคเลย

โครงการเค้าลองวางตำแหน่งตู้เสื้อผ้าประมาณนี้ สามารถทำยาวกว่านี้ชิดขอบประตูห้องก็ได้นะ

หน้าต่างรับแสงในห้องเป็นกระจกบานเลื่อนได้ทั้ง 2 ด้านแบบนี้ (กระจกสีเขียวตัดแสง) วงกบอลูมิเนียมสีดำ

ไฟในห้องนอนได้แบบนี้เลยนะ ทั้งโคมซาลาเปาและดาวน์ไลท์ ให้มาเยอะดีไม่ต้องติดเพิ่มเลย

ห้องนอนเล็กฝั่งตรงข้าม เหมือนกันกับห้องด้านหน้าเลย วางเตียงไซส์ 3 ฟุตมาเช่นเดียวกัน

ระยะด้านข้างเตียงซ้ายขวาก็เท่ากัน จะตกแต่งหัวเตียงแบบนี้ก็ได้นะ ห้องคุณลูกสาว 🙂

ระยะปลายเตียงประมาณ 70 ซม. มีปลั๊กไฟติดตั้งไว้ให้

ตำแหน่งตู้เสื้อผ้าเหมือนกัน

หน้าต่างแบบเดียวกัน ห้องนี้จะได้วิวหลังบ้าน

มาดูห้อง Master Bedroom กันบ้าง เปิดมาปุ๊ปจะเจอเตียงนอนขนาด King Size ก่อนเลย ห้องจะขนาดค่อนข้างใหญ่

บ้านเปล่าของจริงจะเป็นแบบนี้ ในห้องถ้าเปิดผ้าม่านไว้ กลางวันก็ถือว่ารับแสงธรรมชาติได้ดี มีช่องแสงเยอะ

มองไปทางขวามือของเตียง มุมนี้สามารถตกแต่งได้ตามอเนกประสงค์นะครับ จะทำเป็นตู้โชว์ของ หรือวางโซฟานั่งเล่นมุมอ่านหนังสือเล็ก แล้วแต่ชอบเลยเพราะว่าพื้นที่เหลือเฟืออยู่นะ ที่เห็นทางขวามือทางโครงการเค้าทำเป็นไอเดียให้ดูกั้นส่วนเป็น walk in clothes

ของจริงจะเป็นแบบนี้

พื้นที่ด้านข้างฝั่งขวาสามารถวางโต๊ะหัวเตียงไซส์ใหญ่ๆก็ได้นะ

มองย้อนไปทางระเบียงรูปบนปิดผ้าม่านอยู่ และลองเปิดผ้าม่านให้ดูรูปล่างว่าแสงสามารถส่องเข้ามาในห้องได้มากอยู่

ระยะด้านข้างเตียงฝั่งทางประตูออกไประเบียงเหลือประมาณ 50 ซม.

อารมณืเวลานอนดูทีวีจะประมาณนี้ ระยะห่างประมาณ 2.8 เมตร ค่อนข้างกว้างอยู่ ควรจัดทีวีไซส์ประมาณ 50 นิ้วขึ้นไปจะได้นอนดูชิลๆไม่ต้องเพ่งสายตา

ขวามือของโต๊ะทีวี โครงการเค้าวางโต๊ะนั่งทำงานไซส์เล็กไว้  ด้านหน้าจะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนไซส์เล็กๆเอาไว้รับแสงธรรมชาติได้ ด้านนอกหน้าต่างจะเป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ซึ่งมีแนวระแนงไม้ช่วยบังให้ดูเรียบร้อยสายตาจากคนภายนอก

ประตูทางออกไประเบียงเป็นกระจกบานเลื่อนไซส์ประมาณนี้

ลองเลื่อนเปิดออกให้ดูจะเห็นชัดเลยว่าตัวบานกระจกสีเขียวตัดแสงนี่ช่วยกรอกแสงแดดได้ระดับนึงเลย พื้นที่ระเบียงประมาณ 0.6 x 2 เมตร พื้นระเบียงทำลดระดับลงจากตัวห้องนอนประมาณ 8 ซม. มีช่องระบายน้ำออกช่วยไม่ให้น้ำขังเวลาฝนสาด ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กโปร่งสูงประมาณ 1.1 เมตร

อันนี้เป็นส่วนของ walk in clothes บริเวณหน้าห้องน้ำ ที่โครงการเค้าทำมาให้ดูเป็นตัวอย่างแนวทางเฉยๆนะครับ เผื่อใครสนใจจะทำแบบนี้เก็บเอาไว้เป็น idea ได้

มาดูในห้องน้ำกันบ้าง พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแบบเดียวกับห้องก่อนหน้านี้ แต่ที่แปลกตาหน่อยคือยาวแนวจะเป็นสีดำ พวกอ่างล้างมือและสุขภัณฑ์เหมือนกัน มีแยกส่วนแหกและส่วนเปียกไว้ให้

ตัวพื้นห้องน้ำลดระดับลงมาจากห้องนอนประมาณ 8 ซม.ได้ ธรณีจบเป็นลามิเนต

เหมือนกับห้องน้ำชั้นบนโถงด้านนอก

ฉากกั้นพื้นที่อาบน้ำเป็นแบบเข้ามุมมีมือจับเปิดปิด 2 ด้านแบบนี้ พื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.9 x 0.9 เมตร

ธรธียกสูงขึ้นมาประมาณ 3 ซม.(ไม่รวมฉากกั้น) เวลาเดินเข้า-ออก ก็ระวังสะดุดกันด้วยนะครับ

ชุดฝักบัวและวาล์วเปิดปิดเหมือนกัน ทางโครงการเตรียมงานระบบติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้แล้ว

สวิทช์และปลั๊กไฟของ SIEMENS ครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 14 March 2015

  • บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. เนื้อที่ดิน 36 ตร.วา ราคา 3.5 ล้านบาทหรือ 97,222 บาท/ตร.วา
  • จอง 5,000 บาท / ทำสัญญา 20,000 บาท
  • ดาวน์ 20,000 บาท ผ่อนดาวน์ 4 งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 30,000 บาท, แปลงติดสวนเพิ่มอีกตารางวาละ 5,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 1,000 บาท/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ฟรีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์
  • ฟรีค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการ The Wish @ Khaolam ตั้งอยู่ในซอยมิตรสัมพันธ์ 19 ที่ไม่ถือว่าเปลี่ยวเท่าไร เพราะมีโครงการรุ่นพี่หลายโครงการมาตั้งอยู่ก่อนหน้าห้อมล้อมทุกด้านของโครงการเลย อีกทั้งถนนมิตรสัมพันธ์นั้นเป็นถนนทางเชื่อมต่อระหว่างบางแสน-ข้าวหลาม-อ่างศิลา จึงทำให้มีหมู่บ้านพักอาศัยอื่นๆอีกเพียบ เรื่องอาหารการกินบนเส้นมิตรสัมพันธ์นั้นก็ถือว่ามีครบอยู่ ทั้ง Minimart ร้านอาหารตามสั่ง ร้านกาแฟ สวนอาหาร และร้านอาหารทะเลก็มีให้เลือกมายมาย วันไหนถ้าอยากกินมื้อเย็นชมวิวทะเลไปดูก็ไปได้ทั้งชายหาดบางแสน แหลมแท่น เขาสามมุข และอ่างศิลา ซึ่งก็ไม่ได้ไกลเลย ถ้าอยากจะเดินช้อปปิ้งก็มีตลาดนัดจตุจักรชลบุรีที่เป็นแหล่งช้อปของถูกขนาดใหญ่ของคนแถวนี้ ถ้าหาอาหารทะเลมาทำเองก็ไปตลาดสะพานปลาอ่างศิลาก็ได้ หรือวันไหนอากาศร้อนๆก็ไปเดินห้างเอามีให้เลือกทั้ง แหลมทองบางแสน, Tesco Lotus, BicC Extra, Makro, เซ็นทรัลชลบุรี และตึกคอมชลบุรี

การเดินทางด้วยรถยนต์ถนนมิตรสัมพันธ์นั้นอยู่ใกล้ถนนหลักข้าวหลามจากโครงการไปประมาณ 1 กม. และออกไปถนนหลักสุขุมวิท(ทล.3) ประมาณ 2 กม. ถนนสุขุมวิท(ทล.3)นี่ถือเป็นถนนหลักของจังหวัดชลบุรีเลย เรียกว่าตัดผ่านอำเภอใหญ่ทั้งหลาย ถ้าจะไปชลบุรี กรุงเทพฯ ออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายก็ยิงยาวอย่างเดียว ซึ่งถนนข้าวหลามนั้นเชื่อมต่อกับถนนเลี่ยงเมืองหนองมนที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างถนนเลี่ยงเมืองออกไปถนนกรุงเทพ-พัทยา(มอเตอร์เวย์ ทล.7) ใกล้จะเปิดใช้แล้วด้วย ซึ่งไปได้ทั้งกรุงเทพ พัทยา ระยอง จันทบุรี ตราด ถือว่าสะดวกสะดวกทีเดียว

การเดินทางโดยไม่ใช้รถก็พอพึ่งพาได้นะ แต่ไม่ถึงกับสะดวกมากเหมือนในกรุงเทพฯ บนถนนมิตรสัมพันธ์จะมีรถสองแถว (สีขาว)วิ่งผ่าน ตั้งแต่ตลาดหนองมน -> แยกลังเล -> ถนนมิตรสัมพันธ์ -> ถนนเสม็ดอ่างศิลา -> ถนนพระยาสัจจา ครับ แต่นานหน่อยจะมาทีนึงประมาณ 10-20 นาทีได้ วินมอเตอร์ไซต์ตามต่างจังหวัดก็ไม่ได้มีตามจุดเล็กๆเจอบ่อยๆเหมือนกรุงเทพฯอีกเช่นกัน เท่าที่สอบถามคนพื้นที่มาแจ้งว่าจะมีตรงแยกลังเล(ถนนลงหาดบางแสนตัดกับมิตรสัมพันธ์) และก็ใต้สะพานข้ามแยกข้าวหลามตัดกับมิตรสัมพันธ์ และอีกจุดนึงก็โน่นเลยโผล่อ่างศิลาแล้ว

วัสดุของโครงการนี้ใช้ของมาตรฐานถ้าเรียบกับราคาบ้าน ตัวบ้านเป็นบ้านเปล่าที่ต้องไปตกแต่งเอง พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. ชั้นบนเป็นลามิเนตหนา 8 mm. พื้นปูบันไดวัสดุเป็นไฟเบอร์ซีเมนต์ ชานพักบันไดเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า กระเบื้องห้องน้ำขนาด 30 x 30 cm. ผนังกรุด้วยกระเบื้องเคลือบและกระเบื้องโมเสคบางส่วน ชุดสุขภัณฑ์และก๊อกเป็นของ COTTO วงกบอลูมิเนียมสีดำ กระจกทั้งบ้านเป็นแบบสีเขียวตัดแสง โคมไฟมีทั้งซาละเปาและดาวน์ไลท์ผสมกัน

แบบบ้านของที่นี่ออกแบบมาได้เป๊ะๆสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก คือมีฟังก์ชั่นการใช้สอยครบถ้วน เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย 3-4 คน แต่บางอย่างยังขาดๆไปนิดหน่อย เช่น ชุดเคาน์เตอร์ครัวไม่ได้ทำมาให้ บันไดชั้น 1 ช่วงแรกไม่มีราวจับ

สาธารณูปโภคของที่นี่มีสวนหย่อมขนาดเนื้อที่ 118 ตารางวา อยู่ใจกลางโครงการอย่างเดียว นอกนั้นก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เรียกว่าให้มาน้อยมากๆอย่างน้อยก็น่าลงเครื่องเล่นเด็ก หรือศาลานั่งพักผ่อนก็ยังดี แต่ก็อย่างว่าโครงการเลยไม่ได้เก็บค่าใช้จ่ายส่วนกลางมากสักเท่าไร ถ้าอยากจะมีใช้จริงๆ แนะนำให้ไปใช้สโมรสรของทัศนาการ์เด้นท์คลับ ที่ขับรถไปแค่ประมาณกิโลนิดๆเท่านั้น มีทั้งแบบรายวันและรายเดือนให้เลือกหลากหลายมากมาย

 

Judgement

เนื่องจากเป็นทำเลต่างจังหวัดที่ Think of Living ไม่คุ้นเคย จึงไม่สามารถให้คะแนนเปรียบเทียบความคุ้มค่าได้นะครับ

ราคาของโครงการ The Wish @ Khaolam อยู่ที่ประมาณ 3.5 – 4 ล้านบาท, 14 March 2015

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – อยู่ในซอย แต่ไม่ได้เปลี่ยว ออกไปไหนได้หลายทางและง่าย
  • ความปลอดภัย – ประตูเลื่อนไฟฟ้า ระบบแตะ Key Card มีรปภ.หน้าหมู่บ้าน และ CCTV รวม 9 ตัว
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย – แบบสวยตามคอนเซปท์ Modern ใช้พื้นที่ได้เหมาะสมและลงตัวดี
  • วัสดุ – ใช้อุปกรณ์ตามมาตรฐาน ถ้าเทียบกับราคาขนาดนี้ แต่บางอย่างน่าจะทำให้มาเลย
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – โครงการขนาดเล็ก ถนนหลัก 8 เมตร ถนนรอง 6 เมตร รั้ว 2.5-3 เมตร
  • สาธารณูปโภค – ให้มาน้อยไปหน่อย มีแค่สวนหย่อม

 

BOTTOM LINE

The Wish @ Khaolam เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่มองหาทำเลบ้านอยู่ไม่ไกลจากทะเลบางแสนนัก เน้นเดินทางในละแวกบางแสน-อ่างศิลา-เมืองชล เป็นหลัก วันไหนอยากชิลๆก็ไปทะเล หรือเที่ยวชมวิวภูเขาสามมุขบ้างบางครั้ง อยู่ไม่ไกลจากแหล่งห้างมาก จะไปกรุงเทพหรือพัทยาก็ออกทางลัดไม่ยาก ที่สำคัญคือไม่เน้นสวนกลางภายในโครงการเลยก็ว่าได้  มีงบประมาณ 3.5 – 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ  24,000 – 28,000 บาท/เดือน

 

ถ้าชอบกด Like & Share หรือสามารถคอมเม้นท์และแบ่งปันข้อมูลให้กับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/register/