รีวิวฉบับที่ 853 … สวัสดีครับวันนี้พาไปรีวิวคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่กับโครงการ The Niche Mono บางนา เฟส 2 จากเสนา เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น มีสองอาคารพร้อมส่วนกลาง 2 ชั้น ห่างจากถนนบางนา-ตราดประมาณ 170 เมตร ใกล้เซ็นทรัลบางนา เราไปชมรายละเอียดพร้อมๆกันได้เลยครับ
Fact @ 3 June 2015
- The Niche Mono Bangna (เดอะนิช โมโน บางนา)
- บริษัท เสนา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางนา
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 293 ยูนิต ; อาคาร C 132 ยูนิต และอาคาร D 161 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 23 ยูนิตที่อาคาร D
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 60%
- ที่ดินประมาณ 3-0-98.8 ไร่
- 1 Bedroom 30 – 41 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.8 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.8 ล้านบาทหรือประมาณ 63,400 บาทต่อตารางเมตร
- http://www.sena.co.th/th/condominium/thenichemono-bangna
- Call Center : 1775
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.664903, 100.637204
แผนที่จากทางโครงการครับ
โครงการ The Niche Mono บางนาเฟส 2 ตั้งอยู่ในซอยที่ติดกับถนนบางนา-ตราด ซึ่งเป็นซอยที่โครงการสร้างขึ้นเอง อยู่ระหว่างซอยบางนา-ตราด 40 และ 42 ตัวโครงการห่างจากถนนบางนา-ตราดประมาณ 170 ม. เป็นระยะที่กำลังดีครับจะเดินเข้าออกก็ได้โดยที่ไม่ต้องใช้รถ ข้อดีคือไม่ได้ติดถนนใหญ่ซึ่งเป็นเส้นที่ค่อนข้างพลุกพล่าน อีกทั้งยังมีทางด่วนอีกด้วย เข้ามาในซอยก็ช่วยลดปัญหาเรื่องเสียงและมลภาวะทางอากาศได้บ้างครับ
การเดินทางถนนบางนา-ตราดสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก ห่างจากสี่แยกบางนาประมาณ 3.4 กม. เป็นแยกที่เชื่อมกับถนนสุขุมวิทสามารถแยกทางไปสำโรง หรือเข้าเมืองไปก็ได้ครับ นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นทางด่วนไปเลยก็สะดวกครับ หรือถ้าจะไปฝั่งชลบุรี พัทยา ก็ไปกลับรถแล้วก็ยิงยาวไปอย่างเดียวครับ หรือขึ้นทางด่วนไปก็ได้เช่นกัน สะพานกลับรถห่างจากโครงการประมาณ 1.1 กม. นอกจากนี้ยังมีเส้นศรีนครินทร์ที่สามารถจะเข้าและออกเมืองได้เช่นกันครับ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถตัวโครงการมีบริการรถตู้ส่งที่ BTS บางนา และจอดที่เซ็นทรัลบางนา แล้ววนกลับมาที่โครงการ คิดค่าบริการ 20 บาทครับ หรือเดินออกมาหน้าโครงการมีป้ายรถเมล์อยู่หน้าปากซอยบางนา-ตราด 42 มีรถหลายสายวิ่งผ่านขับ Taxi ก็รอขึ้นที่หน้าโครงการได้เลยมีบริการเรียกรถให้
ความอุดมสมบูรณ์ย่านนี้ถึงแม้จะอยู่แถบชานเมืองแต่ก็ยังมีเกาะห้างสรรพสินค้าที่พึ่งพาได้ ในระยะเดินได้ประมาณ 540 ม. มี 7-11 ใกล้กันมีสะพานข้ามฝั่งไปยังเซ็นทรัลบางนา, Big C ได้ เป็นระยะที่กำลังดีครับเดินได้ไม่เกิน 1 กม. ในอนาคตจะมีห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ที่ชื่อว่า Bangkok Mall อยู่ใกล้กับสี่แยกบางนาเลยห่างจากโครงการประมาณ 3.4 กม. ครหรือไม่ก็ไปแถวเส้นศรีนครินทร์มีซีคอนสแควร์ พาราไดซ์พาร์ค และตลาดนัดรถไฟ ซึ่งมีของกินของใช้ขายเยอะพอสมควรครับ
ตอนนี้เราอยู่บนถนนบางนา-ตราด มุ่งหน้าชลบุรี ซ้ายมือมีวินรถตู้ ไปศรีราชา บ่อวิน พัทยา ไปสายใต้ ครับ ส่วนข้างหน้าซ้ายมือที่เห็นป้ายแดงๆอนาคตจะเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่มีชื่อว่า Bangkok Mall ครับ
เราจะตรงไปเรื่อยๆครับ ใครจะวิ่งเส้นในก็ได้ครับไปออกทางขนาดแถวๆโรงพยาบาลไทนครินทร์
จากนั้นจะเจอปั๊ม Caltex ซ้ายมือ
เลยมาหน่อยจะเจอเซ็นทรัลบางนาซ้ายมือ
ติดกันเป็น Big C
เลย Big C มานิดเดียวก็จะเป็นโรงพยาบาลไทยนครินทร์ ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ฝั่งตรงข้าม เราต้องไปกลับรถข้างหน้าครับ
จากนั้นซ้ายมือจะเจอ Ample Tower ตึกสูงๆที่เห็นในรูป
เลยมาหน่อยจะเจอทางแยกไปเทพารักษ์ และศรีนครินทร์ครับ สามารถกลับรถไปเข้าโครงการได้ครับวนหลายรอบหน่อย แต่เดี๋ยวผมจะพาไปกลับรถอีกจุด จากตรงนี้ไปประมาณ 1 กม.
จากนั้นจะเจอป้ายสะพานกลับรถ 1 กม.
ซ้ายมือจะเจอ Index Livingmall ครับ
ชิดขวาไว้ครับเตรียมขึ้นสะพานกลับรถ
ขึ้นสะพานกลับรถตรงนี้
ลงสะพานกลับรถจากนั้นก็ขับไปตรงช่วงฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลไทยนครินทร์ครับ
ลงมาจะเจอสะพานลอย ตรงไปเรื่อยๆ ครับ
ตอนนี้อยู่ตรงแยกที่เราผ่านมาจาปกฝั่งขวาครับ
จากนั้นจะเจอโครงการบ้านกลางกรุง Home Office Park ครับ
จากนั้นจะเจอป้ายรถเมล์ซ้ายมือซึ่งอยู่ห่างจากปากซอยโครงการประมาณ 50 ม.
จากนั้นจะเจอซอยบางนา-ตราด 42
มองเข้าไปจะเห็นโครงการไกลๆซ้ายมือครับ
จากนั้นก็จะเจอซอยโครงการครับ
ติดกับซอยทางเข้าโครงการเป็นโรงเรียนนานาชาติมอนเตสซอรี่ แบงค็อก เดี๋ยวผมพาเดินไปจนถึงสะพานลอยที่จะข้ามไปฝั่งเซ็นทรัลได้
ด้านหน้าโรงเรียนนานาชาติมอนเตสซอรี่ แบงค็อกครับ
จากนั้นจะเจอปากซอยบางนา-ตราด 40
เลยมาเป็นปากซอยบางนา-ตราด 38 มีศูนย์โตโยต้า ถัดไปเป็นโรงพยาบาลบางนาห่างจากโครงการประมาณ 410 ม.
ถัดจากโรงพยาบาลบางนามาหน่อยก็จะถึงสะพานลอยข้ามไปฝั่งเซ็นทรัลบางนาได้ครับจากปากซอยโครงการถึงตรงนี้ประมาณ 540 ม.
กลับมาที่ปากซอยโครงการต่อครับเดินเข้าไปอีกประมาณ 170 ม.ก็จะถึงโครงการครับ ซอยนี้เป็นซอยของโครงการที่ทำขึ้นมาเองครับ
เลยปากซอยเข้ามาหน่อยจะเจอป้อมยามส่วนแรกมีไม้กระดก
ผ่านเข้ามา พื้นที่ริมถนนสองฝั่งทางโครงการแจ้งว่าลูกบ้านสามารถจอดรถได้ครับแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย พื้นที่ซ้ายมือด้านในกำแพงเป็นที่ที่ของโครงการครับอนาคตคงมีตึกขึ้นอีกแน่นอน
จากปากซอยเข้ามาประมาณ 170 ม.ก็จะเห็นตัวโครงการครับอยู่ซ้ายมือ ต้องบอกก่อนว่าโครงการตอนนี้มี 2 เฟส วันนี้ผมมาทำรีวิวเฟส 2 นะครับ
ทางเข้าโครงการอยู่ซ้ายมือข้างหน้าครับเลี้ยวเข้าโครงการได้เลย จะมีป้อมยามอยู่
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ป้ายรถรถเมล์ ประมาณ 220 m
- โรงพยาบาลบางนา ประมาณ 410 m
- 7-11 ประมาณ 540 m
- เซ็นทรัลบางนา ประมาณ 560 m
- Big C ประมาณ 600 m
- โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ประมาณ 700 m
ตัวโครงการรายล้อมไปด้วยที่อยู่อาศัยแนวราบ และพื้นที่ว่างเปล่าสลับกันครับ โดยทิศเหนือติดกับพื้นที่ว่างเปล่าซึ่งเป็นพื้นที่ของ เสนา อนาคตก็คงเห็นโครงการอื่นเกินขึ้นครับแต่ก็คงอีกหลายปี ตอนนี้วิวยังโล่งอยู่มองเห็นจนถึงถนนบางนาตราดเลย เลือกชั้นไหนก็มีผลเท่ากันครับ ทิศใต้ติดกับโครงการ The Niche Mono บางนา เฟส 1 สูง 8 ชั้น ฝั่งนี้โดน Block วิวทั้งหมดเป็นตึก C แต่ตอนนี้ขายหมดแล้วครับ เหลือแต่ตึก D ทิศตะวันออกติดกับซอยบางนา-ตราด42 ติดกับพื้นที่ว่างเปล่าและบ้าน 2 ชั้นเลือกชั้น 3 ขึ้นไปกำลังดีครับ ส่วนทิศตะวันตกติดกับพื้นที่ว่างเปล่าครับ อนาคตอาจมีโครงการอื่นเกิดขึ้นก็ได้ครับ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
Master Plan โครงการ เริ่มจากทางเข้าออกโครงการจะอยู่ติดกับถนนซอยที่โครงการทำขึ้นมาครับ มีป้อมยามและไม้กระดก ผ่านเข้ามาจะเจอ Lobby มี 2 ชั้น แยกส่วนจากตัวตึกทั้ง 2 ตึก จากนั้นเข้ามาฝั่งซ้ายจะเป็นอาคาร C ฝั่งขวาจะเป็นอาคาร D ครับ จอดรถได้ที่ชั้น 1 ทั้งหมดมีทั้งจอดในร่มและกลางแจ้งครับ โดยเสียค่าจอดเดือนละ 300 บาท แต่ถ้าอยากจอดฟรีต้องไปจอดตรงซอยทางเข้าโครงการครับ สวนหย่อมอยู่ฝั่งอาคาร C ที่เห็นพื้นที่เขียวๆนะครับ
แปลนชั้น 2 อาคาร C คือฝั่งซ้าย ส่วน D คือฝั่งขวาครับ เป็นลักษณะตัว L ประกบเข้าหากัน ชั้นนี้จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัย ทั้งโครงการจะเป็นห้อง 1 Bedroom ทั้งหมด ต่างกันตรงขนาดและตำแหน่งฟังก์ชั่น ตึก C นับได้ 19 ยูนิต ตึก D นับได้ 23 ยูนิต ลิฟท์มีอาคารละ 2 ตัว
แปลนชั้น 3 เหมือนกับชั้น 2 แต่ห้อง Type E อาคาร C จะหายไป 1 ห้องครับ ชั้น 3 อาคาร C จะเชื่อมกับชั้น facility ชั้นบนสุด มีทางเดินเชื่อมออกมาจากตัวตึกเลยซึ่งสะดวกกว่าอาคาร D ครับ มีสระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนสที่ชั้นนี้
ส่วนชั้น 4-8 รูปแบบตำแหน่งห้องเหมือนเดิมครับ
เริ่มกันตั้งแต่ทางเข้า ขวามือคือป้อมยาม มีไม้กระดก ส่วนหน้าจะเป็น Facility ครับ
ทางเข้าออกแยกฝั่ง ซ้ายมือคือทางเข้า Lobby
ใช้ระบบ Key Card ระยะใกล้ทั้งเข้าและออกครับ
ผ่านเข้าไปซ้ายมือจะเป็นทางเข้า Lobby ขวามือเป็นอาคาร C ตรงเข้าไปเป็นอาคาร D ครับ จอดรถได้ที่ชั้น 1 ครับ
ผมเดินตรงเข้ามาด้านในอาคาร D ก่อนครับ ถนนจะเป็นแบบเดินรถทางเดียว บังคับเลี้ยวซ้ายครับ
เลี้ยวมาซ้ายมือจะเป็น Lobby
เริ่มจอดรถได้เลยใต้อาคารครับ
รถตู้ที่จอดอยู่คันนี้เป็นบริการของโครงการครับจะวิ่งไปส่งที่ BTS บางนา และเซ็นทรัลบางนา แล้วกลับมาที่โครงการ ค่าบริการ 20 บาท/เที่ยวครับ
เลยเข้ามาซ้ายมือจอดรถได้ ขวามือเป็นทางเข้าอาคาร D ครับ
ผ่านเข้ามาเลี้ยวซ้ายออกไปจอดลานจอดรถด้านนอกได้ หรือเลี้ยวขวาจอดใต้อาคารครับ
มีตู้หยอดน้ำให้ซ้ายมือ
ลานจอดรถกลางแจ้ง
อีกมุมครับ ขวามือวนเข้าใต้อาคารได้
เข้าไปใต้อาคารก็จะเป็นที่จอดรถในร่ม
ค่าจอดรถที่นี่เก็บเดือนละ 300 บาทครับ ได้ห้องละ 1 คัน รวมจอดซ้อนคันทั้งหมดคิดเป็น 60%
วนออกมาก็จะเจออาคาร C ครับ จะเห็นว่าเป็นที่ลานจอดรถกลางแจ้งแบ่งช่องจอดมาให้
เลี้ยวขวาก็จะเจอทางออกครับ
เดี๋ยวผมพาไปใต้อาคาร C ครับ ผ่านป้อมยามเข้ามาเลี้ยวขวา
ขวามือคือป้อมยามครับ ตรงเข้าไปจะเป็นที่จอดรถ
เลยมาหน่อยซ้ายมือจะเป็นทางเข้าอาคาร C
ทางเข้าเป็นประตูบานกระจกครับ เข้าไปจะเจอโถงลิฟท์
เลยมาเลี้ยวซ้ายก็จะเป็นลานจอดรถเช่นกัน หรือตรงออกไปซ้ายมือเป็นลานจอดกลางแจ้ง
ติดกับลานจอดกลางแจ้งจะมีส่วนหย่อมให้ครับ
พื้นจะโรยด้วนหิน รอให้ต้นไม้โตอีกหน่อยก็คงร่มรื่นดี
ริมสุดด้านในเป็นที่ตั้งของศาลพระภูมิครับ
เดี่ยวผมพาเข้าไปดูด้านในอาคารบ้าง ประตูทางเข้าทั้งสองอาคารจะเป็นบานกระจก ต้องใช้ Key Card ในการเข้าออก
เปิดเข้ามาจะเจอโถงลิฟท์ มีบานกระจกติดตายเพื่อเพิ่มช่องแสงให้โถงลิฟท์ ถ้ารอลิฟท์นานๆคงร้อนหน่อยเพราะไม่มีช่องระบายอากาศเลย ลิฟท์มีให้ตึกละ 2 ตัว
ลิฟท์ของ Schindler เป็นระบบสัมผัส
ภายในลิฟท์ครับ
แผงควบคุมเป็นระบบสัมผัส
ขึ้นมาชั้นพักอาศัยทุกชั้นจะปูกระเบื้องตรงทางเดินทั้งหมด
ส่วนที่ติดกับลิฟท์ด้านข้างจะมีกระจกบานเลื่อน ช่วยให้มีแสงและลมระบายอากาศได้
โถงทางเดินหน้าห้องพักกว้าง 1.5 ม. มีไฟดาวน์ไลท์ให้ครับ
กลับลงมาหน้าทางเข้า Lobby ผนัง Lobby จะเป็นกระจก 3 ด้านเลย มี 2 ชั้นครับ บนชั้น 2 เป็นสระว่ายน้ำ
เปิดเข้ามาจะเจอชุดโซฟาตั้งเรียงกันอยู่ Lobby จะเป็น Double Volume สูงถึงชั้น 2
มองขึ้นไปจะเห็นชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องสมุดครับ ชั้นล่างฝั่งซ้ายคือห้อง Mail Box มีทางเดินเข้าไป ฝั่งขวาคือห้องน้ำครับ
ตู้ Mail Box เรียงกันสองฝั่ง ด้านในสุดมีช่องแสงบานใหญ่
ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำแยกชาย หญิงมาให้
ด้านในห้องน้ำ มีชุดอ่างล้างหน้า และชักโครกอยู่ด้านในสุด
ฝั่งตรงข้ามมีโถปัสสาวะครับ
ตรงกลางระหว่างห้อง Mail Box และ ห้องน้ำมีประตูทางเดินเพื่อออกไปบันไดขึ้นชั้น 2
เปิดออกมาเจอโถงทางเดิน ซ้ายมือคือห้องนิติบุคคลครัย ในสุดเป็นประตูออกไปยังลานจอดรถ
ตรงข้ามห้องนิติเป็นบันไดขึ้นชั้น 2
เดินตามบันไดขึ้นไปตรงชานพักจะมีช่องแสงให้
ชั้น 2 จะเป็นห้องสมุด ผนังห้องเป็นกระจกรอบด้านทั้งหมด ประตูทางเข้าอยู่ซ้ายมือต้องใช้ Key Card นะครับ
เดินเข้ามาด้านในจะเจอโซฟาจัดไว้ตามมุม วางมาให้หลายชุดครับ พร้อมโคมไฟ ชั้นหนังสืออยู่ตรงกลางแต่จัดหนังสือมาให้น้อยไปหน่อย
อีกฝั่งด้านในสุดก็เป็นชั้นหนังสือครับ ฝั่งขวาจะเป็นระเบียงกันตก ไม่ได้ปิดทึบ
มองลงไปชั้น 1 ตรง Lobby จะเห็นแบบนี้
เดินขึ้นมาชั้นบนสุดจะเป็นสระว่ายน้ำครับ ประตูอยู่ด้านขวามือครับ
ประตูส่วนนี้ก็ต้องใช้ Key Card ด้วยนะครับ
เปิดออกมาจะเจอ Deck ริมสระว่ายน้ำแบบนี้
เดินมาฝั่งซ้าย มีทางเดินเชื่อมเข้าอาคาร C ครับ แต่อาคาร D ไม่มีนะต้องมาเข้าทาง Lobby ฝั่ง
ปลายสระริมทางเดินเข้าอาคาร C จะเป็นสระเด็กครับ
