รีวิวฉบับที่ 1042 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ Siamese สุรวงศ์ คอนโด High rise สูง 20 ชั้นบนถนนทรัพย์ที่ตัดระหว่างถนนสุรวงศ์และถนนสี่พระยาตรงข้ามกับสถานฑูตรัสเซีย โดยโครงการมีจำนวน 206 ยูนิต ซึ่งแบ่งออกเป็นหลากหลาย Types ตั้งแต่ 1 ห้องนอน ไปจนถึง 3 ห้องนอน Triplex แบบ Villa ชั้น 1 ที่สามารถจอดรถได้ที่หน้ายูนิตของตัวเอง
Facts @ 17 March 2016
- Siamese Surawong (ไซมิส สุรวงศ์)
- Developer : บริษัท ไซมิส สุรวงศ์ จำกัด
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางรัก
- คอนโด High rise Rise 20 ชั้น 206 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด : 15 ยูนิต
- ที่จอดรถ : ประมาณ 140 คันในซองชั้นใต้ดินจำนวน 4 ชั้น คิดเป็น 68%
- ที่ดิน : ประมาณ 1-2-11.9 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : เดือนกันยายน 2556
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : เดือนเมษายน 2559
- 1 Bedroom ขนาด 41.88 – 64.71 ตร.ม. ราคา 6.8 – 10.6 ล้านบาท
- 2 Bedrooms ขนาด 64.65 – 88.07 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.6 – 14.8 ล้านบาท
- 3 Bedrooms ขนาด 88.38 – 85.82 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 14.7 – 15.2 ล้านบาท
- 3 Bedrooms duplex and triplex ขนาด 113.29 – 155.08 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 19.7 – 21.1 ล้านบาท
- Villa ขนาด 102.84 – 130.48 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 14.3 – 18.2 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 6.8 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 145,000 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 138,000 – 178,000 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 081 632 8947 และ 092 403 8758
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.730028, 100.527971
แผนที่โครงการ Siamese สุรวงศ์ ตั้งอยู่บนถนนทรัพย์ซึ่งเป็นถนนที่ตัดระหว่างถนนใหญ่สองเส้นคือถนนสุรวงศ์และถนนสี่พระยา ซึ่งทั้งคู่เป็นถนนที่ขนานกัน ตัดมาจากถนนพระรามสี่และถนนเจริญกรุงอีกทีหนึ่ง โดยระยะของโครงการถึงสถานีขนส่งมวลชนที่ใกล้ที่สุดคือ MRT สามย่านในระยะ 500 เมตร
โครงการ Siamese สุรวงศ์ ตั้งอยู่ในเขตบางรัก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายสูงมาก โดยถนนแต่ละเส้นก็จะมีประเภทสิ่งปลูกสร้างที่แตกต่างกันไปแต่กระจุกตัวกันทำให้เกิดความเป็นย่านขึ้น อย่างโรงแรม ตึกออฟฟิส โรงเรียน สถานฑูต หรือยังเป็นบ้านพักอาศัยหรืออาคารพาณิชย์ริมถนนใหญ่ โดยคอนโด Siamese สุรวงศ์ เป็นคอนโดที่อยู่บนถนนทรัพย์ที่โชคดีที่เป็นถนน two-way สามารถเดินรถได้ทั้งสองทางจากถนนสี่พระยาและถนนสุรวงศ์ ที่เป็นถนนที่ตัดจากถนนพระรามสี่และถนนเจริญกรุงอีกที โดยทั้งสองเส้นจะมีส่วนที่เป็นถนน one-way บางช่วงของความยาวถนน อย่างถนนสุรวงศ์ตั้งแต่แยกที่ตัดกับถนนนเรศไปจนถึงถนนเจริญกรุงจะเป็นเส้น one-way บังคับเดินรถทางเดียว และบนถนนสี่พระยาตั้งแต่ตั้งถนนที่ตัดกับถนนเจริญกรุงไปถึงจุดที่ตัดกับถนนเรศก็จะเป็น one-way ซึ่งรวมๆแล้วจะเดินรถเป็นสี่เหลี่ยมวนๆ ผลกระทบจากที่ตั้งของโครงการจะมีในส่วนที่ต้องเดินทางขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชจากนอกเมืองแถวกรุงเทพตอนบนหรือนนทบุรีก็จะต้องวนมาขึ้นที่ถนนสุรวงศ์ ส่วนจุดลงทางด่วนจะอยู่ที่ถนนสีลม ซึ่งถ้าเลี้ยวขวาเข้าถนนเจริญกรุงจะติดน้อยกว่าเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสีลมแน่ๆถ้าไม่ใช่เวลาเข้า-เลิกเรียนของโรงเรียนอัสสัมชัญเลย 08.30 ไปแล้วก็โล่งใช้ได้
นอกจากนั้นถ้าเป็นคนทำงานแถวแยกสาทรตัดกับนราธิวาส ออกจากโครงการเข้าถนนนราธิวาสได้เลยถึงแยกไม่เกิน 1 กิโลเมตร จะเดินก็ได้ถ้าอากาศดีเพราะทางเท้าจากถนนทรัพย์ไปแยกสาทรถือว่าปูไว้ได้ดี จะโบกพี่วินที่อยู่ซอยฝั่งตรงข้ามก็ได้ในเวลารีบๆ หรือจะนั่งแท๊กซี่ก็ได้ ส่วนใครที่เรียนใกล้ๆหรือติดห้างหน่อยก็จะใช้เส้นพระราม4เข้าพระราม1 เพื่อวนไปจุฬา เตรียมอุดม สยามร้อน พารากอนหรือเซนทรัลเวิลด์ หรือดึกๆหิวจะไปเยาวราชก็ใช้เส้นเจริญกรุงหรือพระรามสี่โบกพี่แท๊กไปไม่ต้องวนๆหาที่จอดรถให้ลำบาก หรือวันไหนจะกินข้าวดีๆก็มีทั้งโรงแรมริมน้ำ สมบูรณ์โภชนาสาขา Original ที่เปิดในช่วงเย็นเท่านั้นในระยะเดิน
ความหลากหลายของพื้นที่มีตั้งแต่ถนนเจริญกรุงที่ขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นที่ตั้งของโรงแรม High-end เช่น Mandarin Oriential, Shangri-la และ State tower ที่มีห้องอาหาร Le bua เป็น Roof-top restaurent อยู่ด้านบน นอกจากนั้นก็จะมีพื้นที่ริมน้ำอย่าง Cat building ที่มีไปรษณีย์กลางบางรักเป็นอาคารด้านหน้าติดถนนใหญ่ ซึ่งมีข่าวว่า TCDC หรือศูนย์การเรียนรู้ด้านการออกแบบจะย้ายมาจาก Emporium ภายใน 2-3 ปีนี้ ย้ายถนนมาที่เส้นสาทรและนราธิวาสที่เป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน Grade A ต่างๆแถว BTS ช่องนนทรี และเลยไปถึงแถว BTS ศาลาแดงอย่าง Empire tower และ Sathorn square หรือจะเลยไปหน่อยแถว BTS ศาลาแดงที่มีธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่และ CP tower โดยบนถนนสีลมฝั่งตรงข้ามก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวตอนกลางคืนและร้านอาหารน่าตื่นตาตื่นใจหลายจุด แต่ในส่วนที่เป็นถนนทรัพย์และถนนนเรศจะเงียบลงมาหน่อย คือส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งปลูกสร้างแนวพักอาศัย ตั้งแต่อาคารพาณิชย์สูง 2-5 ชั้นตามกฏหมายที่สร้างได้ บ้างปรับปรุงเป็นร้านค้าในชั้นล่าง บ้างปรับเป็นโรงแรมรายวันให้ฝรั่งแนว Back-pack มาอยู่ บางแปลงยังเป็นบ้านพักอาศัย บางแปลงขายให้ Developer พัฒนาเป็นคอนโด Low-rise บ้าง High-rise บ้างแล้วแต่ขนาดที่ดิน
ส่วนการเดินทางด้วย MRT หรือ BTS นั้น สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ MRT สามย่าน ที่อยู่ในระยะ 500 เมตรจากทางออก 1 หน้าวัดหัวลำโพง ข้อดีมากๆคือไม่ต้องข้ามถนนเลย แต่ในช่วงเวลากลางคืนอาจจะเปลี่ยวหน่อยเพราะอาคารพาณิชย์บนเส้นสี่พระยาช่วงที่เดินผ่านค่อนข้างเงียบและปิดทึบ ส่วน BTS ที่ใกล้ที่สุดคือ BTS ช่องนนทรีที่เดินบนถนนใหญ่ได้เลย และไกลออกไปนิดนึงหรือ BTS ศาลาแดงที่อาจจะต้องซอกแซกหน่อย ส่วนพาหนะอื่นๆอย่างพี่วินก็มีในถนนทรัพย์ แท๊กซี่หาง่าย ตุ๊กตุ๊กในพื้นที่ก็ยังมีอยู่
เส้นทางแรกแบบเดินเท้าที่เราจะพาไปกันคือจาก MRT สามย่าน ประตูทางออกที่ 1 ซึ่งจะขึ้นมาหน้าวัดหัวลำโพงตรงถนนพระรามสี่ เดินเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสี่พระยาแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนทรัพย์อีกทีหนึ่ง เดินมาเรื่อยๆโครงการคอนโด Siamese สุรวงศ์ จะอยู่ทางซ้ายมือ ตรงข้ามกับสถานฑูตรัสเซีย
เริ่มต้นจาก MRT สามย่านที่เป็นสถานีรองสุดท้ายก่อนจะถึง MRT หัวลำโพง ลงจากรถมาหาทางออกที่ 1 วัดหัวลำโพงที่เป็นทางขึ้นบันไดเลื่อน
ขึ้นบันไดเลื่อนมาแล้วจะเจอกับถนนพระรามสี่ ฝั่งตรงข้ามเป็นจามจุรีสแควร์ฝั่งจุฬาที่เป็นทั้งห้าง ตึกออฟฟิส และคอนโด leasehold เพราะอยู่บนพื้นที่ของจุฬา
หันมาทางขวาจะเจอพี่วินรอรับอยู่ที่หน้าทางออกก่อน ทางเดินเท้าที่ค่อนข้างกว้างและเรียบร้อย ขวามือเป็นทางเข้าหลักของวัดหัวลำโพง เดินไปหน่อยจะเป็นที่จอดรถ park and ride ของ MRT และ too fast too sleep ร้าน 24 ชั่วโมง
ส่วนถ้าหันมาทางซ้ายของทางออกสถานีก็จะเป็นแยกพระรามสี่ตัดกับสี่พระยา มีทางเข้าวัดหัวลำโพงอีกทางหนึ่ง ซึ่งเวลาช่วงเย็นไปจนถึงดึกๆจะมีร้านอาหารมาเปิดขายยาวไปตลอด
เราเดินมาฝั่งซ้ายมือของสถานีนะคะ เดินตามทางเท้ามาเรื่อยๆ จะเห็นว่าสภาพทางเท้ากว้างและค่อนข้างดี เดินสวนกันได้สบายๆ แอบมีรถมอเตอร์ไซค์วิ่งบนทางเท้าบ้างนิดหน่อย
เดินมาจะเจอมูลนิธิร่วมกตัญญูอยู่ทางซ้ายมือริมพื้นที่วัดหัวลำโพง ถ้าเวลาช่วงเที่ยงๆไปจนถึงเย็นๆจะมีทั้งคนในพื้นที่ คนไทย ชาวต่างชาติมากราบไหว้กันเยอะ
เดินมาอีกหน่อยจะเจอกับตรอกหลังวัดหัวลำโพงซึ่งเป็นทางเข้าของโรงเรียนวัดหัวลำโพง ตอนเย็นๆจะเปิดให้เป็นพื้นที่จอดรถที่เก็บค่าจอดได้ แต่ค่อนข้างเปลี่ยว
เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอพี่วินอยู่ทางขวามือ ซึ่งถ้ารีบๆหรือมืดแล้วก็สามารถใช้บริการได้ แต่จากทางออกสถานีไปโครงการอยู่ในระยะเดิน 500 เมตร โดยไม่ต้องข้ามถนนซึ่งถือว่าค่อนข้างสะดวก
สิ่งปลูกสร้างริมถนนใหญ่สี่พระยาเริ่มเปลี่ยนเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น ด้านล่างเปิดเป็นเชิงพาณิชย์อย่างร้านอาหาร ร้านดอกไม้ ร้านเสื้อผ้านิสิต ร้านปริ้นท์ และสำนักงานเล็กๆ
เดินมาอีกหน่อยก็จะเจอทางเท้าที่ความกว้างน้อยลง ซึ่งอาคารพาณิชย์แถบนี้ค่อนข้างเงียบและไม่มีการใช้งานเท่าไรแล้ว มีบ้างที่เป็นสำนักงานแต่ค่อนข้างเก่า
เดินมาหน่อยจะเป็นออฟฟิสของ seacon home และรองเท้านันยางที่มีที่จอดรถด้านหลังตึก ขวามือเป็นป้ายบอกทางรถใกล้แยกทรัพย์-สี่พระยาว่าถนนกว้าง 3 เลนแต่ละเลนมีทิศทางใดบ้างจะได้เปลี่ยนเลนกันให้ถูกต้อง
ตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับ 3 แยกทรัพย์-สี่พระยาโดยซ้ายมือจะเป็นถนนทรัพย์ two-way ซึ่งตัดระหว่างถนนสี่พระยาและถนนสุรวงศ์ เราจะเดินเลี้ยวซ้ายเข้าถนนทรัพย์กันนะคะ
ฝั่งตรงข้ามตรงแยกจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้นเช่นกัน แต่มีพื้นที่ว่างที่ทุบตึกทิ้งบ้าง และมีการสร้างคอนโด highrise ฝั่งนี้ที่มีทางเข้า-ออกติดถนนสี่พระยาคือ wish@samyan และ the vertiq
บนถนนทรัพย์สิ่งปลูกสร้างก็ยังเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้นเป็นส่วนใหญ่ บ้างเป็นร้านอาหาร ขายของ ออฟฟิสหรือปรับโฉมใหม่เป็นโรงแรมแบบ hostel ไปเลย
อย่างซ้ายมือนี้จะมีชื่อว่า everyday bangkok hostel โดยชั้นล่างจะเป็น lobby มีอาหารเครื่องดื่มบริการ ส่วนโรงแรมก็จะคิดเป็นรายวันอยู่ชั้นบน สภาพของทางเดินเท้ายังดีเหมือนเดิม
เลยมาหน่อยก็จะมีสำนักงานบ้าง ว่างบ้าง ปิดไปแล้วบ้าง
เดินมาทางซ้ายมือจะมีตรอกหลังวัดหัวลำโพง ด้านในก็จะมีร้านอาหาร ร้านค้า มูลนิธิไปจนถึงที่อยู่อาศัยแบบตึกแถว ช่วงแรกๆจะเห็นว่าตรอกค่อนข้างกว้างและคึกคักดี แต่พอเข้าไปจนสุดแล้วจะตัน เดินเท้าทะลุถึงพื้นที่ด้านในสุดได้เท่านั้น
ฝั่งตรงข้ามบนถนนทรัพย์ก็จะมีบ้านเดี่ยวหลังใหญ่
มีซอยสันติภาพ 1 ซึ่งภายในก็จะมีร้านอาหารทั้งแบบในอาคารและแบบรถเข็นยาวเข้าไปเชื่อมกับซอยน้อมจิตรซึ่งอยู่บนถนนนเรศ โดยเป็นซอย one-way จากถนนทรัพย์ไปถนนนเรศเท่านั้น ซึ่งตัวถนนนเรศก็เป็น one-way จากฝั่งสี่พระยาไปสุรวงศ์อีก
ฝั่งตรงข้ามบนถนนทรัพย์ก็ยังมีอาคารพาณิชย์ติดถนนเป็นแถบไป
ส่วนฝั่งซ้ายของถนนที่เราเดินอยู่ก็จะมีคอนโด low rise ชื่อ the bangkok เป็นคอนโดนมนานมาแล้ว
ข้างๆกันก็จะมีซอยสุขสันต์ที่ค่อนข้างแคบ เดินรถได้สองทางแต่เบียดมากๆ เส้นทางของซอยจะเป็นรูปตัว L ไปออกที่ถนนสุรวงศ์อ้อมด้านหลังของคอนโด Siamese สุรวงศ์ไปอีกที
กลับมาที่ถนนทรัพย์ฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคาร bisco tower สูง 12 ชั้น เป็นอาคารสำนักงานอยู่ข้างๆซอยสันติภาพ
ส่วนฝั่งซ้ายของถนนทรัพย์ก็ยังเป็นตึกแถว เปิดเป็นร้านอาหาร แต่แปลงถัดไปจากนี้ก็จะเป็นที่ดินของคอนโดแล้วค่ะ
เดินมาเกือบค่อนถนนทรัพย์ หรือเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตรจาก MRT สามย่าน ทางซ้ายมือของถนนทรัพย์ก็จะเจอกับคอนโดสูง 20 ชั้นชื่อว่า Siamese สุรวงศ์แล้ว โดยด้านหน้าก็จะเป็นส่วนของพื้นที่สีเขียว มีตัวเป่าลมสีส้มไหวๆโบกต้อนรับอยู่ Sales office จะอยู่ที่ lobby ชั้น 1 ของอาคาร สามารถเดินเข้าไปติดต่อขอข้อมูลหรือดูห้องได้เลย
ฝั่งตรงข้ามกับคอนโด จะมีซอยสันติภาพที่ฝั่งขวามือเป็นตึกออฟฟิส bisco ส่วนซ้ายมือของซอยคือสถานฑูตรัสเซีย โดยซอยสันติภาพนี้จะเชื่อมกับถนนนเรศที่เป็นถนนคู่ขนานกับถนนทรัพย์ ซอยสันติภาพเป็นแบบ one-way จากถนนนเรศมาถนนทรัพย์เท่านั้น
สถานฑูตรัสเซียก็จะเงียบๆ มีพื้นที่กว้างๆตามอารมณ์สถานฑูตทั่วไป ติดๆกันก็จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้นสีส้มๆจนออกถนนสุรวงศ์ไป ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นบ้านพักอาศัย หัวมุมถนนจะเป็นธนาคารสาขาย่อย
มองหน้าขึ้นไปด้านบนก็จะเจอกับตึกออฟฟิส AIG tower อาคารสูงบนถนนสุรวงศ์
ทางที่สอง คือเส้นทางขับรถเริ่มจากหน้าโครงการ วิ่งตามถนนทรัพย์เลี้ยวขวาเข้าถนนสุรวงศ์ไปดูสภาพแวดล้อมโดยรอบ แล้วผ่านทางขึ้นทางด่วนเข้าเมืองก่อนจะเลี้ยวขวาเข้าถนนเจริญกรุง แล้วเลี้ยวขวาอีกทีเข้าถนนสี่พระยาที่เป็นทาง one-way อยู่ช่วงหนึ่ง แล้วจบที่แยกทรัพย์-สี่พระยา
เริ่มต้นที่หน้าโครงการคอนโด Siamese สุรวงศ์ บนถนนทรัพย์ต่อจากจุดที่เราหยุดของเส้นทางแรก เราจะมุ่งหน้าไปที่แยกไฟเขียวไฟแดงแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนสุรวงศ์
ผ่านคอนโดมา ทางขวามือยังเป็นสถานฑูตรัสเซีย เลยไปหน่อยเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้นยาวเป็นรูปตัว L ตลอดหัวมุมถนน ฝั่งซ้ายมือเป็นอาคารพาณิชย์ก่อนจะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล และแปลงหัวมุมคือธนาคารกรุงไทยสูงประมาณ 5 ชั้น
มาถึงแยกไฟเขียวไฟแดงที่ถนนทรัพย์จะตัดกับถนนสุรวงศ์ โดยถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปถนนสุรวงศ์มุ่งหน้าพระรามสี่ ถ้าเลี้ยวขวาจะไปถนนสุรวงศ์มุ่งหน้าถนนเจริญกรุงที่ขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนถ้าตรงไปจะเข้าซอยอนุมานราชธนที่สามารถเข้าไปยังซอยนราธิวาส1 หรือสีลมซอย6 เพื่อเข้าถนนสีลมไปยัง BTS ศาลาแดง ส่วนเส้นทางที่เราเลือกจะเลี้ยวขวาเข้าถนนสุรวงศ์เพื่อไปดูเส้นทาง one-way และดูจุดขึ้นทางด่วนเพื่อไปทางเหนือของกรุงเทพ
เลี้ยวขวาเข้าถนนสุรวงศ์มาแล้ว สองฝั่งของถนนจะเป็นอาคารที่สูงขึ้น โดยถ้าเป็นอาคารรุ่นเก่าจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น รุ่นที่ใหม่กว่าจะเป็นตึกออฟฟิสอย่าง AIG tower ส่วน neighborhood mall ทางขวามือจะมีชื่อว่า red planet ที่ประกอบไปด้วยโรงแรมขนาดเล็ก มีส่วนที่เสริมเข้ามาคือ 7-11 ที่เปิด 24 ชั่วโมง, scoozi, diwine โดยมีพื้นที่จอดรถอยู่ด้านหลังอาคาร
ตรงมาบนถนนสุรวงศ์ จะมีทางแยกซ้ายมือไปบนถนนนราธิวาส สำหรับคนที่มีที่ทำงานแถวแยกสาทร-นราธิวาสหรือต้องการเดินทางไปขึ้น BTS ช่องนนทรีในระยะ 700 เมตร ถ้าเดินก็ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที หรือจะเรียกพี่วิน พี่แท๊กซี่ก็ได้
หันมาทางซ้ายให้ดูถนนนราธิวาสฝั่งมุ่งหน้าไปทางสีลมและสาทร ก็จะมีตึกสูงอยู่ริมถนนใหญ่บางแปลง อย่างคอนโดสร้างเสร็จ M silom ตึกมหานครที่เป็น mixed use อยู่ข้าง BTS ช่องนนทรี หรือว่า ITF tower ที่อยู่บนถนนสีลม ถ้ามองไกลๆก็จะเห็นอาคารออฟฟิสสูงๆอีกเยอะมากๆแถวแยกสาทร-นราธิวาส
กลับมาที่ถนนสุรวงศ์มุ่งหน้าไปทางถนนเจริญกรุง ในช่วงนี้ถนนกว้าง 4 เลน เป็นแบบ two-way แบ่งออกเป็น 2-2 แต่เลยไปหน่อยตรงจุดที่ถนนสุรวงศ์ตัดกับถนนนเรศจะเริ่มเป็นเส้นทาง one-way ริมถนนสองฝั่งเป็นอาคารพาณิชย์บ้าง ตึกออฟฟิสบ้าง
ตรงมาอีกหน่อยจะมีทางแยกไปทางซ้ายเข้าถนนเดโชซึ่งเป็นทาง two-way ซึ่งสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดไปออกยังเส้นสีลม ซึ่งจะถือว่าไกลกว่าเลี้ยวบนถนนนราธิวาสแต่ว่าจะรถติดน้อยกว่า
ตรงมาอีกหน่อยจะเจอแยกไปทางซ้ายอีกจุดหนึ่งมีชื่อซอยว่าซอยประชุมแบบ one-way จากถนนสุรวงศ์ไปถนนสีลม
ตรงมาอีกหน่อยใกล้กับจุดที่ถนนสุรวงศ์ตัดกับถนนมเหสักข์ก็จะมีป้ายบอกทางว่าถ้าเลี้ยวซ้ายตรงแยกจะเข้าถนนมเหสักข์เพื่อไปออกถนนสีลม ถ้าเลยแยกตรงไปจะไปเข้าถนนเจริญกรุง หรือถ้าเลี้ยวขวาจะเข้าถนนมหาเศรษฐ์ต่อกับถนนมหานครได้อีกทีหนึ่ง
ตรงนี้ก็จะเป็นแยกที่ถนนสุรวงศ์ตัดกับถนนมเหสักข์ทางซ้ายมือ ทางขวามือตัดกับถนนมหาเศรษฐ์ โดยจะมีอาคารหวั่งหลี่ที่เป็นตึกออฟฟิสอยู่ตรงหัวมุมทางซ้ายมือ ส่วนทางขวามือจะเป็นโรงแรม Ma hotel ที่เป็นรูปตัว U
ตรงมาเรื่อยๆบนถนนสุรวงศ์จะมีป้ายบอกทางขึ้นทางด่วนไปทางเหนือของกรุงเทพอยู่ทางขวามือใต้ทางด่วน ส่วนทางลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ตรงถนนสีลม
ลอดใต้ทางด่วนมาก็จะเป็นสามแยกที่ถนนสุรวงศ์จะจบลงที่ตัดกับถนนเจริญกรุง โดยถ้าเลี้ยวซ้ายจะมุ่งหน้าบางรัก-ถนนจันทน์ มีโรงเรียนอัสสัมชัญมัธยม โรงแรมแมนดาริน state tower แต่ถ้าเลี้ยวขวาจะสามารถเข้าสี่พระยา เยาวราช ไปทาง Cat tower ที่มีไปรษณีย์บางรักอยู่ใกล้ๆ จากตรงนี้เราจะเลี้ยวขวาเข้าถนนเจริญกรุง เพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนสี่พระยาอีกที
เลี้ยวขวามาบนถนนเจริญกรุงจะเป็นถนน two-way จะมีวัดม่วงแคอยู่ทางซ้ายมือ พื้นที่รอบๆบริเวณนี้จะค่อนข้างเป็นชุมชนเก่าที่เป็นอาคารพาณิชย์ยาวสองฝั่ง บางจุดเป็นบ้านพักอาศัยของคนรุ่นเก่าที่ยังอยู่ในพื้นที่ บางแปลงยังเป็นร้านขายสมุนไพรจีน บางแปลงเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวหรือร้านอาหารแบบ local ในพื้นที่ปกติ บางที่เปลี่ยนเป็นร้านกาแฟสวยๆ
ตรงมาอีกหน่อยจะเจอพื้นที่ Cat tower ที่ภายในจะเป็นตึกออฟฟิสให้เช่า ภายในก็จะมีไปรษณีย์บางรักทั้งส่วนที่เป็นส่วนออฟฟิสไปรษณีย์และส่วนพิพิธภัณฑ์ ด้านในจะมี Vatel หรือการโรงแรมของศิลปากร อินเตอร์เช่าพื้นที่อยู่บนถึง Cat tower มองไปไกลๆหน่อยคือคอนโด the room ที่ติดกับถนนเจริญกรุง แต่ส่วนใหญจะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา
ตรงมาอีกนิดถนนเจริญกรุงจะตัดกับถนนสี่พระยา โดยเราจะเลี้ยวขวากันที่ตรงนี้
เลี้ยวขวามาบนถนนสี่พระยา ลอดใต้ทางด่วนมาแล้ว ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเข้าถนนมหานครเพื่อไปออกถนนพระรามสี่ เลี้ยวขวาเข้าถนนมหาเศรษฐ์ตรงไปถนนสุรวงศ์ หรือตรงไปออกถนนพระรามสี่ไปแถวสามย่าน
ตรงมายาวๆบนถนนสี่พระยาก็จะมีสิ่งปลูกสร้างและบรรยากาศคล้ายกับถนนสุรวงศ์แต่ว่าจะเงียบกว่าหน่อย โดยทางซ้ายมือเราผ่านคอนโด the vertiq มาแล้ว และข้างๆทางซ้ายมือจะมี wish@samyan ที่มีทางเข้าออกบนถนนสี่พระยา
ตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอกับแยกทรัพย์-สี่พระยาที่ถ้าเลี้ยวขวาก็จะเข้าถนนทรัพย์ที่เป็นที่ตั้งของโครงการพอดี
เพื่อนบ้านของคอนโด Siamese สุรวงศ์ บนถนนทรัพย์เริ่มจากทางทิศเหนือก็จะมีอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้นเป็นส่วนใหญ่ ที่ยังคงความเป็นอาคารพาณิชย์ไว้เพราะปัจจุบันกฎหมายผังเมืองส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนไปแล้วว่าถ้ามีการรื้อถอนจะต้องมีระยะ Setback ร่นจากถนน ทำให้เสียพื้นที่ไปอีก บ้างชั้นล่างก็เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร บ้างเปิดเป็น Hostel รายวัน และบางแปลงขายออกเพื่อทำเป็นคอนโด Low rise ส่วนทางตะวันออกจะเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัยซะเป็นส่วนใหญ่ที่อยู่ในซอยสุขสันต์ ส่วนฝั่งใต้เป็นบ้านพักอาศัยและมีธนาคารกรุงไทยสาขาย่อยที่แปลงมุมสูงประมาณ 6 ชั้น ส่วนทิศตะวันตกที่เป็นฝั่งตรงข้ามของถนนทรัพย์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาคารพาณิชย์เหมือนกัน แต่มีสถานฑูตรัสเซียอยู่ข้างๆซอยสันติภาพ และมีอาคารสำนักงาน bisco tower สูงประมาณ 12 ชั้น โดยโดนระยะ Setback ไปด้วย
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- สถานฑูตรัสเซีย 20 เมตร
- MRT สามย่าน/ วัดหัวลำโพง 500 เมตร
- AIA สำนักงานใหญ่ 550 เมตร
- ตลาดสีลม 600 เมตร
- จามจุรีแสควร์ 600 เมตร
- สำนักงานเขตบางรัก 800 เมตร
- โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน 850 เมตร
- BTS ช่องนนทรี/ Empire Tower/ สาทรแสควร์/ สาทรธานี 850 เมตร
- Silom Plaza 900 เมตร
- วัดพระศรีมหาอุมาเทวี 1.1 กิโลเมตร
- ธนิยะพลาซ่า 1.1 กิโลเมตร
- MRT สีลม/ สวนลุมพินี 1.2 กิโลเมตร
- BTS ศาลาแดง/ Silom Complex 1.2 กิโลเมตร
- W hotel 1.4 กิโลเมตร
- โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก 2 กิโลเมตร
- สยาม 2 กิโลเมตร
- CAT tower/ ไปรษณีย์กลางบางรัก/ Vatel 2.4 กิโลเมตร
สภาพอาคารภายนอกเกือบจะเสร็จสมบูรณ์ของโครงการ Siamese สุรวงศ์ คอนโด High Rise สูง 20 ชั้น 206 ยูนิต ตัวอาคารเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูงขึ้นไปเรื่อยๆ มีระยะโดย Setback ตามกฎหมายอยู่หลายจุดทั้งจากถนนทรัพย์และจากซอยสุขสันต์เล็กๆด้านหลังโครงการ ทำให้ตั้งแต่ชั้น 11 ขึ้นไปรูปทรงอาคารจะเป็นบันไดวิ่งเข้าหากันทั้งสองฝั่ง ตัวอาคารใช้สีขาวทาทั้งหมด มีตัดกับกระจกตัดแสงสีออกฟ้าๆหน่อย โดยโครงการหันหน้าออกถนนทรัพย์ที่เป็นถนน 2 เลน tw0-way เข้า-ออกได้ทางเดียว โดยจะมีที่จอดรถอยู่ที่ชั้นใต้ดิน 4 ชั้น รวมที่จอดรถในซองประมาณ 140 คัน หรือคิดเป็น 68% ชั้น 1 จะเป็นส่วนของ Facility และเริ่มมีห้องพักเลยไปจนถึงชั้น 20 ชั้น4 จะมีพื้นที่ส่วนกลางครึ่งหนึ่งประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำในร่ม ฟิตเนส และห้องSauna นอกจากนั้นก็จะมีสวนที่ชั้น 11, 14, 18 และ 20 จะมีแค่ชั้น 20 เท่านั้นที่เป็นสวนที่เจ้าของทุกยูนิตเข้าถึงได้
เริ่มกันที่ผังชั้น 1 กันค่ะ ทางเข้าโครงการเข้า-ออกได้ทางเดียวจากถนนทรัพย์ มีที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 1-2-11.9 ไร่ มีรูปร่างของอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเช่นกัน จากทางเข้าโครงการพื้นที่ด้านหน้าจะมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบคีย์การ์ดระยะใกล้ โดยเข้ามาแล้วจะมีทางแยกสองทางคือเลี้ยวซ้ายเจอจุด Drop-off ก่อน แล้วเลี้ยวขวาอีกทีเข้าที่จอดรถใต้ดิน แต่สำหรับห้อง Villa 4 ยูนิตพิเศษที่อยู่ทางทิศใต้ของโครงการจะมีที่จอดรถหน้ายูนิตที่พักเลยโดยจากทางเข้าโครงการก็คือตรงเข้าไปจอดได้เลย ส่วนพื้นที่ด้านหลังอาคารจะเป็นพื้นที่ส่วนหย่อม
จากหน้าโครงการสามารถเดินเข้า Lobby ที่อยู่ด้านหน้าข้างๆกับจุด Drop-off ได้เลยโดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนคือที่อยู่ในห้องแอร์ ปัจจุบันเป็น Sales Office ของ CBRE อีกส่วนคือจัดชุดโซฟาไว้ที่ด้านนอกรับลม โดยพื้นที่ด้านนอกก็จะมีห้องนิติบุคคลอยู่ทางขวามือ ตรงกลางเป็นทางเข้าโถงลิฟท์โดยสาร 2 ตัวและบันไดหนีไฟ ลิฟท์โดยสารคิดเป็นอัตราส่วนที่ 103:1 ในสุดมีประตูที่ต้องแตะคีย์การ์ดเพื่อเข้าไปพื้นที่ทางเดินตรงกลางเข้าห้องพักที่อยู่บนชั้น 1
ความแปลกอีกอย่างหนึ่งของคอนโดโครงการนี้คือมีห้องพักตั้งแต่ชั้น 1 เลย โดยชั้น 1 จะมีห้องพักทั้งหมด 8 ยูนิต เรียก Type แบบนี้ว่า TH หรือย่อมาจาก Townhouse โดยแบ่งห้องออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ประเภทแรกคือห้องทางทิศเหนือ 4 ยูนิต ที่จะมีตั้งแต่ TH-A B C D โดยจะเป็นห้องที่เข้าได้จากประตูแตะคีย์การ์ดตรงโถงลิฟท์เข้ามาที่ทางเดินตรงกลางแล้วเข้าห้องได้เลย โดยจะมีคละแบบทั้งแบบ duplex และ triplex คือ 2 และ 3 ชั้น ส่วนประเภทที่ 2 คือประเภทห้องพักที่อยู่ทางทิศใต้ โดยจะมีการเข้าห้องได้ 2 ทางคือจากโถงลิฟท์และจากที่จอดรถหน้าบ้านที่มี 2-3 คันตามหน้ากว้าง โดยจะมีทั้งแบบ duplex และ triplex เช่นกัน รายละเอียดของห้องติดตามต่อได้ที่ส่วน product walkthrough นะคะ
โครงการเข้าได้จากถนนทรัพย์ โดยสภาพหน้าโครงการในโมเดลจะแตกต่างจากสภาพจริงนิดหน่อยตรงที่จะมีกำแพงสูงขึ้นมาส่วนที่เป็น Landscape เพื่อบังสายตาและสร้างความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านให้เพิ่มมากขึ้น
มองจากมุมด้านบน เส้นทางการเดินรถจะมีสองเส้นคือถ้าเป็นเจ้าของห้องยูนิตปกติจะต้องเลี้ยวซ้ายที่หน้า drop-off เพื่อเลี้ยวขวาอีกทีเข้าที่จอดรถชั้นใต้ดิน 4 ชั้นจอดได้ 140 คัน ส่วนเข้าของห้องส่วน villa TH หรือ townhouse จำนวน 4 ยูนิตคือตรงเข้าไปจอดรถหน้ายูนิตได้เลย
ลงมาเดินรอบบริเวณอาคารกันนะคะ เร่ิมจากทางเข้า ตรงเข้ามาจะเจอกับจุด drop-off โดยเลี้ยวซ้ายจะไปทางที่จอดรถชั้นใต้ดิน ส่วนตรงไปจะไปเข้ายูนิต TH โดยระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการในส่วนทางเข้าจะเป็นแบบ keycard แต่ปัจจุบันยังไม่ได้มีการติดตั้งเป็นรูปเป็นร่าง
หันมาทางซ้ายที่ส่วนทางเดินรถหน้าอาคาร จะมีบันไดขึ้น lobby ในอาคารทางขวามือ แต่ว่าเราจะเดินรอบนอกอาคารกันก่อนนะคะ
ในส่วน lobby จะมีสองส่วนคือแบบ indoor และ outdoor ในส่วน indoor ซึ่งมีทางเข้าสองทางคือจากประตูที่เห็นด้านหน้าหรือจะขึ้นบันไดเมื่อซักครู่ก็จะมีประตูอีกจุดหนึ่ง ปัจจุบันส่วน lobby indoor ที่ติดแอร์จะเป็น sales office ของ CBRE ก่อน
สุดทางรถหันมาทางขวาจะเจอกับทางลาด เพื่อเข้าที่จอดรถชั้นใต้ดินทางขวามือ ถ้าตรงไปส่วนที่เป็นพื้นที่ด้านหลังโครงการปัจจุบันจะเป็นที่จอดรถของผู้รับเหมาและผู้ที่เข้ามาต่อเติม ซึ่งจากในโมเดลจะเป็นสวนหลังโครงการ ปัจจุบันอยู่ในช่วงเก็บงานยังไม่เรียบร้อยดีนะคะ
ลงมาตามทางลาดจะมาถึงทางเข้าพื้นที่จอดรถชั้นใต้ดินชั้น B1
เข้ามาด้านในก็จะเป็นชั้นวนรถทีละครึ่งชั้น 4 ชั้นหลักๆก็จะแปลว่ามี 8 ชั้นย่อยๆเรียงกันไปเรื่อย โดยตรงกลางจะเป็นส่วน core ของงานระบบ
ลงมาอีกครึ่งชั้นก็จะเริ่มเป็นพื้นที่จอดรถ จำนวนที่จอดรถอยู่ที่ 140 คัน หรือคิดเป็นอัตราส่วน 68% เฉพาะส่วนที่จอดในซอง ซึ่งถ้าจะให้รถวนสวนกันได้สองทางขึ้น-ลงก็จะไม่ค่อยมีพื้นที่ให้จอดซ้อนคันเท่าไรนักเพราะความกว้างไม่พอ
เรื่องสิทธิ์ที่จอดถ้าเป็นห้องแบบ 1-2 ห้องนอนจะได้ที่จอดรถไม่ระบุที่ 1 ที่จอด แต่ถ้าแบบ 3 ห้องนอนจะได้แบบ fixed ที่จอดแต่บางห้องจะได้พื้นที่รวมอยู่ในโฉนดบางยูนิตไม่ได้ ขึ้นกับตำแหน่งห้องและราคาขายของห้องนั้นๆนะคะ
ฝั่งตรงข้ามกับที่จอดรถหรือตรงกลางของผังชั้นก็จะเป็น core ของงานระบบที่จะมีบันไดเดินขึ้นไป ถ้าหาที่จอดไม่ได้ในชั้นนี้ก็จะต้องวนจอดลงไปเรื่อยๆ
เดินบันไดขึ้นมาก็จะเจอกับลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ที่สามารถขึ้นไปถึงชั้นพักอาศัยได้เลยเป็นตัวเดียวกัน โดยอัตราส่วนอยู่ที่ 103:1
ฝั่งตรงข้ามกับลิฟท์โดยสารจะมีประตูห้องงานระบบ
แอบเข้าไปดูจะเป็นส่วนของลิฟท์ขนของ 1 ตัวที่ผู้รับเหมา งานช่างจะขึ้น-ลงจุดนี้
ใกล้ๆกันจะมีประตูเข้า-ออกทางหนีไฟ
กลับมาที่หน้าโครงการ คราวนี้เราจะลองตรงเข้าไปดูนะคะ
ตรงเข้ามาผ่านจุด drop-off ก็จะเป็นส่วนยูนิต TH หรือ townhouse 4 ยูนิต แบ่งออกเป็นแบบ duplex 2 ยูนิตและ triplex 2 ยูนิต โดยความพิเศษจะอยู่ที่สามารถจอดรถได้หน้ายูนิตเลยจำนวน 2-3 คันตามความกว้างของยูนิตนั้นๆ โดยกรรมสิทธิ์ที่ดินของที่จอดรถจะเป็นของเจ้าของยูนิต TH นั้นเลย โดยจะมีค่าใช้จ่าย 300,000 บาท/คัน จ่าย on top ขึ้นไปอีกจากค่าห้อง
พื้นที่ด้านหลังโครงการในส่วนของสภาพจริงยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีเลยถ่ายรูปในส่วนของโมเดลมาให้ดูก่อนว่าจะเป็นพื้นที่สวน ซึ่งความจริงจะเว้นถนนมีความกว้างพอที่รถจะวิ่งสวนกันได้ แต่ว่าไม่ได้ออกแบบให้มีการวนรถไปถึงด้านหลัง
ต่อมาจะเข้าไปในส่วนอาคารนะคะ เร่ิมตั้งแต่ทางเข้า lobby จะมีบันไดขึ้นไปส่วน outdoor ซึ่งข้างๆจะมีบ่อบัวอยู่ ที่แปลกคือการตกแต่งพื้นที่ส่วนใหญ่ด้วยการทาผนังสีขาว มีกระจกวงกลมขนาดใหญ่ ค่อนข้างดูเป็นแบบ modern มากกว่าจะอาคารที่ใช้กระจกเป็น finishing ของภายนอกอาคารเหมือนคอนโดทั่วไปในตลาดปัจจุบัน
เดินขึ้นบันไดมา มองมาทางซ้ายมือ จะเป็นส่วนชุดเก้าอี้ 2 ชุด ด้านในจะเป็น lobby เหมือนกันแต่จะเป็นส่วน indoor ติดแอร์ ปัจจุบันเป็น sales office ของโครงการ ข้างๆกันจะมีห้องน้ำ
ส่วนทางขวามือจะเป็นพื้นที่ทางเข้าโถงลิฟท์โดยสาร และขวาสุดจะเป็นเคาท์เตอร์ของนิติบุคคลที่มีห้องนิติบุคคลอยู่ด้านในอีกที ปัจจุบันที่มีการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดไปแล้วก็จะมีการก่อตั้งนิติบุคคลเรียบร้อย แต่ว่ายังไม่ได้มีการจัดประชุมใหญ่ครั้งแรกเกิดขึ้น
ทางเข้า core งานระบบตรงกลางอาคาร จะเจอกับส่วนของตู้จดหมายก่อน แล้วจะเจอกับประตูที่ต้องแตะ keycard เข้าไปยังโถงลิฟท์โดยสารอีกที
ตู้จดหมายที่อยู่หน้าประตูก่อนเข้าไปโถงลิฟท์
จุดรับสัญญาณการแตะ keycard ซึ่งจะใช้เป็นใบเดียวกับการแตะเข้าประตูเข้าโถงทางเดินห้องพักในชั้นนั้นๆอีกที
เข้ามาในโถงลิฟท์โดยสาร ขวามือจะเป็นลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ทางซ้ายมือเป็นประตูของบันไดหนีไฟ และประตูเข้าลิฟท์โดยสาร ลึกเข้าไปเป็นประตูที่ต้องแตะ keycard อีกทีเพื่อเข้าส่วนของห้องพักชั้น 1
ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 103:1
ลิฟท์โดยสารเมื่อเปิดออกมาใช้งาน
การใช้งานลิฟท์โดยสารจะเป็นแบบ proxy lift หรือลิฟท์ล็อกชั้นที่ต้องแตะ keycard ก่อน แต่ปัจจุบันยังไม่มีการติดตั้งระบบแตะ keycard นะคะ
เนื่องจากชั้น 1 เป็นห้อง duplex และ triplex ทั้งหมด บนชั้น 2 ก็จะเป็นห้องชั้นบนของแบบ duplex และ triplex โดยทุกยูนิตก็จะมีประตูเข้าได้จากโถงลิฟท์ของชั้น 2 ตามกฎหมายว่าต้องมีทางเข้า-ออกทุกชั้น
โดยการจัดเรียงห้องพักเป็นแบบ double corridor โดยมี Core ของอาคารที่ประกอบไปด้วยลิฟท์โดยสาร 2 ตัว บันไดหนีไฟและลิฟท์ขนของอยู่ค่อนมาทางด้านหน้าของอาคาร ด้านหลังจะเป็นห้องพัก 8 ยูนิตที่เป็นแบบ TH หรือ townhouse ต่อเนื่องมาจากชั้น 1 จำนวน 8 ยูนิตและอีก 1 ยูนิตที่เป็น 2 ห้องนอน
ชั้นที่ 3 มีทั้งหมด 10 ยูนิต ถ้าดูจากสีตามที่โครงการแยกมาให้ ก็จะมี 1 ห้องนอนหน้าแคบ 1 ยูนิต แบบ 2 ห้องนอน 6 ยูนิต และแบบ TH แบบ triplex ที่ต่อเนื่องมาจากชั้น 1-2 อีก 3 ยูนิต
ชั้น 4 จะเป็นชั้นที่มี Facility ที่ส่วนหน้าของอาคารด้วย โดยขึ้นมาจากลิฟท์โดยสาร แล้วเลี้ยวซ้ายจะมีห้องฟิตเนสอยู่ทางซ้ายมือ ตรงกลางเป็นทางเดินออกไปยังสระว่ายน้ำในร่มขนาด 6 x 15 เมตร ซึ่งสามารถว่ายได้ทั้งวันไม่ต้องดูทิศกลัวแดดใดๆ ที่พื้นที่ข้างสระจะมีบันไดขึ้นไปยังส่วน Deck ไม้วางชุดเก้าอี้สนามและเก้าอี้นอนตัวยาวไว้ให้ มีห้องซาวน่าและห้องน้ำแยกชาย-หญิง
ส่วนถ้าออกจากโถงลิฟท์แล้วเลี้ยวขวาก็จะเจอกับประตูที่ต้องแตะ keycard ก่อนที่จะเข้าไปยังโถงทางเดินเพื่อแยกเข้าห้องพักอีกที ชั้นนี้จะมีทั้งหมด 11 ยูนิต ซึ่งเป็นแบบ 1-2 ห้องนอน
ขึ้นมาบนชั้น 4 ที่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นห้องพักอยู่ทางขวามือที่มีประตูกั้น ต้องใช้ keycard ในการแตะเพื่อเปิดประตู ส่วนทางซ้ายหน้าโครงการจะเป็นส่วน facilities
หันมาทางส่วนหน้าของโครงการ ทางซ้ายมือจะเป็นประตูทางเข้าห้องฟิตเนส ถ้าตรงไปจะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำในร่ม
ห้องฟิตเนสจะมีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง ได้วิวส่วนใหญ่เป็นสระว่ายน้ำในร่มและถนนทรัพย์ ส่วนเรื่องเวลาการเปิด-ปิดของ facilities ส่วนกลางยังไม่ได้มีการประชุมกันนะคะ
สระว่ายน้ำในร่มขนาด 6 x 15 เมตร ลึก 1.4 เมตร โดยข้อดีคือเป็นสระในร่ม โดนแดดบ้างบางส่วนนิดหน่อยในช่วงกลางวัน ทำให้ไม่ต้องเลือกเวลาในการว่ายน้ำรอแดดร่มลมตก ส่วนด้านบนจะตกแต่งไฟเป็นแบบ indirect light ซึ่งเวลากลางคืนน่าจะสวยออกนวลๆดี
พื้นที่บันไดเดินลงสระอยู่ที่ริมสระทางขวามือ แต่ไม่มีราวจับลง ส่วนสระเด็กจะอยู่ด้านนอกซึ่งโดนแดดเยอะกว่าด้านในหน่อยนึง
พื้นที่ข้างสระทางขวาจะมีทั้งส่วนที่เป็นชุดโต๊ะและเก้าอี้ที่สามารถมานั่งเล่นได้สบายๆ หรือจะเดินขึ้นบันไดไปนอนเล่นที่ daybed 4 ตัวด้านบน
หันไปทางขวาจะมีห้องซาวน่าและห้องน้ำแยกชาย-หญิง
ภายในห้องซาวน่า
ภายในห้องน้ำหญิงจะมีอ่างล้างมือ 1 จุด และพื้นที่แต่งหน้าข้างๆ ขวามือมีตู้ล็อกเกอร์ 8 ช่อง
หันไปทางขวาจะมีห้องน้ำ 1 ห้อง ไม่มีห้องอาบน้ำให้
ชั้น 5-10 เป็นชั้นที่ผังเหมือนกันเป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการคือ 15 ยูนิต โดยมีทั้งห้องแบบ 1-2 ห้องนอนคละแบบกันไป โดยแบบ 1 ห้องนอนส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบหน้าแคบ และแบบ 2 ห้องนอนจะเป็นห้องมุมซะส่วนใหญ่
ตั้งแต่ชั้น 11-20 จะเป็นส่วนที่โดน Setback ตามกฎหมายของถนนทรัพย์และซอยสุขสันต์ด้านหลังโครงการ ทำให้รูปร่างของอาคารจะเว้าเป็นชั้นบันไดไปเรื่อยๆ โดยส่วนที่โดน Setback จะออกแบบเป็นพื้นที่สวนคือชั้น 11, 14, 18 และ 20 โดยจะมีเฉพาะชั้น 20 เท่านั้นที่เจ้าของยูนิตทุกยูนิตสามารถขึ้นไปใช้งานได้ สำหรับสวนชั้นอื่นๆจะเข้าได้เฉพาะเพื่อนบ้านชั้นเดียวกันเท่านั้น
แต่เนื่องจากพื้นที่สวนชั้น 11, 14, 18 และ 20 ยังอยู่ในขั้นตอนการเก็บงานสุดท้าย เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูกันนะคะ
ชั้น 11 เป็นชั้นที่มี 13 ยูนิต โดย Setback จากซอยสุขสันต์จึงเปลี่ยนพื้นที่ห้องเป็นสวนที่เพื่อนบ้านในชั้นเดียวกันสามารถเข้าได้ ถ้าสังเกตดีๆยูนิตที่อยู่ใกล้กับสวน 2 ยูนิตจะมีพื้นที่ระเบียงเป็นรูปตัว L ยาวตลอด ข้อดีคือมีพื้นที่เปิดโล่งเยอะ แสงเข้าถึงภายในห้องได้ดีไม่ดูอึดอัด แต่ข้อเสียก็คือจะมีความเป็นส่วนตัวน้อยกว่ายูนิตอื่นๆหน่อย แม้ว่าตลอดแนวความกว้างของยูนิตจะมีการวางเอาไม้พุ่มที่มีความสูงบังสายตามาปลูกก็ตาม
ชั้น 12-12A ตัวยูนิตจะเหมือนกับชั้น 11 คือ 13 ยูนิต เพียงแต่ไม่มีพื้นที่สวนทางทิศตะวันออก
มาที่ชั้น 14 โดน Setback อีกทั้งสองฝั่งคือจากถนนทรัพย์ทางทิศตะวันตกและซอยสุขสันต์ทางทิศตะวันออก ทำให้จำนวนยูนิตของชั้นนี้ลดลงเหลือ 11 ยูนิตแบบ 1-2 ห้องนอน
ชั้น 15 มีทั้งหมด 11 ยูนิต โดยเป็นแบบห้องเดิมจากชั้น 14 ต่อเนื่องมา แต่ก็แอบมีระเบียงโค้งที่ยูนิตหน้าและหลังโครงการซึ่งด้วยการออกแบบโครงการก็ค่อนข้างจะไม่ตามสมัยนิยม สังเกตได้จากการทาสีขาวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปกติโครงการที่เปิดตัวกันเร็วๆนี้ก็จะเน้นเป็นกระจกหรือพื้นผิวที่มี texture หน่อย
ชั้น 16-17 จะเหลือ 9 ยูนิตแต่พื้นที่รวมเท่ากับชั้น 15 เนื่องจากมีการรวมห้องเล็กให้เป็นห้องขนาดใหญ่ขึ้นที่ห้องมุมด้านหลังโครงการ ตามแบบฉบับคอนโดทั่วไปที่ยิ่งชั้นสูง ได้วิวดีหน่อยจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ชั้น 18 รวมขนาดห้องให้ใหญ่ขึ้นไปอีกคือมีเพียง 4 ยูนิต แบ่งออกเป็นแบบ 2 ห้องนอน 1 ยูนิต และแบบ 3 ห้องนอน 3 ยูนิต โดยทั้งฝั่งหน้าโครงการและหลังโครงการติด Setback ปรับเป็นสวนทำให้เจ้าของห้องมีพื้นที่สีเขียวที่มีความเป็นส่วนตัว
ชั้น 19 เหมือนกับชั้น 18 เพียงแต่ไม่มีสวนด้านหนัา-หลังโครงการ
ชั้น 20 เป็นชั้นที่มีห้อง Penthouse จำนวน 2 ห้องแบบ 3 ห้องนอน duplex ที่ขายไปแล้ว ซึ่งภายในส่วน Living จะเป็นแบบ Double ceiling height และพื้นที่สวนชั้น 20 จะสามารถเข้าถึงได้จากเจ้าของห้องทุกยูนิตทั้งหน้า-หลังโครงการ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น 1 Lobby
- ชั้น 4 สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 15 เมตร ลึก 1.4 เมตร มีแบ่งพื้นที่สระเด็กภายใน
- ชั้น 4 ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
- ชั้น 4 ห้อง Sauna
- สวนกลางแจ้งชั้น 10, 14 และ 18 เป็นสวน Private สำหรับลูกบ้านชั้นนั้นๆ
- สวนกลางแจ้งชั้น 20 จะเป็นชั้นที่ทุกยูนิตสามารถใช้ร่วมกันได้
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว หรือคิดเป็น 103 : 1 และ Service lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 140 คันในซองชั้นใต้ดินจำนวน 4 ชั้น คิดเป็น 68% โดยสิทธิ์ที่จอดรถสำหรับห้อง 1 และ 2 ห้องนอนได้ 1 คันไม่ระบุที่ แต่ 3 ห้องนอนบางยูนิตจะระบุที่และกรรมสิทธิ์แล้วแต่ขนาดและตำแหน่งห้อง ส่วน Villa 4 ยูนิตจะได้กรรมสิทธิ์ที่ดินด้านหน้ายูนิตที่ชั้น 1 โดยมีค่าใช้จ่าย On top คันละ 300,000 บาท
- ระบบ CCTV / Access Card
- บริการ Shuttle bus (ยังไม่ได้ระบุเส้นทาง ความถี่และช่วงเวลา)
ห้องตัวอย่างภายในโครงการ Siamese สุรวงศ์ความจริงมีหลายแบบมากๆ ตั้งแต่แบบ 1 ห้องนอนไปจนถึงแบบ 3 ห้องนอนแบบ triplex ที่อยู่บนชั้น 1 เรียกว่า townhouse ซึ่งการขายของโครงการจะเป็นแบบ Fully furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่การตกแต่งก็จะแยกออกเป็น 2 แบบอีกคือแบบ Premier ที่จะออกขาวๆหน่อย และแบบที่ upgrade spec วัสดุต่างๆขึ้นมาเป็น Prestige ที่จะมีความมันวาวของวัสดุและสีก็จะสดขึ้นหน่อย ราคาขายต่อตารางเมตรก็จะอัพขึ้นตามมาด้วย
ห้องแรกที่เราเลือกมากันคือแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ Type 2D ขนาด 65.83-66.46 ตารางเมตร ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ใน Typical floorplan เป็นทรงรูปตัว L จากประตูทางเข้าห้องเปิดออกไปจะเจอห้องน้ำแขกอยูทางซ้ายมือ ส่วนทางขวามือจะเป็นตู้วางรองเท้าขนาดใหญ่ปิดมิดชิด ถัดไปเป็นพื้นที่ครัวที่มีทั้ง Hob and hood พื้นที่ทำอาหารจนถึงตู้เย็น ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องนอนเล็กที่มีประตูบานเลื่อนรูปตัว L ปิดประกบกันเข้ามุม ซึ่งภายในสามารถวางเตียงเล็กแบบนอนคนเดียวได้ เหมาะกับครอบครัวที่มีลูกถึงระดับประถมที่ยังไม่แยกห้อง ลึกเข้าไปจะเป็นพื้นที่ทานข้าวและห้องนั่งเล่น ในสุดเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงด้านนอกซึ่งมีประตูเปิดเข้าไปยังจุดที่วาง Compressor แอร์ ระว่างตู้เย็นและชั้นวางทีวีที่ห้องนั่งเล่นก็จะมีประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว โดยห้องนี้จะตกแต่งแบบ Prestige แบบใหม่ทำให้กระจกห้องน้ำเป็นแบบ Sexy bath แต่ก็จะติดม่านบังสายตามาให้อีกชั้น
ความแปลกของห้อง Type นี้คือการมีห้องนอนเล็กวางอยู่ตรงกลางยูนิต ซึ่งให้มาแบบ Fully furnished คือฐานเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงานและเก้าอี้ พร้อมเข้าไปอีกด้วยการติดแอร์แบบ conceal type แยกให้เลย แต่ถ้าเจ้าของอยู่อาศัยกันเป็นคู่ ยังไม่มีลูกก็สามารถปรับเปลี่ยนห้องนอนเล็กนี้เป็นห้องทำงาน ห้องวางตู้หนังสือหรือห้องทำงานอดิเรกได้สบายๆ
ประตูทางเข้าห้องชุดเป็นบานไม้อัดยาง กรุวีเนียร์
มีการเข้าออกด้วยระบบ digital doorlock โดยแตะ keycard จากด้านนอก และบิดล็อกจากด้านใน การเปิด-ปิดเป็นแบบคันโยกผลัก-ดึง
โดยบัตรห้องจะต้องเอามาเสียบเพื่อเปิดไฟเหมือนกับโรงแรม แต่ก็จะต้องเปิด-ปิดสวิสซ์ตามจุดต่างๆเหมือนปกติ
เปิดเข้ามาจะเจอกับทางเดินเข้าส่วน Living ฝั่งขวามือจะเป็นตู้วางรองเท้ามิดชิดอยู่ใกล้ประตู ไกลออกไปหน่อยเป็นครัวแบบ built-in ยาวไป ส่วนฝั่งทางซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องน้ำ ถัดไปเป็นห้องนอนเล็กที่กั้นพื้นที่ด้วยประตูบานเลื่อนสองฝั่ง
ถ่ายย้อนกลับมาให้ดูที่ประตูทางเข้าห้องชุด ฝั่งซ้ายมือจะเป็นตู้วางรองเท้า ซึ่งทำหน้าบานได้เป็นลายเดียวกับหน้าบานของครัวเข้ากันดี พื้นส่วนทางเดินจะปูด้วยหินอ่อนสีดำ
เปิดออกมาที่ตู้เก็บรองเท้าและตู้เก็บของขนาดใหญ่ เก็บของได้เยอะ
ฝั่งขวาก่อนจะถึงประตูเข้าห้องน้ำก็จะมีตู้ built-in อีกจุดหนึ่งเป็นแบบบานดึงเปิดคู่ ด้านในก็จะเป็นที่วางเครื่องซักผ้าด้านล่าง มีการต่อท่อน้ำให้เรียบร้อย ด้านบนจะเป็นที่วางของอาจจะเป็นพวกผ้าที่ใช้ซักล้าง หน้าบานก็จะเป็นลายเดียวกับตู้เก็บของตู้ที่แล้ว
เราเข้ามาอยู่ภายในห้องน้ำ พื้นของห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องแบบด้านกว่าส่วนที่เป็นพื้นทางเดินด้านนอก ขนาดเดียวกันคือ 60 x 60 เซนติเมตร แต่การลดระดับจะน้อยมาก ทำให้ถ้ามีเหตุฉุกเฉินเรื่องน้ำในห้องน้ำมีสิทธิ์ที่จะล้นออกมายังส่วนครัวด้านนอกได้
ภายในห้องน้ำจะแบ่งออกเป็น 3 การใช้งานมาตรฐาน โดยจะเป็นอ่างล้างมือที่ทำเป็นเคาท์เตอร์สำเร็จ และต่อกับส่วนโถสุขภัฑณ์ ด้านในคือพื้นที่ยืนอาบน้ำ โดยตัวเคาท์เตอร์จะลึกประมาณ 40 เซนติเมตร
ด้านบนจะเป็นกระจกบานใหญ่เต็มความกว้างของผนัง ผนังส่วนอื่นๆจะกรุด้วยหินอ่อนลายสวยแต่ค่อนข้างมืดทำให้ภายในห้องน้ำค่อนข้างจะมีไฟน้อยไปหน่อย
ส่วนกระจกจะแอบทำเป็นตู้เก็บของเล็กๆได้กันฝุ่นกันน้ำ เปิดออกมาก็จะมีช่องเสียบ 3 ตาไว้สำหรับการไดรผมได้ เก็บพ้นมือเด็กและเก็บหนีน้ำได้ดี
ภายในจะเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบยืน ซึ่งมีฉากกั้นอาบน้ำ มีประตูแบบผลักเข้าไปทางขวามือ
พื้นที่อาบน้ำอยู่ที่ 0.9 x 1.25 เมตร
มีจุดกันจนให้ด้านหลังของประตูเปิดฉากกั้น
ลดระดับจากพื้นที่ส่วนแห้งมาพื้นที่ส่วนอาบน้ำประมาณ 1 เซนติเมตร ซึ่งไม่ช่วยกันน้ำอะไร
ฝักบัวอาบน้ำและชุดสุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก american standard โดยมีฝักบัวแบบมือจับ และที่ผนังมีการเซาะร่องออกเป็นช่องสี่เหลี่ยมและเอากระจกไปกั้นเพื่อวางของใช้ภายในห้องน้ำได้
ฝักบัวค่อนข้างมีน้ำหนัก
นอกจากนั้นด้านบนก็จะมี shower เป็นตัวเลือกในการอาบน้ำอีกแบบหนึ่ง
ออกมาจากบนพื้นที่ทางเดินก่อนจะเข้าส่วน Living ทางขวามือเป็นส่วนครัวที่ built-in ให้มาทั้งผนัง ฝั่งซ้ายมือจะเป็นประตูบานเลื่อนของห้องนอนเล็ก
ส่วนครัวจะลำดับการใช้งานคือ hob and hood แบบ 2 หัวเตา ตรงกลางเป็นพื้นที่เตรียมอาหาร และไกลสุดคืออ่างล้างจานแบบหลุมเดียว โดยส่วน topของเคาท์เตอร์คือหินเทียม
ชุดครัวจาก franke
พื้นที่อ่างล้างจานแบบฝังลงไปในเคาท์เตอร์ มีช่องเก็บแก้วและเครื่องปรุงที่ผนัง ขอชมเชยในการเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างปลั๊กไฟส่วนที่อยู่ในครัวก็จะมีการต่อเผื่อมาให้สำหรับเครื่องปั่นหรือเครื่องปิ้งขนมปังและมีปลอกกันน้ำให้สวยงาม
เคาท์เตอร์ด้านล่างเป็นตู้แบบดึงออกและลิ้นชัก ทั้งแบบที่จัดช่องมาให้วางจานแบบตั้งเพื่อจะได้เรียงได้สบายๆและแบบตู้ใต้อ่างล้างจานที่เป็นบานใหญ่ๆ
ดีเทลของตู้และลิ้นชักด้านล่างของเคาท์เตอร์
ด้านบนก็เช่นกันเป็นตู้บานเปิดทั้งหมด ซึ่งภายในก็จะมีการเก็บเบรกเกอร์บ้างทำให้ช่องนั้นๆน่าจะห้ามเก็บของที่เกี่ยวกับน้ำหรือความชื้นเลย
ฝั่งซ้ายสุดเป็นช่องเก็บตู้เย็นแบบบานเดี่ยว ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าจะได้อยู่ในรายการขายด้วย
ห้องนอนเล็กที่อยู่ตรงกลางของยูนิตจะล้อมด้วยประตูบานเลื่อนทั้งสองฝั่งปิดเข้าล็อกกัน ลูกฟักเป็นกระจกใส ส่วนกรอบเป็นอลูมิเนียมพ่นสีชา
ตัวล็อกที่ทำมุมกัน 90 องศาจะเข้าล็อกกันแบบด้านข้างพอดี แล้วก็มีตัวล็อกกดขึ้นลงอีกชั้นหนึ่ง
และตัวกรอบด้านล่างก็จะมีนูนขึ้นมาหน่อยเป็นแบบบาน 3 ตอนก็จะมี 3 ราง
ภายในห้องนอนเล็กขนาด 3.1 x 3.1 เมตร วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ 1 ตัวซึ่งจะได้ตัวฐานเตียง ไม่ได้ฟูก ฝั่งขวามือเป็นตู้เสื้อผ้า และทางซ้ายมือเป็นโต๊ะและเก้าอี้ วางได้ไม่เบียดเหมาะกับเด็กเล็ก แต่ก็ต้องยอมรับว่าห้องนอนนี้อาจจะปรับเป็นห้องทำงานแทนก็ได้เพราะค่อนข้างเปิดโล่งไปสำหรับห้องนอนเด็กโตหรือผู้ใหญ่
โดยแอร์ภายในห้องนอนเล็กจะเป็นแบบ conceal type ซึ่งจะเป็นแบบที่เรียบร้อยกว่า wall type ที่เห็นเตัวเครื่อง แต่ก็จะซ่อมแซมยากกว่าหน่อย
ฝั่งหัวเตียงกว้าง 3.1 เมตรก็จะพอดีกับความกว้างของเตียงเล็ก โต๊ะข้างเตียงและตู้เสื้อผ้าแบบ 3 บานเปิด
เปิดตู้เสื้อผ้าให้ดูการจัดเก็บแบ่งช่องด้านในก็จะมีทั้งลิ้นชัก 3 ชั้น และราวแขวนเสื้อผ้า รวมถึงช่องเก็บของด้านบน
มุมจากภายในห้องนอนเล็กออกไปยังพื้นที่ Living ด้านนอก
พื้นที่ส่วน Living จะแบ่งออกเป็นส่วนทานข้าวและส่วนพื้นที่นั่งเล่น ไกลสุดจะเป็นประตูบานเลื่อน 2 บานเพื่อออกไปยังส่วนระเบียง
โต๊ะทานข้าว 4 ที่นั่งสามารถเพิ่มเก้าอี้หัวท้ายได้อีกกลายเป็น 6 ที่นั่ง
พื้นที่นั่งเล่นสามารถใส่โซฟาตัวยาวเข้าไปได้เลย หรือถ้าชอบแบบตัว L ก็ใส่ได้ แต่จะขวางทางเดินการออกระเบียงไปหน่อย
ฝั่งตรงข้ามก็จะ built-in ส่วนชั้นวางของด้านล่าง และด้านบนมาให้ ซึ่งจะมีทั้งแบบชั้นวางของและแบบตู้บานปิด ซึ่งสามารถวางทีวีได้เลย ระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร
ชั้นวางแบบ built-in ด้านล่างจะเป็นชั้นเลื่อนออกมา ด้านบนเป็นแบบตู้บานเปิด 2 บานเป็น function ที่ใช้งานได้ดีและเรียบร้อยของ built-in
ประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงจะเป็นแบบเลื่อน 2 ฝั่ง ลูกฟักคือกระจกสีเขียวตัดแสง ส่วนกรอบจะเป็นอลูมิเนียมสีชา
โดยการล็อกจะเป็นแบบล็อกขึ้น-ลงได้จากด้านใน
ด้านบนจะเป็นช่องของรางม่าย ซึ่งตัวร่องนี้จะให้มาในทุกๆห้องแต่ม่านจะไม่ได้ให้มาซึ่งขึ้นกับความชอบของเจ้าของห้อง แต่ตามห้องตัวอย่างก็จะติดม่าน 2 ชั้นแบบโปร่งชั้นนึง แบบทึบชั้นนึง
รางกรอบประตูเลื่อนบานล่างจะกั้นพื้นที่ระเบียงกับห้องด้านใน แต่ว่าไม่ค่อยลดระดับของระเบียงเท่าไร ระเบียงปูด้วยกระเบื้องผิวหยาบหน่อยกันลื่นขนาด 30 x 60 เซนติเมตร
ส่วนระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร มีรางน้ำเรียบร้อย ตัวกั้นระเบียงจะเป็นแบบกระจำตัดแสงทำให้ดูโปร่งแต่อาจจะหวาดเสียวหน่อยสำหรับคนกลัวความสูง
ฝั่งนึงจะมีไฟติดผนังให้เปิดในเวลากลางคืน
อีกฝั่งนึงจะเป็นประตูเปิดเข้าไปยังพื้นที่เก็บ compressor air ซึ่งเป็นสัดส่วนดี พื้นจะเป็นแบบปูนทื้อๆ
ถ่ายย้อนมาให้ดูภาพรวมของส่วน Living
ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและครัวจะมีช่องทางเดินเข้าห้องนอนใหญ่ โดยพื้นก็จะปูด้วย synnetic floor ยาวเข้าไปเลย
ห้องนอนใหญ่เมื่อเดินเข้าไปจะมีโต๊ะเครื่องแป้งอยูทางซ้ายมือพร้อมกระจกบานใหญ่มาก ขวามือเป็นห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่ที่กั้นแบบ sexy bath เนื่องจากเป็นการตกแต่งแบบใหม่ Prestige แต่ถ้าเป็นแบบเก่าจะเป็นผนังเบาทึบๆทาสีขาวปกติ ด้านในจะเป็นพื้นที่เตียงนอนและชั้นวางทีวีฝั่งตรงข้าม
โต๊ะเครื่องแป้งส่วนแรกทางซ้ายมือ จะเป็นเคาท์เตอร์ติดผนังปิดผิวลายไม้ มีลิ้นชัก กระจกเงาขนาดใหญ่
ลิ้นชักมี 2 ฝั่งขนาดใหญ่พอสมควรสามารถใส่ได้ทั้งกล่องเครื่องสำอางขนาดใหญ่และกล่องเครื่องประดับได้เยอะมากๆ
ฝั่งขวามือเป็นทางเข้าห้องน้ำ แบบกระจกใสมาก เป็นประตูบานเปิดผลักซ้าย
พื้นของห้องน้ำจะปูด้วยหินอ่อน ซึ่งระดับของห้องน้ำจะเท่ากับพื้นห้องนอนทำให้มีความเสี่ยงที่จะมีการล้นของน้ำได้ถ้าเกิดเหตุ
ห้องน้ำแบ่งการใช้งานออกเป็น 3 ส่วนปกติ ไล่จากอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ โดยผนังปูด้วยหินอ่อน สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก american standard สเปกเหมือนกับห้องน้ำแขกด้านนอก
ต่อมาเป็นส่วนเตียงนอนขนาดใหญ่ มีพื้นที่เหลือรอบเตียงทุกด้าน อย่างฝั่งขวามือเหลือ 0.6 เมตร ปลายเตียงเหลือ 0.7 เมตรถึงตู้ built-in และฝั่งซ้ายมือเหลือ 0.75 เมตร
พื้นที่ด้านหลังของเตียงจะ built เป็นตู้เก็บของและชั้นวางของลายไม้
ปลายเตียงจัดเป็นตู้เสื้อผ้าสองฝั่ง ตรงกลางเป็นชั้นวางทีวีซึ่งถือว่าเป็นการจัด built-in ที่แปลกดี แต่ก็ใช้งานได้จริง
โดยไฟในตู้เสื้อผ้าจะเป็นแบบ auto โดยมีตัวบานเป็นตัวมากระทบสวิสซ์ทำให้เปิด-ปิดตามการเปิดของบาน
แอร์ภายในห้องนอนใหญ่เป็นแบบ conceal type เหมือนเดิม ส่วนฝ้าจะมี 2.4 เมตรถ้า drop ฝ้า และ 2.7 เมตรเป็นปกติ
ส่วนช่องเปิดของห้องนอนใหญ่จะเป็นบานกระทุ้งบานเล็ก และมีบาน fixed ขนาดใหญ่เป็นกระจกตัดแสง
ห้องแบบที่สองที่เลือกมาให้ชมกันแน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดา คือแบบ 3 ห้องนอน triplex ที่เป็นแบบ TH หรือ townhouse ที่อยู่บนชั้น 1 จากทางเข้าโครงการสามารถตรงเข้ามาจอดรถหน้ายูนิตของตัวเองได้เลย 3 คัน แล้วเดินเข้าบ้านไม่ต้องรอลิฟท์ และกรรมสิทธิ์ที่จอดรถของแบบ TH ทั้ง 4 ยูนิตจะเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของห้องจดอยู่ในโฉนดด้วย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ 300,000 บาทต่อคัน อย่างห้องแบบ TH-H ที่เป็นห้องตัวอย่างจอดได้ 3 คัน ก็จะต้องจ่ายเพิ่ม 900,000 บาท on top จากค่าห้องไปอีกที
จากประตูทางเข้าของส่วนที่จอดรถ เปิดเข้าไปจะเจอกับทางเดินยาว ฝั่งตรงข้ามจะเป็นประตูที่เข้าได้จากโถงทางเดินจากลิฟท์โดยสารตรงกลางตามกฎหมาย ขวามือเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว เหมาะกับญาติผู้ใหญ่ ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2-3 และใต้บันไดเป็นห้องเก็บของ
เดินขึ้นบันไดมาที่ชั้น 2 ชั้นนี้ก็จะเป็นส่วน Living ที่ประกอบไปด้วยพื้นที่ครัวรูปตัว L ใหญ่มาก พื้นที่ทานข้าว และพื้นที่นั่งเล่นที่ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี ซึ่งก็จะมีประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงได้ ชั้นนี้จะมีห้องน้ำในตัวและประตูที่เข้าได้จากโถงลิฟท์โดยสาร
ส่วนชั้น 3 จะแบ่งออกเป็น 2 ห้องนอนที่ขนาดไม่ต่างกันมาก มีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ แต่ห้องน้ำที่อยู่หน้าบ้านจะมีระเบียงและมีอ่างอาบน้ำเพิ่มเติมเข้ามา และชั้นนี้ก็จะมีประตูที่เข้าได้จากโถงลิฟท์เหมือนเดิม
เรามาเริ่มกันที่หน้าบ้านฝั่งที่จอดรถ 3 คันนะคะ ยูนิตนี้จะเป็น 3 ห้องนอนแบบ triplex คือมี 3 ชั้น มองด้านหน้าจะได้อารมณ์อยู่ทาวน์โฮม 3 ชั้นมากกว่าอยู่คอนโด
อย่างที่บอกไปเรื่องที่จอดรถ จะเห็นว่าตัวบ้านมีหน้ากว้างพอสมควรทำให้จอดรถได้ 3 คัน แต่ถ้าอยากได้พื้นที่ชั้นล่างเอาไว้ทำสวนเล็กๆแบบบ้านตัวอย่างก็แลกกับที่จอดรถไป 1 คันนะคะ ซึ่งส่วน deck ไม้ ทางโครงการจะให้มาด้วย และในข้อจำกัดการต่อเติม จะไม่อนุญาตให้ต่อเติมรั้วกันพื้นที่บ้าน หรือต่อเติมในส่วนที่เห็นได้จากภายนอกนะคะ
แนวกำแพงประตูบ้านจะเขยิบเข้ามาด้านในเพื่อให้จอดรถในร่มได้ทั้งคัน ถ้าใครอยากให้บรรยากาศหน้าบ้านดูอบอุ่นขึ้นก็ใช้วัสดุประเภทไม้มาตกแต่งตามผนังหรือฝ้าเพดานแบบนี้ก็ดีนะคะช่วยให้พื้นที่ตรงนี้น่าใช้งานมากขึ้น
รั้วด้านข้างที่ติดกับพื้นที่ส่วนกลางซึ่งจะมีช่องเปิดแบบนี้อาจจะดูเปิดโล่งไปซักหน่อย
ประตูทางเข้าของยูนิตจากที่จอดรถจะไม่ได้ใหญ่เหมือนอยู่บ้านจริงๆแบบเป็นบานคู่ และตัวประตูวัสดุกรอบจะเป็นอลูมิเนียมส่วนหน้าบานเป็นกระจกซึ่งถ้าใครคิดว่าไม่ปลอดภัยก็เปลี่ยนเป็นบานทึบในภายหลังเองนะคะ ส่วนช่องแสงอีกช่องทางด้านขวามือคือหน้าต่างของห้องนอนที่ชั้นล่างซึ่งต้อง Trade-off กันระหว่างได้แสงธรรมชาติเข้าภายห้องมากขึ้นแต่ก็เสียความเป็นส่วนตัวไปนิดหน่อยยกเว้นว่าจะติดฟิลม์ฝ้าหรือปิดม่านตลอดเวลา
จากในรูปจะดูเหมือนประตูเล็กแคบ แต่ของจริงไม่ได้เล็กนะคะเป็นเพราะเค้าให้ประตูมาสูงกว่าปกติสัดส่วนประตูเลยดูเหมือนแคบ ประตูที่เห็นบานในสุดสีขาวจะเป็นทางเข้าจากโถงทางเดินในอาคาร
ตัวกลอนจะเป็นล็อกด้วยกุญแจแบบปกติไม่ได้เป็น Digital Doorlock
เดินเข้ามาด้านซ้ายมือจะเป็นห้องเก็บของใต้บันไดและโถงบันไดขึ้นไปชั้นบน
ส่วนที่ตรงกับประตูทางเข้าจากที่จอดรถ จะมีทางเดินกว้าง 1 เมตรและประตูเข้าจากฝั่งทางเดินภายในอาคาร ซึ่งต้องแตะ keycard ก่อนถึงจะเข้ามาในโถงทางเดินนี้ได้ ซึ่งประตูบานนี้จะมีระบบแบบ digital doorlock และเสียบ keycard เพื่อเปิดไฟเหมือนในโรงแรมทั่วไป ส่วนทางขวามือจะมีประตูอีกบานเข้าห้องนอนชั้นล่าง
ในห้องนอนชั้นล่างนี้จะมีห้องน้ำในตัว ถ้าครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุอยู่ห้องนี้จะสะดวกมาก เพราะไม่ต้องต้องเดินขึ้นบันได
ตำแหน่งตู้เสื้อผ้าจะซ่อนอยู่หลังประตูเข้าห้องนอน บริเวณหน้าห้องน้ำพอดี เป็นแบบประตูบานเลื่อนไม่เกินพื้นที่มาก หน้าบานเป็นกระจกเต็มตัว ขวามือจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำในตัว
ห้องน้ำจะเป็นแบบ 3 การใช้งานมาตรฐานคืออ่างล้างมือที่มีตัวเคาน์เตอร์ให้มาเป็นหินสังเคราะห์สีขาวเต็มความยาวผนัง โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำแบบยืนด้านในมีฉากกั้นมาให้ โดยพื้นจะปูเป็นกระเบื้องเนื้อเดียวสีเทา และผนังเป็นหินอ่อนลาย
พื้นที่ส่วนเคาท์เตอร์ค่อนข้างแคบทำให้มีระยะรอบๆโถสุขภัณฑ์เหลือไม่เยอะนัก
โซนอาบน้ำจะมีฉากกระจกกั้นแบ่งให้เรียบร้อยขนาด 0.95 x 1.25 เมตร โดยฉากกั้นเป็นแบบผลักเปิดอาจจะกินพื้นที่นิดหน่อย
ขนาดพื้นที่ไว้อาบน้ำก็เหลือพอให้หมุนตัวยืนแข้งยืดขาได้กำลังดี
ชุดฝักบัวได้เป็นแบบ 2 หัวคือมีทั้งแบบธรรมดากับ Rain Shower จาก american standard
เข้ามาดูให้ห้องนอนกันต่อนะคะ พื้นที่ทางเดินหน้าห้องจะตรงกับพื้นที่ปลายเตียงที่เหลือระยะพอให้วางโต๊ะทำงานได้พอดี มีการต่อระบบให้ติดทีวีได้ เพราะพื้นที่เหลือด้านล่างจะได้เอาไว้วางของหรือนั่งทำงานได้
เตียงที่เห็นในห้องตัวอย่างเป็นขนาด 5 ฟุต พอวางแล้วยังเหลือระยะให้เดินรอบๆเตียงได้แต่ก็ไม่ได้กว้างมาก พื้นที่ข้างเตียงวางโต๊ะข้างเตียงมาให้ทั้งสองฝั่งซึ่งมีลิ้นชักเก็บของได้ มีการต่อสายปลั๊กให้เรียบร้อย
ตัวหน้าต่างเป็นแบบบาน fixed ไม่มีช่องเปิดเป็นหน้าต่างรับลมทั้งแบบบานกระทุ้งหรือบานเกร็ด ซึ่งขนาดบานให้มาสูงและกว้างเกือบเต็มแนวกำแพง ถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัวก็หาไม้พุ่มมาลงไว้เยอะหน่อย ต้นไม้ที่มีความสูงต่างกันจะได้ช่วยบังสายตาจากบุคคลภายนอกได้ด้วย
ฝั่งตรงข้ามกับเตียงก็จะเป็นตำแหน่งของแอร์ ซึ่งเราอาจจะเอาโต๊ะและเก้าอี้ที่เขาให้มาออก แล้วจ้าง built-in เพื่อมีชั้นเก็บของที่เต็มผนังมากขึ้น
กลับมาดูหน้าห้องเก็บของจะเห็นว่ามีพื้นที่หลบมุมให้พอทำ Built-in ชั้นวางรองเท้าข้างประตูทางเข้าได้หลายสิบคู่
ภายในห้องเก็บของไม่ได้ปูกระเบื้องมาให้ ซึ่งน่าจะปูมาให้สักหน่อย แต่วัสดุที่ให้มาคือปูนเปลือยเลย
ตัวบันไดเป็นไม้ทั้งลูกตั้งและลูกนอนกว้าง 0.85 เมตร ส่วนราวบันไดเป็นสแตนเลสเชื่อมสำเร็จ
พื้นชั้น 2 ได้เป็น Synthetic floor ลายไม้ สีพื้นก็ต่างกับตัวบันไดพอสมควร
ขึ้นมาเราจะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางของบ้านคือห้องทานอาหารที่ล้อมไปด้วยครัวขนาดใหญ่รูปตัว L และ ห้องนั่งเล่นทางขวามือ ส่วนทางซ้ายจะมีห้องน้ำแอบอยู่หน่อย ตำแหน่งเดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง โดยพื้นที่ของชั้น 2 จะเชื่อมต่อกันโดยไม่มีฉากกั้นครัวซึ่งเป็นครัวเปิดไม่เหมาะกับการทำอาหารอย่างจริงจังเท่าไร
เข้ามาในพื้นที่ living หันไปทางซ้ายมือ จะเจอกับประตูที่สามารถเข้าได้จากโถงทางเดินของชั้น 2 ซึ่งใช้ระบบ digital doorlock เหมือนกัน ข้างๆประตูทางเข้าจะเป็นตู้เก็บของ ทางขวามือเป็นห้องน้ำของชั้น 2 ที่จะอยู่ตำแหน่งเตียวกับห้องน้ำในห้องนอนของชั้น 1 มองขึ้นไปด้านบนจะเป็นจุดจ่ายแอร์แบบ conceal type ฝังเข้าไปใต้ฝ้า ซึ่งจะดูเรียบร้อยกว่าแบบ wall type แต่จะซ่อมแซมซับซ้อนกว่าหน่อย
การแบ่งช่องเก็บของตู้หน้าห้องน้ำที่เค้าให้มาจะซอยย่อยเป็นช่องไว้เก็บของชิ้นใหญ่ๆด้านบน
ห้องน้ำที่ชั้น 2 นี้จะเหมือนกับห้องน้ำที่ชั้น 1 ทุกอย่างทั้งระยะ ขนาดและชุดสุขภัณฑ์
ย้อนกลับทางที่ทางขวาหน่อย จะมีพื้นที่ทานข้าวอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบผนังด้วยชุดครัวตัว L ต่อเนื่องไปถึงพื้นที่นั่งเล่น และมีประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงด้านนอกได้
พื้นที่ทานข้าววางโต๊ะทานข้าวขนาดทาน 4 คนได้สบายๆ ถ้ามีครอบครัวใหญ่หน่อยหรือมีเพื่อนมาก็สามารถต่อเก้าอี้หัวท้ายเพิ่มได้เป็น 6 ตัว
ชุดครัวโครงการจะจัดมาให้แบบนี้เลยโทนสีที่กับหน้าบานตู้ใช้จะเป็นสีเทาส่วน Back splash จะเป็นกระจกพ่นสีแดงด้านหลังช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้น ขนาดของครัวถือว่าใหญ่สำหรับการอยู่อาศัยในคอนโด ส่วนพื้นถึงจะไม่ได้เป็นกระเบื้องแต่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้นนะคะเพราะพื้น Synnetic floor ประเภทนี้ทนต่อความชื้นแต่ก็ทำมาจากพลาสติกไม่ใช่ไม้เนื้อแน่น
เครื่องซักผ้าจะจัดไว้ด้านในใต้เคาน์เตอร์แบบนี้ ซึ่งเครื่องซักผ้าจะได้มาด้วยในรายการขาย ด้านบนเป็นที่วางไมโครเวฟขนาดไม่ใหญ่มาก
บานเปิดและลิ้นชักของเคาท์เตอร์ตัวล่างจะติดตั้ง Soft Close มาให้แต่ไม่ได้ติดมาทุกบานค่ะ
เตาไฟฟ้า 4 หัวและเครื่องดูดควันเป็นของ franke
Top เคาน์เตอร์วัสดุคือเป็นหินเทียมสีขาว ได้อ่างล้างจานมา 1 หลุม
ชุดครัวที่ built-in มาให้ จะเป็นแบบตู้บานดึงออกสามารถใส่เครื่องครัวหรืออาหารแห้งได้เพิ่มเติมอีกถ้าด้านล่างยังเก็บไม่พอ
สำหรับพื้นที่วางตู้เย็นเค้าก็เว้นระยะมาให้แบบเหลือเฟือสามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่แบบในบ้านตัวอย่างได้สบายๆ แต่ตู้เย็นก็ให้มาในรายการขายด้วยนะคะ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นใส่โซฟาตัวเต็มได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบโซฟาตัวยาวรูปตัว L หรือโซฟาแยกชิ้นแบบตัว L และมีเก้าอี้เดี่ยววางเพิ่ม 3 – 5 ที่นั่งและมีระยะให้ขยับโซฟาถอยหลังไปอีกหน่อยส่วนระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.7 เมตรใส่ทีวีขนาด 55″ ได้เลย ซึ่งระยะด้านหลัง 1.6 เมตร จะเป็นพื้นที่เดินไปประตูบานเลื่อนออกระเบียงได้
ผนังอีกด้านจะเป็นผนังทึบตลอดแนวซึ่งทางโครงการทำมาให้แบบนี้เลยเอาไว้วางหนังสือได้เพียบ
ประตูบานเลื่อนออกระเบียงจะเป็นแบบเลื่อนได้ทั้งสองฝั่ง ลูกฟักคือกระจกตัดแสง และกรอบอลูมิเนียมพ่นสีดำ
ขนาดระเบียงกว้าง 0.95 เมตร เดินออกมาดูต้นไม้ผ่อนคลายได้กำลังดี และมีการแบ่งพื้นที่เอาไว้วาง compressor air พร้อมประตูกั้นดูเรียบร้อยกว่าแขวน compressor air ไว้ดื้อๆ
พื้นที่ด้านในก็จะมีทั้งจุดน้ำลง ก๊อกน้ำเผื่อการซักล้าง และด้านบนเป็นจุดระบายอากาศจากด้านในห้อง
ถ่ายย้อนมาให้ดูบรรยากาศโดยรวมของพื้นที่ชั้น 2
วกกลับมาที่โถงบันไดไปชั้น 3 จะเห็นว่ายูนิตนี้เสียพื้นที่ให้กับบันไดไปพอสมควร ทำให้พื้นใช้งานจะน้อยลงไป แต่ก็ได้ข้อดีที่หายากในคอนโดคือบรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน
ขึ้นมาชั้น 3 จะเจอโถงบันไดเล็กๆแบบนี้ก่อน ห้องที่เปิดประตูตรงหน้าคือห้องนอนใหญ่
ห้องนอนเล็กอีกห้องจะอยู่ตรงทางเดิน
ซึ่งทางเดินตรงนี้จำเป็นต้องมีไว้เนื่องจากมีทางเข้าห้องของชั้น 3 อยู่ตามกฎหมาย ตรงนี้ถือเป็นข้อจำกัดของการออกแบบยูนิตลักษณะหลายๆชั้นเพราะต้องมีประตูทางเข้าอยู่ทุกชั้น
เรามาดูห้องนอนใหญ่กันก่อนนะคะ ภายในห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงในตัวและห้องน้ำในตัว ส่วนเตียงที่ให้มาจะเป็นฐานเตียงขนาด 6 ฟุต ไม่ได้ฟูกมาด้วย
โดยระยะเหลือรอบๆเตียงยังคงมีเพียงพอให้เดินได้สบายๆ อย่างฝั่งขวามือจะเหลือพื้นที่ 1.4 เมตร ไม่รวมตู้เสื้อผ้า ฝั่งปลายเตียงเหลือพื้นที่ 0.8 เมตร และฝั่งซ้ายมือเหลือพื้นที่ 0.9 เมตร
ตรงหัวเตียงจะมีโต๊ะข้างเตียงทั้งสองฝั่ง ซึ่งมีลิ้นชักเล็กๆมาให้ด้วย
ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ตรงทางเข้าห้องได้ขนาดแค่ 2 หน้าบานและเป็นบานเลื่อนพร้อมกระจกเงา และห้องนอนนี้จะได้แอร์แบบ conceal type ด้วย
พื้นที่ปลายเตียงจะเหลือไม่พอให้วางตู้ดังนั้นทีวีก็ติดแบบแขวนไปตามระเบียบ ประตูด้านซ้ายที่เห็นเป็นประตูห้องน้ำในตัว
เปิดเข้ามาจะเห็นว่าได้วัสดุอุปกรณ์เหมือนกับห้องอื่นๆเลยโดยมีความกว้าง 1.25 เมตร
หันไปทางขวามือจะมีพื้นที่อาบน้ำ 2 แบบ คือแบบยืนและแบบอ่างอาบน้ำด้านใน เป็นความพิเศษที่ได้เพิ่มขึ้นมาของห้องนอนใหญ่
พื้นที่ยืนอาบน้ำขนาด 1.1 x 1.25 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเนื้อเดียวสีเทาขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
ขนาดอ่างอาบน้ำเป็นแบบ Full Size ขนาด 0.7 x 1.65 เมตร แช่น้ำแบบยืดแข้งขาได้เต็มที่
มีชุดฝักบัวแบบมือถือติดเพิ่มมาให้ตรงอ่างอาบน้ำอีกชุดจาก american standard
เงยหน้าขึ้นไปด้านบน ไฟในห้องน้ำมีมาให้ 2 จุดพร้อมพัดลมดูดอากาศ ถ้าใครคิดว่าสว่างน้อยไปก็เจาะช่องเพิ่มไฟได้
ห้องนอนห้องนี้เป็นห้องนอนใหญ่ที่อยู่ริมอาคารด้านนอก ซึ่งอยู่ติดกับหน้าบ้านเลยมีระเบียงมาให้ โดยเป็นประตูเลื่อนแบบเปิดได้ทั้งสองฝั่ง
ตัวราวระเบียงทำเป็นกระจกใสช่วยให้เห็นวิวได้ดีขึ้น พื้นปูด้วยกระเบื้องเนื้อเดียวสีเทาเหมือนกับห้องน้ำ มีรางน้ำสำหรับกันสาดน้ำฝน
จากระเบียงมองเข้าไปยังพื้นที่ด้านในห้อง
ต่อมาจะเป็นห้องนอนเล็กซึ่งจะวางเตียงได้แค่ 3.5 ฟุตเท่านั้น แถมต้องวางติดผนังด้านนึงเพราะมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดพอสมควร
พอวางเตียงติดผนังแล้วอีกด้านจะได้มีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะทำงานหรือ Built-in ตู้เก็บของได้ แอร์ของห้องนอนเล็กนี้จะเป็นแบบ wall type โดย ผนังจะเป็นแบบทึบทั้งหมด ไม่มีระเบียงหรือช่องเปิด ทำให้การระบายอากาศห้องนี้จะยากกว่าห้องอื่นๆหน่อย
หันมาทางซ้าย จะเจอกับตู้เสื้อผ้าที่อยู่ก่อนทางเข้าห้องน้ำภายในห้องนอนเล็ก ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีไม่เหมือนห้องบาง type หรือทาวน์เฮาส์ขนาดเล็กทั่วๆไปที่เป็นแบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
ห้องน้ำภายในห้องนอนเล็กจะอยู่แนวเดียวกับชั้นอื่นๆ ขนาดและวัสดุต่างๆจึงเหมือนกันหมดค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 17 March 2016
- 1 ห้องนอน Type 1H ชั้น 7 ห้อง 706 เนื้อที่ 47.21 ตร.ม. ตกแต่ง Premier ราคา 6.86 ล้านบาท หรือ 145,000 บาท/ตร.ม.
- 2 ห้องนอน Type 2D ชั้น 6 ห้อง 605 เนื้อที่ 66.08 ตร.ม. ตกแต่ง Prestige ราคา 10.29 ล้านบาท หรือ 155,860 บาท/ตร.ม.
- 2 ห้องนอน Type 2F ชั้น 12A ห้อง 12A13 เนื้อที่ 73.41 ตร.ม. Prestige ราคา 12.48 ล้านบาท หรือ 170,100 บาท/ตร.ม.
- 3 ห้องนอน Type 3A ชั้น 16 ห้อง 1604 เนื้อที่ 87.85 ตร.ม. ตกแต่ง Premier ราคา 14.3 ล้านบาท หรือ 163,300 บาท/ตร.ม.
- 3 ห้องนอน Type 3C-duplex ชั้น 18 ห้อง 1802 เนื้อที่ 115.38 ตร.ม. ตกแต่ง Premier ราคา 18.9 ล้านบาท หรือ 164,300 บาท/ตร.ม.
- 3 ห้องนอน Type TH-C triplex ชั้น G ห้อง 103 เนื้อที่ 154.97 ตร.ม. ตกแต่ง Premier ราคา 20.62 ล้านบาท หรือ 133,000 บาท/ตร.ม.
- 3 ห้องนอน Type TH-F villa ชั้น G ห้อง 106 เนื้อที่ 120.5 ตร.ม. ตกแต่ง Premier ราคา 16.3 ล้านบาท หรือ 135,350 บาท/ตร.ม.
- 3 ห้องนอน Type TH-E villa ชั้น G ห้อง 105 เนื้อที่ 121.23 ตร.ม. ตกแต่ง Premier ราคา 16.4 ล้านบาท หรือ 135,300 บาท/ตร.ม.
- Promotion ภายใน 28 เมษายน 2559
- ฟรี ค่าโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 28 เมษายน 2559
- ส่วนลด : 1 ห้องนอน 150,000 บาท/ 2 ห้องนอน 300,000 บาท/ 3 ห้องนอนขึ้นไป 500,000 บาท
- ส่วนลด On top สำหรับนักเรียน-นักศึกษา : 1 ห้องนอน 50,000 บาท/ 2 ห้องนอน 80,000 บาท/ 3 ห้องนอนขึ้นไป 100,000 บาท
- ฟรี เครื่องใช้ไฟฟ้า
- ฟรี ค่าส่วนกลาง 1 ปี
- ฟรี ค่ากองทุน
- Fully Furnished มีการตกแต่ง 2 แบบคือ Premier และ Prestige
- เพดานสูง 2.7 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- 1 ห้องนอน จอง 50,000 บาท ทำสัญญา 10% ภายใน 14 วัน
- 2 ห้องนอน จอง 80,000 บาท ทำสัญญา 10% ภายใน 14 วัน
- 3 ห้องนอนขึ้นไป จอง 100,000 บาท ทำสัญญา 10% ภายใน 14 วัน
- ไม่มีผ่อนดาวน์
- ค่ากองทุน 600 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลของโครงการ Siamese สุรวงศ์ อยู่ในจุดที่เป็นย่านพักอาศัยที่รายล้อมไปด้วยย่านดังๆต่างๆ ตั้งแต่สามย่านที่ปัจจุบันได้มีการรื้อถอนอาคารบางส่วนออกและสร้างใหม่เป็นสวนสาธารณะ เป็นเชิงพาณิชย์บ้าง ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นจามจุรีสแควร์ที่ถือว่าเป็นห้างที่ใกล้ที่สุดในระยะเดินประมาณ 600 เมตร หรือจะเป็นย่านบางรักที่เส้นเจริญกรุงมีโรงแรม High-end อยู่พื้นที่ริมน้ำ มี Cat tower และไปรษณีย์กลางบางรักที่ยังคงความเก๋าของพื้นที่ไว้อยู่ ใกล้ๆกันก็จะมีอาคารพาณิชย์หลังเก่าขายสมุนไพรจีนบ้าง ขายก๋วยเตี๋ยวบ้าง ไม่ก็ปรับหน้าร้านเป็นร้านอาหารร่วมสมัย นอกจากนั้นยังอยู่ในระยะเดินจากย่านสีลมที่คึกคักทั้งในกลางวันและกลางคืน อีกย่านหนึ่งคือแถวแยกสาทร-นราธิวาสที่เป็นแยกรวมอาคารออฟฟิส gradeA ในระยะประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งถนนทรัพย์ที่ตัดระหว่างถนนสี่พระยาและถนนสุรวงศ์จะเป็นพื้นที่ที่เงียบหน่อย เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบไม่พลุกพล่านมากกว่าคอนโดที่ติดถนนใหญ่ แต่ก็ยังเข้าถึงพื้นที่กิจกรรมต่างๆได้ในระยะเดินไกลๆหรือนั่งรถใกล้ๆ และด้วนตัวถนนทรัพย์เองก็เป็นย่านชุมชนแต่ไม่คึกคักมาก ทำให้ก็ยังมีร้านอาหาร มีร้านสะดวกซื้อให้ได้เลือกในวันขี้เกียจ นอกจากนั้นในพื้นที่ก็จะมีโรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์ โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก เตรียมอุดม สาธิตจุฬาและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลจุฬา BNH และสยามอยู่ในระยะไม่ไกล
การเดินทางโดยใช้รถ ด้วยโครงการตั้งอยู่ที่ถนนทรัพย์ two-way ที่ตัดระหว่างถนนสี่พระยาและถนนสุรวงศ์ ซึ่งทั้งคู่เป็นถนนที่ขนานกันและตัดมาจากถนนพระรามสี่และถนนเจริญกรุงอีกทีหนึ่ง ซึ่งด้วยตัวทำเลเองก็เรียกว่าอยู่ในเมืองอยู่แล้ว แต่จะเข้าไปในเมืองย่านไหนมากกว่า เช่นถ้าเข้าแยกสาทรก็เข้าเส้นนราธิวาส ถ้าจะไปสยามก็ใช้เส้นพระราม1 หรือจะขึ้นทางด่วนเข้าเมืองไปทางอโศกก็ที่จุดขึ้นทางด่วนตรงถนนสุรศักดิ์ หรือมาจากนนทบุรีก็ลงที่ทางลงตรงถนนสีลม มีทางขึ้นลงอีกจุดที่ถนนพระรามสี่ใกล้หัวลำโพงแต่ก็จะต้องเสี่ยงติดการก่อสร้างรถไฟใต้ติดที่หน้าหัวลำโพงที่กินพื้นที่ถนนไป ในพื้นที่จะมีเส้นทางที่เป็น one-way เยอะ แต่โชคดีที่ถนนทรัพย์จะสามารถวนเป็นวงกลมขึ้น-ลงทางด่วนได้สบาย
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ จะมี MRT สามย่านทางออกที่ 1 หน้าวัดหัวลำโพงเป็นขนส่งมวลชนรุ่นใหม่ที่ใกล้ที่สุด 500 เมตรแบบไม่ต้องข้ามถนนเลย สามารถนั่งเข้าเมืองไปอโศกได้แบบกะระยะเวลาแม่นๆไม่ต้องเสี่ยงรถติด หรือจะเดินไป BTS ช่องนนทรีที่อยู่ตรงเส้นนราธิวาสหรือ BTS ศาลาแดงที่อยู่ไกลออกไปอีกหน่อย ซึ่งถ้าไม่อยากเดินไกลก็มี Option ในการเรียกพี่วินที่อยู่เยื้องๆกับโครงการในถนนทรัพย์ หรือถ้าไม่รีบมากพี่แท๊กซี่ก็นิยมใช้ถนนทรัพย์ในการวิ่งรถตัดเข้าเส้นสาทรเลี่ยงถนนพระรามสี่ทำให้มีรถผ่านอยู่ตลอด นอกจากนี้โครงการยังมี shuttle bus รับ-ส่งแต่ยังไม่ได้ระบุเส้นทางว่าจะเลือกสถานีไหน ความถี่ รวมถึงระยะเวลา คงต้องรอให้มีลูกบ้านย้ายเข้าอยู่มากซักหน่อยในช่วงเดือนเมษายนที่โครงการจะเสร็จ 100% แล้วจึงมีการประชุมนิติบุคคล
วัสดุของโครงการให้แบบ Fully furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ โดยการตกแต่งจะมี 2 แบบ คือ Premier ที่จะออกแนวขาวๆ ส่วน Prestige จะเป็นแบบที่ upgrade ขึ้นมามีความเงาของวัสดุมากกว่า โดยส่วนที่เห็นภายในห้องตัวอย่างจะได้ตามแบบทั้งหมดยกเว้นม่าน ฟูกเตียง และของตกแต่ง พื้นจะปูด้วย synthetic floor ลายไม้สำหรับห้องนอนและห้องนั่งเล่น ส่วนห้องน้ำและระเบียงจะปูด้วยกระเบื้อง แต่ถ้าเป็นแบบ Prestige จะปูพื้นห้องน้ำตัวหินอ่อนสีดำขึ้นไปถึงส่วนผนัง และห้องน้ำในห้องนอนจะเป็นแบบ sexy bath ใส่กระจกใสให้ ส่วนผนังห้องปกติจะติด wallpaper ให้อยู่แล้ว นอกจากนั้นส่วนครัวก็จะเปลี่ยนวัสดุปิดผิวเคาท์เตอร์เป็นหินเทียม พื้นเป็นหินอ่อนสีขาวสำหรับแบบ prestige ชุดครัวจาก franke และชุดสุขภัณฑ์จาก american standard และเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็น built-in
การออกแบบอาคารก็เป็นไปตามกฎหมาย สูง 20 ชั้น มีระยะ Setback ตั้งแต่ชั้น 11-20 เรื่อยๆเป็นขั้นบันได แต่ที่แปลกคือการแบ่งขนาดห้อง แบ่งรูปร่างและ Type ของห้อง โดยแบบเริ่มต้นคือ 1 ห้องนอน 41 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นห้องแบบใหญ่ในตลาดคอนโดปัจจุบัน ราคาเฉลี่ยของโครงการอยู่ที่ 145,000 บาท เมื่อคิดห้องราคาเริ่มต้นของโครงการจึงอยู่ที่ราวๆ 6.8 ล้านบาท นอกจากนั้นก็จะมีห้อง 2-3 ห้องนอน ทั้งแบบ floor เดียว, duplex และ triplex ที่จะเสียพื้นที่บันไดไปซักหน่อย แต่ทุกชั้นก็จะเข้าถึงได้ด้วยลิฟท์โดยสารมีประตูเข้าจากโถงทางเดิน ซึ่งจากการสังเกตห้องที่เป็นแบบ duplex และ triplex จะให้ความสำคัญกับพื้นที่ living ขนาดใหญ่มากกว่าจะเป็นพื้นที่ห้องนอนใหญ่ นอกจากนั้นจะมีแบบ 4 ยูนิตพิเศษ type TH ที่อยู่ชั้น 1 มีพื้นที่จอดรถหน้ายูนิตของตัวเอง 2-3 คัน เป็นห้องแบบ duplex 2 ยูนิตและ triplex อีก 2 ยูนิต โดยพื้นที่จอดรถจะได้ลงโฉนดที่ดินเก็บกลับบ้านไปด้วยเลย ซึ่งขอให้คะแนนในความกล้าออกแบบจากคอนโดทั่วไปในตลาด
สาธารณูปโภค ถือว่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับคอนโด highrise ที่มี segment อยู่ในระดับ high class โดยมีส่วน lobby ที่ชั้น 1 เป็นแบบ indoor และ outdoor ขนาดไม่ใหญ่มาก มีพื้นที่จอดรถชั้นใต้ดิน 4 ชั้นรวม 140 คันหรือคิดเป็น 68% ในซองล้วนๆ ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวหรือคิดเป็นอัตราส่วนคือ 103:1 และลิฟท์ขนของอีก 1 ตัว ชั้น facility อีกชั้นคือชั้น 4 ที่มาแบบ 1/3 ของพื้นที่ชั้น มีห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำชอบที่เป็นในร่มขนาด 6 x 15 เมตร มีสระเด็กอยู่ด้านใน มีพื้นที่ข้างสระในร่มนั่งเล่นได้ มีห้องซาวน่าและห้องน้ำแยกชาย-หญิง นอกนั้นก็จะเป็นพื้นที่สีเขียวที่หลังโครงการชั้น 1 และตามชั้นที่โดน setback ต่างๆคือ 11, 14, 18 และ 20 โดยจะมีชั้น 20 ที่เป็นชั้นที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ นอกนั้นก็จะจำกัดสำหรับเจ้าของยูนิตชั้นนั้นๆ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 145,000 บาท/ตร.ม., 17 March 2016
- ทำเล 7.5/10 – ทำเลในระยะเดินใกล้ๆมีไม่มาก แต่ไกลหน่อยอย่างสีลม สามย่าน สยามเพียบทั้งห้าง รพ มหาวิทยาลัย
- เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – โชคดีที่ถนนทรัพย์เป็นถนน two-way ตัดระหว่าง 2 ถนนใหญ่ ใกล้ทางขึ้น-ลงทางด่วน
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – 500 เมตรถึง MRT สามย่าน โดยไม่ต้องข้ามถนน หรือ 850 เมตรถึง BTS ช่องนนทรี หาแท๊กซี่ พี่วิน ตุ๊กตุ๊กได้เรื่อยๆ
- วัสดุ 8.5/10 – มีการอัพเกรดการตกแต่งแบบ Premier ไปเป็น Pretige ซึ่งราคาต่อตารางเมตรก็อัพตาม
- แบบ 8.5/10 – แบ่งห้องได้แปลก มีให้เลือกเยอะมากตั้งแต่ 1 ห้องนอนไปจนถึง 3 ห้องนอน Triplex แบบจอดรถได้หน้ายูนิต แต่ขนาดห้องค่อนข้างใหญ่ทำให้ราคาขายคูณเข้าไปค่อนข้างสูงพอสมวร
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – Facility ครึ่งชั้น 4 และสวนเล็กๆ น้อยไปสำหรับคอนโด High rise แต่ดีที่จำนวนยูนิตไม่เยอะมาก
- HIGH CLASS
- 7.88 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการคอนโด Siamese สุรวงศ์ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้ใจกลางเมืองแถบสาทรที่อยู่ในระยะขับรถสั้นๆหรือนั่งรถแท๊กซี่ภายใน 10 นาทีถ้ารถไม่ติด หรือ MRT สามย่าน BTS ศาลาแดงในระยะเดินไกลนิดหน่อยเป็นทางเลือก มีความ Private สูง มีห้องหลากหลายแบบให้เลือกตั้งแต่ 1 ห้องนอนไปจนถึง villa ที่มีที่จอดรถหน้ายูนิต มีงบประมาณระดับ 7-22 ล้าน ส่วนใหญ่ของผู้ซื้อน่าจะมีเงินเย็นอยู่ในกระเป๋า หรือคิดเล่นๆคือมีกำลังผ่อนประมาณ 50,000 – 155,000 บาท/เดือน
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )