รีวิวฉบับที่ 1614 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ The Connect วงแหวน-พระราม9 ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์กรีก เดินทางเข้ามอเตอร์เวย์ได้สะดวก มาพร้อมกับ ระบบ Home Automation และ Fresh Air Flow เข้ามาช่วยในเรื่องความปลอดภัยและการถ่ายเทอากาศได้ดีมากขึ้น บ้านมีแบบให้เลือกทั้ง 1 ที่จอดรถ และ 2 ที่จอดรถ ในราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท เราไปชมกันเลยค่ะ
Fact @ 18 June 2018
- The Connect Wongwaen-Rama9 (คอนเนค วงแหวน-พระราม 9 )
- บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : สะพานสูง
- เนื้อที่โครงการประมาณ 22-0-92.7 ไร่ จำนวนประมาณ 234 ยูนิต
- ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- แบบ HG1 (จอดรถ 1 คัน ) : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 99 ตร.ม. 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ห้องน้ำ
- แบบ HG2 (จอดรถ 2 คัน) : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 120 ตร.ม. 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ห้องน้ำ
- ที่ดินแปลงมาตรฐานประมาณ 18.2 – 45.8 ตารางวา
- ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง พ.ย.60
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ n/a
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1739
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะคะ
พิกัด : 13.734934, 100.704715
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
The Connect วงแหวน-พระราม9 ตั้งอยู่ใกล้ถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก (ถนนกาญจนาภิเษก) จัดอยู่ในโซนชานเมืองหน่อยแต่ก็ยังสามารถเข้าเมืองได้ไม่ยากด้วยเส้นทางมอเตอร์เวย์ จุดเด่นของทำเลโครงการนี้คืออยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิและย่านอุตสาหกรรมใหญ่อย่างนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังที่อยู่บนถนนฉลองกรุง การเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือเป็นการเดินทางหลักๆ ของโครงการนี้ สามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้ค่อนข้างสะดวกพอสมควรค่ะ สำหรับการเข้าเมืองสามารถขึ้นมอเตอร์เวย์ไปพระราม 9 หรือจะ ใช้ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ทำให้สามารถลัดไปถนนรามคำแหง และถนนกรุงเทพกรีฑาได้ หรือจะเข้าถนนลาดกระบังไปทะลุออกถนนอ่อนนุชเพื่อเข้าไปยังถนนสุขุมวิทชั้นใน รวมทั้งลัดไปออกถนนรามคำแหงโดยเข้าถนนเคหะร่มเกล้าไปทะลุออกถนนราษฎร์พัฒนาหรือที่รู้จักกันในชื่อ ซอยมิสทีน ส่วนออกนอกเมืองก็สามารถขึ้นมอเตอร์เวย์ออกไปทางฉะเชิงเทรา บางประกงได้เช่นกันค่ะ
ส่วนการเดินทางโดยพึ่งพิงระบบสาธารณะนั้น คงจะต้องพึ่งพาพวก Taxi ที่ผ่านมาหน้าโครงการ ส่วนเรื่องของระบบรางที่ใกล้ที่สุดคือ Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้าง โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 5.6 กม.ค่ะ ซึ่งในอนาคตก็จะมีทางเลือกให้มากขึ้นหน่อยสำหรับระบบรางโดยจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีที่ใกล้คือสถานีสัมมากรและสถานีน้อมเกล้า กำหนดการที่คาดว่าจะแล้วเสร็จจะอยู่ในปี 2566 ซึ่งจะไป Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยสถานีนี้มีจุดจอดแล้วจร (Park and Ride) ซึ่งสามารถจอดรถได้ประมาณ 2,000 คัน ซึ่งใครที่จะเดินทางเข้าเมืองก็สามารถขับรถออกจากโครงการไปจอดแล้วขึ้นรถไฟฟ้าไปได้เลย
เนื่องจากทำเลโครงการนั้นเรียกว่าสามารถใช้ทางพิเศษได้ค่อนข้างใกล้และหลากหลาย เลยจะขอเจาะรายละเอียดส่วนนี้สักหน่อยว่าสามารถใช้ทางไหนได้บ้าง
การใช้มอเตอร์เวย์เพื่อ “เข้าเมือง” – จริงๆ จากโครงการก็เข้าเส้นมอเตอร์เวย์ได้ไม่ยาก แต่จะต้องไปกลับรถที่แยกต่างระดับร่มเกล้า แล้วจึงวนรถกลับเข้าเมือง พอเข้าถนนมอเตอร์เวย์มาได้แล้ว ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นถนนพระราม 9 แล้วค่ะ
การใช้วงแหวนกาญจนาภิเษก – จะใช้เส้นทางเหมือนกับการเข้ามอเตอร์เวย์เลย แต่พอวิ่งมอเตอร์เวย์มาสักพัก ก็ออกซ้ายเข้าถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกได้เลย โดยเส้นวงแหวนฯ นี้ จะเป็นเส้นที่วิ่งรอบเมือง ไปทางพระราม 2, พระราม 3 ได้สะดวกค่ะ
การเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ – ค่อนข้างสะดวกทีเดียว สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิบ่อยๆ มีระยะจากโครงการประมาณ 10 กม. โดยวิ่งจากโครงการมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาที่แยกร่มเกล้า ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเข้าสนามบินสุวรรณภูมิแล้วค่ะ
ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการนั้นมีให้พึ่งพิงได้บ้างอย่างพวกร้านอาหาร และ ร้านสะดวกซื้อแต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะเดินได้นะคะ ต้องขับรถไปนิดหนึ่ง แต่ถ้าขับรถทะลุมาที่ถนนร่มเกล้า ก็จะพอมีร้านอาหารให้เห็นคึกคักหน่อยบริเวณโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ร่มเกล้า และจุดตัดกับถนนเจ้าคุณทหารค่ะ หรือจะเข้าไปบนถนนเคหะร่มเกล้าเลยไปจนถึงซอยมิสทีนซึ่งเป็นชุมชนในซอยขนาดใหญ่ก็จะมีร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ และตลาดให้เลือกกินเลือกซื้อหลากหลายดี
สำหรับห้างฯ ในละแวกนี้จะอยู่บนถนนร่มเกล้า บริเวณจุดตัดกับถนนรามคำแหง อย่าง Big C ร่มเกล้าค่ะ หรือจะเข้ามาทางรามคำแหงอีกหน่อยก็จะมี HomePro และ Tesco Lotus หรือถ้าอยากไปช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้าใหญ่ที่สะดวกสุดก็จะเป็น Mega Bangna ที่สามารถใช้เส้นวงแหวนฯ มาได้อย่างสะดวก ส่วนสถานศึกษาบนถนนเส้นนี้ก็มีโรงเรียนดังๆ ในย่านนี้อย่าง โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ร่มเกล้า, โรงเรียนเทพศิรินทร์ ร่มเกล้า มหาวิทยาลัยอย่างมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ร่มเกล้า และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังค่ะ
เส้นทางที่เราจะพาไปเดินไปโครงการวันนี้ จะเริ่มเดินทางจากถนนพระราม9 มุ่งหน้าไปสู่ถนนมอเตอร์เวย์ พอถึงบริเวณสมาคมตระกูลจิวแห่งประเทศไทยให้กลับรถเพื่อเข้าเส้นเลียบมอเตอร์เวย์ จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ ก็จะถึงกับโครงการค่ะ
การเดินทางในวันนี้เราใช้ถนนพระราม9 บริเวณหน้าห้าง The Nine พระราม9 ตรงไปเรื่อยๆมุ่งหน้ามอเตอร์เวย์
จากนั้นตรงไปตามทางยาวๆ จนมาขึ้นมอเตอร์เวย์ ให้เราตรงตามป้ายชลบุรีนั้นไปเลย
ตรงมาเรื่อยๆจะเจอทางแยกไปบางปะอิน บางนาแต่เราไม่เลี้ยวนะคะ ให้ตรงต่อไป
ตามทางมาเรื่อยๆพอเจอป้ายถนนร่มเกล้า ให้เตรียมชิดซ้ายเลยค่ะ
เราจะเบี่ยงซ้ายออกทางขนาน บริเวณสมาคมตระกูลจิว
จากนั้นให้เราเลี้ยวโค้งไปตามทางเพื่อไปออกเส้นเลียบมอเตอร์เวย์
พอถึงเส้นเลียบมอเตอร์เวย์แล้ว ให้เราตรงต่อไป
ขับรถมาตามทางซักระยะจะเจอกับ BIZ CENTER โฮมออฟฟิศและอาคารสำนักงาน บริเวณนี้จะมีร้านค้าและร้านอาหารอยู่บ้าง
ตรงต่อมาพอเลี้ยวโค้งนี้ก็จะถึงกับโครงการแล้วค่ะ
ถึงแล้วค่ะโครงการ The Connect วงแหวน-พระราม9
The Connect วงแหวน-พระราม9 พื้นที่โดยรอบในซอยนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการหมู่บ้านสลับกับที่ดินเปล่าเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้บรรยากาศโดยรอบโครงการดูโล่งๆ สบายๆ ซึ่งสรุปได้ดังนี้ค่ะ
- ทิศเหนือ – ติดกับที่ดินเปล่าและโครงการ Life Bangkok Boulevard วงแหวน-พระราม9
- ทิศตะวันออก – ติดกับคลองตาพุก ที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัย
- ทิศใต้ – ติดกับที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก – ติดกับที่ดินเปล่าและถนนกาญจนาภิเษก
สภาพแวดล้อมบริเวณหน้าโครงการ หรือทางฝั่งทิศใต้ ติดกับถนนเส้นเลียบมอเตอร์เวย์
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- The Paseo ลาดกระบัง ~ 8 กิโลเมตร
- รร.เตรียมอุดมน้อมเกล้า ~ 8.2 กิโลเมตร
- NIDA ~ 9.7 กิโลเมตร
- The Mall บางกะปิ ~ 10 กิโลเมตร
- รพ.สมิติเวช ~ 11 กิโลเมตร
- รพ.รามคำแหง ~ 11 กิโลเมตร
- สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 11 กิโลเมตร
- ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง ~ 12 กิโลเมตร
- ม.รามคำแหง ~ 13 กิโลเมตร
- แฟชั่นไอซ์แลนด์ ~ 13 กิโลเมตร
- The Promenade ~ 13 กิโลเมตร
- The Nine พระราม9 ~ 14 กิโลเมตร
- ซีคอนสแควร์ ~15 กิโลเมตร
- พาราไดซ์ พาร์ค ~ 15.5 กิโลเมตร
- รพ.พระราม 9 ~ 18 กิโลเมตร
- Central พระราม 9 ~ 18 กิโลเมตร
The Connect วงแหวน-พระราม9 เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวนประมาณ 234 ยูนิต เข้ามาจะเจอกับพื้นที่สวนหย่อมและส่วนกลางก่อน การแยกพื้นที่ส่วนกลางออกมาไว้ใกล้ทางเข้าโครงการ มีข้อดีตรงที่สามารถใช้พื้นที่ในการต้อนรับแขกได้สะดวก พอเข้าโครงการมาเจอสวนหย่อมก่อนทำให้เกิดความรู้สึกที่ร่มรื่น ส่วนโซนบ้านพักอาศัยด้านในก็จะมีความสงบและเป็นส่วนตัว โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบคือทาวน์โฮมแบบ 1 ที่จอดรถและแบบ 2 ที่จอดรถ การวางตัวของแบบ 2 ที่จอดส่วนใหญ่จะวางหันหน้าเข้าหาถนนหลักภายในโครงการ ข้อดีคือไม่ชนกับบ้านหลังอื่นๆ มีความปลอดภัยเพราะมีคนผ่านตลอด แต่ถนนหลักจะมีรถวิ่งผ่านตลอดอาจจะมีเสียความเป็นส่วนตัวได้บ้าง สำหรับแบบ 1 ที่จอดรถจะวางผังหันหน้าชนกันเป็นบล็อคๆ การเลือกตำแหน่งของบ้านก็จะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สำหรับลูกบ้านที่ชอบความสงบแนะนำให้เลือกหลังที่อยู่ท้ายโครงการก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ ส่วนผู้ที่เน้นเข้าออกสะดวก ก็เหมาะจะเลือกหลังที่อยู่ด้านหน้าโครงการค่ะ
ซุ้มทางเข้าโครงการออกแบบดูดีทันสมัย โดยมีหลังคาคลุมทั้งหมด ช่วยในเรื่องเวลาฝนตก ให้เปิดประตูไปแตะคีย์การ์ดได้ การเข้า-ออกของลูกบ้านและผู้มาติดต่อแยกกันนะคะ ถ้าไม่ใช่ลูกบ้านก็ต้องแลกบัตรที่บริเวณหน้าโครงการ
ด้านข้างซุ้มประตูจัดเป็นสวนหย่อมเพิ่มความร่มรื่นให้กับโครงการ
ระบบความปลอดภัยอื่นบริเวณทางเข้าโครงการก็จะมีกล้อง CCTV ระบบ Key card Access และรั้วกั้นไม้กระดกด้วย
Key card Access และ กล้อง CCTV ค่ะ โดยจะมีส่องทั้งบริเวณทางเข้าและส่องทะเบียนรถค่ะ
เข้ามาด้านในโครงการทางฝั่งซ้ายคือสวนหย่อมและพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนด้านในจึงเป็นที่พักอาศัย
สวนหย่อมและพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งประกอบด้วยสระว่ายน้ำและสนามเด็กเล่น ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างอยู่นะคะ การเอาส่วนกลางมาไว้ด้านหน้านอกจากจะช่วยให้บรรยากาศเมื่อเราเข้าโครงการมารู้สึกร่มรื่นแล้ว ยังทำให้โซนพักอาศัยด้านในเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
ทาวน์โฮมแบบ 2 ที่จอดรถค่ะ กำลังก่อสร้างกันอยู่ โดยโครงการนี้ออกแบบมาในสไตล์ กรีกภายใต้แนวคิด Modish Real Living ให้ทุกแนวคิดเชื่อมต่อการใช้ชีวิตมีสไตล์
ถัดมาจะเป็นดซนของสำนักงานขายและบ้านตัวอย่าง ตั้งอยู่ใกล้กับสวนหย่อมเลย
สำนักงานขายและบ้านตัวอย่างซึ่งเรามีมาให้ชมทั้ง 2 แบบเลย แต่ยังไม่มีบ้านมาตรฐานนะเพราะกำลังก่อสร้างกันอยู่ เดี๋ยวจะค่อยๆพอไปชมนะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ
- สวนหย่อม/สนามเด็กเล่น
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการ
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic ทุกหลัง
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.
ทาวน์โฮมแบบ HG1 : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 99 ตร.ม. 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ห้องน้ำ 1 ส่วนรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร จอดรถ 1 คัน
บ้านชั้นล่างวางผังให้จอดรถได้ 1 คัน และมีทางเดินจากหน้าบ้านเป็นทางยาวเข้าไปจนสุดตัวบ้านด้านใน ส่วนแรกของบ้านเป็นห้องรับแขกที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนรับทานอาหาร ประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลังของบ้าน เป็นบานกระจกขนาดใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติและสามารถถ่ายเทอากาศได้ดี ฝั่งตรงข้ามกับส่วนทานอาหารจะจัดเป็นห้องอเนกประสงค์สามารถปรับเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนชั่วคราวก็ได้ ้ถ้าทำเป็นครัวภายในบ้าน จะได้พื้นที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร ติดกันกับครัวจะเป็นห้องน้ำ ที่สามารถอาบน้ำได้ ส่วนด้านหลังบ้านจะใช้เป็นส่วนซักล้าง หรือปรับเป็นส่วนครัวไทยไว้ทางด้านหลังก็ได้
ชั้น 2 แบ่งเป็นห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน 1 ห้อง โดยห้องนอนเล็ก 2 ห้องจะอยู่ด้านหลังบ้าน ส่วนห้องนอนใหญ่จะอยู่ฝั่งหน้าบ้านได้พื้นที่ห้องใหญ่เต็มความกว้างบ้านเลย สามารถกั้นเป็น Walk-in Closet และทำโต๊ะเครื่องแป้งได้
สิ่งที่พิเศษสำหรับโครงการ The Connect ในยุคหลังๆ ตั้งแต่ปลายปี 2017 ที่ผ่านมาบ้านของแบรนด์นี้จะได้ระบบ Fresh Air System และ Home Automation ต่างๆ เพิ่มมาให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานและมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยระบบ Fresh Air System ระบบหมุนเวียนอากาศและลดอุณหภูมิภายในบ้าน เพิ่มการถ่ายเทอากาศ ลดกลิ่นอับ อีกทั้งยังช่วยประหยัดไฟฟ้า โดยระบบการทำงานคือจะมีช่องนำเอาอากาศใหม่จากภายนอกเข้ามายังตัวบ้าน อากาศจะถ่ายเท โดยจะมี Air Ventilation พัดลมดูดอากาศที่ใช้แล้วออก และ Hot Air Flow Out ระบายอากาศร้อนออก นอกจากนั้นยังมีระบบ Home Automation ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในบ้าน ทั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า แสงสว่าง กล้องวงจรปิด เครื่องปรับอากาศ รวมถึงระบบสัญญาณเตือนภัยต่างๆ โดยสามารถควบคุมได้จาก Application ในมือถือได้ค่ะ
ก่อนเข้าไปในตัวบ้าน สิ่งที่ถูกเพิ่มมาใน The Connect แห่งนี้คือ สิ่งเหล่านี้ Magnetic Sensor, IP Camera, Home Automation, Smoke Detection และ Lighting Switch ถือเป็นออฟชั่นเสริมที่โครงการมีมาให้เลยมาตรฐานใน The Connect ยุคใหม่
รูปร่างหน้าตาของตัวบ้านที่ต้องบอกว่าแตกต่างจะ The Connect ตัวอื่นๆ อยู่ซะหน่อย ตรงทีไม่ได้ทำมาเป็นแนว Modern แต่ทำเป็นแนวคลาสสิคนิดๆ อย่างโครงการนี้เป็นสไตล์กรีก ให้ดูมีความหรูหราขึ้นอีกหน่อย
สำหรับบ้านแบบนี้จะมีที่จอดรถเพียง 1 คัน และเป็นการจอดเข้าไปในช่องที่มีไม่ได้มีหลังคาคลุมแบบทั้งคัน ลูกบ้านสามารถติดตั้งกันสาดเพิ่มเติมเองได้ รถจะได้ไม่ร้อนมาก
กลับมาที่ประตูหน้าบ้าน ตัวกระจกบานเลื่อนที่ปกติจะทำมาแบบโล่งๆ คราวนี้มรการใส่เส้นกรอบประตูในแนวนอนเพิ่มมาให้ด้วย เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของตัวบ้านค่ะ
ก่อนเข้าบ้านจะมีเฉลียงที่ยกสูงขึ้นสามารถกันฝุ่นกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าตัวบ้าน และใช้เป็นที่วางรองเท้าได้อีกด้วย
เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นถัดเข้าไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ห้องน้ำ ห้องอเนกประสงค์ สำหรับครัวไทยทางโครงการต่อเติมเอาไว้อยู่ด้านหลัง เพื่อให้ภายในบ้านมีพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น ฝ้าเพดานชั้นล่างสูง 3 เมตร ผนังในบ้านเป็นผนังฉาบเรียบทาสี พื้นได้กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม.ค่ะ
ระยะดูทีวี 2.65 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 55″ – 60″ ได้ บริเวณนี้จะได้รับแสงธรรมชาติจากช่องแสงหน้าบ้าน ถ้าใครซื้อแปลงมุมจะได้หน้าต่างด้านข้างมาด้วย
บริเวณหน้าบ้านใกล้ๆกับประตูทางเข้า เราจะเจอกับช่องระบายอากาศส่วนหนึ่งของระบบ Fresh Air System ค่ะ ถ้าเราเดินไปเรื่อยๆก็จะเจอแบบนี้อีก กระจายอยู่ทั่วบ้านเลย
IP Camera ในบ้านตัวอย่างวางอยู่ตรงชั้นวางทีวี ห้องนั่งเล่น
ส่วนของห้องรับประทานอาหารสามารตั้งโต๊ะแบบ 4 ที่นั่งได้สบายๆ แบบที่ยังเหลือทางเดินรอบๆโต๊ะ ด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำกับห้องอเนกประสงค์ที่ติดกับส่วนครัวไทยหลังบ้าน
ระหว่างส่วนนั่งเล่นและรับประทานอาหารมีพื้นที่เหลือค่ะ ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นชั้นหนังสือ เราจะจัดเป็นมุมทำงานหรือหาที่นั่งสวยๆมาวางสำหรับนั่งพักผ่อนก็ได้นะ
ภายในห้องน้ำจะมีพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วย ถึงแม้จะดูเล็กไปหน่อยแต่ก็สามารถใช้งานได้ ช่วงเวลาเช้าๆที่เร่งรีบสมาชิกภายในบ้านจะได้มีห้องน้ำใช้เพิ่มอีกหนึ่งห้อง
พื้นห้องน้ำถูกลดระดับจากพื้นที่อาศัยส่วนอื่นๆ ลงมาเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปส่วนอยู่อาศัยอื่นๆ
อ่างล้างหน้าได้แบบนี้เลยค่ะ ทั้งกระจกเงาส่องหน้าและอ่าง
ตัวอ่างมีขนาดพอดีๆ นะ ได้ของ KOHLER
เช่นเดียวกับโถสุขภัณฑ์ได้ของ KOHLER
พื้นที่อาบน้ำ ที่เราเห็นด้านล่างมีกระเบื้องมาวาง ไม่ใช่พื้นที่อาบน้ำมีแค่นี้นะคะ แต่เค้าจะมีการปรับสีกระเบื้องเลยเอามาวางให้ดูค่ะ
ฝักบัวที่ทางโครงการให้มา
ทางเข้าห้องอเนกประสงค์จะอยู่ติดกับประตูออกไปหลังบ้าน ซึ่งบ้านตัวอย่างตกแต่งครัวไทยไว้ด้านนอก โดยระบบกันขโมยจะติดตั้งเอาไว้ที่ประตูทางออกไปหลังบ้านค่ะ
ทางเข้าห้องอเนกประสงค์กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียมสีขาว
ภายในห้องเนกประสงค์ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงาน จะมีหน้าต่างเอาไว้รับแสงธรรมชาติมาให้หนึ่งบ้าน
ทางออกไปที่หลังบ้านกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งช่วยให้บรรยากาศในบ้านโปร่งโล่ง แต่ในเรื่องของความปลอดภัยควรติดระบบกันขโมยเพิ่มเติมหรือหาม่านมาปิดเวลาที่ไม่อยู่บ้านค่ะ
พื้นที่หลังบ้านถูกตกแต่งให้เป็นครัวไทย ซึ่งบ้านของที่นี่จะมีหน้ากว้าง 5.7 เมตร ทำให้สามารถทำเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่แบบนี้ได้ โดยพื้นที่หลังบ้านจะมีการลงเสาเข็มขนาดเท่ากับตัวบ้านเพื่อรองรับการต่อเติมและป้องกันการทรุดตัวด้วยค่ะ
บันไดของแบบนี้มีตำแหน่งอยู่กลางบ้านโครงสร้าง Pre-casting คอนกรีต กว้างประมาณ 1 m. ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสาน
ถึงแม้บ้านจะมีขนาดเล็กกระทัดรัด แต่ก็ยังได้ชานบันไดแบบ 4 เหลี่ยมมาบ้าง การเดินขึ้นลงทำได้สบายขึ้น
พอจากวางตำแหน่งบันไดไว้กลางบ้านเลยทำให้ไม่มีช่องแสงธรรมชาติ แนะนำว่าให้หาโคมไฟมาตกแต่งจะช่วยในเรื่องของแสงสว่างได้พอสมควรเลยย
บริเวณโถงบันไดทางโครงการมีทำ Skylight มาให้และมีพัดลมดูดอากาศซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบ Fresh Air System
เมื่อขั้นมาแล้วด้านขวามือจะเป็นห้องนอนใหญ่ ตรงไปเป็นห้องน้ำและซ้ายมือเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ฝ้าเพดานชั้นบนนี้จะสูง 2.6 เมตรค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นปรับเป็นพื้นไม้ลามิเนต สีเดียวกับพื้นบันได
นวัตกรรมอีกอย่างที่ The Connect ยุคใหม่นำเข้ามาในโครงการนี้ก็คือ Fresh Air System คือจะมีการติดเจ้ากล่อง Fresh Air เล็กๆเอาไว้ (ด้านหน้าห้องนอน กับ ด้านนอกห้องนอนไปนอกบ้าน) แต่กลไลนี้จะทำงานเต็มที่ก็ต่อเมื่อ เราเปิดเจ้าพัดลมตัวใหญ่กลางบ้าน(เป็นตัวดูดความร้อนออก) ทำให้เกิดกระบวนการ Ventulation Airflow ค่ะ
มาดูห้องนอนใหญ่กันบ้าง ตำแหน่งของห้องนอนใหญ่จะอยู่ด้านหน้าบ้าน ลักษณะเป็นห้องนอนยาวตามความกว้างของหน้าบ้าน รวมทั้งมีลักษณะการจัดวางแบ่งเป็นส่วนเตียงนอนและส่วน Walk in Closet ระยะปลายเตียงที่มีความกว้างให้เดินได้สบายๆ
เนื่องจากห้องนอนใหญ่มีพื้นที่ค่อนข้างยาว เปิดมาทางซ้ายมือจะเป็นมุมบริเวณวางเตียง ซึ่งจัด KingSize ได้เลยนะ อีกทั้งยังมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ทั้งสองด้านอีกด้วย
พื้นที่ปลายเตียงนอกจากจะเป็นพื้นที่ติดตั้งทีวีแล้ว ยังมีพื้นที่ให้พอทำตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ได้
พื้นที่ตรงนี้สามารถทำตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง หรือจะทำฝั่งเดียวแล้วทำโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ แต่เท่าที่ดูทำตู้เดียวคงไม่พอให้สาวๆ เก็บเสื้อผ้าแน่นอนค่ะ
บานหน้าต่างของห้องนอนจะเป็นบานเลื่อน ดีไซน์เข้ากับ Concept ของโครงการ
สำหรับระเบียงของห้องนอนใหญ่จะเป็นพื้นที่เอาไว้วาง Condensing Unit ของแอร์นะ ไม่ใช้พื้นที่ๆจะเดินออกไปยืนกินลมชมวิว เขาให้แค่บานหน้าต่างตรงนี้ ไม่ได้เป็นประตูให้เดินออกไปได้
มองจากภายนอกจะเห็นเป็นแบบนี้ค่ะ เราออกมาใช้งานไม่สะดวกแน่ๆ เพราะขอบล่างของหน้าต่างอยู่ในระดับสูงกว่าที่จะก้าวออกมาได้ ระเบียงนี้จึงใช้เป็นพื้นที่วาง Condensing Unit และทำให้ดีไซน์ภายนอกของบ้านดูมีมิติมากขึ้น
สำหรับห้องน้ำของชั้นนี้จะมีอ่างพร้อมตุ้เก็บของด้านล่างมาให้ และมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วย
อ่างล้างหน้าได้แบบมีตู้ด้านล่างเอาไว้เก็บของด้วย
ตัวตู้ด้านล่างมีการติดตั้งตะกร้าเล็กๆเอาไว้เก็บของ และมีระบบ Soft Close มาให้ด้วย
พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นแยกเป็นสัดส่วน เป็นแบบเปิดออกด้านข้าง
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 90 x 90 cm. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคค่ะ
ระบบระบายอากาศในห้องน้ำมีทั้งพัดลมดูดอากาศและหน้าต่างบานกระทุ้ง พร้อมทั้งมีการเจาะช่องแสงเพื่อเพิ่มความสว่างมาให้ด้วย
พื้นที่อาบน้ำมีติดตั้งฝักบัวพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงเดินงานระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้พร้อม
สำหรับโถสุขภัณฑ์จะแยกพื้นที่ไปอยู่อีกฝั่ง ทำให้การใช้งานแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน
ภายในห้องนอนเล็กห้องแรกจะวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ มีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศทั้ง 2 ฝั่ง
และมีพื้นที่ให้ใส่ตู้เสื้อผ้าได้แบบพอดีกับแนวผนังห้อง
ห้องนอนเล็กถัดมา ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้พอดีโดยที่ยังมีทางเดินรอบเตียงเหลือสบายหน่อย
ข้างๆเตียงก็เป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าค่ะ
ทาวน์โฮมแบบ HG2 : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 120 ตร.ม. 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ห้องน้ำ 1 ส่วนรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร จอดรถ 2 คัน
บ้านแบบ 2 ที่จอดรถจะได้พื้นที่ตัวบ้านที่ลึกขึ้น ช่วยให้พื้นที่ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหารวางชุดเก้าอี้นั่งได้ใหญ่ขึ้น ห้องนอนใหญ่ชั้น 2 มีห้องน้ำในตัวเพิ่มมาให้แล้ว ส่วนฟังก์ชันอื่นๆยังคงคล้ายๆกับบ้านแบบ 1 จอดค่ะ
ตัวบ้านดูกว้างขึ้นเพราะมีช่องเปิดชั้นล่างเป็นที่จอดรถ ส่วนการออกแบบหน้าตาอาคารยังคงมาในสไตล์เดียวกันกับบ้านแบบ 1 จอดที่ตัวระเบียงชั้น 2 ไม่สามารถออกมาใช้งานได้
พื้นที่จอดรถของแบบนี้จะได้แบบเต็มหน้ากว้างของบ้าน แต่ชายคาชั้น 2 ก็ยังไม่ครอบคลุมตัวรถทั้งคันนะ ต้องต่อเติมกันสาดเพิ่มอีกที
ส่วนแรกของบ้านแบบนี้จะมีระยะหน้ากว้างที่ใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยมีระยะดูทีวีอยู่ที่ 4.1 เมตรเรียกว่าต้องวางทีวีใหญ่ถึงจะดูกันได้สบายตาจริงๆ ในรูปห้องน้ำจะอยู่ด้านขวามือและห้องถัดไปเป็นห้องอเนกประสงค์เหมือนแบบแรกที่พาไปดูนะคะ
พื้นที่หน้าบ้านดูโปร่งโล่งดี เพราะได้รับแสงทั้งจากประตูทางเข้าบ้านและหน้าต่าง
พื้นที่ห้องน้ำชั้นล่างยังคงมีโซนอาบน้ำมาให้ และขนาดห้องยังใกล้เคียงกับแบบแรก
สุขภัณฑ์ต่างๆได้เหมือนเดิมค่ะ
่สวนรับประทานอาหารจะมีพื้นที่เหลือมากขึ้น นั่งทานข้าวกันได้สบาย ฝั่งตรงข้ามคือห้องอเนกประสงค์
ห้องอเนกประสงค์กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเช่นเดียวกัน
สำหรับห้องอเนกประสงค์จะมีความกว้างของห้องที่มากขึ้นทำให้วางโต๊ะทำงานได้เยอะขึ้น หรือจะทำเป็นห้องนอนชั่วคราวก็ได้
มีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศด้วยค่ะ
ตัวบานประตูของทางออกไปหลังบ้านจะได้ขนาดเท่าหน้าบ้านและเป็นบานกระจกทั้งหมด ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะขึ้น
พื้นที่หลังบ้านยังมีความกว้างเท่าเดิม แต่หลังนี้ทางโครงการแต่งให้เป็นครัวแค่ส่วนนึงเท่านั้น ส่วนที่เหลือทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น ถ้าใครอยากได้สวนต้นไม้กระถางเล็กๆก็จัดตรงบริเวณนี้ได้เหมือนกันค่ะ
สำหรับตำแหน่งบันไดยังคงอยู่ที่หน้าบ้าน
และมีช่องแสงมาช่วยให้โถงบันไดไม่มืดจนเดินไป
ช่องแสงหน้าบ้านเป็นบานเปิด ใช้ระบายอากาศได้ค่ะ
แบบนี้จะดีตรงที่มีราวมือจับมาให้ตั้งแต่ชั้นล่างเลย ถ้าลองสังเกตดูจะเห็นว่าที่ฝ้าเพดานมีช่องแสงส่องลงมาตรงส่วนโถงบันไดด้วย
ชานพักบันไดจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้ทั้งแบบสี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยม
โถงบันไดชั้น 2 ของหลังนี้จะมีกว้างกว่าหลังแรกนิดหน่อย มีห้องนอนใหญ่อยู่ด้านซ้ายมืออยู่ติดกับห้องน้ำ ส่วน 2 ห้องทางขวาเป็นห้องนอนเล็ก
ห้องนอนใหญ่ของหลังนี้จะค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่รอบๆเตียงให้ทำตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะทำงานได้
ด้านข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งสามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ค่ะ
ข้างเตียงเป็นหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง
เป็นบานเปิดออกมาแบบนี้ค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงเหลือให้ทำชั้นวางทีวีได้สบายๆ หรือจะติดทีวีแขวนผนังแบบห้องตัวอย่างก็ได้ บ้านเปล่าจะไม่ได้มีประตูกั้นมาให้แบบนี้นะคะ บ้านตัวอย่างเค้าทำเพิ่มขึ้นมาให้ดูเป็นไปเดีย
ถ้ากั้นประตูพื้นที่ตรงนี้จะกลายเป็น Walk-in Closet ไปในตัวเลย และมีช่องแสงจากหน้าต่างด้านข้างมาด้วย อย่าลืมติดตั้งม่านตรงนี้ด้วยนะคะ จะได้มีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้นเพราะมุมนี้คือหันออกหน้าบ้านเลย
สำหรับห้องนอนใหญ่หลังนี้จะมีห้องน้ำในตัวมาให้ด้วย ไม่ต้องไปแบ่งกันใช้กับห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง
สุขภัณฑ์ต่างๆก็ให้เหมือนเดิมค่ะ ของ Kohler
พื้นที่อาบน้ำกั้นเป็นสัดส่วนค่ะ
ห้องนอนเล็กวางเตียงได้ขนาด 3.5 ฟุต มีหน้าต่างรับแสงและลมเข้ามาในห้อง
ห้องนอนเล็กอีกห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้พอดี ผนังมีหน้าต่างอลูมิเนียมสามารถเปิดรับแสงและระบายอากาศให้ทั้ง 2 ฝั่ง ในห้องจริงจะได้เป็นห้องโล่งๆนะ
ฝั่งข้างเตียงมีพื้นที่สำหรับวางเป็นตู้เสื้อผ้า
ห้องน้ำที่ต้องใช้แชร์กันจะมีฟังก์ชันการใช้งานมาครบ โซนอาบน้ำแบ่งได้เป็นสัดส่วนกว่าบ้านแบบแรก
สุขภัณฑ์ต่างๆได้แบบเดิมค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 18 June 2018
- แบบ HG1 (จอดรถ 1 คัน) แปลงมาตรฐาน พื้นที่ใช้สอย 99 ตร.ม. ที่ดิน 18.2 ตร.วา ราคา 3.35 ล้านบาท
- แบบ HG1 (จอดรถ 1 คัน) แปลงมุม พื้นที่ใช้สอย 99 ตร.ม. ที่ดิน 25.6 ตร.วา ราคา 4.10 ล้านบาท
- แบบ HG2 (จอดรถ 2 คัน) แปลงมาตรฐาน พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. ที่ดิน 21.1 ตร.วา ราคา 3.89 ล้านบาท
- แบบ HG2 (จอดรถ 2 คัน) แปลงมาตรฐาน พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. ที่ดิน 37.8 ตร.วา ราคา 5.58 ล้านบาท
- จองและทำสัญญา 25,000 บาท
- ดาวน์ 5% ผ่อนดาวน์ 2 งวด
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 60,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 38 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – The Connect วงแหวน-พระราม9 ตั้งอยู่ในแถบชานเมืองกรุงเทพฯ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และใกล้ย่านอุตสาหกรรมใหญ่ๆ อย่างนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังบนถนนฉลองกรุง ด้วยทำเลของโครงการที่มีความสะดวกในการเดินทางไปสุวรรณภูมิได้ง่ายไม่ไกลมากนัก รวมทั้งใกล้กับย่านอุตสาหกรรมด้วยนั้น จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่ต้องเดินทางไปสนามบินบ่อยๆ หรือทำธุรกิจการค้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมในย่านนี้ และด้วยทำเลอยู่ใกล้กับมอเตอร์เวย์สามารถเข้าเมืองทางพระราม 9 ได้ง่าย จึงเหมาะกับกลุ่มที่อาจจะทำงานในเมือง แต่ก็ยังคุ้นชินกับทำเลในย่านนี้
ความปลอดภัย – ได้ระบบรักษาความปลอดภัยที่มากกว่าโครงการอื่นตรงที่มีระบบ Home Automation มี IP Camera มาช่วย และติดตั้ง Magnetic Sensor มาให้ ส่วนอื่นๆตามตรฐานก็ได้ครบ รปภ. รั้วกั้น ไม้กระดก Keycard Access ระบบ CCTV ที่ Main Gate
การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย – การออกแบบตัวบ้านจะเน้นพื้นที่การใช้งานตามฟังก์ชันต่างๆ ให้ลงตัว ได้ฝ้าเพดานชั้นล่างสูง 3 เมตร ฝ้าเพดานชั้นบนสูง 2.6 เมตร และตัวบ้านกว้าง 5.7 ทำให้บ้านดูกว้าง มีระยะดูทีวีที่ดีขึ้น ได้บานประตูขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มแสงธรรมชาติให้กับตัวบ้าน ตัวบ้านเย็นสบายด้วยเทคโนโลยี Fresh Air Ventilation ที่ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น สำหรับแบบ 2 ที่จอดรถจะได้ห้องน้ำ 2 ห้องที่ชั้น 2 ดีกว่าแบบเล็กที่ได้ห้องน้ำ 1 ห้อง ได้ห้องเอนกประสงค์ที่ชั้นล่างช่วยให้ปรับพื้นที่เป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมได้ทั้งหมด ชั้น 2 จะได้พักผ่อนอยากเดียว สำหรับห้องนอนใหญ่ได้พื้นที่ทำโต๊ะเครื่องแป้งครบทั้ง 2 แบบ
วัสดุ – ถือว่าได้มาตามมาตรฐาน พื้นชั้นล่างปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. และชั้นบนปูพื้นลามิเนต ระเบียงและห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิค 30 x 30 ซม. ส่วนลานซักล้างเทพื้นคอนกรีตขัดเรียบให้ สุขภัณฑ์ห้องน้ำจาก Kohler และ Engfield กรอบหน้าต่างได้อลูมิเนียมสีขาว
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – ซุ้มหน้าโครงการถือว่ามีขนาดใหญ่ดี ถนนหลักที่เป็นทางเข้าโครงการมีความกว้างดี โดยถนนหลักและถนนซอยในโครงการมีขนาด 12 และ 8 ม. ทำให้บริเวณหน้าโครงการดูโล่ง ใช้งานสะดวก และถนนซอยให้มาตามมาตรฐาน สภาพภายในสวนโครงการดูร่มรื่นน่าใช้งาน นอกจากนี้มีพื้นที่สีเขียวระหว่างบล็อกบ้าน เป็นทั้งจุดกลับรถ ใช้เป็นส่วนพักผ่อนได้
สาธารณูปโภค – เหมาะกับคนที่เน้นการอยู่อาศัยมากกว่าเน้นการใช้งาน Facilities โดยมีสวนหย่อม ที่นั่งพักผ่อน สระว่ายน้ำ และสนามเด็กเล่นให้ ซุ้มหน้าโครงการถือว่าสวยเข้ากับรูปแบบของโครงการ ทางเข้าออกติดตั้งกล้อง CCTV และระบบ Key Card Access ระยะใกล้ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเข้าออกโครงการ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 3 – 6 ล้านบาท, 18 June 2018
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – เดินทางเข้ามอเตอร์เวย์ได้สะดวก มีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบไม่มากนัก ต้องอาศัยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก
- ความปลอดภัย 8/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, รปภ.หน้าหมู่บ้าน, Key card Access ระยะใกล้ รั้วกำแพง 2.5 ม. Magnetic Sensor, IP camera
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – จัดฟังก์ชันลงตัว เหมาะสำหรับสมาชิก 3-4 คน
- วัสดุ 7.75/10 – มาตรฐานของระดับนี้, มีเพิ่ม Fresh Air System, Home Automation มาให้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีสวนหย่อมและสวนรอบๆโครงการ สภาพในโครงการดีพอสมควร ตามระดับราคา
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – ไม่เน้น Facilities มาก จัดสวน ที่นั่งพักผ่อน สระว่ายน้ำ และสนามเด็กเล่นมาให้
- 7.61 / 10.00
BOTTOM LINE
The Connect วงแหวน-พระราม 9 เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กที่กำลังหาบ้านที่เดนทางใช้มอเตอร์เวย์สะดวก ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เน้นพื้นที่ใช้สอยคุ้มค่าและไม่ต้องการเปิดแอร์เยอะ มีระบบระบายอากาศ และ Home Automation มีส่วนกลางให้ใช้ถึงแม้ว่าจะไม่เยอะนัก มีงบประมาณ 3-6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 21,000 – 42,000 บาท