ฝั่งตรงข้ามวางชุดโซฟามา 2 ชุด
เดินตรงมาถัดจากโซฟาซ้ายมือเป็นห้องน้ำแยกชาย หญิง ถ้าเดินตรงไปจะเข้าอาคาร C ครับ
ประตูทางเข้าอาคาร C จะเป็นบานกระจกใช้ Key Card ในการเข้าออก
ทางเดินเข้าห้องน้ำ ในสุดเป็นห้องน้ำหญิง ขวามือเป็นห้องน้ำชาย ซ้ายมือเป็นห้องเก็บของ
ในห้องน้ำชาย
มีโถปัสสาวะ และชุดอ่างล้างหน้า
อีกฝั่งเป็นห้องอาบน้ำ 1 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้องครับ
เดินไปอีกฝั่งครับ สระว่ายน้ำที่นี่เป็นระบบเกลือ ขนาด 22 x 4 ม. ลึก 1.2 ม. ฝั่งขวาเป็นห้องฟิตเนสครับ
มีเตียงนอนริมสระมาให้ 6 เตียง
ปลายสุดมีที่ล้างตัว ขวามือเป็นประตูทางเข้าห้องฟิตเนสครับ
เปิดเข้ามาเจอเครื่องออกกำลังกายวายเรียงกันแบบนี้ มีทั้งหมด 6 เครื่อง ผนังเป็นกระจกทั้งห้อง วิวมองไปยังอาคาร D ครับ พื้นเป็นไม้ลามิเนต
อีกฝั่งวางไว้ 2 เครื่อง วิวมองไปยังสระว่ายน้ำ
ถ่ายมุมสระว่ายน้ำให้ดูอีกมุมครับ
วิวทิศตะวันตกของอาคาร D มองออกไปหน้าโครงการครับติดกับซอยโครงการ และพื้นที่ว่างเปล่าครับอนาคตไม่รู้จะมีโครงการอื่นขึ้นมั้ย
วิวทิศตะวันตกเฉียงใต้ครับยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าอยู่ ถนนที่เห็นคือซอยของโครงการครับ
วิวทิศใต้ของอาคาร D ตรงส่วนฐานตัว L มองลงมาจะเห็นสระว่ายน้ำแบบนี้ครับ
วิวทิศใต้ของอาคาร C ติดกับ The Niche Mono บางนา เฟส 1
วิวทิศใต้ของอาคาร C ฝั่งซ้ายคืออาคาร C ส่วนฝั่งขวาคือเฟส 1 ครับ โดน Block วิวเต็มๆ แต่อาคาร C ขายหมดแล้วครับ
ทิศตะวันออกจะติดกับซอยบางนา-ตราด42 และพื้นที่ว่างเปล่าครับ ถัดไปจะเห็นโครงการบ้านกลางกรุง Home Offie Park
ทิศตะวันออกเฉียงใต้จะมีบ้าน 2 ชั้น และพื้นที่ว่างเปล่าครับ
ทิศเหนือมองไปยังถนนบางนา-ตราด ติดกับพื้นที่ว่างเปล่ามองออกไปเห็นโรงพยาบาลไทยนครินทร์ครับ
พื้นที่ว่างเปล่าฝั่งทิศเหนือเป็นพื้นที่ของ เสนา อนาคตก็คงเป็นโครงการใหม่อีกครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 22 x 4 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
- สวนหย่อม
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 73 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก C 66 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก D 80.5 : 1
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันประมาณ 60%
- ระบบ CCTV / Access Card
โครงการนี้มีห้องทั้งหมด 6 แบบ ทุก Type เป็นแบบ 1Bedroom ทั้งหมด ต่างกันตรงขนาดและตำแหน่งฟังก์ชั่นการใช้งานครับ ขายแบบ Fully Furnished ส่วนห้องตัวอย่างที่นำมาให้ดูวันนี้คือ Type A 30 ตร.ม. และ B 34 ตร.ม.
เปิดประตูเข้าไปจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ซึ่งมีพื้นที่เกือบจะเท่าห้องนอน ติดกันเป็นห้องนอนมีกระจกบานเลื่อนกั้นให้ ส่วนครัวและห้องน้ำอยู่ฝั่งซ้ายครับ ได้เป็นครัวเปิด แนะนำให้กั้นเพิ่มครับจะได้ไม่ส่งกลิ่นรบกวนด้านนอกครับ
เริ่มจากประตูเข้าห้องเป็นสีขาว ป้ายห้องอยู่ซ้ายมือ
มือจับเป็นคันโยก ใช้ระบบ Digital door lock แบบ 2 ระบบ คือจะใช้ Key Card หรือกุญแจก็ได้ครับ
โครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished จะได้แบบที่เห็นในภาพทั้งหมดครับ หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ามาอย่างเดียวก็เข้าอยู่ได้เลย เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนของห้องนั่งเล่นก่อน ในสุดเป็นห้องนอน ซ้ายมือเป็นห้องครัวและห้องน้ำครับ พื้นห้องได้เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.4 ม. ผนังได้ฉาบเรียบทาสีครับ
ชุดโซฟาที่ได้พร้อมโต๊ะกลาง ขนาด 2 ที่นั่งมีพื้นที่เหลือด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง ใครจะทำตู้เก็บของเพิ่มก็ยังได้นะครับ ซ้ายมือที่เห็นเป็นหน้าต่างบานเลื่อน 2 บาน จะมีเฉพาะห้องมุมนะครับ ขวามือมีตู้เก็บรองเท้าติดมาให้ด้วย
ฝั่งตรงข้ามวางชั้นทีวีมาให้ พร้อม TV 32 นิ้วของ Toshiba ครับ ระยะดูทีวีประมาณ 2.65 ม.
ชั้นทีวี เป็นบานเปิด 2 บาน เก็บของจุกจิกได้
ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนได้ประตูกระจกบานเลื่อน 2 บาน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องครัวครับ
เปิดเข้ามาได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต
ใต้เตียงมีลิ้นชัก 2 อัน
พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 90 ซม.
พื้นที่ปลายเตียงถึงตุ้เสื้อผ้าเหลือประมาณ 40 ซม. ถึงผนังห้องเหลือประมาณ 1.1 ม.
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 90 ซม.
ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3 ม. ซ้ายมือเป็นตู้เสื้อผ้า แอร์ 1 ตัวติดปลายเตียงของ Daikin
ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเลื่อนกระจก 2 บาน
ภายในแบ่งเป็นชั้นเก็บของ
ในสุดมีหน้าต่างบานเลื่อนให้ 2 บาน
วิวชั้น 4 มองออกมาเห็นสระว่ายน้ำเต็มๆครับ
กลับเข้ามาด้านในไปดูส่วนครัวกันต่อ ครัวจะได้เป็นครัวเปิดครับ แนะนำให้กั้นเพิ่มไปเลยเวลาทำอาหารจะได้ไม่ส่งกลิ่นเข้ามาด้านใน แต่โครงการก็น่าจะแถมมาให้เลยระผมว่า
ได้ชุดครัวตามแบบนี้เลยครับ ตู้เย็นที่ได้เป็นของ Toshiba ครับ พื้นส่วนครัวปูกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ทำความสะอาดได้ง่ายหน่อย
ตู้เป็นบานเปิด พร้อมลิ้นชักเก็บของ เก็บอุปกรณ์ครัวได้พอสมควรครับ
ได้เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนของ Hafele และ Sink ล้างจานแบบหลุมเดียวไม่มีที่พักจานของ Hafele เช่นกันครับ
ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง วางกับข้าวได้ 2-3 อย่างกำลังดี
ห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนครัว
เปิดเข้ามาเจอชุดอ่างล้างหน้าก่อน
ด้านหลังกระจกเป็นตู้เก็บของ เปิดออกมามีแบ่งชั้นมาให้ อ่างล้างหน้าเป็นของ Kohler ครับ
ถัดไปเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมสายชำระของ Kohler เช่นกัน ที่ใส่กระดาษทิชชู่อยู่ขวามือหยิบได้สะดวก
อีกฝั่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ไม่ได้แถมฉษกกั้นให้ต้องติดเพิ่มเองนะครับ ได้ฝักบัวแบบปรับระดับสูงต่ำได้ มีที่วางสบู่มาให้แค่ก้อนเดียว น่าจะเจาะช่องมาสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำด้วย คงต้องติดชั้นเพิ่มครับ ขวามือติดราวแขวนผ้ามาให้ แต่วางตำแหน่งผิดไปหน่อย ตำแหน่งนี้เวลาใช้งานจริงน้ำจะกระเด็นโดนผ้าเปียกหมดนะครับ
ขนาดฝักบัวกำลังพอเหมาะมือ
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 0.80 x 1.16 ม.
ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็นระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 บาน
พื้นที่ระเบียงขนาด 1.5 x 1.39 ม.
วางท่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้งมาให้ ด้านบนมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบ วางเครื่องซักผ้าตรงนี้ได้ทั้งฝาบนและฝาหน้าครับ
บนเพดานแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์มา 1 ตัว เป่าลมเข้าแนะนำให้ติดกริลเป่าออกด้านนอกเพิ่มครับ ผนังห้องนอนจะได้ไม่ร้อน ไฟระเบียงได้เป็นดาวน์ไลท์
สวิทช์ไฟ และปลั๊กไฟของ Bticino ทั้งหมด
เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน วางชุดรับประทานอาหารไว้ในห้องนั่งเล่น ติดกันเป็นครัวซึ่งเป็นครัวเปิดเหมือนห้องแรก ห้องน้ำมีประตูเข้าออกได้ 2 ทางคือจากห้องนั่งเล่น และจากในห้องนอนได้ครับสะดวกเวลากลางคืนไม่ต้องเดินออกมาด้านนอกเพื่อเข้าห้องน้ำครับ ส้วนห้องนอนได้พื้นที่ค่อนข้างเยอะครับไปดูห้องจริงกันครับ
เดินเข้าห้องมาเจอส่วนของห้องนั่งเล่นก่อน ซ้ายมือวางโซฟาและโต๊ะกินข้าว ขวามือเป็นห้องน้ำ ในสุดเป็นห้องครัวและห้องนอนครับ
ชุดโซฟาที่ได้ขนาด 2 ที่นั่ง ขวามือวางโต๊ะขนาด 2 ที่นั่ง ถ้าเลื่อนโซฟาชิดผนังฝั่งซ้าย ก็นั่งกินข้าวหันหน้าเข้าหากันได้ครับ ลองจัดดูแล้วแต่ความชอบครับ ผนังส่วนนี้จะได้เป็นวอลเปเปอร์แบบนี้เลย
ฝั่งตรงข้ามวางชั้นวางทีวีพร้อมทีวี 32 นิ้ว ของ Toshiba มาให้ ระยะดูทีวีประมาณ 3.4 ม. ซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องน้ำครับ
ภายในห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ของ Kohler ขวามือเป็นพื้นที่ส่วนเปียก
พื้นที่ส่วนเปียกต่างจากห้องแรกคือเจาะช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ครับ
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 0.80 x 1.16 ม.
ประตูห้องน้ำมี 2 ประตูนะครับ ฝั่งซ้ายเข้าจากห้องนั่งเล่น ส่วนบานที่เห็นข้างหน้าเข้าได้จากในห้องนอน
ธรณีประตูห้องน้ำทำมาไม่สูงมากเวลาทำความสะอาดระวังเลอะเทอะด้านนอกด้วยนะครับ
เราไปดูห้องนอนกันต่อครับได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 บานซ้ายมือ ส่วนขวามือเป็นห้องครัวครับ
เข้ามาในห้องนอนได้เตียงขนาด 5 ฟุตครับ โตีะวางของปลายเตียงที่เห็นก็ได้นะครับ
พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.7 ม. โต๊ะข้างเตียงที่เห็นก็ก็ได้นะครับ ขวามือเป็นทางเดินเข้าห้องน้ำ
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 75 ซม.
ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3.4 ม. แอร์ได้ Daikin 1 ตัว ติดปลายเตียง
หน้าต่างเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน
ฝั่งตรงข้ามซ้ายมืแวางตู้เสื้อผ้ามาให้ ส่วนประตูสีขาวคือประตูห้องน้ำครับ สะดวกเวลากลางคืนไม่ต้องเดินออกไปนอกห้อง
พื้นที่ข้างตู้เสื้อผ้ายังเหลือใครจะทำเพิ่มก็ยังได้ครับ
ออกมาดูห้องครัวต่อได้เป็นครัวเปิดไม่ได้แถมฉากกั้นมาให้ ชุดครัวได้เหมือนห้องแรกครับ ที่วางตู้เย็นอยู่ในสุด
ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน
พื้นที่ระเบียงขนาด 1.6 x 1.16 ม.
วางท่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้งมาให้ ด้านบนมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบ
เหนือศรีษะแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์เป่าลมเข้าด้านใน แนะนำให้ติดกริลเป่าออกด้านนอกเพิ่มครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 3 June 2015
- 1Bedroom Type A อาคาร D ชั้น 2 เนื้อที่ 29.98 ตร.ม. ราคา 1.942 ล้านบาท หรือ 64,800 บาท/ตร.ม. (ราคาโปรโมชั่น 1.665 ล้านบาท)
- 1Bedroom Type C อาคาร D ชั้น 4 เนื้อที่ 41.59 ตร.ม. ราคา 3.015 ล้านบาท หรือ 72,500 บาท/ตร.ม. (ราคาโปรโมชั่น 2.592 ล้านบาท)
- 1Bedroom Type B อาคาร D ชั้น 6 เนื้อที่ 34.46 ตร.ม. ราคา 2.667 ล้านบาท หรือ 77,411 บาท/ตร.ม. (ราคาโปรโมชั่น 2.238 ล้านบาท)
- 1Bedroom Type C อาคาร D ชั้น 8 เนื้อที่ 33.21 ตร.ม. ราคา 2.586 ล้านบาท หรือ 77,868 บาท/ตร.ม. (ราคาโปรโมชั่น 2.147 ล้านบาท)
- Fully Furnished
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- Shuttle Van ไปกลับ BTS บางนา
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 25,000 บาท
- ค่ากองทุน 400 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือนในปีแรก ; ปีที่ 2 ปรับเป็น 45 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเล The Niche Mono บางนา เป็นทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากแหล่งที่มีทั้งสาธารณูปโภคและสาธารณูปการครบครัน ในระยะที่เดินได้มีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า สำนักงานราชการ ถนนเส้นหลักอย่างบางนา-ตราดที่เดินทางเข้าออกเมือง และไปพัทยา ชลบุรีได้ไม่ยาก พร้อมกับจุดขึ้น-ลงทางด่วน แต่ก็เทียบไม่ได้กับทำเลในเมือง หรือทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้ามากกว่า ซึ่งผมคิดว่าก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนครับ แต่อนาคตเราคงได้เห็นย่านนี้เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ สังเกตได้จากห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบ แนวสูง ที่มีให้เห็นเรื่อยๆ
การเดินทางโดยใช้รถเข้าออกเมืองทำได้ไม่ยากโดยเส้นหลักคือถนนบางนา-ตราด หรือจะเลือกใช้ทางด่วนขอยังได้ อีกเส้นทางคือเส้นศรีนครินทร์ซึ่งก็เป็นเส้นที่สำคัญอีกเส้นครับ ใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้เช่นกัน ช่วงเวลาเร่งด่วนการจราจรค่อนข้างติดขัดครับ ทั้ง 2 เส้นเลย จุดกลับรถ ถ้ามาจากฝั่งเซ็นทรัลกลับรถได้ 2 ที่คือตรงจุดตัดกับเส้นศรีนครินทร์ และเลยจากจุดตัดกับเส้นศรีนครินทร์มา 1 กิโลเมตร ซึ่งระยะทางพอๆกันครับ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถโครงการมีบริการ Shuttle Van ไปกลับ BTS บางนา และเซ็นทรัล ค่าบริการ 20 บาท มีบริการเรียกรถ Taxi ให้ รอขึ้นหน้าโครงการได้เลย ปากซอยมีป้ายรถเมล์ มีรถวิ่งผ่านหลายสาย ไม่มีรถก็อยู่โครงการนี้ได้ครับ แต่ถ้ามีรถก็จะสะดวกกว่า เอ๊ะ!ยังไง
วัสดุของที่ได้มีดีมีด้อยปนๆกันมา แต่ค่อนข้างไปทางดีครับ ได้ระบบ Digital door lock พื้นห้องได้เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง ชั้นวางทีวีพร้อมทีวี 32 นิ้ว ของ Toshiba เตียงนอน 5 ฟุต แอร์ Daikia 1 ตัว ตู้เสื้อผ้า ชุดเคาน์เตอร์ครัว Hob & Hood และ Sink ล้างจานของ Hafele สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Kohler
การออกแบบโครงการนี้เน้นพื้นที่ค่อนข้างกว้างครับ และใช้งานได้จริง พื้นที่แต่ละส่วนในห้องตัวอย่างจะเห็นว่าเมื่อวางเฟอร์นิเจอร์ไปแล้วยังมีพื้นที่เหลือพอสมควร ยังเพิ่มตู้หรือโต๊ะได้อีกครับ ฟังก์ชั่นแต่ละส่วนแยกกันอย่างชัดเจน แต่ตรงระเบียงห้องยังเล็กไปหน่อยครับ ส่วนภาพรวมถือว่าใช้ได้
สาธารณูปโภคมีอาคารแยกส่วนออกมา 2 ชั้น ซึ่งมี Lobby ที่ชั้น 1 ห้องสมุดชั้น 2 บนชั้น 2 เป็นห้องฟิตเนส และสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 22 x 22 เมตรครับ มีสวนหย่อมที่ชั้นล่างฝั่งอาคาร C มีมาให้ครบตามมาตรฐานของคอนโด Low Rise ครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 63,400 บาท/ตร.ม., 3 June 2015
- ทำเล 7/10 – อยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียน
- เดินทางด้วยรถ 7/10 – เข้าออกเมืองทำได้ไม่ยาก หักคะแนนตรงจุดกลับรถ
- ไม่ใช้รถ 7/10 – มีบริการ Shuttle Van ปากซอย 42 มีป้ายรถเมล์
- วัสดุ 7.5/10 – ให้มาเยอะพอสมควร และได้ของดีบางชิ้น
- แบบ 7/10 – แม้จะมีบางจุดยังไม่ลงตัวอยู่บ้าง แต่โดยรวมทำได้ค่อนข้างดี
- สาธารณูปโภค 7/10 – มีมาให้ครับตามมาตรฐาน
- MAIN CLASS
- 7.08 / 10.00
BOTTOM LINE
The Niche Mono บางนา เหมาะสำหรับคนที่ทำงานแถวบางนา สมุทรปราการ หรือต้องไปทำงานแถวชลบุรี พัทยา บ้าง เดินทางโดยส่วนตัวเป็นหลัก ใช้รถสาธารณะบ้าง มีงบประมาณระดับ 2-4 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,000 – 25,000 บาท/เดือน
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )