ฉบับที่ 551  … เป็นรีวิวภาคต่อของ รีวิวฉบับย่อที่ 324 The Bangkok โดยผมกับทีมงาน Think of Living ก็ได้เข้าไปเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้นมา และบรรจงถ่ายภาพห้องตัวอย่างในมุมต่างๆ จนกลายเป็น Exclusive Review ฉบับสมบูรณ์ กับคอนโดมิเนียมโปรเจคที่แพงที่สุด … The Bangkok Sathorn ซึ่งจัดเป็น Flagship ของอาคารแนวสูง จาก Land and Houses ในยุคปัจจุบันครับ

Fact @ 24 March 2013

  • The Bangkok สาทร (The Bangkok Sathorn)
  • บริษัท Land and Houses จำกัด (มหาชน)
  • ULTIMATE LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด High Rise 50 ชั้น 1 อาคาร 468 ยูนิต
  • ที่จอดรถ 120% (ไม่รวมซ้อนคัน)
  • ที่ดินประมาณ 4-3-79 ไร่
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 59-67 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 106-152 ตารางเมตร
  • พื้นที่ใช้สอย 59 – 152 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 10 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 170,000 – 270,000 บาท
  • Update 16/1/17 ราคาเริ่มต้นประมาณ 15 ล้านบาท
  • Update 16/1/17 ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 250,000 บาท
  • เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS สุรศักดิ์ ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS สุรศักดิ์
  • โทร. 1198

ชมภาพรวมโครงการและส่วนกลางได้ที่ท้ายรีวิว อัตเดตวันที่ 19 ก.พ.2561

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.718819,100.520391

map

 

แผนที่จากทางโครงการ

The bangkok rout

ทำเลที่ตั้งของ The Bangkok อยู่บนถนนใหญ่สาทร ฝั่งพระนคร บริเวณแยกสุรศักดิ์ ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ และจุดขึ้นลงทางด่วนสาทร จัดเป็นทำเลที่ดีมากแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ หากวัดกันบนถนนสาทรนี้ ทำเลของ The Bangkok สาทรก็คงจะเป็นรองแค่ช่วงต้นถนนสาทรแถวๆตึก Q.House ลุมพินีเท่านั้นละครับ

The bangkok rout

แผนที่การเดินทางด้วยรถวันนี้เริ่มจากปลายถนนสาทรฝั่งที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาจากถนนกรุงธนบุรีนะครับ วิ่งมาแยกสุรศักดิ์ครับ วิ่งมาเส้นสาทรเหนือ แล้วยูเทิร์นกลับมาสาทรใต้ครับ

เราเริ่มดูทำเลกันจากปลายถนนสาทรฝั่งที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาจากถนนกรุงธนบุรีนะครับ แยกสุรศักดิ์นี้เป็นจุดที่รถติดสุดๆอีกแห่งหนึ่งของประเทศ เรียกกันว่าหากมาตอนเช้าช่วงชั่วโมงเร่งด่วนแล้ว จะเห็นหางแถวอยู่ที่ราชพฤกษ์ก็ไม่แปลก ลากยาวตั้งแต่สาทรเป็นต้นไปเลย

แต่คอนโดนั้นอยู่ฝั่งตรงข้าม เวลาที่เราจะเข้าคอนโดถ้ามาจากฝั่งสาทรเหนือก็ต้องกลับรถ ซึ่งที่กลับรถที่ใกล้ที่สุดคือบริเวณใกล้ๆแยกสาทร-นราธิวาสฯ ครับ

วิ่งตรงมาเรื่อยๆ แถวนี้คือย่านใจกลางเมือง Office Building ที่เรียกกันว่า CBD ของประเทศไทย ด้านซ้ายจะเห็นโรงแรม W ใหญ่ๆและสาทรสแควร์ที่พึ่งเปิดใช้บริการไปไม่นาน

the-bangkok-สาทร-4 copy

เรากลับรถกันตรงนี้นะครับ ก่อนถึงแยกนราธิวาสฯเล็กน้อย

มาดูทางฝั่งสาทรใต้กันบ้าง ช่วงนี้ก็เช่นกันเป็นจุดที่รถติดสุดๆอีกแห่งหนึ่งในช่วงเวลาเย็น (แน่นอนขาเข้าเมืองติดเช้า ขาออกเมืองก็ต้องติดเย็น) ซึ่งจะมีปัจจัยเร่งอีกก็คือโรงเรียนอัสสัมชัญที่อยู่ในซอยเซ็นต์หลุยส์ เป็นตัวเร่งรถติดชั้นดี

พอเลยมาแล้วก็วิ่งผ่านโรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์ วิ่งไปทางโรงแรม Eastin

ตรงนี้เป็นสถานีรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ละครับ

the-bangkok-สาทร-8 copy

วิ่งไปอีกเล็กน้อย บริเวณปลายสถานีก่อนถึงทางขึ้นทางด่วน ก็จะเจอกับตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ The Bangkok

บริเวณนี้ละครับ แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายไปข้างหน้า ก็จะสามารถขึ้นทางด่วนได้เลย และใช้เป็นทางลัดไปยังถนนจันทน์, ถนนเจริญกรุง และถนนเจริญราษฎร์ได้

เราก็เลี้ยวเข้ามาจอดกันนะครับ

หน้าโครงการอยู่ประชิดแยกพอดี โชคดีที่เลนซ้ายเป็นเลนบังคับเลี้ยวซ้าย ก็จะไม่มีรถเยอะแยะมาขวางหน้าบ้าน พอจะไหลๆได้ตลอด ต่างจากเลนกลางที่ต้องรถสัญญาณไฟแดง

ฝั่งตรงข้ามเป็น Show Room Honda นะครับ ส่วนฝั่งนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก ถ้าอยากอ่านรีวิวโดยละเอียดของทำเลรอบๆสถานีรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ ก็สามารถอ่านได้ที่นี่เลยครับ เราได้ทำการวิเคราะห์ครอบคลุมไว้เกือบทุกจุดแล้ว

The bangkok rout (1)

แผนที่ bts สถานีสุรศักดิ์ เดี่ยวเราลองมาเดินดูเส้นทางรอบๆBTS กันนะครับ เดี๋ยวเราจะลงบันได BTS ฝั่งใกล้โรงแรม eastin ก่อนนะครับจะได้เห็นพื้นที่ใกล้ๆโครงการกัน

The Bangkok สาทร 024

โรงแรมอิสติน ติด BTS สุรศักดิ์ ครับ ด้านหน้าโรงแรมจะมีสถานีจักรยานอยู่ด้วยครับ

ขอเพิ่มเติมเรื่องโครงการ “ปันปั่น” โครงการสนับสนุนให้คนขับจักรยานของ กทม. ครับ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.punpunbikeshare.com ได้นะครับ โดยคุณสมบัติผู้ใช้คือมีอายุไม่น้อยกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ในวันที่สมัครใช้บริการ และผู้ใช้บริการต้องสมัครลงทะเบียนเป็นผู้ใช้บริการจักรยานสาธารณะปันปั่นด้วยตนเอง โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชน บัตรข้าราชการ หรือหนังสือเดินทาง และได้ชำระค่าธรรมเนียมและค่าบริการล่วงหน้าตามที่โครงการกำหนดที่สถานีได้เลยครับ

The bangkok plan 2

ตัดแผนที่สถานีจักรยานย่านถนนสาทรมาให้ดูกันครับ จะเห็นสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีหมายเลข 15 หรือสถานีเซนต์หลุยส์ก่อนถึง BTSสุรศักดิ์ นะครับ

The bangkok plan 4

ไปดูตัวสถานีจริงกันเลยดีกว่าครับ

The-Bangkok-สาทร-021 copy  

จะเห็นสถานีจักรยานทาสีม่วงอยู่หน้าโรงแรม Eastin ใกล้BTS สุรศักดิ์ ตามภาพข้างบนครับ

The Bangkok สาทร 022 

ของจริงเปลี่ยนชื่อจากสถานีเซนต์หลุยส์เป็นสถานีโรงแรมอิสตินไปซะแล้วครับ

The Bangkok สาทร 023 

ก็จะเห็นแท่นควบคุมสถานีระบบสัมผัส และจุดล็อคจักรยานครับ

The Bangkok สาทร 024 

โรงแรม Eastin ครับ ติดบันไดทางขึ้น BTS สุรศักดิ์

 The Bangkok สาทร 026 

เดินต่อมาก็จะเห็นแผงขายผลไม้ ขนมหวานข้างทาง

The Bangkok สาทร 027 

ถัดมาเป็นป้ายหอการค้าไทย-จีนครับ ด้านหลังเป็นอาคารสีเหลืองสไตล์โคโลเนียล หรือ ร้านอาหาร Blue Elephant ร้านอาหารไทยที่โด่งดังไปทั่วโลกนั่นเอง ว่างๆก็ลองแวะไปชิมกันดูนะครับ ภายในตกแต่งสวยทีเดียว

The Bangkok สาทร 028

ถัดมาเป็นตึกเหลือง King Royal Garden Inn มีแฟมิลี่มาร์ท แผงขายอาหารผลไม้ จะเห็นบันไดทางลงจาก BTS สุรศักดิ์แล้วนะครับ แนะนำให้ลงทางออก 2  จะใกล้สุดครับ เดินจากตรงนี้ต่อไปอีกประมาณ 60เมตรก็จะถึงโครงการแล้ว

The bangkok view 1

ด้านบนเป็นแผนที่ระยะเดิน 60 เมตร จากทางลง BTS สุรศักดิ์ ถึงโครงการ The Bangkok สาทร ครับ เกี่ยวกับวิว ตึกสูงที่อยู่รอบๆโครงการมีความสูงอยู่ระหว่าง 32- 50 ชั้นครับ ด้านข้าง(วิวB) ของโครงการ ตึกสูงที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด (ประมาณ 110 เมตร) คือ อาคาร Thai-cc สูง 35ชั้นครับ, King royal garden inn ข้างๆ(ใกล้สุด 60 เมตร) สูง18 ชั้น ถัดออกไปเป็นโรงแรมอิสตินสูง 32 ชั้น ครับ ด้านวิวA มีตึกที่สูงที่สุดที่ใกล้ BTS สุรศักดิ์ตอนนี้ คือตึก Sathorn house (50ชั้น) ซึ่งมีจำนวนชั้นเท่ากับโครงการ The Bangkok Sathorm นี้ครับ ด้านล่างเป็นภาพมุมมองรอบด้านจาก Presentation ของโครงการครับ (ขออภัยที่ภาพไม่ค่อยชัดครับ ใช้มือถือถ่ายมาจากจอนำเสนออีกที) จากที่ดูจากภาพคาดว่าถ่ายในระดับความสูงมากกว่าระดับชั้น 30 ขึ้นไปครับ

วิวA ทิศเหนือ เป็นวิวฝั่งถนนสาทรครับ ตึกกรุกระจกซ้ายสุดของภาพคือ Chartered square  ที่กำลังจะมีตึก Noble Revo ขึ้นข้างๆครับ ขณะที่ตึกขวาสุดคือ Sathorn house ครับ วิวเมืองที่เห็นเป็นวิวเมืองทางเส้นสีลมครับ จะเห็นถนนสุรศักดิ์ที่วิ่งออกสีลม และฝั่งซ้ายๆของภาพจะเห็นโค้งทางด่วนศรีรัช ตอนหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องความสูงอาคารต่างๆ ผมไปเจอลิ้งค์นี้ครับ http://pantip.com/topic/30054519 เป็นวิวที่ตากล้องคนนึงขึ้นไปถ่ายภาพวิวเมืองช่วงใกล้ค่ำจากตึก Thai-cc ครับ สวยงามทีเดียว (ถ้าให้อธิบายเรื่องมุมของภาพในลิงค์ มันเป็นมุมที่สามารถมองจากห้องมุม(ทิศตะวันตกฉียงเหนือ) และวิวฝั่งตะวันตก ของโครงการนี้ได้ครับ

วิว B หรือทิศตะวันออก จะเห็นโรงแรมอิสติน ที่อยู่ฝั่งเดียวกับโครงการและวิวถนนสาทรครับ  ทิศนี้เหมาะกับคนที่ชอบซิตี้วิว จะเห็นรางรถไฟฟ้า และตึกสูงที่มีมิติน่าสนใจทีเดียว ต้องขออภัยด้วยที่ภาพนี้ไม่กว้างพอที่จะเห็นตึก Thai-cc ฝั่งขวามือสุดของภาพนะครับ เพราะถ้าดูจาก google map (ดูได้จากไดอะแกรมที่ทำด้านบนนะครับ) จะเห็นว่าจริงๆวิวทิศตะวันออกจะเห็นตึก Thai-cc เต็มๆเลยเหมือนกัน

วิว C หรือทิศใต้ ด้านซ้ายสุดของภาพจะเห็นตึก Thai-ccครับและเมืองรอบๆครับ ฝั่งทิศใต้นอกจากตึกThai-cc ที่อยู่เฉียงออกไป ฝั่งนี้ในระยะใกล้ไม่มีมีตึกสูงอื่นอยู่  ก็จะมองออกไปได้ไกลทีเดียว ฝั่งขวามือ (ไม่มีในภาพ) จะเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกันครับ

The bangkok view 2

วิว D หรือทิศตะวันออก มองออกไปเป็นเส้นสะพานตากสิน เอเชียทีค จะเห็นวิวเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาครับ มุมนี้สำหรับคนที่รับแสงแดดที่ค่อนข้างแรงในตอนเย็นได้ จะได้วิวเมืองกรุงเทพและโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยมากครับทั้งกลางวันและกลางคืน ตอนหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องความสูงอาคารต่างๆ ผมไปเจอลิ้งค์นี้ครับ http://pantip.com/topic/30054519 เป็นวิวที่ตากล้องคนนึงขึ้นไปถ่ายภาพวิวเมืองช่วงใกล้ค่ำจากตึก Thai-cc ครับ สวยงามทีเดียว (ถ้าให้อธิบายเรื่องมุมของภาพในลิงค์ มันเป็นมุมที่สามารถมองจากห้องมุม(ทิศตะวันตกฉียงเหนือ) และวิวฝั่งตะวันตก ของโครงการนี้ได้ครับ

เจาะลึกตัวโครงการ

เราเข้ามาในสำนักงานขายของ The Bangkok สาทร กันนะครับ ซึ่งทางโครงการก็จัดที่นั่งเอาไว้อย่างดี เหมือนอยู่ในโรงแรมหรูหรา

โมเดลตั้งอยู่กลางห้องสูงท่วมหัวคน เป็นตัวตึกสูง 50 ชั้น ที่ได้รูปร่างมาจากโขดหิน ดูจากทางด้านข้างอาจจะทึบไปหน่อย แต่ที่ทำแบบนี้เพราะต้องการเปิดมุมรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาครับ

bangkok

วัดระยะจากหน้าโครงการ ไปที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ประมาณ 800 เมตร ทำให้เราเห็นแม่น้ำแน่นอน Confirm ซึ่งวิวบางส่วนเราสามารถเช็คได้จากตึกโรงแรม Eastin นะครับ

แต่สำหรับฝั่งขวาที่เป็น City View อาจจะต้องเล็งช่องดีๆ เพราะว่าจะติดโรงแรม Eastin และตึก Thai CC ได้นะครับ แม้ว่าติ่มซำ Chef Man จะอร่อยมากก็ตาม

หน้าตาตึกด้านหน้าดูความกว้างแล้วบางๆ เมื่อเทียบกับส่วนของด้านยาวที่ยาวมาก ทั้งด้านหน้าและด้านหลังลู่เข้าไปเป็นชั้นๆจนถึงยอดชั้นบนสุดที่ชั้น 50

ส่วนของด้านหน้ามีแบ่งเป็นสองด้าน ด้านซ้ายคือ Retails ที่มีพื้นที่ประมาณ 600 ตารางเมตร ในส่วนนี้ทาง L&H จะเป็นผู้บริหารเอง คงจะเอาร้านค้าต่างๆมาให้ลูกค้าได้ใช้งาน เช่น Super Market, Coffee Shop และ Laundry โดยแยกความเป็นส่วนตัวจากทางเข้าลูกบ้าน ให้ที่จอดรถส่วน Retails มีอยู่ชั้นใต้ดิน 1 Floor Plate เต็มๆ รวมกับที่จอดรถของ Visitors

ส่วนลูกบ้านเข้าทางขวา แยกกันเลยนะครับ โดยพื้นที่ชิ้นหน้าสุดของชั้นล่างจัดเป็น Lobby ส่วนพื้นที่ที่เหลือจัดเป็นส่วนกลางเต็ม Floor ไม่มียูนิตพักอาศัยครับ

ที่จอดรถไหลมาด้านหลังตั้งแต่ชั้น 2 – 5 โดยจะมีที่จอดรถประมาณ 120% ไม่มี Fix นะครับ

ชั้น 6 ส่วนบนสุดของตึกจอดรถจัดเป็นสวนใหญ่ ทาง L&H เคลมว่าจะสามารถลงต้นไม้ใหญ่ความสูงประมาณ 5-6 เมตรได้เลย ทำการออกแบบเตรียมไว้หมดแล้ว สามารถเดินต่อเนื่องกัน เชื่อมจากตัวตึกแกนหลักมาบริเวณนี้ได้ โดยชั้น 6 ทั้งชั้น จัดเป็นส่วนกลาง มีฟิตเนส โยคะ สตีม ซาวน่า ที่นั่ง ห้องนั่งเล่น ฯลฯ อยู่บนชั้นนี้ด้วย

ซึ่งบริเวณชั้น 6 ส่วนกลางต่างๆจะสร้างอยู่บนน้ำ หรือมี Water Feature ล้อมรอบเกือบทุกส่วน ให้นั่งสบายๆ ได้ครับ

บริเวณส่วนกลางอีกชั้นจะอยู่บนตึกด้านบนคือชั้น 32 และ 32A โดยจะเป็นเพดานเบิ้ล 2-3 ชั้น สูงไต่ระดับขึ้นไป วางสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าและด้านหลัง

ส่วนของด้านหลังเป็น Infinity Edge Pool ซึ่งจะมองเห็นโค้งน้ำเจ้าพระยาได้อย่างสบายๆ เพราะเลยหลังคาของตึกหลายๆตึกที่อยู่ใกล้เคียงไปหมดแล้ว

ให้ดูภาพรวมนะครับ จะเห็นว่ามี Core Lift อยู่ทั้งหมด 5 จุด จุดละ 2 ตัวจัดเป็น Private Lift ทั้งสิ้น รองรับโหลดของห้องเฉลี่ยได้อยู่ที่ 46 ยูนิต ซึ่งจะมี Service Lift แยกต่างหาก อีก Core ละ 1 ชุด ทำให้หมดกังวลปัญหาเรื่องลิฟท์ไปเลยครับ

พอเข้าไปในสำนักงานขายแล้วก็จะมี VDO Presentation ให้ดู

โดยจะบอกความเป็นมาของโครงการ The Bangkok และภาพที่เรา Snap มาให้ดูนี้เป็นรูปแปลงที่ดินของโครงการครับ

ภาพ Render สามมิติของ Lobby

ภาพ Render ของตัวตึกและวิวที่มองไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา

ภาพ Render Infinity Edge Pool ที่ชั้น 32

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Retails ที่ชั้น G
  • ส่วนกลางทั้งชั้น 6 และชั้น 32, 32A
  • สระว่ายน้ำ 2 สระ
  • ห้องออกกำลังกาย
  • ห้องโยคะ
  • ห้องนั่งเล่น
  • Sky Lounge
  • Sky Deck
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • สวนใหญ่ชั้น G, 6
  • ลิฟท์โดยสาร 14 ตัว อัตราส่วนประมาณ 33:1
  • ที่จอดรถ 120%
  • ระบบ CCTV / Access Card

Product Walkthrough

The bangkok plan 1

เอาผังอาคารมาให้ดูเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นนะครับ โดยส่วนของทางเข้าด้านหน้าจากถนนสาทร จะแบ่งเป็นสองด้าน ด้านซ้ายคือทางเข้าฝั่ง Retails ที่มีพื้นที่ประมาณ 600 ตารางเมตร ในส่วนนี้ทาง L&H จะเป็นผู้บริหารเอง คงจะเอาร้านค้าต่างๆมาให้ลูกค้าได้ใช้งาน เช่น Super Market, Coffee Shop และ Laundry โดยแยกความเป็นส่วนตัวจากทางเข้าลูกบ้าน ให้ที่จอดรถส่วน Retails มีอยู่ชั้นใต้ดิน 1 Floor Plate เต็มๆ รวมกับที่จอดรถของ Visitors

ส่วนลูกบ้านเข้าทางขวา แยกกันเลยนะครับ โดยผ่าน drop off ด้านหน้ามาจะเป็นไม้กระดกระบบ Acess Key Card เข้ามาจะเป็น Private lobby หรือทางเข้าส่วนตัวแยกโซนตาม  Core Lift ทั้งหมด 5 จุด จุดละ 2 ตัวจัดเป็น Private Lift ทั้งสิ้น รองรับโหลดของห้องเฉลี่ยได้อยู่ที่ 46 ยูนิต ซึ่งจะมี Service Lift แยกต่างหาก อีก Core ละ 1 ชุด ทำให้หมดกังวลปัญหาเรื่องลิฟท์ไปเลยครับโดยพื้นที่ชิ้นหน้าสุดของชั้นล่างจัดเป็น Lobby ส่วนพื้นที่ที่เหลือจัดเป็นส่วนกลางเต็ม Floor ไม่มียูนิตพักอาศัยครับ

The bangkok plan 3

ผังอาคารชั้น 3-5 เป็นลานจอดรถโดยจะมีที่จอดรถทั้งหมดประมาณ 120% ไม่มี Fix นะครับ ทางเข้าไปยังลิฟต์ของแต่ละโซนเป็นระบบ Acess Key Card สู่ทางเข้าส่วนตัวแยกโซนตาม  Core Lift ทั้งหมด 5 จุด ซึ่งในตัวลิฟต์เป็นแบบล็อคชั้นโดย Acess Key Card เช่นกันครับ

The bangkok plan 2  

ชั้น 6 ส่วนบนสุดของตึกจอดรถจัดเป็นสวนใหญ่ ทาง L&H เคลมว่าจะสามารถลงต้นไม้ใหญ่ความสูงประมาณ 5-6 เมตรได้เลย ทำการออกแบบเตรียมไว้หมดแล้ว สามารถเดินต่อเนื่องกัน เชื่อมจากตัวตึกแกนหลักมาบริเวณนี้ได้ โดยชั้น 6 ทั้งชั้น จัดเป็นส่วนกลาง มีฟิตเนส โยคะ สตีม ซาวน่า ที่นั่ง ห้องนั่งเล่น ฯลฯอยู่บนชั้นนี้ด้วย ซึ่งบริเวณชั้น 6 ส่วนกลางต่างๆจะสร้างอยู่บนน้ำ หรือมี Water Feature ล้อมรอบเกือบทุกส่วน ให้นั่งสบายๆ ได้ครับ

The bangkok plan 5

ผังอาคารชั้น 7-29 เป็นส่วนที่พักอาศัยครับ จะเห็นว่าลิฟต์ส่วนตัวแจกเข้าห้องในส่วน Foyer เลยนะครับ ไม่มีการใช้โถงทางเดินร่วมกัน ก็คือลิฟต์ 1 ตัว ต่อ 1-2 ห้อง ในแต่ละชั้นเท่านั้น จะเห็นจากในผังอาคารว่า ห้องแบบ 2 ห้องนอน จะกินพื้นที่จนสุดฝั่งตะวันออกและตะวันตกของอาคารเลยนะครับ เห็นทั้งวิวเมืองและวิวพระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำเจ้าพระยาเลยครับ และจะได้ลิฟต์ส่วนตัวแบบออกได้ 1 ทางตามไดอะแกรม ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอนก็เลือกวิวคนละฝั่งนะครับ ข้อดีข้อเสียต่างกัน คือฝั่งทิศตะวันออก จะได้แดดอ่อนๆยามเช้าและวิวเมืองตอนกลางคืน ส่วนฝั่งตะวันตกก็จะได้แดดช่วงบ่ายซึ่งร้อนกว่า แต่จะเห็นฉากพระอาทิตย์ตกพร้อมแม่น้ำเจ้าพระยาครับ ห้องแบบ 1 ห้องนอน จะได้ลิฟต์ส่วนตัวแบบ 1 ตัวต่อห้อง 2 ห้อง แจกเข้าส่วน Foyer แต่ละห้อง  อีกส่วนที่ใช้รวมกันประมาณด้วยอัตราส่วนชั้นละ 3 ห้องต่อ 1 ก็คือส่วนโถงบันได จุดทิ้งขยะและเซอร์วิซลิฟต์ครับ

The bangkok plan 4

ผังอาคารชั้น 32 – 32A เป็นบริเวณส่วนกลางอีกชั้น โดยจะเป็นเพดานเบิ้ล 2-3 ชั้น สูงไต่ระดับขึ้นไป วางสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าและด้านหลังส่วนของด้านหลังเป็น Infinity Edge Pool ซึ่งจะมองเห็นโค้งน้ำเจ้าพระยาได้อย่างสบายๆ เพราะเลยหลังคาของตึกหลายๆตึกที่อยู่ใกล้เคียงไปหมดแล้ว สังเกตว่า Core Lift เมื่อขึ้นสู่ระดับชั้นที่สูงขึ้น  จะลดลงเหลือ 3 โซน จาก 5 โซน ตามระยะถอยร่นของตัวอาคาร ลูกบ้านที่เข้ามาใช้งานสระน้ำต้องเปลี่ยนลิฟต์เพื่อขึ้นมาชั้นนี้ครับ

The bangkok plan 6

 

ผังอาคารชั้น 34-40 เป็นส่วนที่พักอาศัยครับ จะเห็นว่าลิฟต์ส่วนตัวแจกเข้าห้องในส่วน Foyer เลยนะครับ ไม่มีการใช้โถงทางเดินร่วมกัน ก็คือลิฟต์ 1 ตัว ต่อ 1-2 ห้อง ในแต่ละชั้นเท่านั้น จะเห็นจากในผังอาคารว่า ห้องแบบ 2 ห้องนอน จะกินพื้นที่จนสุดฝั่งตะวันออกและตะวันตกของอาคารเลยนะครับ เห็นทั้งวิวเมืองและวิวพระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำเจ้าพระยาเลยครับ และจะได้ลิฟต์ส่วนตัวแบบออกได้ 1 ทางตามไดอะแกรม ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอนก็เลือกวิวคนละฝั่งนะครับ ข้อดีข้อเสียต่างกัน คือฝั่งทิศตะวันออก จะได้แดดอ่อนๆยามเช้าและวิวเมืองตอนกลางคืน ส่วนฝั่งตะวันตกก็จะได้แดดช่วงบ่ายซึ่งร้อนกว่า แต่จะเห็นฉากพระอาทิตย์ตกพร้อมแม่น้ำเจ้าพระยาครับ ห้องแบบ 1 ห้องนอน จะได้ลิฟต์ส่วนตัวแบบ 1 ตัวต่อห้อง 2 ห้อง แจกเข้าส่วน Foyer แต่ละห้อง  อีกส่วนที่ใช้รวมกันประมาณด้วยอัตราส่วนชั้นละ 3 ห้องต่อ 1 ก็คือส่วนโถงบันได จุดทิ้งขยะและเซอร์วิซลิฟต์ครับ

The bangkok plan 2 (1)

 

 

ห้องแบบ 1BR (TYPE-B) ขนาด : 59 – 64 ตร.ม.อยู่ในชั้น 7th – 30th, 33th – 43th

จากทางเข้าลิฟต์ส่วนตัวเปิดออกมาจะเป็นส่วนของ Foyer ครับ ซึ่งทางโครงการทำตู้เก็บรองเท้ามาให้ตรงจุดนี้ด้วย ถัดมาเป็นประตูทางเข้าห้องเปิดสู่ส่วน Pantry ฝั่งตรงข้ามผ่านตู้เก็บของเป็นประตูเปิดออกไปส่วนโถงบันไดสำหรับออกไปทิ้งขยะ ต่อมาเป็นโซนทานอาหารและห้องนั่งเล่นครับ ส่วนชั้นวางทีวีวางติดริมผนังห้องด้านนึง ถัดมาจากชั้นวางทีวีมีประตูออกไปลานซักล้างมีที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์และเครื่องซักผ้า มีโซนห้องนอนอยู่ด้านหลัง ห้องนอนมีทางเดินรอบเตียงพอดี และมีที่พอสำหรับวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งข้างเตียงได้ครับ ผ่านตู้เสื้อผ้ามาเป็นทางเข้าห้องน้ำ

The bangkok plan 3 (1)

 

แบบห้องตัวอย่างแบบ 2BR (TYPE-F) ขนาด : 140 – 152 ตร.ม.อยู่ในชั้น 7th – 30th, 33th – 43th เป็นห้องชุดขนาดใหญ่สุด

จากทางเข้าลิฟต์ส่วนตัวเปิดออกมาจะเป็นส่วนของ Foyer ครับ ซึ่งทางโครงการทำตู้เก็บรองเท้ามาให้ตรงจุดนี้ด้วย ห้องนี้มีประตูสองบาน บานฝั่งซ้ายเปิดออกไปส่วนทิ้งขยะทางขวามือครับ ประตูอีกบานเป็นทางเข้าห้องเปิดสู่โซนทานอาหารและห้องนั่งเล่น ด้านหลังโซนทางอาหารมีทางเปิดออกลานซักล้างมีที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์และเครื่องซักผ้า มีครัวปิดขนาดกำลังดีอยู่ตรงข้ามห้องนั่งเล่น  ถัดมาเป็นห้องว่างที่สามารถจัดเป็นห้องหนังสือ ห้องทำงาน หรือจะเป็นห้องนอนที่ 3 เลยก็ยังได้ครับ ถัดมาเป็นห้องน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องนอนเล็กซึ่งปลายเตียงมีระยะที่พอเหมาะสำหรับชั้นวางทีวี รอบๆเตียงวางตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ยังมีระยะทางเดินรอบๆอยู่ครับ ริมสุดเป็นห้องนอนใหญ่ มีที่ว่างปลายเตียงพอสำหรับวางโซฟา โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวีได้เลยครับ มี ข้างเตียงเป็นบานเลื่อนเปิดสู่ walk in closet ก่อนผ่านเข้าไปห้องน้ำห้องใหญ่ มีที่สำหรับอ่างอาบน้ำและโซนอาบน้ำแบบฝักบัวครับ

ไปดูห้องตัวอย่างกันดีกว่าครับ

IMG_5856

แบบห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน (TYPE-A) ขนาด : 61-67 ตร.ม. อยู่ในชั้น 7th – 30th,33th-43th

ห้องแรกที่จะพาเข้าชมห้องแบบ 1 ห้องนอนครับ ขนาด 60 ตร.ม. ซึ่งโดยส่วนใหญ่ห้องขนาดนี้เค้าทำแบบ  2 ห้องนอนก็สามารถทำได้ครับแต่ The Bangkok ทำมาแบบ1 ห้องนอนดังนั้นพื้นที่ใช้สอยในส่วนต่าง ๆ จะกว้างไม่อึดอัด เรียกได้ว่าอยู่สบายกันเลยทีเดียวครับ เมื่อเปิดประตูลิฟต์ออกมาจะเป็นโถงหน้าห้องส่วนตัวที่วางตู้รองเท้าเเละโต๊ะได้ครับ มีประตูอีกบานที่เปิดไปยังห้องทิ้งขยะ เมือเข้ามาในห้องจะเป็นส่วนครัวที่อยู่ทางได้ขวามือครับ และตรงกลางจะเป็นส่วนนั่งเล่น ในเเบบโต๊ะทานอาหารจะวางติดผนังที่ใกล้กับทางเข้า แต่ในห้องตัวอย่างโต๊ะจะวางหลังโซฟานะครับ ซึ่งการใช้งานจริงสามารถวางได้ทั้งสองแบบ แต่ต้องดูขนาดโต๊ะและเก้าอี้ว่าจะวางตรงจุดไหนถึงจะเหมาะสมครับ หลังโซฟาเป็นส่วนซักล้างที่จะวางคอมเพลสเซอร์เเอร์ในส่วนนี้ด้วยครับ ส่วนครัวเคาน์เตอร์จะยาวตลอดเเนวผนัง ห้องนี้ไม่ได้เป็นครัวปิดนะครับ ดังนั้นเวลาทำอาหารหนัก  ๆอย่าลืมใช้ทีดูดครัวนะครับ 🙂 ห้องนอนขนาดนั้นกว้างทีเดียววางได้ทั้งโต๊ะทำงาน โต๊ะข้างเตียง ตู้เก้บของก็สามารถวางได้ครับ ห้องน้ำเดินโดยผ่านส่วน walk in closet ครับ

เนื่องจากเป็น Private Lift เปิดลิฟต์มาจะเจอส่วนโถงทางเข้าห้องกันครับ เรียกได้ว่าก้าวออกจากลิฟต์ก็ถึงห้องของตัวเองกันเลยทีเดียว แต่ห้องตัวอย่างจะทำให้เห็นว่าประตูลิฟต์อยู่ทางซ้ายมือ แต่ห้องจริงที่ได้เมื่อเปิดประตูลิฟต์มาจะด้านหน้าที่เห็นเป็นตู้รองเท้าเเละโต๊ะวางของ ด้านซ้ายจะเป็นประตูห้องอีกทีครับ

ห้องตัวอย่างทำให้เห็นลิฟต์ทางซ้ายมือ ตรงหน้าในภาพคือประตูเข้าห้องครับ

ภายในตุ้เก็บรองเท้าที่จะอยู่ด้านหน้าห้องครับ แต่สำหรับสาว ๆ ที่รองเท้าเยอะอาจจะต้องทำตู้เพิ่มซักหน่อย

ซึ่งประตูห้องจะเป็นไม้สีขาวและมี digital door lock ยี่ห้อ Yale ให้ครับ ส่วนนี้จะสะดวกทีเดียวเนื่องจากถ้าลูกบ้านลืมกุญเเจก็สามารถใช้รหัสผ่านเข้าบ้านหรือใช้บัตรสเเกนเข้าได้ครับ (รูปนี้ถ่ายจากด้านในห้องนะครับ)

ส่วนภายในห้องจะ Samsung Smart Home หรือตัว VDO Door Phone ติดผนังอยู่ครับ

เปิดประตูห้องเข้ามาภาพเเรกที่เห็นจะเป็นแบบนี้ครับ ด้านหน้าเยื้องขวามือจะเป็นส่วนครัว ด้านซ้ายเป็นส่วนนั่งเล่นเเละทานอาหาร พื้นห้องเป็นแกรนิตโต้สีขาวขนาด 60×60 ซม.

ภาพโดยรวมของมุมนี้ครับ ภาพนี้จะเห็นตำเเหน่งต่าง ๆ ชัดเจนขึ้นครับ ส่วนนั่งเล่นจะอยู่ไม่ไกลจากครัวและอยู่ติดกับโต๊ะทานอาหาร ซึ่งโต๊ะทานอาหารอยู่ถัดจากครัวครับ

หันมาด้านขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวยาวตลอดเเนวผนังครับ ตรงจุดนี้ทางโครงการเตรียมไว้ให้ทั้งหมด ยกเว้นตู้เย็นและของตกเเต่งนะครับ เคาน์เตอร์และตู้จัดทำให้และจะมีช่องสำหรับใส่ตู้เย็นขนาดพอดีสำหรับ 1 ห้องนอนครับ

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินควอทซ์สีขาว อ่างล้างจานของ mex  เตาไฟฟ้า เตาอบเเละเครื่องดูดควันจะได้ของ  Siemens ตรงส่วนนี้ทางโครงการเตรียมให้ เคาน์เตอร์ถือว่ายาวที่เดียว วางเตาวางอ่างล้างจานก็ยังมีที่เหลือให้ทำหรับเตรียมอาหารเยอะทีเดียว

เนื่องจากTop เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินควอทซ์สีขาว ทำให้ตรงขอบสามารถทำเเบบตัดขอบให้เฉียงเรียบ ๆ ได้ ซึ่งสะดวกเวลาเปิดประตูตู้ด้านล้างเพราะพื้นที่ระหว่าง Top กับบานประตูก็จะเหลือมากขึ้น

ลิ้นชักล่างเคาน์เตอร์ สามารถเก็บของได้เยอะเลยครับ

ผนังเหนือเคาน์เตอร์จะทำเป็นหินควอทซ์ ที่มีรางสำหรับใส่ที่เเขวนของครับ สามารถเลื่อนไปมาได้

ข้างกันนั้นจะมีประตูอยู่ เป็นประตูทางไปห้องซักล้างครับ

ก่อนเข้าไปส่วนซักล้าง ขอเเวะให้ชมลักษณะชุดสวิตซ์ไฟที่จะได้นะครับ ส่วนผนังห้องก็จะติดวอลเปเปอร์แบบนี้เลยครับ

ก้าวเข้ามาในห้อง พื้นจะลดระดับลงเล็กน้อยนะครับ พื้นเป็นกระเบื้องโทนสีเขาขนาด 60×60ซม. ห้องนี้จะเป็นส่วนที่วางเครื่องซักผ้าครับ

และจะเเขวนคอมเพลสเซอร์เเอร์แบบนี้โดยมีตะเเกรงกั้นบังสายตาเล็กน้อย

ออกมานอกห้อง ส่วนที่ติดกับครัวและส่วนนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่ทานอาหาร

โต๊ะทานอาหารสามารถวางมุมนี้ได้ครับ แต่ถ้าโต๊ะใหญ่แบบนี้จะทำให้ไม่สะดวกสำหรับคนนั่งด้านในเพราะเหลือพื้นที่ระหว่างโต๊ะกับประตูห้องซักล้างประมาณ 40 ซม.ครับ เวลาเดินมาตรงครัวหรือจะเข้าไปนั่งก็ต้องเอี้ยวตัวเข้าไป แนะนำว่าดูขนาดโต๊ะดี ๆ ก่อนวางนะครับ 🙂

ติดกันนั้นจะเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่น สามารถวางโซฟาตัวยาวได้ครับ วางในระยะห่างจากทีวีแบบสบาย ๆ ไม่อึดอัดนัก

หันไปทางด้านข้าง จะเห็นประตูเข้าห้องทางด้านซ้าย ส่วนด้านขวาเป็นประตูห้องนอนครับ ส่วนนี้มีตู้เก็บของซ่อนอยู่ด้วยนะครับ

ตู้เก็บของอยู่ทางด้านขวาใกล้กับประตูทางเข้าห้องครับ เก็บของได้พอสมควร ตรงนี้โครงการจัดทำให้

ห้องนอนปูด้วยพื้นไม้จริงเอ็นจิเนียร์หรือพื้นไม้ Engineering wood ปิดผิวหน้าด้วยไม้จริงครับ โทนสีไม้น้ำตาลอ่อน

ภาพเเรกเมื่อก้าวเข้ามาในห้องครับ เนื่องจากเป็นแบบ 1 ห้องนอนที่มีขนาดถึง 60 ตร.ม. ห้องนอนจึงใหญ่ ไม่อึดอัดครับ สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบาย ๆ

พื้นที่ข้างเตียงสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองด้าน

ปลายเตียงมีชั้นวางทีวี หรือจะติดตั้งตรงผนังได้ครับ ด้านข้างมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงาน ห้องนอนผนังที่ติดกับด้านนอกจะเป็นหน้าต่างกระจกทั้งหมดครับ

พื้นที่ปลายเตียงเหลือให้เดินสะดวกครับ

พื้นที่วางโต๊ะทำงาน

หันไปดูอีกด้านของห้องนอน จะเป็นห้องน้ำและส่วน Walk in closet นะครับ

เดินเข้าไปส่วน Walk in closet พื้นปูแบบเดียวกับห้องนอน ด้านขวามือจะมีตู้เสื้อผ้าที่บานประตูเป็นกระจกครับ

ด้านซ้ายก็เป็นตู้เสื้อผ้าเช่นเดียวกัน มีพื้นที่วางเสื้อผ้าและของได้เยอะครับ แต่สาว ๆ ถ้ามีชุดเดรสยาว ๆ คงเเขวนในส่วนนี้ไม่ได้นะครับเพราะยะยะสั้นไปหน่อย

เข้ามาในห้องน้ำส่วนที่เจอคืออ่างล้างหน้าครับ ด้านซ้ายจะเป็นส่วนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าจะเป็นของ Kasch พื้นห้องน้ำเป็นแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม.

ระยะห่างระหว่างอ่างล้างหน้ากับประตูห้องนอนครับ มีพื้นที่กว้างไม่อึดอัด ผนังเป็นกระเบื้องขนาด 60×60 ซม.

หันมีอีกด้านกันครับ ด้านนี้มีโถสุขภัณฑ์ซึ่งเป็บเเบบ  smart toilet ดังนั้นจะไม่มีสายชำระนะครับ

ส่วนอาบน้ำจะเป็น Shower Box ครับพื้นลดระดับไปนิดเดียว  แต่เมื่อปิดประตูจะมีขอบประตูที่กันน้ำไม่ให้ไหลออกมาได้ พื้นในส่วนอาบน้ำจะสากกว่าด้านนอกเล็กน้อยเพราะกันลื่นนะครับ เป็นกระเบื้องขนาด 60×60ซม.เช่นเดียวกัน

ส่วนอาบน้ำครับซึ่งจะมี Rain Shower จึงจะมีฟักบัวอีกอันในระดับนี้และที่วางของ ซึ่งอาจต้องติดตั้งที่วางของเพิ่มภายหลังสำหรับคนที่ของเยอะหน่อย ส่วนใครที่ไม่สะดวกกับการใช้ฟักบัวที่ต้องถือตลอดแบบนี้ก็ไม่ยากครับ ติดตั้งตัววางเพิ่มในระดับที่ใช้งานปกติ

หน้าตาฟักบัวเเบบใกล้ ๆครับ

หน้าตาของ Rain Shower  จะอยุ่ไม่ไกลกับพัดลมระบายอากาศ

 

แบบห้องตัวอย่างแบบ 2BR (TYPE-D) ขนาด : 112 – 123 ตร.ม. เป็นห้องชุดขนาด 2 ห้องนอน (TYPE-D) พื้นที่ตั้งแต่ 112-123 ตร.ม. อยู่ในชั้น 7th – 30th

จากทางเข้าลิฟต์ส่วนตัวเปิดออกมาจะเป็นส่วนของ Foyer ครับ ซึ่งทางโครงการทำตู้เก็บรองเท้ามาให้ตรงจุดนี้ด้วย ห้องนี้จะมีประตูสองบาน บานนึงเปิดออกลานซักล้าง มีที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และเป็นจุดวางแอร์คอมเพรสเซอร์ ส่วนประตูอีกบานเป็นประตูบานหลักเปิดสู่โซนทานอาหารและห้องนั่งเล่น มีครัวแบบปิดอยู่ตรงข้ามห้องนั่งเล่น ก่อนเป็นโถงทางเดินสู่โซนห้องนอนทั้งสองห้อง ก่อนถึงห้องนอน ฝั่งซ้ายมือจะมีห้องเก็บของและทางออกไปโถงบันไดสำหรับทิ้งขยะอยู่ครับ ถัดมาเป็นห้องน้ำมีฉากกั้นสำหรับโซนอาบน้ำ ถัดมาเป็นห้องนอนเล็กที่วางเตียงควีนไซส์(ขนาด 5 ฟุต) ได้สบายๆยังมีส่วนปลายเตียงไว้วางชั้นวางทีวีได้และมีทางเดินรอบๆเตียงอยู่นะครับ ถัดมาเป็นห้องนอนใหญ่ มีที่ว่างปลายเตียงสำหรับชั้นวางทีวี มี ข้างเตียงเป็นบานเลื่อนเปิดสู่ walk in closet ก่อนผ่านเข้าไปห้องน้ำห้องใหญ่ มีที่สำหรับอ่างอาบน้ำและโซนอาบน้ำแบบฝักบัวครับ  ไปดูห้องตัวอย่างกันเลยดีกว่า

ออกจากลิฟต์มาจะเจอส่วน Foyer แบบนี้ครับ ห้องนี้จะมีประตู 2 บาน บานนึงเปิดเข้าสู่ตัวห้อง บานนึงเปิดออกลานซักล้าง ทางโครงการทำตู้เก็บรองเท้ามาให้ด้วยนะครับ

The Bangkok สาทร 098 

ภายในตู้เก็บรองเท้าครับ วางรองเท้าได้เยอะพอสมควรเลยทีเดียว มีช่องสำหรับวางอุปกรณ์กีฬาหรือร่มอย่างในภาพ

ถัดจากตู้เก็บรองเท้าประตูที่เห็นเป็นประตูที่เปิดออกไปลานซักล้างครับ

 

จุดวางคอมเพรสเซอร์แบบแขวนอยู่ในกริลครับ ใช้ตากผ้าด้านในก็ได้

พื้นเป็นกระเบื้องด้านนอกผิวด้านครับ

พื้นเป็นหินอ่อนสังเคราะห์ครับ ฝั่งซ้ายมือในภาพข้างบนเปิดออกสู่ตัวห้องชุดครับ

บานประตูเป็นแบบกลอนประตูดิจิตอล มีตาแมวครับ

ประตูล็อคแบบดิจิตอลของ Yale ครับ การเปิดล็อคเข้าห้องทำได้สามแบบครับ คือ แบบ Access  key card แตะที่หน้าจอสีดำ, แบบกดรหัสผ่าน, แบบไขกุญแจครับ

จัดวางผังได้ดี โล่ง โปร่ง ไม่อึดอัด เพิ่ม Space ให้ใช้งานได้สบายคล้ายกับอยู่บ้านจริงๆครับ ตัวโครงการขายห้องแบบ Fully fitted นะครับ คือไม่รวมลูซเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ อย่างในภาพข้างบน ได้พื้นและฝ้าเพดานแบบนี้ ได้ม่านสองชั้นแบบนี้เลยครับ ส่วนผนัง ชั้น ตู้วางทีวี โครงการวางมาให้เป็นไอเดียเฉยๆครับ (ในที่นี้คือไม่ได้นะครับ ของจริงเป็นผนังวอลเปเปอร์เรียบๆครับ)

ระยะดูทีวีครับ ตัวชุดโซฟาวางได้เซตนึงสบายๆตามภาพ

เปิดม่านดู โซนห้องนั่งเล่น-ห้องทานอาหาร จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่สองบานครับ วางตามสมมาตรของผนังกระจก ผนังกระจกเป็น  LOW-E GLASS  หรือกระจก Double glazing ช่วยกันความร้อนครับ

จากชั้นวางทีวีมองออกไปที่ประตูทางเข้าครับ ความสูงพื้นจรดเพดานโซนทานอาหารและห้องนั่งเล่น สูง 2.8  เมตรครับ จะเห็นว่าฝ้าเพดานทางขวามือของโถงทางเดินไปห้องนอนจะลดระดับลงเป็น 2.5 เมตร ครับ

ตัวฝ้าเพดานและไฟดาวน์ไลท์ได้ตามนี้ครับ

เช่นเดียวผนังโซนทานอาหารนะครับ ของจริงเป็นวอลเปเปอร์เรียบๆครับ

ต่อไปเป็นส่วนครัวที่จะเปิดก็ได้ ปิดก็ได้ ต่อเชื่อมกับห้องนั่งเล่น ตัวรางของบานเลื่อนกระจกอยู่ด้านบนติดเพดาน ส่วนพื้นโล่ง ง่ายต่อการเข็นถาดหรืออุปกรณ์ต่างๆเข้าออก

เวลาเลื่อนกระจกปิดจะเป็นแบบนี้ครับ

ห้องของจริงไม่ได้ตู้เย็นนะครับ แต่จะให้มาเป็นช่องและได้ชุดครัวตามนี้ครับ คือมีชั้นด้านบน เคาเตอร์ครัว ซิ้งค์ ราวแขวนอุปกรณ์ครัว เตาไฟฟ้า เตาอบ

ตัวชั้นด้านบน บานเปิดเป็นไฮกรอส ชั้นเป็นกระจกเทมเปอร์ ไฟLED

อ่างล้างจานได้ของ mex  ตามนี้

ท้อปเป็นหินควอตซ์สีขาวเจียรขอบบาง  บานเปิดด้านล่างมีถังขยะให้มาด้วย

 

มีรางแขวนอุปกรณ์แบบฝังผนังเลื่อนได้  แต่ที่วางหนังสือไม่ได้ให้มา

รางเลื่อนวิ่งรอบส่วนครัว ได้เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้า เตาอบ ของ Siemens

 

เตาอบของ Siemens

เตาไฟฟ้าเป็นแบบ 4 หัว

ที่โถงทางเดินไปส่วนห้องนอนจะเห็นเครื่อง Samsung Smart Home หรือตัว VDO Door Phone ติดผนังอยู่ครับ

 

ตัวผนังโถงทางเดินไปส่วนห้องนอนทั้งสองฝั่ง ของจริงเป็นผนังวอลเปเปอร์เรียบๆนะครับ

เลี้ยวซ้ายก่อนถึงห้องน้ำจะเป็นประตูทางออกไปโถงบันได หลักๆคือสำหรับเอาขยะไปห้องทิ้งขยะหน้าเซอร์วิสลิฟต์ครับ ผนังฝั่งซ้ายมือในภาพข้างบนเป็นห้องเก็บของครับ ผนังฝั่งซ้ายได้ตามภาพนะครับ

ภายในห้องเก็บของทำชั้นมาให้ได้ตามนี้ครับ ไม่รวมกล่องสีขาวนะครับ

เดินต่อมาเป็นห้องน้ำครับ ตกแต่งโทนสีขาว กระจกเงาได้เต็มผนังตามนี้ครับ

พื้นห้องน้ำลดระดับลงหน่อยเป็นหินอ่อนสังเคราะห์แบบเดียวกัน

ตัวอ่างล้างมือมีที่วางของด้านซ้ายกว้างประมาณ 20 เซนติเมตรครับ มีชั้นบานเปิดไว้เก็บของด้านล่าง ตัวก๊อกน้ำและที่เปิดแยกส่วนกันทั้งหมดจาก Kasch เช่นกัน จะเห็นเงาสะท้อนในกระจกเป็นผนังห้องน้ำฝั่งตรงข้ามเจาะเป็นชั้นวางของกระจกเทมเปอร์ครับ (ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายภาพมานะครับ) แต่ระยะความสูงวางขวดแชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำได้สบายๆครับ

โถสุขภัณฑ์หน้าตาดีและสายฉีดอลูมิเนียมจาก Kasch เช่นกันครับ ตัวที่เก็บทิชชู่เป็นสแตนเลสฝังผนังตามภาพด้านบนครับ

ห้องอาบน้ำกระจกหนา  8  มม. ครับ บานจับอลูมิเนียมใช้เป็นราวแขวนผ้าได้ ข้างๆฝักบัวทำชั้นมาให้วางขวดสบู่แชมพูได้นิดหน่อย

ลดระดับพื้นส่วนเปียกเรียบร้อย

 

ฝักบัวดูดีมีดีไซน์

 

มีเรนชาวเวอร์ติดฝ้าเพดานมาให้ด้วยครับ

ถัดจากห้องน้ำเป็นห้องนอนเล็กครับ

ตัวตู้เสื้อผ้าซ้ายมือภาพบน ห้องจริงได้เป็นบล๊อกไม่มีหน้าบานแบบนี้นะครับ พื้นห้องนอนเป็นพื้นไม้จริงเอ็นจิเนียร์หรือพื้นไม้ Engineering wood ปิดผิวหน้าด้วยไม้จริงครับ

ระยะเดินรอบเตียงสบายครับ

เพดานเป็นฝ้าเรียบฝังดาวน์ไลท์เว้นรางแขวนม่านครับ ม่านของจริงได้ตามนี้ครับ ผนังและชั้นในภาพด้านบนของจริงไม่ได้นะครับ เป็นผนังวอลเปเปอร์เรียบครับ

ที่ปลายเตียงครับ วางชั้นวางทีวีได้สบายๆ ผนังในภาพด้านบนของจริงไม่ได้นะครับ เป็นผนังวอลเปเปอร์เรียบครับ

 

มาดูห้องนอนใหญ่กันดีกว่าครับ บอกได้ว่ากว้างครับ ส่วนวิวของห้องนอน(ทั้งเล็กและใหญ่)จะเห็นวิวทิศตะวันออกเป็นวิวเมืองกรุงเทพครับ ม่านของจริงได้ตามนี้ ผนังในภาพด้านบนของจริงไม่ได้นะครับ เป็นผนังวอลเปเปอร์เรียบครับ ระยะเดินระหว่างชั้นวางทีวีก็สบายๆ

 </span><span style="line-height: 1.5em;"> 

ผนังและชั้นในภาพด้านบนของจริงไม่ได้นะครับ เป็นผนังวอลเปเปอร์เรียบครับ

มองไปฝั่ง walk in closet และ ห้องอาบน้ำแบบ Sexy bath ครับคือเป็นผนังกระจกตามนี้ ถ้าเห็นว่าเซ็กซี่ไปจะติดม่านหรือมู่ลี่เพิ่มก็ตามสไตล์นะครับ จะเห็นว่าฝ้าเพดานห้องนอนใหญ่จะยกระดับสูง 2.8 เมตร ส่วนห้องน้ำ 2.5  เมตร ครับ

ทางเข้าห้องน้ำเดินผ่าน  Walk in closet  ไปครับ

 

ตัวชั้นเป็นไฮกรอสครับ ของจริงได้ชั้นตามนี้

ด้านในบุกำมะหยี่ครับ

ส่วนเพดาน walk in closet ติดไฟดาวน์ไลท์และมีกริลแอร์ เวลาเลือกชุดเปลี่ยนเสื้อผ้าจะได้ไม่ร้อนครับ

ดูดีเทลพื้นที่มีความใส่ใจในการออกแบบนะครับ มีทำขอบพื้นหินอ่อนสังเคราะห์ออกมาด้านนอกฉากกั้นกระจกเพื่อกันความชื้นในจากส่วนที่ติดกับอ่างอาบน้ำ ก่อนมาจบกับพื้นพื้นไม้จริงเอ็นจิเนียร์ในห้องนอน

ห้องน้ำพื้นและผนังมาในโทนสีเทา มีอ่างอาบน้ำมาให้นอนแช่น้ำอุ่นเล่นด้วยครับ

พื้นห้องน้ำด้านในเป็นหินอ่อนสังเคราะห์ทำขอบและลดระดับลง

ซูมให้เห็นตัวก๊อก และแป้นหมุนเปิด น้ำอุ่น น้ำเย็น น้ำอุณหภูมิห้องครับ

 

เซตสุขภัณฑ์ได้ตามนี้ครับ อ่างล้างหน้าและชั้นมีที่เก็บของ มีบานปิดเก็บเครื่องทำน้ำร้อนไว้ด้านใต้อ่างล้างมือครับ กระจกได้แบบมีไฟซ่อนตามนี้ครับ

อ่างล้างมือและก๊อกของ Kasch ครับ

โถสุขภัณฑ์เป็นแบบ smart toilet ครับ ที่เก็บทิชชู่สแตนเลสแบบฝังผนัง

มีระบบปุ่มกดฉีดล้างเป่าตามนี้

ห้องอาบน้ำกระจกหนา  8  มม. ครับ พื้นลดระดับสำหรับส่วนเปียก

สุดผนังมีร่องทำเป็นชั้นวางของกระจกเทมเปอร์  ฝ้าเพดานมีเรนชาวเว่อร์ สังเกตมีไฟซ่อนด้วยครับ  ส่วนฝักบัวจะเห็นมีแป้นหมุนน้ำอุ่น น้ำเย็น น้ำอุณหภูมิห้อง และชั้นวางขวดสบู่ แชมพู ครีมนวดข้างๆ วัสดุเป็นสแตนเลสครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24/03/2013

  • ราคาต่ำสุด 07B01 ห้อง 1 Bedroom ขนาด 59.5 ตารางเมตร ราคา 10.19 ล้านบาท หรือ 171,260 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาต่ำสุด 07B02 ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 115.9 ตารางเมตร ราคา 19.79 ล้านบาท หรือ 170,750 บาทต่อตารางเมตร
  • ห้อง 36D03 หรือ 2 Bedrooms ขนาด 127.9 ตารางเมตร ราคา 30.69 ล้านบาท หรือ 240,000 บาทต่อตารางเมตร

  • Partly Furnished
  • จอง 100,000 – 200,000 บาท
  • ทำสัญญา 500,000 – 1,000,000 บาท
  • ค่ากองทุน 800 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 70 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เจาะลึกรวบยอด

หลังจากที่เราได้ชมห้องตัวอย่างและรูปแบบโครงการทั้งหมดของ The Bangkok กันไปแล้วนะครับ ก็ต้องยอมรับกันว่า The Bangkok เป็นสินค้าในระดับพรีเมี่ยมที่สุดที่ Land and Houses ทำมา เทียบได้กับบ้านเดี่ยวแบรนด์ LADAWAN ที่มีม้าวิ่งอยู่หน้าหมู่บ้าน 8 ตัว แต่ในขณะเดียวกันราคาส่วนใหญ่ของ The Bangkok ก็อยู่ในระดับที่เกิน 200,000 บาทต่อตารางเมตร วิ่งขึ้นไปจนถึง 270,000 บาทต่อตารางเมตรหรือมากกว่า จัดว่าตั้งได้แพงเป็นอันดับที่ 3 บนถนนสาทร เพียงรองจากโครงการ Ritz Carlton Residences และ The Sukhothai Residences เท่านั้น

ทำเลของ The Bangkok ตั้งอยู่บนถนนใหญ่สาทรใต้ ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนและสะพานตากสิน มีสถานีรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์อยู่แทบจะติดกับทางเข้าโครงการ จัดเป็นทำเลที่ครบเครื่องในเรื่องของการเดินทาง ทั้งการใช้รถยนต์และไม่ใช้รถยนต์ แต่ทำเลนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องปัญหาการจราจรเช่นกัน โดยจะมีปัญหาหนักๆในช่วงเลิกเรียนของโรงเรียนอัสสัมชัญต่อเนื่องเวลาเลิกงาน ที่ตึกต่างๆจะปล่อยรถกันมามากมาย เนื่องจากเส้นทางนี้เป็นถนนหลักที่จะใช้ออกนอกตัวเมืองไปยังถนนราชพฤกษ์และกัลปพฤกษ์ ซึ่งเป็นเขตหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ครับ

วิวของโครงการ The Bangkok นั้นมีให้เลือกด้วยกันสองทิศหลักๆ คือฝั่งตะวันออกซึ่งมองเห็น City View และฝั่งตะวันตกซึ่งมองเห็น River View … โดยฝั่ง River View นั้นมีภาษีดีกว่าฝั่ง City View อยู่พอสมควร แม้ว่าจะต้องรับแดดร้อนๆจากทิศตะวันตกและเสียงรถยนต์จากทางด่วนในชั้นล่างๆ แต่ตั้งแต่ชั้นส่วนกลางที่ชั้น 32-32A ขึ้นไป ฝั่ง River View ก็จะได้รับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากมุมสูง เกือบเต็มสายตา เพราะมีเพียงตึกเก่าและ The Rhythm สาทร เท่านั้นที่ขวางอยู่นิดหน่อย แต่ถ้าเป็นฝั่ง City View มุมมองจะค่อนข้างจำกัดเพราะตึก The Bangkok อยู่ใกล้กับตึกโรงแรม Eastin 32 ชั้น และตึก Thai-CC ที่สูง 35 ชั้น ดังนั้นถ้าอยากได้วิวโล่งๆหน่อยในฝั่ง City ก็ต้องเลือกชั้นสูงๆ 40+ เพื่อที่จะมองข้ามทั้งสองตึกไปครับ

คุณภาพงานและการก่อสร้าง โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า Land and Houses น่าจะทำออกมาได้เนี๊ยบ เพราะดูจากคุณภาพของงานหมู่บ้าน LADAWAN ที่ทำหมู่บ้านระดับราคา 20 – 100 ล้าน ที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องคุณภาพงานก่อสร้าง และความตั้งใจที่จะพรีเซนต์ให้ The Bangkok เป็นผลงานช้ินเอกของตัวบริษัท ทำให้เราไว้ใจได้ว่างานจะออกมาค่อนข้างดีครับ

การออกแบบตัวตึกแม้ว่าจะดูตันๆและกว้างๆไปหน่อย แต่ด้วยข้อจำกัดของที่ดินและการที่ต้องการให้ตัวตึกเห็นวิวแม่น้ำ รูปแบบจึงออกมาเป็นอย่างที่เห็น ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าหน้าตาตึกเป็นสิ่งที่ผมชอบน้อยที่สุดของโครงการ The Bangkok นะครับ … แต่ในทางกลับกัน Land ก็จัดสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้เยอะมาก ตั้งแต่ที่จอดรถ 120% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน การทำทางเชื่อมที่จอดรถจากตึกหลังเข้ามาที่ตัวตึกเกือบทุกชั้น จนไปถึงการแยก 5 Core Lifts ใช้ Private Lift ทุกยูนิต (แบบ 1 Bedroom ลิฟท์จะเปิด 2 ด้าน แต่แบบ 2 Bedrooms ลิฟท์จะเปิดแค่ห้องเดียว) และกระจายสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่สามแห่ง ที่ชั้น G, 6, 32/32A จัดเป็นการใส่สาธารณูปโภคมาอย่างเต็มที่ คิดเผื่อคนที่อยู่ชั้นล่างๆ สามารถขึ้นไปใช้ส่วนกลางบนชั้น 32/32A นั่งเล่นหรือว่ายน้ำรับวิวแม่น้ำกันได้ทุกครัวเรือนครับ

ฟังก์ชั่นห้องตัวอย่างทั้งสองห้องผ่านการคิดมาค่อนข้างเยอะ แม้ The Bangkok จะทำขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างกว่าห้องโครงการอื่นๆอยู่มาก โดย 1 Bedroom จะมีขนาดประมาณ 60 ตารางเมตร และ 2 Bedrooms จะอยู่ที่ 100 – 150 ตารางเมตร แต่พื้นที่ใช้สอยนั้นใช้งานได้แทบทุกรายละเอียด ส่วนที่เป็นจุดเด่นที่เราหยิบยกขึ้นมาก็คือส่วนของลานซักล้างและเฉลียงหน้าบ้าน ที่โครงการทำแยกออกไปจากตัวห้องทุกยูนิต จัดฟังก์ชั่นให้คล้ายส่วนที่อยู่นอกบ้าน ซึ่งจะสร้างประโยชน์อย่างการถอดรองเท้าหน้าห้องไม่ให้ฝุ่นเข้าบ้าน หรือการทำความสะอาดคอมเพรสเซอร์แอร์โดยที่ไม่มารบกวนกับตัวบ้าน กับอีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่ผมค่อนข้างชอบ นั้นก็คือ ห้องเก็บของ ชีวิตคนมันมีสมบัติค่อนข้างเยอะ และคอนโดต่างๆมักจะไม่ทำห้องเก็บของมาให้ พวกของที่กองยากๆอย่างเช่นเครื่องดูดฝุ่น เตารีดไอน้ำ ฯลฯ ก็ไม่รู้จะไปวางไว้ไหน ฟังก์ชั่นห้องเก็บของนี้มีมาตอบโจทย์ตรงนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่โครงการทั่วไปเขาไม่ค่อยทำกัน เพราะราคาต่อตารางเมตรแพงขึ้นทุกวันๆ จะให้มาจ่ายตารางเมตรละแสนเพื่อเฉลียงหรือห้องเก็บของมันก็ใช่เรื่องสำหรับคอนโดในระดับ Main Class … ดังนั้นเราจะเห็นฟังก์ชั่นเหล่านี้ได้จากตึกในยุคเก่า หรือตึกระดับ Super Luxury ขึ้นไปเท่านั้นละครับ

ห้องน้ำของ The Bangkok จัดเป็นจุดเด่นอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ โดยเฉพาะห้องน้ำในห้องแบบ 2 Bedrooms ที่ทางโครงการทำให้ตั้งแต่ Walk-in Closet จนไปถึงอ่างอาบน้ำ โดยกรุผนังกระจกในห้องน้ำแบบ Sexy Bathroom ซึ่งถ้าใครไม่ชอบก็สามารถใช้ม่านหรือฟิล์มขุ่นมาปิดได้นะครับ และสุขภัณฑ์ที่มี Washlet (ระบบฉีดน้ำของญี่ปุ่น) ตรงนี้เป็นส่วนที่ทางเราประทับใจ แต่ส่วนที่ผมอยากได้ดีกว่านี้นิดนึงก็คือความสูงของระยะฝ้าเพดาน ที่โครงการให้มาที่ 2.8 เมตร ซึ่งถ้าตรงไหนดรอปฝ้าเพื่อทำงานระบบก็จะเหลือ 2.5 เมตร … แหม่ระดับ The Bangkok นี้น่าจะได้ 3 เมตรกับ 2.7 เมตรช่วงดรอปนะครับ

วัสดุอุปกรณ์ต่างๆใช้ของพรีเมี่ยมในแบรนด์ระดับที่จับต้องได้เช่น Kasch หรือ Siemens ไม่ได้ใช้ของ Import แบรนด์ระดับโลกที่มีราคาแพงค่อนข้างเวอร์ แต่ให้ความสำคัญกับวัสดุชิ้นต่างๆมากกว่า เช่นบานกระจกที่เป็นกระจกสองชั้น (Double Glazing) และเป็นกระจก Low-E ที่ช่วยกันความร้อนจากแสงแดดภายนอก เพราะโครงการหันหน้าออกทิศตะวันออก-ตก จะรับแดดค่อนข้างเยอะ สเปคกระจกแบบนี้ก็จะช่วยลดความร้อนไปได้มาก แต่ไม่ใช้ว่าขจัดความร้อนไปได้เสียทีเดียวนะครับ จะอย่างไรแดดประเทศไทยก็ยังเป็นแดดที่รุนแรงมากโดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน ถ้าทนไม่ไหวก็ต้องใช้ผ้าม่าน Blackout ป้องกันอีกชั้นละครับ

โดยรวม The Bangkok จัดเป็นโครงการที่ทำออกมาได้น่าอยู่ แต่ด้วยราคาที่ไกลเกินกว่าจะเอื้อมถึงของคนหลายๆคน และเป็นราคาที่แพงที่สุดในช่วงสาทรตอนปลาย ที่นับตั้งแต่สี่แยกนราธิวาสมาจนถึงสะพานตากสิน ทางเลือกที่คุ้มค่าทางด้านการเงินมากกว่าจึงมีอยู่มากมาย ตั้งแต่คอนโดเก่าในระดับราคาไม่ถึงแสนบาทต่อตารางเมตร จนถึงคอนโดพรีเมี่ยมอย่าง The Met, Empire Place หรือ Infinity ที่ปัจจุบัน (2557) ยังพอหาได้ในหลักแสนกลางๆ ผู้ที่จะเลือก The Bangkok จะต้องเป็นผู้ที่ใจรัก เห็นแล้วชอบ อยากได้โปรเจคที่ดีที่สุดของ Land & Houses เพื่อตอบสนองความต้องการทางอารมณ์ด้วย ไม่ใช่เพียงเรื่องตัวเงินอย่างเดียวครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

  • ULTIMATE CLASS
  • NOT JUDGED

BOTTOM LINE

The Bangkok เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลือกคุณภาพของการอยู่อาศัย ชอบแบรนด์ Land and Houses และชอบทำเลสาทรตอนปลาย โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องการเงินครับ

ภาพรวมโครงการและส่วนกลางได้ที่ท้ายรีวิว อัตเดตวันที่ 19 ก.พ.2561

  

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