The Rev. Sukhumvit 101 ทาวน์โฮมใกล้รถไฟฟ้าเริ่ม 14.9 ล้านบาท* 750 เมตรถึง BTS ปุณณวิถี จาก Hoosiers Real Estate

The Rev. Sukhumvit 101 (The Rev. สุขุมวิท 101) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568

พิกัด Google Maps : 13.692825892410674, 100.61309973090233
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlights

• 750 เมตร ถึง BTS ปุณณวิถี : จากที่เรา Survey ดู โครงการแนวราบตามรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีใกล้ๆ กันอย่างอ่อนนุช-บางจาก-ปุณณวิถี โครงการนี้ถือว่าใกล้รถไฟฟ้ากว่าเพื่อนๆ ไม่ถึง 1 km. เท่านั้น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางหากต้องการเลี่ยงรถติดได้นะคะ
• ความอุดมสมบูรณ์สูง : ครบครันทั้ง Community Mall, ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียนนานาชาติ, โรงพยาบาล
• Future Value : มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากที่ดินบนทำเลใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้าแบบนี้จะหายากขึ้นทุกทีค่ะ

โครงการ The Rev. Sukhumvit 101 (The Rev. สุขุมวิท 101) ตั้งอยู่ในซอยใหญ่สุขุมวิท 101 หรือที่เราเรียกกันว่าซอยปุณณวิถี ความน่าสนใจของซอยนี้คือ มีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานีปุณณวิถีตั้งอยู่หน้าปากซอยเลยค่ะ

ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ในซอยปุณณวิถี 19 จากสถานี BTS เดินมาประมาณ 750 m. ก็ถึงโครงการแล้วค่ะ ด้วยเหตุผลว่าทำเลของโครงการนี้ไม่ไกลจากถนนสุขุมวิท, เข้าซอยไม่ลึก, เป็นซอยที่มีความอุดมสมบูรณ์แต่ก็ไม่วุ่นวายเกินไป มีความสะดวกสบายในการเดินทางจึงเป็นทำเลที่มีคอนโดอยู่หลายแห่งทีเดียว แน่นอนว่าราคาที่ดินของคอนโดมักจะมีราคาสูงอยู่แล้ว แต่โครงการนี้นำที่ดินที่มีศักยภาพพอจะทำคอนโดมาทำเป็นบ้านแทน ถือเป็น Rare Item เลยนะคะ

ดูจากข้อมูล Research ของ Terra BKK จะเห็นได้ว่าโครงการ The Rev. Sukhumvit 101 (The Rev. สุขุมวิท 101) เป็นโครงการจัดสรรที่มีทำเลและราคาที่น่าสนใจ เพราะถ้านับดูโครงการแนวราบที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบัน คัดเอาที่อยู่ใกล้ BTS สายสีเขียว (สถานีอโศก-บางนา) ในระยะประมาณ 1 km. จะมีอยู่ 17 โครงการ เป็นโครงการบ้านจัดสรรเพียง 3 โครงการ และเป็นโครงการที่มีราคาต่ำกว่า 20 ล้านบาทเพียงโครงการเดียว ก็คือ The Rev. Sukhumvit 101 นี้แหละค่ะ

ซึ่งที่ดินใจกลางเมืองแบบนี้ก็หายากขึ้นทุกที จากการพัฒนาของโครงการห้าง, Mixed-Use ในโซนนี้อยู่ตลอดเวลาก็เชื่อว่ามูลค่าของที่ดินจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ และเติบโตเร็วกว่าโซนอื่นๆ จากความต้องการของที่อยากมาอยู่อาศัยใจกลางเมืองที่เพิ่มขึ้น แต่ที่ดินใกล้รถไฟฟ้ากลับหายากขึ้นทุกๆ ปี โครงการจัดสรรในระยะใกล้รถไฟฟ้าไม่เกิน 1 km. ในราคา 10-20 ล้านแบบนี้ถือเป็น Rare Project ก็ว่าได้ค่ะ

The Rev. Sukhumvit 101 (The Rev. สุขุมวิท 101) ตั้งอยู่ในซอยปุณณวิถี 19 อยู่ในช่วงต้นซอยสุขุมวิท 101 ใกล้ถนนสุขุมวิทประมาณ 700 m. ซึ่งซอยนี้สามารถใช้ลัดเลาะไปยังถนนหลักได้หลากหลาย เช่น ถนนศรีนครินทร์, ซ.สุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต), ซ.สุขุมวิท 103(อุดมสุข), และซ.สุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) หรือจะลัดเลาะไปออกยังเส้นบางนาก็ทำได้ เรียกว่าการใช้รถใช้ถนนในโซนนี้ค่อนข้างสะดวกเลย

ความอุดมสมบูรณ์ รอบโครงการในระยะใกล้ๆ ถือว่าสูงทีเดียว ภายในซอยสุขุมวิท 101 เองมีร้านอาหาร คาเฟ่ชื่อดังอยู่เยอะ อีกทั้งยังมี 7-11, Lotus go fresh อยู่ไม่ไกลเลย แวะซื้อของกิน ของใช้กันได้ง่าย หรือจะขยับไปยังซ. สุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) ก็เต็มไปด้วยคาเฟ่ชื่อดัง หรือถัดไปที่ซ. อุดมสุข ก็มีตลาดนัด ตลาดสด ร้านอาหารอยู่อย่างหนาแน่นเลยเช่นกัน

ส่วนห้างสรรพสินค้าหรือคอมมูนิตี้มอลล์ในโซนนี้ ที่ใกล้สุดก็จะเป็น Whizdom 101 และ True Digital Park ตั้งอยู่บนเส้นสุขุมวิท ใกล้กับ BTS ปุณณวิถีเลยค่ะ จะแวะกินข้าว หรือซื้ออาหาร ก่อนกลับบ้านได้ไม่ยากเลย นอกจากนั้นบนถนนสุขุมวิท ขยับเข้าเมืองไปโซนอ่อนนุช ก็มีห้าง Century , Lotus , The Phyll, ห้างกลุ่ม Em อย่าง Emporium, Emquartier และ Emsphere ค่ะ

หรือขยับออกนอกเมืองไปหน่อยก็จะมี Cloud 11 Bangkok และที่น่าจับตารอคือ Bangkok mall ซึ่งเป็นโครงการในอนาคต อยู่บนถนนสุขุมวิท ตัดกับถนนบางนา เป็นศูนย์การค้าและออฟฟิศ ซึ่งหากสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วจะเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเลย หรือบนถนนบางนาก็มี Central บางนา อยู่ใกล้ๆ หรือบนถนนศรีนครินทร์ก็มีห้างซีคอน, Paradise park และสวนหลวง ร.9 พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ให้ ไปเดินเล่น ออกกำลังกายกันได้ค่ะ

ทางด่วน ตัวช่วยในการเดินทางที่ใกล้ที่สุดคือ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านสุขุมวิท 62 ห่างจากโครงการประมาณ 3.3 กม. ใช้เดินทางไปพระราม 3, สีลม, สาทรหรือข้ามพระราม 2 ได้สะดวก หรือจะใช้ไปฝั่ง พระราม 4 เพชรบุรี ดินแดงก็ง่ายค่ะ

หากใช้ทางด่วนมายังโครงการก็ลงทางสุขุมวิท 62 เหมือนเดิมได้เลย จากทางลงทางด่วนประมาณ 2.2 km. ก็ถึงโครงการแล้วค่ะ

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ถือว่าสะดวกทีเดียว โดยที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถีเพียง 750 m. ใกล้กว่าคอนโดหลายๆ แห่งในโซนนี้ด้วยนะ แต่ถ้าไม่อยากเดินไปถึง BTS ก็ออกมาที่หน้าปากซอยประมาณ 100 m. จะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงหน้าปากซอยโครงการเลยค่ะ ขากลับจาก BTS ก็มีพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ที่หน้าปากซอยเช่นกัน ถือเป็นทางเลือกในการเดินทางเข้าเมืองหากต้องการเลี่ยงรถติดได้นะคะ

พามาดูบรรยากาศรอบๆ โครงการกันค่ะ เราลองเดินจากรถไฟฟ้าไปโครงการมานะคะ ปรากฎว่าร้อน 555 (เพื่อนๆ นั่งพี่วินกันได้นะคะ) ลงมาจากรถไฟฟ้าเลยจะเจอกับคอนโดใหญ่อยู่หน้าปากซอยเลย ต้นซอยก็จะมีพี่วินรอรับ-ส่ง

บรรยากาศภายในซอยมีร้านค้าตลอดทางเลย เพราะซอยนี้มีทั้งออฟฟิศและคอนโดหลายแห่ง มีรถผ่านไปมาตลอด สามารถใช้เป็นทางลัดไปเชื่อมถนนศรีนครินทร์, ซ.สุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต), ซ.สุขุมวิท 103(อุดมสุข), และซ.สุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) หรือจะลัดเลาะไปออกยังเส้นบางนาก็ทำได้

เดินเข้ามาประมาณ 650 m. จะถึงหน้าปากซอยปุณณวิถี 19 สังเกตง่ายๆ ก็คือ มี Lotus go fresh อยู่ที่หน้าปากซอยเลยค่ะ จากหน้าปากซอยก็เดินเข้าไปประมาณ 100 m. บรรยากาศในซอยก็เป็นบ้านพักอาศัยเป็นหลัก และมีโรงแรมอยู่ในซอยด้วย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการเป็นอาคารแนวราบเกือบทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น จะมีอาคารที่สูงหน่อยก็เป็นอพาร์ทเม้นต์ 5 ชั้น และโรงแรมสูง 8 ชั้น ดูเงียบสงบดี เหมาะกับการพักอาศัย

• ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า
• ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัยแนวราบ 1-2 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับถนนซอยปุณณวิถี 19 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น และอพาร์ทเม้นต์ 5 ชั้น
• ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น, อพาร์ทเม้นต์ 5 ชั้น และตึกแถว 4 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ (ระยะรวมกลับรถ) เช่น

การเดินทาง

• BTS สายสีเขียว สถานีปุณณวิถี ~ 750 m.

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• True Digital Park ~ 1.3 km.
• Whizdom 101 ~ 1.4 km.
• ตลาดบางจาก ~ 1.8 km.
• Cloud 11 Bangkok ~ 1.9 km.
• One Udomsuk ~ 1.9 km.
• ตลาดอุดมสุข ~ 2.3 km.
• Makro อุดมสุข ~ 2.5 km.
• Bangkok Mall ~ 2.5 km.
• Century สุขุมวิท ~ 2.6 km.
• The Phyll สุขุมวิท 54 ~ 2.7 km.
• ตลาดอ่อนนุช ~ 3.4 km.
• Big C อ่อนนุช ~ 3.4 km.
• Lotus’s สุขุมวิท 50 ~ 3.5 km.
• Habito Mall ~ 3.8 km.
• W-District ~ 3.9 km.
• People Park ~ 4 km.
• Marko อ่อนนุช ~ 4.4 km.
• Summer Hill ~ 4.9 km.
• Gateway เอกมัย ~ 5.1 km.
• Major เอกมัย ~ 5.3 km.
• Emporium ~ 7.1 km.
• Emquartier ~ 7.2 km.
• Emsphere ~ 7.6 km.

โรงเรียน

• โรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยา ~ 450 m.
• โรงเรียนนานาชาติ Anglo Singapore ~ 1.4 km.
• วิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ ~ 1.5 km.
• โรงเรียนนานาชาติ Wells สุขุมวิท ~ 2.2 km.
• โรงเรียนนานาชาติ Glory Singapore ~ 2.4 km.
• โรงเรียนนานาชาติ Berkeley ~ 3.4 km.
• โรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep ~ 4 km.
• โรงเรียนนานาชาติ St.Andrews ~ 5.1 km.
• มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล้วยน้ำไท ~ 6 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ สุขุมวิท 62 ~ 2 km.
• โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2 ~ 2.4 km.
• โรงพยาบาลมนารมย์ ~ 3.9 km.
• โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 5.5 km.
• โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ~ 5.5 km.
• โรงพยาบาลสุขุมวิท ~ 6.3 km.
• โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ~ 8.1 km.
• โรงพยาบาลคามิลเลียน ~ 8.5 km.
• โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ~ 10.2 km.

• มีรั้วรอบขอบชิด มีส่วนกลาง และรปภ. ดูแล 24 ชั่วโมง : ถือเป็นข้อดีของโครงการบ้านจัดสรรเลยค่ะ
• ยูนิตน้อย สังคมส่วนตัว : เพียง 36 ยูนิตเท่านั้น

The Rev. Sukhumvit 101 (The Rev. สุขุมวิท 101) โครงการทาวน์โฮมใจกลางเมืองจาก Hoosiers Real Estate เป็น Developer ในญี่ปุ่นที่มียอดขายสูงติดอันดับ Top 10 ซึ่งได้นำ Know-How ต่างๆ จากญี่ปุ่นมาใช้ที่ไทยเป็นโครงการแรก เราว่าเค้าเก็บรายละเอียดงานก่อสร้างได้ดีสมชื่อแบรนด์ญี่ปุ่น น่าจะเป็นโครงการที่สร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในไทยมากขึ้นได้นะคะ

ผลงานที่ผ่านมาของ Hoosiers Real Estate จะขึ้นชื่อในเรื่องของการเจาะลึกความต้องการของผู้อยู่อาศัยเฉพาะกลุ่ม เช่น คอนโดที่ออกแบบสำหรับสาววัยทำงานที่อยู่คนเดียว, คอนโดสำหรับผู้สูงอายุ, คอนโดสำหรับคนรักการปั่นจักรยาน เป็นต้น ซึ่งโครงการ The Rev. Sukhumvit 101 (The Rev. สุขุมวิท 101) นี้ก็เน้นไปที่คู่รัก, คู่แต่งงานยุคใหม่ ที่อาจมีลูก 1-2 คน หรือเลี้ยงสัตว์แทนลูก จึงไม่ต้องการบ้านหลังใหญ่นักแต่ชอบทำเลใจกลางเมืองและใกล้รถไฟฟ้าแทน เป็นทางเลือกของการอยู่อาศัยใหม่และเป็นที่มาของชื่อโครงการ REV ที่มาจาก “Revolution”

โครงการ The Rev. Sukhumvit 101 (The Rev. สุขุมวิท 101) เป็นโครงการทาวน์โฮม จำนวน 36 ยูนิตบนที่ดิน 3 ไร่กว่าๆ หากดูจาก Master Plan ประเด็นที่น่าสนใจจะมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันค่ะ ประเด็นแรก คือ The Residentail Lounge (Clubhouse) และสวนส่วนกลางจะอยู่ด้านหน้าโครงการ เป็นมุมต้อนรับ เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้ามาก็ได้วิวสวยๆ ของ Lounge และสวนเลย

ประเด็นที่ 2 คือ “ทิศของบ้าน” จาก Masterplan จะเห็นได้ว่ามีถนนหลักอยู่บริเวณกลางโครงการ แบ่งบ้านออกเป็น 2 ฝั่งซ้ายขวา มีบ้านให้เลือก 2 ทิศคือ ตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ บ้านทิศเหนือฝั่งหน้าบ้านจะโดนแดดในช่วงเช้าและร่มในช่วงบ่าย ส่วนบ้านทิศใต้จะสลับกัน ซึ่งการเลือกบ้านว่าหันทิศไหนดีจะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น หากเป็นคนชอบตื่นสายก็ควรเลือกบ้านที่มีตำแหน่งเตียงนอนอยู่ทางทิศใต้ เพื่อให้แสงไม่ส่องเข้าบ้านในช่วงเช้า และการวางแปลนบ้านทิศเหนือ-ใต้ จะสอดคล้องกับลมประจำฤดูของไทยมากที่สุด ช่วยให้ลมไหลเวียนเข้าบ้านได้ดี

ประเด็นที่ 3 คือ “บ้านแปลงมุม” หากใครชอบความเป็นส่วนตัว เราแนะนำบ้านแปลงมุม ที่จะมีผนังติดกับเพื่อนบ้านแค่ฝั่งเดียว (ในโซนกรอบสีส้ม)

ประตูเข้าออกโครงการเป็นประตูเหล็กรางเลื่อน ที่ช่วยบังสายตาจากคนภายนอกได้

ประตูจะเปิดอัตโนมัติด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียนจึงใช้งานได้สะดวก ส่วนประตูสำหรับคนเดินเข้า-ออกจะใช้เป็นระบบ Keycard (แต่วันที่เราไปถ่ายประตูนี้ยังติดตั้งไม่เสร็จเรียบร้อยดีนะคะ)

เมื่อผ่านประตูโครงการเข้ามาจะเห็น The Residentail Lounge และสวนส่วนกลาง เป็นพื้นที่ต้อนรับสวยๆ สไตล์ Modern Classic ดูเรียบหรู

ภายใน The Residential Lounge จัดฟังก์ชันเป็น Lobby และ Co-Social Space เผื่อใครไม่อยากรับแขกในบ้าน ก็สามารถนัดคุยงาน, เซนต์เอกสารที่อาคารนี้ได้ และยังใช้เป็นพื้นที่รับรองการจัดเลี้ยง สำหรับวันสำคัญของลูกบ้านได้ด้วย โดยเราสามารถเปิดประตูเชื่อมกับพื้นที่ Outdoor ได้เลยนะคะ

The Garden Lounge เป็นพื้นที่สำหรับจัดปาร์ตี้ในสวน จะปิ้งบาร์บีคิว, Seafood ก็มีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร, มีซิงค์ล้างจานเตรียมไว้ให้ ช่วงไหนอากาศหนาวๆ ก็น่าชวนที่บ้านออกมาจัดปาร์ตี้นะคะ

ติดกันเป็น Harmony Garden ที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ ตกแต่งด้วยไม้พุ่มและสนามหญ้า  ซึ่งโครงการออกแบบให้มีพื้นที่นั่งเล่นแบบ Amphitheatre ที่ได้ร่มเงาจากต้นไม้

เมื่อมีพื้นที่สำหรับปาร์ตี้แล้ว ทางโครงการก็จัดให้มีห้องน้ำในโซนนี้อีก 1 ห้อง เป็นแบบ Powder Room มีเฉพาะโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างมือนะคะ

เมื่อผ่าน The Residential Lounge เข้ามา ก็จะเป็นโซนบ้านพักอาศัย โดยออกแบบให้เป็นถนนหลักกว้าง 9 เมตรอยู่ตรงกลาง แบ่งบ้านออกเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งระยะ 9 เมตรนี้เป็นระยะมาตรฐานที่ สามารถถอยรถเข้าบ้านได้สะดวก หรือหากมีการจอดรถหน้าบ้าน 2 ฝั่ง ก็ยังสามารถขับผ่านเข้าออกได้ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร The Residential Lounge บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
  – Lobby
  – Co-Social Space

• The Garden Lounge และ Harmony Garden
• ถนนหลักกว้าง 9 เมตร
• รั้วเหล็กรางเลื่อนอัตโนมัติ
• ระบบในการเข้า-ออกสำหรับรถยนต์ ใช้ระบบจดจำป้ายทะเบียน
• ระบบในการเข้า-ออกสำหรับคนเดินใช้ระบบ Keycard
• CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 8 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร (บางส่วนมีรั้วโปร่งเพิ่ม 1.5 เมตร)
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

Highlights

• มี Double Volume ทุกแบบบ้าน : ออกแบบสไตล์ Modern Classic 3.5 ชั้น ฟังก์ชันเอาใจคนยุคใหม่ที่มีลูกไม่เยอะ 1-2 คน หรือเลี้ยงสัตว์แทนลูก มีให้เลือกตั้งแต่ 2-4 ห้องนอน 3-4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• Master Bathroom ขนาดใหญ่ : ใหญ่สู้บ้านเดี่ยวได้เลย และมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย
• มาตรฐานโครงสร้างสำหรับอาคารต้านแผ่นดินไหว

โครงการ The Rev. Sukhumvit 101 (The Rev. สุขุมวิท 101) ออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic ให้บรรยากาศที่ดูหรูหราและเรียบโก้ในทุกยุคทุกสมัย ดูไม่เชยเมื่อเวลาผ่านไป หลายคนมักกังวลว่าการอยู่ทาวน์โฮมอาจมีเสียงรบกวนกันระหว่างตัวบ้าน ทางโครงการนี้จึงออกแบบผนังระหว่างบ้านให้เป็นแบบ Double Wall เพื่อลดปัญหานี้ค่ะ

อีกประเด็นที่อยากนำเล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นเลยคือ การออกแบบอาคารตามมาตรฐานโครงสร้างสำหรับต้านแผ่นดินไหว โดยใช้ 2 เทคนิค ดังนี้

1. การเพิ่มความถี่ของเหล็กปลอกเสารอยต่อ จากทุกๆ 20 cm เป็นทุกๆ 10 cm. จำนวนปลอกเสาที่มากกว่าจะทำ ให้การบิดตัวลดลงเวลาเกิดการบิดตัวของเสา

2. การต่อทาบเหล็กเสริมเสา “แบบกลางเสา” การต่อทาบเหล็กแบบกลางเสานั้นทำ ให้โครงการของตัวเสานั้นรองรับแผ่นดินไหวได้ดีกว่า หาก เปรียบเทียบกับการต่อทาบในส่วนของต้นหรือท้ายเสา ตามมาตรฐานโครงสร้างสำหรับอาคารต้านแผ่นดินไหวค่ะ

อย่างที่เล่าไปว่า Developer ของโครงการมีสัญชาติญี่ปุ่น งานที่ออกมาจึงมีดีเทลมากๆ เลย อย่างมุมตึกเองก็ออกแบบให้โค้งมนดูไม่กระด้าง มีลักษณะเป็นลอน เวลาแสงมากระทบกับอาคารจึงเกิดเงาที่ดูมีมิติ เพิ่มความลึกให้กับตัวอาคาร อีกอย่างหนึ่งที่ขอสปอยล์ไว้ก่อนคือ Master Bathroom ใหญ่มาก ใครชินตากับห้องน้ำเล็กๆ ในทาวน์โฮม บอกเลยว่าที่นี่ใหญ่สะใจไม่ผิดหวังแน่นอน

โครงการมีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ หน้าตาบ้านคล้ายกันเลยค่ะ ต่างกันที่ฟังก์ชันภายใน และความกว้างของตัวบ้าน

• REV. Exclusive ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17-19 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 157 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 2-3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• REV. Essential ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 20-21 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 191 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
• REV. Signature ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.2 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 22-30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 206 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
• REV. Prominent ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 26-28 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ

ดูจากฟังก์ชันแล้วแบบบ้านทั้ง 4 ออกแบบมาเอาใจคนยุคใหม่ที่มีลูกไม่เยอะ 1-2 คน หรืออยู่กันแบบสามี-ภรรยา แล้วเลี้ยงสัตว์แทนลูก หากครอบครัวไหนที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย แนะนำเป็นแบบ REV. Prominent เพราะมีห้องอาบน้ำที่ชั้นล่างมาให้ จึงสามารถกั้นห้องนอนเพิ่มเติมที่ชั้นล่างได้ หรือถ้าสนใจเป็นแบบอื่น ห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นแบบ Powder Room จึงแนะนำให้ติดตั้งลิฟต์เพิ่มเติม เพื่อให้ผู้สูงอายุขึ้นชั้นบนได้สะดวกแทนค่ะ

สรุปวัสดุภายในบ้าน

• **มาตรฐานโครงสร้างสำหรับอาคารต้านแผ่นดินไหว
• โครงสร้างแบบ Conventional ผนังก่ออิฐฉาบปูน รองรับการทุบต่อเติมในอนาคต
• หลังคาเหล็ก มุงเมทัลชีทเสริมฉนวนThermoflex ช่วยกันความร้อนและเสียง
• กำแพงระหว่างอาคารแบบ Double Wall ช่วยกันเสียงจากข้างบ้าน
• ผนังภายในฉาบเรียบทาสี
• ผนังภายนอกทาสี TOA SuperShield
• ที่จอดรถแบบ On Ground ปูกระเบื้องแกรนิตโต้แบบ Smart Grip กันลื่น
• ลานซักล้าง ไม่ลงเสาเข็ม
• ฝ้าเพดาน ห้องนั่งเล่น Double Volume สูง 6 เมตร, Master Bedroom สูง 3 เมตร, ห้องนอนเล็กสูง 2.7 เมตร
• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×120 cm.
• พื้นชั้น 2,3 : กระเบื้อง SPC
• พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 cm.
• วัสดุในห้องน้ำใช้ยี่ห้อ American Standard เป็นหลัก ยกเว้น อ่างอาบน้ำและอ่างล้างหน้าชั้น 1 ของบ้าน
• เฉพาะห้องน้ำ Master มี ระบบท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น จ่ายไปยังฝักบัว, Rain Shower และอ่างอาบน้ำ
• บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน เคลือบฟิล์มสีสำเร็จ
• หน้าต่างกรอบอลูมิเนียมยี่ห้อ Tostem สี Dusk Gray ซึ่งเป็นสีโทนเทาล่าสุดจาก Tostem ที่ได้แรงบันดาลใจจากพระอาทิตย์ยามพลบค่ำ
• Home Automation
  – ประตูหลักหน้าบ้านติดตั้ง Digital Door Lock แบบมีกล้องในตัวยี่ห้อ Jarton รองรับการใช้รหัส, การ์ด, คีย์การ์ด, กุญแจ หรือเชื่อมต่อผ่าน Application Jarton Home ร่วมกับอุปกรณ์อื่นได้
  – กล้องวงจรปิด 1 จุด ด้านในบ้านและ 1 จุดที่โรงจอดรถ
  – Magnetic Sensor ที่หน้าต่างบานใหญ่ ชั้น 1
  – Motion Sensor โถงทางเดิน ชั้น 2
  – ปุ่มฉุกเฉิน SOS ในห้องน้ำ ชั้น 1
  – Gateway ที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ทั้งหมดผ่าน WiFi
  – อุปกรณ์ตรวจจับควัน
  **ตำแหน่งการติดตั้งในบ้านตัวอย่างเป็นการติดตั้งให้ดูเป็นแนวทางเท่านั้นค่ะ ลูกบ้านสามารถเลือกตำแหน่งและติดตั้งได้ด้วยตนเองตามความต้องการ หรือตามจะติดตามบ้านตัวอย่างก็ได้ และลูกบ้านสามารถซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมนอกเหนือจากเซตมาตรฐานได้

• ระบบไฟ 1 เฟส 30(100) มี Junction รองรับ EV Charger ทุกตัวบ้าน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

บ้านตัวอย่าง : REV. Prominent

REV. Prominent เป็นทาวน์โฮม Type ใหญ่สุดของโครงการ หน้าบ้านกว้างกว่าเพื่อนๆ ถึง 8 เมตร และเป็น Type เดียวที่มีสวนหน้าบ้านนะคะ

แปลนบ้านคร่าวๆ เพื่อประกอบการรีวิวไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้บ้านของโครงการออกแบบให้มีความลึกไม่มาก จึงรับแสงได้ทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้านไม่มีปัญหาคลาสสิคของทาวน์โฮมที่แสงมักส่องไม่ถึงบริเวณกลางบ้าน เวลาเดินชมบ้านที่นี่จึงรู้สึกโปร่งโล่ง ได้แสงธรรมชาติทั้งอาคารนะคะ

ชั้น 1 – บริเวณหน้าบ้านจอดรถได้ 2 คันและมีพื้นที่สวนหย่อมที่ปลูกต้นไม้ใหญ่ได้ 1 ต้น เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับ Living+Dining+Pantry Area เปิดเชื่อมต่อกันทั้งชั้น และพื้นที่โซนนี้จะวิวสวนด้านหลังบ้านแบบเต็มที่

ชั้นลอย – จัดเป็น Multi-Purpose Area แบ่งออกเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเป็น Family Area ได้ ซึ่งก็ใหญ่พอให้วางเปียโนได้เลยนะคะ และมีพื้นที่อเนกประสงค์เล็กๆ อีกหนึ่งจุดที่ดูเป็นมุมสงบ เหมาะกับการนั่งอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิค่ะ

ชั้น 2 – Master Bedroom ทั้งชั้นเลย ภายในมี Master Bathroom และ Walk-in Closet ครบครัน

ชั้น 3 – ห้องนอนรอง 2 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัวทั้งคู่ และมีระเบียงให้ออกไปชมวิวเมืองได้ด้วยนะคะ

ประตูบ้านเป็นรั้วเหล็กแบบซี่โปร่งๆ ทำให้บรรยากาศในโครงการดูไม่อึดอัด แต่ด้วยการออกแบบเราจึงมองเข้าไปไม่เห็นในตัวบ้าน ได้ความเป็นส่วนตัวมากๆ ค่ะ

สังเกตซุ้มประตูจะมีคานด้านบนมาให้ รองรับการต่อเติมหลังคาให้สะดวกขึ้น มีความสูง 2.5 เมตร ความสูงแบบรถ Alphard ก็ผ่านได้นะคะ ซึ่งการให้คานมาก็ทำให้เราต่อเติมหลังคาที่จอดรถได้ง่ายเลย และยังทำให้การต่อเติมไม่หลุดธีมของโครงการด้วย

ที่จอดรถหน้าบ้านกว้างประมาณ 5.1 เมตร ลึก 5.3 เมตร จึงสามารถจอดรถได้ 2 คัน และหากใครมีมอเตอร์ไซค์ก็สามารถจอดข้างต้นไม้ได้อีก 1 คันค่ะ

โครงการทำพื้นโรงจอดรถไว้แบบ Slab On Ground ซึ่งการทรุดตัวอาจไม่เท่ากับตัวบ้าน ทางโครงการจะตัด Joint แยกที่จอดรถกับตัวบ้านไว้ให้ เผื่อมีการทรุดตัวจะไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างบ้าน และปูกระเบื้องแกรนิตโต้แบบ Smart Grip กันลื่นไว้ให้อีกชั้นหนึ่ง

ด้านหลังที่จอดรถมี Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger น่าจะได้ 7.4 kW นะคะ เพราะระบบไฟเป็นแบบ 1 เฟส 30(100) แต่ก็อย่าลืมคำนวณร่วมกับจำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ในบ้านด้วยนะคะ

ด้านข้างที่จอดรถมีพื้นที่สวนย่อมๆ ซึ่งโครงการจะปลูกต้นไม้ใหญ่มาให้ 1 ต้น ตามแบบในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ ติดกับสวนจะมีมีห้องเก็บของซ่อนอยู่ เป็นพื้นที่ใต้บันได จึงสามารถใส่จักรยานพับ หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดได้นะคะ

อีกดีเทลที่น่าสนใจคือ การเว้นร่องไว้บริเวณรอยต่อของวัสดุ เพื่อมีพื้นที่ให้วัสดุขยายตัวได้ ช่วยลดปัญหารอยแตกร้าวต่างๆ ได้ค่ะ

ประตูทางเข้าหลักจะอยู่ติดกับที่จอดรถเลย จึงมีหลังคาบังแดดบังฝน เข้าบ้านได้สะดวก ตัวประตูเป็นบานทึบมาพร้อม Digital Door Lock ยี่ห้อ Jarton รองรับการใช้รหัส, การ์ด, คีย์การ์ด, กุญแจ หรือเชื่อมต่อผ่าน Application Jarton Home ร่วมกับอุปกรณ์อื่นได้

รุ่นนี้จะมีกล้องในตัวด้วยนะคะ ตัดปัญหาการติดตั้งประตูไม้หน้าบ้านแล้วมองไม่เห็นภายนอก เพราะโครงการเลือกใช้ประตูที่ไม่มีช่องแสง เพื่อให้ภายในบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากที่สุดค่ะ

ชั้น 1

Living + Dining + Pantry Area

เข้ามาในบ้านจะเจอกับพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมถึงกันทั้งชั้นให้จัดเป็น Living+Dining+Pantry Area ได้แบบต่อเนื่อง ที่ชอบเลยคือได้วิวสวนฝั่งหลังบ้านแบบเต็มที่ ให้บรรยากาศที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ อย่างในบ้านตัวอย่างจะวางเคาน์เตอร์ครัวและโต๊ะทานอาหารแบบ Island ไว้ตรงกลาง แล้วก็ดันชุดโซฟานั่งเล่นไปไว้ชั้น 2 หรือใครจะจัดพื้นที่สำหรับวางโซฟาและโต๊ะทานอาหาร ไม่ต้องมีเคาน์เตอร์ครัว Island ก็แล้วแต่ชอบเลยค่ะ

พื้นชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน ขนาดใหญ่พิเศษ 60×120 cm. พอปูด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่ก็ดูสบายตาและหรูหราขึ้น

บริเวณ Living+Dining Area จะเป็นพื้นที่แบบ Double Volume สูง 6 เมตร ผนังฝั่งหลังบ้านจะใช้เป็นกระจกบานใหญ่ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง ไม่เหมือนอยู่ทาวน์โฮมเลยนะคะ

ที่ประตูบานเลื่อนหลังบ้านจะมี Magnetic Sensor ติดตั้งมาให้ เพื่อเสริมความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง

สวนหลังบ้าน

สวนหลังบ้านของ Type นี้ลึกประมาณ 3 เมตร จึงใช้งานได้หลากหลายจะจัดเป็นมุมนั่งเล่น พร้อมปลูกต้นไม้ใหญ่แบบในบ้านตัวอย่างก็ได้เลย ในส่วนของปั๊มน้ำทางโครงการจะวางหลบไว้ตรงมุมอยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถทำผนังบังสายตาในส่วนนี้ก็ได้ค่ะ

ถ้าอยากรักษาวิวสวยๆ ของสวนหลังบ้าน คงต้องใช้เป็นเครื่องอบผ้าแทนจะได้ไม่ต้องตากผ้านะคะ

แต่หากใครอยากต่อเติมในส่วนนี้ทางโครงการไม่ได้ลงเสาเข็มไว้แต่ก็มีการตัด Joint ให้แยกออกจากตัวบ้านชัดเจน หากดินทรุดไม่เท่ากันก็จะไม่ส่งผลต่อตัวบ้านค่ะ อยากต่อเติมแบบไหนจึงแนะนำให้ปรึกษาวิศวกรอีกทีนะคะ

แต่ถ้าทำหลังคาทึบไปเลยก็น่าเสียดาย เราแนะนำให้ต่อเติมแบบที่แสงธรรมชาติยังส่องเข้ามาได้ จะช่วยให้บ้านดูโปร่งโล่งเหมือนเดิมจะดีกว่า

เราสามารถเปิดประตูหลังบ้านออกกว้างๆ เพื่อเชื่อม Living Area กับสวนได้ ทำให้ทั้ง 2 พื้นที่ไม่ถูกตัดขาดออกจากกัน หากเรายืนปิ้งบาร์บีคิวอยู่ด้านนอกบ้าน ก็ยังสามารถพูดคุยมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกที่อยู่ในบ้านได้ค่ะ

Pantry ครัว จะอยู่ด้านในสุดของชั้น 1 ติดกับบันไดและห้องน้ำ

Pantry

Pantry ครัวจะเป็นแบบเปิดโล่ง แต่หากใครอยากได้ครัวปิดก็สามารถต่อเติมเป็นห้องได้นะคะ กั้นตามแนวเส้นประก็ได้ แต่อย่างบ้านเราที่ไม่ได้ทำอาหารที่มีกลิ่นและควันฉุนเป็นประจำก็ใช้ครัวเปิดโล่งแบบนี้แหละค่ะ ดูโปร่งดี

ขนาด Pantry ครัวที่โครงการเตรียมมาให้จะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็มีพื้นที่พอวางฟังก์ชันได้ครบทั้งเตาไฟ, ซิงค์ล้างจาน, พื้นที่เตรียมอาหาร และตู้เย็นแบบ 2 ประตู

ใกล้ๆ กับครัวเป็นตำแหน่งของห้องน้ำชั้นล่างค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำชั้นล่างของ Type นี้จะมีพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ เผื่อใครอยากกั้นห้องนอนที่ชั้นล่างก็สามารถมาอาบน้ำที่นี่ได้เลย โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1×0.9 m. พอให้ยืนหมุนตัวได้พอสมควร แต่ของบ้าน Type อื่นจะเป็นแบบ Powder Room คือมีเฉพาะพื้นที่ส่วนแห้งนะคะ

ภายในมีสุขภัณฑ์ติดตั้งมาครบใช้ยี่ห้อ American Standard เป็นหลัก ความพิเศษอีกอย่างคือมีปุ่มฉุกเฉิน SOS อยู่ติดกับโถสุขภัณฑ์ให้ด้วย หากกดปุ่มนี้ก็จะไปแจ้งเตือนในมือถือผ่าน Application ของ Jarton ค่ะ

โถงบันไดมีความกว้างเกือบ 1 เมตร บันไดจะใช้โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน เคลือบฟิล์มสีสำเร็จ

ลักษณะบันไดเป็นตัว U มาพร้อมราวจับ มีชานพักให้ครบถ้วน โถงบันไดดูสว่างด้วยแสงที่ผ่านหน้าต่างเข้ามา ไม่ต้องเปิดไฟก็มองเห็น และโครงการเลือกวางบันไดในตำแหน่งที่ติดกับผนังข้างบ้านฝั่งหนึ่ง เป็นเหมือน Barrier ช่วยกันเสียงจากบ้านข้างเคียง

ชั้นลอย

พื้นที่บนชั้นลอยก็เป็นพื้นที่เปิดโล่งเช่นกัน แบ่งออกเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สามารถจัดวางชุดโซฟาได้ และอีกพื้นที่หนึ่งจะมีขนาดกะทัดรัดหน่อย คือพื้นที่สุดทางเดินตามในรูปนะคะ ในส่วนของพื้นตั้งแต่ชั้นนี้ขึ้นไปจะปูด้วยพื้นไม้ SPC ที่มีคุณสมบัติทนน้ำได้ดี ดูแลรักษาง่ายค่ะ

Multi-Purpose Area 1

เราว่ามุมนี้ดูเป็นส่วนตัวดีนะ ได้ความสงบ เหมาะกับการนั่งอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ แต่ก็ยังมองเห็นบรรยากาศภายในบ้าน มองเห็นสมาชิกคนอื่นได้ค่ะ

Multi-Purpose Area 2

สำหรับพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่มีขนาดประมาณ 5.7 x 3 m. สามารถจัดวางโซฟา 3-4 ที่นั่งได้สบาย จัดเป็นมุมดูซีรีย์ หรือวางเปียโนก็ได้นะคะ

บนชั้นลอยนี้ได้วิวดีทีเดียวค่ะ มองลงไปเห็นสวนชั้นล่างเลย

ต่อไปเราจะพาไปชมชั้น 2-3 กันต่อ ซึ่งจัดเป็นห้องนอนทั้งหมด ทางโครงการจึงติดตั้ง Motion Sensor ที่โถงทางเดิน ชั้น 2 หากดึกๆ เราเข้านอนกันหมด แล้วมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเจ้า Motion Sensor ก็จะส่งสัญญาณเตือนค่ะ

ชั้น 2

Master Bedroom

พื้นที่บนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom แบบเต็มชั้น ภายในมีห้องน้ำในตัวขนาดใหญ่เลยค่ะ และมี Walk-in Closet อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำด้วย

โซนแรกเมื่อเข้ามาใน Master Bedroom จะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจึงเป็นเตียงนอน เมื่อเปิดประตูเข้ามาจึงไม่เจอกับเตียงในทันทีนะคะ เป็นดีไซน์ที่ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนมากยิ่งขึ้น

พื้นที่วางเตียงนอน เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถวางเตียง 6-7 ฟุตได้เลย แถมห้องนี้ยังได้หน้าต่างบานใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติได้แบบโปร่งโล่ง

ในส่วนของ Walk-in Closet จะเป็นพื้นที่เข้ามุมแบบตัว U ถ้าเรา Built-in ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้งตามแนวผนังก็จะได้พื้นที่ที่ดูเป็นสัดส่วน ลองดูบ้านตัวอย่างเป็นไอเดียได้นะคะ เมื่อ Built-in เสร็จก็จะมีพื้นที่ทางเดินขนาดประมาณ 1 m. ค่ะ

ติดกันเป็น Master Bathroom มีขนาดที่กว้างมากนะคะ ใช้งานพร้อมกัน 2 คน ได้สะดวกเลย สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard เป็นหลักอีกเช่นกัน อ่างล้างหน้าให้มาไม่แพ้บ้านเดี่ยวเลยนะคะ เป็นแบบ His&Her ขนาดค่อนข้างกว้าง วางเคาน์เตอร์ยาววางของได้เยอะ มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นไปอีก

อ่างอาบน้ำแบบลอยตัวของยี่ห้อ Bath&Bath ดีไซน์เรียบคลาสสิค ขนาดประมาณ 1.5 x 0.7 m. ซึ่งระบบท่อน้ำเฉพาะ Master Bathroom จะให้เป็นระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น ซึ่งจะจ่ายน้ำไปยังฝักบัว, Rain Shower และอ่างอาบน้ำ ทำให้ใช้งานสะดวก

สำหรับ Shower Box ในห้องนี้จะมีผนังกระจกกั้นไว้เป็นสัดส่วน ขนาดประมาณ 1 x 1.5 m. สามารถหมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก แถมออกแบบให้มีที่นั่งอาบน้ำด้วย ภายในติดตั้งฝักบัวให้ทั้งแบบ Hand shower และ Rain shower

ชั้น 3

เมื่อขึ้นมาบนชั้น 3 จะเจอกับประตูกระจกบานใหญ่สำหรับเปิดออกไประเบียง

ระเบียงของตัวบ้านจะไม่ได้อยู่ในห้องนอนใดห้องนอนหนึ่ง สมาชิกทุกคนจึงขึ้นมาใช้ระเบียงได้สะดวก แต่เป็นพื้นที่แบบ Outdoor จึงเหมาะจะมาชมวิวเปลี่ยนบรรยากาศในช่วงเย็นที่แดดร่มสักหน่อย หรือติดตั้งร่มสนาม ก็จะกลายเป็นมุมนั่งเล่นแบบ Chic Chic ดีนะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1.9×1.6 m. แม้ไม่กว้างมากแต่ก็พอสำหรับวางต้นไม้กระถาง ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ดูร่มรื่น ผ่อนคลาย น่าพักผ่อนขึ้นไปอีกนะคะ

ห้องนอนรอง 1

โครงการระเบิด Space ทุบผนังห้องนอน 1 รวมถึงห้องน้ำในตัวออก และตกแต่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ให้ดูเป็นไอเดีย เผื่อบ้านไหนมีลูกแค่คนเดียวก็สามารถทุบผนังปรับฟังก์ชันเป็นพื้นที่ส่วนกลางแทนได้ จะใช้เป็นมุมทำงานอดิเรก, ติวหนังสือให้ลูกก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์เลยค่ะ

ห้องนอนรอง 2 

หากโครงการไม่เปลี่ยนฟังก์ชันห้องนอน 1 พื้นที่ภายในก็จะพอๆ กับห้องนอนรอง 2 นี่แหละค่ะ โซนหน้าห้องจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำและดันพื้นที่พักผ่อนไว้ด้านใน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว

ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต และยังเหลือพื้นที่ให้เดินได้รอบ ข้างเตียงมีพื้นที่เหลือพอโต๊ะเขียนหนังสือและตู้เสื้อผ้า เรียกได้ว่าเก็บของได้เยอะอยู่อาศัยได้ตั้งแต่เด็กยันโตเลยค่ะ แถมภายในห้องยังมีหน้าต่างบานใหญ่รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1 x 1.5 m. พร้อมสุขภัณฑ์ครบถ้วนเหมือนในบ้านตัวอย่าง แถมมีหน้าต่างบานใหญ่ให้เปิดระบายอากาศได้ด้วยค่ะ

บ้านตัวอย่าง : REV. Signature

ใครที่อยากได้ฟังก์ชันคล้าย REV. Prominent แต่อยากประหยัดงบลงมาแนะนำให้มาดูบ้าน Type นี้ค่ะ REV. Signature ตัวบ้านมีหน้ากว้าง 6.2 เมตร จอดรถได้ 2 คันเหมือนเดิม แต่บริเวณสวนสามารถทำได้เฉพาะโซนหลังบ้านนะคะ

ฟังก์ชันภายในบ้านเหมือน REV. Prominent เลย แค่พื้นที่ใช้สอยลดลงหน่อย แต่ได้ 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ เหมือนกัน สิ่งที่ต่างกันคือ ห้องน้ำชั้นล่างของแบบบ้านนี้จะเป็น Powder Room ไม่มีพื้นที่อาบน้ำไว้รองรับการทำห้องผู้สูงอายุชั้นล่าง ซึ่งเราแก้ได้ด้วยการติดตั้งลิฟต์เพิ่มเติม เพื่อให้ผู้สูงอายุขึ้นไปพักผ่อนชั้นบนได้นะคะ

ที่จอดรถหน้าบ้านกว้างประมาณ 6 เมตร ลึก 5.1 เมตร จึงสามารถจอดรถได้ 2 คัน รองรับรถที่มีความยาวเป็นพิเศษได้อยู่ ลองขับมาจอดดูเลยก็ดีนะคะ

ด้านหลังที่จอดรถมี Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger น่าจะได้ขนาด 7.4 kW เพราะระบบไฟเป็นแบบ 1 เฟส 30(100) และด้านข้างก็มีพื้นที่ว่างให้ทำเป็นตู้เก็บของ Built-in ไปกับผนังเพิ่มได้นะคะ

ชั้น 1

Living + Dining + Pantry Area

เข้ามาในบ้านจะเจอกับพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมถึงกันทั้งชั้นให้จัดเป็น Living+Dining+Pantry Area ได้แบบต่อเนื่อง บ้าน Type นี้ยังคงจุดเด่นที่ได้วิวสวนหลังบ้านแบบเต็มที่ ให้บรรยากาศที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ

อย่างในบ้านตัวอย่างจะวางชุดโซฟาและโต๊ะทานอาหารไว้ติดหน้าต่าง ทำให้ชมวิวสวนหลังบ้านได้เต็มที่ วัสดุต่างๆ ที่ให้ก็จะเหมือนกับบ้านหลังแรกนะคะ สวยสมราคาดีเลย

Pantry

Pantry ครัวที่ได้เป็นแบบเปิดโล่ง แต่หากใครอยากได้ครัวปิดก็สามารถต่อเติมเป็นห้องได้นะคะ

สวนหลังบ้าน

สวนหลังบ้านของ Type นี้ลึกประมาณ 3 เมตรเช่นกัน จึงใช้งานได้หลากหลายจะจัดเป็นมุมนั่งเล่น พร้อมปลูกต้นไม้ใหญ่แบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ ในส่วนของปั๊มน้ำทางโครงการจะวางหลบไว้ตรงมุมอยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถทำผนังบังสายตาในส่วนนี้ก็ได้ค่ะ

โถงบันไดมีความกว้างเกือบ 1 เมตร และเพื่อประหยัดพื้นที่ทางโครงการจึงออกแบบให้เป็นแนวยาวขึ้นไปถึงชั้น 2 เลย และเลือกวางบันไดในตำแหน่งที่ติดกับผนังข้างบ้านฝั่งหนึ่ง เป็นเหมือน Barrier ช่วยกันเสียงจากบ้านข้างเคียง

ชั้นลอย

Multi-Purpose Area

พื้นที่อเนกประสงค์บนชั้นลอยมีขนาดประมาณ 4.6 x 3.6 m. สามารถจัดวางโซฟา 3-4 ที่นั่งได้สบาย เวลาที่ชั้นล่างมีแขก สมาชิกคนอื่นก็ยังพักผ่อนบนชั้นนี้ได้สบายๆ ค่ะ

จากบนชั้นลอยจะได้วิวมุมสูง มองลงมาชั้นล่างได้แบบโปร่งๆ เลย Double Volume มีความสูงประมาณ 6 m. เลยนะคะ

ชั้น 2

บรรยากาศของโถงบันไดดูโปร่งดี ด้วยแสงธรรมชาติที่ผ่านหน้าต่างเข้ามา สำหรับพื้นที่บนชั้น 2 นี้จะจัดทั้งชั้นให้เป็น Master Bedroom เลยค่ะ

Master Bedroom

พอจัด Master Bedroom แบบเต็มชั้น จึงได้หน้าต่างทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้านเลย ภายในมีห้องน้ำในตัวขนาดใหญ่ และมี Walk-in Closet ครบครันเลย พื้นที่วางเตียงนอน เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถวางเตียง 6-7 ฟุตได้เลย ปลายเตียงก็สามารถวางชั้นวางทีวี หรือจะวางม้านั่งที่ปลายเตียงเพิ่มก็ได้นะ

ด้วยขนาดห้องที่กว้างขวาง ทางโครงการจึงมีไอเดียทำเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นบ้านน้องแมวด้วยค่ะ เรียกได้ว่าอยู่กันสบายๆ ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงเลย

ในส่วนของ Walk-in Closet จะเป็นพื้นที่เข้ามุมให้เราได้ Built-in ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างเป็นสัดส่วน ลองดูบ้านตัวอย่างเป็นไอเดียได้นะคะ เมื่อ Built-in เสร็จก็จะมีพื้นที่ทางเดินขนาดประมาณ 1 m. ค่ะ

ในส่วนของ Master Bathroom มีขนาดที่กว้างมากอีกเช่นกัน สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard เป็นหลัก อ่างล้างหน้าให้มาไม่แพ้บ้านเดี่ยวเลยนะคะ เป็นแบบ His&Her ใช้งานพร้อมกัน 2 คน สำหรับ Shower Box ในห้องนี้จะมีผนังกระจกกั้นไว้เป็นสัดส่วน ขนาดประมาณ 1 x 1.5 m. สามารถหมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก

โครงการยังคง Gimmick เป็นอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวขนาด 1 x 0.7 m. โดยระบบท่อน้ำเฉพาะ Master Bathroom จะให้เป็นระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น ซึ่งจะจ่ายน้ำไปยังฝักบัว, Rain Shower และอ่างอาบน้ำ ทำให้ใช้งานสะดวก

ชั้น 3

โถงทางเดินบนชั้น 3 จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้วางของตกแต่งหรือ Built-in เป็นชั้นวางของตามไลฟ์สไตล์ หรือจะจัดเป็นมุมวางโต๊ะหมู่บูชาก็ได้นะคะ

บนชั้นนี้จะแบ่งออกเป็นห้องนอนรอง 2 ห้อง ซึ่งมีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ค่ะ

ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนรองห้องแรกเราพามาดูห้องฝั่งหน้าบ้าน ห้องนี้จะใหญ่กว่าอีกห้องนึงนิดนะคะ และมีระเบียงในตัวด้วย เรียกว่าเป็นห้องนอนของลูกคนโปรดก็ได้ แต่ทางบ้านตัวอย่างออกแบบมาเป็นห้องแต่งตัว เหมาะกับสาวๆ ที่เป็น Fashionista เลยค่ะ สำหรับใครที่มีลูกคนเดียวก็อาจปรับฟังก์ชันห้องนี้ตามไลฟ์สไตล์ได้

หากจัดฟังก์ชันเป็นห้องนอนก็มีขนาดใหญ่เพียงพอให้วางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบครัน ทั้งเตียง, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งเตียงก็ใช้ขนาด 5 ฟุตได้เลยนะคะ ส่วนระเบียงก็มีขนาดประมาณ 2 x 1.3 m. พอให้วางต้นไม้กระถางและเก้าอี้สนามสำหรับนั่งเล่นได้

ห้องน้ำจะอยู่โซนหน้าห้อง และมีพื้นที่ว่างฝั่งตรงข้ามให้ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าได้ อยู่ใกล้กับห้องน้ำเลยจะได้ใช้งานได้สะดวก

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.1 x 0.9 m. พร้อมสุขภัณฑ์ครบถ้วนเหมือนในบ้านตัวอย่าง แต่ห้องนี้ไม่ได้มีหน้าต่าง คงต้องพึ่งระบบระบายอากาศแทนค่ะ

ห้องนอนรอง 2

ในส่วนของห้องนอนรอง 2 จะอยู่ทางฝั่งหลังบ้านจึงมีหน้าต่างน้อยกว่า แต่ก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่านะคะ ภายในห้องมีขนาดที่จัดฟังก์ชันได้ลงตัวเหมือนกัน วางเตียง, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้ครบถ้วน

บ้านตัวอย่างมีการปรับตำแหน่งผนังบริเวณหน้าห้องน้ำนิดหน่อย แต่ถ้าใครชอบช่องแสงเข้ามุมแบบนี้ก็สามารถทุบต่อเติมได้ เพราะตัวบ้านใช้โครงสร้างแบบ Conventional นะคะ

เราชอบห้องน้ำของห้องนอนรอง 2 นะ เพราะเค้ามีหน้าต่างบานใหญ่มาให้ ใช้เปิดระบายอากาศได้ดี

REV. Essential

REV. Essential เป็นทาวน์โฮมไซส์รองลงมาจาก REV. Signature อีกที แต่ฟังก์ชันและการออกแบบก็คล้ายกันเลย

ตัวบ้านจัดฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ ต่างกันเพียงหน้ากว้างของหลังนี้มีระยะ 5.7 เมตร แต่ก็จอดรถได้ 2 คันเหมือนกัน และอีกเรื่องคือห้องนอนรอง 2 ห้องจะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันค่ะ

บ้านมาตรฐาน : REV. Exclusive

REV. Exclusive เป็นทาวน์โฮมไซส์เริ่มต้นของโครงการ หน้ากว้าง 5.5 เมตร แบบบ้านจะต่างจาก 3 แบบแรกอย่างเห็นได้ชัด เพราะพื้นที่ Double Volume จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านเชื่อมกันระหว่างชั้น 2 – ชั้นลอย ห้องนอนรองจึงอยู่บนชั้นลอยและห้องนอนใหญ่อยู่บนชั้น 3 แทนค่ะ

บ้านนี้จัดฟังก์ชัน 2 ห้องนอน (กั้นเพิ่มเป็น 3 ห้องได้) / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ ในราคาเริ่มต้นน่าสนใจมาก

The Rev. Sukhumvit 101 (The Rev. สุขุมวิท 101) ราคา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568

• REV. Exclusive ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17-19 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 157 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 2-3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• REV. Essential ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 20-21 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 191 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
• REV. Signature ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.2 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 22-30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 206 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
• REV. Prominent ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 26-28 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3-4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
• ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท
• จองและทำสัญญา 100,000 และ 300,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : The Rev. Sukhumvit 101 (The Rev. สุขุมวิท 101) เป็นโครงการทาวน์โฮมบนทำเลคอนโด จากที่เรา Survey ดู โครงการแนวราบตามรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีใกล้ๆ กันอย่างอ่อนนุช-บางจาก-ปุณณวิถี โครงการนี้ถือว่าใกล้รถไฟฟ้ากว่าเพื่อนๆ ไม่ถึง 1 km. เท่านั้น และใกล้กว่าคอนโดบางโครงการในซอยเดียวกันด้วยนะ สำหรับคนที่ใช้รถยนต์เป็นหลักก็สามารถลัดเลาได้หลายเส้นทางเชื่อมต่อได้หมดทั้งสุขุมวิท, อ่อนนุช, ศรีนครินทร์และ บางนา-ตราด

ถ้าดูเรื่องความอุมดมสมบูรณ์รอบโครงการก็นับว่าสูงทีเดียว ครบครันทั้ง Community Mall, ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียนนานาชาติ, โรงพยาบาล สุดท้ายคือเรื่องของมูลค่าที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากที่ดินในทำเลใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า ที่พัฒนาเป็นโครงการแนวราบแบบนี้จะหายากขึ้นทุกที

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : เป็นข้อดีของโครงการจัดสรรเลยค่ะ มีรั้วรอบขอบชิดและรปภ. ดูแล 24 ชั่วโมง ในส่วนของตัวบ้านติดตั้ง Digital Door Lock, CCTV ที่โรงจอดรถ, Magnetic Sensor, Motion Sensor รวมถึงปุ่มฉุกเฉิน SOS ในห้องน้ำชั้น 1 ด้วยค่ะ

การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการจัดสรรที่มีความเป็นส่วนตัวเพียง 36 ยูนิต มีถนนหลักอยู่บริเวณกลางโครงการ แบ่งบ้านออกเป็น 2 ฝั่งถนนซ้ายขวา จึงมีบ้านให้เลือก 2 ทิศคือ ตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งบ้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือแสงจะเข้าห้องนอนในช่วงเช้า และหน้าบ้านจะร่มในช่วงบ่าย ส่วนบ้านทิศตะวันตกเฉียงใต้จะได้หน้าบ้านที่ร่มในช่วงเช้า เหมาะกับคนที่ชอบนอนดึก ทำงานดึก แล้วตื่นสายหน่อยค่ะ

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : บ้านของโครงการนี้ออกแบบสไตล์ Modern Classic สูง 3.5 ชั้น มี Double Volume ทุกแบบบ้าน ฟังก์ชันเอาใจคนยุคใหม่ที่มีลูกไม่เยอะ 1-2 คน หรือเลี้ยงสัตว์แทนลูก มีให้เลือกตั้งแต่ 2-4 ห้องนอน 3-4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และใครที่ชอบห้องน้ำใน Master Bedroom ใหญ่ๆ ที่นี่สู้บ้านเดี่ยวได้เลยนะคะ

วัสดุ : โครงสร้างได้มาตรฐานสำหรับอาคารต้านแผ่นดินไหว ก่อสร้างแบบ Conventional ก่ออิฐฉาบปูน รองรับการทุบต่อเติมในอนาคต และกำแพงระหว่างอาคารแบบ Double Wall ช่วยกันเสียงจากข้างบ้าน

วัสดุต่างๆ ทางโครงการเลือกใช้แบรนด์ดีมีคุณภาพ เช่น หน้าต่างกรอบอลูมิเนียมยี่ห้อ Tostem สัญชาติญี่ปุ่น, วัสดุในห้องน้ำใช้ยี่ห้อ American Standard เป็นหลัก มีอ่างอาบน้ำมาให้ รวมถึง Home Automation ที่มาเสริมความปลอดภัยและความสะดวกสบาย บางส่วนเราต้องพิจารณาทำเพิ่มเองอย่างพื้นที่จอดรถและลานซักล้างจะเป็นพื้นแบบ Onground ไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้ แต่ถ้าจะทำหลังคาที่จอดรถ ทางโครงการเตรียมเสาไว้ให้แล้วสามารถวางแผ่นหลังคาได้สะดวกค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บรรยากาศภายในโครงการดูเรียบร้อยดี โครงการไม่ใหญ่มากแต่ก็มีพื้นที่สีเขียวคอยต้อนรับตั้งแต่หน้าโครงการ

สาธารณูปโภค : แม้จะเป็นโครงการที่ยูนิตไม่เยอะแต่ก็มี Facility ส่วนกลางให้ใช้งานได้ โดยมีอาคาร The Residentail Lounge จัดฟังก์ชันเป็น Lobby และ Co-Social Space ติดกันเป็นสวนส่วนกลางที่รองรับการจัดปาร์ตี้ Outdoor ต่อเชื่อมกับในคารได้เลย สำหรับค่าส่วนกลางทางโครงการยังไม่เคาะออกมานะคะ แต่ก็คิดว่าน่าจะสูงกว่าโครงการปกติ เดาว่าอาจจะถึง 100บาท/ตร.ว. เพราะจำนวนยูนิตไม่เยอะ ถ้า 100 บาท/ตร.ว.ก็ตกประมาณเดือนละ 1,700 – 2,800 บาทขึ้นอยู่กับขนาดที่ดินนะคะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท, 31 มีนาคม 2568

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 9/10 – ใกล้ BTS ปุณณวิถี 750 เมตร, เข้า-ออกถนนหลักได้หลายเส้นทาง
• ความปลอดภัย 8/10 – ระบบสแกนป้านทะเบียนรถและระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ยูนิตไม่เยอะ, ได้ Double Volume, มีพื้นที่อเนกประสงค์ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้
• วัสดุ 8/10 – เลือกใช้แบรนด์ดีมีคุณภาพ โครงสร้างได้มาตรฐานสำหรับอาคารต้านแผ่นดินไหว
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีพื้นที่สีเขียวต้อนรับอยู่หน้าโครงการ โซนอื่นดูเรียบร้อยดี
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – แม้เป็นโครงการขนาดเล็กแต่ก็มี The Residential Lounge ให้ใช้งาน
• 8.25 / 10.00

The Rev. Sukhumvit 101 (The Rev. สุขุมวิท 101) เหมาะกับใคร

The Rev. Sukhumvit 101 (The Rev. สุขุมวิท 101) เหมาะกับคนยุคใหม่ที่มีลูกไม่เยอะ 1-2 คน หรือเลี้ยงสัตว์แทนลูก อยากอยู่บ้านใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ใกล้ความอุดมสมบูรณ์แต่ก็ไม่วุ่นวายจนเกินไป

ชอบโครงการจัดสรรที่มีรั้วรอบขอบชิด ได้ความเป็นส่วนตัวเพื่อนบ้านไม่เยอะ มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้บ้างแต่ไม่มี ฟิตเนส, สระว่ายน้ำไม่เป็นไร ชอบตัวบ้านที่มี Double Volume, ห้องน้ำใหญ่ รองรับการทุบต่อเติมในอนาคตได้ ในราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท (ยังไม่รวมงบตกแต่ง)

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

• บ้านกลางเมือง Classe อ่อนนุช 77
• The Shade 101
• Pluke Sukhumvit 101/1
• The Parklane 15 (Coming Soon)

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่