Web

รีวิวฉบับที่ 926 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ The Plant Exclusique พัฒนาการ โครงการบ้านเดี่ยวตัวใหม่ล่าสุดในพฤกษาอเวนิว ซึ่งมีโครงการรุ่นพี่เกิดขึ้นมาแล้ว 9 โครงการ ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 38 ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีบ้านทั้งหมด 4 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 52 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท เราไปดูกันค่ะว่าโครงการน้องใหม่นี้จะทำออกมาเป็นแบบไหน

Fact @ 8 September 2015

  • The Plant Exclusique Pattanakarn (เดอะแพลนท์ เอ็กคลูซีค พัฒนาการ)
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สวนหลวง
  • เนื้อที่โครงการ 30 ไร่ จำนวน 112 ยูนิต
  • Preen ที่ดินแปลงมาตรฐาน 52.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ  2 ที่จอดรถ
  • Praise ที่ดินแปลงมาตรฐาน 52.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ
  • Plenary ที่ดินแปลงมาตรฐาน 60.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 204 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ
  • Patrician ที่ดินแปลงมาตรฐาน 64.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 216 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องทำงาน 1 ห้องแม่บ้าน  2 ที่จอดรถ
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 52, 60 และ 64 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาทหรือ 151,051 บาท/ตร.วา
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี มีนาคม 2558
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ มิถุนายน 2560
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • Call Center : 1739

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.726031, 100.633765

ThePlant_Exclusique_Patthanakarn_map__1145x491

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Map รวม

ตัวโครงการ The Plant Exclusique พัฒนาการ ตั้งอยู่ใน Pruksa Avenue ที่เป็นพื้นที่ของโครงการแนวราบหลายๆโครงการของพฤกษามาอยู่รวมกัน และแชร์ถนนหลักของโครงการร่วมกัน (สำหรับตัวพฤกษาอเวนิวหลายๆท่านคงจะรู้จักมาพอสมควรแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังนึกภาพไม่ออก เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังในส่วนเจาะลึกตัวโครงการนะ) ตัว Pruksa Avenue อยู่ในซอยพัฒนาการ 38 เข้ามาจากถนนพัฒนาการประมาณ 2 กิโลเมตร ตัวถนนพัฒนาการจะเป็นถนนที่วิ่งต่อมาจากถนนเพชรบุรีตรงๆเลย จุดเริ่มต้นของเส้นพัฒนาการก็คือข้ามแยกคลองตันมาแล้วและยาวไปจนถึงอ่อนนุช(สุขุมวิท 77) บนถนนพัฒนาการมีทางลัดที่สามารถทะลุไปได้หลายเส้นทาง เช่น ตรงสามแยกพัฒนาการ 25 เป็นอุโมงค์ไปออกหลังรามคำแหง เอาไว้ไปเที่ยว The Nine ได้ หรือซอยพัฒนาการ 30 ทะลุที่ไปยังอ่อนนุชได้

ห้าง

สภาพแวดล้อมบนถนนพัฒนาการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ และ ตึกแถว มีโครงการประเภทคอนโดตั้งอยู่บ้างแต่ไม่มาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแนวราบซะหมด ถ้าจะหาของกินแบบง่ายๆอร่อยหน่อยก็ต้องไปช่วงปากซอยพัฒนาการ 38 หรือจะไปตรงช่วงพัฒนาการ 50 ก่อนถึงอุโมงค์กลับรถก็ได้ตรงนั้นจะมีร้านอร่อยๆตั้งอยู่หลายร้านเลยค่ะ สำหรับเเหล่ง Shopping ที่ใกล้ที่สุดคือ Tesco Lotus ที่อยู่ระหว่างซอย พัฒนาการ 43 กับ 45 ซึ่งตอนนี้มี London Street ที่เป็นคอมมิวนิตี้ ฟู้ดมอลล์ มาเปิดใหม่ด้วยเป็นแหล่งรวมร้านอาหารในเครือ MK ค่ะ ถ้าใครขี้เกียจขับรถไปไหนไกลๆวนหาที่จอดรถนานๆก็ลองแวะที่นี่ได้ค่ะ และ Max Value ตรงแยกพัฒนาการ ส่วนถ้าจะเดินห้างก็มีให้เลือกระหว่าง The Nine ที่อยู่บนถนนพระราม9 กับ Thanya Park, Paradise และ Seacon Square บนถนนศรีนครินทร์ ในวันเสาร์-อาทิตย์ยังมีตลาดนัดรถไฟหลังห้างให้เดินอีกด้วยนะคะ

The-Connect-pattanakarn-เส้นทาง-1v2

เส้นทางที่เราจะพาไปดูกันในวันนี้  จะเริ่มต้นที่แยกอโศกเข้าเส้นเพชรบุรี ขับตรงมาเรื่อยๆจนถึงแยกคลองตัน และวิ่งยาวต่อไปจนเข้าถนนพัฒนาการ แล้วค่อยกลับรถใต้อุโมงค์ เพื่อเข้าซอยพัฒนาการ 38 ค่ะ

การเดินทางขอเริ่มจากบริเวณแยกอโศก เลี้ยวเข้าถนนเพชรบุรี

จากแยกอโศกมาถนนเพชรบุรีเราขับตรงไปเลย ตึกเหลืองๆที่เห็นด้านขวามือคือ My Resort Bangkok Condo ค่ะ

ตรงมาประมาณ 500 เมตร ฝั่งซ้ายมือเป็นถนนเพชรอุทัยเป็นทางลัดไปถนนพระราม 9 แต่เราตรงไปเรื่อยๆนะ

ตรงมาสักพักก็จะเจอสะพานข้ามคลองบางกะปิ ก็ตรงต่อไป

ตรงมาอีกจะเจอโรงแรม  Atrium Hotel ฝั่งขวามือ

ตรงมาอีกก่อนถึงโรงพยาบาลกรุงเทพ  ฝั่งขวามือจะเป็นซอยชื่อ ซอยพร้อมพงษ์หรือซอยเพชรบุรี 38/1 ใช้ทะลุไปออกเส้นสุขุมวิทโซนพร้อมพงษ์ได้  จุดสังเกตของซอยคือหน้าปากซอยจะมีตึกสูงๆนั่นก็คือตึกอิตาเลี่ยน-ไทยค่ะ แต่เราตรงไปอย่างเดียวเหมือนเดิมนะ

The Connect pattanakarn การเดินทาง (7)_1

ตรงไปอีกหน่อยจะผ่านโรงพยาบาลกรุงเทพอยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วนฝั่งขวามือจะเห็นตึก KPN ตึกชาญอิสระ บริเวณแยกด้านข้างตึก KPN จะเป็นซอยสุขุมวิท 55 หรือ ซอยทองหล่อ

The Connect pattanakarn การเดินทาง (33)

ถัดมาจะเจอกับแยกไฟแดง 2 อันติดๆกัน อันแรกไว้เลี้ยวกลับอย่างเดียวไม่สามารถเลี้ยวขวาเพื่อไปเส้นประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วน-รามอินทรา)ได้ ส่วนไฟแดงอันถัดไปสามารถเลี้ยวขวาเพื่อเข้าเส้นเอกมัย(สุขุมวิท 63)ได้

ตรงไปอีกจะเจอป้ายบอกทาง ตรงไปเป็นคลองตัน,พัฒนาการ เลี้ยวซ้ายไปพระราม 9

พอถึงตรงแยกนี้จะมีทางเลี้ยวซ้ายไปพระราม 9 ส่วนช่องทางที่ตรงไปเราจะเห็นว่าไปได้สองช่องทาง ถ้าวิ่งขึ้นฝั่งขวาจะตรงไปพัฒนาการเลยโดยไม่ต้องไปรถติดที่แยกคลองตัน แต่วันนี้เราจะตรงไปแยกคลองตันเพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อมรวมๆก่อนนะคะ

สะพานนี้เป็นสะพานข้ามคลองแสนแสบ

แยกคลองตันถ้าเลี้ยวซ้ายเข้ารามคำแหง เลี้ยวขวาเข้าซอยปรีดี พนมยงค์(ถนนสุขุมวิท 71) ตรงไปก็เข้าเส้นพัฒนาการ

เลยแยกคลองตันมาได้ไม่ไกลจะเจอ 4 แยกอีกครั้งแต่แยกนี้สัญญาณไฟจราจรไม่ได้เปิดใช้งานให้รถที่สัญจรไปมาระวังกันเอง แยกนี้จะเป็นแยกที่ไว้ขึ้นทางด่วนโดยเฉพาะแล้วก็เป็นจุดขึ้นลงทางด่วนที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดด้วยค่ะ เลี้ยวซ้ายสำหรับไปทาง พระราม 9 และรามอินทรา ส่วนเลี้ยวขวาจะไปบางนา-ดาวคะนอง และดินแดง-แจ้งวัฒนะ

