รีวิวฉบับที่ 1375 … หลายคนคงเคยได้ยินแบรนด์ The Privacy คอนโดจากทาง พฤกษา ผ่านตากันบ้างใช่ไหมครับ แต่เราจะเห็นแต่โครงการที่เป็นรูปแบบ LowRise ซึ่งวันนี้เค้ามีการปรับเปลี่ยนโฉมยกระดับตัวเองขึ้นมาปรับเปลี่ยนเป็นคอนโด High Rise กันบ้างแล้วในชื่อ The Privacy จรัญ – ราชวิถี สเตชั่น กับทำเลฝั่งธนติดถนนสิรินธรใกล้แยกบางพลัด รูปแบบโครงการจะเป็นยังไง ไปชมกันเลยครับ

Fact @ 20 June 2017

  • The Privacy จรัญ – ราชวิถี
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : เขตบางพลัด ติดถนนสิรินธร
  • คอนโด High Rise สูง 24 ชั้น 1 อาคาร 281 ยูนิต
  • เป็นห้องชุดพักอาศัย 279 ยูนิต และ ร้านค้า 2 ยูนิต
  • ที่ดินประมาณ  1-2-45 ไร่
  • อาคารจอดรถ 5 ชั้น | พักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 6 ขึ้นไป
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 15 ยูนิตที่ชั้น 8 – 23
  • ที่จอดรถประมาณ 42% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • เริ่มก่อสร้าง :  Q4 ปี 2560 | คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q2 ปี 2562
  • 1Bed-1 : ขนาด 24.5 – 25 ตร.ม.
  • 1Bed-2 : ขนาด 26.55 ตร.ม.
  • 1Bed-3 : ขนาด 31.60 ตร.ม.
  • 2Bed-1 (Combine) : ขนาด 34.97 ตร.ม.
  • 2Bed-2 (Combine) : ขนาด 39.00 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง Living 2.55 เมตร / Bedroom 2.50 เมตร / ห้องน้ำ 2.30 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท | หรือเริ่มต้นประมาณ ตร.ม.ละ 105,000 บาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ n/a บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • Call Center : 1739

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.786955, 100.488733

แผนที่จากทางโครงการ ที่ตั้งอยู่ติดถนนสิรินธร จุดที่อยู่ใกล้สุดคงจะเป็นแยกบางพลัด ซึ่งที่นั่นเป็นที่ตั้งของ MRT สถานี สิรินธร ตั้งคร่อมอยู่บนแยกพอดี นอกจากนี้ในแผนที่ยังแสดงถึงสถานที่สำคัญต่างๆอย่างห้าง โรงพยาบาล และสถานศึกษาเอาไว้อีกด้วย

ทำเลโครงการอยู่ในย่านบางพลัด แต่เริ่มเดิมทีทำเลนี้เป็นย่านที่เป็นชุมชนขนาดใหญ่มาแต่ดั้งเดิม ส่วนใหญ่ที่เห็นจะเป็นโครงการแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวตามตรอกซอกซอย และตึกแถวหน้าถนนใหญ่ ซึ่งปัจจุบันพอมีระบบรางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินวิ่งบนเส้นจรัญสนิทวงศ์นี้ก็ทำให้มีรูปแบบการพักอาศัยที่หลากหลายมากขึ้น อย่างคอนโด High Rise ที่อยู่ติดถนนใหญ่ และ Low Rise ในซอยย่อย เพื่อมาเกาะรางรถไฟฟ้าเส้นใหม่นี้ด้วย

ความสำคัญของทำเลนี้คือมีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย ซึ่งจะเป็นกลุ่มคนที่ขับรถหรือเน้นการเดินทางด้วยระบบรถสาธารณะก็มีความสะดวกเช่นกัน อย่างการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นหากวิ่งเข้าเมืองก็ง่าย ขึ้นสะพานกรุงธนข้ามเข้าฝั่งพระนคร ขับตรงไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้เลย หรือขึ้นทางด่วนศรีรัชบริเวณแยกยมราช นอกจากนี้ยังมีทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร(จตุจักร-กาญจนา) ที่เปิดให้บริการสำหรับคนในย่านฝั่งธนฯ ได้ใช้กันแล้ว ซึ่งสามารถลดการจราจรที่ติดขัดในย่านนี้ได้ดีเลยทีเดียว สำหรับทางพิเศษนี้จะเริ่มต้นเส้นทางจากบริเวณทางเชื่อมกับถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก ยาวมาเรื่อยๆ ตามแนวรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ไปบรรจบกับทางพิเศษศรีรัช โดยจะมีทางขึ้น-ลงที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ ทางขึ้น-ลงบางบำหรุ ซึ่งเชื่อมเข้าถนนสิรินธรแล้วมุ่งหน้าตรงมาถนนราชวิถีได้เลย

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ รถไฟฟ้า MRT สถานีสิรินธร(คร่อมแยกบางพลัด) อยู่ห่างจากไซท์ที่ดินโครงการประมาณ 600-650 เมตร จริงๆก็เดินได้นะ แต่ว่าข้างทางออกจะเงียบหน่อยเพราะเป็นถนนใหญ่และเดินกลางวันนี่เหงื่อซึมแน่นอนน ตัวตำแหน่งขาบันไดทางขึ้นสถานีแต่ยังไม่สามารถกำหนดระยะชัดเจนได้รอทางเว็บไซต์รฟม.อัพเดตอีกที และนอกจากนี้ยังมีอีกตัวเลือกในการเดินทางอื่นที่ต้องการจะเข้าเมืองไปแถบสาทร คือการเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยา ซึ่งท่าเรือจะอยู่บริเวณช่วงใต้สะพานกรุงธน แต่ระยะนี้คงจะต้องนั่งพี่วินหรือรถเมล์ไปลงตรงท่าเรือนะ สุดท้ายตัวโครงการอยู่ติดกับถนนหลักอย่างสิรินธรทำให้เรียกรถเมล์และ Taxi ง่ายมาก

หากใครมองหาแหล่งศูนย์การค้า ไว้เดินเล่นในวันหยุดไม่ต้องเข้าเมืองไกลก็ถือว่ามีให้เลือกเดินอยู่พอสมควรในละแวกนี้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะอยู่บนถนนบรมราชชนนี ซึ่งมีทั้งศูนย์การค้า Community Mall และ Hyper Market วัดระยะแล้วจะอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 3-4 กม. (ใส่ในแผนที่ให้ดูกันแล้ว) ถือว่าเป็นระยะที่ขับรถหรือนั่งแท็กซี่ไปได้ไม่ยากครับ หรือจะขยับเข้ามาใกล้โครงการอีกหน่อยก็จะมีห้างตั้งฮั่วเส็งบนถนนสิรินธรให้ไปเดินเล่นกันได้เช่นกัน และอัพเดตเพิ่มเติมล่าสุดมีการเปิดตัวคอมมูนิตี้แห่งใหม่อย่าง “ช่างชุ่ย” เป็นแหล่งที่ฮิปเตอร์ไปหาที่กิน ดื่ม ถ่ายรูป กับเพื่อนและครอบครัวได้เก๋ๆเท่ๆ

คลิกที่รูปเพื่อซูมขนาดใหญ่

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

ซูมเข้ามาใกล้กับโครงการมากขึ้น จะเห็นว่าโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่สิรินธร ซึ่งส่วนที่ติดถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวร้านค้าออฟฟิศ โชว์รูม ปั๊มน้ำมัน ธนาคาร กระจายตัวกันไป ไม่ได้อยู่ติดกันแน่นๆเป็นพรืดๆ ถ้าจะเอาความสมบูรณ์มากหน่อยต้องข้ามแยกบางพลัดไปนิดเดียวจะมีตลาดใหญ่ อย่างตลาดกรุงธน มีร้านอาหาร Street Food เป็นแบบรถเข็นขายกันคึกคักมากเกือบตลอดฝั่งถนน รวมทั้งยังมีร้านอาหารใต้ตึกแถวที่เปิดให้เลือกซื้อเลือกกินกันค่อนข้างมากในราคาย่อมเยาสบายกระเป๋า แต่หากวันไหนอยากจะกินเป็นมื้อพิเศษ หรู และได้บรรยากาศดีขึ้นมาหน่อยแถบริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีร้านอาหาร สวนอาหาร ให้เลือกกินชิลๆ กันพอสมควร

สำหรับการเดินทางในวันนี้ จะขอเน้นไปที่คนที่ใช้ทางด่วนเป็นหลักหรือคนที่มาจากในเมือง (อยากลองทางด่วนใหม่ด้วย ศรีรัช: จตุจักร-กาญจนา) โดยเริ่มจากมาจากทางตัวเมืองวิ่งบนทางด่วน ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ใกล้กับสะพานพระราม 7 หลังจากนั้นจะมีป้ายให้ลง “จรัญสนิทวงศ์” พอลงมาแล้วจะวิ่งอยู่ใต้ทางด่วนขนานกับทางรถไฟไปเรื่อย ให้เราตามป้ายถนนสิรินธน(สะพานกรุงธน) เราก็เลี้ยวมาออกถนนสิรินธรได้เลย มุ่งหน้าไปทางแยกบางพลัด ผ่านห้างตั้งฮั่วเส็งทางขวามือ หลังจากนั้นเลยไปอีกประมาณ 550 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือ

เริ่มจากทางด่วนใหม่ด้วย ศรีรัช: จตุจักร-กาญจนา มาจากทางตัวเมืองวิ่งบนทางด่วน ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ใกล้กับสะพานพระราม 7 หลังจากนั้นจะมีป้ายให้ลง “จรัญสนิทวงศ์”

พอลงมาแล้วจะวิ่งอยู่ใต้ทางด่วน ขนานกันกับทางรถไฟ(ขวามือ)ไปเรื่อยๆ

วิ่งมาได้ซักระยะให้เราตามป้ายถนนสิรินธน(สะพานกรุงธน) ช่องซ้ายเอาไว้แบบนี้ครับ

แล้วเราก็เลี้ยวมาออกถนนสิรินธรได้เลย (โอ้…ง่ายมาก) มุ่งหน้าไปทางแยกบางพลัด

พอเราเลี้ยวเข้ามาถนนสิรินธรได้เพียงนิดเดียวประมาณ 100 กว่าเมตรเท่านั้น เราจะเจอกับ Sale Gallery Office ของโครงการ The Privacy จรัญ – ราชวิถี สเตชั่น ก่อน อยู่ทางซ้ายมือ

จากนั้นเลยมาอีกหน่อยจะผ่านศูนย์วิทยาศาสตร์ วิทยาเขตของม.สวนดุสิต มุ่งหน้าต่อไป

ผ่านจุดสังเกตุและแลนด์มาร์คขนาดใหญ่ของถนนสิรินธรคือ ห้างตั้งฮั่วเส็ง นั่นเองครับ

ห้างสรรพสินค้า ตั้งฮั่วเส็ง หรือ T-Square ชื่ออาจจะดูไม่ฮิพเหมือนห้างสมัยใหม่ ยิ่งวัยรุ่นสมัยใหม่อาจจะไม่เคยได้เข้าไปสัมผัสความคลาสสิคของห้างนี้ที่มีอายุถึง 55 ปี แต่ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเอง มีจุดเด่นคือ เป็นแหล่งจำหน่ายงานฝีมือซึ่งรวบรวมมาจากจังหวัดใกล้เคียง เป็นทั้งงานอดิเรกให้กับผู้ที่สนใจ สามารถมาเลือกซื้อไปทำเอง หรือจะซื้อแบบสำเร็จก็ได้ เกิดเป็น Hobby Center สามารถสร้างกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเหมือนๆ กันเป็นลูกค้าขาประจำของห้าง นอกจากนี้การเป็น Super Market ที่มีของสด และอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ลูกค้าระแวกใกล้เคียงเลือกเดินทางมาใช้บริการ มีรถประจำทาง รถตู้โดยสารผ่าน ก็มีส่วนช่วยอยู่พอสมควร

หลังจากผ่านห้างตั้งฮั่วเส็งวิ่งต่อมาอีกหน่อย ประมาณ 550 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือ (ก่อนถึงติดกันจะมีป้ายปั๊มแก๊ส LPG เป็นจุดสังเกต)

ปัจจุบันที่ดินโครงการมีการล้อมรั้วไซท์เอาไว้แล้ว ติดป้ายโครงการเอาไว้เห็นเด่นชัด ซึ่งที่เราเห็นพวกรถยนต์มาจอดรถริมทางเพราะว่า แถวนี้ชิดริมฟุตบาทสามารถจอดรถได้เป็นเวลาครับ (เวลาที่จอดไม่ได้คือ 6-9 โมง และ บ่าย 3 – 3 ทุ่ม)

มองย้อนกลับไปทางฝั่งห้างตั้งฮั่วเส็ง ให้มองริมถนนฝั่งตรงข้ามก็จะมีร้านอาหาร ร้านคาร์แคร์ ปั๊มน้ำมัน บริษัทต่างๆตั้งอยู่ริมถนน

ส่วนของฝั่งนี้ถ้าตรงไปจะเป็นแยกบางพลัด(อีกประมาณ 600 เมตร) สองฝั่งข้างทางก็ยังเป็นพวกตึกแถวร้านค้า ปั้มแก๊ส ร้านอาหาร ร้านจิปาถนทั่วไป ซึ่งจะไม่หนาแน่นมากเหมือนกับจรัญสนิทวงค์ (รอบๆโครงการไม่มีอาคารสูงในระยะใกล้ ใครอยู่ชั้นกลางๆก็ได้วิวดีๆ แล้ว)

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • MRT สถานี สิริธร (แยกบางพลัด) ~ 600 – 650 ม.
  • ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ~ 1.8 กม. (รวมกลับรถ)
  • โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ ~ 1.8 กม. (รวมกลับรถ)
  • ตลาดกรุงธน ~ 2 กม. (รวมกลับรถ)
  • พาต้าปิ่นเกล้า ~ 2.9 กม.
  • โรงพยาบาลวชิระ ~ 2.9 กม.
  • โรงพยาบาลตา หู คอ จมูก ~ 3.1 กม.
  • โรงพยาบาลยันฮี ~ 3.3 กม.
  • เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ~ 3.5 กม.
  • โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ~ 3.8 กม.
  • โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ~ 3.9 กม.
  • เมเจอร์ปิ่นเกล้า ~ 4.8 กม.
  • ช่างชุ่ย (ไป 6.5 กม.), (กลับ 2.1 กม.)

 


เจาะลึกตัวโครงการ

ดูจาก Model โครงการกันนะ8iy[ ที่ดินโครงการมีขนาด 1-2-45 ไร่ ลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม หันด้านติดกับถนนสิรินธร มีทางเข้า-ออกอยู่ทางเดียวด้านหน้าเยี่ยงไปทางซ้ายมือ เข้ามาภายในโครงการจะมีสวนอยู่ด้านข้างหลังทางขวา ส่วน Drop-Off อยู่ด้านหน้าเข้าไปยัง Lobby โครงการด้านใน และถัดมาจากส่วน Drop-Off นั้นจะเป็นร้านค้าภายในโครงการมีทั้งหมด 2 ยูนิต

อันนี้เป็นมุมด้านหลังอาคาร จะเห็นว่าจริงๆแล้วอาคารเป็นรูปทรง L-Shape แบบนี้ ซึ่งส่วนของที่จอดรถจะเป็นแบบกึ่งเปิดโล่งให้แสงและลมผ่านไปได้ รอบๆกำแพงรั้วโครงการมีการลงต้นไม้ใหญ่บังสายตาจากภายนอกเอาไว้อีกชั้น ห้องจากทางด้านนี้จะเป็นจะเป็นวิวทิศเหนือและทิศตะวันตกครับ

เริ่มจากด้านหน้าโครงการผมทำลูกศรประกอบทางเดินรถเอาไว้ให้แล้ว เป็นลักษณะวันเวย์รอบอาคารไปทางขวาแล้วกลับออกมา ด้านหน้าติดกับรั้วกำแพงมีพื้นที่สวนส่วนกลางอย่าง Leisure Garden ตรงข้ามกันจะเป็นพื้นที่ Drop Off เพื่อเข้าไปสู่ Lobby และติดกันจะเป็นร้านค้า 2 Unit ซึ่งยังไม่คอนเฟิร์มว่าดิวร้านอะไรมา ส่วนของพื้นที่จอดรถชั้น 2-5 จะมี Facade เป็นไม้ระแนงสีเดียวกับอาคารปิดไว้ แต่ยังให้แสงส่องผ่านเข้าไปได้

มาดูที่ด้านหลังกันครับ จะเห็นว่ามีสวนหย่อมอีกจุดนึงที่มุมซ้าย โครงการตั้งชื่อเอาไว้ว่า Leisure Fitness ซึ่งจะวางเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งเอาไว้ให้ด้วย ที่ด้านบนชั้น 6 จะเป็นส่วนของ Facility ต่างๆที่มีทั้ง Outdoor & Indoor

Highlight ของที่นี่คงหนีไม่พ้นอย่าง Sky Facility ต่างๆ ที่ถูกจัดเอามาไว้ที่ชั้น 24 อย่าง Scenic Sky Lounge + Hybrid Lounge ด้านบนชั้น Rooftop จะเป็นส่วนของ Panoramic Sky Pool ที่ยาวถึง 30 เมตรและรับวิวได้ 270 องศา ด้านหลังเป็น Sky Garden และสุดท้ายเหนือส่วนของสระว่ายน้ำจะเป็นพื้นที่ออกกำลังกาย Panoramic Sky GYM

ซูมให้ดูส่วนกลาง Scenic Sky Lounge + Hybrid Lounge ที่ชั้น 24

พื้นที่ Sky Garden และลานอเนกประสงค์ที่อยู่ด้านหลังสระว่ายน้ำครับ

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกโครงการให้เห็นถึงหน้าตาและโทนสีของตัวอาคารที่ใช้โทนสีหลักเป็นสีน้ำตาลเข้มตัดกับสีขาว โดยใช้เส้นลวดลายแนวตั้งต่างระดับกันทำให้ดูไม่เรียบเกินไป

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนของพื้นที่ Leisure Lobby ที่อยู่ที่ชั้น 1 ถือเป็นหน้าตาที่แขกมาหาเป็นโถงรองรับขนาดใหญ่

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนของพื้นที่ Leisure Lounge ที่อยู่ที่ชั้น 6 โดยถือเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สูงโปร่งและรับวิวสวนด้านนอก ที่สุดปลายทางเดินติดกันเป็นส่วนของห้อง Theatre Room

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกโครงการให้เห็นถึง Main Facility ที่จัดมาอยู่ชั้นบนๆของโครงการอย่างชั้น 24 และ Rooftop ได้แก่ Scenic Sky Lounge, Hybrid Lounge, Sky Garden, Panoramic Sky Pool, Panoramic Sky GYM

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนของพื้นที่ Scenic Sky Lounge ที่อยู่ที่ชั้น 24 ที่มุมอาคาร ได้รับวิว 180 องศา วิวเมืองเห็นแม่น้ำและสะพานพระราม 8

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนของพื้นที่ Panoramic Sky Pool ที่อยู่ที่ชั้น Rooftop สระว่ายน้ำแบบ Glass Pool ทอดยาวตามแนวอาคารขนาดประมาณ 4.5-5 x 30 เมตร และที่เห็นบันไดด้านข้างมีทางขึ้นต่อไปอีกที่ห้องออกกำลังกายลอยฟ้า

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนของพื้นที่ Panoramic Sky GYM ที่อยู่เหนือสระว่ายน้ำขึ้นไปอีก ตรงนี้ถือว่าสูงสุดของอาคารแล้ว ได้รับวิว 270 องศาสมชื่อ Panoramic พร้อมทั้งเครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัย

มาดู Masterplan โครงการกัน ที่ดินโครงการใกล้เคียงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีเนื้อที่ดินทั้งหมด 1-2-45 ไร่ ตัวโครงการเป็นห้องชุดพักอาศัย 279 ยูนิต และ ร้านค้า 2 ยูนิต เริ่มจากทางเข้า-ออกโครงการจะอยู่ติดถนนสิรินธรฝั่งขาเข้าเมือง มุ่งหน้าไปแยกบางพลัด-สะพานกรุงธน ตรงเข้ามาในโครงการการเดินรถเป็นแบบวันเวย์ตามลูกศร ที่ชั้นนี้มีที่จอดรถได้เลยทั้งในอาคารและนอกอาคาร ชั้นบน 2-5 เป็นที่จอดรถในอาคารทั้งหมด โดยสามารถจอดได้ 42%(รวมจอดซ้อนคัน)

เริ่มจากด้านหน้าโครงการผมทำลูกศรประกอบทางเดินรถเอาไว้ให้แล้ว เป็นลักษณะวันเวย์รอบอาคารไปทางขวาแล้วกลับออกมา อย่างพื้นที่สีเขียวกลางแจ้งจะมีอยู่ 2 จุดด้านนอกได้แก่ Leisure fitness และ Leisure Garden  ตรงข้ามกันจะเป็นพื้นที่ Drop Off เพื่อเข้าไปสู่ Lobby และติดกันจะเป็นร้านค้า 2 Unit ซึ่งยังไม่คอนเฟิร์มว่าดิวร้านอะไรมา โดยจะเห็นส่วนของลิฟท์โดยสารที่ได้มา 2 ตัวและ Service อีก 1 ตัว อัตราส่วนการใช้งานลิฟท์อยู่ที่ 140:1 ถือว่าสูงอยู่นะแต่ยังพอรับได้ไม่มากแบบลำบาก

ขึ้นมาที่ชั้น 6 จะเริ่มเป็นส่วนห้องพักอาศัยแรก ออกจากโถงลิฟท์ไปที่กลางแจ้งจะเจอกับ Facility อย่าง Leisure Garden, Working Bar เข้ามาด้านในมี Leisure Lounge และ Home theatre อยู่ด้วย / ส่วนของพื้นที่พักอาศัย Corridor(โถงทางเดิน) จะเป็นรูปทรงเดียวกับตัวอาคารถูกเอาแบบเป็นทรงตัว L โดยช่องแสงที่จะส่องมายังโถงทางเดินมี 2 จุด ที่หน้าลิฟท์และปลายอาคารฝั่งทิศเหนือ ที่เหลือต้องใช้ไฟช่วยเอา ชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัยอยู่ที่ 13 ยูนิต/ชั้น โดยห้องหลักๆที่มีเยอะจะเป็น 1Bedroom แต่มีห้องพิเศษ 2 Bedroom(Combine) อยู่ 2 ห้องเท่านั้นที่อยู่ที่มุมอาคาร (สีฟ้าและสีกรม)

ที่ชั้น 8 – 23 ถือเป็น Typical Plan ที่จัดห้องพักอาศัยอย่างคุ้มค่าที่สุด ทำให้จำนวนยูนิตขยับขึ้นมาอยู่ที่ 15 ยูนิต/ชั้น ถ้าใครเลือกห้องฝั่งทิศตะวันออกชั้นสูงๆมองไกลๆเป็นจะเห็นสะพานพรุงธน(ซังฮี้)

ที่ชั้น 24 จะถูกเอาห้องพักอาศัยที่มุมขวาล่างออกไป 2 ห้อง เพื่อเป็น Facility สวยๆเก๋ๆอย่าง Scenic Sky Lounge และ Hybrid Loung ทำให้เหลือ 13 ห้อง

Rooftop ที่นี่มีลิฟท์โผล่ออกมาได้เลยนะครับ บางที่ต้องเดินบันไดต่อขึ้นมาเอง โดยออกจากลิฟท์มาจะเจอกับ Roof Garden ที่มีลานอเนกประงสงค์อยู่ และเดินมาทางขวาจะเป็นส่วนของ Panoramic Sky Pool ที่เป็นสระระบบเกลือขนาดประมาณ 4.5-5 x 30 เมตร รับวิวสวยๆได้ 3 ด้าน และมีห้องสตีมให้อีกด้วย

จากชั้น Rooftop ยะงมีทางเดินขึ้นมาอีก เป็นห้องออกกำลังกาย Panoramic Sky GYM รับวิว 270 องศาได้ทั้งทิศเหนือ, ตะวันออก และทิศใต้

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น G :  Leisure Garden, Leisure Lobby, ร้านค้า 2 Unit, Leisure  Fitness
  • ชั้น 2 – 5 : ที่จอดรถ
  • ชั้น 6 : ห้องชุดพักอาศัย และส่วนกลาง Leisure Lounge, Home Theatre, Garden, Working Bar
  • ชั้น 7 – 23 : ห้องชุดพักอาศัย
  • ชั้น 24 : ห้องชุดพักอาศัย และส่วนกลาง Scenic Sky Lounge + Hybrid Lounge
  • Roof Top : ส่วนกลาง Panoramic Sky Pool, Sky Garden และ Panoramic Sky GYM
  • Panoramic Sky Pool ระบบเกลือ ขนาด 4.5-5 x 30 เมตร ลึก 1.20 รับวิว 270 องศา
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว | Service Lift 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 140:1
  • ที่จอดรถประมาณ 42% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบ CCTV / Access Card / รปภ. 24 ชม.

 


Product Walkthrough

ตัวโครงการมีรูปแบบการขายคือ Fully Fitted โดยจะได้ส่วน Pantry ครัว, Hob&Hood (แอร์ 1-2 ตัวตามขนาดห้อง, อุปกรณ์ในห้องน้ำทั้งหมด, Digital Door Lock, ติดวอลเปเปอร์ให้) นอกนั้นจะเป็นพื้นที่เปล่า โดยลูกบ้านสามารถหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้เอง ตามความชอบและสไตล์ของแต่ละบุคคล ซึ่งก็ต้องเผื่องบประมาณในส่วนเฟอร์นิเจอร์และค่าตกแต่งห้องต่างๆ ไว้ด้วยส่วนนึงนะ

เริ่มจากห้อง 1 bedroom ขนาด 26.5 ตร.ม. ภายในประกอบด้วย 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องนอน 1 ห้องครัว และ 1 ห้องน้ำ จากประตูทางเข้าหลักจะเปิดมาเจอพื้นที่ครัวที่เป็นแบบ Pantry ฝั่งตรงข้ามพื้นที่ครัว เป็นตำแหน่งวางตู้เย็น ติดกันเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งใช้ประโยชน์ได้หลากหลายทั้งเป็นทั้งพื้นที่รับแขก นั่งเล่น ทานอาหารและพื้นที่ทำงาน ด้านในสุดของส่วนห้องนั่งเล่นจะถูกกั้นกับระเบียงด้วยประตูกระจกบานเลื่อนทำให้ห้องนั่งเล่นได้รับแสงธรรมชาติจากประตูบานเลื่อนด้วย ส่วนระเบียงขนาดไม่กว้างมาก พอสำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าเล็กๆ ได้ครับ

ฝั่งขวามือของห้องจะเป็นห้องนอน ซึ่งประตูทางเข้าห้องนอนจะอยู่ระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่นเป็นประตูบานเปิดปิด ภายในสามารถวางเตียงใหญ่ได้ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอน ซึ่งในกรณีที่มีเพื่อนๆหรือแขกมาหาก็ต้องเดินผ่านห้องนอนเรา ภายในห้องน้ำจัดพื้นที่แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน แต่ด้วยตำแหน่งที่อยู่ด้านในของอาคารจึงไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้ต้องพึ่งพาระบบของอาคารล้วนๆ ครับ

ประตูทางเข้าห้องด้านหน้าของจริงจะเป็นไม้ HDF กรอบบานไม้สีขาว

ของที่ได้มาอีกชิ้นมาตรฐานก็คือ Digital Door Lock ของ Samsung  แบบสแกนการ์ดและรหัสได้

จากด้านหน้าห้องเข้ามาจะเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่นก่อนเลย ซึ่งระยดูทีวีอยู่ประมาณ 2 เมตร ห้องขนาดนี้ไม่ได้มีพื้นที่เก็บรองเท้าเอาไว้ให้ก็งทำเป็นตู้เก็บให้เป็นสัดส่วนด้านใต้ชั้นวางทีวีทางซ้ายมือก็ได้ (ฝ้าเพดานสูง Living 2.55 เมตร / Bedroom 2.50 เมตร / ห้องน้ำ 2.30 เมตร)

ทางซ้ายมือเป็นโซนวางชั้นวางทีวี ถ้าอยากได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มก็ Built ตู้ติดผนังไว้เลยครับ จะได้คุ้มค่า

ส่วนทางขวามือเป็นส่วนของพื้นที่วางโซฟา ซึ่งถ้าเราไม่ได้เลือกแบบห้องตัวอย่าง ยังขยายขนาดโซฟาได้อีกนะ ใครชอบนั่งๆนอนๆสบายก็เลือกไซส์ใหญ่ 3 ที่นั่งได้ แต่อาจจะไม่มีที่วางแขนเอา (ปล.การติดกระจกเงาตกแต่งที่ผนังแบบห้องตัวอย่างจะช่วยเพิ่มมิติของห้องให้ดูกว้างขึ้นได้)

ถัดมาจะเชื่อมต่อถึงกันด้วยโซนรับประทานอาหารและโซนครัวเปิด ซึ่งทุกฟังก์ชั่นจะได้ช่องแสงส่องผ่านมาจากระเบียงที่จุดนี้

โต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งที่อยู่ตรงข้างครัว เวลาดึงเก้าอี้ออกมาใช้งานได้ปกติ

ด้านบนเป็นไอเดียการตกแต่งด้วยโคมไฟเก๋ ช่วยเพิ่มความน่าใช้งานบริเวณนี้ระหว่างรับประทานอาหาร

พื้นที่วางตู้เย็นอยู่ติดกับมุมอ่างล้างจานต้องระวังน้ำกระเด็นนิดหน่อย ส่วนของตู้ชั้นวางด้านบนตำแหน่งตู้เย็นตรงนี้เราจะไม่ได้นะครับ ห้องนี้เค้าแต่งให้ดูเพิ่ม

มาดูชุดครัว ตู้ด้านบนกันบ้าง หน้าบานเราจะได้เป็น ไฮกลอสสีขาวมันวาวแบบนี้ มีการแบ่งชั้นเป็นสัดส่วนด้านใน และการเปิดปิดเป็น Softing Close ทั้งหมด

ที่ผนังด้านหลังมีการติดกระจกเอาไว้ให้เสร็จเลย ไม่ต้องหาติดเพิ่มเองแล้ว เหมาะสำหรับคนชอบทำอาหารเองที่ห้อง เพราะว่าทำความสะอาดง่ายและช่วยเพิ่มความสวยงานให้แก่พื้นที่ครัว ส่วนของท๊อปครัวได้เป็นหินสังเคราะห์สีขาว | ชุด Hob&Hood เป็นแบบแม่เหล็กไฟฟ้า 2หัวของ Franke

ชุดอ่างและก๊อกของ Franke เช่นกัน ขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่ได้ความลึกอยู่ ผมลองเอาจานในห้องตัวอย่างมาวางให้ดู

ที่ด้านล่างมีการแบ่งช่องการใช้งานเป็นสัดส่วน มีพื้นที่วางช้อนส้อม ด้านล่างเป็นชั้นไมโครเวฟแบบนี้ ดีกว่าอยู่ด้านบนนะ เอื้อมไปอุ่นแกงทีลำบาก

ส่วนของทางออกไประเบียงจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ซึ่งเวลาเดินเข้าออกจะมีธรณีก่อขึ้นมาประมาณ 10 ซม.กันส่วนใช้งานด้านนอกและฝนสาดเข้ามา

พื้นที่ระเบียงขนาดให้ออกพอไปใช้งาน และยังตากผ้าได้นะ พอวางเครื่องซักผ้าแล้วยังเหลือประมาณ  1.0 x 1.40 เมตร

ทางขวามือด้านล่างจะเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ซึ่งมีการเดินท่อน้ำดี, ปลั๊กไฟมีฝาครอบกันน้ำเอาไว้เสร็จสรรพ ส่วนด้านบนเป็นตำแหน่งที่แขวนคอมเพรสเซอรแอร์ได้ 2 ตัว (แต่ห้องนี้ได้แค่ตัวเดียว) ตำแหน่งจะอยู่หลังระแนงเหล็กพอดีมองจากภายนอกไม่เห็น

ที่ผนังอีกฝั่งมีติดไฟส่องสว่างที่ระเบียงเอาไว้และรูพัดลมดูดอากาศออกมาจากครัว

ทีนี้ไปดูส่วนของห้องนอนกัน ซึ่งประตูทางเข้าจะอยู่ระหว่างพื้นที่ชั้นวางทีวีกับโซนรับประทาอาหาร

พอเข้าห้องมาแล้ว ดูระยะต่างๆในการเดิน (ทางซ้ายมือเป็นส่วนของห้องน้ำในตัว)

ด้านฝั่งซ้ายของหัวเตียง จะถูกจัดเป็นพื้นที่ใช้สอยอย่างต่อเนื่องอย่าง โต๊ะวางข้างหัวเตียง, มุมโต๊ะเครื่องแป้ง และ ตู้เสื้อผ้า

ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้ โดยจะมีทางเดินเหลือที่ปลายเตียงราวๆ 40 ซม. แคบหน่อยพอเดินได้ ถ้าใครชอบนอนดูทีวีซีรีย์ก็หาทีวีมาติดแขวนผนังเอาเลย

ตำแหน่งของเตียงถูกเอามาชิดกับหน้าต่างแล้ว ทำให้เหลือพื้นที่ราว 20 ซม. เอาไว้เผื่อสำหรับม่านพอดี

หน้าต่างช่องแสงที่ได้ไซส์ขนาดกลางกรอบอลูมิเนียมสีดำ ด้านล่างจะเป็นแบบฟิค ส่วนด้านบนเป็นบานเลื่อนเปิดออกได้ ใครอยู่ชั้นสูงๆก็จะได้ City View แบบภาพประกอบในห้องตัวอย่าง

มองย้อนกลังไปที่ทางเราเข้ามา จะเห็นส่วนของประตูทางเข้าห้องน้ำที่อยู่ติดกัน ตำแหน่งของแอร์ที่ได้จะอยู่เหนือประตูตรงนี้ด้วย เป็นของ Daikin ขนาด 12,000 BTU

ตัวทางเข้าจะมีธรณีก่อเอาไว้ แบบนี้เวลาทำความสะอาดจะสะดวกมาก ไม่ต้องกลัวกระเซ็นมาโดนลามิเนตในห้องนอน พื้นในห้องน้ำจะได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้านไซส์ 60 ซม.

ชุดอ่างล้างมืออยู่ชิดกับผนัง มีพื้นที่รอบๆอ่างมาให้รวมถึงตู้ด้านใต้อ่างด้วย ขวามือเป็นสุขภัณฑ์ซึ่งจะได้เป็นของ Kolher ที่นี้เราจะเห็นว่าที่ผนังมีการทำ Low Wall อีกชั้นนึง เป็นแนวยาวรูปทรงตัว L ถือเป็นพื้นที่ที่ดีเอาไว้วางข้าวของเครื่องใช้จำเป็นในห้องน้ำได้เยอะพอสมควรฮะ

ด้านบนผนังมีการติดกระจกเงาขนาดใหญ่เอาไว้ให้ รวมถึงซ่อนไฟด้านหลังกระจก ยิงขึ้นทั้งล่างและบน

หน้าตาชุดก๊อก, สายฉีด และอุปกรณ์อื่นๆ

พื้นที่อาบน้ำจะอยู่ทางขวามือ เราจะได้ฉากกั้น Shower Box เพื่อแยกโซนเปียกเอาไว้เป็นสัดส่วน โดยพื้นที่อาบน้ำอยู่ประมาณ 0.90 x 0.90 เมตร

หน้าตามือจับแบบนี้จะสวดแก่การใช้งานดีนะครับ และสวยดีด้วย

ชุดฝักบัวยังเป็นของ Kolher เช่นกัน มีเตรียมติดตั้งจุดเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้แล้ว

หัวฝักบัวสามารถปรับรูปแบบของน้ำที่ฉีดออกมาได้

ด้านบนตำแหน่งพื้นที่ยืนอาบน้ำมีติดตั้งพัดลมดูดอากาศเพื่อระบายความชื้นออก ไฟในห้องน้ำจะได้เป็นโคมไฟดาวน์ไลท์ส่องสว่างมา 2 จุด

ต่อไปมาดูห้อง 2 Bedroom กันบ้าง เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 34.97 ตร.ม. (หรือจริงๆเรียกให้ถูกว่า 1Bed Plus นะ) การจัดตำแหน่งที่ทำออกมาได้ลงตัวดีและมีฟังก์ชันครบ โดยแปลนจะคล้ายๆกับห้องแรกแต่ห้องนี้จะมีห้อง Multi-Purpose ทางซ้ายมาเพิ่มอีกห้องหนึ่ง พร้อมกับพื้นที่ครัวที่ใหญ่ขึ้นและเป็นสัดส่วนมากขึ้น ผังของห้องนี้จะเน้นให้ห้องนั่งเล่น ห้องห้องนอน และห้อง Multi – Purpose ที่สามารถทำเป็นห้องนอนเล็กได้นั้น อยู่ในตำแหน่งที่ได้หน้าต่างทั้งหมด ทำให้พื้นที่อยู่อาศัยหลักของห้องดูโปร่ง ได้แสงธรรมชาติเข้ามาเยอะ ส่วนห้องน้ำมีห้องเดียวจึงเข้าได้จากพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้เวลามีแขกมาบ้านก็ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนครับ สามารถเข้าจากห้องรับแขกได้เลย

เข้ามาในห้องเป็นส่วนของ Dining ทางซ้ายมือที่เชื่อมต่อกับ Living ส่วนทางขวามือเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ

มองย้อนกลับไปทางประตูทางเข้าห้อง จริงๆถ้าเขยิบโต๊ะทานอาหารเข้ามาทางที่ผมยืนถ่ายรูปหน่อย เราสามารถทำตู้ Built-In เป็นชั้นวางเก็บรองเท้าอยู่ติดกับผนังได้ด้วยนะ ผมลองดูแล้วมีพื้นที่เพียงพอทำได้ครับ

ส่วนของรูปแบบของห้องน้ำจะเหมือนกับห้องก่อนหน้าที่พึ่งดูกันไปเลย จะต่างกันที่สลับ Flip ด้านกันเท่านั้น ผมไม่อธิบายซ้ำแล้วนะฮะ

มุมโต๊ะรับประทานอาหารที่ห้องนี้เลือกไซส์แบบ 4 ที่นั่งมาแทน เอาไว้รองรับสำหรับเผื่อแขกไปใครมาเยี่ยมบ่อยๆ

พื้นที่นั่งเล่นรับแขกจริงๆห้องนี้ระยะดูทีวีกว้างกว่าห้องแรกนิดหน่อย อยู่ที่ 2.2 เมตรนะฮะ แต่ว่าเจ้าโต๊ะกลางมันดันใหญ่ไปนิด ทำให้ดูเหมือนเดินไปมาลำบาก ถ้าเอาออกผมว่าจะดูเดินสะดวกกว่า

โดยประตูกระจกบานเลื่อนทางออกไประเบียงจะอยู่ตำแหน่งเดียวกับฝั่งชั้นวางทีวีแบบนี้

ประตูที่ผมว่าได้มาเล็กไปหน่อย คือไหนๆก็ไม่ได้ส่วนกว้างแล้ว น่าจะให้สเกลที่สูงอีกนิดก็ยังดี ตรงส่วนนี้สูงประมาณ 2.2 เมตร

พื้นที่ระเบียงห้องนี้โดนหั่นสเกลลงไปอีก เรียกว่าไม่เหมาะกับคนจะต่างผ้าเองในห้องแล้วละครับ เหลือแค่ไซส์ 0.60 x 0.80 เมตรเท่านั้น ผู้ชายอย่างผมออกไปยืนก็พอดีแล้ว >_<

ทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นตำแหน่งที่แขวนคอมแอร์ โดยห้องนี้จะเปลี่ยนไปนิดหน่อยเป็นหันลมร้อนออกไปด้านนอกอาคารเลย ดีกว่าแบบห้องแรก

มองย้อนกลับไปทางในห้อง เดี๋ยวเราจะไปดูโซนครัวที่อยู่ติดกันกับทานอาหารทางขวามือ

โซนครัว มีการกั้นฉากขึ้นมา(ที่อยู่ติดกับโต๊ะทานอาหาร) รวมไปถึงพื้นที่ถูกเปลี่ยนไป ทำให้ดูปรับอารมณ์เข้าสู่งานใช้งานของครัวตรงนี้ และทำความสะอาดง่ายด้วย

ตำแหน่งต่างๆโดยตู้เย็นจะอยู่ทางซ้ายมือสุด ที่เหลือเป็น Pantry ตัว L แบบเต็มพื้นที่

วัสดุชุดตู้หน้าบานจะเหมือนกัน ได้ชั้นวางเก็บของเพิ่มขึ้นมา

พื้นที่ทำครัวกว้างขางมากขึ้นสำหรับห้อง Type นี้

สิ่งที่เพิ่มมาอีกอย่างตรงครัวก็คือ หน้าต่างช่องแสงบานกระทุ้งที่มุมห้องตรงนี้ เพราะห้องแบบนี้จะอยู่ตามมุมอาคารเลยได้เพิ่มมา สามารถช่วยเป็นทั้งช่องแสง ระบายอากาศ และความชื้นได้

ถัดมาติดกับครัวเลย เราจะเห็นเป็นเหมือนตู้อะไรซักอย่างที่โครงการทำมาให้

ซึ่งพอเปิดมามันคือพื้นที่สำหรับจัดเก็บเครื่องซักผ้านั่นเอง ทำเอาไว้เป็นสัดส่วน และด้านบนมีการแบ่งเป็นชั้นวางเอาไว้ 3 ชั้น เผื่อเอาไว้เก็บของใช้ในบ้านได้)

ติดกันทางขวามือจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนทางเข้าห้องอเนกประสงค์ ผมลองเปิดออกให้ดูรางเลื่อนจะอยู่ที่พื้นนะ

โครงการนั้นจัดห้องนี้เอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างว่าสามารถทำเป็นห้องนอนเล็กเพิ่มอีกห้องได้ สำหรับใครที่จะอยู่ 2 คนแบบแยกการใช้งานห้องใครห้องมัน ซึ่งห้องนี้จะวางได้แค่เตียงไซส์ 3 ฟุตครึ่งเท่านั้น และไม่เหลือทางเดินปลายเตียง ถ้าจะเปิดปิดม่าน ต้องข้ามเตียงเอา

รูปแบบหน้าต่างช่องแสงเหมือนกัน

ด้วยพื้นที่จำกัด แต่ก็ยังสามารถทำตู้เสื้อผ้าได้นะ แต่ผมไม่แนะนำเอาโต๊ะข้างหัวเตียงมาวางแล้วล่ะ ดูสิ จะแต่งตัวยังไงล่ะคร๊าบบบบ

ห้องนี้เราจะได้แอร์ด้วยนะ ตำแหน่งอยู่ที่เหนือประตูทางเข้าพอดี ส่วนของตู้เสื้อผ้าแนะนำทำเพิ่มให้ชนฝ้าเพดานไปเลยถ้าใครจะทำห้องนอน จะได้ใช้พื้นที่แนวตั้งให้คุ้มที่สุด

ไปดูห้องสุดท้ายห้องนอนหลักที่อยู่ฝั่งตรงข้าม(ตำแหน่งห้องเก็บเครื่องซักผ้า) กันบ้าง

ระยะต่างๆในห้องนอนไม่ได้แคบแต่ก็ไม่กว้างมาก พอเดินให้ใช้งานได้ปกติ

ตำแหน่งชิดหัวเตียงทางขวาสามารถจัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าได้

ให้ดูแบบเต็มๆครับ ห้องนี้จะได้ความกว้างของตู้เสื้อผ้าที่โอเคกว่าอย่างเห็นได้ชัด

พื้นที่วางเตียงค่อนข้างจำกัด ขนาดเอาไปวางไว้ชิดผนังที่อยู่ติดกับหน้าต่างแล้ว

ไอเดียจากห้องตัวอย่างโครงการที่มีการดรอปฝ้าบริเวณรางผ้าม่านและหัวเตียง เพิ่มการเล่นไฟส่องสว่างตามแนวยาวเข้าไป จะทำให้ห้องดูสว่างและไม่ทำให้อึดอัด(ช่วยเพิ่มได้นิดหน่อย เทคนิคทางสายตา)

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

Image 1/5
Type 1B-1 ขนาด 24.50 Sq.m.

Type 1B-1 ขนาด 24.50 Sq.m.

แปลนห้องแบบอื่นๆที่ไม่ได้ทำห้องตัวอย่างมีอีก 3 แบบนะครับ คือ 1B-1 -ขนาด 24.50 ตร.ม. / 1B-3 -ขนาด 31.60 ตร.ม. / 2B-2 -ขนาด 39 ตร.ม. จะเห็นว่าโครงการนี้ไม่ได้เน้นขนาดห้องที่ใหญ่มากเท่าไหร่ จะเหมาะสมสำหรับคนที่เริ่มต้นครอบครัวใหม่ หรือครอบครัวเล็ก 1-2 คนครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20 June 2017

  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท | หรือเริ่มต้นประมาณ ตร.ม.ละ 105,000 บาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ n/a บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
  • **ราคาต้องรออัพเดตอีกทีเพราะปัจจุบันยังไม่เปิดขาย Presale

  • Fully Fitted (ชุดครัว, อุปกรณ์ในห้องน้ำ, แอร์ 1-2 ตัวตามขนาดห้อง, ติดวอลเปเปอร์)
  • ฝ้าเพดานสูง Living 2.55 เมตร / Bedroom 2.50 เมตร / ห้องน้ำ 2.30 เมตร
  • Kitchen & Sink + Hob & Hood
  • จอง n/a บาท | ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 58 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ The Privacy จรัญ – ราชวิถี สเตชั่น เป็นคอนโด High Rise จากพฤกษา ที่พึ่งเปิดตัวมาเกาะรางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บนทำเลย่านบางพลัด ซึ่งละแวกนี้ก็พอจะเห็นคอนโด High Rise กันมากขึ้นบนถนนจรัญสนิทวงศ์เพื่อเกาะรถไฟฟ้าให้ได้เลือกกัน สำหรับย่านบางพลัดนี้ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยดั้งเดิม จะยังคงเห็นบ้านเดี่ยว ตึกแถวลักษณะหน้าตาสมัยก่อนกันอยู่ตลอด 2 ฝั่งข้างทาง ความอุดมสมบูรณ์จะไปกระจุกแถวแยกบางพลัดเรื่องอาหารการกินอยู่ใกล้ตลาดใหญ่อย่างตลาดกรุงธน มีร้านอาหาร Street Food เป็นแบบรถเข็นขายกันคึกคักมากเกือบตลอดฝั่งถนน ร้านอาหารหรูๆริมน้ำ หากใครมองหาแหล่งศูนย์การค้า ใกล้ๆจะมีห้างตั้งฮั่วเส็งและ Tesco Lotus จรัญ ถัดไปหน่อยจะอยู่บนถนนบรมราชชนนี ซึ่งมีทั้งศูนย์การค้า Community Mall และ Hyper Market วัดระยะแล้วจะอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 3-4 กม. ถือว่าเป็นระยะที่ขับรถหรือนั่งแท็กซี่ไปได้ไม่ยากครับ หรือจะขยับเข้ามาใกล้โครงการอีกหน่อยก็จะมีห้างตั้งฮั่วเส็งบนถนนสิรินธรให้ไปเดินเล่นกันได้เช่นกัน และอัพเดตเพิ่มเติมล่าสุดมีการเปิดตัวคอมมูนิตี้แห่งใหม่อย่าง “ช่างชุ่ย”

การเดินทางด้วยรถยนต์ ความสำคัญของทำเลนี้คือมีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย ซึ่งจะเป็นกลุ่มคนที่ขับรถหรือเน้นการเดินทางด้วยระบบรถสาธารณะก็มีความสะดวกเช่นกัน อย่างการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นหากวิ่งเข้าเมืองก็ง่าย ขึ้นสะพานกรุงธนข้ามเข้าฝั่งพระนคร ขับตรงไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้เลย หรือขึ้นทางด่วนศรีรัชบริเวณแยกยมราช นอกจากนี้ยังมีทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร(จตุจักร-กาญจนา) ที่เปิดให้บริการสำหรับคนในย่านฝั่งธนฯ ได้ใช้กันแล้ว ซึ่งสามารถลดการจราจรที่ติดขัดในย่านนี้ได้ดีเลยทีเดียว สำหรับทางพิเศษนี้จะเริ่มต้นเส้นทางจากบริเวณทางเชื่อมกับถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก ยาวมาเรื่อยๆ ตามแนวรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ไปบรรจบกับทางพิเศษศรีรัช โดยจะมีทางขึ้น-ลงที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ ทางขึ้น-ลงบางบำหรุ ซึ่งเชื่อมเข้าถนนสิรินธรแล้วมุ่งหน้าตรงมาถนนราชวิถีได้เลย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ รถไฟฟ้า MRT สถานีสิรินธร(คร่อมแยกบางพลัด) อยู่ห่างจากไซท์ที่ดินโครงการประมาณ 600-650 เมตร จริงๆก็เดินได้นะ แต่ว่าข้างทางออกจะเงียบหน่อยเพราะเป็นถนนใหญ่และเดินกลางวันนี่เหงื่อซึมแน่นอนน ตัวตำแหน่งขาบันไดทางขึ้นสถานีแต่ยังไม่สามารถกำหนดระยะชัดเจนได้รอทางเว็บไซต์รฟม.อัพเดตอีกที และนอกจากนี้ยังมีอีกตัวเลือกในการเดินทางอื่นที่ต้องการจะเข้าเมืองไปแถบสาทร คือการเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยา ซึ่งท่าเรือจะอยู่บริเวณช่วงใต้สะพานกรุงธน แต่ระยะนี้คงจะต้องนั่งพี่วินหรือรถเมล์ไปลงตรงท่าเรือนะ สุดท้ายตัวโครงการอยู่ติดกับถนนหลักอย่างสิรินธรทำให้เรียกรถเมล์และ Taxi ง่ายมาก

แบบห้อง การจัดวาง Typical Floor Plan ซึ่งอาคารเป็นรูปทรง L-Shape บวกกับจำนวนยูนิตต่อชั้นที่น้อย ทำให้ค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวระดับนึง และมีช่องหลักอยู่ใกล้โถงหน้าลิฟท์และปลายอาคารฝั่งทิศเหนือช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาและระบายอากาศได้ดี ตัวโครงการเน้นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดช่วง 24.5-31.6 ตร.ม. เป็นหลัก จะมีห้องมุมที่เป็นห้อง 2 Bedroom(Combine) ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยคือ 35-39 ตร.ม. โดยรวมมีการจัดวางฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนดี ติดนิดหน่อยตรงที่ห้อง 2B(Combine) ตัดทอนพื้นที่ระเบียงออกไปทำให้แทบใช้งานไม่ได้

วัสดุ ตัวโครงการมีรูปแบบการขายคือ Fully Fitted โดยจะได้ส่วน Pantry ครัว, Hob&Hood (แอร์ 1-2 ตัวตามขนาดห้อง, อุปกรณ์ในห้องน้ำทั้งหมด, Digital Door Lock, ติดวอลเปเปอร์ให้) พื้น คือ พื้นลามิเนตในบริเวณห้องนอนและพื้นที่นั่งเล่น ส่วนครัว ห้องน้ำเป็นกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม. พื้นระเบียงเป็นกระเบื้อง 30 x 30 ซม. ได้ Pantry ครบชุด ท็อปหินสังเคราะห์ ด้านหลังกรุด้วยกระจก ได้ Hob & Hood จาก Franke ส่วนสุขภัณฑ์จาก Kolher สำหรับความสูงฝ้าเพดานได้ Living 2.55 เมตร / Bedroom 2.50 เมตร / ห้องน้ำ 2.30 เมตร

สาธารณูปโภค ถือเป็น Highlight ของโครงการนี้ ที่ถือว่าให้มาหลากหลายและเยอะ ถ้าเทียบกับอัตราส่วนลูกบ้านทั้งหมด ที่สำคัญน่าใช้งานด้วย  ด้วยการวาง Facilities ไว้ที่ชั้น 1 ชั้น 6 และหลักๆไว้บน Roof Top ทั้งหมด ซึ่งสิ่งที่สำคัญเลยคือเรื่องวิวที่ลูกบ้านทุกบ้านสามารถขึ้นมาเสพบรรยากาศของวิวแม่น้ำที่เป็นจุดเด่นของโครงการได้ทุกคน ชั้น 1 ก็จะมี Leisure Garden, Leisure Lobby, Leisure Fitness, Shop 2 Unit / ขึ้นมาชั้น 6 Leisure Lounge, Home Theatre, Garden, Working Bar / ชั้น 24 มี Scenic Sky Lounge + Hybrid Lounge / Roof Top ได้แก่ Panoramic Sky Pool, Sky Garden และ Panoramic Sky GYM (ที่รับวิว 270 องศา)

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 105,000 บาท/ตร.ม.+ขึ้นไป, 20 June 2017

  • ทำเล 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน แต่หาของกินในระยะเดินยากหน่อย
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – เข้าเมืองง่าย มีทางด่วนระยะไม่ไกล
  • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – มีรถไฟฟ้าในอนาคตแต่ระยะ 6 ร้อยกว่าเมตร ติดถนนใหญ่เรียกรถง่าย ไม่ไกลจากท่าเรือด่วนเจ้าพระยา
  • วัสดุ 7.25/10 – Fully Fitted มาตรฐานกับราคาที่จ่ายไป
  • แบบ 8/10 – ทำออกมาได้ดี เป็นสัดส่วน
  • สาธารณูปโภค 8.75/10 – ให้มาเยอะถ้าเทียบอัตราส่วน หลากหลาย หลักๆเอาไว้ที่ชั้นทำให้ได้วิวสูงสวยๆร่วมกัน
  • UPPER CLASS
  • 7.67 / 10.00

BOTTOM LINE

The Privacy จรัญ – ราชวิถี สเตชั่น เหมาะกับคนที่มองหาที่อยู่อาศัยเกาะแนวรถไฟฟ้าจรัญ บริเวณแยกบางพลัด ติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวกด้วยรถยนต์สะดวก หรือใช้รถไฟฟ้าได้ไม่ยากมาก ชอบใช้ส่วนกลางในโครงการที่หลากหลายและเน้นวิว (Roof Top Facilities) เป็นครอบครัวขนาดเล็กเริ่มต้นตั้งต้นเอง ต้องการแต่งห้องเองมีงบเผื่อสำหรับเฟอร์นิเจอร์เรียบร้อย โดยมีงบประมาณคร่าวๆ ตั้งแต่ 2.6 ล้านบาทขึ้นไป++