รีวิวฉบับที่ 1480 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ Sunplay บางเสร่ อาณาจักรแห่งการใช้ชีวิตหลังเกษียณ ภายใต้คอนเซ็ปต์แอคทีฟไลฟ์สไตล์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 175 ไร่ บนทำเลที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัว โดยแบ่งพัฒนาเป็นทั้งคอนโดมิเนียม Low Rise และ พูลวิลลาสุดหรู พร้อม The Sunplay Club พื้นที่สันทนาการที่มีทั้ง ร้านอาหาร บาร์ สระว่ายน้ำ และ ฟิตเนส นอกจากนั้นยังมีพื้นที่สีเขียว เส้นทางสำหรับขี่จักรยาน เดิน และวิ่งออกกำลังกายอีกด้วย เราตามมาชมกันค่ะ

Fact @ 20 October 2017

  • Sunplay Bangsaray (ซันเพลย์ บางเสร่)
  • บริษัท ซันเพลย์ เอเชีย จำกัด
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน ตำบล : บางเสร่ อำเภอ : สัตหีบ จังหวัด : ชลบุรี
  • คอนโดมิเนียม Low Rise จำนวน 70 ยูนิต และ บ้านรูปแบบ พูลวิลล่า จำนวน 50 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 50 คันคิดเป็น 72% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 100%
  • ที่ดินประมาณ 175 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : July 2017
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : เฟสแรกสำหรับ คอนโดและคลับเฮาส์ ปลายปี 2018 / เฟสที่ 2 พูลวิลล่า กำหนดเสร็จปี 2020
  • คอนโดมิเนียม

  • ห้องพัก 1, 2 และ 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 90 – 386 ตร.ม.
  • ราคาห้องเริ่มต้น (Condo) 9.9-35 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร (Condo) 110,000 – 140,000 บาท/ตร.ม.

  •  พูลวิลล่า
    • แบบบ้าน SITARA/DIVYA/SUMA ขนาด 525-2067.31 ที่ดิน 156-516 ตร.วา
    • ราคาห้องเริ่มต้น (Villa) 14.18 ล้านบาท

  • ฝ้าเพดาน (Condo) สูง 2.9 เมตร , (Villa) สูง 4 เมตร
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ได้รับอนุมัติเรียบร้อยแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-655-6420 , 087-945-6321
  • เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

    สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 12.751905, 100.919693

    แผนที่จากทางโครงการค่ะ

     

    โครงการ Sunplay บางเสร่ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของไทย ในซอยเทศบาล 12 ห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 2 กิโลเมตร ทำเลใกล้หาดบางเสร่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของอำเภอสัตหีบ ชลบุรี โดยหาดบางเสร่เป็นชายหาดที่ยาวประมาณ 1,500 เมตร ปัจจุบันได้ถูกพัฒนาจนมีความสวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนจำนวนมาก และยังมีร้านอาหารทะเลสดและราคาไม่แพงอยู่มากมาย

    สำหรับการเดินทางมายังโครงการ ถือว่าค่อนข้างสะดวกโดยใช้ถนนสุขุมวิทเป็นหลัก ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯด้วยเส้นมอเตอร์เวย์ประมาณ 2 ชั่วโมง หากรถติดก็เลี่ยงเมืองด้วยถนนเลียบทางรถไฟมาแล้วค่อยเข้าถนนสุขุมวิทอีกที ถ้าเดินทางจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิก็ใช้เวลาประมาณ 90 นาที หรือจากสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาใช้เวลาประมาณ 30 นาที หากต้องการไปสัมผัส กับแสง สี เสียงและความคึกคักของเมืองพัทยา ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 25 กิโลเมตรก็ใช้เวลาเดินทางไปไม่นาน บรรยากาศและสภาพแวดล้อมละแวกโครงการส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียมสลับกับโครงการหมู่บ้าน และโรงแรมบ้าง เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยบรรยากาศค่อนข้างสงบค่ะ

    โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่เน้นความสงบ เป็นส่วนตัว เสมือนบ้านหลังที่ 2 ที่มาพักผ่อนชิลๆได้ ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการจะต้องขับรถออกมาทางฝั่งถนนสุขุมวิท ซึ่งจะมีทั้งร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆไว้รองรับ เช่น  มิโมซ่าพัทยา ตลาดน้ำสี่ภาค สวนนงนุช สวนน้ำการ์ตูนเน็ทเวิร์ค ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ในระยะขับรถจากโครงการไม่เกิน 30 นาทีก็จะมีสนามกอล์ฟระดับเวิลด์คลาสหลายแห่ง เช่น สนามกอล์ฟฟีนิกซ์  ใกล้ท่าจอดเรือยอชท์อย่างโอเชี่ยน มารีน่า และสมาคมสโมสรราชวรุณในพระบรมราชูปถัมภ์สำหรับสิงห์นักปั่น มีเส้นทางขี่จักรยานท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่นของเนินเขาบางเสร่ค่ะ

    การเดินทางในวันนี้เราเริ่มต้นจาก Motorway วิ่งตรงมาเรื่อยๆบนถนนสุขุมวิท พอใกล้ๆถึงกับโครงการจะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังต่างๆ เริ่มจาก ตลาดน้ำ4ภาค มิโมซ่าพัทยา Ocean Marina สวนน้ำการ์ตูนเน็ทเวิร์ค สวนนงนุช จากนั้นเลี้ยวเข้าซอย เทศบาล 12 จากถนนใหญ่ตรงเข้าซอยไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรก็จะถึงกับโครงการค่ะ

    จาก Motorway วิ่งตรงมาเรื่อยๆบนถนนสุขุมวิท ทางฝั่งซ้ายจะเจอกับตลาดน้ำ 4 ภาค

    ตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับมิโมซ่า พัทยา เมืองท่องเที่ยวในรูปแบบศูนย์การค้า จำลองรูปแบบเมืองมาจาก เมืองกอลมาร์ (Comar) เมืองโบราณที่ติดอันดับความโรแมนติก 1 ใน10 ของโลก ซึ่งอยู่ประเทศฝรั่งเศส มีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆมากมาย

    ถัดมาทางฝั่งขวาจะเจอกับโอเชี่ยน มารีน่า ยอร์ช คลับ เป็นรีสอร์ทและท่าจอดเรือยอชท์

    ตรงต่อมาจะผ่านสวนนงนุช พัทยา สถานที่พักผ่อนชมความสวยงามของต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์

    ติดๆกันกับ สวนนงนุช คือ Home Pro สามารถมาจับจ่ายใช้สอยซื้อของก่อนเข้าที่พักได้

    จากนั้นให้เตรียมชิดซ้ายเอาไว้ เพื่อเลี้ยวเข้าซอยเทศบาล 12 หน้าปากซอยจะมีป้ายโครงการติดอยู่แต่จะเล็กนิดนึงนะคะ ต้องสังเกตดีๆ

    จากถนนสุขุมวิทตรงเข้าซอยไปประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงกับโครงการค่ะ ระหว่างทางจะมีป้ายโครงการชี้บอกทางอยู่ค่ะ

    ถึงแล้วค่ะโครงการ Sunplay บางเสร่ 

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    Sunplay บางเสร่ เป็นโครงการขนาดใหญ่ตั้งอยู่บน พื้นที่ 175 ไร่ ตั้งอยู่ในทำเลที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะแก่การพักผ่อน สภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัย มีแต่ละด้านของที่ดินติดกับ

    • ทิศเหนือ – ติดกับพื้นที่โล่ง มองไปเห็นวิว พัทยา
    • ทิศตะวันออก – ติดกับพื้นที่โล่ง มองไปเห็นวิว ทิวเขาวัดเขาชีจรรย์
    • ทิศใต้ – ติดกับที่ดินเปล่า พื้นที่ธรรมชาติข้างเคียง
    • ทิศตะวันตก – ติดกับพื้นที่โล่งมองไปเห็นวิวหาดบางเสร่

    ทิศเหนือ ติดกับพื้นที่โล่ง มองไปเห็นวิว พัทยา

    ทิศตะวันออก ติดกับพื้นที่โล่ง มองไปเห็นวิว ทิวเขาวัดเขาชีจรรย์

    ทิศใต้ ติดกับที่ดินเปล่า พื้นที่ธรรมชาติข้างเคียง

    ทิศตะวันตก ติดกับพื้นที่โล่งมองไปเห็นวิวหาดบางเสร่

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • สวนน้ำการ์ตูนเน็ทเวิร์ค – 5.6 กิโลเมตร
    • สวนนงนุช – 8.3 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)
    • Ocean Marina Yacht Club – 11 กิโลเมตร
    • มิโมซ่าพัทยา – 11.9 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)
    • ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค – 13.2 กิโลเมตร
    • สนามกอล์ฟฟีนิกซ์ – 15.3 กิโลเมตร
    • ตลาดน้ำสี่ภาค –  18.3 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)


    เจาะลึกตัวโครงการ

    โครงการ Sunplay บางเสร่ เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปมีไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟและชื่นชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ไม่ต้องการชีวิตที่เรียบง่ายหลังเกษียณแต่ต้องการเติมเต็มเวลาว่างให้สมบูรณ์แบบ โดยโครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนพื้นที่ 175 ไร่ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมและบ้านพักอาศัยแนวราบในรูปแบบวิลลา สำหรับเฟสแรกที่เปิดตัวจะเป็น “The Heights” คอนโดมิเนียม Low Rise ส่วนเฟสถัดมาคือ “The Pool Villa” พูลวิลลาสุดหรู พร้อม The Sunplay Club พื้นที่สันทนาการที่มีกิจกรรมต่างๆครบครัน  โดยพื้นที่แต่ละส่วนของโครงการ Sunplay มีการพัฒนาดังต่อไปนี้ 

    • 1 – The Sunplay Club and Tennis Court คลับเฮาส์ ศูนย์รวมกิจกรรมครบวงจรขนาดประมาณ 5,000 ตารางเมตร ที่มีทั้งบริการต่างๆครบครัน มีทั้งพื้นที่ภายในร่มและกลางแจ้ง ประกอบด้วย ร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ริมสระว่ายน้ำ ร้านอาหารสไตล์ Fine Dining และ ห้องเก็บไวน์ สระว่ายน้ำ และ ฟิตเนส
    • 2 – The Heights Condominium 3 อาคาร จำนวน  70 ยูนิต เปิดขายเป็นเฟสแรก
    • 3 – The Villa Collection พูลวิลลาขนาดใหญ่ วิวทะเล จำนวน 19 ยูนิต
    • 4 – Future Sunplay Clubhouse Facilities คลับเฮาส์ส่วนที่ 2 
    • 5 – The Pool Villas พูลวิลลา วิวภูเขา จำนวน 50 ยูนิต
    • 6 – 8 – 25 Medium-Sized Villas วิลลาที่มีขนาดเล็กลงมาหน่อย
    • 9 – Private Residence ที่อยู่อาศัยของผู้ถือหุ้นหลัก
    • 10 – Herbs Gardens, Future Development สวนสมุนไพร สปา และ

    นอกจากนั้นยังมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ และเส้นทางสำหรับขี่จักรยาน เดิน และวิ่งออกกำลังกาย ที่เราเห็นเป็น Route สีต่างๆในภาพนั่นเองค่ะ

    เรามาเริ่มเดินชมพื้นที่ส่วนต่างๆของโครงการกัน โดยปัจจุบันเปิดขายเฟสแรกคือคอนโดมิเนียม The Heights” ซึ่งมีสำนักงานขายและห้องตัวอย่างให้เราชมกันแล้วค่ะ สำหรับส่วนอื่นๆอยู่ในระหว่างการพัฒนา จากในภาพเป็นทางเข้าหลักของโครงการซึ่งบรรยากาศโดยรวมจะเห็นว่า ร่มรื่นทีเดียว ต้นไม้ต่างๆในโครงการจะเน้นเก็บต้นไม้เก่าเอาไว้โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่และปรับภูมิทัศน์ให้ดูสวยงาม ที่ปลูกเพิ่มก็จะมีส่วนที่เป็นต้นมะพร้าวค่ะ

    ทางเข้า-ออกหลักจะมีกั้นด้วยรั้วกั้นไม้กระดก และ มีรปภ.ดูแลให้ตลอด 24 ชั่วโมง

    บรรยากาศร่มรื่นตลอดทั้ง 2 ข้างทาง เข้ามาส่วนแรกจะเป็นพื้นที่พัฒนาโครงการวิลล่าในอนาคต เราจะตรงเข้าไปดูส่วนของคอนโดมิเนียมกัน

    ตรงเข้ามาเรื่อยๆจะเจอกับสำนักงานขาย ตกแต่งสไตล์รีสอร์ท ส่วนห้องตัวอย่างของคอนโดมิเนียมจะอยู่อีกที่หนึ่ง ใกล้ๆกันค่่ะ

    บรรยากาศภายในสำนักงานขายออกแบบมาให้สามารถเปิดโล่งรับลมและวิวได้ทั้ง 2 ฝั่ง

    ด้านหลังสำนักงานขายเป็นพื้นที่สำหรับพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมค่ะ กำลังลงเสาเข็มกันอยู่เลย

    มาดูผังของเฟสแรกของโครงการ Sunplay นั่นก็คือ The Heights” คอนโดมิเนียม Low Rise จำนวน 3 อาคาร ด้านหน้าเป็นพื้นที่ส่วนกลาง The Sunplay Club ประกอบด้วย Reception&Concierge services ส่วนต้อนรับ พร้อมบริการแบบ one stop service ทั้งบริการรับส่งสนามบินสุวรรณภูมิ/อู่ตะเภาด้วยรถลีมูซีน , Shuttle Service ภายในโครงการ , จองทัวร์ท้องถิ่น , บริหารการเช่า , Room service , ย้ายเฟอร์นิเจอร์ ในโซนเดียวกันจะมีร้านอาหารสไตล์ Fine Dining คาเฟ่ บาร์ริมสระว่ายน้ำ และ ห้องเก็บไวน์  นอกจากนั้นยังมีโซน Personal Development ที่ประกอบด้วย ฟิตเนส ไทชิ โยคะ คลาสเพื่อสุขภาพต่างๆ รวมถึง คลาสทำอาหารไทย ห้องสมุด พร้อมทั้งมีบริการปรึกษาทางด้านสุขภาพจากทีมแพทย์จากโรงพยาบาลชั้นนำ 3 วันต่อสัปดาห์อีกด้วย ตรงกลางเป็นสระว่ายน้ำที่พื้นที่รอบๆเป็นทรายเทียม ซึ่งคลับเฮ้าส์เฉพาะโซนด้านหน้านี้จะมีค่าใช้จ่ายแยกออกจากค่าส่วนกลาง มีการเก็บค่าแรกเข้าและรายปี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากโครงการค่ะ ถัดเข้ามาด้านในเป็นคอนโดมิเนียม อาคาร A และ B อยู่ด้านหน้าส่วน ตรงกลางเป็นสวนหย่อมและที่จอดรถ จอดได้ประมาณ 50 คันด้านหลังสุดคืออาคาร C และพื้นที่ด้านหลังอาคาร C อีกที คือ Tennis Court

    ดูจากโมเดลมุมนี้เราจะเห็นภาพรวมทั้งหมดในเฟสแรก ด้านหน้าจะเป็นส่วนของ The Sunplay Club ส่วนด้านหลังคือคอนโดมิเนียม Low Rise อาคาร A B และ C อยู่ด้านหลังสุด

    ทางโครงการเน้นพื้นที่สีเขียวโดยการเก็บต้นไม้เดิมเอาไว้ จึงทำให้ล้อมรอบด้วยต้นไม้แบบนี้ เหมาะแก่การพักผ่อนค่ะ

    สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ รูปทรงแบบ Free Form มีทรายเทียมอยู่รอบๆ จำลองบรรยากาศเสมือนเดิมอยู่ริมชายหาด

    ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby มีช่องเปิดโล่งไปถึงสระว่ายน้ำด้านหลัง ตกแต่งในสไตล์รีสอร์ท

    ต่อมาเป็นภาพจำลองบรรยากาศ Reception area

    สระว่ายน้ำเป็นรูปทรง Free Form มีส่วนที่เป็นม่านน้ำตกด้วย พื้นรอบๆสระเป็นทรายเทียมค่ะ มานอนเล่นอาบแดดพักผ่อนกันได้

    ถัดจากส่วนคลับเฮ้าส์จะเป็นอาคารพักอาศัยแบบ low Rise ทั้งหมด 3 อาคาร อาคาร A , B อยู่ด้านหน้า ส่วนที่อยู่หลังสุดคืออาคาร C สังเกตว่าการวางตำแหน่งห้องพักแทบจะไม่มีห้องไหนที่บดบังวิวกันเลย

    ตัวอาคารมีการออกแบบให้แต่ละห้องมีช่องแสงและพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ ยื่นออกมาเพื่อเปิดรับวิว โดยเฉพาะห้อง Penthouse จะได้ระเบียงที่ใหญ่มากๆ ราวกันตกของระเบียงออกแบบมาเป็นกระจกจึงช่วยเปิดมุมมองให้เห็นวิวได้เต็มที่มากขึ้นค่ะ

    ระหว่างอาคาร A , B และ อาคาร C มีระยะห่างกันพอสมควร ตัวตึกไม่บดบังกันในระยะประชิด พื้นที่ตรงกลางทำเป็นที่จอดรถและสวนหย่อม โดยจอดได้ประมาณ 50 คัน

    ด้านหลังอาคาร C เป็น Tennis Court เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่คนละส่วนกับ The Sunplay Club สามารถใช้เลยได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

    เรามาดูในส่วนของอาคารพักอาศัยกันเริ่มที่อาคาร A หรือ อาคาร FUENG FAH การจัดห้องพัก จัดให้ห้องแบบ 2 ห้องนอนไว้ที่ชั้น 1-2 ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอนเอาไว้ตรงช่วงกลางของอาคารชั้น 2-5 ห้องแบบ 3 ห้องนอนอยู่ชั้น 3 , 5 บริเวณหัวมุมของอาคาร ส่วนห้องแบบ Penthouse อยู่ชั้นบนสุดค่ะ

    ผังชั้น 1 เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนขนาดใหญ่ทั้งหมด ชั้นหนึ่งจะมีแค่ 3 ห้องเท่านั้น อีกทั้งชั้นนี้ยังมีการออกแบบให้ผนังแต่ละห้องไม่ติดกันทำให้ภายในห้องพักมีความเป็นส่วนตัวและสงบมากขึ้น โถงทางเดินมีลักษณะเป็น Single corridor อาจจะยาวหน่อย แต่ก็มีลิฟต์โดยสารและโถงบันไดมาให้อาคารละ 2 จุด อยู่คนละตำแหน่งกัน อัตราส่วนลิฟต์ดีมากๆ ไม่หนาแน่น ไม่ต้องแย่งกันขึ้น เพราะแต่ละชั้นมีจำนวนยูนิตน้อยนั่นเอง ห้องใครใกล้ลิฟต์ตัวไหนก็ขึ้นตัวนั้นเอาค่ะ

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 ห้องมุมทางฝั่งขวาสุดเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน นอกนั้นเป็นแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด แต่ละห้องมีระเบียงขนาดใหญ่เพื่อให้เปิดรับวิวได้เต็มๆ ออกมานั่งพักผ่อนได้ ตำแหน่งของห้องมีการลดหลั่นกัน มีข้อดีคือเวลาออกไปใช้งานที่ระเบียงจะมองไม่เห็นห้องข้างๆค่ะ สามารถออกมาชมวิวหรือใช้พื้นที่ระเบียงได้โดยไม่เสียความเป็นส่วนตัว

    ชั้น 3 มีห้องฝั่งขวาสุดเป็นห้องแบบ 3 ห้องนอนอยู่ 1 ห้อง นอกนั้นเป็นแบบ 1 ห้องนอน การวางผังห้องมีการลดหลั่นเช่นเดียวกัน

    ชั้น 4 เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนล้วนๆ ทุกห้องมีระเบียงขนาดใหญ่เอาไว้ออกไปนั่งเล่นชมวิวค่ะ

    ส่วนชั้น 5 ห้องมุมทั้งสองฝั่งเป็นแบบ 3 ห้องนอน ห้องฝั่งขวาสุดเป็นห้องที่ได้ระเบียงขนาดใหญ่ ส่วนตรงกลางเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนค่ะ

    ชั้น 6 เป็นห้องแบบ Penthouse มีจำนวน 2 ห้องค่ะ จากการออกแบบให้ห้องมีการเหลื่อมกันเล็กน้อย และ มีลิฟต์ที่ขึ้นมาก็เข้าห้องได้เลย ชั้นนี้จึงเป็นชั้นที่มีความเป็นส่วนตัวมากๆค่ะ

    ต่อมาคืออาคาร B หรือ อาคาร TANTAWAN การจัดวางตำแหน่งห้องพักยังคงคล้ายเดิมคือ เอาห้อง 2 ห้องนอนไว้ชั้นล่างคือชั้น 1-3 ห้องแบบ 1 ห้องนอนอยู่ตรงกลางในชั้น 2-5 ห้องแบบ 3 ห้องนอนอยู่ชั้น 4-5 บริเวณห้องมุม ชั้น 6 เป็นห้องแบบ Penthouse ค่ะ

    ชั้นล่างเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนทั้งหมด การวางผังคล้ายๆอาคาร A คือชั้นนี้มีจำนวน 3 ยูนิต วางห้องให้เหลื่อมกันเล็กน้อย มีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัวค่ะ

    ชั้น 2 เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนเกือบทั้งหมด ยกเว้นห้องที่อยู่ทางฝั่งซ้ายสุดเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน จำนวนห้องจึงเยอะกว่าชั้นอื่นๆหน่อยคือมี 5 ห้องต่อชั้น แต่ก็ยังจัดว่ามีจำนวนยูนิตต่อชั้นน้อยและมีความเป็นส่วนตัวอยู่

    ชั้น 3 วางผังคล้ายกับชั้น 2 ค่ะ ต่างกันที่ตรงขนาดของระเบียงของห้องแบบ 1 ห้องนอนจะเล็กกว่าห้องที่อยู่ชั้น 2

    ชั้น 4 มีห้องแบบ 3 ห้องนอนอยู่บริเวณหัวมุมทางฝั่งซ้าย นอกนั้นเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน

    ส่วนชั้น 5 ห้องมุมทั้งสองฝั่งเป็นแบบ 3 ห้องนอน ตั้งอยู่ประกบห้องแบบ 1 ห้องนอนที่อยู่ตรงกลางค่ะ รวมๆแล้วมีห้องพักเพียง 3 ห้องต่อชั้น

    ส่วนชั้น 6 เป็นห้องแบบ Penthouse มีจำนวน 2 ห้องค่ะ

    ถัดมาจะเป็น “The Pool Villa” พูลวิลลาสุดหรู ซึ่งเป็นเฟสที่สองของโครงการ มีจำนวนวิลล่าทั้งหมด 50 ยูนิต แบ่งออกเป็น 3 แบบคือ DIVYA ขนาด 525-765 ตารางเมตร (สีเขียว) , SITARA ขนาด 622.82-768.98 ตารางเมตร (สีน้ำเงิน) และ SUMA ขนาด 870.67-2298.16 ตารางเมตร (สีส้มเข้ม) สำหรับ “เดอะพูลวิลลา” ได้รับการออกแบบโดย GFAB Architects บริษัทออกแบบชั้นนำ  แต่ละหลังมีคอนเซ็ปต์การออกแบบตกแต่งที่แตกต่างกันไป ออกแบบมาเพื่อรับกับธรรมชาติโดยรอบ เน้นความโล่ง โปร่งสบาย ผนังเปิดโล่งทั้งสองด้าน มีพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้ง ลานอาบแดด สวนส่วนตัว และสระว่ายน้ำส่วนตัวพร้อมหลังคาต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่นเป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังมีนวัตกรรมต่างๆภายในวิลลาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบรีไซเคิลน้ำสำหรับใช้ในสวน

    แบบแรกคือ VILLA DIVYA พื้นที่ใช้สอยประมาณ 525-765 ตารางเมตร ตัวบ้านเป็นแบบหน้ากว้างชั้นเดียวเล่นระดับ จอดรถได้ 2 คัน แยกส่วน Service และ ส่วนพักอาศัยออกจากกัน มีพื้นที่เชื่อมต่อกันของส่วนเตรียมอาหาร รับประทานอาหาร และ นั่งเล่น ซึ่งจะเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งและสระว่ายน้ำหลังบ้านอีกทีหนึ่ง ใช้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวได้ หลังบ้านมีสวนส่วนตัว ถ้ามองจากหน้าบ้านจะค่อนข้างปิดทึบ แต่ไปเปิดโล่งหลังบ้านแทน ห้องนอนเปิดรับวิวสระว่ายน้ำและสวนหลังบ้าน ขึ้นมาที่ชั้นลอยก็จะเป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่งค่ะ ส่วนบริเวณหลังคาออกแบบให้มีพื้นที่สวนด้านบนเพื่อลดการสะสมความร้อน

    ภาพจำลองบรรยากาศ VILLA DIVYA บริเวณหลังบ้าน จะเห็นว่าพื้นที่ส่วนเตรียมอาหาร รับประทานอาหาร นั่งเล่นจะเชื่อมต่อถึงกันหมด และ เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้ง สระว่ายน้ำและสวนหลังบ้านด้วย Space บริเวณนี้จะเป็นส่วนตัวมากๆ

    พื้นที่ส่วนเตรียมอาหาร รับประทานอาหาร นั่งเล่น ที่เชื่อมต่อถึงกัน ผนังโดยรอบเป็นหน้าต่างบานกระจก ช่วยให้บ้านดูโปร่ง โล่ง เปิดรับลมและวิวได้ดี เหมาะแก่การพักผ่อน

    ห้องทำงานก็ออกแบบให้สามารถชมวิวได้ มีหน้าต่างบานเลื่อนสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานพอเลื่อนเก็บด้านข้างก็จะเป็นช่องเปิดขนาดใหญ่

    ห้องนอนออกแบบให้สามารถชมวิวสระว่ายน้ำและสวนหลังบ้านได้ มีประตูบานเลื่อนที่สามารถเลื่อนเก็บแล้วเปิดเป็นช่องเปิดขนาดใหญ่ได้เช่นกัน

    ต่อมาคือ VILLA SUMA  พื้นที่ใช้สอยประมาณ 870.67-2298.16 ตารางเมตร เป็นแบบบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเฟสนี้ การออกแบบจัดพื้นที่ใช้สอย ยังคงใช้ Concept เดียวกัน คือ ออกแบบให้ฝั่งหน้าบ้านปิดทึบเป็นส่วนตัว แยกส่วน service ของแม่บ้านออกมาต่างหาก ในบ้านเปิดโล่งเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำหลังบ้าน บ้านแบบนี้จะได้พื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างเยอะ มี Court ตรงกลางสำหรับทำกิจกรรมในครอบครัว มีพื้นที่เชื่อมต่อกันของส่วนเตรียมอาหาร รับประทานอาหาร และ นั่งเล่น จัดห้องนอนได้ 3 ห้อง ห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง หลังคามีสวนด้านบนเช่นเดียวกัน 

    VILLA SUMA ออกแบบมาคล้ายกับบ้านแบบแรกๆ เน้นความโล่ง โปร่งสบาย เป็นส่วนตัว แต่มีขนาดใหญ่กว่าค่ะ

    ตัวบ้านจะมีการเล่นระดับกันของความสูง และ มีการปลูกต้นไม้บนหลังคาช่วยลดความร้อนสะสมให้กับตัวบ้าน

    สุดท้ายคือบ้านขนาดกลาง VILLA SITARA พื้นที่ใช้สอยประมาณ 622.82-768.98 ตารางเมตร Concept ในการออกแบบพื้นที่ใช้สอยคล้ายๆกับ 2 แบบแรกค่ะ แบบนี้ไม่มีภาพจำลองบรรยากาศให้ดู เราดูฟังก์ชั่นต่างๆจากแปลนไปก่อนเนอะ

    เดินเล่นมาเรื่อยๆถึงด้านในโครงการ บริเวณนี้เป็นพื้นที่สำหรับเตรียมเอาไว้พัฒนาเป็นวิลล่าเช่นเดียวกัน บรรยากาศดูร่มรื่นมากๆ ต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างเยอะค่ะ

    นอกจากพื้นที่ส่วนกลางที่ได้กล่าวมาแล้ว ทางโครงการยังมีพื้นที่รองรับกิจกรรม CSR ให้ลูกบ้านสามารถมาปลูกผักรับประทานเองได้ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอื่นๆเช่น สอนวาดรูป สอนทอผ้า อีกด้วยค่ะ

    เข้ามาภายในจะเจอกับสวนหย่อม แปลงพัก และ ซุ้มนั่งพักผ่อน

    มีบ่อน้ำพุที่มีรูปปั้นแบบไทยๆตกแต่งอยู่ตรงกลาง เรามาเดินดูรอบๆกันค่ะ

    บริเวณนี้จะมีแปลงผักให้ลูกบ้านสามารถมาปลูกหรือมาเก็บไปรับประทานได้

    แปลงผักมีหลายแปลง หลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นพืชผักสวนครัว อย่างตรงนี้เป็นแตงกวาค่ะ

    เราเก็บผักสดๆมาทานแบบนี้ได้

    เดินมาจนครบทุกส่วน ต่อไปจะพาไปชมห้องตัวอย่างของคอนโดมิเนียม Low Rise กันค่ะ

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • คลับเฮาส์ พร้อมด้วยบริการผู้ช่วยส่วนตัว
    • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ 1 สระ
    • ฟิตเนส
    • เส้นทางขับจักรยานและจ๊อกกิ้ง 4 กม.
    • ร้านอาหารและบาร์
    • ห้องรับรองสำหรับลูกบ้าน
    • บริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพโดยแพทย์จาก รพ. ชั้นนำ
    • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
    • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 11.67 :  1
    • Service Lift :  ไม่มี
    • ที่จอดรถประมาณ 50 คันคิดเป็น 72% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 100%
    • ดูแลความปลอดภัย 24 ชม./ กล้องวงจรปิด


    Product Walkthrough

    สำหรับห้องพักในคอนโดที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ จะมีอยู่ 2 แบบคือ 1 ห้องนอน 90 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน 157 ตารางเมตร ขายแบบ Fully Fitted ให้ชุดครัว สุขภัณฑ์และรายการวัสดุมาตรฐาน แต่จะมี Option ต่างๆให้เลือกดังนี้

    • ครัวในห้อง 2 ห้องนอนขึ้นไปสามารถเลือกสีได้โดยมีให้เลือก 4 สี : ขาว เทา ดำ โอ๊ค
    • พื้นที่อาบน้ำสามารถเลือกได้ระหว่างชุดฝักบัวหรืออ่างอาบน้ำ
    • พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เลือกได้ว่าจะเอาสีเข้ม หรือ สีอ่อน
    • พื้นห้องนั่งเล่นเลือกได้ว่าจะเอาเป็นกระเบื้องลายหินหรือผิว Hi-Gloss

    เรามาดูห้องแรกคือ 1 ห้องนอน 90 ตารางเมตร กันค่ะ การออกแบบห้องพักทุกห้องจะเน้นระเบียงขนาดใหญ่ หน้าต่างบานใหญ่สูงจรดเพดาน ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง เน้นเปิดรับวิว ดังนั้น Condensing Unit ของแอร์จึงถูกออกแบบมาให้วางอยู่หน้าห้อง พร้อมมีพื้นที่เก็บของเอาไว้ให้เป็นสัดส่วน ไม่ไปกินพื้นที่ส่วนของระเบียง เข้าห้องมาจะเจอกับห้องเก็บของทางฝั่งขวา มีขนาดใหญ่พอสมควรเก็บของชิ้นใหญ่ๆได้ ถัดเข้าไปเป็นครัวเปิด มีเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว U พื้นที่รับประทานอาหารจะอยู่บริเวณนี้เลย เน้นทำอาหารง่ายๆหรือใช้จัดปาร์ตี้มากกว่าทำอาหาร ต้ม ผัด แกง ทอดแบบจริงจัง พื้นที่บริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นห้องนอนและห้องน้ำ ที่แยกส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน ระเบียงจะอยู่ทางฝั่งห้องนอน ขนาดใหญ่พอที่จะวางชุดโต๊ะ 4 ที่นั่งและม้านั่งยาวได้

    ประตูหน้าห้องเป็นบานไม้สักเซาะร่อง พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้

    Condensing Unit ของแอร์กั้นเป็นห้อง มีทำระแนงระบายอากาศมาให้เรียบร้อย อยู่บริเวณหน้าห้องพัก

    ห้อง Condensing Unit เปิดประตูเข้าไปจะเจอกับพื้นที่โล่งๆ สามารถใช้เก็บของชิ้นใหญ่ๆได้ เช่น จักรยาน อุปกรณ์เล่นกีฬา

    Digital Door Lock เป็นแบบที่เปิดได้ 3 ระบบคือใช้คีย์การ์ด กุญแจ และผ่าน Application ในมือถือ

    เข้ามาในห้อง ประตูทางฝั่งขวาหน้าห้องคือห้องเก็บของ ถัดเข้าไปเป็นครัว ห้องนั่งเล่น อีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องนอนและห้องน้ำ ฝ้าเพดานของห้องสูง 2.90 เมตร

    พื้นห้องจะยกขึ้นสูงกว่าพื้นระเบียง ซึ่งข้อดีคือสามารถกันฝุ่น กันน้ำเวลาแม่บ้านมาซักล้างทำความสะอาดได้

    ฝั่งตรงข้ามห้องเก็บของมีพื้นที่โล่งๆ สามารถ Built-in เพิ่มเติมเป็นตู้โชว์ ตู้เก็บของ ตู้รองเท้าได้

    ถัดเข้ามาจะเจอกับครัว เป็นครัวเปิด เคาน์เตอร์รูปตัว U มีพื้นที่รับประทานอาหารประมาณ 2 ที่นั่ง พื้นบริเวณนี้เป็นกระเบื้องซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะเอา กระเบื้องผิว Hi-Gloss หรือ กระเบื้องลายหิน อย่างห้องนี้เป็นแบบลายหินค่ะ

    ชุดครัวที่ได้เคาน์เตอร์เป็นรูปตัว U ของ KVIK Denmark โดยห้อง 1 ห้องนอนจะได้เป็นสีนี้เลยค่ะ โทนออกเทาๆ ส่วนถ้าเป็นห้อง 2 ห้องนอนขึ้นไปสามารถเลือกสีได้โดยมีให้เลือก 4 สี : ขาว เทา ดำ โอ๊ค

    ตู้เย็นออกแบบให้ซ่อนอยู่หลังหน้าบาน เป็นของ fisher & paykel

    ตู้ด้านล่างอ่างล้างจานก็จัดอุปกรณ์มาให้แน่นดีทั้งถังขยะ และ เครื่องล้างจาน

    อ่างล้างจานแบบหลุมเดียวมีถาดพักด้านข้างของ SMEG

    เครื่องดูดควันก็เป็นของ SMEG เช่นเดียวกัน

    ตู้และชั้นต่างๆเปิดออกมามีฟังก์ชั่นเป็นของตัวเองและเป็น Soft-Close ทั้งหมดค่ะ

    อย่างชั้นนี้ทำเป็นที่เก็บขวดซอส ดึงออกมาใช้งานได้สะดวก

    ด้านล่างเคาน์เตอร์เป็นตู้สามารถเปิดออกมาเห็บของได้ มีอุปกรณ์พักจานแบบเป็นโค้งๆด้วย บานทั้งหมดเป็น Soft Close ค่ะ

    เตาไฟฟ้าจาก SMEG สำหรับเอาไว้อุ่นอาหารเล็กๆน้อยๆ

    ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่นั่งเล่น ขนาดกว้างพอสมควร รองรับได้ประมาณ 5-6 คน ด้านหลังเป็นหน้าต่างบานใหญ่สูงพื้นถึงฝ้าเพดาน  เปิดรับวิวได้เต็มๆ

    หน้าต่างส่วนใหญ่แบบ Bay Window และ ด้านข้างมีทางออกไปที่ระเบียงห้องนอน

    อุปกรณ์มือจับ ตัวล็อค ดูแข็งแรงทนทานดี

    พื้นที่บริิเวณระเบียงจะลดระดับลงมาจากพื้นห้องเล็กน้อยเพื่อกันน้ำ กันฝุ่น

    ระเบียงของโครงการนี้ให้มาค่อนข้างกว้าง มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝนได้ เป็นพื้นที่แบบ Semi Outdoor สามารถเอาชุดโต๊ะ-เก้าอี้ หรือ ม้านั่งยาวออกมานั่งพักผ่อนได้

    อีกฝั่งของตัวห้องเป็นทางไปห้องนอน ห้องตัวอย่างไม่ได้ทำประตูมาให้ดูแต่ของจริงจะเป็นบานไม้สัก

    ในห้องนอน พื้นเป็นไม้เอ็นจิเนียร์ซึ่งสามารถเลือกได้ 2 โทนสีเข้มหรืออ่อน วางเตียงขนาด 6 ฟุตแล้วยังมีระยะรอบเตียงเหลือ ห้องนี้จะมีทางออกไปที่ระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน นอนๆอยู่ก็สามารถชมวิวได้ ชิลดี

    ทั้งสองฝั่งของเตียงมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางโต๊ะข้างเตียง

    ปลายเตียงก็สามารถวางตู้ปลายเตียงค่ะ

    ทางออกไปที่ระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน กรอบบานอลูมิเนียม Powder Coated

    อีกฝั่งหนึ่งของตัวห้องเป็นทางไปห้องน้ำ ซึ่งบริเวณหน้าห้องมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า

    พื้นห้องน้ำจะมีการลดระดับลงจากพื้นห้องนอนเล็กน้อย

    ห้องน้ำขนาดค่อนข้างกว้าง แบ่งออกเป็นพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียก พื้นผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ มีหน้าต่างสำหรับเปิดระบายอากาศ

    อ่างล้างหน้า ด้านล่างเป็นตู้สามารถเปิดออกมาเก็บของได้ ส่วนกระจกเงาส่องหน้าได้เต็มบานและมีซ่อนไฟแบบนี้เลย

    กระจกเงาส่องหน้าด้านหลังเป็นตู้ ชั้นกระจกแบบปรับระดับ สามารถเปิดออกมาเก็บของเล็กๆน้อยๆได้ค่ะ

    อ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard ค่ะ

    ตู้ด้านล่างพอเปิดออกมาแล้ว สามารถเก็บของได้เยอะพอสมควร โดยของที่ได้จริงตู้จะกว้างกว่านี้อีกประมาณ 10 cm. ค่ะ

    ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำที่กั้นเป็นสัดส่วน

    โถสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard

    พื้นที่อาบน้ำมีให้ทั้ง ฝักบัว และ Rain Shower พร้อมที่นั่งอาบและชั้นวางของ

    ฝักบัวของ American Standard

    พื้นที่อาบน้ำจะลดระดับลงจากส่วนแห้งเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไม่ให้ไปโดนส่วนต่างๆ

    พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกว้าง มีเก้าอี้สำหรับนั่งอาบน้ำมาให้ด้วย บริเวณนี้เราถ้าเราไม่ชอบยืนอาบก็สามารถแจ้งกลับทางโครงการเปลี่ยนเป็นอ่างอาบน้ำได้ค่ะ

    ปลั๊กและสวิทช์ของ Panasonic

    แปลนกับห้องตัวอย่างที่พาไปชมจะกลับด้านกันนะคะ

    ต่อมาเป็น 2 ห้องนอน ขนาด 157 ตารางเมตร ห้องนี้มีพื้นที่เก็บของ และ Condensing Unit ของแอร์อยู่หน้าห้องเช่นเดียวกัน เข้ามาจะเจอกับห้องเก็บของก่อน มีพื้นที่วางตู้เก็บของหรือตู้โชว์ยาวตลอดแนว ถัดเข้าไปเป็นห้องน้ำที่ต้องใช้แชร์กันและห้องนอนเล็ก ห้องนอนใหญ่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง มีห้องน้ำในตัว พื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร และ ครัวอยู่ด้านในสุด เป็นพื้นที่ต่อเนื่องกัน เชื่อมต่อกับระเบียงขนาดใหญ่ โซนนี้มีกระจกรอบด้านเปิดรับวิวได้เต็มๆค่ะ

    พื้นที่เก็บของ และ Condensing Unit ของแอร์อยู่หน้าห้องค่ะ

    ในห้องจะมีพื้นที่โล่งๆให้เก็บของ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทำความสะอาดง่าย

    ถัดเข้าไปจึงเป็น Condensing Unit ของแอร์วางอยู่เรียงกัน

    มีช่องระบายอากาศเป็นระแนงและบานเกล็ด

    ประตูเป็นบานไม้สัก ดีไซน์เดียวกับห้องแบบ 1 ห้องนอนค่ะ  ติดตั้งมาพร้อมกับ Digital Door Lock

    ถัดเข้าไปด้านในห้อง ทางฝั่งซ้ายคือห้องเก็บของ ส่วนทางฝั่งขวามีพื้นที่ให้ Built-in เป็นตู้ยาวๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะทำเป็นตู้อะไร ด้านในจึงเป็นพื้นที่นั่งเล่น ทานข้าว และ ครัว พื้นของห้องนี้เป็นแบบกระเบื้องผิว Hi-Gloss ค่ะ

    มุมมองย้อนกลับไปทางฝั่งหน้าห้องเป็นโถงยาวๆ

    พอเดินผ่านโถงมาทางฝั่งซ้ายจะเป็นทางไปห้องนอนเล็กและห้องน้ำ ส่วนทางฝั่งขวาคือห้องนอนใหญ่ ห้องนั่งเล่น ทานข้าว และ ครัวอยู่ด้านหลังสุดค่ะ

    มาดูทางฝั่งซ้ายซึ่งจะเป็นห้องน้ำและห้องนอนเล็กกันค่ะ

    ห้องน้ำห้องนี้เป็นห้องที่ต้องใช้แชร์กัน มีทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก ดีไซน์ วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆเหมือนกับห้องที่ผ่านมา

    เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าได้ครบชุดแบบนี้ค่ะ

    โดยตัวเคาน์เตอร์และผนังของจริงจะกว้างกว่านี้อีกประมาณ  10 cm. เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น

    ด้านหลังกระจกเงาเปิดออกมาเป็นตู้เก็บของได้ ซึ่งดีไซน์นี้จะมีอยู่ในห้องน้ำทุกๆห้องค่ะ

    อ่างล้างหน้าของ American Standard

    โถสุขภัณฑ์ก็เป็นของ American Standard เช่นเดียวกัน

    ถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำ กั้นด้วยกระจกนิรภัยมาให้ครึ่งหนึ่ง

    มีทั้งแบบฝักบัวและ Rain Shower ให้เลือก มีที่นั่งอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ

    ข้อดีของห้องน้ำโครงการนี้คือเกือบทุกห้องมีบานหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศช่วยให้ไม่อับชื้น และเป็นช่องแสงเพิ่มความสว่างให้กับห้อง

    ถัดเข้ามาเป็นห้องนอนเล็ก วางเตียงได้ขนาด 5 ฟุตเป็นต้นไป มีบานหน้าต่างขนาดใหญ่เอาไว้เปิดรับลมชมวิวได้ พื้นในห้องนอนเป็นไม้เอ็นจิเนียร์ซึ่งสามารถเลือกโทนสีได้ 2 โทนค่ะ

    หน้าต่างได้เต็มบานสูงพื้นถึงฝ้าเพดานแบบนี้

    อีกฝั่งมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า

    ต่อมาคือห้องนอนใหญ่ บรรยากาศโปร่ง โล่งเพราะมีช่องแสงขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน

    หน้าต่างได้เต็มบาน ด้านบนเป็นบานเลื่อนเปิดรับลมได้ ส่วนด้านล่างเป็นบาน FIX

    อีกฝั่งเป็นทางไปห้องน้ำ ซึ่งบริเวณหน้าห้องมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าได้ทั้งแนว

    บริเวณหน้าห้องน้ำสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ทั้งแนวแบบนี้ค่ะ พออาบน้ำเสร็จก็สามารถออกมาแต่งตัวได้เลย สะดวกดี

    ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ก็แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนแห้ง และ ส่วนเปียก วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆเหมือนกับห้องก่อนหน้าค่ะ

    พื้นที่อาบน้ำสามารถเลือกได้ว่าชอบยืนอาบหรือเป็นอ่างอาบน้ำ

    ในห้องน้ำห้องนี้ก็มีช่องแสงและบานหน้าต่างสำหรับเปิดระบายอากาศค่ะ

    ถัดเข้ามาด้านในสุดของห้องเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกันของพื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร และ ครัว ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระเบียงที่อยู่ด้านหลัง พื้นที่โซนนี้ค่อนข้างโปร่ง โล่ง แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้ดีค่ะ

    เนื่องจากผนังรอบๆเป็นกระจกจึงทำให้พื้นที่โซนนี้โปร่ง และ เห็นวิวโดยรอบ เหมาะกับใช้เป็นพื้นที่ที่ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว

    พื้นที่ครัวเปิดและโวนรับประทานอาหารค่ะ ดูโปร่งดี ทานข้าวไปดูวิวรอบๆไปด้วยได้

    ชุดครัวตั้งแต่ 2 ห้องนอนขึ้นไปเราจะเลือกโทนสีได้ค่ะ อย่างห้องนี้เป็นโทนสีขาว

    ตู้ด้านในเป็นการใช้งานออกเป็นฟังก์ชั่นต่างๆได้ลงตัว ห้องนี้ก็ได้ตู้เย็นที่ซ่อนอยู่หลังหน้าบานตู่ค่ะ

    ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะ และ ถาดใส่ของ

    อ่างล้างจานของ SMEG เช่นเดียวกันกับห้องก่อนหน้า

    เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันก็ของ SMEG ค่ะ

    ประตูทางออกไปที่ระเบียงเป็นบานเลื่อนที่สามารถเลื่อนมาเก็บด้านข้างได้แบบนี้ พอเปิดแล้วทำให้ได้พื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ ดูวิวได้เต็มๆ

    มุมมองจากบริเวณระเบียงเข้ามาในห้องค่ะ

    ราวกันตกระเบียงเป็นกระจกใส ช่วยทำให้เปิดรับวิวได้ดีขึ้น

    ฝั่งนี้ในห้องตัวอย่างวางม้านั่งยาวค่ะ

    ส่วนอีกฝั่งวางเป็นโต๊ะอาหารนั่งได้ประมาณ 4 ที่นั่ง ถ้าไม่อยากนั่งทานในห้องก็ยกออกมาทานชิลๆที่ระเบียงได้ค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20 October 2017

    คอนโดมิเนียม 

    • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 4  เนื้อที่ 90.8 ตร.ม. ราคา 11.16 ล้านบาท หรือ 123,000 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 2  เนื้อที่ 127.1 ตร.ม. ราคา 13.59 ล้านบาท หรือ 121,000 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom อาคาร A ชั้น 1  เนื้อที่ 210.1 ตร.ม. ราคา 20.40 ล้านบาท หรือ 120,000 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom อาคาร B ชั้น 3  เนื้อที่ 157.1 ตร.ม. ราคา 19.16 ล้านบาท หรือ 122,000 บาท/ตร.ม.
    • 3 Bedroom อาคาร A ชั้น 5  เนื้อที่ 231.8 ตร.ม. ราคา 28.74 ล้านบาท หรือ 124,000 บาท/ตร.ม.
    • Fully Fitted 
    • ฝ้าเพดานสูง 2.9 เมตร
    • Kitchen & Sink
    • Hob & Hood
    • จอง 200,000 บาท
    • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
    • ค่ากองทุน 1,000 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 55บาท/ตร.ม./เดือน

    พูลวิลล่า

    • บ้านแบบ DIVYA2 ที่ดิน 166 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 724 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 14.7 ล้านบาท
    • บ้านแบบ SITARA1 ที่ดิน 216 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 768.98ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 18.5 ล้านบาท
    • บ้านแบบ SUMA ที่ดิน 285 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 870.67 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 20.4 ล้านบาท
    • จอง 200,000 บาท
    • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
    • ค่าส่วนกลาง 15 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
    • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ 


    เจาะลึกรวบยอด

    Sunplay บางเสร่  เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปมีไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟและชื่นชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ไม่ต้องการชีวิตที่เรียบง่ายหลังเกษียณแต่ต้องการเติมเต็มเวลาว่างให้สมบูรณ์แบบ โดยโครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนพื้นที่ 175 ไร่ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมและบ้านพักอาศัยแนวราบในรูปแบบพูลวิลลา สำหรับเฟสแรกที่เปิดตัวจะเป็น “The Heights” คอนโดมิเนียม Low Rise ส่วนเฟสถัดมาคือ “The Pool Villa” พูลวิลลาสุดหรู พร้อม The Sunplay Club พื้นที่สันทนาการที่มีกิจกรรมต่างๆครบครัน  

    ทำเล ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของไทย ในซอยเทศบาล 12 ห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 2 กิโลเมตร ทำเลใกล้หาดบางเสร่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของอำเภอสัตหีบ เป็นชายหาดที่ยาวประมาณ 1,500 เมตร ปัจจุบันได้ถูกพัฒนาจนมีความสวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนจำนวนมาก และยังมีร้านอาหารทะเลสดและราคาไม่แพงอยู่มากมาย โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่เน้นความสงบ เป็นส่วนตัว เสมือนบ้านหลังที่ 2 ที่มาพักผ่อนชิลๆได้ ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการจะต้องขับรถออกมาทางฝั่งถนนสุขุมวิท ซึ่งจะมีทั้งร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆไว้รองรับ เช่น  มิโมซ่าพัทยา ตลาดน้ำสี่ภาค สวนนงนุช สวนน้ำการ์ตูนเน็ทเวิร์ค ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ในระยะขับรถจากโครงการไม่เกิน 30 นาทีก็จะมีสนามกอล์ฟระดับเวิลด์คลาสหลายแห่ง เช่น สนามกอล์ฟฟีนิกซ์  ใกล้ท่าจอดเรือยอชท์อย่างโอเชี่ยน มารีน่า และสมาคมสโมสรราชวรุณในพระบรมราชูปถัมภ์สำหรับสิงห์นักปั่น มีเส้นทางขี่จักรยานท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่นของเนินเขาบางเสร่ค่ะ

    การเดินทาง มายังโครงการสะดวกด้วยถนนสุขุมวิทเป็นหลัก ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯด้วยเส้นมอเตอร์เวย์ประมาณ 2 ชั่วโมง หากรถติดก็เลี่ยงเมืองด้วยถนนเลียบทางรถไฟมาแล้วค่อยเข้าถนนสุขุมวิทอีกที ถ้าเดินทางจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิก็ใช้เวลาประมาณ 90 นาที หรือจากสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาใช้เวลาประมาณ 30 นาที หากต้องการไปสัมผัส กับแสง สี เสียงและความคึกคักของเมืองพัทยา ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 25 กิโลเมตรก็ใช้เวลาเดินทางไม่นาน บรรยากาศและสภาพแวดล้อมละแวกโครงการส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียมสลับกับโครงการหมู่บ้าน และโรงแรมบ้าง เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยบรรยากาศค่อนข้างสงบค่ะ

     

    วัสดุ ให้ของมาดีทั้งชุดครัวจาก KVIK Denmark อุปกรณ์จาก SMEG สุขภัณฑ์ American Standard ขายแบบ Fully Fitted ให้ชุดครัว สุขภัณฑ์และรายการวัสดุมาตรฐาน มี Option ต่างๆให้เลือก ครัวในห้อง 2 ห้องนอนขึ้นไปสามารถเลือกสีได้โดยมีให้เลือก 4 สี : ขาว เทา ดำ โอ๊ค พื้นที่อาบน้ำสามารถเลือกได้ระหว่างชุดฝักบัวหรืออ่างอาบน้ำ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เลือกได้ว่าจะเอาสีเข้ม หรือ สีอ่อน พื้นห้องนั่งเล่นเลือกได้ว่าจะเอาเป็นกระเบื้องลายหินหรือผิว Hi-Gloss ค่ะ

    การออกแบบ เป็นโครงการที่มีทั้งคอนโดมิิเนียมและพูลวิลล่าซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี เหมาะกับเป็นโครงการตากอากาศ โดยคอนโดมิเนียมตัวอาคารมีการออกแบบให้แต่ละห้องมีช่องแสงและพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ ยื่นออกมาเพื่อเปิดรับวิว โดยเฉพาะห้อง Penthouse จะได้ระเบียงที่ใหญ่มากๆ ราวกันตกของระเบียงออกแบบมาเป็นกระจกจึงช่วยเปิดมุมมองให้เห็นวิวได้เต็มที่มากขึ้น ส่วนพูลวิลลาแต่ละหลังมีคอนเซ็ปต์การออกแบบตกแต่งที่แตกต่างกันไป ออกแบบมาเพื่อรับกับธรรมชาติโดยรอบ เน้นความโล่ง โปร่งสบาย ผนังเปิดโล่งทั้งสองด้าน มีพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้ง ลานอาบแดด สวนส่วนตัว และสระว่ายน้ำส่วนตัวพร้อมหลังคาต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่นเป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังมีนวัตกรรมต่างๆภายในวิลลาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบรีไซเคิลน้ำสำหรับใช้ในสวน

    สาธารณูปโภค มี The Sunplay Club ประกอบด้วย Reception&Concierge services ส่วนต้อนรับ พร้อมบริการแบบ one stop service ทั้งบริการรับส่งสนามบินสุวรรณภูมิ/อู่ตะเภาด้วยรถลีมูซีน , Shuttle Service ภายในโครงการ , จองทัวร์ท้องถิ่น , บริหารการเช่า , Room service , ย้ายเฟอร์นิเจอร์ ในโซนเดียวกันจะมีร้านอาหารสไตล์ Fine Dining คาเฟ่ บาร์ริมสระว่ายน้ำ และ ห้องเก็บไวน์  นอกจากนั้นยังมีโซน Personal Development ที่ประกอบด้วย ฟิตเนส ไทชิ โยคะ คลาสเพื่อสุขภาพต่างๆ รวมถึง คลาสทำอาหารไทย ห้องสมุด พร้อมทั้งมีบริการปรึกษาทางด้านสุขภาพจากทีมแพทย์จากโรงพยาบาลชั้นนำ 3 วันต่อสัปดาห์อีกด้วย ตรงกลางเป็นสระว่ายน้ำที่พื้นที่รอบๆเป็นทรายเทียม ตรงกลางระหว่างอาคารทั้ง 3 เป็นสวนหย่อมและที่จอดรถ จอดได้ประมาณ 50 คันด้านหลังอาคาร C อีกที คือ Tennis Court และยังมีพื้นที่รองรับกิจกรรม CSR ให้ลูกบ้านสามารถมาปลูกผักรับประทานเองได้ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอื่นๆเช่น สอนวาดรูป สอนทอผ้า อีกด้วยค่ะ

    Judgement

    เนื่องจากโครงการบ้านตากอากาศ ที่มีดีไซน์ที่พิเศษ ใช้ความคุ้มค่าทางอารมณ์ เป็นตัวตัดสินมากกว่า ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไป แนะนำให้ไปดูและใช้ใจตัวเองเป็นตัวตัดสินจะดีที่สุดค่ะ…

    BOTTOM LINE

    Sunplay บางเสร่ เหมาะกับคนที่มองหาที่พักอาศัยตากอากาศ ที่มีกิจกรรมต่างๆรองรับ ไม่น่าเบื่อ ชื่นชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ชอบบริการ One Stop Service และ บริการทางด้านสุขภาพ อาจจะเป็นคนมีอายุ 50 ปีขึ้นไปที่ไม่ต้องการชีวิตเรียบง่ายหลังเกษียณหรือคนที่มีไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟ ทำเลไม่จำเป็นต้องติดทะเลแต่มีสาธารณูปโภคต่างๆพร้อม มีที่พักอาศัยให้เลือกทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านในรูปแบบวิลล่า งบประมาณเริ่มต้น 10 ล้านบาท