แยกนี้ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นอุโมงค์ไปทะลุออกรามคำแหงได้ค่ะ  แต่เราตรงต่อไปนะ

ผ่านแยกคลองตันมาก็จะเป็นถนนพัฒนาการแล้วค่ะ ตรงมาสังเกตธนาคาร Standard Chatered ทางด้านขวา ด้านข้างจะเป็นซอยพัฒนาการ 28 ใช้ลัดไปออกซอยอ่อนนุช 17 ได้

ถัดมาจะเห็นป้าย ถ้าวิ่งตรงๆไปเรื่อยๆจะไปออกถนนศรีนครินทร์และอ่อนนุช ถ้าเลี้ยวซ้ายไปออกสุขุมวิท หรือสามารถกลับรถแล้วเลี้ยวเข้าซอยพัฒนาการ 32 เพื่อลัดไปออกอ่อนนุชได้

วิ่งตรงไปกลับรถใต้อุโมงค์ค่ะ

ลงอุโมงค์ไปค่ะ

กลับรถขึ้นมาตรงมาซักระยะ พอสังเกตเห็นสะพานลอยก็เลี้ยวเข้าซอยพัฒนาการ 38 ได้เลย หน้าปากซอยจะมี Family mart อยู่

Map ขยาย 2

ภายในซอยพัฒนาการ 38  นั้นเป็นถนน 2 เลน รอบข้างส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนเก่าแต่ดั้งเดิม มีทั้งร้านขายของชำ Mini Mart อพาร์ทเม้นท์ และตลาด รวมไปถึงมัสยิดศูนย์รวมจิตใจของชาวมุสลิม จากต้นซอยจนถึงโครงการมีระยะทางประมาณ 2.1 กม. เนื่องจากซอยนี้มีจำนวนประชากรค่อนข้างมาก ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็อาจจะมีรถเข้าออกค่อนข้างเยอะ  โดยเฉพาะบริเวณตลาดตอนเช้าและเย็นจะมีการจอดรถซื้อของที่ตลาดกัน การจราจรก็อาจจะติดขัดบ้าง จากแผนที่จะเห็นว่า จากต้นซอยจนก่อนถึงหัวโค้งที่เป็นร้านอาหารปักษ์ใต้ จะมีร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่มาร์ท ร้านขายของชำหลายร้าน ที่มีแผงขายผัก อาหารสดตอนเช้าด้วย

ถัดจากหัวโค้งนั้นมาก็จะเป็นอาคารที่พักอาศัยแทบทั้งหมด มีโกดังเก็บสินค้าก่อนถึงสะพานเข้าโครงการ ในซอยพัฒนาการ 38 จะมีชุมชนมุสลิมที่อยู่อาศัยกันมานานแล้ว ดังนั้นจะสังเกตเห็นว่ามีมัสยิดชื่อ อันวารุ้ล อับร้อล และอพาร์ทเม้นท์ชื่อแบบมุสลิมหลายแห่งเลย ซึ่งโครงการทั้งหมดในพฤกษาอเวนิวก็จะอยู่ในระยะได้ยินเสียงมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ตำแหน่งของแต่ละโครงการ โครงการ The Plant Exclusique พัฒนาการ  เมื่อเข้ามาใน พฤกษา อเวนิว ตรงเข้ามาเรื่อยๆแล้วเลี้ยวซ้ายตรงวงเวียน ข้ามสะพานข้ามคลองมาก็จะถึงโครงการค่ะ

หน้าปากซอยจะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่ ถัดไปจะเป็นเต็นท์ขายอาหาร และ ร้านขายของชำ ซอยนี้จะค่อนข้างคึกคักมีรถเข้าออกตลอด เนื่องจากสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดได้ค่ะ

เต็นท์ขายอาหาร มีอาหาร ของสด ของแห้งขายเยอะอยู่ พอพึ่งพาได้

ถัดมาสองฝั่งข้างทางช่วงต้นซอยจะเป็นร้านขายของชำ มีแผงขายของหน้าร้าน

ตรงตามทางมาจะเจอมัสยิดอันวารุ้ลอับร้อจอยู่ทางซ้ายมือ  ซึ่งโครงการทั้งหมดในพฤกษาอเวนิวก็จะอยู่ในระยะได้ยินเสียงเรียกสวดเวลาละหมาด ไปด้วยนะคะ  ฝั่งตรงข้ามมีแผงขายของ ร้านอาหารตามสั่งอยู่

ตามทางไปเรื่อยๆ บริเวณกลางๆซอย ก็เป็นย่านที่พักอาศัยสูง 2-3 ชั้น มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่อีกจุดหนึ่ง มาถึงแถวนี้ไม่เห็นร้านอาหารอะไรแล้วค่ะ เห็นแผงรถเข็นขายอาหาร อย่างส้มตำ ไก่ย่างบ้าง 2-3 ร้าน บรรยากาศสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่าช่วงต้นซอย

ถัดมาก่อนถึงพฤกษา อเวนิวจะเป็นทาวน์เฮ้าส์สูง 2-3 ชั้น และบ้านพักอาศัย

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอ พฤกษา อเวนิว ให้ตรงเข้าไปตามทาง  ฝั่งขวาของสะพานจะมีชื่อโครงการต่างๆปักอยู่

จากหน้าโครงการพฤกษา อเวนิวตรงเข้ามาจะผ่าน Patio และ The Plant

The Plan Ex 28

พอเจอวงเวียนให้เลี้ยวไปทางซ้าย โครงการที่อยู่หน้าวงเวียนคือ The Plant

ตรงมาจะเจอกับโครงการ The Plant ELITE

ตรงมาจะเจอสะพาน ข้ามสะพานไปก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ

The Plant x 32

ถึงแล้วค่ะ โครงการ The Plant Exclusique จะอยู่ตรงข้ามกับโครงการ The Connect

Site surround

โครงการ The Plant Exclusique พัฒนาการ อยู่ในพฤกษา อเวนิวที่เป็นโครงการรูปแบบ Cluster เป็นกลุ่มหมู่บ้านขนาดใหญ่ที่มีถนนภายในโครงการเชื่อมถึงกันหมด โดยขอบเขตถนนของโครงการจะสิ้นสุดที่สะพานข้ามคลองจุดต่อซอยพัฒนาการ 32, 38 และ 44 ซึ่งซอยพัฒนาการ 38 คือเส้นทางหลักที่จะเข้าถึงพฤกษาอเวนิวค่ะ ส่วนซอยพัฒนาการ 38 และ 44  เป็นถนนที่ต้องผ่านพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งตอนนี้ยังสามารถใช้เข้าออกจากโครงการได้ แต่ในอนาคตก็ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าของที่ดินว่าจะมีการจัดสรรยังไงต่อนะคะ

Screen Shot 2558-09-22 at 6.07.04 AM

นอกจากเส้นทางลัดส่วนหน้าโครงการแล้ว ยังมีเส้นทางลัดด้านหลังอีก 2 เส้นที่สามารถไปทะลุถนนใหญ่ได้นั่นคือซอยถวัลย์นครที่อยู่ติดกันกับซอยอ่อนนุช 35 สามารถมาทางนี้โดยเลี้ยวขวาที่วงเวียนในพฤกษาอเวนิว มาทาง The Plant, Villette Lite เจอ The Palm เลี้ยวซ้ายถ้าขับตรงไป เส้นนี้จะลัดไปถนนศรีนครินทร์ ส่วนถ้าอยากเข้าเส้นอ่อนนุชก็เลี้ยวขวาเข้าซอยอ่อนนุช 39 จะสามารถลัดไปถนนสุขุมวิท 77 หรืออ่อนนุชได้ค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ – 3.5 กิโลเมตร
  • ตลาดสดพัฒนาการ – 3.9 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus – 4.1 กิโลเมตร
  • The Nine พระราม 9 – 5.3 กิโลเมตร
  • Thanya Shopping Park – 5.5 กิโลเมตร
  • Seacon Square – 7.3 กิโลเมตร
  • Paradise Park – 8 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ – 8.2 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

The Connect pattanakarn-รวมหมู่บ้าน

ตัวโครงการ The Plant Exclusique พัฒนาการ จะอยู่ในพื้นที่รวมโครงขนาดแนวราบขนาดใหญ่ของพฤกษาเรียกว่า Pruksa Avenue ซึ่งมีขนาดประมาณ 400 ไร่ ภายในบรรจุหมู่บ้านจัดสรรไว้ราวๆสิบโครงการด้วยกัน มีทั้ง Townhome บ้านเดี่ยว บ้านแฝด จะเรียกว่าเป็นเมืองของพฤกษาเลยก็ว่าได้ค่ะ

ภาพแผนที่ด้านบนจะเป็นภาพรวมตำแหน่งที่ตั้งคร่าวๆของแต่ละโครงการ นะคะ จุดเริ่มต้นของพฤกษาอเวนิวจะเริ่มจากสะพานข้ามคลองหัวหมาก ข้ามสะพานมาเจอโครงการ Patio และ The Plant ก่อน ถัดมาเป็น The Plant , The Plant Elite และ ThePlant Exclusique อยู่ตรงข้ามกับ The Connect ค่ะ ส่วนด้านล่างสุดจะเห็นว่ามี มัสยิด อัล กู๊บรอ อยู่บริเวณด้านหลังพื้นที่โครงการ ซึ่งโครงการทั้งหมดในพฤกษาอเวนิวก็จะอยู่ในระยะได้ยินเสียงเรียกสวดเวลาละหมาดด้วย แต่จะมากน้อยก็แล้วแต่ตำแหน่งของแต่ละโครงการนะคะ รวมระยะจากปากซอยพัฒนาการ 38 ถึงตัวโครงการประมาณ 2.1 กิโลเมตรค่ะ

โครงการในพฤกษา อเวนิว ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว  ได้แก่

และทาวน์เฮาส์  ได้แก่

Site surrounding

สำหรับบริบทรอบๆโครงการเนื่องจากตัวโครงการอยู่ในพื้นที่ของ พฤกษาอเวนิว บริบทรอบๆส่วนใหญ่จึงเป็นหมู่บ้านในเครือเดียวกันค่ะ

ทิศเหนือ ติดกับคลองลำหัวหมากเป็นคลองสายเล็กๆ ไม่มีกลิ่น คั่นตัวครงการกับบ้านพักอาศัย้านนอกพฤกษาอเวนิว

ทิศตะวันออก ติดกับโครงการ The Connect

ทิศตะวันตก ติดกับลำรางน้ำสาธารณประโยชน์(บ้านม้า) และที่ดินเปล่า

ทิศใต้ ติดกับ The Plant Elite

Master Plan

โครงการนี้มีขนาด 30 ไร่ จำนวนบ้านทั้งโครงการ 112 ยูนิต จาก Master Plan จะเห็นว่า ลักษณะการวางผังคือวางถนนเส้นหลักไว้ตรงกลาง แล้วแจกถนนรองซ้ายขวาไปยังแปลงที่ดินแต่ละหลัง ส่วนทางเข้าออกจะมีเพียงทางเดียวคือจากทางหน้าโครงการติดถนนภาระจำยอม มีสวนสาธารณะ 1 จุด ขนาด 395 ตร.วา อยู่ช่วงกลางของโครงการ ถนนตรงประตูทางเข้าหลักกว้างประมาณ 20 เมตร เมื่อเข้าโครงการไปแล้วจะเจออาคารสโมสร และนิติบุคคลทางขวามือ ถนนหลักของโครงการกว้าง 12 เมตร ยกเว้นถนนหลักช่วงหลังวงเวียน จะลความกว้างลงมาเหลือ 10 เมตร ที่ลดขนาดลงมาได้ ส่วนนึงเป็นเพราะปริมาณรถเริ่มลงแล้วเนื่องจากอยู่ท้ายซอยลูกบ้านจะน้อยกว่าช่วงต้นซอยค่ะ ส่วนถนนซอยย่อยเข้าตัวบ้านกว้าง 9 เมตรเท่ากันทุกเส้นค่ะ

มาดูหน้าตาของจริงกัน ซุ้มประตูหน้าโครงการออกแบบในสไตล์โมเดิร์น มีสวนหย่อมเล็กๆข้างๆซุ้ม โทนสีที่ใช้เป็นสีน้ำเงินเข้ม เทา น้ำตาลทอง และขาว ตัวซุ้มมีขนาดใหญ่โตทีเดียวค่ะ มีหลังคาคลุมยาวตลอดทั้งทางเข้าและออก ไม่ต้องกลัวฝนสาดเข้ารถตอนแตะบัตรเลยค่ะ

ถนนเมื่อเริ่มเข้าสู่โครงการเป็นคอนกรีตแสตมป์ มีทางเข้าแยกกันระหว่างลูกบ้านกับ Visitor เวลามีคนมาติดต่อลูกบ้านจะได้ไม่ต้องรอสามารถเข้าบ้านได้เลย

Security ของโครงการนี้จะมี รปภ. 24 ชั่วโมง Access Card ระยะใกล้ ประตูไม้กระดก และประตูรั้วไฟฟ้า ทางเข้าของ Visitor จะอยู่ฝั่งขวาติดป้อมพี่ยามเพราะต้องแลกบัตร ส่วนใครเป็นลูกบ้านก็เข้าทางซ้ายแตะ Access Card เข้าโครงการได้เลยค่าา

ความกว้างของถนนทั้งหมดราวๆ  20 เมตร ตัวโครงการเริ่มมีการก่อสร้างกันไปบ้างแล้ว แต่ส่วนก่อสร้างเค้ายังไม่เปิดให้เราได้เข้าไปดูนะคะ อดใจไว้ก่อนน

ซ้ายมือเป็นกลุ่มบ้านตัวอย่างที่เราจะไปดูกันวันนี้ค่ะ

ที่จอดรถและสวนหย่อมของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการค่ะ เนื่องจากโครงการนี้ยังสร้างส่วนกลางไม่เสร็จเลยไม่ได้เก็บภาพมาฝากนะคะ

cgscape-ps-the_plant_exclusique_ch_150813__1145x491

แต่มีภาพตัวอย่าง Club House จากโครงการมาให้ดูค่า

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอรีน ขนาด 10 x 15 เมตร
  • Fitness
  • สวนหย่อม 395 ตารางวา
  • รปภ. ระบบ CCTV ที่ Main Gate
  • ระบบกันโขมย Magnetic Censor
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรพร้อมเหล็กแหลม
  • คลับเฮ้าส์(เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก รั้วไฟฟ้า
  • ถนนหลักกว้าง 21.5 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.

 


Product Walkthrough

บ้านเดี่ยวในโครงการนี้จะมีทั้งหมด 4 Type คือ Preen, Praise, Plenary และ Patrician ไล่จากเล็กไปใหญ่ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 167 จนถึง 216 ตารางเมตร ถือเป็นบ้านเดี่ยวขนาดมาตรฐานของละแวกนี้ค่ะ ตอนนี้ที่โครงการมีบ้านตัวอย่างให้ชมครบทั้ง 4 Type แล้ว บ้านที่เราเลือกมาให้ดูวันนี้จะมีหลังเล็กสุดคือ Preen และหลังที่ค่อนข้างเห็นความแตกต่างของฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาคือแบบ Plenary ค่ะ ต้องขอบอกก่อนว่าลักษณะการขายของโครงการนี้ก็จะเหมือนกับโครงการบ้านเดี่ยวทั่วไป คือจะให้เป็นบ้านเปล่า พร้อมวัสดุก่อสร้างมาตรฐานอย่างกระเบื้อง ประตู หน้าต่าง และสุขภัณฑ์มาตรฐานเท่านั้น ส่วนตัว Buit-in หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เห็นในบ้านตัวอย่างไม่มีให้นะ เค้าจัดวางให้ดูเป็นไอเดียค่ะ

The Plant Exclusique - Preen2

บ้านแบบแรกที่เราจะพาไปดูคือแบบ Preen บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 8.9 เมตร พื้นที่ใช้สอย 167 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ พื้นที่จอดรถในร่ม 2 คัน หน้าตาของบ้านจะมาในรูปแบบ Modern โทนสีหลักๆที่ใช้เป็นน้ำเงินอ่อน น้ำตาลอ่อน และขาว ส่วนพื้นที่บริเวณรอบๆบ้านของจริงจะมีรั้วกั้นและอาจจะไม่ได้มีพื้นที่สวนกว้างขนาดนี้นะคะ อันนี้เค้าแค่จัดมาให้ดูเป็นตัวอย่างเฉยๆนะpreen plan

เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขก ต่อเนื่องกับส่วนรับประทานอาหาร ด้านขวาของตัวบ้านจะเป็นครัว ห้องน้ำ ตัวห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นแบบ Powder room ไม่มีส่วนอาบน้ำ ส่วนครัวจะแยกเป็นห้องชัดเจนสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ เชื่อมฟังก์ชั่นกับห้องทานอาหารด้วย Pantry Bar และมีทางออกไปยังลานซักล้างด้านหลังบ้าน ส่วนบันไดจะอยู่ถัดจากทางเข้าห้องน้ำค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะพบโถงแยกไปห้องต่างๆ มีห้องนอน 3 ห้อง ฝั่งซ้ายเป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่สุด มีห้องน้ำในตัว ซึ่งบริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่เหลือให้สามารถทำ Walk-in Closet ได้ด้วยค่ะ ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องขนาดไม่แตกต่างกันมากใช้ห้องน้ำแชร์กัน ห้องนอนเล็กถ้าไม่ได้ใช้เป็นห้องนอนก็สามารถจัดเป็นห้องอเนกประสงค์ ห้องอ่านหนังสือไปก็ได้ค่ะ

ทางเข้าบ้านหลักๆมี 2 ทางนะคะ คือเข้าทางหน้าบ้านซึ่งเป็นทางหลักแขกไปใครมาก็เข้าทางนี้ได้ หรือถ้าเอารถมาจอดแล้วจะเข้าจากที่จอดรถก็ได้แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ

ในโรงจอดรถจะหน้าต่างมองออกมาจากด้านในและ ประตูทางเข้า ตรงนี้จะเข้าไปเจอบันได ห้องน้ำ และครัว มียกเสต็ปขึ้นมาให้หนึ่งขั้นค่ะ เพราะพื้นบ้านชั้น 1 ค่อนข้างสูง

จอดรถแล้วจะกลับมาเข้าทางหน้าบ้านก็ได้ค่ะ แต่ตรงนี้อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่เพราะไม่มีบันไดให้นะ

มาเดินดูรอบๆตัวบ้านกันค่ะ เริ่มจากฝั่งขวานะคะ ตรงที่จอดรถมีลงต้นไม้ไว้พอบังสายตาได้นิดหน่อย ของจริงจะเป็นที่เปล่ากับรั้วกั้นสูง 1.6 เมตร ส่วนที่ดินเหลือข้างตัวบ้านก็จะดูเล็กกว่านี้เพราะแบ่งกันอย่างละครึ่ง ไม่มีสวนตกแต่งให้แต่จะเก็บไว้เป็นไอเดียก็ได้ค่ะ

ด้านหลังบ้านไม่มีกันสาดและพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์บนชั้น 2 ให้นะคะ เพราะฉะนั้นแอร์ก็จะถูกติดแบบลอยตัว ส่วนพื้นปูนที่เห็นตรงชั้นล่างคือลานซักล้างสามารถออกมาได้โดยตรงจากในครัวค่ะ

ด้านขวาของตัวบ้านจะเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นและส่วนทานอาหาร ซึ่งบริเวณอาหารจะมีประตูบานเลื่อนกระจกอยู่ เวลาทานอาหารก็สามารถเปิดรับลมได้ แนะนำว่านอกจากม่านแล้วควรติดมุ้งลวดกันพวกแมลงด้วยนะคะ

นอกจากไว้เปิดรับลมรับแสงแล้วก็ยังใช้เป็นทางออกมาที่สวนได้ด้วยนะ แต่ตัวบ้านยกพื้นไว้ค่อนข้างสูง ควรทำเป็นบันได หรือจะทำเป็นชานยกระดับนอกบ้านเลยก็ได้ค่ะ เผื่อมีเพื่อนมาก็สามารถจัดปาร์ตี้ Out door เล็กๆได้

ทางเข้าหลักจะมีไฟหน้าบ้าน 2 ดวง และไฟดาวน์ไลท์บนฝ้าอีก 1 ดวง จากพื้นถึงตัวบ้านจะยกขึ้นมา 2 เสต็ป ส่วนประตูทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนคู่กรอบอลูมิเนียมสีเทา กระจกเขียวตัดแสง

ชานพักตรงนี้มีระยะประมาณ 90 เซนติเมตร สามารถจะใช้วางเป็นตู้เก็บรองเท้าเล็กๆได้

รายละเอียดมือจับประตูค่ะ ภาพซ้ายเป็นมือจับด้านนอก ค่อนข้างเล็กอาจจะจับยากนิดนึงแต่ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร ส่วนภาพทางขวาเป็นมือจับด้านในค่ะ

รางเลื่อนประตูแบบวางเสมอพื้นลดโอกาสการเดินสะดุดค่ะ

ด้านบนจะมีร่างเลื่อนเผื่อไว้ให้ติดมุ้งลวดค่ะ 

เข้ามาส่วนแรกของบ้านจะเป็นห้องรับแขก หรือเป็นห้องนั่งเล่นก็ได้ ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร พื้นเป็นแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับห้องทานอาหาร และจะเห็นว่ามีช่องแสงค่อนข้างเยอะ ช่วยให้บ้านดูโปร่ง กว้างขวางมากขึ้น มีระยะดูทีวีประมาณ 2.4 เมตร วางทีวีได้ถึงประมาณ 60″

พื้นที่สำหรับวางโซฟาค่อนข้างกว้างสามารถวางได้ 4-5 ที่นั่ง และยังมีที่เหลือให้วางโคมไฟไว้ด้านข้างเผื่ออ่านหนังสืออีกด้วย

พื้นที่สำหรับวางทีวี ของจริงจะเป็นผนังโล่งๆชุดตู้และโต๊ะไม่ได้มีมาให้นะ อาจจะเก็บไว้เป็นไอเดีย หรือจะเปลี่ยนพื้นที่เป็นทีวีจอใหญ่ติดผนังพร้อมชุดเครื่องเสียงก็ยังได้นะคะ

ถัดมาจากส่วนรับแขกเป็นส่วนทานอาหาร ติดอยู่กับ Pantry ครัว มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ตลอดแนวผนังช่วยให้ได้แสงธรรมชาติ และวิวนอกบ้าน ตรงนี้สามารถวางโต๊ะทานอาหาร 4-6 ที่นั่งกำลังดี หรือจะถึง 8 ที่นั่งเลยก็ได้ถ้าจะเผื่อที่ไว้สำหรับญาติๆมาเยี่ยม หรือสมาชิกเยอะ แต่แนะนำว่าควรเป็นโต๊ะกลมนะคะ จะได้ไม่รู้สึกเกะกะจนเกินไป

หน้าต่างบานใหญ่มุมหลังบ้านเป็นแบบเปิดได้ 2 ข้าง ตรงกลางเป็นบานติดตายค่ะ

มือจับเป็นกรอบบานยกขอบ และตัวล็อกของตัวหน้าต่างบานใหญ่ในห้องทานอาหาร

ตัว Pantry จะแยกออกมาจากห้องครัว เชื่อมอยู่กับส่วนทานอาหาร ใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารเบาๆ ไม่ต้องเข้าครัวใหญ่ หรือเป็น Breakfast Bar ทานอาหารเล็กๆน้อยๆ แล้วออกไปทำงาน ในชั่วโมงเร่งด่วนจะมีประโยชน์มากค่ะ แต่ตัว Pantry ไม่มีมาให้นะคะ สามารถเก็บไว้เป็นไอเดียที่ดีได้เลยค่ะ ถัดมาจากส่วน Pantry จะเป็นบันไดและห้องน้ำที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกัน โดยห้องน้ำจะถูกซ่อนไว้เป็นสัดเป็นส่วนโดยใช้พื้นที่ใต้บันไดค่ะ

ส่วน Pantry เป็นรูปตัว L จะอยู่ด้านหน้าห้องครัว มีหน้าต่างบานเล็กเป็นช่องแสง เปิดไปก็จะเป็นด้านหลังบ้านค่ะ

มาในส่วนของครัวทำออกมาค่อนข้างเป็นสัดเป็นส่วนชัดเจน ตรงนี้ถ้าใครกลัวเรื่องกลิ่นรบกวนก็สามารถติดตั้งประตูบานเลื่อนแบบที่ทางโครงการทำมาให้ดูก็ได้ค่ะ

มาที่ห้องครัว จากการจัดพื้นที่ติดตั้งเคาท์เตอร์และตู้เย็นให้ดูเป็นตัวอย่างก็จะเห็นว่ายังมีที่เหลือเฟือ จะทำเคาท์เตอร์เป็นรูปตัว U ก็ยังได้ อาจจะติดตั้งอ่างล้างจานและเตาไว้บริเวณช่องแสงเพื่อจะได้รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ ตัวชุดครัวที่เห็นนี้เค้าไม่มีแถมมาให้นะคะ จะเป็นห้องเปล่า แต่จะมีการเดินท่อมาให้ค่อนข้างครบแล้ว สามารถจัดวางได้เองเลย

ตัวอย่างการจัดวางตำแหน่งของตู้เย็นและเคาท์เตอร์ครัวตรงนี้เราอาจจะเลื่อนตำแหน่งของเตาไปไว้บริเวณหน้าต่างให้ได้รับแสงและระบายอากาศ ส่วนบริเวณข้างตู้เย็นก็จัดเป็นส่วนเตรียมอาหารเพื่อเลี่ยงไม่ให้ความร้อนอยู่ใกล้ตู้เย็นเกินไปค่ะ

อีกฝั่งนึงเป็นประตูออกไปลานซักล้าง ตรงที่ลูกศรชี้จะมีท่อสำหรับต่อเครื่องซักผ้าอยู่ เราจะติดตั้งตรงนี้เลยก็ได้ แต่ถ้าอยากจะไปติดตั้งบริเวณอื่นก็เดินท่อต่อออกไปได้ไม่มีปัญหาค่ะ

กลับมาที่ห้องน้ำนะคะ สำหรับห้องน้ำที่ชั้น 1 จะมีการลดระดับลงไป 2 ขั้นบันได การลดระดับตรงนี้ดีตรงที่ทำให้ได้ความสูงฝ้าเพดานในห้องน้ำเพิ่มขึ้น จากเดิมที่จะต้องต่ำลงมาเพราะอยู่ใต้ท้องบันได แต่ข้อเสียคือผู้สูงอายุอาจจะลำบากในการเข้าออกห้องน้ำค่ะ

มาดูในห้องน้ำกันที่ชั้นล่างนี้จะไม่มีส่วนอาบน้ำนะคะ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องพื้น 60×60 เซนติเมตร กระเบื้องผนัง 25×40 เซนติเมตร พร้อมกระเบื้องตกแต่งบางส่วน มีหน้าต่างด้านบนรับแสงและระบายอากาศ ส่วนสุขภัณฑ์ที่ได้จะมี อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ของ Mogen และก๊อกของ Cotto

อ่างล้างมือไม่มีเคาท์เตอร์มาให้ แต่มีที่วางของในตัว และมีบ่าวางของยาวตลอดผนังหลังอ่างล้างมือค่ะ

โถสุขภัณฑ์วางได้ไม่อึดอัด ตำแหน่งติดตั้งสายชำระทางขวาและที่ใส่กระดาษชำระทางซ้ายถูกต้องตามมาตรฐาน

ขนาดสายชำระออกจะเล็กไปนิด แต่วัสดุที่ใช้ดูแข็งแรงทนทานดีค่ะ

มีราวแขวนผ้าเช็ดตัวให้ ซึ่งจริงๆน่าจะได้ใช้เป็นที่แขวนผ้าเช็ดมือมากกว่า เพราะไม่มีส่วนอาบน้ำนะ

มาตรงส่วนบันได ตรงนี้จะมีช่องแสงอีกหนึ่งช่อง ให้แสงสว่าง ตอนกลางวันก็ไม่ต้องเปิดไฟตรงทางขึ้นบันได ตัวบันไดเป็นแบบสำเร็จรูปแบ่งเป็น 2 ช่วง ส่วนประตูที่เราเห็นนี้เป็นประตูที่เข้ามาจากที่จอดรถค่ะ

ราวจับออกแบบมาได้ดีค่ะ สีของราวจับและตัวบันไดทำออกมาเรียบๆเข้ากันดี

ขั้นบันไดชั้นบนจะเปิดส่วนลูกตั้งโล่งเอาไว้ ตอนเดินขึ้นไปก็แอบเสียวนิดหน่อย เพราะบันไดในบ้านทั่วไปจะปิดทึบเป็นส่วนใหญ่

ชานพักบันไดสี่เหลี่ยมซอยเป็นอีก 1 ขั้น ตรงนี้เวลาเดินอาจต้องระวังสะดุดนิดนึง เพราะจะนึกว่าเป็นชานพักยาวๆแต่ยังไงชานพักสี่เหลี่ยมนี้ก็ยังปลอดภัยกว่าชานพักแบบสามเหลี่ยมนะคะ

The Plant Exclusique - Preen-82

โถงบันไดมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่เป็นช่องแสง สามารถให้ความสว่างในตอนกลางวันได้ดีมาก แต่ก็จะมีข้อเสียอยู่คือความเป็นส่วนตัวจะลดลง เนื่องจากข้างบ้านจะมองมาด้านในได้ แนะนำให้ติดม่านบังสายตาหรือมู่ลี่ไว้ด้วยนะคะ ส่วนตอนกลางคืนโถงบันไดควรจะต้องติดไฟเพิ่ม เพราะส่วนโถงนี้มีไฟติดผนังมาให้แค่ 1 ดวงเท่านั้นค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 เป็นพื้นลามิเนตพร้อมบัวสำเร็จรูปลายไม้สีอ่อนทั้งชั้น ถึงแม้ว่าสีของพื้นชั้น 2 และบันไดจะต่างกันอยู่บ้างแต่ด้วยความที่เป็นลายไม้ทั้งคู่ ก็ทำให้ตัวพื้นบ้านกับบันไดดูเข้ากันดีค่ะ

โถงทางเดินชั้น 2 แจกไป 3 ห้องนอน และห้องน้ำ มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่พอจะวางตู้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้

ห้องแรกจะเป็นห้องนอนห้องที่เล็กที่สุดในบ้าน มีหน้าต่าง 2 บาน เปิดสองบานพร้อมกันจะช่วยให้มีลม Flow ดี ช่วยระบายความร้อน ห้องนี้ถ้าไม่ได้ใช้เป็นห้องนอน ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนั่งเล่น, ห้องทำงาน, ห้องอ่านหนังสือ หรือจะทำเป็นห้องพระก็ยังได้ค่ะ อย่างในบ้านตัวอย่างนี้ทางโครงการเค้าจัดมาเป็นห้องนั่งเล่น อ่านหนังสือ วางโซฟาขนาดประมาณ 4 คนนั่ง

อีกด้านก็เป็นชั้นวางของหรือชั้นหนังสือค่ะ

ต่อมาเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง พื้นปูกระเบื้อง ขนาด60×60 เซนติเมตร ชุดสุขภัณฑ์ที่ได้จะเหมือนกับชั้นล่าง เพิ่มเติมคือกระจกบานใหญ่และชุดฝักบัวของ American Standard ที่วางของให้มาน้อยไปหน่อยค่ะ อาจจะต้องหาชั้นวางมาติดเพิ่มเติมนะ

แบ่งส่วนแห้งกับส่วนเปียกชัดเจนคด้วยผนังและธรณีก่อค่ะ ตรงนี้ใครจะติดกระจกฝ้าเป็นห้องอาบน้ำก็ได้นะคะ แยกออกจากกันจะได้ใช้งานพร้อมกันได้ในชั่วโมงเร่งด่วน

ชุดฝักบัวอาบน้ำของ American standard พร้อมที่วางสบู่ค่ะ

ฝักบัวขนาดไม่ใหญ่มาก

กลับออกมาที่โถง อีกด้านนึงเป็น Master Bedroom และห้องนอนเล็กอีกห้องนึงค่ะ

มาดูที่ห้องนอนเล็กกันก่อน หน้าต่าง 2 บานในห้องนี้ถ้าเปิดพร้อมกันจะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ ลม Flow ดี ในวันที่อากาศดีจะไม่เปิดแอร์เลยก็ได้ ช่วยประหยัดไฟแถมลดโลกร้อนด้วย:) แนะนำให้ติดมุ้งลวดด้วยค่ะ ห้องนี้สามารถจัดวางเตียงขนาด Queen size ได้และยังมีที่ว่างเหลือสำหรับวางโต๊ะเล็กๆ หรือโคมไฟข้างหัวเตียงก็ยังได้ ส่วนตรงปลายเตียงไม่ควรเอาตู้ โต๊ะอะไรมาวางแล้วนะคะ เพราะจะทำให้ระยะปลายเตียงลดลง อาจจะทำให้เดินสะดุด แนะนำว่าควรปล่อยโล่งไม่มีอะไรยื่นมาขวางทางเดินจะดีกว่า หรือถ้ากลัวว่าห้องจะน่าเบื่อ ก็ตกแต่งลวดลายน่ารักๆ หรือจะติดกรอบรูปเก๋ๆ บนผนังแทนก็ได้ค่ะ

หลังจากวางเตียงและตู้เสื้อผ้าแล้วก็ยังมีพื้นที่ทางเดินเหลือพอเดินได้สะดวกค่ะ

ระยะข้างเตียงและปลายเตียงค่ะ

Plenary

มีประตูบานเลื่อนคู่บานใหญ่เปิดออกไประเบียง

ระเบียงยาวตลอดห้อง ลดระดับลงไปประมาณ 10 เซนติเมตร พื้นเป็นทรายล้างและกระเบื้อง ระเบียงยาวแต่ไม่กว้างมากสามารถปลูกต้นไม้ได้นิดๆหน่อยๆค่ะ

อีกด้านนึงของห้องจะวางทีวีไว้ชิดผนัง จะได้ระยะดูทีวีเหลือแบบพอดีๆ วางทีวีขนาดประมาณ 50″ ได้ นอกจากนั้นยังแบ่งพื้นที่เป็น Walk-in Closet ได้ ประตูที่เห็นไม่ได้แถมมาให้ด้วยนะ แต่จะเก็บไว้เป็นไอเดียก็ได้ค่ะ

Walk-in Closet มีช่องแสงตรงบริเวณโต๊ะเครื่องสำอางค์ มีไฟส่องสว่างให้ 1 ดวงแนะนำให้ติดเพิ่มค่ะ และนอกจากชุด Built-in ที่เห็นแล้ว ผนังอีกด้านที่ยังว่างอยู่เราอาจจะติดกระจกบานยาวไว้เช็คความเรียบร้อยด้วยก็ได้ค่ะ

ตู้เสื้อผ้าทำออกมาแบบ Built-in เต็มทั้งผนัง

ห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนเปียกส่วนแห้ง อ่างล้างมือมีบ่าวางของอยู่ด้านหลัง ชุดสุขภัณฑ์เหมือนเดิม

ยกวเว้นอ่างล้างมือมีช่องเก็บของมาให้เพิ่มเติม

ตำแหน่งการติดตั้งสายชำระและที่วางกระดาษชำระจะอยู่ทางด้านขวา ถึงจะติดตั้งไว้ฝั่งเดียวกัน แต่มีระยะห่างกันพอสมควร เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่ากระดาษทิชชู่จะเปียกค่ะ

มีช่องแสงบริเวณส่วนเปียกสำหรับระบายอากาศ

ขนาดของฝักบัวขนาดมาตรฐาน สำหรับฝักบัวจะเป็นคนละรุ่นกันนะ ของห้องนี้จะขนาดใหญ่กว่าและดูดีกว่าของห้องน้ำห้องอื่นๆค่ะ

The Plant Exclusique - เจาะลึกโครงการ-1

สวิทช์ไฟหน้าตามาตรฐานทั่วไป

แบบ Plenary เป็นบ้านที่มีหน้ากว้างมากขึ้น พื้นที่ใช้สอย 204 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องอเนกประสงค์ 1 ด้านขวาของตัวบ้านจะเป็นห้องครัว ห้องน้ำ ตัวห้องน้ำชั้นล่างไม่มีส่วนอาบน้ำ ส่วนครัวก็จะแยกเป็นห้องชัดเจนจากครัวสามารถออกไปที่ลานซักล้างด้านหลังบ้านได้ค่ะ

PLENARY plan

จากผัง ทางเข้าบ้านมี 2 ทางคือจากหน้าบ้านและที่จอดรถเมื่อเข้าบ้านไปจะเจอห้องรับแขกที่ได้ระยะดูทีวีเพิ่มขึ้น เชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์และห้องทานอาหาร ด้านขวาของตัวบ้านเป็นห้องครัวและห้องน้ำ ตัวห้องน้ำชั้นล่างก็เป็น Powder Room ไม่มีส่วนอาบน้ำเหมือนกันค่ะ ส่วนครัวก็จะแยกเป็นห้องชัดเจน จากครัวสามารถออกไปที่ลานซักล้างหลังบ้านได้ค่ะ สำหรับห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นนี้ถ้าใครมีสมาชิกครอบครัวเป็นผู้สูงอายุก็สามารถเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้นะ ซึ่งถ้าเพิ่มฟังก์ชั่นห้องนอนเข้ามาแล้ว อย่าลืมติดตั้งส่วนอาบน้ำเพิ่มเติมด้วยล่ะ

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 แนวความคิดการแบ่งพื้นที่คล้ายกับหลังแรกแต่จะกว้างขวางกว่า มีห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำด้านนอก ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่และห้องอเนกประสงค์ ส่วนห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นนี้เราก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอื่นๆได้อีกเช่นกัน อย่างเช่น ห้องพระ, Family Room ให้เด็กๆขึ้นมานั่งเล่นกัน เป็นต้น

ทางเข้าบ้านหลักๆมี 2 ทางเหมือนแบบแรกค่ะ

มาเดินดูรอบๆตัวบ้านกันค่ะ เริ่มจากฝั่งขวานะคะ ตรงนี้จะทำทางเดินเชื่อมระหว่างบ้านตัวอย่าง ของจริงจะมีรั้วและไม่มีสวนมาให้ตามระเบียบ

หลังบ้านมีลานซักล้างที่มีประตูเชื่อมต่อกับครัว ไม่มีกันสาดมาให้นะคะ ถ้ามีการใช้งานส่วนซักล้างบ่อยๆ แนะนำให้ติดกันสาดไว้ด้วยเผื่อฝนตกจะได้ไม่เปียกกันค่ะ

ด้านข้างบ้านฝั่งห้องอเนกประสงค์ ทำเป็นชานยกระดับแบบนี้ไว้เป็นพื้นที่พักผ่อน หรือจะทำแค่ชานพักเล่นระดับลงมานิดๆหน่อย แล้วเปลี่ยนชานเป็นสวนสวยๆ หรือทำบ่อสวยๆไว้นั่งทอดอารมณ์ก็ได้ค่ะ

ประตูหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนคู่ กรอบอลูมิเนียมสีเทาดำ กระจกเขียวตัดแสง ส่วนมือจับประตูและตัวล็อคจะเหมือนกับแบบแรกค่ะ ส่วนพื้นเป็นทรายล้างสลับกระเบื้อง

ห้องรับแขกจะเชื่อมต่อทั้งห้องอเนกประสงค์ และห้องทานอาหาร ตัวบ้านให้ช่องแสงมาเยอะ+การจัดให้ทุกห้องเชื่อมต่อกัน ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับบ้านมากขึ้น ส่วนฝ้าของจริงเป็นฝ้าเรียบธรรมดานะคะ ไม่ได้เป็นฝ้าหลุมอย่างในบ้านตัวอย่าง

พื้นที่วางโซฟาค่อนข้างกว้าง หลังจากวางโซฟาขนาด 4-5 ที่นั่ง แล้วยังมีพื้นที่เหลือวาง Day Bed และโต๊ะรับแขกขนาดค่อนข้างใหญ่ได้ค่ะ ส่วนด้านหลังเป็นช่องแสงเต็มทั้งผนังแบบนี้ถ้าตอนกลางวันนั่งดูทีวีคงจะร้อนน่าดูเลยค่ะ แนะนำให้ติดม่านก็ได้หรือมู่ลี่ก็ดีนะคะ จะได้ปรับระดับของแสงที่เราอยากให้เข้ามาในห้องได้

พื้นที่วางทีวีข้างๆยังมีพื้นที่เหลืออยู่ สามารถติดตั้งตู้เก็บของหรือชั้นหนังสือด้วยก็ได้นะ

ระยะดูทีวีประมาณ 2.5 เมตร ขนาดทีวีได้ถึง 50-60″ เลยค่ะ

ช่องแสงที่ให้มาค่อนข้างเยอะและความเชื่อมกันของพื้นที่แต่ละห้อง ช่วยให้บ้านดูโปร่งขึ้นเยอะมากเลยค่ะ แต่ ถ้าใครไม่ชอบบ้านที่เดินถึงกันหมดแบบนี้ จะกั้นห้องก็ได้นะ ขอแนะนำให้ใช้ประตูบานเลื่อน หรือกั้นห้องแบบไม่เต็มทั้งพื้นที่จะช่วยให้บ้านดูไม่ทึบจนเกินไปค่ะ โดยเฉพาะ ครอบครัวไหนที่มีสมาชิกเป็นผู้สูงอายุ ตัวห้องอเนกประสงค์นี้เราก็สามารถเปลี่ยนเป็นห้องนอนให้ผู้สูงอายุได้นะคะ

ห้องอเนกประสงค์วาง Day Bed พร้อมโต๊ะเล็กไว้นั่งเล่นชมสวน สามารถเปลี่ยนเป็นฟังก์ชั่นอื่นๆที่เหมาะสมกับแต่ละครอบครัวได้เช่น อาจจะเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว

The Plant Exclusique - เจาะลึกโครงการ-1

ครัวจัดเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งมาพร้อมชั้นวางของด้านข้าง มีช่องแสงให้ความสว่างบริเวณโต๊ะทานอาหาร ส่วนถ้าใครอยากจะขยายขนาดโต๊ะก็แนะนำให้ใช้เป็นโต๊ะกลมจะได้ประมาณ 8 ที่นั่งค่ะ

ห้องครัวขนาดใกล้เคียงกันกับแบบแรก

ในห้องครัวมีช่องแสงและการจัดวางเคาท์เตอร์ครัวคล้ายๆกันกับบ้านแบบแรกแต่บ้านหลังนี้จะเห็นท่อที่ใช้ต่อเครื่องซักผ้าได้ชัดเจนกว่า

บริเวณบันไดมีช่องแสงให้ 2 ช่อง ให้แสงสว่างกับตัวบันได ไม่ต้องเปิดไฟตรงนี้ตอนกลางวันค่ะ  ประตูที่เห็นเป็นทางเข้ามาจากที่จอดรถ ด้านข้างบันไดจะเป็นห้องน้ำ ที่ลดระดับลงไป 2 สเต็ปเหมือนแบบที่แล้วค่ะ

ห้องน้ำที่ชั้น 1 ด้านในจะเหมือนกับแบบที่แล้วค่ะ

บันไดเป็นบันไดสำเร็จรูป สีไม้และราวจับสีเข้ากัน

ชานพัก สี่เหลี่ยมซอยเป็นบันไดอีกขั้นนึง ขนาดใหญ่กว่าบ้านแบบที่แล้วนิดหน่อยค่ะ

โถงบันไดรับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานใหญ่ มีไฟส่องสว่างมาให้ 2 ดวง ตอนกลางคืนแสงสว่างอาจจะไม่เพียงพอ แนะนำให้ติดเพิ่มนะคะ

The Plant Exclusique - Plenary21 copy

โถงชั้น 2 ค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะ สามารถวางตู้ หรือชุดโต๊ะไว้นั่งอ่านหนังสือเพิ่มได้ค่ะ

ห้องนอน 1 เป็นห้องนอนเล็ก วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต แล้วยังเหลือระยะปลายเตียงให้วางโต๊ะทำการบ้านได้

ห้องน้ำนี้จะถูกใช้ร่วมกัน 2 ห้องนอนแบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจนเหมือนบ้านแบบ Preen ค่ะ

สุขภัณฑ์จะได้เหมือนบ้านหลังที่แล้ว ยกเว้นตรงอ่างล้างมือ ของห้องนี้จะเป็นอ่างเซรามิกทรงไข่วางบนเคาท์เตอร์ท็อปเซรามิก ทำให้พื้นที่วางของบนเคาท์เตอร์เหลือน้อยลงค่ะ

Master Bedroom จะได้พื้นที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อวางเตียงขนาดคิงส์ไซส์แล้วยังมีพื้นที่ปลายเตียงเหลือให้วาง Bed Bench และโต๊ะวางทีวีได้อีก

ระยะทางเดินที่เหลือหลังตั้งโต๊ะวางทีวี และ Bed Bench

ระยะที่เหลือข้างเตียงสามารถตั้งโต๊ะวางของเล็กๆ หรือจะวางโต๊ะเล็กสูงกว่านี้เพื่อตั้งโคมไฟไว้เผื่ออ่านหนังสือก็ได้ค่ะ

ระเบียงห้องนอนใหญ่กว้างประมาณ 1.5 เมตร สามารถเอาเก้าอี้ออกมาวางไว้นั่งทอดอารมณ์ได้ พื้นเป็นกระเบื้อง 40 x 40 เซนติเมตร สลับทรายล้าง

พื้นที่เหลือข้างเตียงอีกด้านจัดเป็นชุดเก้าอี้และโต๊ะกลม แต่ถ้าใครคิดว่าฟังก์ชั่นนี้ไม่จำเป็น จะจัดเป็นตู้เก็บของเตี้ยๆก็ได้ จะได้ไม่บังช่องแสงที่มีมาให้ค่ะ

เนื่องจากห้องนี้ได้ทั้งพื้นที่หน้าบ้านยาวไปถึงหลังบ้านจึงสามารถแบ่งพื้นที่ให้เป็น Walk-in Closet ได้ด้วยค่ะ

ผนังด้านนึง Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบเต็มผนัง มีช่องแสงอยู่ด้านข้าง แนะนำให้ติดม่านบังสายตาหรือถ้าขี้ลืม แนะนำให้ติดสติ๊กเกอร์ขุ่นไปเลยค่ะ เพื่อความปลอดภัย

ผนังอีกด้านนึงเป็นห้องน้ำในห้องนอนใหญ่

ห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน สุขภัณฑ์เป็นของ Mogen และ American Standard กระจกได้เป็นบานใหญ่เต็มผนังเลยค่ะ

อ่างล้างมือของห้องนี้แตกต่างจากห้องอื่นๆที่ดูมา โดยจะเป็นอ่างล้างมือของ Mogen วางไว้บนเคาท์เตอร์สำเร็จรูปจาก Mogen อีกที มีที่วางของด้านข้างและใต้เคาท์เตอร์ค่ะ

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ระยะนั่งพอดีๆไม่คับแคบ ติดตั้งสายชำระและ ที่แขวนกระดาษทิชชู่ไว้ทางขวา ระยะห่างพอโอเค

ส่วนเปียกของห้องนี้จะมีความพิเศษกว่าห้องอื่นๆเพราะมีพื้นที่ระเบียงสำหรับวางต้นไม้ แนะนำว่าต้นไม้ที่เอามาลงควรเป็นไม้ประดับที่ไม่ต้องการแดดและการดูแลมากนะคะ ตรงส่วนนี้ถ้าใครเห็นว่าไม่จำเป็นอยากใช้งานได้เต็มพื้นที่ก็สามารถทุบตรงนี้ออกและทำเป็นห้องน้ำทึบไว้วางอ่างอาบน้ำลงไปเลยก็ได้นะคะ

ส่วนอาบน้ำจะกั้นไว้เป็นห้องเปิด สามารถติดกระจกกั้นเป็นห้องอาบน้ำแยกต่างหากได้นะคะฝักบัวเหมือนของห้องนอนใหญ่ในแบบ Preen ค่ะ

กลับมาที่โถงอีกครั้ง จากมุมนี้จะเห็นพื้นที่โถงเหลืออีกเยอะ เราสามารถใช้ทำประโยชน์ได้อีกมากค่ะ

ห้องอเนกประสงค์ที่ชั้น 2 บ้านตัวอย่างจะจัดเป็นห้องอ่านหนังสือ แต่เราสามารถเปลี่ยนเป็นฟังก์ชั่นอื่นๆก็ได้เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องกิจกรรมในครอบครัว หรือจะเป็นห้องพระก็เหมาะค่ะเพราะตำแหน่งห้องอยู่หน้าบ้านพอดี ในส่วนของช่องแสงที่ห้องนี้จะมี 2 จุด บานทางขวาเป็นบานฟิก ส่วนบานเลื่อนคู่ด้านหน้าสามารถเปิดออกไประเบียงหน้าบ้านได้ด้วยค่ะ

ห้องนอนห้องสุดท้ายตกแต่งสไตล์หนุ่มเรียบร้อยสิงห์มอเตอร์ไซค์วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต หรือ 5 ฟุตก็ยังไหว

ระเบียงของห้องนี้ก็เน้นแนวยาวไม่เน้นกว้างใช้ฟังก์ชั่นอะไรไม่ค่อยได้เหมือนกันค่ะ

ยาวไปจนถึงห้องอเนกประสงค์ที่เราไปดูกันมาเมื่อกี้ค่ะ

อีกด้านนึงทำเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in และราวแขวนเสื้อผ้าได้ประมาณนี้ค่ะ

ระยะที่เหลือข้างเตียงก็ยังสามารถวางโต๊ะโคมไฟเล็กๆได้นะ

ส่วนระยะที่เหลือปลายเตียงสามารถวางตู้เก็บของได้ด้วย

เนื่องจากยังพอมีพื้นที่ตรงปลายเตียงเหลืออยู่บ้าง จึงสามารถวางโต๊ะวางทีวีได้แต่ไม่มากพอสำหรับวางตู้เสื้อผ้านะคะ ถ้าใครไม่อยากให้มีอะไรเกะกะทางเดินก็ใช้เป็นทีวีแบบแขวนก็ได้ หรือใครไม่ดูทีวีชอบอ่านหนังสือจะติดชั้นวางหนังสือแบบลอย ข้างๆก็วางโต๊ะอ่านหนังสือทำงานสักตัวก็ได้นะคะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 8 September 2015 

  • Preen ที่ดิน  52.30 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 167 ตารางเมตร ราคา 7.9 ล้านบาท หรือ 151,051 บาท/ตร.วา
  • Praise ที่ดิน  52.30 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 182 ตารางเมตร ราคา 8.16 ล้านบาท หรือ 156,022 บาท/ตร.วา
  • Plenary ที่ดิน  60.1 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 204 ตารางเมตร ราคา 9.25 ล้านบาท หรือ 153,910 บาท/ตร.วา
  • Patrician ที่ดิน  64.50 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 216 ตารางเมตร ราคา 10.2 ล้านบาท หรือ 158,139 บาท/ตร.วา

  • จองและทำสัญญา 50,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 105,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง(ในโครงการ) 25 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
  • ค่าส่วนกลาง(ภาระจำยอม) 5 บาท /ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ The Plant Exclusique พัฒนาการ ตั้งอยู่ในพฤกษา อเวนิว ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่รวมที่อยู่อาศัยแนวราบนับ 10 โครงการไว้ในพื้นที่เดียวกัน ตัวพฤกษาอเวนิว ก็จะตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 38 ทำเลของโครงการนี้ถึงแม้จะอยู่ไกลเมืองออกมาหน่อย แต่ก็ยังเดินทางได้สะดวกเพราะมีเส้นทางหลักๆให้เลือกใช้หลายเส้นทางอย่าง ถนนเพชรบุรี ถนนพระราม 9 ซึ่งสามารถเชื่อมไปยังโซนในเมืองอย่าง อโศก ทองหล่อ พร้อมพงษ์ และเอกมัยได้ นอกจากนั้นจากตัวโครงการเองก็ยังมีเส้นทางลัดหลายเส้นทางใช้เลี่ยงรถติดได้ เช่น ซอยถาวรนครด้านหลังโครงการที่สามารถลัดไปถนนศรีนครินทร์ได้ และซอยอ่อนนุช 39 ที่สามารถเป็นทางลัดไปถนนอ่อนนนุช(สุขุมวิท 77)ได้ นอกจากนั้นยังมี ตรงสามแยกพัฒนาการ 25 เป็นอุโมงค์ไปออกหลังรามคำแหง เอาไว้ไปเที่ยว The Nine ได้ หรือซอยพัฒนาการ 30 ทะลุที่ไปยังอ่อนนุชได้

เนื่องจากตัวพฤกษาอเวนิวเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่มาก มีเนื้อที่กว่า 400 ไร่ การจะได้มาซึ่งที่ดินในเมืองผืนใหญ่ขนาดติดถนนเป็นไปได้ยากมาก และจะยิ่งเกิดขึ้นได้ยากมากขึ้นในอนาคต โครงการเลยต้องขยับเข้ามาในซอยลึกหน่อย เพราะฉะนั้นการเดินทางโดยใช้รถจึงเหมาะสมกว่าสำหรับโครงการนี้ค่ะ อาจจะมีปัญหาการจราจรติดขัดบ้างในชั่วโมงเร่งด่วน

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถส่วนตัวนั้นอาจจะไม่สะดวกนัก อย่างที่บอกไปแล้วว่าตัวโครงการอยู่ในซอยที่ค่อนข้างลึกไม่ได้อยู่ในระยะที่จะเดินไหวแถมไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่านเข้ามาในโครงการเลย เพราะฉะนั้นถ้าจะเข้าโครงการก็ต้องใช้บริการพี่วินหน้าปากซอยหรือไม่ก็ Taxi เท่านั้น ถ้าจะออกจากโครงการไปปากซอยก็ต้องเรียก Taxi หรือไม่ก็พี่วินที่กลางซอย แนะนำว่าโทรเรียกเข้ามารับจะดีกว่าค่ะ โดยเฉพาะเวลากลางค่ำกลางคืนแล้วยิ่งอันตราย แต่คนที่อยู่ในโครงการระดับนี้ส่วนใหญ่มักจะใช้รถยนต์ส่วนตัวกันอยู่แล้ว ประเด็นนี้จึงไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ค่ะ

ส่วนสภาพแวดล้อม และ วิวทิวทัศน์โดยรอบโครงการจะค่อนข้างได้เปรียบเนื่องจากภายในพฤกษา อเวนิวจะมีเฉพาะโครงการที่พักอาศัย ไม่ต้องคอยกังวลว่าพื้นที่ข้างๆหมู่บ้านเราจะแปรสภาพเป็นอะไรอย่างอื่นหรือไม่  และโครงการนี้เป็นแนวราบจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีตึกสูงขึ้นมาบดบังทัศนียภาพ ความอุดมสมบูรณ์จะอยู่ช่วงต้นซอย และ ติดถนนใหญ่ซะเป็นส่วนใหญ่ บนถนนพัฒนาการก็มีร้านอาหารอร่อยๆอยู่เยอะพอสมควร มีตลาดให้เลือกซื้อของสดของแห้งมาประกอบอาหารที่บ้าน

วัสดุที่โครงการให้มาตามมาตรฐานทั่วๆไปคือ พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. และลามิเนต ผนังฉาบเรียบทาสี วงกบอลูมิเนียมสีเทาดำ กระจกเขียวตัดแสง ระยะพื้นถึงฝ้า 2.45 และ 2.75 เมตร บันไดพื้นไม้ยางพารา มีห้องเก็บของใต้บันได ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำ สุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen และ American Stand อุปกรณ์ในห้องน้ำต่างๆใช้ของ Cotto และ American Standard ส่วนหน้าต่างและประตูดูแข็งแรงดีและให้มาเยอะมากเนื่องจากการออกแบบจะเน้นช่องแสงด้วย นอกจากนั้นยังให้ปั๊มน้ำ+ถังสำรองน้ำ(บนดิน) วอลเปเปอร์ ฉากกั้นห้องอาบน้ำชั้นบน และจัดสวนให้ด้วย แต่จะเป็นไปตามมาตรฐานของบ้านแต่ละ Type นะคะ การเก็บงานทำได้เรียบร้อยดีในส่วนของบ้านตัวอย่าง แต่สำหรับบ้านจริงต้องรอดูกันอีกต่อไปค่ะ

ตัวโครงการนี้ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ทำออกมาได้ดีเหมาะสมกับครอบครัวขนาดกลาง ในเรื่องการจัดพื้นที่ใช้สอยภายใน ห้องที่เป็นส่วนกลางอย่างห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และห้องทานอาหารจะไม่ทำผนังกั้น สามารถบริหารพื้นที่ ต่อเติมกันได้เองเลยค่ะ ส่วนจำนวนฟังก์ชั่นห้องนอนกับห้องน้ำจะมีจำนวนเท่ากันหมดทุกแบบ งที่แตกต่างกันคือจำนวนห้องอเนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้น และขนาดของห้อก็เพิ่มขึ้นตามขนาดบ้านไปด้วย

เนื่องจากวันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทางครงการยังไม่ได้สร้าง Club House เลยของพิจารณาจากภาพฟังก์ชั่นที่ทางโครงการให้มานะคะ โครงการนี้มีสวนสาธารณะให้ 1 จุดขนาดประมาณ 395  ตารางวา อยู่บริเวณช่วงกลางของโครงการ มีสระว่ายน้ำระบบคลอรีนแยกสระผู้ใหญ่กับสระเด็กขนาดรวม 10×15 เมตร ส่วน Club House มีให้ 1 จุดบริเวณหน้าโครงการ ส่วนค่าส่วนกลางจะต้องจ่าย 2 ส่วนนะคะ คือส่วนกลางภายในตัวโครงการ และอีกส่วนที่ต้องเสียเพิ่มคือพื้นที่ถนนสาธารณะทางเข้าโครงการตั้งแต่ข้ามคลองมา ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ภาระจำยอมที่ใช้ร่วมกับโครงการอื่นด้วยค่ะ

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 8 – 10 ล้านบาท, 8 September 2015

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก ทางลัดหลายเส้น แต่เข้าซอยลึก 
  • ความปลอดภัย 7.75/10 – รั้วกั้นไม้กระดกและประตูบานเลื่อนไฟฟ้า รปภ.หน้าหมู่บ้าน รั้วสูง 3 เมตรพร้อมเหล็กแหลม
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – แบบสวย การจัดพื้นที่เหมาะสมลงตัว เอื้อกับการปรับแต่ง
  • วัสดุ 7.5/10 – พื้นแกนิตโต้ และลามิเนต สุขภัณฑ์ของ Mogen, American Standard และ Cotto
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – พื้นที่สีเขียวดูจากตัว Master Plan ให้ค่อนข้างน้อย แต่ถนนกว้างดีค่ะ
  • สาธารณูปโภค 7/10 – ให้มาค่อนข้างน้อย และตัว Club House เลยขอให้คะแนนเท่านี้ไปก่อนนะคะ 
  • 7.53 / 10.00 

BOTTOM LINE

The Plant Exclusique พัฒนาการ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่เหมาะกับครอบครัวสมัยใหม่ขนาดกลางที่ไม่ได้ต้องการบ้านเดี่ยวบนที่ดินใหญ่มากนัก อาจจะมีผู้สูงอายุเป็นสมาชิกในครอบครัวด้วย ทำงานอยู่ในย่านเพชรบุรี ทองหล่อ รามคำแหง  เน้นการเดินทางโดยใช้รถยนต์เป็นหลัก ต้องการความสงบและความปลอดภัย มีงบประมาณ 8-10 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 55,000-82,000 บาท

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )