รีวิวฉบับที่ 941 วันนี้เราจะพาไปดูโครงการ The Kith Lite บางกะดี – ติวานนท์ คอนโดแถบชานเมืองราคาต่ำกว่าล้าน จาก Sena Development คอนโด Low Rise 7 ชั้น 2 อาคาร ในพื้นที่เดียวกันกับโครงการ Sena Avenue ซึ่งเป็นโครงการโฮมออฟฟิศ บนถนนติวานนท์ ตัวโครงการมีห้องทั้งหมด 2 Types ในราคาเบาๆเริ่มต้น 819,000 บาท ไปดูกันเลยค่าา
Fact @ 6 October 2015
- The Kith Lite Bangkadi – Tivanon (เดอะคิทท์ ไลท์ บางกะดี – ติวานนท์)
- บริษัท เสนาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
- SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
- คอนโด Low Rise 7 ชั้น 2 อาคาร 348 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 115 คันคิดเป็น 33% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 38%
- ที่ดินประมาณ 4-0-0 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : กุมภาพันธ์ 2558
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ธันวาคม 2558
- Type A 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 28.30 ตารางเมตร
- Type B 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 36.30 ตารางเมตร
- ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 819,000 บาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 31,500
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 20,910 – 33,500 บาทต่อตารางเมตร
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-501-2710, 086-378-7789
- Call Center : 1775 ต่อ 27
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.988393, 100.552271
แผนที่จากทางโครงการค่ะ โครงการ The Kith Lite บางกะดี – ติวานนท์ ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ ฝั่งมุ่งหน้าปากเกร็ด โดยในแผนที่จะแสดงให้เห็นว่าโครงการอยู่ใกล้กับสวนอุตสาหกรรมบางกะดี, ตลาดพูนทรัพย์, ตลาดวัดมะขาม และสถานีรถไฟฟ้า MRT ที่ใกล้ที่สุด คือ สถานีปากเกร็ดและสถานีรังสิต เป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีแดงเข้มซึ่งเป็นเส้นทางในอนาคตค่ะ
โครงการ The Kith Lite บางกะดี – ติวานนท์ ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์มุ่งหน้าปากเกร็ด ทำเลโครงการอยู่ใกล้นิคมบางกะดี รอยต่อกรุงเทพ – ปทุมธานีเรียกได้ว่าเป็นชานเมืองแท้ๆ ด้วยความที่อยู่ใกล้นิคมบางกะดีจึงทำให้แถวๆนี้ มีรถใหญ่วิ่งผ่านไปมาเยอะ ทำให้บนถนนใหญ่มีเสียงค่อนข้างดังค่ะ พื้นที่รอบๆส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ มีทั้งหมู่บ้านดั้งเดิมและเพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่อยู่หลายแห่งค่ะ
เส้นทางหลักที่จะใช้เข้าถึงโครงการจะเป็นถนนติวานนท์ ซึ่งถนนเส้นนี้เป็นถนน 6 เลนที่วิ่งยาวขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่กรุงเทพมหานคร ผ่านอำเภอเมืองนนทบุรี ปากเกร็ด และสิ้นสุดที่จังหวัดปทุมธานี ถนนเส้นนี้จึงเป็นเส้นทางหลักที่ใช้เข้าออกกรุงเทพ – ปทุมธานี สามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็น ถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนสรงประภา, ถนนรังสิต-ปทุมธานี และ ถนนวิภาวดีรังสิต เพราะฉะนั้นการเดินทางด้วยรถยนต์จึงถือว่าสะดวกเลยค่ะ ถ้ามาจากในเมืองก็สามารถมาทางถนนแจ้งวัฒนะ ลอดใต้อุโมงค์ผ่านห้าแยกปากเกร็ด เข้าเส้นติวานนท์มุ่งหน้าปทุมธานี หรือถ้ามาจากฝั่งรังสิตก็วิ่งมาเส้นรังสิต – ปทุมธานี มุ่งหน้าปทุมธานีเลี้ยวซ้ายเข้าถนนติวานนท์ที่แยกบ้านกลางค่ะ
หรือถ้าหากใครอยากหนีรถติดบริเวณห้าแยกปากเกร็ดก็สามารถวิ่งมาทางแจ้งวัฒนะมุ่งหน้าสะพานพระราม 4 แล้วเข้าซอยแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 39 จะสามารถวิ่งผ่านเมืองทอง แล้วมาออกถนนประชาชื่น – ปากเกร็ดแล้วตรงไปจะมาออกเส้นติวานนท์มุ่งหน้าปากเกร็ด ที่แยกสวนสมเด็จ แล้วเลี้ยวขวาเพื่อเข้าเส้นติวานนท์มุ่งหน้าปทุมไปโครงการค่ะ
ส่วนจุดขึ้นลงทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น จุดขึ้นลงทางด่วนอุดรรัถยาโดยออกจากโครงการวิ่งไปบนถนนติวานนท์มุ่งหน้าปทุมธานีไปประมาณ 2.4 กิโลเมตร ถึงบริเวณโรงพยาบาลเซนต์คาร์ลอสจะมีทางแยกเลี้ยวขวาขับไปบนถนนรังสิต – ปทุมธานี ขับไปประมาณ 1.3 กิโลเมตรจะถึงทางแยกเลี้ยวซ้าย ถ้าต้องการใช้ทางด่วนออกนอกเมืองให้เลี้ยวซ้าย แต่ถ้าหากต้องการใช้ทางด่วนเข้าเมืองให้เลี้ยวขวาลอดใต้ทางด่วน รวมระยะทางจากโครงการถึงทางขึ้นทางด่วนขาเข้าเมืองประมาณ 5.2 กิโลเมตร และขาออกจากเมืองประมาณ 4.4 กิโลเมตร
ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์อาจจะลำบากหน่อยค่ะเพราะมีรถเมลล์ผ่านแค่สายเดียวคือสาย 90 ปทุมธานี-นนทบุรี ซึ่งนานๆทีจะมาซักคันหนึ่ง หน้าโครงการก็ไม่มีพี่วิน ดังนั้นการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวที่สะดวกที่สุดตอนนี้คงไม่พ้นเรียกใช้บริการพี่ Taxi ค่ะ ซึ่งค่อนข้างสะดวกเพราะผ่านหน้าโครงการบ่อย ถ้าจะเข้าเมืองก็นั่งมาลงแถวห้าแยกปากเกร็ด, เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ หรือที่เดอะมอลล์งานวงศ์วานก็จะมีรถตู้และรถเมลล์หลายสายเลยค่ะ แต่ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสายสีชมพู และแดงเข้มเสร็จการเดินทางอาจจะสะดวกขึ้นกว่านี้ แต่คงต้องรออีกหลายปีหน่อยค่ะ
ความอุมสมบูรณ์ของบริเวณโครงการในระยะเดินมีน้อย แต่ถ้าขับรถขึ้นไปทางปทุมอีกหน่อยก็ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร เพราะมีทั้ง ตลาดพูลทรัพย์, ตลาดน้ำวัดมะขาม, รพ.เซนต์คาร์ลอส และ ม.ปทุมธานี แต่ถ้าหากอยากเดินห้างอาจจะต้องขับออกไปไกลหน่อยบนเส้นรังสิต – ปทุมธานี จะมีฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, เซียร์รังสิต, Tesco Lotus และย่านม.ธรรมศาสตร์, ม.กรุงเทพและ ม.รังสิต หรือจะขับลงมาทางแยกปากเกร็ดก็จะมีความอุมสมบูรณ์ค่อนข้างสูงเพราะมีทั้งตลาดสดศรีปากเกร็ด, ตลาดสดพิชัย, รพ.วิภารามปากเกร็ด ขยับมาอีกหน่อยบนเส้นแจ้งวัฒนะจะมี BigC Extra, HomePro และเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะแต่ขอบอกไว้นิดนึงว่าการจราจรแถวนี้ค่อนข้างคับคั่ง รถติดเป็นกิจวัตรเลยค่ะ
การเดินทางไปโครงการของเราวันนี้จะเริ่มจากถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณหน้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เลี้ยวขวาที่ห้าแยกปากเกร็ดแล้วลอดอุโมงค์ออกไปยังเส้นติวานนท์ วิ่งตามทางผ่านแยกสวนสมเด็จ แยกปู่โพธิ์ แล้วกลับรถเข้าโครงการค่ะ ไปลุยกันเลย
เริ่มต้นเดินทางจากถนนแจ้งวัฒนะมุ่งหน้าสะพานพระราม 4 บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะอยู่ทางซ้ายมือนะคะ
เลยห้างเซ็นทรัลแจ้งมาหน่อยก็จะเห็นโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ทางซ้ายมือ สองฝั่งแถวนี้ก็จะมีทั้งร้านอาหารยิบย่อย โชว์รูมรถ และบ้านพักอาศัยส่วนตัวในซอยเหมือนพื้นที่ชานเมืองปกติ
ขับตามทางไปสักพักจะมีเส้นทางให้ออกไปถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ดซึ่งจะไปสิ้นสุดที่ถนนสามัคคี ส่วนสะพานที่เห็นด้านบนนั้นคือถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ดที่วิ่งมาจากถนนติวานนท์ค่ะ
ตรงไปเรื่อยๆมุ่งหน้าห้าแยกปากเกร็ด เราจะผ่าน Home Pro แวะช็อปของแต่งบ้านได้นะคะ
ผ่าน BigC Extra
ก่อนถึงห้าแยกปากเกร็ดจะเจอสะพานข้ามแยกทางขวามือ ที่จะเป็นถนนชัยพฤกษ์ เส้นทางไปยังสะพานพระราม 4 ค่ะ ส่วนเราจะยึดเส้นทางติวานนท์-ปากเกร็ดทางฝั่งซ้ายไว้นะคะ
ขวามือคือทางไปสะพานพระราม 4 อย่าเผลอขึ้นสะพานนะคะ ไม่งั้นไปยาวเลย
ขับตรงมาเรื่อยๆเห็นป้ายบอกทางทางซ้ายมือ เราเตรียมชิดขวาได้เลยค่ะ เราใกล้จะถึงห้าแยกปากเกร็ดกันแล้ว
ถึงห้าแยกปากเกร็ดเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนติวานนท์
เมื่อเข้าสู่ถนนติวานนท์ ขับมาสักพักจะเจอโรงพยาบาลกรุงไทยทางซ้ายมือ
เห็นป้ายบอกทางไปปทุมธานีก็ขับตรงยาวไปเลยค่ะ จะเห็นว่าบนถนนสายนี้จะเริ่มมีรถบรรทุก รถส่งของขนาดใหญ่วิ่งกันแล้ว
ขับมาสักพักจะมีทางเบี่ยงออกซ้ายให้ ตรงนี้จะเบี่ยงออกไปเป็นถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ดเพื่อไปออกแจ้งวัฒนะค่ะ ส่วนเราก็ยังจะตรงไปเหมือนเดิม
ขวามือข้างศูนย์โตโยต้าจะเป็นถนนติวานนท์ – ปากเกร็ด 36 ที่สามารถลัดไปออกแจ้งวัฒนะได้อีกเช่นกันค่ะ
ขับมาเรื่อยๆจะเห็นวัดสลักเหนือในซอยติวานนท์ – ปากเกร็ด 31 ทางซ้ายมือ ใครอยากไหว้พระธรรมบุญก็แวะเข้าไปได้นะคะ
ถึงแยกสวนสมเด็จซ้ายมือไปบางบัวทอง ขวามือไปดอนเมือง ส่วนสะพานที่เห็นด้านบนคือสะพานข้ามแยกสวนสมเด็จ ส่วนเราตรงผ่านแยกไปเลยค่า
ผ่านแยกสวนสมเด็จมานิดนึงจะเห็น Tesco Lotus อยู่ทางซ้ายมือ
ตรงมาอีกหน่อยจะเห็นวัดอีกแห่งชื่อวัดโพธิ์ทองบนด้านซ้ายมือ สองข้างทางเร่ิมค่อนข้างเงียบเหงานะคะ แต่ว่าบนถนนเส้นนี้ทั้งซ้าย-ขวามือก็จะเห็นหมู่บ้านจัดสรรทั้งจากเจ้าใหญ่และเจ้าถิ่นเยอะมาก แต่กลับไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้างให้ได้เดินเล่นเท่าไร
ขับมาเรื่อยๆพอเห็นป้ายนี้ก็ชิดขวาขึ้นสะพานเลยค่ะ ถ้าเราออกซ้ายจะเป็นถนนที่ไปบางบัวทองนะ
สะพานที่เราข้ามมานี้คือสะพานข้ามแยกปู่โพธิ์ค่ะ
เราตรงลงจากสะพาน ส่วนทางซ้ายมือคือทางวนเพื่อกลับไปเส้นบางบัวทองอีกเส้นนึงค่ะ
ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอสามแยกไฟเขียวไฟแดง ซึ่งแยกขวาไปคือทางเข้าสวนอุตสากรรมบางกะดี
ตรงไปเรื่อยๆจะเห็นโครงการอยู่ทางขวามือ ก็ชิดขวาเตรียมตัวกลับรถเข้าโครงการได้เลยค่า
ทางเข้าโครงการจะอยู่ตรงกับที่กลับรถพอดี สามารถเลี้ยวเข้าโครงการได้เลย ที่เห็นเป็นที่เป่าลมโค้งๆสีน้ำเงิน แต่ค่อนข้างอันตรายถ้าใครขับไม่ถนัดแนะนำให้เลยไปหน่อย เพื่อไปกลับรถใต้สะพานตรงบริเวณรพ.เซ็นคาร์ลอสจากตรงนี้ประมาณ 2 กิโลมตร เพื่อเข้าโครงการนะคะ
เลี้ยวซ้ายเข้ามา ถึงที่หมายแล้วว ด้านหน้าของสำนักงานขายค่ะ
บรรยากาศด้านในสำนักงานขายค่ะนอกจากพนักงานขายที่คอยต้อนรับเราแล้วก็จะมีตัวโมเดล 2 ตัว เป็นตัวโชว์ผังโครงการ The Kith Lite บางกะดี – ติวานนท์ และ Sena Avenue นอกจากนั้นก็ยังมีผังห้องและห้องตัวอย่างอีก 2 ห้องค่ะ
บริบทโดยรอบโครงการจะมีทางเข้าหลักมาจากถนนติวานนท์ ฝั่งตรงข้ามถนนของโครงการจะเป็นที่ดินเปล่าแปลงไม่ใหญ่มาก เยื้องๆกันมีหมู่บ้านแนวราบโครงการใหญ่ที่เปิดอยู่ก่อนแล้ว ทิศเหนือของโครงการติดถนนข้างๆกับทางเข้าโครงการจะมีอพาร์ทเมนท์สูงกี่ชั้นนะ เป็นอาคารที่สร้างมานานแล้วพอสมควร ส่วนที่ลึกเข้าไปหน่อยจะเป็นอาคารขนาดเล็กสูง 1 ชั้น ทิศตะวันตก คือฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นถนนและที่ดินเปล่าและโครงการ ของพฤกษา ทางทิศใต้ ติดกับที่ดินว่างเปล่าของเสนาเอง เป็นพื้นที่ที่รอการพัฒนาเป็นโครงการในอนาคต ส่วนทางทิศตะวันออก จะติดกับบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ความสูง 2 ชั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- สวนอุตสาหกรรมบางกะดี 600 เมตร
- ตลาดน้ำวัดมะขาม 3 กิโลเมตร
- ทางด่วนอุดรรัถยา 3.4 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยปทุมธานี 3.2 กิโลเมตร
- Riverdale golf club 1.3 กิโลเมตร
- ตลาดพูนทรัพย์ 2 กิโลเมตร
- เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ 14.2 กิโลเมตร
- เดอะมอลล์งามวงศ์วาน 18.8 กิโลเมตร
ภาพจำลองบรรยากาศ หน้าตาโดยรวมของโครงการ The kith lite บางกะดี-ติวานนท์ เป็นคอนโด Low Rise 7 ชั้น 2 อาคาร คือ A1 และ A2 รวมจำนวนห้องพักทั้งโครงการ 348 ยูนิต การวางอาคารทั้ง 2 จะไม่ห่างจากกันเท่าไหร่จึงไม่มีความได้เปรียบเสียเปรียบกันเรื่องการเข้าถึง ทั้ง 2 อาคารจะวางชิดแนวที่ดินโดยหันด้านหน้าอาคารเข้าถนนหลักของโครงการ ส่วนที่จอดรถของโครงการจะอยู่บนถนนด้านหน้าและด้านข้างอาคาร ไม่มีที่จอดรถในร่มนะคะ
ตอนนี้โครงการเปิดขายแค่อาคาร A1 เท่านั้นค่ะ ส่วนอาคาร A2 จะเปิดขายเมื่อสร้างเสร็จประมาณเดือนพฤจิกายน – ธันวาคม
ส่วนกลางอย่าง Club House, สระว่ายน้ำผู้ใหญ่ สระว่ายน้ำเด็ก, ห้องซาวน่าและห้องออกกำลังกายจะใช้ร่วมกันกับโครงการ Sena Avenue โดยเก็บค่าบริการแยกต่างหาก ไม่รวมในค่าส่วนกลางค่ะ
ประตูทางเข้าของโครงการจะมีพี่ยามพร้อมประตูกั้นไม้กระดก ซึ่งลูกบ้านจะได้สติ๊กเกอร์แปะหน้ารถเพื่อใช้เข้าออกโครงการค่ะ ส่วนการสัญจรในโครงการจะเป็นการเดินรถทางเดียวโดยมีวงเวียนเป็นที่จอดรถอยู่บริเวณหน้าอาคาร A1 ค่ะ
ตัวอาคารจะเป็นแบบเรียบๆง่ายๆ ไม่หวือหวา ใช้สีขาว ฟ้า และน้ำเงินหม่นๆ เป็นสไตล์ของ SENA ค่ะถ้าใครเคยเห็นคอนโด Low Rise การออกแบบรูปด้านก็จะเป็นแนวๆนี้ ต่างกันแค่สีสันที่ใช้เท่านั้น
ด้านข้างก็เรียบๆ มีปล่องที่ยื่นออกมาด้านข้างของอาคารคือช่องบันไดหนีไฟค่ะ
ด้านหลังอาคาร วิวที่เห็นด้านหลังจะเป็นบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีอยู่ก่อนแล้วค่ะ
ตัว Club House บริเวณทางเข้าโครงการที่ใช้ร่วมกันกับโครงการ Sena Avenue มีสระว่ายน้ำระบบเกลือแยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่
ตัวอาคาร Club house 2 ชั้น ด้านในมี Fitness, ห้องซาวน่า และห้องอเนกประสงค์ค่ะ
แปลงที่ดินของโครงการ The Kith Lite จะอยู่บนที่ดินผืนใหญ่ของ Sena Development โดยผืนที่ดินแปลงใหญ่นี้จะแบ่งออกเป็นโครงการ Sena Avenue ซึ่งเป็นโครงการโฮมออฟฟิศอยู่ด้านหน้าและ The Kith Lite บางกะดี – ติวานนท์อยู่ลึกเข้ามาด้านใน ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะใช้ทางเข้าหลักเดียวกันแล้วมาแยกทางเข้าแต่ละโครงการด้านใน โดยทางเข้าส่วนคอนโดจะต้องผ่านพื้นที่โครงการ Sena Avenue วิ่งมาบนถนนภาระจำยอมผ่านพื้นที่ของโครงการ Sena Avenue เข้ามาประมาณ 170 เมตร จะถึงที่ป้อมยามซึ่งอยู่บริเวณด้านขวาของพื้นที่ส่วนกลางค่ะ เมื่อเข้ามาภายในตัวโครงการแล้วถนนจะเป็นแบบเดินรถทางเดียวโดยมีวงเวียนเป็นที่จอดรถกลางถนนอยู่ที่หน้าอาคาร A1 ค่ะ
เนื้อที่ของโครงการ The Kith Lite จะอยู่ที่ประมาณ 4 ไร่ แบ่งเป็น 2 อาคาร คืออาคาร A1 และ A2 การวางผังของทั้ง 2 อาคารจะหันหน้าเข้าหาถนนในโครงการ ส่วนพื้นที่จอดรถทั้ง 2 อาคารจะใช้ร่วมกันสามารถจอดรถยนต์รวมซ้อนคันได้ 135 คัน และรถจักรยานยนต์ 14 คัน โดยที่จอดรถจะใช้การแบ่งซองบนถนน ไม่มีที่จอดรถในอาคาร อาจจะต้องระวังนิดนึงเวลาถอยเข้าถอยออกนะคะ ซึ่งที่จอดรถ 135 คันเทียบกับ 348 ยูนิตแล้วค่อนข้างน้อยไปหน่อยค่ะ เพราะการเดินทางมาที่ตัวโครงการหลักๆก็ต้องใช้รถส่วนตัวกันอยู่แล้ว นอกจากในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสายสีแดงและชมพูสร้างเสร็จ ปริมาณการใช้รถอาจจะลดลงบ้างค่ะ
สำหรับส่วนกลางของตัวโครงการ มีแค่พื้นที่สีเขียวที่ลงต้นไม้ไว้ให้รอบตัวอาคารเท่านั้นค่ะ ส่วนตัว Club House จะต้องใช้ร่วมกันกับ Sena Avenue ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายแยกต่างหาก สำหรับคนที่เข้ามาใช้งาน ไม่รวมอยู่กับค่าส่วนกลางนะคะ (ซึ่งตอนนี้รายละเอียดราคายังไม่ออกมา เดี๋ยวถ้ามีรายละเอียดออกมาแล้วจะมาอัพเดทเพิ่มเติมให้นะคะ) การจัดการแบบนี้มีข้อดีตรงที่ค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายทุกๆเดือนจะมีอัตราการเพิ่มน้อยเพราะไม่ต้องรับผิดชอบตัว Club House ถ้าคนที่ไม่ได้ใช้ Club House หรือสระว่ายน้ำ เป็นประจำอยู่แล้วก็ถือว่าลดภาระค่าใช้จ่ายลงไปค่ะ
ผังชั้น 1 ดูง่ายๆค่ะ เมื่อเราเข้าอาคารมาจะเจอส่วนของโถงทางเข้า ที่มีโถงลิฟต์และบันไดหนีไฟ ลิฟต์โดยสารมีให้ 2 ตัว อัตราส่วน 87 : 1 ไม่หนาแน่นเท่าไหร่ค่ะ ส่วนบันไดหนีไฟมี 3 จุด ตรงข้างโถงลิฟต์และภายนอกอาคารทางปีกซ้ายและขวา ในชั้นนี้จะมีห้องพักทั้งหมด 24 ยูนิต โดยมีเฉพาะห้อง Type A นะคะ
ผังอาคารในชั้น 2-7 จะมีความแตกต่างจากชั้น 1 ตรงที่จะมีห้อง Type B เพิ่มเข้ามาตรงบริเวณที่เป็นโถงทางเข้า ทำให้มีห้องเพิ่มเป็น 25 ยูนิตต่อชั้น ส่วนห้อง Type A ยังคงอยู่ที่ตำแหน่งเดิม โถงทางเดินเป็น Double Corridor มีลิฟต์ให้ 2 ตัว และบันไดหนีไฟ 3 จุด ตรงข้างโถงลิฟต์และภายนอกอาคารทางปีกซ้ายและขวาเหมือนชั้นที่ 1 ค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 87 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก A1 87:1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก A2 87:1
- ที่จอดรถ 135คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน 115 คัน คิดเป็น 33% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 38%
- ระบบ CCTV / Access Card แยกตัวอาคาร
- รปภ. 24 ชั่วโมง
ตัว Club House ที่ต้องจ่ายค่าบริการแยกไม่รวมกับส่วนกลาง
- Club House
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ สระผู้ใหญ่ขนาด 6.9 x 16.35 ลึก 1.5 เมตร สระเด็ก 4 x 11.4 ลึก 0.6 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย
- Multi Purpose Room
ในโครงการจะมีห้องพักแบบ 1 ห้องนอนเท่านั้น แต่มี 2 ขนาดด้วยกันค่ะ คือ
- Type A แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28.30 ตร.ม.
- Type B แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 36.30 ตร.ม.
ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้จะอยู่ที่ขนาดของห้องที่มีขนาดใหญ่พอใช้งานได้จริงในทุกๆจุดแตกต่างจากคอนโดสมัยนี้ที่เล็กจนเหลือแค่ 24 ตารางเมตร ในราคาที่เอื้อมถึง แต่โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ที่มีในห้องตัวอย่างจะให้แบบนี้ทั้งหมดยกเว้น Prop และ Buit-in ตกแต่งนะคะ ซึ่งวันนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกกันทั้ง 2 แบบ ตามไปดูเลยกันเลยค่าา
มาเริ่มกันที่ห้อง Type A ซึ่งเป็นห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการค่ะ สำหรับห้องนี้เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ 28.3 ตารางเมตร ความสูงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร ห้องนี้มีขนาค่อนข้างเล็กเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย 1-2 คน เมื่อเข้าห้องไปจะเจอห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขก พื้นที่ในห้องที่สามารถวางชุดรับแขกและโต๊ะทานอาหารเล็กๆประมาณ 2 ที่นั่งได้ 1 ชุด ถัดมาเป็นห้องครัวที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น โดยห้องครัวจะประกอบด้วยเคาน์เตอร์ครัวและพื้นที่ว่างให้วางตู้เย็น ถ้ากังวลเรื่องกลิ่นจากห้องครัวสามารถกั้นผนังเพิ่มได้ แต่แนะนำเป็นบานกระจกนะคะ เพราะห้องมีขนาดเล็ก ถ้าติดเป็นทึบไปจะยิ่งทำให้ห้องดูตัน รู้สึกอึดอัดได้ค่ะ ถัดไปเป็นระเบียงขนาดสามารถวางคอมเพรสเซอร์แอร์และราวตากผ้าได้ ติดกับห้องครัวอีกด้านนึงเป็นห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ครบชุดที่แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกออกจากกันค่ะ
ส่วนของห้องนอนจะถูกกั้นจากห้องนั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกบานใหญ่เต็มผนังซึ่งตรงนี้ถ้าเราเปิดประตูออกก็เหมือนได้ห้องสตูโอกว้างๆ 1 ห้อง มีประโยชน์ตรงที่สามารถใช้ฟังก์ชั่นของห้องนั่งเล่น และห้องนอนในช่วงเวลาเดียวกันได้ เช่น หากมีเพื่อนมาเยี่ยมที่ห้องมีปาร์ตี้เล็กๆก็สามารถเปิดประตูไว้จะไ้พื้นที่เชื่อมต่อกันที่กว้างขึ้น หรือถ้าอยู่กัน 2 คนแล้วคนนึงต้องการพักผ่อนแต่อีกคนยังอยากนั่งดูทีวีก็ปิดประตูบานเลื่อน จะช่วยให้เสียงไม่รบกวนกัน และยังป้องกันกลิ่นจากการประกอบอาหารเข้าห้องนอนด้วยค่ะ
เข้ามาในห้องส่วนแรกที่เจอคือห้องนั่งเล่นขนาด 3.40 x 2.80 เมตร ฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ด ฉาบเรียบ ทาสี ความสูงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร โดยห้องนั่งเล่นนี้จะเชื่อมต่อกับห้องนอนและห้องครัว โดยห้องนั่งเล่นจะประกอบด้วยโซฟา 2 ที่นั่ง โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวีที่โครงการแถมให้ เมื่อวางโซฟาและระยะดูทีวีที่เหมาะสมจะเหลือประมาณ 2.20 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 42′”-52″ ค่ะ
โซฟาสีครีมขนาด 2 ที่นั่งและโต๊ะกลางที่โครงการให้มา ซ้ายมือเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร ขนาดของโซฟาที่โครงการแถมมาให้ถือว่าเหมาะสมแล้วนะ ถ้าขยายเป็น 3 ที่นั่งจะไม่มีระยะเหลือสำหรับการใช้งานโต๊ะทานอาหารค่ะ
ขนาดโต๊ะทานอาหารที่เหมาะสมสำหรับห้องนี้จะเป็นโต๊ะเข้ามุมขนาดประมาณ 2 ที่นั่ง ถือว่าเหมาะสม โต๊ะทานอาหารไม่สามารถนั่งหันหน้าหากันได้เพราะไม่มีพื้นที่เพียงพอ จะเกะกะส่วนโซฟาค่ะ
อีกด้านนึง จะเป็นพื้นที่สำหรับวางทีวี ซึ่งตรงนี้โครงการจะแถมมาให้เฉพาะตู้ที่วางทีวีเท่านั้นนะคะ ส่วนตัว Built-in ที่เห็นทั้งหมดไม่ได้แถมมาให้ ก็สามารถจะเก็บไว้เป็นไอเดียได้ค่ะ
ชั้นวางทีวีที่แถมมามาให้มีช่องเก็บของทั้งหมด 4 ช่อง เป็นลิ้นชัก 2 และช่องวางของธรรมดา 2 ค่ะ
ติดกับส่วนวางทีวีจะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อไปยังส่วนห้องครัว พื้นที่ตรงนี้สามารถติดตั้งประตูเพิ่มเติมได้นะคะ ถ้ากังวลเรื่องกลิ่นตอนทำอาหาร
พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องเซรามิคสีเทาอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ธรณีประตูยื่นออกมาเล็กน้อย เก็บรายละเอียดรอยต่อพื้นด้วยแผ่นกันลื่นยางและคิ้วรอบรอยต่อ
ห้องครัวขนาด 2.5 x 1.5 เมตร สามารถวางเคาน์เตอร์ครัวและมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นทางซ้ายมือ
ตัวเคาน์เตอร์ครัวติดตั้งห่างจากผนังทางขวาออกมาประมาณ 15 เซนติเมตร พอมีพื้นที่ให้ขยับแขนล้างจานได้ค่ะ แต่แนะนำให้ทำเป็นเคาน์เตอร์เต็มชนผนังไปเลยจะดีกว่านะคะ เพราะช่องแบบนี้เศษอาหารจะตกลงไปสะสมได้ง่าย ต้องคอยทำความสะอาดบ่อยๆ ส่วนชุดเคาน์เตอร์ครัวที่โครงการแถมมาให้ เป็นชุดเคาน์เตอร์ครัวสีขาวท็อปและวัสดุปิดผิวชั้นเก็บของทั้งหมดเป็น HLP พร้อมอ่างล้างจาน เคาน์เตอร์ด้านบนมีชั้นวางของ 2 ชั้นและช่องเก็บของอีก 1 ช่อง สามารถเก็บอุปกรณ์ทำครัวและพวกอาหารแห้งได้ค่ะ ส่วนพื้นที่ใต้อ่างล้างจานจะเป็นตู้สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด ไม่มีพื้นที่สำหรับเตานะคะ ถ้าใครคิดว่าจะมีการทำครัวหนักอาจจะต้องทำเคาน์เตอร์ครัวเองพร้อมติดเตาไฟฟ้าเพิ่ม แต่พื้นที่เตรียมอาหารจะเหลือน้อยถึงน้อยมากไม่แนะนำนะคะ
ซิงค์ล้างจานขนาดค่อนข้างเล็กไปนิด
พื้นที่สำหรับวางตู้เย็น เมื่อวางตู้เย็นแบบฝาเดียวแล้วยังเหลือพื้นที่ประมาณ 40 เซนติเมตร ก็เผื่อไว้สำหรับติดตั้งผ้าม่าน และวางถังขยะด้วยก็ได้ค่ะ
พื้นที่ระเบียงจะอยู่ติดกับครัวกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเดี่ยว
ถัดมาเป็นระเบียงส่วนตัวของแต่ละห้อง ประตูที่ใช้เป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวกระจก กรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกใส มือจับและตัวล็อคหน้าตาปกติ
ธรณีประตูยกขึ้นมาประมาณ 10 เซนติเมตร รวมความสูงกรอบประตู เพื่อกันน้ำไหลเข้ามาในห้อง พื้นที่ระเบียงกว้าง 1.30 x 1.50 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาชนิดเดียวกับห้องครัว
พื้นที่ระเบียงกว้าง 1.25 x 1.50 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีครีมขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ต้องเดินท่อน้ำทิ้งลงไปสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้ากันเองนะคะ เพราะทางโครงการไม่ได้ติดตั้งไว้ให้ค่ะ
ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งสูง 1 เมตร ด้านข้างเป็นระแนงเหล็กสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน ซึ่งระแนงเหล็กตรงนี้อาจจะกั้นผิด จริงๆน่าจะกั้นไว้ตรงฝั่งที่ติดตั้งคอมเพรสเซอร์มากกว่านะ
ผนังทางขวาด้านล่างมือมีเต้ารับแบบกันน้ำให้ รวมทั้งก๊อกน้ำเผื่อทำความสะอาดระเบียงและติดตั้งเครื่องซักผ้าด้วยค่ะ
กลับมาที่ห้องน้ำ ที่อยู่ฝั่งด้านในทางขวามือของห้องครัว
ประตูห้องน้ำที่ได้จะเป็น UPVC นะคะ พื้นห้องน้ำระดับลงไปแค่ประมาณ 1.5 เซนติเมตร เพราะฉะนั้นต้องระวังน้ำออกมาเลอะเทอะพื้นที่ครัวนะคะ
ห้องน้ำมีขนาด 1.50 x 2.40 เมตร ฝ้ายิปซั่มบอร์ดกันชื้น ความสูงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาและผนังเซรามิคสีขาวขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีพื้นที่อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ แยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจนค่ะ
อ่างล้างหน้าเป็นอ่างลอยยี่ห้อ Coral พร้อมทั้งติดตั้งกระจกเงาแบบเรียบๆให้ ผนังด้านหลังอ่างจะมีบ่าวางของให้ค่ะ
อ่างล้างมือขนาดมาตรฐาน ระยะห่างระหว่างอ่างล้างมือและผนังประมาณ 15 เซนติเมตร ใครถนัดซ้ายอาจจะมีระยะขยับแขนตอนแปรงฟันน้อยหน่อยนะคะ ส่วนก๊อกน้ำที่ได้เป็นของ American Standard ค่ะ
โถสุขภัณฑ์ Coral ตำแหน่งและระยะติดตั้งถูกต้องตามมาตรฐานค่ะ แต่ตัวที่วางกระดาษทิชชู่ไม่มีที่ครอบอาจจะเปียกได้เพราะอยู่ติดกับส่วนอาบน้ำค่ะ
สายชำระหน้าตาและขนาดแบบทั่วๆไป
ถัดไปเป็นส่วนอาบน้ำ ตรงพื้นมีการยกธรณีประตูขึ้นมาแต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ แนะนำให้หาฉากหรือผ้าม่านมาติดตั้ง เผื่อเวลาที่เราอาบน้ำจะได้ไม่กระเด็นไปเปียกส่วนแห้ง
ธรณีส่วนอาบน้ำยกขึ้นมาประมาณ 8 เซนติเมตร
ส่วนอาบน้ำขนาด 0.90 x 1.10 เมตร ค่อนข้างกว้าง อาบได้สบายๆค่ะ
ฝักบัวขนาดมาตรฐานค่อนข้างเล็ก
กลับมาที่ห้องนอน ซึ่งถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ เลื่อนได้ทางเดียวคือบานทางขวามือ ส่วนทางซ้ายมือเป็นบาน Fix ซึ่งข้อเสียของการทำบานเลื่อนเดี่ยวแบบนี้เป็นบานกั้นห้องคือช่องทางเดินจะเหลือที่น้อย เหลือแค่ครึ่งเดียวของช่องเปิดเท่านั้น
พื้นห้องนอนเป็นพื้นไม้ลามิเนตสีเดียวกันกับห้องนั่งเล่น หนา 8 มิลลิเมตรค่ะ ตัวรางเลื่อนประตูติดตั้งบนพื้น พร้อมปิดคิ้วรอยต่อให้เรียบร้อย
เข้ามาในห้องนอน ขนาด 2.65 x 2.80 เมตร เป็นห้องนอนขนาดไม่ใหญ่มาก มีช่องเปิดให้ 1 บาน ค่อนข้างกว้าง บริเวณเตียงนอนได้รับแสงธรรมชาติดีค่ะ
โดยช่องเปิดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยวผสมกับบานติดตาย บานกรอบเป็นอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกใส แนะนำให้ติดผ้าม่านหรือมู่ลี่กรองแสงไว้ด้วยนะคะ เพราะช่องเปิดค่อนข้างกว้าง
มือจับหน้าต่างหน้าจะได้แบบนี้ค่ะ
เตียงที่ทางโครงการแถมมาให้จะเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ ขนาด 5 ฟุต ไม่รวมฟูก ผนังหัวเตียงและรอบห้องของจริงจะเป็นผนังเปล่าไม่มี Built-in หัวเตียงและวอลล์เปเปอร์มาให้นะ ส่วนพื้นที่ข้างเตียงสามารถวางตู้เสื้อผ้าที่แถมมาให้ได้แค่อย่างเดียว ไม่มีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะเล็กข้างเตียงแล้วค่ะ
ตู้ที่โครงการแถมมาให้ ขนาด 0.60 x 1.50 เมตร เป็นตู้บานเปิดคู่ หน้าบานเป็นกระจกเงาเต็มตัวใช้ส่องดูความเรียบร้อยขณะแต่งตัวได้ พื้นที่ด้านในใส่ของได้ตามภาพเลยค่ะ
มือจับตู้เสื้อผ้าอลูมิเนียมจับสะดวกค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือฝั่งประตูห้องไม่ควรเอาอะไรมาวางให้เกะกะแล้วค่ะ
ระยะที่เหลือปลายเตียง เหลือพอสำหรับเดินได้เท่านั้น ไม่สามารถวางตู้หรือโต๊ะวางทีวีได้ค่ะ หากจะติดตั้งทีวีในห้องนอนแนะนำให้เป็นทีวีแขวนผนังนะคะ
ส่วนระยะระหว่างเตียงกับผนังเหลือประมาณ 10 เซนติเมตร พอเป็นพื้นที่สำหรับไว้เลื่อนเปิด ปิดม่าน
หันกลับไปด้านผนังฝั่งปลายเตียงทางโครงการตกแต่งมาเป็นชั้นวางหนังสือดีไซน์น่ารัก ซึ่งชิ้นนี้ทางโครงการไม่ได้แถมมาให้แค่ติดตั้งไว้ให้ดูเป็นไอเดียนะคะ
ต่อมาเป็นห้อง Type B ซึ่งจะมีแค่ชั้นละ 1 ห้อง โดยจะอยู่ที่ชั้น 2 ถึงชั้น 7 รวมทั้งอาคารคือ 6 ห้องเท่านั้นค่ะ สำหรับห้องนี้เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ความสูงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร เหมือน Type A แตกต่างกันที่พื้นที่ ที่จะได้เพิ่มมาเป็น 36.30 ตารางเมตร ห้องนี้มีขนาดกลางๆ เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย 1-2 คนสบายๆ โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ที่มีในห้องตัวอย่างจะให้แบบนี้ทั้งหมดยกเว้น Prop และ Buit-in ตกแต่ง เมื่อเข้าห้องไปจะเจอกับห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขกที่มีชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งและชั้นวางทีวี นอกจากนั้นยังสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2-4 ที่นั่งได้ และยังมีที่เหลือสามารถวางตู้โชว์ของหรือจะปล่อยโล่งไว้เผื่อเป็นที่ทำกิจกรรมอย่างเช่น เล่นโยคะในห้องก็ได้ค่ะ พื้นที่ติดกันคือห้องครัวที่จะมีแถมชุตครัวและชั้นแขวนให้พร้อมพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ติดกับครัวคือระเบียงขนาดพอๆกับ Type A สามารถวางคอมเพรสเซอร์และราวตากผ้าได้ค่ะ
ส่วนห้องนอนจะถูกกั้นจากห้องนั่งเล่นโดยประตูบานเปิดเดี่ยว พื้นที่ในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด ควีนไซส์แล้วเหลือพื้นที่ข้างเตียงไว้สำหรับวางโต๊ะเล็กสำหรับโคมไฟ และตู้เสื้อผ้า หรือจะวางเตียงคิงส์ไซส์ก็ได้ค่ะ แต่พื้นที่ข้างพื้นที่ข้างเตียงก็จะลดลงไปอีกอาจจะไม่สามารถวางโต๊ะเล็กได้ แต่ตู้เสื้อผ้าที่แถมมาให้ยังมีพื้นที่เหลือให้วางได้อยู่นะคะ ส่วนห้องน้ำจะแบ่งส่วนเปียกและแห้งชัดเจนและสามารถเข้าได้ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่นค่ะ
ไปดูของจริงกัน ในส่วนของห้องตัวอย่างจะยังไม่มีบานประตูให้ดูนะคะ แต่ของจริงจะเป็นบานประตูสำเร็จรูป HDF ซึ่งเหมือนกันทั้ง 2 Type ค่ะ
เข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นขนาดประมาณ 3 x 10.5 เมตร ถึงแม้ว่าห้องนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่า Type A แต่การใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นทำได้ค่อนข้างยาก เพราะติด Circulation ของประตูแต่ละห้อง
ขวามือจากทางเข้าเป็นชั้นวางทีวี ตรงผนังจะมีติดตั้งเต้าเสียบและช่องสัญญาณโทรทัศน์ไว้ให้พร้อม ข้างกันคือห้องน้ำค่ะ ซึ่งประตูห้องน้ำจะได้เป็นประตู UPVC ค่ะ ส่วนพื้นที่ว่างตรงผนังฝั่งซ้ายสามารถใส่ตู้เข้ามุม ไว้เก็บของเพิ่มได้นะคะ
ส่วนผนังฝั่งซ้าย จะเป็นที่วางชุดโซฟาและโต๊ะทานอาหาร ตรงนี้จะได้มาแค่โซฟา ส่วนโต๊ะเล็กกับโต๊ะทานอาหารอาจจะต้องไปหาซื้อเพิ่มเติมกันเองนะ ส่วนแอร์ในห้องนั่งเล่นตำแหน่งติดตั้งตรงนี้ก็เหมาะสมดีใกล้ระเบียงไม่ต้องเดินสายคอนเพรสเซอร์แอร์ไกลค่ะ
โซฟาสีครีมขนาด 2 ที่นั่ง ที่โครงการแถมมาให้ เราอาจจะเปลี่ยนเป็นโซฟาแบบเข้ามุมก็ได้นะ จะไ้มีที่นั่งเพิ่มขึ้นมาอีก ส่วนตัวโต๊ะกลางไม่มีมาให้นะคะ
โต๊ะทานอาหารขนาดที่เหมาะสมจะเป็นขนาด 2-3 ที่นั่งค่ะ ถ้าใหญ่กว่านี้อาจจะขวางทางเข้าออกครัวนะ แต่ถ้าใครมีเพื่อนมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆจะใส่โต๊ะแบบสี่ที่นั่งแบบพับได้ก็ได้นะคะ
ห้องครัวขนาดประมาณ 1.90 x 1.50 เมตร พื้นที่จะน้อยกว่า Type A นิดหน่อย ไม่เหลือพื้นที่สำหรับติดตั้งเตา เพราะฉะนั้นครัวนี้จึงเหมาะสำหรับทำอาหารง่ายๆ อย่างอาหารที่ใช้ไมโครเวฟค่ะ ส่วนระยะที่เหลือเมื่อเปิดตู้ครัวสุดประมาณ 40 เซนติเมตร ถ้าเข้ามาใช้ครัวพร้อมกัน 2 คนก็พอจะเดินแทรกกันไปได้ค่ะ ตรงนี้ถ้าใครอยากกั้นเป็นครัวปิดก็ทำได้ไม่ยาก แค่ติดตั้งประตูตรงแนวกระเบื้องก็เรียบร้อยแล้วค่ะ
พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องเซรามิคสีเทาอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ธรณีประตูยื่นออกมาเล็กน้อย เก็บรายละเอียดรอยต่อพื้นด้วยแผ่นกันลื่นยางและคิ้วรอบรอยต่อ
ชุดเคาน์เตอร์ครัวที่แถมมาจะเหมือนกับ Type A ค่ะ คือมีเคาท์เตอร์ล่าง และชั้นเก็บของด้านบนติดผนัง
พื้นที่สำหรับวางตู้เย็นค่อนข้างพอดีกว่าแบบ Type A ไม่มีที่เหลือสำหรับวางถังขยะแล้ว แต่ถ้าอยากได้ระยะสำหรับติดม่านหรือมู่ลี่ก็สามารถเลื่อนตู้เย็นมาใกล้เคาน์เตอร์ได้ค่ะ
ส่วนระเบียงกั้นโดยประตูกระจกบานเลื่อนเดี่ยว กรอบอลูมิเนียมธรรมชาติ
ธรณีประตูยกขึ้นมาประมาณ 10 เซนติเมตรรวมรางเลื่อนประตู พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิกสีขาวครีมขนาดประมาณ 20 x 20 เซนติเมตร
ระเบียงขนาดประมาณ 1.2 x 1.5 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าขนาดเล็กได้แต่ไม่มีท่อน้ำทิ้งสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะมาให้ ถ้าเราจะติดตั้งก็ต้องเอาท่อน้ำทิ้งใส่ลงไปในท่อระบายน้ำตรงพื้นระเบียงค่ะ
ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งสูง 1 เมตร ด้านข้างเป็นระแนงเหล็กสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน และห้องนี้ก็คาดว่าจะติดระแนงผิดฝั่งเช่นกัน
ก๊อกน้ำเผื่อสำหรับล้างระเบียงและเต้ารับมีฝาครอบกันน้ำเผื่อไว้สำหรับการติดตั้งเครื่องซักผ้าค่ะ
กลับออกมาที่ห้องรับแขก ทางขวามือของห้องครัวจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำของ Type B จะมีทางเข้า 2 ทางคือจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูในห้องนอนกันก่อนแล้วค่อยไปดูห้องน้ำกันนะคะ
ประตูห้องนอนของจริงจะได้เป็นประตู HDF เหมือนกันทุกห้องค่ะ
พื้นห้องนอนเป็นลามิเนตสีและแบบเดียวกันกับห้องนั่งเล่น
ห้องนอนขนาดประมาณ 10.5 x 3.20 เมตร สามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ที่โครงการแถมมา แล้วยังมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะวางโคมไฟข้างเตียง ถ้าใครอยากได้เตียงขนาดใหญ่ขึ้นก็สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงส์ไซส์ได้ ก็ยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับโต๊ะวางโคมไฟข้างเตียงอยู่ แต่อาจจะต้องเลื่อนตำแหน่งตู้ให้ชิดผนังนะคะ
ช่องเปิดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ผสมบานติดตาย ขนาดค่อนข้างใหญ่ รับแสงธรรมชาติได้ดีค่ะ
ระยะข้างเตียงเหลือประมาณ 60 เซนติเมตร สามารถขึ้นลงเตียงได้จากทั้ง 2 ฝั่งค่ะ
ฝั่งปลายเตียงมีที่เหลือค่อนข้างเยอะ สามารถวางชั้นวางทีวี และโต๊ะเขียนหนังสือได้ หรือใครไม่อยากได้ทีวีไว้ในห้องนอนจะทำเป็นตู้หนังสือก็ยังได้ค่ะ
ผนังหัวเตียงและรอบห้องของจริงจะเป็นผนังฉาบปูนทาสีขาว พื้นที่ข้างเตียงฝั่งขวาโครงการวางตู้เสื้อผ้าที่แถมมาให้ เหมือนกับห้อง Type A แต่เนื่องจากห้องนี้มีขนาดใหญ่กว่า จึงมีพื้นที่เหลือเล็กน้อยให้สามารถวางโคมไฟตั้งพื้นที่หัวเตียงฝั่งซ้ายได้
ฝั่งขวาของพื้นที่ข้างเตียงเป็นทางเข้าห้องน้ำค่ะ
พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้มขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ห้องน้ำสามารถเข้าถึงได้ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ประตูเป็นบานเปิ เวลาเปิดปิดก็ระวังชนกับอีกด้านด้วยนะคะ
พื้นห้องน้ำ Type นี้จะลดระดับให้มากกว่า Type A นิดหน่อยค่ะ
ห้องน้ำมีขนาด 1.50 x 3.20 เมตร ฝ้ายิปซั่มบอร์ดกันชื้น ความสูงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร พื้นกระเบื้องเซรามิคสีเทาและผนังเซรามิคสีขาวขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีพื้นที่อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ แยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจนค่ะ
อ่างล้างมือของ Coral ก๊อกน้ำของ American Standard เหมือน Type A ค่ะ
โถสุขภัณฑ์ Coral ตำแหน่งและระยะติดตั้งสายชำระ และที่ใส่กระดาษทิชชู่ถูกต้องตามมาตรฐาน
พื้นที่ส่วนเปียกขนาดประมาณ 0.80 x 1.10 เมตร รายละเอียดฝักบัว และพื้นที่ถายในเหมือน Type A ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 6 October 2015
- Type A เนื้อที่ 28.30 ตารางเมตร
- ห้อง A1 – 101s ราคา 819,000 บาท หรือ 28,939 บาท/ตร.ม.
- ห้อง A1 – 216s ราคา 863,000 บาท หรือ 30,494 บาท/ตร.ม.
- ห้อง A1 – 319s ราคา 865,000 บาท หรือ 30,565 บาท/ตร.ม.
- ห้อง A1 – 419s ราคา 877,000 บาท หรือ 30,989 บาท/ตร.ม.
- ห้อง A1 – 519s ราคา 889,000 บาท หรือ 31,413 บาท/ตร.ม.
- ห้อง A1 – 617s ราคา 911,000 บาท หรือ 32,190 บาท/ตร.ม.
- ห้อง A1 – 716s ราคา 911,000 บาท หรือ 32,190 บาท/ตร.ม.
- ส่วน Type B ตอนนี้ขายหมดแล้วค่ะ แต่ถ้าใครสนใจสามารถเข้าไปสอบถามที่โครงการได้นะคะ
- Fully Furnished
- เครื่องปรับอากาศ 1 ตัวที่ห้องนอน
- เพดานสูง 2.6 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง 2,000 บาท
- ทำสัญญา 3,000 บาท
- ดาวน์ 5,000 บาท
- ค่ากองทุน 400 บาทต่อตารางเมตร ชำระครั้งเดียว
- ค่าส่วนกลาง 38 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ชำระล่วงหน้า 1 ปี
- ค่าดูแลรักษามิเตอร์น้ำ 30 บาท/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี
- ค่าเบี้ยประกันอาคาร 15 บาท/ตารางเมตร จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ The Kith Lite บางกะดี – ติวานนท์ เป็นโครงการในโซนปทุมธานี ติดถนนใหญ่ติวานนท์ พื้นที่รอบๆส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ แต่เนื่องจากใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี จึงทำให้บนถนนมีรถใหญ่วิ่งผ่านเป็นประจำ ทำให้มีเสียงค่อนข้างดัง กลุ่มลูกค้าอาจจะเป็นคนที่ทำงานในนิคมแถวนี้ก็ได้ค่ะ คล้ายๆกับคอนโดตามแหล่งอุตสาหกรรมต่างๆ ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินน้อยมาก ต้องใช้รถในการเดินทาง แหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ในระยะใกล้ที่สุดจะเป็นเส้นที่มุ่งหน้าปทุมธานี คือ ตลาดน้ำวัดมะขามและตลาดพูนทรัพย์ ถัดออกไปอีกหน่อยฝั่งรังสิตจะเป็นฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, เซียร์รังสิต และ Tesco Lotus หรือถ้าลงมาทางแยกปากเกร็ดก็จะมีทั้งตลาดสดศรีปากเกร็ด, ตลาดสดพิชัย, รพ.วิภารามปากเกร็ด ขยับมาอีกหน่อยบนเส้นแจ้งวัฒนะจะมี BigC Extra, HomePro และเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ
การเดินทางโดยใช้รถยนต์ดูจะเป็นทางที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ เพราะสามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้ทั้งจากถนนติวานนท์ที่สามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็น ถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนสรงประภา, ถนนรังสิต-ปทุมธานี และ ถนนวิภาวดีรังสิต นอกจากนั้นยังใกล้จุดขึ้นทางด่วนอุรรัถยาทั้งขาออกและขาเข้าเมือง ซึ่งห่างออกไปเพียง 4.4 และ 5.2 กิโลเมตร ส่วนเส้นทางการเดินทางบนถนนโซนนี้จะเป็นรถบรรทุกส่วนใหญ่ การจราจรขาออกจากเมืองมาโครงการคล่องตัว มีติดบ้างเป็นช่วงๆ ตรงบริเวณก่อนถึงแยกสมเด็จที่เป็นทางลัดเข้าอิมแพคเมืองทองธานี และแยกสมเด็จ แต่การจราจรขาเข้าเมืองค่อนข้างติดหนักบริเวณห้าแยกปากเกร็ด และถ้าจะผ่านไปเส้นงามวงศ์วานบริเวณเดอะมอลล์งามวงศ์วานก็รถติดเยอะเช่นกันค่ะในช่างเช้าและช่วงเย็นๆหลังเลิกงาน
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เรียกได้ว่าลำบากเลยทีเดียวค่ะ เพราะรถประจำทางที่ผ่านมีแค่สาย 90 สายเดียว พี่วินหน้าโครงการก็ไม่มี ส่วนรถสองแถวอาจจะมีให้สำหรับคนที่ทำงานอยู่ในนิคมอยู่แล้วค่ะ ถ้ารีบร้อนก็ต้องอาศัยพี่ Taxi เพื่อมาต่อรถอย่างเดียวเลย แต่ก็ยังดีที่หน้าโครงการมีพี่ Taxi ผ่านบ่อยนะ ส่วนถ้าจะหวังพึ่งรถไฟฟ้าในอนาคตก็คงต้องรอกันอีกนานเลยค่ะ
วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มาโดยรวม ทั้งตัววัสดุพื้นฐาน Built-in ครัว, ซิงค์ล้างจาน, สุขภัณฑ์ครบชุดของ Coral และ American Standard รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่แถมให้ทั้งเตียงนอน, ชั้นวางทีวี, โซฟารับแขก, ตู้เสื้อผ้า, และชุดเคาท์เตอร์ครัว เหลือแค่โต๊ะทานอาหารและเฟอร์นิเจอร์อีกนิหน่อยก็พร้อมเข้าอยู่ เรียกได้ว่าให้มาเยอะเลยค่ะสำหรับราคานี้
ตัวโครงการเป็นอาคาร Low Rise สูง 7 ชั้น 2 อาคาร คือ A1 และ A2 รวมห้องพักทั้งหมด 348 ยูนิต การออกแบบโครงการโดยรวมค่อนข้างธรรมดาเรียบง่ายสไตล์ Minimal เน้นสีเทาเข้ม เทาอ่อนและสีขาว ซึ่งจริงๆแล้วก็คือตึกทรงเหลี่ยมที่มีการตกแต่งสีเพิ่มเติม ที่จอดรถเป็นแบบจอดรอบอาคารบนถนนที่ใช้สัญจรในโครงการ ในเรื่องการวางผัง จะวางโถงลิฟท์ไว้กลางอาคาร จากโถงลิฟท์จ่ายไปทางปีกซ้ายและขวา และเนื่องจากอาคารมีขนาดไม่ใหญ่ ทำให้ระยะเดินถึงลิฟท์ไม่ไกลนักค่ะ
ส่วนการออกแบบห้อง จะมีทั้งหมด 2 Types คือ Type A จะมีจำนวนเยอะที่สุด การจัดพื้นที่เหมือนคอนโดทั่วๆไป ที่เอากระจกบานเลื่อนมากั้นห้องนอนกับห้องนั่งเล่น แล้วก็กลายเป็นห้อง 1 Bedroom ส่วนครัวจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ และมีประตูเปิดออกไปสู่ระเบียงด้านนอกได้ ส่วนห้อง Type B ก็มีฟังก์ชั่นเหมือนๆกันกับ Type A เพียงแต่มีขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้น ทั้ง 2 แบบจัดฟังก์ชั่นได้เป็นสัดส่วน มีช่องแสงที่ห้องนอนและห้องครัว ช่วยเรื่องกลิ่นและฆ่าเชื้อโรคค่ะ
Facility ของโครงการนี้จะมีแค่พื้นที่สีเขียวพร้อมลงต้นไม้ให้รอบๆอาคาร มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อตึก คิดเป็นอัตราส่วน 87:1 ถือว่าไม่หนาแน่นมากเท่าไหร่ ที่จอดรถกลางแจ้งขนาด 135 คัน(รวมซ้อนคัน) คิดเป็น 33% และที่จอดมอร์เตอร์ไซด์ 14 คัน ซึ่งถือว่ามีให้ค่อนข้างน้อยเพราะส่วนใหญ่ลูกบ้านคงต้องใช้รถยนต์เดินทางกันเป็นหลักค่ะ ส่วนตัว Club House ที่เห็นอยู่บริเวณทางเข้าโครงการ จะใช้ร่วมกันกับโครงการ Sena Avenue ซึ่งตัว Club House นี้จะเป็นของทางเสนาค่ะเก็บค่าใช้จ่ายในการใช้งานแยกต่างหาก ไม่รวมกับค่าส่วนกลางที่เราต้องจ่ายทุกๆเดือน จึงไม่นับรวมใน Facilitiy ของโครงการนะคะ ส่วนเรื่องราคาในการใช้ตัว Club house แต่ละครั้งยังไม่มีกำหนด แต่ถ้ามีกำหนดค่าใช้จ่ายออกมาแล้วเราจะมาอัพเดทให้อีกครั้งค่ะ การจัดการแบบนี้มีข้อดีตรงที่ค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายทุกๆเดือนจะถูกลง ถ้าคนที่ไม่ได้ใช้ส่วนกลางเป็นประจำอยู่แล้วก็ถือว่าลดภาระค่าใช้จ่ายลงไปค่ะ
โดยรวมแล้วถือว่าเป็นโครงการที่แปลกเพราะเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้น้อยแต่ยังต้องการให้ลูกบ้านมีพื้นที่การใช้งานที่เพียงพออยู่ ซึ่งปกติแล้วระดับ Super Economy เราจะเห็นแต่เจ้าตลาดอย่าง LPN แต่ขนาดห้องก็เล็กลงหรืออย่าง Supalai ก็เป็น Developer ที่ไม่ค่อยลดขนาดห้องพยายามคงไว้ที่ประมาณ 30 ตร.ม. ตอนนี้ดูเหมือน SENA จะกระโดดลงมาทำบ้าง การที่โครงการพยายามเน้นห้องใหญ่ใช้งานได้จริงแต่ทำเลไกลสักหน่อยก็ไม่รู้ว่าจะโดนใจกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหนบ้างรึเปล่า คงต้องรอดูกันต่อไปนะคะ ถ้าโครงการแนวนี้ประสบความสำเร็จเราอาจได้เห็น The Kith Lite โผล่ออกมาเรื่อยๆอย่างแน่นอน แต่ดูราคาต่อตารางเมตรถ้าเทียบกับคอนโดในเมืองแล้วเหมือนอยู่กันคนละยุคเลยค่ะ ^_^
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 28,939 บาท/ตร.ม.,6 October 2015
- ทำเล 7.0/10 – ความอุมสมบูรณ์ในระยะเดินไม่มี ไกลตัวเมืองไปหน่อย ถ้าเป็นคนที่ทำงานในย่านนิคมบางกระดีนี่บวกไปอีก 1 คะแนนได้เลยเพราะอยู่ใกล้ที่ทำงานมากค่ะ
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 -เดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัวบนเส้นติวานนท์ ที่เชื่อมต่อไปยังถนนเส้นอื่นๆได้หลายสาย แต่ที่จอดรถน้อย
- ไม่ใช้รถ 6.75/10 – เดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะค่อนข้างลำบากต้องพึ่ง Taxi เป็นหลัก ถ้ามีรถบริษัทวิ่งมาผ่านหน้าโครงการ+1คะแนนได้เลยนะคะ
- วัสดุ 8.75/10 – วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่แถมมาให้ค่อนข้างคุ้มค่ากับราคา
- แบบ 7.5/10 – เรียบๆธรรมดา ไม่หวือหวา แต่ได้ห้องที่มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะฟังก์ชั่นครบ เมื่อเทียบกับงบที่จ่ายไป
- สาธารณูปโภค 7.0/10 – มีแค่พื้นที่สีเขียวรอบๆตัวอาคาร มี Club House ของเสนาที่มีสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแยกไม่รวมกันส่วนกลาง
- SUPER ECONOMY CLASS
- 7.35 / 10.00
BOTTOM LINE
The Kith Lite บางกะดี – ติวานนท์ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดพร้อมเข้าอยู่ราคาเบาๆ คนที่ทำงานอยู่ย่านนี้ หรือผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย เป็นบ้านหลังแรก ใกล้ที่ทำงาน ในเขตปทุมธานี เน้นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือมอเตอร์ไซด์เป็นหลักถ้าไม่มีรถแต่มีรถบริษัทวิ่งผ่านหน้าโครงการก็ถือว่าสบายอยู่ ไม่เน้นการใช้ Facilities ซื้อของตามความต้องการและเน้นคุ้มค่า ไม่ยึดติดกับแบรนด์ มีงบประมาณ 819,000 – 911,000 บาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 6,000 – 7,000 บาท ซึ่งพอๆกับราคาเช่าคอนโดบางแห่ง แต่ถ้าเป็นค่าเช่าห้องพักแถวโครงการจะถูกลงมาอีกหน่อยแต่ก็สามารถเพิ่มเงินอีกหน่อยก็สามารถเปลี่ยนจากค่าเช่ามาเป็นซื้อห้องที่เราได้เป็นเจ้าของเองค่ะ
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )